“ไปกันเถอะ...เดี๋ยวเธอรออยู่ตรงนี้นะฉันไปเอารถออกมาก่อน”“ค่ะ”โดมินิคบอกให้หญิงสาวรออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมเดินไปที่โรงจอดรถและขับรถออกมารับเธอ“โห...รถสปอร์ตเป็นบุญของเราเหมือนกันนะ” มีนชญายืนรอชายหนุ่มไปขับรถออกมาจากโรงรถด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งนิดหน่อยแต่เมื่อได้ยินเสียงของรถเธอจึงหันไปมองภาพตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันหรูของเขาออกมาเพื่อที่จะไปส่งเธอหญิงสาวถึงกับตาลุกวาวพร้อมบอกกับตัวเองว่าเป็นบุญของเธอที่ได้นั่งรถแพงๆแบบนี้อย่างน้อยเรื่องที่เธอแอบเซ็งอยู่ตอนนี้มันก็ผ่อนคลายหายไปบ้างเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้นั่งรถหรูข้างๆกับผู้ชายที่สุดเพอร์เฟค30 นาทีต่อมา“โห...ตรงนี้เค้ามีจัดงานด้วย...คุณนิคคะจอดตรงนี้แปปนึงสิคะ” เมื่อชายหนุ่มขับรถพามีนชญาออกมาได้พักใหญ่หญิงสาวเห็นว่าที่ข้างทางนั้นเหมือนมีงานวัดอยู่เธอเห็นว่ามีร้านลูกโป่งที่เธอชอบมากๆตั้งแต่เด็กยันโตจึงเอ่ยปากบอกให้ชายหนุ่มนั้นจอดรถให้เธอ“ได้สิ” โดมินิคนั้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะให้เขาจอดรถเพื่ออะไรแต่เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองไปที่ข้างทางเขาจึงต้องจอดให้เธอ“ซื้อลูกโป่งเนี่ยนะ” โดมินิคจอดรถได้หญิงสาวก็ลงจากรถทันทีเขามองไ
โดมินิคคิดว่าหากหญิงสาวตัวคนเดียวจะอยู่ในพื้นที่แบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่เขาจึงบอกให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขาเพราะมันปลอดภัยกว่าการอยู่ที่นี่คนเดียวอีกอย่างก็ไม่ต้องไปๆกลับๆด้วยเขาให้เธอมาอยู่ห้องของชอวเพราะห้องนั้นก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว“ให้มีนพักที่นั่นได้เหรอคะ...ขอบคุณนะคะคุณนิค...เดี๋ยวมีนแบ่งลูกโป่งให้คุณเป็นการตอบแทนนะคะ” มีนชญาถึงกับตาลุกวาวเกี่ยวกับข้อเสนอของชายหนุ่มที่ให้เธอมาเพราะนี่คือโอกาสของเธอที่จะได้อยู่ใกล้ชายหนุ่มแทบจะตลอดเวลาแล้วหญิงสาวรีบขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่พร้อมทั้งทำสีหน้าสำนึกในบุญคุณอย่างเห็นได้ชัดตอนนี้เธอนั้นอยากจะนั่งขอบคุณเขาสักชั่งโมงแต่มันก็น่าจะเสียเวลาเกินไปเมื่อเห็นว่าลูกโป่งของเธอนั้นมันก็ซื้อมาเยอะอยู่เธอจึงคิดว่าควรจะแบ่งให้เขานั้นเอาไปดูเล่นบ้างจะดีกว่าเผื่อหน้าตาของเขาจะสดใสมากกว่านี้“เธอเอากลับไปให้หมดนั่นแหละ...ฉันไม่รู้ว่าจะเอาลูกโป่งไปทำอะไร” โดมินิครีบปฏิเสธหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่ได้ชอบของอะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว“เอาไปเถอะค่ะ...มันจะทำคุณนิคยิ้มง่ายนะคะดูสิคะมันโคตรน่ารักเลย...นี่ค่ะมีนให้คุณนิคมีนไปแล้วนะคะบ๊ายบายค่ะ”มีนชญาพยายา
