เช้าวันต่อมา
ตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา
“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”
“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ
“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”
“ใช่ค่ะแดดดี๊”
“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”
“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”
โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา
ขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเอง
มีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด็ดขาดเธอรู้ว่าเขานั้นอยากที่จะหาเรื่องให้เธอได้พูดคุยกับเขาแต่กลับโดนลูกสาวแย่งพูดเสียหมด
“นีน่าอยากไปเที่ยวสวนสัตว์ไหมคะ” เมื่อทานข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้วโดมินิคก็หาเรื่องที่จะพาลูกน้อยของเขาไปเที่ยวทันทีเพราะหวังจะสานสัมพันธ์กับหญิงสาวให้เหมือนเดิมที่สุดโดยเร็วและจะใช้จังหวะนี้จัดการตามแผนของเขาที่วางไว้กับชอวอีกด้วย
“ไปค่ะ...คุณแม่ไปสวนสัตว์กันนะคะ” เด็กหญิงตัวกลมถึงกับหูผึ่งเพราะเธอนั้นชอบสวนสัตว์เป็นที่สุดเธอตอบตกลงคนเป็นพ่ออย่างรวดเร็วพร้อมหันไปชวนคนเป็นแม่ของเธอทันที
“ค่ะ...แต่ต้องสัญญากับคุณแม่ก่อนนะคะว่าถ้านีน่าร้อนจะต้องไม่งอแงนะคะ”
“สัญญาค่ะ” ลูกสาวอยากไปสวนสัตว์ทั้งทีมีหรือคนเป็นแม่จะห้ามแต่เธอก็ต้องคอยกำชับลูกตลอดว่าถ้าหากจะไปเที่ยวแล้วต้องห้ามงอแงเป็นข้อตกลงประจำของมีนชญาและลูกสาวเวลาที่จะไปไหนมาไหน
สวนสัตว์XXX
เมื่อซื้อตั๋วเข้าสวนสัตว์ได้โดมินิคก็เดินอุ้มลูกสาวของเขาเดินดูสัตว์เล็กใหญ่ต่างๆในสวนสัตว์โดยทีหญิงสาวเป็นคนเดินตามอยู่ด้านหลังสองพ่อลูกชอบคุยกันกระหนุงกระหนิงไม่สนคนเดินตามที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด
“โห..แดดดี๊ยีราฟตัวใหญ่มากเลยพานีน่าไปให้อาหารใกล้ๆหน่อยสิคะ”
“ได้เลยค่ะ” เมื่อมาถึงจุดที่ยืนดูยีราฟเป็นสัตว์ที่นีน่าชอบมากที่สุดเพรามันตัวใหญ่และคอยาวเธอมากี่ครั้งก็จะต้องมาให้อาหารมันตลอด
“แดดดี๊รู้ไหมคะว่าคุณแม่กลัวยีราฟมากๆเลย”
“เหรอคะ”
นีน่าแอบกระซิบข้างหูของคนเป็นพ่อถึงแม่ตัวเองว่าคุณแม่ของเธอนั้นกลัวยีราฟโดมินิคได้ยินเช่นนั้นก็หันไปหาหญิงสาวปรากฏว่าเธอไม่ยอมเข้ามาใกล้ตรงนี้จริงๆด้วยเขาเลยแอบขำกันอยู่กับนีน่าสองคน
“ตอนที่นีน่ามากับคุณแม่คุณแม่ไม่ยอมเข้าใกล้เลยค่ะมีแต่น้าแน็ทตี้ที่อุ้มนีน่าไปใกล้ๆ”
“ไม่เป็นไรนะคะตอนนี้แดดดี๊จะพานีน่าเดินเล่นเองเพราะแดดดี๊ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
