Share

ตอนที่แปด

แน็ทตี้ต้องรีบปรามทั้งสองว่าห้ามเรียกชื่อนี้ของเธอได้แล้วเพราะเธอนั้นไปเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนชื่อมาเรียบร้อยแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาเรียกชื่อเดิมของเธออีกเพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงสมใจแล้วเพียงแต่ไม่มีมดลูกและเสียงที่ยังแอบห้าวอยู่

“อะ...เอ่อ..โอเค..ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าแก”   กอหญ้าเห็นว่าในนี้คนมันค่อนข้างพลุกพล่านและเสียงดนตรีมันก็ดังเลยชวนทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ที่มันส่วนตัวกว่านี้จะดีกว่า

“อย่าบอกนะที่แกหายไปเรียนเมืองนอกแกไปแปลงเพศมา”    เมื่อออกมาถึงจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในด้านนอกของโรงแรมแล้วกอหญ้าก็ถือโอกาสถามแน็ทตี้ทันทีว่าที่หายหน้าหายตาไปหลังจากเรียนจบม.ปลายเพื่อนของเธอไปเก็บตัวแปลงเพศทำหน้าใหม่มาทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช่หรือไม่

“ก็ใช่น่ะสิมันเป็นความฝันของฉันเลยพวกแกก็รู้”  แน็ตตี้ตอบด้วยความภาคภูมิใจเพราะเขานั้นเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากจบม.ปลายแล้วความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากไปเรียนเมืองนอกเมืองนาสักเท่าไรหรอกเพียงแต่ป๊าของเขานั้นเสนอว่าหากยอมไปเรียนแต่โดยดีป๊าของเขาจะยอมตามใจทุกอย่างเลยทำให้เขาต้องไปเรียนเมืองนอกแลกกับการแปลงเพศอัพอึ๋มอัพหน้าใหม่ยังไงล่ะ

“แล้วตอนนี้แกกลับมาอยู่ที่ไทยถาวรเลยหรือเปล่า”   มีนชญาถามแน็ทตี้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ถาวรเลยหรือเปล่าเพราะเห็นว่าส่วนมากคนที่ไปเรียนจบเมืองนอกส่วนมากก็จะทำงานที่โน่นกันซะส่วนใหญ่

“อืม...ตอนนี้ฉันอยู่แทบจะถาวรแล้วหละเพราะฉันต้องทำงานอยู่ที่นี่แต่ก็มีกลับไปที่อิตาลีบ้างเพราะผู้ฉันอยู่ที่โน่นอะแก”   แน็ตตี้คิดว่าเธอน่าจะอยู่ที่ไทยเป็นการถาวรเพราะเธอได้รับมอบหมายให้ดูงานที่นี่อันที่จริงเธอทำงานอยู่กับบริษัทอสังหาที่อิตาลีแต่เมื่อประธานใหญ่มาลงทุนร่วมหุ้นที่ไทยเธอจึงต้องอยู่ดูงานแทนเขาซะส่วนใหญ่แต่ถ้าว่าก็มีกลับไปที่อิตาลีบ้างเพราะว่าแฟนหนุ่มของเธอยังใช้ชีวิตอยู่ที่โน่นนั่นเอง

“หืมม...จะอวดว่ามีผู้แล้ววว...เออแล้วแกทำงานอะไรที่ไหนเหรอ”   กอหญ้าต้องทำหน้าเบ้หยอกให้เพื่อนเธอเล็กน้อยที่พูดอวดกับพวกเธอว่ามีแฟนแล้วทั้งที่ยังไม่ได้ถามพร้อมถามแน็ทตี้ว่าแล้วเขานั้นทำงานอะไรที่ไหนเพราะเธอก็อยากรู้ชีวิตของเพื่อนเธอที่ไม่เจอกันนาน

“เป็นวิศวกรคุมงานอยู่บริษัทของเครือฮอปแมนอยู่อิตาลีพอดีบอสใหญ่มาร่วมหุ้นกับคนที่นี่ฉันก็เลยต้องมาคุมงานคาดว่าอีกนานกว่าจะเสร็จเพราะโครงการใหญ่อยู่อะ” แน็ทตี้คิดว่าน่าจะต้องอยู่ที่นี่เป็นการถาวรเพราะเธอมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบงานที่นี่กว่างานนี้จะจบก็คงอีกหลายปีเพราะมีโครงการหลายโครงการที่ประธานใหญ่ร่วมหุ้นเอาไว้

“เดี๋ยว...บริษัทของคุณโดมินิคเหรอ” กอหญ้าได้ยินชื่อเครือบริษัทเธอก็เอะใจขึ้นทันทีเพราะเธอคิดว่าเธอนั้นรู้จักเจ้านายของแน็ทตี้จึงถามเพื่อนเธอว่าเจ้านายของเขานั้นใช่คนเดียวกับคนที่เธอนั้นคิดหรือเปล่า

