3 ชั่วโมงต่อมา
ห้างสรรพสินค้า
“ถึงแล้ว...วันนี้แม่จะช้อปให้สะใจไปเลยงบสี่พันพอเนอะ” เมื่อลงจากแท็กซี่มีนชญาก็มองไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่ว่ากันว่าที่นี่มีแต่คนมีเงินเดินเธอเองคิดว่าวันนี้จะใช้เงินช้อปปิ้งไร้สาระที่เยอะที่สุดในชีวิตที่เคยใช้มาจำนวนสี่พันบาทนั่นเอง
ถึงเงินแค่นี้ในการช้อปปิ้งของเธอคนอื่นจะมองว่าน้อยแต่เธอนั้นโคตรเสียดายมันสุดๆกับการช้อปปิ้งไร้สาระกับเงินสี่พันแต่อีกใจหญิงสาวก็บอกกับตัวเองว่าถือเป็นการให้ความสุขกับตัวเธอเองสักวันก็แล้วกัน
“คู่ไหนดีน้า” มีนชญาเข้ามาในร้านรองเท้าแบรนด์หนึ่งซึ่งเงินที่เธอจำกัดวันนี้ก็น่าจะเอื้อมถึงเพราะเธอดูจากราคาแล้วเธอนั้นซื้อได้แถมเงินที่จำกัดมาสี่พันยังเหลือด้วย
“หืมม...สวยทั้งคู่เลย...สีเงิน..สีชมพู..สีเงิน...สีชมพู..อืมม..สีเงินดีกว่า...ฉันเอาสีเงินเบอร์37คู่นึงค่ะ”
มีนชญากำลังตัดสินใจเลือกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วหัวแหลมราคาคู่ละ2500บาทเธอกำลังชั่งใจอยู่ว่าเธอนั้นจะซื้อสีเงินหรือสีชมพูดีหญิงสาวนึกถึงชุดที่เธอจะใส่คืนนี้มันเป็นสีชมพูอ่อนหากเธอเลือกสีชมพูไปมันก็จะชมพูทั้งชุดเธอจึงคิดว่าเอาสีเงินจะดีกว่าจึงบอกพนักงานว่าเธอรับคู่สีเงินเบอร์37พร้อมเดินไปที่เคาเตอร์รอพนักงงานหยิบรองเท้ามาให้และจ่ายเงินทันทีพร้อมเดินออกไปหาซื้อของอย่างอื่นต่อเพราะเงินเธอยังเหลืออีกตั้ง1500บาทนั่นเอง
“ร้านหนังสือนี่นา” มีนชญาเดินเข้ามาในร้านหนังสือแห่งหนึ่งที่นี่ค่อนข้างใหญ่คนที่เดินเลือกซื้อเลยไม่ต้องเบียดกันมากเธอคิดว่าที่นี่ต้องมีหนังสือเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นแม่แน่นอน
“ที่นี่มีหนังสือเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นแม่ไหมคะ”
“งั้นตามดิฉันมาที่โซนสุขภาพเลยค่ะ”
เมื่อมีนชญาเดินเข้าไปถามพนักงานในร้านเกี่ยวกับหนังสือที่เธออยากจะได้พนักงานก็พาเธอมาที่โซนหนังสือที่เกี่ยวกับสุขภาพทันที
“นี่ค่ะเป็นหนังสือเตรียมตัวสำหรับการดูแลตัวเองก่อนเป็นคุณแม่และอีกเล่มเป็นหนังสือของคุณแม่มือใหม่ค่ะ”
“ฉันเอาสองเล่มนี้ค่ะ” พนักงานสาวหยิบหนังสือทั้งสองเล่มมาแนะนำให้กับมีนชญาหญิงสาวเห็นว่าทั้งสองเล่มนี้น่าจะมีประโยชน์กับเธอทั้งคู่ก็เลยเลือกที่จะซื้อมันทั้งสองเล่มเลย
“ได้ค่ะ...เรายังมีหนังสือเกี่ยวกับคุณพ่อมือใหม่ด้วยนะคะคุณผู้หญิงสนใจรับไปให้สามีของคุณอ่านไหมคะ”