เมื่อให้อาหารยีราฟเรียบร้อยแล้วโดมินิคก็เดินออกมาหาทางด้านหญิงสาวพร้อมพูดให้หญิงสาวนั้นได้ยินเป็นการแกล้งเธอเล่นว่าเขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้นและก็สามารถที่จะพานีน่าเข้าใกล้สัตว์ที่นีน่าชอบอีกด้วย
“งั้นแดดดี๊ก็ลงไปในบ่อจระเข้ได้สิคะ” เด็กหญิงคิดในใจว่าถ้าหากพ่อของเธอนั้นไม่กลัวอะไรก็แสดงว่าพ่อของเธอนั้นก็ต้องลงไปในบ่อจระเข้ได้เพราะเธอจำได้ว่าแม่ของเธอบอกว่าคนทุกคนจะกลัวจระเข้แต่พ่อของเธอไม่กลัวจึงถามคนเป็นพ่อขึ้นว่าถ้าไม่กลัวอะไรก็สามารถที่จะลงบ่อจระเข้ได้ใช่หรือไม่
“เอ่อ...แดดดี๊ขอเว้นจระเข้เสือกับสิงโตไว้ละกันค่ะ” โดมินิคถึงกับหน้าชาจากคำถามของลูกสาวของเขานี่ถ้าเธอโตกว่านี้เขาคงคิดว่าเธอกวนประสาทเขาเป็นแน่พร้อมทั้งอธิบายว่าเขานั้นคงจะต้องเว้นพวกสัตว์อันตรายในสวนสัตว์นี้ที่บอกว่าไม่กลัว
มีนชญาที่เดินตามหลังคนที่คุยอวดลูกว่าไม่กลัวอะไรเธอขำที่ชายหนุ่มนั้นไม่ทันความฉลาดของนีน่าเสียแล้ว
“นีน่าตัวร้อนจังเลยค่ะ” เมื่อเที่ยวกันตั้งแต่เช้ายันเย็นตอนนี้ทั้งสามก็ได้เวลากลับบ้านกันแล้วเมื่อขึ้นรถได้นีน่าถึงกับฟุบหลับที่อกคนเป็นแม่ทันทีมีนชญารู้สึกว่าอุณหภูมิในตัวของลูกสาวเธอมันแปลกๆตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว
คราแรกเธอคิดว่าที่ตัวของนีน่าร้อนเพราะอากาศข้างนอกแต่นี่ก็นั่งในรถมาพักใหญ่แล้วก็ยังไม่เบาร้อนเสียทีเหมือนจะร้อนเพิ่มขึ้นอีกด้วยหญิงสาวจึงต้องหันไปบอกชายหนุ่ม
“ลูกเป็นอะไรเหรอ” โดมินิคพึ่งได้ยินคำแรกในวันนี้ที่เธอพูดกับเขานี่แหละเขาตกใจเล็กน้อยไม่รู้ว่าลูกสาวของเขาเป็นอะไรเพราะอยู่ดีๆหญิงสาวก็หันมาบอกกับเขาว่าลูกตัวร้อน
“น่าจะไข้ขึ้นวันนี้ตากแดดทั้งวันแถมยังทานแต่ของเย็นๆอีกเดี๋ยวคุณนิคแวะคลินิกตรงข้างหน้าให้มีนหน่อยนะคะ”
“ได้สิ” มีนชญารู้ดีว่าลูกสาวของเธอต้องไข้ขึ้นแน่นอนเพราะอาการตัวร้อนและนอนซมแบบนี้คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ตอนนี้ก็ชายหนุ่มก็ขับรถมาใกล้กับคลินิคของหมอรวิชที่เธอรู้จัก
และเธอก็พานีน่ามาหาประจำที่เธอเลียกว่าลุงหมอนั่นเองหญิงสาวให้ชายหนุ่มจอดรถที่คลินิคด้านหน้าแล้วรีบพาลูกสาวของเธอลงรถเข้าไปในคลินิคทันทีโดมินิคเองก็รีบดับเครื่องแล้วเดินลงรถตามสองแม่ลูกไป
“สวัสดีค่ะพี่หมอ”
“อ้าวมีนพี่ไม่เจอซะนานเลย...นีน่าตัวร้อนอีกแล้วใช่ม้าถึงมีสีหน้าแบบนี้” รวิชทักทายมีนชญาเมื่อเห็นว่าเธออุ้มลูกสาวหน้าตาตื่นมาหาเขาชายหนุ่มจึงรีบหยิบปรอทวัดไข้เหน็บไปที่รักแร้เด็กหญิงที่เขาเห็นมาแต่อ้อนแต่ออกทันที
“ค่ะ...วันนี้นีน่าเดินตากแดดทั้งวันแถมยังทานแต่ของเย็นๆอีก” มีนชญาโล่งใจไปอีกเปราะที่วันนี้เข้าคลนิคมาก็เจอหมอรวิชเพราะเธอเชื่อในมือของเขา