“ขอบคุณค่ะ” มีนชญารีบรับกุญแจห้องจากชายหนุ่มพร้อมขอบคุณคนตรงหน้าที่ใจดีกับเธอทันที“เดี๋ยวฉันออกไปวิ่งสักครึ่งชั่วโมงเธอเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉันด้วยนะ” โดมินิคกำลังจะออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆพร้อมบอกให้หญิงสาวทำอาหารเขช้ารอเขาไว้ได้เลยเพราะเขาจะไปวิ่งแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น“ค่ะ” มีนชญาถึงกับยิ้มหน้าบานเพราะได้ยินว่าชายหนุ่มนั้นจะออกไปวิ่งตั้งครึ่งชั่วโมงเธอเห็นว่าเป็นการดีที่ชายหนุ่มไม่อยู่ในช่วงเวลาเตรียมอาหารเพราะเธอนั้นจะสั่งจากร้านมาให้เขานั่นเองมาให้เธอนั่งดูสูตรทำอีกเธอกะว่าคงจะไม่รอด“ตอนนี้ก็ต้องสั่งอาหารก่อน” มีนชญามองชายหนุ่มจนเขานั้นเดินออกไปจากตัวบ้านเรียบร้อยแล้วเธอจึงยกมือถือมาโทรสั่งอาหารจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านดังมาให้ชายหนุ่มทีเดียวครบทั้งสามมื้อเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วเธอจึงยกกระเป๋าที่ขนมาเข้าไปเก็บในห้องที่ชายหนุ่มนั้นพึ่งยื่นกุญแจให้กับเธอ20 นาทีผ่านไป“เฮ้อ...เสร็จซะที” หลังจากจัดแจงเก็บของเข้าที่เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนุ่มทันทีRrrrrrrrrrrrrr“สวัสดีค่ะ....โอเคค่ะเดี๋ยวฉันออกไปรับ” ขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆหญิงสาว
แบบนี้ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมแล้วหละแต่เมื่อคิดไปคิดมาชุดก็มีตั้งสามชุดชายหนุ่มอาจจะไม่เลือกใส่ชุดที่เธอทำมันไหม้ก็เป็นได้ตอนนี้หญิงสาวเลยปิดเพลงพร้อมตั้งหน้าตั้งตารีดต่อ“เฮ้ยย...นี่มันผ้าอะไรกันเนี่ยรีดทีไรไหม้ทุกที” มีนชญารีดผ้าไปบ่นไปเพราะผ้าที่เธอลงเตารีดนาบไปนั้นมันก็มีรอยไหม้ทันทีจนเธอไม่เข้าใจว่าแล้วผ้าแบบนี้เขาต้องใช้เตารีดอะไรรีดกันแต่มีอย่างหนึ่งที่หญิงสาวลืมไปก็คือการเบาความร้อนของเตารีดนั่นเอง“ถ้าจะไหม้หมดอย่างนี้...ก็คงต้องรีดแค่นี้แล้วแหละ...เฮ้อ..มีนท้อแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าชุดที่รีดไปทั้งสองชุดของชายหนุ่มมีรอยไหม้เกือบจะทุกตัวจนเธอท้อใจไม่อยากจะรีดต่อเพราะไม่อยากจะทำชุดของชายหนุ่มพังเลยปล่อยอีกชุดที่สภาพดีเอาไว้แต่เธอก็ยังไม่ได้รีดพลางคิดในใจว่าหากชายหนุ่มอยากจะใส่ชุดดีๆก็กลับมารีดเองแล้วกันตอนนี้เธอยอมโดนตำหนิแล้วหละเพราะไม่ไหวกับการรีดผ้าแบบนี้เลยจริงๆไม่รู้ว่าเสื้อผ้าชายหนุ่มนั้นสั่งทำด้วยอะไรถึงได้ดูบอบบางแบบนี้เช้าวันต่อมา06.30 น.ปั้งๆๆๆๆ“ฟ้าผ่า...ฟ้าผ่า” มีนชญาถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจเพราะสียงดังจากการเคาะประตูห้องของเธอจนคิดว่าวันนี้มีฟ้าผ่าแต่เช้าเมื
“เธอ...อย่าลืมตานะ” ในขณะที่หญิงสาวนั้นล้มลงไปเธอก็ดึงเอาผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวที่พันท่อนล่างของเขาอยู่ไปด้วยทำให้ตอนนี้ชายหนุ่มเหลือตัวล่อนจ้อนจึงรีบบอกให้หญิงสาวที่กำลังจะเงยหน้ามาหลับตาลงทันทีเพราะกลัวว่าเธอนั้นจะเห็นของสงวนของเขาที่ไม่อยากให้ใครเห็นนั่นเอง“อะ..อร้ายยยยยย” มีนชญาที่ไม่ทันได้ฟังที่ชายหนุ่มพูดเธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเพราะภาพอนาจารตรงหน้าและรีบลุกวิ่งออกไปจากห้องนี้ทันทีเพราะค่อนข้างตกใจเพราะเกิดมาก็ไม่เคยต้องมาเห็นอะไรแบบนี้“มีน..มีนน..โถ่เอ้ย!!!บอกให้ปิดตาไงเล่า” โดมินิครีบหยิบผ้าขนหนูที่ร่วงอยู่กับพื้นมาพันตัวทันทีพร้อมร้องเรียกหญิงสาวแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้วและแบบนี้เขาจะกล้ามองหน้าเธอติดไหมล่ะทีนี้ชายหนุ่มไม่ได้ตามเธอออกไปเพราะตอนนี้เขาต้องรีบแต่งตัวและออกไปประชุมแล้วเรื่องหญิงสาวเขาค่อยกลับมาเคลียทีหลังก็แล้วกันโรงแรมXXX08.00 น.“นี่เอกสารทั้งหมดครับนาย” ชอวยื่นแฟ้มเอกสารรายงานเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดให้กับเจ้านายหนุ่มของเขาที่หน้าห้องประชุมหลังจากที่สรุปกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวานเกี่ยวกับประเด็นที่จะเสนอแก้ไขปรับปรุงนิดหน่อย“แน็ทตี้มาห