“อ๋อ...เอ่อ..สามีฉันเค้าเก่งทุกด้านอยู่แล้วค่ะแล้วเรื่องพวกนี้เค้าก็ศึกษามาหมดแล้วเค้ายังแนะนำฉันเลยนะคะว่าถ้าอยากรู้อะไรก็ให้มาซื้อหนังสืออ่าน” หลังจากที่มีนชญานั้นเลือกหนังสือได้แล้วพนักงานสาวยังไม่หยุดที่จะเพิ่มยอดขายโดยการขายหนังสือเกี่ยวกับคุณพ่อมือใหม่ให้เธอในใจหญิงสาวนั้นถ้าเธอมีสามีจริงๆเธอก็คงจะซื้อให้สามีเธออ่านอยู่หรอกแต่นี่มันยังไม่มีแต่จะบอกกับพนักงานไปพนักงานสาวก็คงจะมองเธอแปลกๆเพราะมาหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ก็คงจะมีแต่คนที่มีสามีแล้วเท่านั้นที่จะทำ
มีนชญาจึงรีบบอกปัดไปว่าสามีของเธอนั้นเก่งไปรอบด้านอยู่แล้วซึ่งมันก็น่าจะเป็นเรื่องจริงเพราะเธอเคยอ่านข่าวผลงานของเขามานักต่อนักแล้วและที่เธอบอกกับพนักงานว่าสามีเธอเป็นคนแนะนำเธอว่าถ้าอยากรู้เรื่องอะไรให้หาหนังสืออ่านนั่นก็เป็นอีกบทสัมภาษณ์ของโดมินิคที่เธอเลือกให้เป็นพ่อของลูกเธอนั่นเอง
“สามีคุณผู้หญิงน่ารักจังเลยนะคะ...ถ้ามีลูกคงเป็นครอบครัวที่อบอุ่นแน่นอนเลยค่ะ”
“อ๋อ..ค่ะคงเป็นแบบนั้นแหละค่ะ” มีนชญายิ้มแหยๆเล็กน้อยรับคำชมของพนักงานสาวครอบครัวที่อบอุ่นเหรอในหัวของเธอมันไม่มีสามีของเธออยู่ในนั้นล่ะสิเธอแค่ให้เขาเป็นพ่อของลูกเธอเท่านั้นครอบครัวที่อบอุ่นในหัวเธอตอนนี้คือใช้ชีวิตกับลูกสองคนอย่างมีความสุขแค่นั้นเอง
“หึ่ม.” โดมินิคที่กำลังยืนอ่านหนังสืออยู่อีกฝั่งของโซนสุขภาพสบถในลำคออมยิ้มเล็กน้อยเขาบังเอิญยืนอยู่ตรงข้ามกับสองสาวที่กำลังสนทนากันอยู่พอดีเพียงแต่มีแผงกั้นหนังสือกั้นเอาไว้แค่นั้นเอง
ชายหนุ่มที่กำลังเลือกหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพอยู่นั้นเขาไม่ได้อยากจะเสียมารยาทแอบฟังแต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดของหญิงสาวที่พูดว่าสามีของเธอบอกกับเธอว่าถ้าอยากรู้เรื่องอะไรก็ให้ไปหาหนังสืออ่าน
เขาคิดว่าสามีของผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นคนที่เหมือนเขาจริงๆเพราะเขาจะแนะนำกับทุกคนอยู่เสมอว่าถ้าเราอยากจะรู้อะไรสิ่งที่ง่ายที่สุดคือการอ่านนั่นเองไม่ว่าจะเป็นจากอินเตอร์เน็ตหรือหนังสือแต่ที่เขาชอบมากๆก็คือการอ่านหนังสือนั่นเอง
“เรียบร้อยค่ะคุณผู้หญิง”
“ขอบคุณค่ะ” มีนชญาจ่ายเงินค่าหนังสือทั้งสองเล่มเรียบร้อยแล้วเธอก็กะว่าจะไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตเสียหน่อยเพื่อที่จะซื้อพวกผลไม้ไว้ในตู้เย็นที่บ้านแม่เธอคอยบอกเสมอว่าให้เธอนั้นทานอาหารให้ครบและหลากหลายสุขภาพจะได้แข็งแรงและฉลาด
เธอทานตามที่แม่ของเธอบอกเป็นประจำจนแม่เธอเสียไปเธอก็ยังทานอาหารเหมือนที่แม่เธอซื้อให้เป็นประจำอยู่แต่เธอเชื่อว่าร่างกายแข็งแรงจริงแต่เรื่องฉลาดเธอไม่เห็นว่าอาการฉลาดของเธอมันจะเพิ่มขึ้นเลยสักนิดหญิงสาวคิดในใจว่าหรือว่าเธอจะฉลาดได้มากสุดเท่านี้กันนะ
“เอ่อ...คุณครับผมเห็นมือถือเครื่องนี้ตกอยู่ที่หน้าเคาเตอร์”
“อ๋อ...คงจะเป็นของคุณผู้หญิงคนเมื่อกี้แน่เลยขอบคุณนะคะ”
