“เอ่อ...คือ...” มีนชญาถึงกับพูดไม่ออกจะเดินออกไปก็กลัวว่าเขาจะพาลูกหนีอีกใจมันก็จริงอย่างที่เขาบอกตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอาหารเย็นไว้ให้ลูกของเธอแล้วด้วย
“ฉันไม่ไปไหนหรอก...นี่กุญแจ” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่เขาจึงมองจ้องไปที่หน้าของหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอได้ฟังชัดๆว่าเขานั้นจะไม่ไปไหนให้เธอนั้นสบายใจได้พร้อมส่งกุญแจรถหรูวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาให้เธอมาหยิบอีกต่างหากเพื่อให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหกเธอ
“อืม...เอ่อ...คุณนิคจะทานอะไหมคะเดี๋ยวมีนทำให้ค่ะ” มีนชญาเดินมาหยิบกุญแจรถของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนพร้อมเดินตรงไปที่ครัวแต่เธอก็ต้องชะงักนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าวันนี้เธอก็คงจะต้องทำอาหารเผื่อพ่อของลูกของเธอด้วย
จึงถามเขาขึ้นว่าเขานั้นจะทานอะไรอย่างน้อยตอนนี้เขายังใจดีไม่พาลูกหนีไปจากเธอหญิงสาวคิดว่าควรที่จะสร้างไมตรีที่ดีกับชายหนุ่มเอาไว้เผื่อว่าเรื่องที่เธอจะคุยกับเขานั้นง่ายขึ้น
“เธอก็รู้ว่าฉันชอบทานอะไร”
โดมินิคหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเธอรู้ว่าเขานั้นชอบอะไรในใจชายหนุ่มก็อยากจะรู้ว่าเธอนั้นยังจำเรื่องราวตอนที่อยู่กับเขาอยู่ได้หรือเปล่าเพราะเขานั้นจำมันได้ทุกฉากทุกตอน
30 นาทีต่อมา
“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ” มีนชญาวางจานสปาเก็ตตี้สองจานที่โต๊ะอาหารพร้อมข้าวเปล่าและผัดผักของเธออีกอย่างละจานและส่งเสียงเรียกสองพ่อลูกที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่มาทานอาหารเย็น
“น่าทานไหมคะแดดดี๊..นีน่าชอบทานสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ามากเลยค่ะ” นีน่าเห็นว่าวันนี้แม่ของเธอทำของโปรดให้ทานอีกแล้วจึงรีบวิ่งตัวป้อมมานั่งที่โต๊ะอาหารทันทีพร้อมบอกกับคนเป็นพ่อว่าเธอนั้นชอบทานสปาเก็ตตี้ที่แม่เธอทำให้อย่างมาก
“น่าทานมากเลยค่ะเรามาทานกันเลยดีกว่า” โดมินิคนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมเริ่มทานอาหารฝีมือของหญิงสาวข้างๆกับลูกสาวของเขา
ชายหนุ่มแอบคิดถึงอาหารฝีมือของหญิงสาวอยู่เหมือนกันถึงแม้ว่าฝีมือของเธอจะไม่ค่อยเหมือนกันสักวันแต่มันก็โอเคสำหรับเขาและตอนนี้ก็รู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่หญิงสาวนั้นยังจำเมนูที่เขาชอบอยู่ได้ถึงทุกวันนี้
19.00 น.