“นี่เธอถามละเอียดยิบขนาดนี้เป็นเมียฉันรึไง”โดมินิคเข้ามานั่งที่ฝั่งคนขับพร้อมสตาร์ทรถเพื่อที่จะพาหญิงสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลเขาถึงกับต้องเอ่ยแซวหญิงสาวที่ยิงคำถามใส่เขาโดยที่ไม่รอเว้นจังหวะให้เขานั้นตอบกลับเธอเลย“อะ...เอ่อ...มีนก็แค่อยากรู้เฉยๆค่ะ...ไม่บอกก็ไม่เป็นไร” มีนชญามีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นแกล้งแซวเธอพร้อมบอกกับเขาว่าเธอแค่อยากรู้เฉยๆไม่ได้จู้จี้ซะหน่อยและถ้าหากเขาไม่บอกก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย“ฉันไปประมาณสักสิบกว่าวัน...ก็ดีสำหรับเธอนะเธอจะได้พักด้วยเพราะว่าเจ็บอยู่” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวมีสีหน้าที่เจื่อนลงไปเขาจึงบอกเวลาที่เขาไปว่าประมาณกี่วันและอีกใจของเขาก็คิดว่าดีเหมือนกันที่เขานั้นกลับอิตาลีในขณะที่หญิงสาวนั้นเจ็บอยู่เธอจะได้พักผ่อนไปในตัวด้วยเลย“...สิบกว่าวัน..ดีค่ะ...” มีนชญาคิดอยู่ในใจว่าเวลาสิบกว่าวันกว่าชายหนุ่มจะกลับมาเป็นเวลาที่เธอต้องทำตามแผนพอดีตอนนี้เลยนั่งฉีกยิ้มอยู่คนเดียวจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆถึงกับส่ายหัวให้กับอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอเสียจริงพร้อมขับรถมุ่งหน้าพาหญิงสาวไปหาหมออย่างไม่สนใจว่าคนข้างๆนั้นจะนั่งยิ้มอะไรนักหนาโรงพยาบาลXXX
“เอ้า...คุณนิคเองเหรอคะมีอะไรหรือเปล่าคะมีนก็ว่าเบอร์ใคร” มีนชญาคลายสงสัยทันทีเมื่อปลายสายยอมพูดเสียทีว่าเขานั้นเป็นใครพร้อมถามเขาต่อว่าที่โทรหาเธอนั้นเขามีธุระอะไร“เอ่อ...คือจะโทรมาถามว่าข้อเท้าเธอเป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะตอนนี้มีนเดินได้สะดวกแล้วค่ะ”“แล้ว...เอ่อ...เธออย่าลืมไปรีดผ้าในตู้ของฉันด้วยล่ะ” โดมินิคยังพยายามหาเรื่องที่จะถามไถ่หญิงสาวทั้งที่เขานั้นไม่จำเป็นต้องห่วงคนที่เป็นแม่บ้านขนาดนี้ก็ได้แต่แปลกที่เขานั้นรู้สึกห่วงเธอ“มีนทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะรับรองไม่มีปัญหาเหมือนคราวก่อนแน่ค่ะ..คุณนิคมีอะไรจะให้มีนทำอีกหรือเปล่าคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มนั้นคงจะโทรมาตรวจความเรียบร้อยภายในบ้านเป็นแน่เธอจึงบอกกับเขาไปว่างานทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ต้องเป็นห่วง“แล้ว.....เธอทานข้าวหรือยัง” โดมินิคเองก็ไม่รู้จะคุยเรื่องงานอะไรกับเธอต่อเพราะงานที่เขาจะสั่งเธอหญิงสาวก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้วเขาเองก็จำต้องหาเรื่องอื่นคุยกับเธอเพราะอยากได้ยินเสียงของเธอนานๆมันทำให้เขานั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี“เรียบร้อยค่ะคุณนิคอิ่มจนพุงกางแล้วค่ะ...คุณนิคล่ะคะอยู่ที่โน่นทานอาหารตรงเวลา
