“ไอ้เราก็นึกว่าอะไร..แต่..ปฏิเสธซะสียงสูงเลยน้า...ถ้าแกสนใจฉันช่วยแกได้นะจะบอกว่าเค้าโสดอยู่ด้วยแถมทำธุรกิจก็เก่งเป็นที่หนึ่งขนาดพี่อิทยังชมให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆเลย..อีกอย่างเค้าก็สเปกแกด้วยนี่นาสาย ฝ ฮ่าๆๆๆ” กอหญ้าที่ล่วงรู้ความคิดของเพื่อนสาวเธอหญิงสาวเลยรีบพูดถึงโปรไฟล์ของชายหนุ่มว่าเพอเฟคขนาดไหนให้เพื่อนสาวของเธอฟังเผื่อเพื่อนสาวของเธอจะเลิกปากแข็งและยอมรับกับเธอมาตรงๆว่าสนใจเธอจะได้เดินหน้าช่วยเพื่อนเธอเต็มที่นั่นเอง
“หยุดพูดเลยใครบอกว่าสนใจ...ไม่ได้สนซะหน่อยดูท่าเค้าเจ้าระเบียบมากเลยเนอะ” มีนชญาแกล้งผลักไหล่เพื่อนสาวของเธอหนึ่งทีพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจจริงๆและเธอเองก็เห็นว่าชายหนุ่มน่าจะเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างกับเธอสุดขั้วอีกด้วยดูจากมาดแบบนั้นเธอดูออกว่ายังไงก็ต้องเป็นคนที่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้วต่างจากเธอที่เป็นจอมซุ่มซ่ามแถมเรื่องเปิ่นนี่ก็ที่หนึ่งอีกด้วย
“อืม...มันแน่อยู่แล้วคนเป็นนักธุรกิจต้องมีระเบียบอยู่แล้วอีกอย่างยิ่งเก่งแค่ไหนยิ่งระเบียบจัดแค่นั้น” กอหญ้าเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจทุกคนที่ประสบผลสำเร็จในการทำงานจะเจ้าระเบียบและมีวินัยเป็นธรรมดาไม่อย่างนั้นคงจะไม่พาตัวเองมาอยู่จุดที่สูงๆได้
“เจ้าระเบียบแตกต่างกับฉันมากเลยเนอะ” มีนชญายิ่งฟังที่เพื่อนเธอพูดก็รู้สึกว่าชีวิตชายหนุ่มมันยิ่งต่างกับเธอมากเสียเหลือเกิน
“ฟ้ากับเหวเลยล่ะแก”
“โถ่วว…ไม่ต้องย้ำก็ได้”
กอหญ้าตอกย้ำความต่างของเพื่อนสาวเธอและชายหนุ่มให้มีนชญาได้ยินอีกรอบเพราะมันคือเรื่องจริงชายหนุ่มช่างเป็นคนเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วแต่เพื่อนเธอนี่สิแค่เดินธรรมดายังไม่เป็นระเบียบเลยเธอแอบคิดอยู่ในใจเหมือนกันว่าถ้าสองคนนี้มาบรรจบกันได้คงจะเป็นเรื่องที่อัศจรรย์น่าดู
21.00 น
“โหย..ทำไมโปรไฟล์ถึงได้ดีขนาดนี้ล่ะเนี่ย..สมองของเค้าทำด้วยอะไรกันนะ” มีนชญานั่งหาข้อมูลของชายหนุ่มอยู่พักใหญ่จากเจอกันแวบเดียวและรู้ประวัติคร่าวๆของเขาจากกอหญ้าก็ทำให้เธอนั้นอึ้งพอแล้วว่าเขาเป็นคนแบบไหน
แต่เมื่อยิ่งอ่านประวัติของเขาและผลงานที่ผ่านมาทำให้เธอนั้นยิ่งทึ่งในความเก่งของเขามากขึ้นไปอีกและสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอเห็นว่าเขานั้นเพอร์เฟคมากๆก็คือชายหนุ่มนั้นยังไม่มีครอบครัวนั่นเองอีกทั้งยังไม่เคยมีข่าวเสียหายอีกด้วย...ในสมองของหญิงสาวตอนนี้ทันบอกกับเธอว่าคนนี้นี่แหละที่เหมาะแก่การเป็นพ่อของลูกเธอมากที่สุด