โดมินิคกำลังเดินถือหนังสือสามสี่เล่มเพื่อที่จะมาจ่ายเงินที่เคาเตอร์แต่เขาสังเกตเห็นว่ามีมือถือที่ใส่เคสสีชมพูหวานเป็นรูปยูนิคอร์นตกอยู่จึงหยิบขึ้นมาให้พนักงานเพราะคิดว่าลูกค้าคนที่คิดเงินก่อนหน้าที่เขาจะเดินมาคงทำหล่นไว้และจ่ายเงินพร้อมเดินออกไปทันที
5 นาทีต่อมา“เอ๋..มือถือล่ะ...หรือว่า..โอ้ยแกนี่มันจริงๆเลยยัยมีน”หลังจากที่เดินออกจากร้านหนังสือมาสักพักมีนชญาก็กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วแต่เมื่อล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอกลับไม่เจอพอนึกไปนึกมาเธอคิดว่าจะเป็นช่วงที่เธอจ่ายเงินค่าหนังสือแล้วทำหล่นแน่เลยเธอชอบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำหญิงสาวเตือนตัวเองหลายรอบแล้วว่าอย่าเอามือถือใส่รวมกับเงินแต่ก็ลืมทุกทีตอนนี้เธอก็ทำได้แต่วิ่งหลับไปที่ร้านหนังสือดังเดิมเพื่อที่จะไปตามมือถือของเธอคืนนั่นเอง“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่ามีคนเจอมือถือเครื่องสีชมพูที่ใส่เคสยูนิคอร์นบ้างหรือเปล่าคะ”มีนชญาวิ่งพุ่งตรงมาที่เคาเตอร์สอบถามพนักงานเรื่องมือถือของเธอทันทีเพราะคิดว่าหากมีคนเก็บได้ในร้านก็คงจะเอามาฝากที่พนักงานเป็นแน่หรืออีกอย่างก็คือเอาไปเลยอันนั้นมันก็เป็นความซวยของเธอแล้วหละถึงแม้เธอจะมีเงินซื้อใหม่แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องที่แม่ของเธอซื้อให้ก่อนท่านจะเสียนั่นเอง“เครื่องนี้ใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ...ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” หลังจากที่ใจไม่ดีอยู่นานมีนชญาก็โล่งใจเพราะพนักงานหยิบมือถือของเธอขึ้นมาจากหลังเคาเตอร์พร้
แน็ทตี้ต้องรีบปรามทั้งสองว่าห้ามเรียกชื่อนี้ของเธอได้แล้วเพราะเธอนั้นไปเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนชื่อมาเรียบร้อยแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาเรียกชื่อเดิมของเธออีกเพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงสมใจแล้วเพียงแต่ไม่มีมดลูกและเสียงที่ยังแอบห้าวอยู่“อะ...เอ่อ..โอเค..ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าแก” กอหญ้าเห็นว่าในนี้คนมันค่อนข้างพลุกพล่านและเสียงดนตรีมันก็ดังเลยชวนทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ที่มันส่วนตัวกว่านี้จะดีกว่า“อย่าบอกนะที่แกหายไปเรียนเมืองนอกแกไปแปลงเพศมา” เมื่อออกมาถึงจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในด้านนอกของโรงแรมแล้วกอหญ้าก็ถือโอกาสถามแน็ทตี้ทันทีว่าที่หายหน้าหายตาไปหลังจากเรียนจบม.