“เรื่องทั่วไปนั่นแหละ” แน็ทตี้เห็นกอหญ้าเดินเข้ามาก็ตอบคำถามเพื่อนสาของเขาว่าที่คุยกันมันก็เป็นเร่องทั่วไปตามประสาเพื่อนที่นานๆเจอกันและจะมีเวลาคุยกันแบบนี้นานๆเสียที
เมื่อกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันได้พักใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันไปเดินชมวิวทะเลยามค่ำคืนเพราะงานแต่งของหญิงสาวจัดเป็นคบเพลิงปักอยู่เต็มอ่าวทุกคนเลยเดินไปถ่ายรูปกันตอนนี้ก็เหลือแต่กอหญ้าที่นั่งอยู่กับแน็ทตี้และมีนชญา
“ได้คุยกันแบบนี้ก็ดีนะมีนยินดีด้วยนะฉันดีใจที่เห็นแกมีวันนี้นะ” กอหญ้าเองเห็นเพื่อนสาวของเธอมีวันนี้ก็ดีใจที่เรื่องวุ่นๆมันจบลงด้วยดีแถมเพื่อนของเธอก็มีครอบครัวที่มีความสุขอีกด้วย
“ขอบใจนะกอหญ้า...ต้องขอบคุณแน็ทตี้ที่ช่วยฉันทำแผนนั้นขึ้นมา”
“อุ้ยย”
มีนชญาพูดแซวไปถึงวีรกรรมที่ตัวเองและแน็ทตี้รวมกันทำเอาไว้พร้อมหัวเราะออกมาที่ตอนนี้เธอนั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เธอเองนั้นสร้างวีรกรรมสุดน่าปวดหัวนี้มาแน็ทตี้เองได้ยินเรื่องนี้ก็หันหน้าหนีทันทีเพราะเขาก็ไม่ได้อยากร่วมวีรกรรมนี้สักเท่าไรถ้าตอนนั้นไม่เห็นแก่เงิน
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้นะมีน...ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอยากจะตีแกเล่นอะไรบ้าๆจนวุ่นวายไปหมดดีนะที่วันนี้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี”
กอหญ้าได้ยินเรื่องที่เพื่อนสาวของเธอพูดเธอก็นึกขัดใจขึ้นมาทุกทีอยากจะตีเพื่อนสาวเธอนักทุกครั้งที่เจอหน้าแต่ตอนนี้ก็ต้องยินดีกับเพื่อนสาวของเธอเพราะเรื่องทุกอย่างมันจบลงด้วยดีนับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีของเพื่อนสาวเธออย่างที่เธอเคยพูดไว้ตั้งแต่คราแรกว่าเพื่อนของเธอนั้นเป็นคนดียังไงก็ต้องมีคนดีๆเข้ามาในชีวิตแค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นและตอนนี้มันก็เวลานั้นแล้วเธอดีใจกับเพื่อนของเธอจริงๆ
“พวกเราพาตัวเจ้าสาวมาคืนแล้วค่า” แน็ทตี้กับกอหญ้าเดินพาตัวมีนชญามาส่งให้กับเจ้าบ่าวของเธอเพราะเห็นว่ามันเริ่มดึกมากแล้ว