“โปรไฟล์ดีขนาดนี้ทำไมยังไม่มีคนมาเป็นเจ้าของอีกนะ...หรือว่าเค้าเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน..หึ้ย!!!..หยุดคิดแบบนี้เดี๋ยวนี้ยัยมีนคนนี้เค้าเป็นว่าที่พ่อของลูกแกเชียวนะจะเป็นแบบนั้นไม่ได้...ดี..ในเมื่อยังไม่มีแฟนก็ดีเราจะได้ไม่บาป..คริๆ” มีนชญานอนกลิ้งนอนเกลือกอยู่บนที่นอนไปมาพร้อมพูดคนเดียวอย่างคนที่คิดไม่ตกและเธอเองก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่ายังไงเธอก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นมาเป็นพ่อของลูกเธอให้ได้
“อย่างแรกเราต้องหาทางเข้าไปใกล้ชิดกับเค้าให้ได้ก่อน...แล้วเราจะเริ่มยังไงดีล่ะ” มีนชญายังใช้สมองน้อยๆของเธอนั้นคิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีการอย่างไรเข้าใกล้เขาให้ได้มากที่สุดแต่มีวิธีหนึ่งที่เธอคิดว่าหยุดคิดไปได้เลยนั่นก็คือให้กอหญ้าช่วยเพราะถ้าหากกอหญ้ารู้ว่าเธออยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามีเพื่อนเธอไม่เห็นด้วยเป็นแน่และจะทำให้แผนเธอพังเสียเปล่าๆเธอคิดว่ายังต้องใช้เวลาคิดเรื่องนี้อีกสักพัก
เช้าวันต่อมา
07.00 น.
กริ๊งงงงงงงงงงงง
ปึก..ปัก
“อืมม...ฉันยังง่วงอยู่เลยเจ้านาฬิกาปลุก...ขออีกนิดนะ” เป็นแบบนี้แทบทุกเช้าที่มีนชญาจะทะเลาะกับนาฬิกาปลุกเพราะเธอไม่สามารถที่จะตื่นเลยได้จนเป็นนิสัยนั่นเองด้วยความที่ง่วงเธอเลยเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงและคิดว่าจะนอนต่ออีกสักนิด
2 ชั่วโมงต่อมา
“เฮ้ยยย...ต้องไปดูบ้านนี่นา..หลับไปนานแค่ไหนแล้วเนี่ย” มีนชญาสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเหมือนสปริงเพราะเธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้นั้นเธอได้นัดกับเจ้าของบ้านที่เธอจะซื้อที่ต่างจังหวัดในตอนบ่ายเมื่อดูนาฬิกาเธอถึงกับต้องลุกลี้ลุกลนไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบพุ่งตัวออกจากบ้านทันทีเพราะถ้าเธอไม่รีบออกไปตอนนี้มีหวังไม่ทันนัดเป็นแน่
4ชั่วโมงต่อมา
มีนชญามาเลยเวลานัดนิดหน่อยแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาเธอถูกใจตั้งแต่หลังแรกที่ดูมันไม่ได้ใหญ่มากและเล็กมากแต่มันเป็นบ้านที่ทันสมัยสวยงามห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าของบ้านหลังนี้ตัดสินใจขายมันทั้งๆที่มันก็ยังดูใหม่อยู่เลยแถมภายในยังตกแต่งด้วยของแพงๆทั้งนั้น
“ฉันชอบบ้านหลังนี้ตกลงซื้อเลยนะคะ” มีนชญาตกลงซื้อบ้านหลังนี้ทั้งที่พึ่งจะดูเพียงหลังแรกหญิงสาวเป็นคนที่ง่ายๆถ้าถูกใจอันไหนเธอก็เอาอันนั้นไม่อยากเลือกหรือเปรียบเทียบให้มันปวดสมอง
“เอ่อ...คุณไม่ดูหลังอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเหรอครับ” ชายหนุ่มที่เป็นนายหน้าขายบ้านยังรู้สึกตกใจเมื่อเธอพึ่งดูแค่หลังแรกก็ตัดสินใจซื้อเสียแล้วเขาก็พึ่งเคยเห็นคนที่ตัดสินใจเร็วปานสายฟ้าแลบก็วันนี้พร้อมถามย้ำให้เธอแน่ใจว่าเธอนั้นจะไม่ดูหลังอื่นก่อนตัดสินใจหรืออย่างไร
“ไม่ค่ะฉันชอบหลังนี้เท่าไรคะเดี๋ยวฉันจ่ายเลย”
“เอ่อ...งั้นเชิญทางนี้ครับ”
มีนชญายังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอตกลงจะซื้อบ้านหลังนี้พร้อมทั้งยังถามราคาคนตรงหน้าอีกด้วยเพราะเธอนั้นจะซื้อไว้และจ่ายเลยจะได้ไม่เสียเวลาหลายรอบด้วยเธอเองยังมีภารกิจที่จะต้องไปทำเพื่อชีวิตของเธออีก
ชายหนุ่มนายหน้าที่ขายบ้านเห็นว่าหญิงสาวท่าทางจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วเขาจึงพาเธอมาตกลงเรื่องราคาที่ออฟฟิศอีกทีและเซ็นสัญญาโอนเงินเรียบร้อยภายในเวลาไม่นานเท่าไรนักเพราะหญิงสาวจ่ายสดนั่นเอง
“อืม..ทำไมเจ้าของบ้านหลังนี้ถึงขายถูกจังล่ะคะ” เมื่อจัดการเอกสารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วมีนชญายังแปลกใจกับราคาบ้านอยู่เลยตอนแรกเธอคิดว่ามันน่าจะเกินยี่สิบล้านด้วยซ้ำแต่เธอกลับจ่ายไปแค่ห้าล้านกว่าๆเท่านั้นถูกเสียจนเธอตกใจและต้องถามคนเป็นนายหน้าว่าทำไมเจ้าของบ้านถึงขายถูกขนาดนี้
“อ๋อ...ท่านไม่ค่อยได้มาอยู่น่ะครับเลยปล่อยขายในราคาย่อมเยาอีกอย่างเงินที่ได้ท่านก็แบ่งไปทำบุญด้วยนะครับ” ชายหนุ่มที่เป็นนายหน้ามองหญิงสาวพร้อมยิ้มให้เธอและบอกว่าที่มันถูกก็เพราะเจ้าของบ้านนั้นไม่ค่อยได้มาอยู่เลยตัดสินใจขายและเงินที่ได้เขาก็ให้เอาไปทำบุญ“อ๋อ...ค่ะเจ้าของบ้านเค้าใจดีจังเลยนะคะ” มีนชญานับถือในน้ำใจของเจ้าของบ้านหลังนี้เสียจริงแต่เธอนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อว่าเขานั้นเป็นใครอยู่ที่ไหนเพราะเธอรู้มาว่าชื่อในใบที่ดินและชื่อเจ้าของบ้านเป็นของคนไทยแต่เจ้าของที่แท้จริงน่าจะเป็นต่างชาติเธอก็ไม่ได้ใส่ใจถามเหมือนกันว่าเขานั้นชื่ออะไรในเมื่อตอนนี้มันเป็นของเธอแล้วเธอก็จะจำแค่เธอเป็นเจ้าของบ้านก็พอ19.00 น.กว่ามีนชญาจะกลับมาบ้านก็เป็นเวลาเย็นพอดีตอนนี้ท้องของหญิงสาวก็เริ่มที่จะร้องขึ้นอีกแล้วความหิวของเธอตอนนี้มันอยู่ที่ระดับสิบเพราะทั้งเพลียทั้งหิวบวกกันนั่นเองหญิงสาวจำต้องเดินออกจากบ้านไปนั่งที่ร้านเดิม“เฮ้อเหนื่อยจังเลย...ป้าคะผัดไทยกุ้งสดจานนึงค่ะ” เมื่อสั่งผัดไทยกุ้งสดเมนูเดิมที่ร้านประจำมันก็พาให้เธอนั้นคิดวนไปเรื่องเดิมๆอีกก็คือวันวานที่เคยนั่งทานอยู่กับแม่ของเธอแต่ต
3 ชั่วโมงต่อมาห้างสรรพสินค้า“ถึงแล้ว...วันนี้แม่จะช้อปให้สะใจไปเลยงบสี่พันพอเนอะ” เมื่อลงจากแท็กซี่มีนชญาก็มองไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่ว่ากันว่าที่นี่มีแต่คนมีเงินเดินเธอเองคิดว่าวันนี้จะใช้เงินช้อปปิ้งไร้สาระที่เยอะที่สุดในชีวิตที่เคยใช้มาจำนวนสี่พันบาทนั่นเองถึงเงินแค่นี้ในการช้อปปิ้งของเธอคนอื่นจะมองว่าน้อยแต่เธอนั้นโคตรเสียดายมันสุดๆกับการช้อปปิ้งไร้สาระกับเงินสี่พันแต่อีกใจหญิงสาวก็บอกกับตัวเองว่าถือเป็นการให้ความสุขกับตัวเธอเองสักวันก็แล้วกัน“คู่ไหนดีน้า” มีนชญาเข้ามาในร้านรองเท้าแบรนด์หนึ่งซึ่งเงินที่เธอจำกัดวันนี้ก็น่าจะเอื้อมถึงเพราะเธอดูจากราคาแล้วเธอนั้นซื้อได้แถมเงินที่จำกัดมาสี่พันยังเหลือด้วย“หืมม...