ปลายเพื่อนของเธอไปเก็บตัวแปลงเพศทำหน้าใหม่มาทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช่หรือไม่“ก็ใช่น่ะสิมันเป็นความฝันของฉันเลยพวกแกก็รู้” แน็ตตี้ตอบด้วยความภาคภูมิใจเพราะเขานั้นเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากจบม.ปลายแล้วความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากไปเรียนเมืองนอกเมืองนาสักเท่าไรหรอกเพียงแต่ป๊าของเขานั้นเสนอว่าหากยอมไปเรียนแต่โดยดีป๊าของเขาจะยอมตามใจทุกอย่างเลยทำให้เขาต้องไปเรียนเมืองนอกแลกกับการแปลงเพศอัพอึ๋มอัพหน้าใหม
“อะ...เอ่อ...สองล้าน...อะ..อืมช่วยก็ได้นี่ฉันเห็นว่าแกอยากจะมีความสุขหรอกนะถึงยอมช่วย” แน็ทตี้ถึงกับตาลุกวาวเมื่อเพื่อนของเขาใจปล้ำยอมจ่ายเงินให้เขาเป็นหลักล้านแบบนี้เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอและยิ่งได้ฟังที่เพื่อนสาวของเธอพูดเรื่องไปทำหน้าใหม่ในหัวของเขาตอนนี้จินตนาการใบหน้าของเขาที่มันจะเหมือนนางเอกหนังฮอลลีวูดไปไกลแล้วพร้อมตอบตกลงเพื่อนของเขาทันทีเอาเรื่องทำสวยมาล่อแบบนี้แน็ทตี้สู้ตายเลยจ้า“ขอบใจจ้า..เพื่อนเลิฟ...เริ่มได้เมื่อไรอะ” มีนชญายิ้มอย่างภูมิใจที่แผนการของเธอสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้นตอนนี้เธอมีตัวช่วยแล้วเหลือก็แต่วันที่เธอพร้อมปฏิบัติการจริงก็เท่านั้นพร้อมถามเพื่อนของเธอด้วยใบหน้าที่มีความหวังว่าเธอสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับโดมินิคได้เมื่อไร“คงอีกสามเดือนขางหน้าเพราะตอนนี้บอสฉันเค้าเตรียมตัวกลับอิตาลีแล้วต้องไปดูงานทางโน้นต่อ...แกรออีกหน่อยก็แล้วกันนะแต่เงินจ่ายก่อน”“รู้แล้วน่า...สามเดือนเลยเหรอ..อืมม..รอก็รอ” คำตอบของแน็ทตี้ทำให้มีนชญาหน้าห่อเหี่ยวลงในทันทีเมื่อพึ่งจะรู้ข่าวจากปากแน็ทตี้ว่าชายหนุ่มที่เป็นเป้าหมายของเธอนั้นจะบินกลับไปอิตาลีตั้งสามเดือนแต่จะให้ทำอย่างไรได้เธอก
3 เดือนผ่านไปไวเหมือนในนิยายเขาใหญ่มีนชญาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ส่งให้ลูกค้าหญิงสาวเพิ่งจะเปิดร้านได้สองเดือนกว่าๆแต่เมื่อทำการตลาดออนไลน์ไปด้วยตอนนี้เลยเริ่มมีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งฝีมือของหญิงสาวก็เป็นที่บอกต่อกันอีกด้วยรูปแบบการจัดก็แปลกตาไปจากร้านอื่นอยู่มากราคาก็ย่อมเยานับว่าการเปิดร้านครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของเธออย่างมากอีกหนึ่งเรื่องตอนนี้เธอพึ่งจะรับลูกจ้างมาอีกสองคนเพราะทำคนเดียวคงไม่ทันอีกอย่างอนาคตเธอก็ต้องรับอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดไว้คือเธอก็คงจะต้องดูแลลูกน้อยอีกเลยรับเสียตอนนี้เลยจะดีกว่าRrrrrrrrrr“ว่าไงแน็ทตี้ฉันกำลังจัดดอกไม้ส่งลูกค้าอยู่มีไรพูดมาด่วน” ในขณะที่มีนชญายุ่งๆอยู่นั้นก็มีสายจากแน็ทตี้เพื่อนของเธอโทรเข้ามาหญิงสาวจึงกดรับทันทีพร้อมเอียงคอแนบมือถือไว้ระหว่างหูและไหล่เพราะมือทั้งสองยังต้องหยิบจับจัดช่อดอกไม้หญิงสาวจึงรีบให้เพื่อนของเธอคุยมาว่ามีอะไรเพราะถ้าไม่สำคัญมันก็คงจะรบกวนเวลาเธออย่างมาก“บอสฉันกำลังกลับมาแล้วด่วนพอไหมข่าวนี้”“หา...เอ่อ...ด่วนมาก...งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาแกเลย” จากเสียงปลายสายบอกข่าวดีทำให้หญิงสาวต้องละมือจา