“แล้วคุณ....” รวิชแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มฝรั่งร่างสูงยืนอยู่ที่หลังของหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นใคร“เอ่อ...ผมเป็นพ่อของนีน่าสามีของมีนครับ” โดมินิคถือโอกาสแนะนำตัวเองกับหมอหนุ่มโดยการดึงไหล่ของหญิงสาวเข้าไปกอดแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเขานั้นไม่ชอบใจในสรรพนามที่ทั้งสองเรียกแทนตัวเองกันสักเท่าไรมันดูสนิทสนมกันเกินหน้าเกินตา“อ่อ...ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”“เช่นกันครับ”รวิชเองดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังหึงภรรยาสาวอยู่เป็นแน่แต่เขาก็ทำตัวทักทายอีกฝ่ายปกติเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวคนนึงเพราะตั้งแต่ที่มีนชญาท้องก็มาหาปรึกษาเขาตลอดจึงทำให้เขากับเธอนั้นสนิทกัน5นาทีต่อมา“นีน่าไข้สูงเหมือนกันนะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ฉีดยาให้แล้วก็เช็ดตัวดูอาการอยู่ที่นี่สักครึ่งชั่วโมง”“ค่ะพี่หมอ”เมื่อดูอุณหภูมิร่างกายของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหมอนุ่มเองคิดว่าจะต้องฉีดยาเพราะให้ทานยากับเช็ดตัวคงไม่ทันแน่เพราะว่าอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะทำให้ชักได้“คุณแม่ขาไม่ฉีดยา...ฮือๆๆๆ”“ไม่ฉีดไม่ได้หรือไงครับหมอ” เด็กหญิงตัวกลมที่นอนซึมอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของลุงหมอของเธอบอกว่าต
“ฉันอยากให้เธอเรียกฉันเหมือนที่เรียกไอ้หมอนั่น” เมื่อดึงหญิงสาวออกมานอกห้องได้แล้วโดมินิคก็พูดเรื่องความต้องการของเขาทันทีเขาอยากให้เอเรียกเขาแบบสนิทสนมเหมือนกับที่เธอนั้นเรียกหมอรวิชเพราะเขาไม่อยากให้เธอนั้นดูสนิทกับผู้ชายคนไหนมากไปกว่าตัวเขาเอง“หมอนั่น...พี่หมอน่ะเหรอคะ...มีนเรียกคุณนิคแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ” มีนชญาไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มนั้นจะมาหาเรื่องอะไรเธอกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องด้วยจู่ๆชายหนุ่มก็มาอยากให้เธอเรียกเขาแบบที่เธอเรียกหมอรวิชเสียแบบนั้นเธอรู้สึกว่าเธอเรียกเขาแบบเดิมมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนอกจากตอนนี้ชายหนุ่มจะทำให้มันเป็นปัญหาเสียเอง“ไม่ได้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่นิค” โดมินิคต้องใช้ลูกบังคับเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี“ทำไมต้องบังคับมีนด้วยคะ” มีนชญาไม่เห็นว่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้เขาจะต้องมาบังคับเธอด้วยตอนนี้เธอเลยมีสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน“จะเรียกไหม” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกแถมยังถียงเขาไม่ขาดคำเขาจึงต้องใช้ไม้เด็ดในการทำให้เธอยอมแต่โดยดีโดยการใช้มือทั้งสองของเขาจับไปที่ใบหน้าของหญิงสาวรั้งให้ใบหน้าเ