สวยทั้งคู่เลย...สีเงิน..สีชมพู..สีเงิน...สีชมพู..อืมม..สีเงินดีกว่า...ฉันเอาสีเงินเบอร์37คู่นึงค่ะ”มีนชญากำลังตัดสินใจเลือกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วหัวแหลมราคาคู่ละ2500บาทเธอกำลังชั่งใจอยู่ว่าเธอนั้นจะซื้อสีเงินหรือสีชมพูดีหญิงสาวนึกถึงชุดที่เธอจะใส่คืนนี้มันเป็นสีชมพูอ่อนหากเธอเลือกสีชมพูไปมันก็จะชมพูทั้งชุดเธอจึงคิดว่าเอาสีเงินจะดีกว่าจึงบอกพนักงานว่าเธอรับคู่สีเงินเบ
5 นาทีต่อมา“เอ๋..มือถือล่ะ...หรือว่า..โอ้ยแกนี่มันจริงๆเลยยัยมีน”หลังจากที่เดินออกจากร้านหนังสือมาสักพักมีนชญาก็กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วแต่เมื่อล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอกลับไม่เจอพอนึกไปนึกมาเธอคิดว่าจะเป็นช่วงที่เธอจ่ายเงินค่าหนังสือแล้วทำหล่นแน่เลยเธอชอบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำหญิงสาวเตือนตัวเองหลายรอบแล้วว่าอย่าเอามือถือใส่รวมกับเงินแต่ก็ลืมทุกทีตอนนี้เธอก็ทำได้แต่วิ่งหลับไปที่ร้านหนังสือดังเดิมเพื่อที่จะไปตามมือถือของเธอคืนนั่นเอง“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่ามีคนเจอมือถือเครื่องสีชมพูที่ใส่เคสยูนิคอร์นบ้างหรือเปล่าคะ”มีนชญาวิ่งพุ่งตรงมาที่เคาเตอร์สอบถามพนักงานเรื่องมือถือของเธอทันทีเพราะคิดว่าหากมีคนเก็บได้ในร้านก็คงจะเอามาฝากที่พนักงานเป็นแน่หรืออีกอย่างก็คือเอาไปเลยอันนั้นมันก็เป็นความซวยของเธอแล้วหละถึงแม้เธอจะมีเงินซื้อใหม่แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องที่แม่ของเธอซื้อให้ก่อนท่านจะเสียนั่นเอง“เครื่องนี้ใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ...ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” หลังจากที่ใจไม่ดีอยู่นานมีนชญาก็โล่งใจเพราะพนักงานหยิบมือถือของเธอขึ้นมาจากหลังเคาเตอร์พร้
แน็ทตี้ต้องรีบปรามทั้งสองว่าห้ามเรียกชื่อนี้ของเธอได้แล้วเพราะเธอนั้นไปเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนชื่อมาเรียบร้อยแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาเรียกชื่อเดิมของเธออีกเพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงสมใจแล้วเพียงแต่ไม่มีมดลูกและเสียงที่ยังแอบห้าวอยู่“อะ...เอ่อ..โอเค..ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าแก” กอหญ้าเห็นว่าในนี้คนมันค่อนข้างพลุกพล่านและเสียงดนตรีมันก็ดังเลยชวนทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ที่มันส่วนตัวกว่านี้จะดีกว่า“อย่าบอกนะที่แกหายไปเรียนเมืองนอกแกไปแปลงเพศมา” เมื่อออกมาถึงจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในด้านนอกของโรงแรมแล้วกอหญ้าก็ถือโอกาสถามแน็ทตี้ทันทีว่าที่หายหน้าหายตาไปหลังจากเรียนจบม.