“ว่าแต่สองหนุ่มคุยอะไรกันอยู่เหรอคะ” กอหญ้าสงสัยว่าทั้งสามีของเธอกับโดมินิคคุยอะไรกันอยู่เพราะเห็นหัวเราะร่ากันทั้งคู่อยู่นานสองนานแล้วแต่เธอก็ไม่ได้เข้ามากวนเพราะคุยอยู่กับเพื่อนๆของเธออยู่
“นั่นสิคะมีนเห็นนั่งหัวเราะกันตั้งนานแล้ว” มีนชญาเองก็สังเกตเห็นทั้งสองคุยกันนานแล้วเหมือนกันเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไรที่ทำให้สองหนุ่มอารมณ์ดีนักหนา
“เอ่อ...ก็คุยกันเรื่องว่าจะมีลูกกันอีกสักคนกับวิธีทำอะไรประมาณนี้” โดมินิคพูดพร้อมส่งสายตาอันหวานหยาดเยิ้มมาที่เจ้าสาวแสนสวยของเขาในวันนี้
“....ว้ายยย...” แน็ทตี้ถึงกับสบถออกมาเล็กน้อยพร้อมทำท่ายิ้มกรุ้มกริ่มให้เพื่อนสาวทั้งสองคนของเขาเป็นการบอกว่าวันนี้ทั้งสองต้องเจอศึกหนักบนเตียงเป็นแน่ดูจากอาการของสามีของเพื่อนสาวเขาทั้งสอง
“พี่นิค”
“เหรอคะพี่อิท” ทั้งมีนชญาและกอหญ้าต่างก็หันหน้ามองสามีของตัวเองว่าจริงอย่างที่พูดหรือเปล่าหรืออาจจะพูดเล่นแต่จากสายตาของชายหนุ่มทั้งสองแล้วทำให้หญิงสาวทั้งสองรู้ว่าสามีของเธอเองไม่ได้พูดเล่น
“พี่ต้องขอตัวพากอหญ้าไปก่อนนะมีนเผื่อวันนี้พี่จะได้ลูกอีกคน”
“พี่อิทอายคนอื่นค่ะ” อิทธิพลรวบตัวกอหญ้าพร้อมพาเธอเดินตรงไปที่บ้านพักของพวกเขาทันทีกอญ้าเองรู้สึกอายเพื่อนๆของเธออยู่มากเลยรีบเดินเข้าบ้านไปโดยดี
“ไปกันเถอะมีน...เราไปทำน้องให้นีน่าเถอะ”
“พี่นิค...” โดมินิคเองก็ไม่ให้น้อยหน้ารวบตัวเจ้าสาวของเขาเข้าบ้านพักไปเหมือนกันทิ้งให้แน็ทตี้ยืนเหงาอยู่คนเดียว
“อ้าวทิ้งให้แน็ทตี้คนไม่มีคู่อยู่คนเดียวอีกแล้ว...โถ่” แน็ทตี้เองมองตามเพื่อนของเธอด้วยแววตาสุขใจแต่เธอเองก็รู้สึกเหงาใจไปตามๆกันเพราะเห็นคนมีคู่เค้าหวานกันเธอก็อดอิจฉาไม่ได้
“ไวไวจ๋าพี่แน็ทอยากเข้าห้องน้องไวไวพาพี่แน็ทเข้าห้องหน่อยนะ”
“เอ่อ..ผมไม่ว่างครับพี่แน็ทมีขาพี่แน็ทก็เดินไปเองสิครับ” เมื่อเดินกลับมาที่โต๊ะเธอก็เห็นว่าไวไวกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวเธอจึงเข้าไปแทะโลมเด็กหนุ่มตามปกติแต่ก็ได้รับคำปฏิเสธกลับมาจนหน้าหงาย
“อ้าว...เดี๋ยวสิจะรีบหนีไปไหนล่ะกลับมาก่อนเฮ้อโสดวนไปสิคะเราอิจฉาคนมีคู่” ไวๆเองปฏิเสธแน็ทตี้แล้วเขาก็รีบวิ่งเข้าบ้านไปหาพี่สาวของเธอทันทีเพราะเกรงว่าอยู่ตรงนี้เขานั้นจะไม่ปลอดภัยทิ้งให้แน็ทตี้นั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียวแน็ทตี้เองก็ต้องนั่งคุยกับขวดน้ำเมาอย่างเหงาใจต่อไป