เช้าวันต่อมามีนชญากำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวส่วนสองพ่อลูกก็พากันไปนั่งเล่นที่ในสวนหลังบ้านวันนี้นีน่าไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะยังต้องดูอาการก่อนว่าไข้จะไม่ขึ้นมาอีก“อะไรกันเนี่ย” หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านเป็นแบบนี้ทุกวันแล้วเธอก็ต้องเจอข่าวที่ทำให้เธอตกใจเพราะมีรูปของเธอกับนีน่าอยู่ในหนังสือพิมพ์อีกด้วย“นักธุรกิจหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแอบซุกลูกกับเมียมาสามปีเต็มๆทำไฮโซสาวหน้าแหกที่เกือบจะเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวโดยชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกับไฮโซสาวเท่านั้นและกำลังจะจัดงานแต่งกับภรรยาของเขาเร็วๆนี้อีกด้วย” เมื่อมีนชญากวาดสายตาอ่านข้อความอย่างรวดเร็วเธอถึงกับต้องรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่หลังบ้านทันทีเพราะค่อนข้างตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรื่องของเธอไปเป็นข่าวได้อย่างไร“คุณนิคคะ...ข่าวนี้มันมาได้ยังไงคะแล้วทำไมมีรูปเราเมื่อวานด้วย” มีนชญารีบยื่นหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่มอ่านอย่างเร่งรีบเพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะตกใจกับข่าวนี้เหมือนกันเพราะมันทำให้ภาพพจน์ของเขาเสียหายอีกอย่างในข่าวก็แอบอ้างว่าเขาเป็นคนให้สัมภาษณ์เองทั้งที่มั
“เรื่องทั่วไปนั่นแหละ” แน็ทตี้เห็นกอหญ้าเดินเข้ามาก็ตอบคำถามเพื่อนสาของเขาว่าที่คุยกันมันก็เป็นเร่องทั่วไปตามประสาเพื่อนที่นานๆเจอกันและจะมีเวลาคุยกันแบบนี้นานๆเสียทีเมื่อกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันได้พักใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันไปเดินชมวิวทะเลยามค่ำคืนเพราะงานแต่งของหญิงสาวจัดเป็นคบเพลิงปักอยู่เต็มอ่าวทุกคนเลยเดินไปถ่ายรูปกันตอนนี้ก็เหลือแต่กอหญ้าที่นั่งอยู่กับแน็ทตี้และมีนชญา“ได้คุยกันแบบนี้ก็ดีนะมีนยินดีด้วยนะฉันดีใจที่เห็นแกมีวันนี้นะ” กอหญ้าเองเห็นเพื่อนสาวของเธอมีวันนี้ก็ดีใจที่เรื่องวุ่นๆมันจบลงด้วยดีแถมเพื่อนของเธอก็มีครอบครัวที่มีความสุขอีกด้วย“ขอบใจนะกอหญ้า...ต้องขอบคุณแน็ทตี้ที่ช่วยฉันทำแผนนั้นขึ้นมา”“อุ้ยย”มีนชญาพูดแซวไปถึงวีรกรรมที่ตัวเองและแน็ทตี้รวมกันทำเอาไว้พร้อมหัวเราะออกมาที่ตอนนี้เธอนั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เธอเองนั้นสร้างวีรกรรมสุดน่าปวดหัวนี้มาแน็ทตี้เองได้ยินเรื่องนี้ก็หันหน้าหนีทันทีเพราะเขาก็ไม่ได้อยากร่วมวีรกรรมนี้สักเท่าไรถ้าตอนนั้นไม่เห็นแก่เงิน“อย่าพูดถึงเรื่องนี้นะมีน...ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอยากจะตีแกเล่นอะไรบ้าๆจนวุ่นวายไปหมดดีนะที่วันนี้เรื่องทุกอย่างจบล