“แล้วคืนนี้ผมต้องนอนที่ไหน” โดมินิคถือวิสาสะเปิดประตูเข้าห้องของหญิงสาวที่ตอนนี้พึ่งจะอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกสาวของเธอเสร็จเพื่อถามว่าจะต้องนอนห้องไหน
“แดดดี๊นอนกับนีน่านะคะ” เด็กหญิงชวนคนเป็นพ่อนอนด้วยกันในห้องนอนของเธอและคนเป็นแม่เพราะคืนนี้เธออยากนอนกอดพวกเขาทั้งสองคน
“...เอ่อ...” มีชญาถึงกับปั้นสีหน้าไม่ถูกเมื่อลูกสาวของเธอดันไปเอ่ยปากชวนชายหนุ่มนอนในห้องเธอด้วยเสียอย่างนั้นคราแรกเธอก็คิดว่าชายหนุ่มจะกลับไปแล้วเสียอีก
“โอเคค่ะวันนี้แดดดี๊จะนอนกับนีน่านะคะ” โดมินิครีบตอบตกลงลูกสาวของเขาทันทีเพราะเขาเองก็อยากจะนอนกอดลูกของเขาเหมือนกัน
“คุณนิคจะนอนที่นี่ได้ไงคะ...คุณนิคมีชุดเปลี่ยนเหรอคะ” มีนชญาจำต้องหาข้ออ้างให้เขานั้นนอนที่นี่ไม่ได้เพราะเธอไม่ชินในการที่มีเขาอยู่ในห้องนี้ด้วยล่ะสิ
“ฉันเตรียมมาเรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง” โดมินิคตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าเขานั้นเตรียมของมาเรียบร้อยแล้ว
“งั้นคุณนิคก็ไปอาบน้ำเถอะค่ะห้องข้างๆมีนมีห้องน้ำอยู่อีกห้องเดี๋ยวทางนี้มีนเตรียมที่นอนไว้ให้” มีนชญาถึงกับยอมใจในการเตรียมพร้อมของเขา
เพราะเธอคิดว่าเขาคงจะคิดแผนการมาดีแล้วเธอจึงจำต้องเอ่ยปากบอกให้เขานั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างจำใจเพราเธอก็จะเตรียมที่นอนแยกไว้ให้เขาด้วยเช่นกัน
“อืม” โดมินิคเดินไปหยิบของใช้ในรถของเขาอย่างอารมณ์ดีที่รู้สึกว่าเขาจะเป็นฝ่ายชนะเธอเรื่องลูกเพราะดูว่าลูกสาวของเขาจะเห่อเขาเอามากๆเขาดีใจที่เขานั้นเข้ากับลูกสาวของตัวเองได้ดีแม้จะเจอกันเพียงวันแรกเท่านั้น
20.00 น.
หลังจากที่โดมินิคอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็เดินออกมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวในห้องเขาลองสังเกตรอบๆห้องปรากฏว่าห้องนี้หญิงสาวน่าจะทำไว้เป็นห้องอ่านหนังสือเพราะมีชั้นหนังสือวางเรียงเต็มไปหมดและยังมีข่าวสารนิตยสารมากมายวางเรียงรายกันอยู่อีกด้วย
แต่เขานั้นก็ดันสะดุดตากับสมุดสีหวานบนโต๊ะเขียนหนังสือที่มันวางอยู่เล่มเดียวโดดๆจึงเอื้อมมือไปหยิบมาดูเพราะความอยากรู้ว่าทำไมมันจึงมาอยู่กลางโต๊ะนี้เล่มเดียว
จากที่เขาเปิดดูมันเป็นสมุดบันทึกตั้งแต่หญิงสาวตั้งครรรภ์เธอเขียนรายละเอียดเป็นไดอารี่ตั้งแต่พัฒนาการของลูกตอนอยู่ในท้องแทบจะละเอียดทุกอย่างทำให้เขานั้นอ่านไปยิ้มไปเมื่อเปิดอ่านไปเรื่อยๆก็มีที่หญิงสาวเขียนถึงเขาบ้างเช่นเธอเห็นข่าวของเขาในทีวีหรือหนังสือพิมพ์เธอก็จะเขียนเอาไว้
และที่เขาชอบมากๆเลยก็คือเธอเขียนว่าเธอชอบบอกกับลูกในท้องของเธอว่าให้เก่งและดูดีแบบคนเป็นพ่อเขาอดยิ้มไม่ได้ที่หญิงสาวนั้นเอ่ยชมเขาตลอดและที่ในห้องนี้มีหนังสือที่เยอะมากมายขนาดนี้เพราะเธอได้แรงบันดาลใจในการักการอ่านมาจากเขาอีกด้วย
ในไดอารี่จะมีสอดแทรกรูปอยู่ตลอดจนตอนนี้เขาอ่านมันแล้วหุบยิ้มไม่ได้จริงๆอย่างน้อยตอนนี้เขาก็ได้รู้ว่าเขานั้นก็ยังมีคนคิดถึงตลอดเวลาเหมือนที่เขานั้นคิดถึงเธอตลอดเวลานั่นเอง ถึงในไดอารี่เธอจะเขียนเถียงกับตัวเองตลอดเวลาว่าเธอนั้นไม่ได้รักเขาแต่เป็นใครที่อ่านก็ดูออกว่าเธอนั้นปลาบปลื้มและชอบเขามากแค่ไหนเพียงแต่หญิงสาวมีทิฐิกับตัวเองมากกว่าที่คิดว่าตัวเธอเองนั้นไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขานั่นเอง
พออ่านมาจนเกือบจะถึงหน้าสุดท้ายที่เธอเขียนเขาก็ต้องหุบยิ้มลงเพราะหญิงสาวนั้นเขียนลงในไดอารี่ว่าเธอจะไม่สนใจเขาอีกต่อไปเพราะมันทำให้หัวใจของเธออยู่ไม่นิ่งนั่นเองเขาพอจะรู้ว่ามันเกิดจากอะไรเพราะข่าวเรื่องเขากับเคธี่จากหนังสือพิมพ์ที่เธอตัดมาเสียบไว้ในไดอารี่เล่มนี้