ปลายเพื่อนของเธอไปเก็บตัวแปลงเพศทำหน้าใหม่มาทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช่หรือไม่“ก็ใช่น่ะสิมันเป็นความฝันของฉันเลยพวกแกก็รู้” แน็ตตี้ตอบด้วยความภาคภูมิใจเพราะเขานั้นเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากจบม.ปลายแล้วความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากไปเรียนเมืองนอกเมืองนาสักเท่าไรหรอกเพียงแต่ป๊าของเขานั้นเสนอว่าหากยอมไปเรียนแต่โดยดีป๊าของเขาจะยอมตามใจทุกอย่างเลยทำให้เขาต้องไปเรียนเมืองนอกแลกกับการแปลงเพศอัพอึ๋มอัพหน้าใหม
“อะ...เอ่อ...สองล้าน...อะ..อืมช่วยก็ได้นี่ฉันเห็นว่าแกอยากจะมีความสุขหรอกนะถึงยอมช่วย” แน็ทตี้ถึงกับตาลุกวาวเมื่อเพื่อนของเขาใจปล้ำยอมจ่ายเงินให้เขาเป็นหลักล้านแบบนี้เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอและยิ่งได้ฟังที่เพื่อนสาวของเธอพูดเรื่องไปทำหน้าใหม่ในหัวของเขาตอนนี้จินตนาการใบหน้าของเขาที่มันจะเหมือนนางเอกหนังฮอลลีวูดไปไกลแล้วพร้อมตอบตกลงเพื่อนของเขาทันทีเอาเรื่องทำสวยมาล่อแบบนี้แน็ทตี้สู้ตายเลยจ้า“ขอบใจจ้า..เพื่อนเลิฟ...เริ่มได้เมื่อไรอะ” มีนชญายิ้มอย่างภูมิใจที่แผนการของเธอสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้นตอนนี้เธอมีตัวช่วยแล้วเหลือก็แต่วันที่เธอพร้อมปฏิบัติการจริงก็เท่านั้นพร้อมถามเพื่อนของเธอด้วยใบหน้าที่มีความหวังว่าเธอสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับโดมินิคได้เมื่อไร“คงอีกสามเดือนขางหน้าเพราะตอนนี้บอสฉันเค้าเตรียมตัวกลับอิตาลีแล้วต้องไปดูงานทางโน้นต่อ...แกรออีกหน่อยก็แล้วกันนะแต่เงินจ่ายก่อน”“รู้แล้วน่า...สามเดือนเลยเหรอ..อืมม..รอก็รอ” คำตอบของแน็ทตี้ทำให้มีนชญาหน้าห่อเหี่ยวลงในทันทีเมื่อพึ่งจะรู้ข่าวจากปากแน็ทตี้ว่าชายหนุ่มที่เป็นเป้าหมายของเธอนั้นจะบินกลับไปอิตาลีตั้งสามเดือนแต่จะให้ทำอย่างไรได้เธอก
3 เดือนผ่านไปไวเหมือนในนิยายเขาใหญ่มีนชญาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ส่งให้ลูกค้าหญิงสาวเพิ่งจะเปิดร้านได้สองเดือนกว่าๆแต่เมื่อทำการตลาดออนไลน์ไปด้วยตอนนี้เลยเริ่มมีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งฝีมือของหญิงสาวก็เป็นที่บอกต่อกันอีกด้วยรูปแบบการจัดก็แปลกตาไปจากร้านอื่นอยู่มากราคาก็ย่อมเยานับว่าการเปิดร้านครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของเธออย่างมากอีกหนึ่งเรื่องตอนนี้เธอพึ่งจะรับลูกจ้างมาอีกสองคนเพราะทำคนเดียวคงไม่ทันอีกอย่างอนาคตเธอก็ต้องรับอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดไว้คือเธอก็คงจะต้องดูแลลูกน้อยอีกเลยรับเสียตอนนี้เลยจะดีกว่าRrrrrrrrrr“ว่าไงแน็ทตี้ฉันกำลังจัดดอกไม้ส่งลูกค้าอยู่มีไรพูดมาด่วน” ในขณะที่มีนชญายุ่งๆอยู่นั้นก็มีสายจากแน็ทตี้เพื่อนของเธอโทรเข้ามาหญิงสาวจึงกดรับทันทีพร้อมเอียงคอแนบมือถือไว้ระหว่างหูและไหล่เพราะมือทั้งสองยังต้องหยิบจับจัดช่อดอกไม้หญิงสาวจึงรีบให้เพื่อนของเธอคุยมาว่ามีอะไรเพราะถ้าไม่สำคัญมันก็คงจะรบกวนเวลาเธออย่างมาก“บอสฉันกำลังกลับมาแล้วด่วนพอไหมข่าวนี้”“หา...เอ่อ...ด่วนมาก...งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาแกเลย” จากเสียงปลายสายบอกข่าวดีทำให้หญิงสาวต้องละมือจา