“อ้อ...แล้วเรื่องอาหารแกทำอาหารอิตาเลี่ยนเป็นบ้างหรือเปล่า” แน็ทตี้นึกขึ้นได้ว่าส่วนมากเจ้านายหนุ่มของเขานั้นจะชอบทานอาหารบ้านเกิดตัวเองเสียมากกว่าเพราะฉะนั้นเขาจะต้องถามเพื่อนสาวของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนสาวของเขานั้นสามารถทำได้ทุกอย่างตามมาตรฐานของแม่บ้านของบ้านนี้ต้องทำได้“เอ่อ...ไม่เป็นอะแฮร่ๆๆ....แต่ว่าฉันเป็นคนเรียนรู้ได้เร็วฉันดูจากกูเกิลเอาก็ได้” มีนชญาตอบกลับเพื่อนของเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแหยๆนิดหน่อยเธอไม่เคยทำอาหารอิตาเลี่ยนเลยสักครั้งแต่ถ้าศึกษาเธอคิดว่าเธอก็น่าจะทำได้เพราะเดี๋ยวนี้สื่อการสอนมันหาง่ายจะตายไปแต่เรื่องรสชาติก็ต้องว่ากันอีกทีแต่ถ้าไม่ได้จริงๆเธอก็คงต้องแอบซื้อ“จริงนะ...” แน็ทตี้ชักนึกทะแม่งๆในใจเสียแล้วว่างานนี้จะต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง“จริงสิ...เอาเป็นว่าเรื่องอาหารแกไว้ใจฉันได้” มีนชญาหันมายิ้มให้แน็ทตี้นั้นสบายใจได้เรื่องอาหารเธอคิดว่าเธอจัดการได้ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง“อืมม...แล้วตามพื้นและยิ่งโต๊ะอาหารนี่ห้ามมีฝุ่นเลยนะ” แน็ทตี้พาเพื่อนสาวของเขาเดินไปรอบๆบ้านพร้อมอธิบายว่าในแต่ละส่วนของบ้านเธอนั้นต้องทำอะไรจัดการ
สนามบิน“ชอวที่บ้านนาตาลีจัดการเรียบร้อยใช่ไหม” โดมินิคกำลังนั่งรถตู้คันหรูออกจากสนามบินตอนนี้เขารู้สึกเพลียมากอยากจะนอนพักเขาทำงานเสร็จจากที่โน่นก็ขึ้นเครื่องมาที่ไทยทันทีเพราะว่าต้องกลับมาดูงานให้ทันกำหนดและร่วมประชุมใหญ่ในอีกสองวันข้างหน้าอีกด้วย“ใช่ครับที่บ้านพักโอเคทุกอย่างแล้วครับและนาตาลีก็พาแม่บ้านเข้ามาวันนี้ด้วยครับ” ชอวรายงานกับเจ้านายหนุ่มของเขาว่าที่บ้านตอนนี้เรียบร้อยดีตามกำหนดทุกอย่างและตอนนี้แน็ทตี้กำลังรออยู่ที่บ้านพร้อมกับแม่บ้านคนใหม่แล้วด้วย“โอเค...หวังว่าแน็ทตี้คงเทรนงานมาดีแล้วนะ” โดมินิคคิดว่าแม่บ้านคนใหม่ที่ผ่านการคัดเลือกมาจากแน็ทตี้ก็คงจะทำงานได้ดีไม่มีปัญหาเขาจึงเบาใจว่ามีคนคอยดูแลบ้านและตัวของเขาแล้ว40 นาทีต่อมา“บอสมาแล้ว” แน็ทตี้เห็นว่ามีรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านแล้วเขาจึงรีบบอกกับมีนชญาว่าเจ้านายหนุ่มของเขามาถึงแล้วให้เพื่อนของเขาลุกขึ้นเตรียมตัวต้อนรับมีนชญาจับตามองที่รถลงคันหรูที่กำลังจอดอยู่หน้าบ้านเธอเห็นว่ามีผู้ชายร่างสูงใส่สูทสีดำลงมาจากหน้ารถพร้อมเดินมายืนข้างๆรถตู้ฝั่งที่ประตูกำลังเลื่อนเปิดเธอเห็นว่าคนที่กำลังจะลงมาจากรถนั้นคือผู้ชา