“นีน่าหลับแล้วเหรอ” หลังจากที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ที่ห้องอ่านไดอารี่ของหญิงสาวอยู่ร่วมชั่วโมงเขาก็กลับออกมาเปิดประตูห้องหญิงสาวเมื่อเห็นว่าห้องเงียบๆเขาจึงยืนคาประตูอยู่พร้อมกระซิบกับหญิงสาวว่าลูกสาวของเขาหลับแล้วอย่างนั้นหรือ
“ค่ะ...วันนี้น่าจะเล่นเยอะจนเพลีย” มีนชญาลุกออกมาจากเตียงพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าวันนี้นีน่าค่อนข้างที่จะหลับไวจากการที่เธอเดาน่าจะเป็นเพราะเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมากไปหน่อยเพราะตั้งแต่ไปโรงเรียนก็หลับง่ายแบบนี้มาสองวันแล้ว“เธอมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคทำหน้างอยู่ดีๆหญิงสาวก็เดินมายืนจ้องหน้าของเขาอยู่ที่หน้าประตูใบหน้าแสดงออกถึงการมีเรื่องอะไรในใจจนเขานั้นจำต้องถามเธอขึ้น“มีนขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”“งั้นเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” โดมินิคดูจากสีหน้าที่จริงจังของหญิงสาวแล้วเขารู้ว่าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขาต้องเป็นเรื่องที่เธอนั้นซีเรียสอย่ามากเป็นแน่เขาจึงดึงมือเธอให้ตามเขามานั่งคุยในห้องหนังสือของเธอที่เขาพึ่งออกมาเมื่อครู่นี้“คุณนิคคะอย่าหาว่ามีนเห็นแก่ตัวเลยนะคะ...คุณอย่าพานีน่าไปจากที่นี่เลยนะคะไม่อย่างนั้นมีนคงอยู่ไม่ได้แน่” เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็ยืนก้มหน้าหลับตาพร้อมขอร้องชายหนุ่มอย่างที่ใจเธอคิดอย่างรวดเร็วและยังยืนก้มหน้าบีบมือรอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอยู่“ยังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันจะพาลูกไปอยู่กับผม....แต่....ฉันเองก็ไม่เคยพูดนี่ว่าไม่ให้เธอตามไปด้วย” โด
“ทำไมจะทำอะไรไม่ได้เธอรักฉัน..แล้วฉันก็รักเธออย่าหลอกตัวเองเลยนะมีนคนเรามันเท่าเทียมกันอย่าดูถูกตัวเองว่าเธอไม่เหมาะสมกับใครอีกอย่างเราก็มีลูกด้วยกันจนสามขวบแล้วด้วยทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวจอมซื่อบื้อคนนี้คงจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่เขาจึงต้องบอกกับเธอตรงๆว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรพร้อมบอกให้เธอได้รู้ด้วยว่าเขาก็รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาเช่นไรเขาไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเองเพราะขนาดเขาก็ยังไม่เคยคิดที่จะดูถูกเธอด้วยซ้ำอีกอย่างมันก็จะดีต่อลูกอีกด้วยถ้าทั้งเขาและเธอหันหน้าปรับความเข้าใจกัน“อะไรนะคะ...อื้มมมม” มีนชญารู้สึกอึ้งเล็กน้อยเมื่อล่วงรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดกับเธอเช่นไรในขณะที่เธอยังอึ้งอยู่นั้นชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เสียจังหวะเขาพยายามบดจูบหญิงสาวเรียกอารมณ์รักของเธอออกมาเพราะเขานั้นโหยหาร่างกายนี้มานานแสนนานต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่เมียตัวแสบคนนี้ไปเด็ดขาด“คุณนิค...อื้อ...” มีนชญาถึงกับครางเสียงกระเส่าเพราะชายหนุ่มจูบวนอยู่ที่ลำคอระหงของเธออย่างนุ่มนวลไล่ลงไปที่สองเต้างามสลับกันดูดคลึงเล่นกับมืออย่างสนุกและมอบความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวได้อย่างดีโดมินิค