ทางด้านคู่บ่าวสาว
“เหนื่อยไหม”
“ไม่เลยค่ะ” หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็มานอนกอดกันบนเตียงนุ่มพร้อมกระซิบคุยกันกระหนุงกระหนิงเพราะกลัวว่าลูกสาวของพวกเขานั้นจะตื่นมากลางดึก
“ฉันให้เป็นของขวัญแต่งงาน” โดมินิคหยิบสมุดบัญชีออกมาให้หญิงสาวดูเขาให้สมุดบัญชีนี้กับเธอเป็นของขวัญแต่งงานและหวังว่าหญิงสาวน่าจะชอบ
“โห...มันเยอะเกินไปค่ะพี่นิค” มีนชญาเปิดสมุดบัญชีดูตัวเลขในนั้นเธอถึงกับยัดใส่มือคืนชายหนุ่มไปเพราะเงินในนั้นมันมากเกินไปที่เธอจะรับไว้ได้มันไม่ใช่แค่ล้านสองล้านแต่มันเป็นร้อยล้านเธอไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่โตอะไรคงไม่ต้อใช้เงินเยอะขนาดนี้
“ไม่เยอะไปหรอกเผื่อเธออยากได้อะไรก็ซื้อเองได้เลยไม่ต้องเก็บเงินเองให้ลำบากเธอเป็นเมียฉันเธอต้องสบายที่สุด”
“มีนไม่รู้จะใช้อะไรมีนขอเก็บไว้ให้ลูกนะคะ” มีนชญาปฏิเสธเท่าไรแต่ดูท่าคนเป็นสามีก็ยังจะพยายามยัดเยียดให้เธออยู่ดีอีกอย่างชื่อบัญชีก็เป็นชื่อเธออีกด้วยเธอไม่รู้ว่าเขาไปเปิดตอนไหน
เธอเลยบอกกับเขาว่าจะเก็บเงินนี้ไว้ให้ลูกสาวก็แล้วกันเพราะเธอเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินร้านดอกไม้ของเธอถึงจะเป็นร้านเล็กๆแต่ก็ทำเงินให้เธอได้มากมายอยู่จนเธอนั้นเหลือกินเหลือใช้แล้วเพราะหญิงสาวเองก็ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราอะไร
“เมียฉันนี่ไม่เคยคิดอยากจะได้อะไรจากตัวฉันเลยสินะนอกจากลูก”
“แซวมีนอีกแล้วนะคะ”
โดมินิคลูบไปที่หัวของภรรยาสาวเขาต้องส่ายหัวให้กับนิสัยของเธอเพราะมันแปลกกว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่มากเขาไม่เห็นเธอจะเรียกร้องหรือว่าขออะไรเขาสักนิด ขนาดเขาเป็นคนให้เองเธอก็ยังไม่อยากจะรับที่เขารู้อย่างเดียวว่าเธอนั้นอยากจะได้อะไรจากเขาก็คงจะมีแค่สิ่งเดียวที่เธอได้ไปแล้วก็คือลูกน้อยที่นอนหลับปุ๋ยตัวกลมอยู่บนเตียงคนนี้นี่แหละ
“ตอนนี้ก็ได้เวลาทำน้องให้นีน่าแล้วล่ะสิ” โดมินิคเห็นว่าตอนนี้ก็ได้เวลาจัดการกับเมียตัวเล็กของเขาแล้วเขาคิดว่าอีกไม่นานนี้คงได้อุ้มลูกคนที่สองเป็นแน่