“ใช่แกรู้จักบอสสุดเนี๊ยบของฉันด้วยเหรอ”  แน็ทตี้ต้องหันมาถามกอหญ้าว่าหญิงสาวรู้จักเจ้านายสุดเนี๊ยบของเขาได้อย่างไร

“ใช่รู้จัก...เค้าเป็นลูกค้าวีไอพีของโรงแรมสามีฉันเอง”   กอหญ้าเลยต้องอธิบายให้เพื่อนเธอฟังว่าที่มาที่ไปที่เธอรู้จักกับโดมินิคเพราะอะไร

“ทำไมนั่งเงียบอยู่ล่ะยัยมีน”   แน็ทตี้เห็นว่ามีนชญานั้นกำลังนั่งทำท่าครุ่นคิดอะไรอยู่เขาจึงถามขึ้นเพราะปกติจะแย่งพวกเขาพูดเป็นต่อยหอยเมื่อตอนที่เรียนด้วยกันสมัยม.ปลาย

“อ๋อ...เอ่อเปล่าก็ฉันเห็นพวกแกคุยกันอยู่ไง”    มีนชญาแก้ต่างให้ดูฟังขึ้นทั้งที่ในใจตอนนี้เธอเริ่มคิดได้แล้วว่าเธอนั้นจะเข้าไปใกล้โดมินิคได้อย่างไรและใครจะเป็นคนที่ช่วยเธอได้หญิงสาวยังพูดตอนนี้ไม่ได้เพราะเรื่องนี้เธอจะให้กอหญ้านั้นรู้ไม่ได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่

วันต่อมา

08.00 น.

ร้านกาแฟ

“แกนัดฉันมาทำไมแต่เช้าเนี่ยยัยมีนไหนธุระสำคัญอะไรของแกรีบว่ามาเลย”   แน็ทตี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาตามนัดของมีนชญาที่เธอพึ่งส่งข้อความหาเขาเมื่อคืนว่ามีธุระสำคัญจะคุยด้วยเมื่อมาถึงก็บ่นเพื่อนสาวของเธออุกว่านัดเขาทำไมแต่เช้าทั้งที่วันนี้ก็เป็นวันหยุดของเขาแทนที่จะได้นอนตื่นสาย

“เอ่อ...คือฉันมีเรื่องให้แกช่วยหน่อยอะ..คือว่า....”    มีนชญาไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอเปิดประเด็นถึงเรื่องที่เธออยากให้แน็ทตี้ช่วยทันทีเพราะหากเธอไม่พูดตอนนี้มันก็จะเสียเวลารอของเธอไปอีกครั้นจะทำการนี้ด้วยตัวเองก็คงจะยากอีกด้วย

“ห้ะ..นี่แกจะบ้าหรือไงยัยมีนแกก็คิดได้นะแบบนี้...ไม่เอาฉันไม่มีทางช่วย”   แน็ทตี้ถึงกับอ้าปากตาค้างเมื่อล่วงรู้สิ่งที่เพื่อนสาวของเขานั้นต้องการที่จะให้เขาช่วยเขาเองไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้มันจะออกมาจากมีนชญาด้วยซ้ำยังไงเรื่องนี้มันก็ช่วยยากแถมเรื่องแปลกๆแบบนี้มันก็ไม่ค่อยจะมีใครเค้าทำกันด้วย

“ห้าแสนแกจะยอมช่วยไหม”   มีนชญาเห็นว่าในเมื่อขอให้ช่วยดีๆเพื่อนเธอไม่เห็นด้วยเธอก็จะลองขอจ้างดูบ้างละกันเพราะเธอรู้ว่าแน็ทตี้นั้นชอบเงินแค่ไหน

“ป๊าฉันให้ฉันเยอะกว่านั้นย่ะ...อีกอย่างนี่แกเห็นว่าฉันเห็นแก่เงินหรือยังไง”   แน็ทตี้เบ้หน้ามาทางเพื่อนสาวของเขาเพราะยังไงเขาก็ไม่คิดจะช่วยเพื่อนเธอเรื่องนี้แน่นอนพร้อมต่อว่าเพื่อนสาวว่าเห็นว่าเขาเป็นคนเห็นแก่เงินหรืออย่างไร

“สองล้านโอเคไหม...เอาไปทำหน้าใหม่โดยไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยเลยน้าาาา...”   มีนชญาคิดว่าที่เธอเสนอเงินให้เพื่อนของเธอมันอาจจะน้อยเกินไปจึงเสนอเพิ่มให้อีกสามเท่าพร้อมพูดเล้าโลมว่าถ้าหากได้เงินก้อนนี้จากเธอไปเขานั้นสามารถที่จะไปทุบหน้าใหม่หรือว่าผ่าตัดกล่องเสียงโดยไม่ต้องทำงานหาเงินไปทำเองให้เหนื่อยอีกด้วย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status