อิตาลีบริษัทXXXปังงงงงง“ถ้าทำชุ่ยๆก็อย่าทำมันเลย”“ขอโทษค่ะท่านดิฉันจะรีบไปสรุปให้ใหม่ให้ทันส่งวันนี้ค่ะ” โดมินิคโยนแฟ้มเอกสารบัญชีรายเดือนกระจุยกระจายไปทั่วห้องเพราะไม่พอใจที่มันค่อนข้างที่จะไม่ถูกต้องหลายจุดพร้อมทั้งส่งสายตาที่กำลังไม่พอใจไปยังพนักงานของเขาก่อนจะบอกกับเธอว่าหากไม่ระเอียดรอบคอบในการทำงานขนาดนี้ก็อย่าทำพนักงานสาวกลัวจนหัวหดพร้อมทั้งก้มเก็บแฟ้มเอกสารอย่างรนรานบวกกับที่ถูกประธานหนุ่มว่าเธอจึงจะต้องรีบแก้มาส่งใหม่พนักงานสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปด้านนอกด้วยตอนนี้ในห้องกำลังลุกเป็นไฟด้วยโทสะของประธานหนุ่มพนักงานของบริษัทของโดมินิคต่างรู้กันว่าประธานหนุ่มของที่นี่เป็นคนใจดีแต่อย่าให้ได้โมโหเพราะจะเขาสามารถทำลายทุกอย่างได้แต่เขาเองก็ไม่ได้โมโหพร่ำเพรื่อนอกจากจะมีเหตุสะกิดใจเขาก็เท่านั้นเห็นจะเป็นเรื่องความเจ้าระเบียบและละเอียดรอบคอบเสียมากที่ชายหนุ่มเคร่งในเรื่องนี้แบบสุดๆด้วยความที่ชายหนุ่มต้องครอบคลุมธุรกิจทั้งหมดของบ้านตั้งแต่พึ่งเรียนจบใหม่ๆเพราะทั้งพ่อละแม่ของเขาเสียเพราะอุบัติเหตุเขาต้องอยู่กับงานและงานเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่นจึงทำให้เขาต้อ
“ฉันก็คิดถึงแกเหมือนกัน...เป็นยังไงบ้างสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง” กอหญ้าเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นยังทำใจเรื่องแม่ไม่ได้อยู่เป็นแน่“ก็ยังทำใจยากอยู่ฉันเคยอยู่กับแม่มาแค่สองคนตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวมันหดหู่บอกไม่ถูก” เมื่อได้รับคำถามจากเพื่อนสาวหญิงสาวก็รู้ว่าเพื่อนของเธอนั้นยังคอยห่วงใยเธออยู่เหมือนเดิมพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอด้วยความรู้สึกในตอนนี้ว่าเธอนั้นยังทำใจกับเรื่องที่แม่เธอจากไปไม่ได้สักเท่าไร“แอ้ๆ”“ว่าไงจ๊ะ..ทักทายน้าเหรอคนเก่ง” จากที่มีนชญากำลังอยู่ในโหมดซึ้งกับเพื่อนสาวแม่หนูน้อยตัวกลมลูกของกอหญ้าก็ส่งเสียงเรียกมาทางเธอเป็นการทักทาย“อิ่มเอมแกคุยเก่งมากนี่ขนาดแค่หกเจ็ดเดือนนะส่งเสียงไม่หยุดเลย” กอหญ้าก้มมองลูกสาวของเธอในอ้อมอกพร้อมอมยิ้มเอ็นดูที่ลูกสาวเธอนั้นช่างเป็นคนที่คุยเก่งเสียเหลือเกิน“ถ้าฉันมีครอบครัวแบบแกก็คงจะดีกว่านี้เนอะ” มีนชญารู้สึกว่าเพื่อนสาวของเธอในตอนนี้นั้นช่างดูมีความสุขเหลือเกินที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกอีกอย่างสามีของเพื่อนสาวเธอก็รักเพื่อนเธอมากๆอีกด้วยลูกออกมาก็ยังน่ารักอีกเธออยากเป็นแบบนี้บ้าง