“พี่นิค...วันนี้ไม่นานนะคะมีนเหนื่อยค่ะแล้วก็ห้ามเสียงดังด้วยเดี๋ยวลูกตื่น” มีนชญาเขินเล็กน้อยที่สามีของเธอจู่โจมขึ้นมาทาบทับบนตัวเธอโดยไม่ทันตั้งตัวพร้อมบอกว่าวันนี้เธอขอให้เขานั้นปราณีเธอบ้างเพราะวันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้วอีกอย่างก็ต้องกำชับชายหนุ่มว่าห้ามเสียงดังเพราะกลัวว่าลูกสาวของเธอจะตื่นขึ้นมา
“คนเสียงดังน่าจะไม่ใช่ฉันนะ” โดมินิคยิ้มกริ่มพร้อมตอบกลับไปว่าคนที่เสียงดังน่าจะไม่ใช่เขาเพราะจากทุกครั้งก็เป็นหญิงสาวที่ควบคุมเสียงของเธอเองไม่ได้ตลอด
“เราไปอีกห้องดีกว่า” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวคงควบคุมเสียงได้ยากและตัวของเขาเองก็เหมือนกันเขานั้นอยากจะปลดปล่อยให้เต็มที่เลยอุ้มหญิงสาวไปอีกห้องของบ้านเพื่อที่จะดำเนินกิจกรรมรักอย่างสะดวกและสบายใจได้ว่าลูกของเขาจะไม่ตื่นแน่นอน
บทรักของทั้งสองกินเวลาไปค่อนคืนมันไม่ใช่แค่เวลาสั้นๆอย่างที่หญิงสาวขอเสียแล้วเพราะชายหนุ่มอดใจลำบากทุกครั้งที่ได้ร่วมรักกับเมียตัวน้อยของเขาเสียงครางของทั้งคู่สลับกันดังไม่ว่างเว้นจนหญิงสาวนั้นค่อยๆหมดแรงลงไปเรื่อยๆเพราะเธอเหนื่อยจริงๆแต่มีหรือชายหนุ่มนั้นจะปล่อยให้เธอนอนง่ายๆเขายังคอยปลุกเร้าให้เธอนั้นส่งเสียงครางเบาๆอยู่ตลอดเวลาจนเขาเสร็จสมดังใจแล้วจึงอุ้มหญิงสาวไปนอนที่ห้องของลูกน้อยดังเดิมและเขาก็กอดเธอหลับไปจนรุ่งเช้าแสนสดใส
อย่างที่โดมินิคเคยคิดเขายังคิดขอบคุณความคิดพิเลนๆของหญิงสาวจนถึงทุกวันนี้เพราะว่าถึงมันจะดูเป็นเรื่องปวดหัวที่สุดที่เขาเคยเจอมาแต่สุดท้ายมันก็ทำให้เขาและเธอมีครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุข ตามที่เขานั้นโหยหาครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้มานานตั้งแต่เสียพ่อและแม่ของเขาไปตอนนี้ชีวิตของเขาเองก็ไม่ได้มีแต่สนใจงานอีกแล้วแต่ครอบครัวต้องมาก่อนทุกอย่างเสมอ
มีนชญาเองตอนนี้เธอมีความสุขเหมือนเจ้าหญิงในนิยายอย่างไงอย่างงั้นเธอก็ไม่คิดว่าตัวของเธอและชายหนุ่มนั้นจะมาถึงจุดนี้ได้หญิงสาวขอบคุณโชคชะตาพรมลิขิตที่ขีดเอาไว้ให้คนอย่างเธอและชายหนุ่มที่มีชีวิตและนิสัยต่างกันสุดขั้วมาเจอกันได้แถมยังสร้างให้เธอและเขาเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย...
จบบริบูรณ์...