“เอ่อ...ครับเธอน่าจะชอบนะครับ” ชอวอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นของใครพร้อมบอกกกับเจ้านายหนุ่มเพื่อเป็นกำลังใจว่าของสิ่งนี้มีนชญาน่าจะชอบดูจากที่เขารู้จักนิสัยของเธอและตอนนี้ยังรู้อีกว่าสิ่งที่เขาสงสัยอยู่นั้นมันน่าจะเป็นความจริงว่าเจ้านายหนุ่มของเขานั้นกำลังหลงเสน่ห์แม่บ้านคนใหม่นี้อยู่เป็นแน่แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะเตือนอะไรเพราะหญิงสาวก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรและอีกอย่างยังทำให้เจ้านายของเขายิ้มได้อีกต่างหากเรื่องชนชั้นเขารู้ว่าเจ้านายของเขาเคยเหยียดใครอยู่แล้วเมื่อเจ้านายของเขานั้นเจอคนที่ถูกใจเขาก็พร้อมยินดีด้วยเพราะอายุเจ้านายของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วควรที่จะเลือกใครเพื่อมีครอบครัวได้แล้ว“อืม...ไปกันเถอะ”ประเทศไทยเช้าวันต่อมา“เรียบร้อยแล้วนายไปพักเถอะฉันให้เวลาพักสองสามวัน” หลังจากที่ชอวช่วยเขาเอากระเป๋าเข้ามาเก็บที่ห้องเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงบอกให้เขานั้นไปพักได้เพราะเขาเองก็ว่าจะพักการทำงานสักสองสามวันหลังจากที่ทำงานกันอย่างหนักมาหลายวันแล้ว“ขอบคุณครับนาย...” ชอวเดินออกจากบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะรู้ตัวว่าจะได้พักเขาเองก็กะว่าจะหาที่เที่ยวพักผ่อนเหมือนกันเพราะเคยอยาก
“เรื่องทั่วไปนั่นแหละ” แน็ทตี้เห็นกอหญ้าเดินเข้ามาก็ตอบคำถามเพื่อนสาของเขาว่าที่คุยกันมันก็เป็นเร่องทั่วไปตามประสาเพื่อนที่นานๆเจอกันและจะมีเวลาคุยกันแบบนี้นานๆเสียทีเมื่อกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันได้พักใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันไปเดินชมวิวทะเลยามค่ำคืนเพราะงานแต่งของหญิงสาวจัดเป็นคบเพลิงปักอยู่เต็มอ่าวทุกคนเลยเดินไปถ่ายรูปกันตอนนี้ก็เหลือแต่กอหญ้าที่นั่งอยู่กับแน็ทตี้และมีนชญา“ได้คุยกันแบบนี้ก็ดีนะมีนยินดีด้วยนะฉันดีใจที่เห็นแกมีวันนี้นะ” กอหญ้าเองเห็นเพื่อนสาวของเธอมีวันนี้ก็ดีใจที่เรื่องวุ่นๆมันจบลงด้วยดีแถมเพื่อนของเธอก็มีครอบครัวที่มีความสุขอีกด้วย“ขอบใจนะกอหญ้า...ต้องขอบคุณแน็ทตี้ที่ช่วยฉันทำแผนนั้นขึ้นมา”“อุ้ยย”มีนชญาพูดแซวไปถึงวีรกรรมที่ตัวเองและแน็ทตี้รวมกันทำเอาไว้พร้อมหัวเราะออกมาที่ตอนนี้เธอนั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เธอเองนั้นสร้างวีรกรรมสุดน่าปวดหัวนี้มาแน็ทตี้เองได้ยินเรื่องนี้ก็หันหน้าหนีทันทีเพราะเขาก็ไม่ได้อยากร่วมวีรกรรมนี้สักเท่าไรถ้าตอนนั้นไม่เห็นแก่เงิน“อย่าพูดถึงเรื่องนี้นะมีน...ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอยากจะตีแกเล่นอะไรบ้าๆจนวุ่นวายไปหมดดีนะที่วันนี้เรื่องทุกอย่างจบล
เช้าวันต่อมามีนชญากำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวส่วนสองพ่อลูกก็พากันไปนั่งเล่นที่ในสวนหลังบ้านวันนี้นีน่าไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะยังต้องดูอาการก่อนว่าไข้จะไม่ขึ้นมาอีก“อะไรกันเนี่ย” หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านเป็นแบบนี้ทุกวันแล้วเธอก็ต้องเจอข่าวที่ทำให้เธอตกใจเพราะมีรูปของเธอกับนีน่าอยู่ในหนังสือพิมพ์อีกด้วย“นักธุรกิจหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแอบซุกลูกกับเมียมาสามปีเต็มๆทำไฮโซสาวหน้าแหกที่เกือบจะเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวโดยชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกับไฮโซสาวเท่านั้นและกำลังจะจัดงานแต่งกับภรรยาของเขาเร็วๆนี้อีกด้วย” เมื่อมีนชญากวาดสายตาอ่านข้อความอย่างรวดเร็วเธอถึงกับต้องรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่หลังบ้านทันทีเพราะค่อนข้างตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรื่องของเธอไปเป็นข่าวได้อย่างไร“คุณนิคคะ...