เช้าวันต่อมาห้างสรรพสินค้า“เสร็จเรียบร้อยแล้วแกไปกว่าจะได้เงินนี่หลายขั้นตอนเนอะ” เกือบทั้งวันที่วันนี้มีนชญาไปเดินเรื่องเพื่อจะขึ้นเงินตกเย็นเธอเลยโทรนัดกอหญ้าทานข้าวเพื่อฉลองเมื่อมาถึงห้างเจอหน้าเพื่อนสาวเธอก็ขอแอบบ่นนิดว่าวันนี้มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน“ไป..เราไปทานข้าวกัน” กอหญ้าเห็นหน้าที่ดูเหนื่อยๆของเพื่อนสาวเธอจึงเข้าไปกอดคอมีนชญาเหมือนที่ชอบทำกันบ่อยตอนสมัยเรียนพร้อมรั้งคอเพื่อนสาวของเธอเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่แพงมากที่พวกเธอทั้งสองเคยอยากทานกันมากสมัยเรียนแต่เพราะงบไม่พอจนวันนี้ทั้งสองก็ได้มาทานสมใจอยาก“น้องเอมไม่ได้มาด้วยเหรอ” มีนชญาหันไปถามเพื่อนสาวของเธอว่าไม่ได้เอาลูกมาด้วยหรือเพราะเธอเห็นแค่เพื่อนสาวเธอยืนอยู่คนเดียว“อยู่กับพี่อิทน่ะรายนั้นติดลูกแจเลย...ไปเถอะมื้อนี้ฉันเลี้ยงแกเองฉลองที่เพื่อนถูกหวย” กอหญ้าหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสาวพร้อมบอกว่าเธอนั้นจะไปไหนมาไหนก็ได้แล้วเพราะสามีเธอนั้นติดลูกมากและสามารถเลี้ยงลูกเองได้โดยที่เธอนั้นไม่ต้องห่วงอะไรมากนักแค่บอกเวลาไปและเวลากลับก็พอละมื้อนี้เธอก็จะเป็นคนเลี้ยงเพื่อนสาวเธอเองเพราะเธอมีเงินพอที่จะเลี้ยงเพื่อนเธ
“ไอ้เราก็นึกว่าอะไร..แต่..ปฏิเสธซะสียงสูงเลยน้า...ถ้าแกสนใจฉันช่วยแกได้นะจะบอกว่าเค้าโสดอยู่ด้วยแถมทำธุรกิจก็เก่งเป็นที่หนึ่งขนาดพี่อิทยังชมให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆเลย..อีกอย่างเค้าก็สเปกแกด้วยนี่นาสาย ฝ ฮ่าๆๆๆ” กอหญ้าที่ล่วงรู้ความคิดของเพื่อนสาวเธอหญิงสาวเลยรีบพูดถึงโปรไฟล์ของชายหนุ่มว่าเพอเฟคขนาดไหนให้เพื่อนสาวของเธอฟังเผื่อเพื่อนสาวของเธอจะเลิกปากแข็งและยอมรับกับเธอมาตรงๆว่าสนใจเธอจะได้เดินหน้าช่วยเพื่อนเธอเต็มที่นั่นเอง“หยุดพูดเลยใครบอกว่าสนใจ...ไม่ได้สนซะหน่อยดูท่าเค้าเจ้าระเบียบมากเลยเนอะ” มีนชญาแกล้งผลักไหล่เพื่อนสาวของเธอหนึ่งทีพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจจริงๆและเธอเองก็เห็นว่าชายหนุ่มน่าจะเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างกับเธอสุดขั้วอีกด้วยดูจากมาดแบบนั้นเธอดูออกว่ายังไงก็ต้องเป็นคนที่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้วต่างจากเธอที่เป็นจอมซุ่มซ่ามแถมเรื่องเปิ่นนี่ก็ที่หนึ่งอีกด้วย“อืม...มันแน่อยู่แล้วคนเป็นนักธุรกิจต้องมีระเบียบอยู่แล้วอีกอย่างยิ่งเก่งแค่ไหนยิ่งระเบียบจัดแค่นั้น” กอหญ้าเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจทุกคนที่ประสบผลสำเร็จในการทำงานจะเจ้าระเบียบและมีวินัยเ