อิตาลีบริษัทXXXปังงงงงง“ถ้าทำชุ่ยๆก็อย่าทำมันเลย”“ขอโทษค่ะท่านดิฉันจะรีบไปสรุปให้ใหม่ให้ทันส่งวันนี้ค่ะ” โดมินิคโยนแฟ้มเอกสารบัญชีรายเดือนกระจุยกระจายไปทั่วห้องเพราะไม่พอใจที่มันค่อนข้างที่จะไม่ถูกต้องหลายจุดพร้อมทั้งส่งสายตาที่กำลังไม่พอใจไปยังพนักงานของเขาก่อนจะบอกกับเธอว่าหากไม่ระเอียดรอบคอบในการทำงานขนาดนี้ก็อย่าทำพนักงานสาวกลัวจนหัวหดพร้อมทั้งก้มเก็บแฟ้มเอกสารอย่างรนรานบวกกับที่ถูกประธานหนุ่มว่าเธอจึงจะต้องรีบแก้มาส่งใหม่พนักงานสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปด้านนอกด้วยตอนนี้ในห้องกำลังลุกเป็นไฟด้วยโทสะของประธานหนุ่มพนักงานของบริษัทของโดมินิคต่างรู้กันว่าประธานหนุ่มของที่นี่เป็นคนใจดีแต่อย่าให้ได้โมโหเพราะจะเขาสามารถทำลายทุกอย่างได้แต่เขาเองก็ไม่ได้โมโหพร่ำเพรื่อนอกจากจะมีเหตุสะกิดใจเขาก็เท่านั้นเห็นจะเป็นเรื่องความเจ้าระเบียบและละเอียดรอบคอบเสียมากที่ชายหนุ่มเคร่งในเรื่องนี้แบบสุดๆด้วยความที่ชายหนุ่มต้องครอบคลุมธุรกิจทั้งหมดของบ้านตั้งแต่พึ่งเรียนจบใหม่ๆเพราะทั้งพ่อละแม่ของเขาเสียเพราะอุบัติเหตุเขาต้องอยู่กับงานและงานเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่นจึงทำให้เขาต้อ
“ฉันก็คิดถึงแกเหมือนกัน...เป็นยังไงบ้างสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง” กอหญ้าเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นยังทำใจเรื่องแม่ไม่ได้อยู่เป็นแน่“ก็ยังทำใจยากอยู่ฉันเคยอยู่กับแม่มาแค่สองคนตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวมันหดหู่บอกไม่ถูก” เมื่อได้รับคำถามจากเพื่อนสาวหญิงสาวก็รู้ว่าเพื่อนของเธอนั้นยังคอยห่วงใยเธออยู่เหมือนเดิมพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอด้วยความรู้สึกในตอนนี้ว่าเธอนั้นยังทำใจกับเรื่องที่แม่เธอจากไปไม่ได้สักเท่าไร“แอ้ๆ”“ว่าไงจ๊ะ..ทักทายน้าเหรอคนเก่ง” จากที่มีนชญากำลังอยู่ในโหมดซึ้งกับเพื่อนสาวแม่หนูน้อยตัวกลมลูกของกอหญ้าก็ส่งเสียงเรียกมาทางเธอเป็นการทักทาย“อิ่มเอมแกคุยเก่งมากนี่ขนาดแค่หกเจ็ดเดือนนะส่งเสียงไม่หยุดเลย” กอหญ้าก้มมองลูกสาวของเธอในอ้อมอกพร้อมอมยิ้มเอ็นดูที่ลูกสาวเธอนั้นช่างเป็นคนที่คุยเก่งเสียเหลือเกิน“ถ้าฉันมีครอบครัวแบบแกก็คงจะดีกว่านี้เนอะ” มีนชญารู้สึกว่าเพื่อนสาวของเธอในตอนนี้นั้นช่างดูมีความสุขเหลือเกินที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกอีกอย่างสามีของเพื่อนสาวเธอก็รักเพื่อนเธอมากๆอีกด้วยลูกออกมาก็ยังน่ารักอีกเธออยากเป็นแบบนี้บ้าง