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะแถมร่มรื่นกว่าเดิมอีก” โดมินิคขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านที่เปิดเป็นร้านดอกไม้เขาก็จำได้ทันทีว่าที่นี่นั้นเคยเป็นบ้านของเขามาก่อนเมื่อลงจากรถสำรวจดูรอบๆเขาก็รู้สึกชอบที่นี่มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะมันทั้งร่มรื่นและมีดอกไม้ต่างๆปลูกรอบๆบ้านเป็นภาพที่สวยงามเป็นอาหารตาแก่เขามากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ในตอนเช้าๆ“คุณนิคเคยมาที่ด้วยเหรอคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆเหมือนเคยมที่นี่ยังไงยังงั้นจึงถามเขาขึ้นให้คลายสงสัย“บ้านหลังนี้เป็นของฉันเอง...ฉันปล่อยขายเมื่อห้าปีที่แล้วโลกกลมจังเลยเนอะ” โดมินิคหันมายิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาเองและคนที่ซื้อในตอนนั้นก็เป็นหญิงสาวตรงหน้าเขาคนนี้เขาไม่แปลกใจที่ทำไมหญิงสาวไม่รู้ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาเองเป็นเจ้าของบ้านเขาคิดว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินหรือไม่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ขีดมาให้เขาและเธอได้เจอกันที่ทำให้คนสองคนที่แสนจะแตกต่างกันมาเติมเต็มกันและกันได้“บังเอิญจังเลยนะคะ” มีนชญารู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะวางแผนไปทำงานที่บ้านของเข
เช้าวันต่อมาตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”“ใช่ค่ะแดดดี๊”“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเองมีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด
“แล้วคุณ....” รวิชแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มฝรั่งร่างสูงยืนอยู่ที่หลังของหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นใคร“เอ่อ...ผมเป็นพ่อของนีน่าสามีของมีนครับ” โดมินิคถือโอกาสแนะนำตัวเองกับหมอหนุ่มโดยการดึงไหล่ของหญิงสาวเข้าไปกอดแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเขานั้นไม่ชอบใจในสรรพนามที่ทั้งสองเรียกแทนตัวเองกันสักเท่าไรมันดูสนิทสนมกันเกินหน้าเกินตา“อ่อ...ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”“เช่นกันครับ”รวิชเองดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังหึงภรรยาสาวอยู่เป็นแน่แต่เขาก็ทำตัวทักทายอีกฝ่ายปกติเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวคนนึงเพราะตั้งแต่ที่มีนชญาท้องก็มาหาปรึกษาเขาตลอดจึงทำให้เขากับเธอนั้นสนิทกัน5นาทีต่อมา“นีน่าไข้สูงเหมือนกันนะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ฉีดยาให้แล้วก็เช็ดตัวดูอาการอยู่ที่นี่สักครึ่งชั่วโมง”“ค่ะพี่หมอ”เมื่อดูอุณหภูมิร่างกายของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหมอนุ่มเองคิดว่าจะต้องฉีดยาเพราะให้ทานยากับเช็ดตัวคงไม่ทันแน่เพราะว่าอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะทำให้ชักได้“คุณแม่ขาไม่ฉีดยา...ฮือๆๆๆ”“ไม่ฉีดไม่ได้หรือไงครับหมอ” เด็กหญิงตัวกลมที่นอนซึมอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของลุงหมอของเธอบอกว่าต
“ฉันอยากให้เธอเรียกฉันเหมือนที่เรียกไอ้หมอนั่น” เมื่อดึงหญิงสาวออกมานอกห้องได้แล้วโดมินิคก็พูดเรื่องความต้องการของเขาทันทีเขาอยากให้เอเรียกเขาแบบสนิทสนมเหมือนกับที่เธอนั้นเรียกหมอรวิชเพราะเขาไม่อยากให้เธอนั้นดูสนิทกับผู้ชายคนไหนมากไปกว่าตัวเขาเอง“หมอนั่น...พี่หมอน่ะเหรอคะ...มีนเรียกคุณนิคแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ” มีนชญาไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มนั้นจะมาหาเรื่องอะไรเธอกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องด้วยจู่ๆชายหนุ่มก็มาอยากให้เธอเรียกเขาแบบที่เธอเรียกหมอรวิชเสียแบบนั้นเธอรู้สึกว่าเธอเรียกเขาแบบเดิมมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนอกจากตอนนี้ชายหนุ่มจะทำให้มันเป็นปัญหาเสียเอง“ไม่ได้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่นิค” โดมินิคต้องใช้ลูกบังคับเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี“ทำไมต้องบังคับมีนด้วยคะ” มีนชญาไม่เห็นว่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้เขาจะต้องมาบังคับเธอด้วยตอนนี้เธอเลยมีสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน“จะเรียกไหม” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกแถมยังถียงเขาไม่ขาดคำเขาจึงต้องใช้ไม้เด็ดในการทำให้เธอยอมแต่โดยดีโดยการใช้มือทั้งสองของเขาจับไปที่ใบหน้าของหญิงสาวรั้งให้ใบหน้าเ
เช้าวันต่อมามีนชญากำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวส่วนสองพ่อลูกก็พากันไปนั่งเล่นที่ในสวนหลังบ้านวันนี้นีน่าไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะยังต้องดูอาการก่อนว่าไข้จะไม่ขึ้นมาอีก“อะไรกันเนี่ย” หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านเป็นแบบนี้ทุกวันแล้วเธอก็ต้องเจอข่าวที่ทำให้เธอตกใจเพราะมีรูปของเธอกับนีน่าอยู่ในหนังสือพิมพ์อีกด้วย“นักธุรกิจหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแอบซุกลูกกับเมียมาสามปีเต็มๆทำไฮโซสาวหน้าแหกที่เกือบจะเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวโดยชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกับไฮโซสาวเท่านั้นและกำลังจะจัดงานแต่งกับภรรยาของเขาเร็วๆนี้อีกด้วย” เมื่อมีนชญากวาดสายตาอ่านข้อความอย่างรวดเร็วเธอถึงกับต้องรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่หลังบ้านทันทีเพราะค่อนข้างตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรื่องของเธอไปเป็นข่าวได้อย่างไร“คุณนิคคะ...ข่าวนี้มันมาได้ยังไงคะแล้วทำไมมีรูปเราเมื่อวานด้วย” มีนชญารีบยื่นหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่มอ่านอย่างเร่งรีบเพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะตกใจกับข่าวนี้เหมือนกันเพราะมันทำให้ภาพพจน์ของเขาเสียหายอีกอย่างในข่าวก็แอบอ้างว่าเขาเป็นคนให้สัมภาษณ์เองทั้งที่มั
“เรื่องทั่วไปนั่นแหละ” แน็ทตี้เห็นกอหญ้าเดินเข้ามาก็ตอบคำถามเพื่อนสาของเขาว่าที่คุยกันมันก็เป็นเร่องทั่วไปตามประสาเพื่อนที่นานๆเจอกันและจะมีเวลาคุยกันแบบนี้นานๆเสียทีเมื่อกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันได้พักใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันไปเดินชมวิวทะเลยามค่ำคืนเพราะงานแต่งของหญิงสาวจัดเป็นคบเพลิงปักอยู่เต็มอ่าวทุกคนเลยเดินไปถ่ายรูปกันตอนนี้ก็เหลือแต่กอหญ้าที่นั่งอยู่กับแน็ทตี้และมีนชญา“ได้คุยกันแบบนี้ก็ดีนะมีนยินดีด้วยนะฉันดีใจที่เห็นแกมีวันนี้นะ” กอหญ้าเองเห็นเพื่อนสาวของเธอมีวันนี้ก็ดีใจที่เรื่องวุ่นๆมันจบลงด้วยดีแถมเพื่อนของเธอก็มีครอบครัวที่มีความสุขอีกด้วย“ขอบใจนะกอหญ้า...ต้องขอบคุณแน็ทตี้ที่ช่วยฉันทำแผนนั้นขึ้นมา”“อุ้ยย”มีนชญาพูดแซวไปถึงวีรกรรมที่ตัวเองและแน็ทตี้รวมกันทำเอาไว้พร้อมหัวเราะออกมาที่ตอนนี้เธอนั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เธอเองนั้นสร้างวีรกรรมสุดน่าปวดหัวนี้มาแน็ทตี้เองได้ยินเรื่องนี้ก็หันหน้าหนีทันทีเพราะเขาก็ไม่ได้อยากร่วมวีรกรรมนี้สักเท่าไรถ้าตอนนั้นไม่เห็นแก่เงิน“อย่าพูดถึงเรื่องนี้นะมีน...ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอยากจะตีแกเล่นอะไรบ้าๆจนวุ่นวายไปหมดดีนะที่วันนี้เรื่องทุกอย่างจบล