ข่าวนี้มันมาได้ยังไงคะแล้วทำไมมีรูปเราเมื่อวานด้วย” มีนชญารีบยื่นหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่มอ่านอย่างเร่งรีบเพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะตกใจกับข่าวนี้เหมือนกันเพราะมันทำให้ภาพพจน์ของเขาเสียหายอีกอย่างในข่าวก็แอบอ้างว่าเขาเป็นคนให้สัมภาษณ์เองทั้งที่มั
“ฉันอยากให้เธอเรียกฉันเหมือนที่เรียกไอ้หมอนั่น” เมื่อดึงหญิงสาวออกมานอกห้องได้แล้วโดมินิคก็พูดเรื่องความต้องการของเขาทันทีเขาอยากให้เอเรียกเขาแบบสนิทสนมเหมือนกับที่เธอนั้นเรียกหมอรวิชเพราะเขาไม่อยากให้เธอนั้นดูสนิทกับผู้ชายคนไหนมากไปกว่าตัวเขาเอง“หมอนั่น...พี่หมอน่ะเหรอคะ...มีนเรียกคุณนิคแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ” มีนชญาไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มนั้นจะมาหาเรื่องอะไรเธอกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องด้วยจู่ๆชายหนุ่มก็มาอยากให้เธอเรียกเขาแบบที่เธอเรียกหมอรวิชเสียแบบนั้นเธอรู้สึกว่าเธอเรียกเขาแบบเดิมมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนอกจากตอนนี้ชายหนุ่มจะทำให้มันเป็นปัญหาเสียเอง“ไม่ได้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่นิค” โดมินิคต้องใช้ลูกบังคับเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี“ทำไมต้องบังคับมีนด้วยคะ” มีนชญาไม่เห็นว่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้เขาจะต้องมาบังคับเธอด้วยตอนนี้เธอเลยมีสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน“จะเรียกไหม” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกแถมยังถียงเขาไม่ขาดคำเขาจึงต้องใช้ไม้เด็ดในการทำให้เธอยอมแต่โดยดีโดยการใช้มือทั้งสองของเขาจับไปที่ใบหน้าของหญิงสาวรั้งให้ใบหน้าเ
“แล้วคุณ....” รวิชแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มฝรั่งร่างสูงยืนอยู่ที่หลังของหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นใคร“เอ่อ...ผมเป็นพ่อของนีน่าสามีของมีนครับ” โดมินิคถือโอกาสแนะนำตัวเองกับหมอหนุ่มโดยการดึงไหล่ของหญิงสาวเข้าไปกอดแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเขานั้นไม่ชอบใจในสรรพนามที่ทั้งสองเรียกแทนตัวเองกันสักเท่าไรมันดูสนิทสนมกันเกินหน้าเกินตา“อ่อ...ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”“เช่นกันครับ”รวิชเองดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังหึงภรรยาสาวอยู่เป็นแน่แต่เขาก็ทำตัวทักทายอีกฝ่ายปกติเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวคนนึงเพราะตั้งแต่ที่มีนชญาท้องก็มาหาปรึกษาเขาตลอดจึงทำให้เขากับเธอนั้นสนิทกัน5นาทีต่อมา“นีน่าไข้สูงเหมือนกันนะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ฉีดยาให้แล้วก็เช็ดตัวดูอาการอยู่ที่นี่สักครึ่งชั่วโมง”“ค่ะพี่หมอ”เมื่อดูอุณหภูมิร่างกายของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหมอนุ่มเองคิดว่าจะต้องฉีดยาเพราะให้ทานยากับเช็ดตัวคงไม่ทันแน่เพราะว่าอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะทำให้ชักได้“คุณแม่ขาไม่ฉีดยา...ฮือๆๆๆ”“ไม่ฉีดไม่ได้หรือไงครับหมอ” เด็กหญิงตัวกลมที่นอนซึมอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของลุงหมอของเธอบอกว่าต
เช้าวันต่อมาตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”“ใช่ค่ะแดดดี๊”“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเองมีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะแถมร่มรื่นกว่าเดิมอีก” โดมินิคขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านที่เปิดเป็นร้านดอกไม้เขาก็จำได้ทันทีว่าที่นี่นั้นเคยเป็นบ้านของเขามาก่อนเมื่อลงจากรถสำรวจดูรอบๆเขาก็รู้สึกชอบที่นี่มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะมันทั้งร่มรื่นและมีดอกไม้ต่างๆปลูกรอบๆบ้านเป็นภาพที่สวยงามเป็นอาหารตาแก่เขามากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ในตอนเช้าๆ“คุณนิคเคยมาที่ด้วยเหรอคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆเหมือนเคยมที่นี่ยังไงยังงั้นจึงถามเขาขึ้นให้คลายสงสัย“บ้านหลังนี้เป็นของฉันเอง...ฉันปล่อยขายเมื่อห้าปีที่แล้วโลกกลมจังเลยเนอะ” โดมินิคหันมายิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาเองและคนที่ซื้อในตอนนั้นก็เป็นหญิงสาวตรงหน้าเขาคนนี้เขาไม่แปลกใจที่ทำไมหญิงสาวไม่รู้ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาเองเป็นเจ้าของบ้านเขาคิดว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินหรือไม่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ขีดมาให้เขาและเธอได้เจอกันที่ทำให้คนสองคนที่แสนจะแตกต่างกันมาเติมเต็มกันและกันได้“บังเอิญจังเลยนะคะ” มีนชญารู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะวางแผนไปทำงานที่บ้านของเข
“ทำไมจะทำอะไรไม่ได้เธอรักฉัน..แล้วฉันก็รักเธออย่าหลอกตัวเองเลยนะมีนคนเรามันเท่าเทียมกันอย่าดูถูกตัวเองว่าเธอไม่เหมาะสมกับใครอีกอย่างเราก็มีลูกด้วยกันจนสามขวบแล้วด้วยทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวจอมซื่อบื้อคนนี้คงจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่เขาจึงต้องบอกกับเธอตรงๆว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรพร้อมบอกให้เธอได้รู้ด้วยว่าเขาก็รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาเช่นไรเขาไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเองเพราะขนาดเขาก็ยังไม่เคยคิดที่จะดูถูกเธอด้วยซ้ำอีกอย่างมันก็จะดีต่อลูกอีกด้วยถ้าทั้งเขาและเธอหันหน้าปรับความเข้าใจกัน“อะไรนะคะ...อื้มมมม” มีนชญารู้สึกอึ้งเล็กน้อยเมื่อล่วงรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดกับเธอเช่นไรในขณะที่เธอยังอึ้งอยู่นั้นชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เสียจังหวะเขาพยายามบดจูบหญิงสาวเรียกอารมณ์รักของเธอออกมาเพราะเขานั้นโหยหาร่างกายนี้มานานแสนนานต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่เมียตัวแสบคนนี้ไปเด็ดขาด“คุณนิค...อื้อ...” มีนชญาถึงกับครางเสียงกระเส่าเพราะชายหนุ่มจูบวนอยู่ที่ลำคอระหงของเธออย่างนุ่มนวลไล่ลงไปที่สองเต้างามสลับกันดูดคลึงเล่นกับมืออย่างสนุกและมอบความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวได้อย่างดีโดมินิค