เช้าวันต่อมาห้างสรรพสินค้า“เสร็จเรียบร้อยแล้วแกไปกว่าจะได้เงินนี่หลายขั้นตอนเนอะ” เกือบทั้งวันที่วันนี้มีนชญาไปเดินเรื่องเพื่อจะขึ้นเงินตกเย็นเธอเลยโทรนัดกอหญ้าทานข้าวเพื่อฉลองเมื่อมาถึงห้างเจอหน้าเพื่อนสาวเธอก็ขอแอบบ่นนิดว่าวันนี้มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน“ไป..เราไปทานข้าวกัน” กอหญ้าเห็นหน้าที่ดูเหนื่อยๆของเพื่อนสาวเธอจึงเข้าไปกอดคอมีนชญาเหมือนที่ชอบทำกันบ่อยตอนสมัยเรียนพร้อมรั้งคอเพื่อนสาวของเธอเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่แพงมากที่พวกเธอทั้งสองเคยอยากทานกันมากสมัยเรียนแต่เพราะงบไม่พอจนวันนี้ทั้งสองก็ได้มาทานสมใจอยาก“น้องเอมไม่ได้มาด้วยเหรอ” มีนชญาหันไปถามเพื่อนสาวของเธอว่าไม่ได้เอาลูกมาด้วยหรือเพราะเธอเห็นแค่เพื่อนสาวเธอยืนอยู่คนเดียว“อยู่กับพี่อิทน่ะรายนั้นติดลูกแจเลย...ไปเถอะมื้อนี้ฉันเลี้ยงแกเองฉลองที่เพื่อนถูกหวย” กอหญ้าหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสาวพร้อมบอกว่าเธอนั้นจะไปไหนมาไหนก็ได้แล้วเพราะสามีเธอนั้นติดลูกมากและสามารถเลี้ยงลูกเองได้โดยที่เธอนั้นไม่ต้องห่วงอะไรมากนักแค่บอกเวลาไปและเวลากลับก็พอละมื้อนี้เธอก็จะเป็นคนเลี้ยงเพื่อนสาวเธอเองเพราะเธอมีเงินพอที่จะเลี้ยงเพื่อนเธ
“ไอ้เราก็นึกว่าอะไร..แต่..ปฏิเสธซะสียงสูงเลยน้า...ถ้าแกสนใจฉันช่วยแกได้นะจะบอกว่าเค้าโสดอยู่ด้วยแถมทำธุรกิจก็เก่งเป็นที่หนึ่งขนาดพี่อิทยังชมให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆเลย..อีกอย่างเค้าก็สเปกแกด้วยนี่นาสาย ฝ ฮ่าๆๆๆ” กอหญ้าที่ล่วงรู้ความคิดของเพื่อนสาวเธอหญิงสาวเลยรีบพูดถึงโปรไฟล์ของชายหนุ่มว่าเพอเฟคขนาดไหนให้เพื่อนสาวของเธอฟังเผื่อเพื่อนสาวของเธอจะเลิกปากแข็งและยอมรับกับเธอมาตรงๆว่าสนใจเธอจะได้เดินหน้าช่วยเพื่อนเธอเต็มที่นั่นเอง“หยุดพูดเลยใครบอกว่าสนใจ...ไม่ได้สนซะหน่อยดูท่าเค้าเจ้าระเบียบมากเลยเนอะ” มีนชญาแกล้งผลักไหล่เพื่อนสาวของเธอหนึ่งทีพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจจริงๆและเธอเองก็เห็นว่าชายหนุ่มน่าจะเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างกับเธอสุดขั้วอีกด้วยดูจากมาดแบบนั้นเธอดูออกว่ายังไงก็ต้องเป็นคนที่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้วต่างจากเธอที่เป็นจอมซุ่มซ่ามแถมเรื่องเปิ่นนี่ก็ที่หนึ่งอีกด้วย“อืม...มันแน่อยู่แล้วคนเป็นนักธุรกิจต้องมีระเบียบอยู่แล้วอีกอย่างยิ่งเก่งแค่ไหนยิ่งระเบียบจัดแค่นั้น” กอหญ้าเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจทุกคนที่ประสบผลสำเร็จในการทำงานจะเจ้าระเบียบและมีวินัยเ