“แล้วแม่บ้านคุณไปหามาจากไหนเหรอ”“อ๋อ...เอ่อ..พอดีแน็ทตี้ลงรับสมัครในเว็บน่ะค่ะมีนเค้าก็เลยมาสมัครแล้วจากที่แน็ทตี้ให้เธอทดลองงานให้ดูเธอทำงานได้ดีเลยนะคะอีกอย่างตอนนี้เธอก็เหลือตัวคนเดียวและก็ตกงานแน็ทตี้ก็เลยให้เธอลองมาทำงานที่นี่น่ะค่ะ...บอสมีอะไรหรือเปล่าคะ”แน็ทตี้ปั้นหน้ายิ้มพร้อมพูดแถกับประธานหนุ่มให้เนียนและเหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะเนียนได้การที่เขานั้นทำงานที่นี่มานานเขาย่อมรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มของเขาเชื่อถือคำพูดแบบไหนนั่นเองและยิ่งการที่บอกกับเจ้านายหนุ่มของเขาว่าหญิงสาวนั้นเหลือตัวคนเดียวมันก็ยิ่งทำให้เจ้านายหนุ่มนึกสงสารหญิงสาวเพราะเธอรู้ว่าจุดอ่อนของคนตรงหน้าอยู่ตรงไหนนี่แหละคือความฉลาดที่เธอมีมาตั้งแต่เกิด“อะ..เอ่อ..เปล่าหรอก” โดมินิคนั้นคิดว่าแม่บ้านสาวคนที่จะมาทำงานที่บ้านของเขาเป็นคนรู้จักกับแน็ทตี้เสียอีกเพราะอายุทั้งคู่เท่ากันอีกอย่างท่าทางของทั้งคู่ก็ดูสนิทกันเกินกว่ารู้จักกันมาแค่ไม่กี่วันอีกต่างหากแต่เมื่อแน็ทตี้ยืนยันว่าเธอรับสมัครจากในเว็บเขาก็อุ่นใจและไม่ได้ติดใจจะถามอะไรต่อเพราะแน็ทตี้ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรจะต้องมาโกหกเขาท่าทางที่สนิทนั้นอาจจะเป็นเพราะทั้งคู่ว
“ครับ” ทั้งสองใช้เวลาอยู่ร่วมชั่งโมงในการเลือกซื้อของเมื่อมีนชญาเห็นว่าของที่จำเป็นน่าจะครบแล้วเธอจึงบอกให้ชอวพาเธอกลับทันทีเพราะมันก็ใกล้จะเที่ยงแล้วเธอเองจะไปหาอะไรทานด้วย“จะเที่ยงแล้วคุณมีนจะหาอะไรทานก่อนไหมครับ” ชอวขับรถออกมาจากซุปเปอร์มาเก็ตแล้วเมื่อดูเวลาที่หน้าจอของรถมันเกือบเที่ยงแล้วเขากลัวว่าหญิงสาวจะหิวเลยคิดว่าให้หญิงสาวหาอะไรทานก่อนจะดีกว่า“มีนกำลังจะบอกคุณชอวอยู่พอดีเลยค่ะว่าให้พาไปหาซื้ออะไรทาน” คราแรกมีนชญาก็เกรงใจที่จะบอกคนที่ขับรถพาเธอมาซื้อของเล็กน้อยว่าให้พาไปหาอะไรทานแต่เมื่อเขาเอ่ยปากออกมาเองเธอก็โล่งใจเพราะเขานั้นก็คิดเหมือนเธอ“ร้านอยู่ตรงไหนครับบอกผมมาเลย”20 นาทีต่อมา“ร้านนี้เหรอครับ” ชอวขับรถมาตามทางที่หญิงสาวบอกในนี้ค่อนข้างที่จะลึกอยู่พอสมควรหากไม่ใช่คนที่เคยอยู่แถวนี้คงจะไม่รู้ร้านแน่เขาคิดในใจแถมร้านยังไม่น่าใช่จุดสนใจเพราะว่าเป็นแค่เพิงเล็กๆที่มีร้านค้าอยู่แค่สองสาวร้านข้างในก็เป็นหมู่บ้านอีกต่างหากเขาคิดว่าหญิงสาวอาจจะเคยอยู่ในนี้มาก่อนก็ได้“ใช่ค่ะ...ผัดไทที่อร่อยที่สุดในโลกคุณชอวเอาสักห่อไหมคะ” มีนชญาอวยผัดไทร้านปรดของเธอยกใหญ่ว่าเป็นร้าน