“อ้อ...แล้วเรื่องอาหารแกทำอาหารอิตาเลี่ยนเป็นบ้างหรือเปล่า” แน็ทตี้นึกขึ้นได้ว่าส่วนมากเจ้านายหนุ่มของเขานั้นจะชอบทานอาหารบ้านเกิดตัวเองเสียมากกว่าเพราะฉะนั้นเขาจะต้องถามเพื่อนสาวของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนสาวของเขานั้นสามารถทำได้ทุกอย่างตามมาตรฐานของแม่บ้านของบ้านนี้ต้องทำได้“เอ่อ...ไม่เป็นอะแฮร่ๆๆ....แต่ว่าฉันเป็นคนเรียนรู้ได้เร็วฉันดูจากกูเกิลเอาก็ได้” มีนชญาตอบกลับเพื่อนของเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแหยๆนิดหน่อยเธอไม่เคยทำอาหารอิตาเลี่ยนเลยสักครั้งแต่ถ้าศึกษาเธอคิดว่าเธอก็น่าจะทำได้เพราะเดี๋ยวนี้สื่อการสอนมันหาง่ายจะตายไปแต่เรื่องรสชาติก็ต้องว่ากันอีกทีแต่ถ้าไม่ได้จริงๆเธอก็คงต้องแอบซื้อ“จริงนะ...” แน็ทตี้ชักนึกทะแม่งๆในใจเสียแล้วว่างานนี้จะต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง“จริงสิ...เอาเป็นว่าเรื่องอาหารแกไว้ใจฉันได้” มีนชญาหันมายิ้มให้แน็ทตี้นั้นสบายใจได้เรื่องอาหารเธอคิดว่าเธอจัดการได้ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง“อืมม...แล้วตามพื้นและยิ่งโต๊ะอาหารนี่ห้ามมีฝุ่นเลยนะ” แน็ทตี้พาเพื่อนสาวของเขาเดินไปรอบๆบ้านพร้อมอธิบายว่าในแต่ละส่วนของบ้านเธอนั้นต้องทำอะไรจัดการ
สนามบิน“ชอวที่บ้านนาตาลีจัดการเรียบร้อยใช่ไหม” โดมินิคกำลังนั่งรถตู้คันหรูออกจากสนามบินตอนนี้เขารู้สึกเพลียมากอยากจะนอนพักเขาทำงานเสร็จจากที่โน่นก็ขึ้นเครื่องมาที่ไทยทันทีเพราะว่าต้องกลับมาดูงานให้ทันกำหนดและร่วมประชุมใหญ่ในอีกสองวันข้างหน้าอีกด้วย“ใช่ครับที่บ้านพักโอเคทุกอย่างแล้วครับและนาตาลีก็พาแม่บ้านเข้ามาวันนี้ด้วยครับ” ชอวรายงานกับเจ้านายหนุ่มของเขาว่าที่บ้านตอนนี้เรียบร้อยดีตามกำหนดทุกอย่างและตอนนี้แน็ทตี้กำลังรออยู่ที่บ้านพร้อมกับแม่บ้านคนใหม่แล้วด้วย“โอเค...หวังว่าแน็ทตี้คงเทรนงานมาดีแล้วนะ” โดมินิคคิดว่าแม่บ้านคนใหม่ที่ผ่านการคัดเลือกมาจากแน็ทตี้ก็คงจะทำงานได้ดีไม่มีปัญหาเขาจึงเบาใจว่ามีคนคอยดูแลบ้านและตัวของเขาแล้ว40 นาทีต่อมา“บอสมาแล้ว” แน็ทตี้เห็นว่ามีรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านแล้วเขาจึงรีบบอกกับมีนชญาว่าเจ้านายหนุ่มของเขามาถึงแล้วให้เพื่อนของเขาลุกขึ้นเตรียมตัวต้อนรับมีนชญาจับตามองที่รถลงคันหรูที่กำลังจอดอยู่หน้าบ้านเธอเห็นว่ามีผู้ชายร่างสูงใส่สูทสีดำลงมาจากหน้ารถพร้อมเดินมายืนข้างๆรถตู้ฝั่งที่ประตูกำลังเลื่อนเปิดเธอเห็นว่าคนที่กำลังจะลงมาจากรถนั้นคือผู้ชา