“อ๋อ...ท่านไม่ค่อยได้มาอยู่น่ะครับเลยปล่อยขายในราคาย่อมเยาอีกอย่างเงินที่ได้ท่านก็แบ่งไปทำบุญด้วยนะครับ” ชายหนุ่มที่เป็นนายหน้ามองหญิงสาวพร้อมยิ้มให้เธอและบอกว่าที่มันถูกก็เพราะเจ้าของบ้านนั้นไม่ค่อยได้มาอยู่เลยตัดสินใจขายและเงินที่ได้เขาก็ให้เอาไปทำบุญ“อ๋อ...ค่ะเจ้าของบ้านเค้าใจดีจังเลยนะคะ” มีนชญานับถือในน้ำใจของเจ้าของบ้านหลังนี้เสียจริงแต่เธอนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อว่าเขานั้นเป็นใครอยู่ที่ไหนเพราะเธอรู้มาว่าชื่อในใบที่ดินและชื่อเจ้าของบ้านเป็นของคนไทยแต่เจ้าของที่แท้จริงน่าจะเป็นต่างชาติเธอก็ไม่ได้ใส่ใจถามเหมือนกันว่าเขานั้นชื่ออะไรในเมื่อตอนนี้มันเป็นของเธอแล้วเธอก็จะจำแค่เธอเป็นเจ้าของบ้านก็พอ19.00 น.กว่ามีนชญาจะกลับมาบ้านก็เป็นเวลาเย็นพอดีตอนนี้ท้องของหญิงสาวก็เริ่มที่จะร้องขึ้นอีกแล้วความหิวของเธอตอนนี้มันอยู่ที่ระดับสิบเพราะทั้งเพลียทั้งหิวบวกกันนั่นเองหญิงสาวจำต้องเดินออกจากบ้านไปนั่งที่ร้านเดิม“เฮ้อเหนื่อยจังเลย...ป้าคะผัดไทยกุ้งสดจานนึงค่ะ” เมื่อสั่งผัดไทยกุ้งสดเมนูเดิมที่ร้านประจำมันก็พาให้เธอนั้นคิดวนไปเรื่องเดิมๆอีกก็คือวันวานที่เคยนั่งทานอยู่กับแม่ของเธอแต่ต
3 ชั่วโมงต่อมาห้างสรรพสินค้า“ถึงแล้ว...วันนี้แม่จะช้อปให้สะใจไปเลยงบสี่พันพอเนอะ” เมื่อลงจากแท็กซี่มีนชญาก็มองไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่ว่ากันว่าที่นี่มีแต่คนมีเงินเดินเธอเองคิดว่าวันนี้จะใช้เงินช้อปปิ้งไร้สาระที่เยอะที่สุดในชีวิตที่เคยใช้มาจำนวนสี่พันบาทนั่นเองถึงเงินแค่นี้ในการช้อปปิ้งของเธอคนอื่นจะมองว่าน้อยแต่เธอนั้นโคตรเสียดายมันสุดๆกับการช้อปปิ้งไร้สาระกับเงินสี่พันแต่อีกใจหญิงสาวก็บอกกับตัวเองว่าถือเป็นการให้ความสุขกับตัวเธอเองสักวันก็แล้วกัน“คู่ไหนดีน้า” มีนชญาเข้ามาในร้านรองเท้าแบรนด์หนึ่งซึ่งเงินที่เธอจำกัดวันนี้ก็น่าจะเอื้อมถึงเพราะเธอดูจากราคาแล้วเธอนั้นซื้อได้แถมเงินที่จำกัดมาสี่พันยังเหลือด้วย“หืมม...สวยทั้งคู่เลย...สีเงิน..สีชมพู..สีเงิน...สีชมพู..อืมม..สีเงินดีกว่า...ฉันเอาสีเงินเบอร์37คู่นึงค่ะ”มีนชญากำลังตัดสินใจเลือกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วหัวแหลมราคาคู่ละ2500บาทเธอกำลังชั่งใจอยู่ว่าเธอนั้นจะซื้อสีเงินหรือสีชมพูดีหญิงสาวนึกถึงชุดที่เธอจะใส่คืนนี้มันเป็นสีชมพูอ่อนหากเธอเลือกสีชมพูไปมันก็จะชมพูทั้งชุดเธอจึงคิดว่าเอาสีเงินจะดีกว่าจึงบอกพนักงานว่าเธอรับคู่สีเงินเบ