“ค่ะ...วันนี้น่าจะเล่นเยอะจนเพลีย” มีนชญาลุกออกมาจากเตียงพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าวันนี้นีน่าค่อนข้างที่จะหลับไวจากการที่เธอเดาน่าจะเป็นเพราะเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมากไปหน่อยเพราะตั้งแต่ไปโรงเรียนก็หลับง่ายแบบนี้มาสองวันแล้ว“เธอมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคทำหน้างอยู่ดีๆหญิงสาวก็เดินมายืนจ้องหน้าของเขาอยู่ที่หน้าประตูใบหน้าแสดงออกถึงการมีเรื่องอะไรในใจจนเขานั้นจำต้องถามเธอขึ้น“มีนขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”“งั้นเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” โดมินิคดูจากสีหน้าที่จริงจังของหญิงสาวแล้วเขารู้ว่าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขาต้องเป็นเรื่องที่เธอนั้นซีเรียสอย่ามากเป็นแน่เขาจึงดึงมือเธอให้ตามเขามานั่งคุยในห้องหนังสือของเธอที่เขาพึ่งออกมาเมื่อครู่นี้“คุณนิคคะอย่าหาว่ามีนเห็นแก่ตัวเลยนะคะ...คุณอย่าพานีน่าไปจากที่นี่เลยนะคะไม่อย่างนั้นมีนคงอยู่ไม่ได้แน่” เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็ยืนก้มหน้าหลับตาพร้อมขอร้องชายหนุ่มอย่างที่ใจเธอคิดอย่างรวดเร็วและยังยืนก้มหน้าบีบมือรอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอยู่“ยังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันจะพาลูกไปอยู่กับผม....แต่....ฉันเองก็ไม่เคยพูดนี่ว่าไม่ให้เธอตามไปด้วย” โด
“เอ่อ...คือ...” มีนชญาถึงกับพูดไม่ออกจะเดินออกไปก็กลัวว่าเขาจะพาลูกหนีอีกใจมันก็จริงอย่างที่เขาบอกตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอาหารเย็นไว้ให้ลูกของเธอแล้วด้วย“ฉันไม่ไปไหนหรอก...นี่กุญแจ” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่เขาจึงมองจ้องไปที่หน้าของหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอได้ฟังชัดๆว่าเขานั้นจะไม่ไปไหนให้เธอนั้นสบายใจได้พร้อมส่งกุญแจรถหรูวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาให้เธอมาหยิบอีกต่างหากเพื่อให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหกเธอ“อืม...เอ่อ...คุณนิคจะทานอะไหมคะเดี๋ยวมีนทำให้ค่ะ” มีนชญาเดินมาหยิบกุญแจรถของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนพร้อมเดินตรงไปที่ครัวแต่เธอก็ต้องชะงักนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าวันนี้เธอก็คงจะต้องทำอาหารเผื่อพ่อของลูกของเธอด้วยจึงถามเขาขึ้นว่าเขานั้นจะทานอะไรอย่างน้อยตอนนี้เขายังใจดีไม่พาลูกหนีไปจากเธอหญิงสาวคิดว่าควรที่จะสร้างไมตรีที่ดีกับชายหนุ่มเอาไว้เผื่อว่าเรื่องที่เธอจะคุยกับเขานั้นง่ายขึ้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบทานอะไร”โดมินิคหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเธอรู้ว่าเขานั้นชอบอะไรในใจชายหนุ่มก็อยากจะรู้ว่าเธอนั้นยังจำเรื่องราวตอนที่อยู่กับเขาอยู่ได้หรือเ