5 นาทีต่อมา“เอ๋..มือถือล่ะ...หรือว่า..โอ้ยแกนี่มันจริงๆเลยยัยมีน”หลังจากที่เดินออกจากร้านหนังสือมาสักพักมีนชญาก็กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วแต่เมื่อล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอกลับไม่เจอพอนึกไปนึกมาเธอคิดว่าจะเป็นช่วงที่เธอจ่ายเงินค่าหนังสือแล้วทำหล่นแน่เลยเธอชอบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำหญิงสาวเตือนตัวเองหลายรอบแล้วว่าอย่าเอามือถือใส่รวมกับเงินแต่ก็ลืมทุกทีตอนนี้เธอก็ทำได้แต่วิ่งหลับไปที่ร้านหนังสือดังเดิมเพื่อที่จะไปตามมือถือของเธอคืนนั่นเอง“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่ามีคนเจอมือถือเครื่องสีชมพูที่ใส่เคสยูนิคอร์นบ้างหรือเปล่าคะ”มีนชญาวิ่งพุ่งตรงมาที่เคาเตอร์สอบถามพนักงานเรื่องมือถือของเธอทันทีเพราะคิดว่าหากมีคนเก็บได้ในร้านก็คงจะเอามาฝากที่พนักงานเป็นแน่หรืออีกอย่างก็คือเอาไปเลยอันนั้นมันก็เป็นความซวยของเธอแล้วหละถึงแม้เธอจะมีเงินซื้อใหม่แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องที่แม่ของเธอซื้อให้ก่อนท่านจะเสียนั่นเอง“เครื่องนี้ใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ...ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” หลังจากที่ใจไม่ดีอยู่นานมีนชญาก็โล่งใจเพราะพนักงานหยิบมือถือของเธอขึ้นมาจากหลังเคาเตอร์พร้
แน็ทตี้ต้องรีบปรามทั้งสองว่าห้ามเรียกชื่อนี้ของเธอได้แล้วเพราะเธอนั้นไปเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนชื่อมาเรียบร้อยแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาเรียกชื่อเดิมของเธออีกเพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงสมใจแล้วเพียงแต่ไม่มีมดลูกและเสียงที่ยังแอบห้าวอยู่“อะ...เอ่อ..โอเค..ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าแก” กอหญ้าเห็นว่าในนี้คนมันค่อนข้างพลุกพล่านและเสียงดนตรีมันก็ดังเลยชวนทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ที่มันส่วนตัวกว่านี้จะดีกว่า“อย่าบอกนะที่แกหายไปเรียนเมืองนอกแกไปแปลงเพศมา” เมื่อออกมาถึงจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในด้านนอกของโรงแรมแล้วกอหญ้าก็ถือโอกาสถามแน็ทตี้ทันทีว่าที่หายหน้าหายตาไปหลังจากเรียนจบม.ปลายเพื่อนของเธอไปเก็บตัวแปลงเพศทำหน้าใหม่มาทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช่หรือไม่“ก็ใช่น่ะสิมันเป็นความฝันของฉันเลยพวกแกก็รู้” แน็ตตี้ตอบด้วยความภาคภูมิใจเพราะเขานั้นเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากจบม.ปลายแล้วความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากไปเรียนเมืองนอกเมืองนาสักเท่าไรหรอกเพียงแต่ป๊าของเขานั้นเสนอว่าหากยอมไปเรียนแต่โดยดีป๊าของเขาจะยอมตามใจทุกอย่างเลยทำให้เขาต้องไปเรียนเมืองนอกแลกกับการแปลงเพศอัพอึ๋มอัพหน้าใหม