“ไปกันเถอะ...เดี๋ยวเธอรออยู่ตรงนี้นะฉันไปเอารถออกมาก่อน”
“ค่ะ”
โดมินิคบอกให้หญิงสาวรออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมเดินไปที่โรงจอดรถและขับรถออกมารับเธอ
“โห...รถสปอร์ตเป็นบุญของเราเหมือนกันนะ” มีนชญายืนรอชายหนุ่มไปขับรถออกมาจากโรงรถด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งนิดหน่อยแต่เมื่อได้ยินเสียงของรถเธอจึงหันไปมองภาพตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันหรูของเขาออกมาเพื่อที่จะไปส่งเธอหญิงสาวถึงกับตาลุกวาวพร้อมบอกกับตัวเองว่าเป็นบุญของเธอที่ได้นั่งรถแพงๆแบบนี้อย่างน้อยเรื่องที่เธอแอบเซ็งอยู่ตอนนี้มันก็ผ่อนคลายหายไปบ้างเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้นั่งรถหรูข้างๆกับผู้ชายที่สุดเพอร์เฟค
30 นาทีต่อมา
“โห...ตรงนี้เค้ามีจัดงานด้วย...คุณนิคคะจอดตรงนี้แปปนึงสิคะ” เมื่อชายหนุ่มขับรถพามีนชญาออกมาได้พักใหญ่หญิงสาวเห็นว่าที่ข้างทางนั้นเหมือนมีงานวัดอยู่เธอเห็นว่ามีร้านลูกโป่งที่เธอชอบมากๆตั้งแต่เด็กยันโตจึงเอ่ยปากบอกให้ชายหนุ่มนั้นจอดรถให้เธอ
“ได้สิ” โดมินิคนั้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะให้เขาจอดรถเพื่ออะไรแต่เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองไปที่ข้างทางเขาจึงต้องจอดให้เธอ
“ซื้อลูกโป่งเนี่ยนะ” โดมินิคจอดรถได้หญิงสาวก็ลงจากรถทันทีเขามองไปที่กระจกหลังเห็นว่าหญิงสาวกำลังซื้อลูกโป่งที่มีเด็กนั่งขายอยู่จนหมดพวงเขาไม่เข้าใจว่าเธอโตป่านนี้แล้วเธอจะซื้อลูกโป่งไปทำอะไร
“คุณนิคคะมาช่วยมีนเอาใส่รถหน่อยสิคะ” มีนชญาเปิดประตูรถพร้อมยัดลูกโป่งที่เบาะหลังแต่ด้วยลูกโป่งที่ค่อนข้างหลายลูกเลยทำให้เข้าไปในรถยากลำบากหญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มนั้นเอาแต่มองการกระทำของเธอและยังไม่คิดที่จะลงมาช่วยหญิงสาวจึงต้องเอ่ยปากขอร้องให้คนที่นั่งอยู่ลงมาช่วยเธอไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้กลับ
“อะ..เอ่อ..โอเค” โดมินิคมีสีหน้าที่งงเล็กน้อยไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าใช้เขาแต่เมื่อเห็นว่าเธอเก็บเจ้าลูกโป่งเข้าไปที่เบาะหลังคนเดียวคงจะไม่ไหวเขาเลยจำเป็นต้องลงไปช่วย
“เรียบร้อยไปกันได้แล้วค่ะ” เมื่อชายหนุ่มเก็บลูกโป่งเข้ารถให้เธอเรียบร้อยแล้วมีนชญาจึงเข้ามานั่งที่เบาะข้างๆคนขับพร้อมบอกให้ชายหนุ่มนั้นพาเธอกลับได้และอมยิ้มให้คนตรงหน้าเล็กน้อยที่เขาเข้ามาช่วยเธอ
“แล้วนี่ซื้อมาทำไมเยอะแยะ” ด้วยความคาใจของโดมินิคว่าเธอนั้นจะซื้อของพวกนี้มาทำไมเยอะแยะจึงถามเธอขึ้นเมื่อกลับมานั่งที่เบาะคนขับพร้อมปิดประตูเรียบร้อยแล้ว
“มีนชอบลูกโป่งมากๆเลยค่ะอีกอย่างมีนก็อยากช่วยน้องที่นั่งขายลูกโป่งซื้อด้วยเพราะอยากให้น้องเค้ากลับไปนอนเร็วๆค่ะ”
มีนชญาชอบลูกโป่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและเธอยิ่งเห็นเป็นเด็กๆมานั่งขายอีกด้วยเธอเลยตั้งใจซื้อหมดเพราะเด็กๆที่นั่งขายจะได้กลับไปนอนเธอรู้ว่าเด็กๆช่วยพ่อแม่ทำงานมันเป็นเรื่องที่ดีแต่เด็กยังไงก็เป็นเด็กยังคงต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอเธอเลยเหมาจนหมดนั่นเอง
“ฮ่าๆๆ!!!...เธอนี่น้า...เล่นอะไรเป็นเด็กๆ” โดมินิคเห็นหญิงสาวพูดไปยิ้มไปเขาก็อดที่จะขำกับท่าทางเธอไม่ได้คราแรกเขาก็นึกตำหนิเธอที่ซื้อมาจนเยอะแยะแต่เมื่อรู้ว่าเธอนั้นประสงค์ดีความรู้สึกดีๆของเขาที่มีต่อเธอมันก็ทำให้เขานั้นต้องมองเธอไปอีกแบบ
“เด็กหรือผู้ใหญ่ก็เล่นได้ทั้งนั้นแหละค่ะมันทำให้โลกสดใสว่าไหมคะ...เอ่อ” มีนชญาแอบเคืองนิดหน่อยที่ชายหนุ่มนั้นว่าเธอเล่นเป็นเด็กๆพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าเจ้าลูกโป่งที่ชายหนุ่มคิดว่ามีแต่เด็กๆเค้าเล่นกันมันสามารถทำให้โลกของผู้ใหญ่แบบเธอสดใสได้เหมือนกันจากคราแรกที่หันไปในสีหน้าที่ขุ่นเคืองชายหนุ่มเล็กน้อยตอนนี้เธอต้องชะงักเพราะเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชายหนุ่มก็ตอนนี้รอยยิ้มของเขามันสามารถสะกดเธอให้แน่นิ่งไปเลยทีเดียว
“มองอะไรมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่จ้องมาที่ใบหน้าของเขาจนเขานั้นต้องกลับมาสู่โหมดหน้านิ่งอีกครั้งเพราะรู้สึกประหม่านิดหน่อยที่หญิงสาวเอาแต่จ้องหน้าเขาแบบนั้น
“รู้ไหมคะคุณนิคยิ้มหัวเราะแล้วดูดีมากเลยนะคะ...แต่ทำไมคุณนิคไม่ค่อยยิ้มล่ะคะ” เมื่อได้ยินคำถามจากคนที่กำลังกลับเข้าสู่โหมดหน้านิ่งหญิงสาวเองก็ต้องหลุดจากภวังค์พร้อมทั้งบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความหวังดีว่าเวลาที่เขายิ้มหัวเราะนั้นมันทำให้เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนและก็ต้องมีคำถามให้เขาต่อว่าทำไมคนอย่างเขาถึงดูเป็นคนที่ยิ้มยากนั่นเอง
“เอ่อ..ฉันเป็นคนยิ้มไม่เก่ง...เราไปกันเถอะใกล้ถึงบ้านเธอหรือยัง” โดมินิคถึงกับไปไม่ถูกที่หญิงสาวพูดกับเขาตรงๆแบบนี้จึงให้คำตอบกับเธอไปว่าเขานั้นยิ้มไม่เก่งและหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นถามทางกลับบ้านของเธอทันที
ถ้าเธอไม่ใช่แม่บ้านของเขาชายหนุ่มคงจะคิดว่าเธอกำลังป้อนคำหวานจีบเขาอยู่เป็นแน่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเมื่อครู่เขานั้นทั้งเผลอยิ้มและหัวเราะออกมาได้อย่างไรทั้งที่เขานั้นไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานแล้ว
“อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ” มีนชญาลืมไปว่าชายหนุ่มเสียเวลามาส่งเธอนานมากแล้วจึงบอกกกับเขาว่าอีกครู่เดียวก็น่าจะถึงเพราะจากที่เธอดูจีพีเอสมันอยู่ห่างไปอีกแค่ประมาณสองกิโลแค่นั้นเอง
“จอดข้างหน้าเลยค่ะเพราะบ้านมีนต้องเดินเข้าไป” มีนชญาเห็นว่ามันใกล้ถึงจุดหมายแล้วข้างหน้าที่เธอเห็นค่อนข้างเป็นชุมชนที่แออัดหญิงสาวแอบคิดในใจที่แน็ทตี้นั้นสั่งโลเคชั่นมาถูกใจเธอจริงๆเพราะข้างในนั้นรถยนต์ไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้ทำให้เธอไม่จำเป็นต้องบอกกับชายหนุ่มว่าบ้านเธออยู่หลังไหน
“แน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันเดินเข้าไปส่ง” โดมินิคเห็นหญิงสาวกำลังจะเปิดประตูออกจากรถเขาจึงถามเธอให้แน่ใจว่าเธอนั้นเดินเข้าไปคนเดียวได้จริงหรือเพราะมันค่อนข้างมืดแล้วก็ค่อนข้างเปลี่ยวอีกด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าหญิงสาวอยู่ที่นี่คนเดียวก็เป็นที่ที่อันตรายน่าดู
“ไม่ต้องหรอกค่ะ...มีนเดินเข้าไปเองได้นิดเดียวเองค่ะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มมีทีท่าที่เป็นห่วงก็แหงล่ะใครเห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยทั้งนั้นเธอเลยบอกกับเขาว่าบ้านเธอนั้นอยู่ไม่ลึกเขาจะได้สบายใจว่าเธอจะปลอดภัยจะได้ไม่ต้องเดินไปส่ง
“ฉันว่าที่นี่มันค่อนข้างเปลี่ยวสำหรับการอยู่คนเดียวนะ...เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เธอเก็บของไปพักที่บ้านฉันดีกว่าเพราะห้องที่ฉันทำให้ชอวไม่มีใครพัก”
โดมินิคคิดว่าหากหญิงสาวตัวคนเดียวจะอยู่ในพื้นที่แบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่เขาจึงบอกให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขาเพราะมันปลอดภัยกว่าการอยู่ที่นี่คนเดียวอีกอย่างก็ไม่ต้องไปๆกลับๆด้วยเขาให้เธอมาอยู่ห้องของชอวเพราะห้องนั้นก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว“ให้มีนพักที่นั่นได้เหรอคะ...ขอบคุณนะคะคุณนิค...เดี๋ยวมีนแบ่งลูกโป่งให้คุณเป็นการตอบแทนนะคะ” มีนชญาถึงกับตาลุกวาวเกี่ยวกับข้อเสนอของชายหนุ่มที่ให้เธอมาเพราะนี่คือโอกาสของเธอที่จะได้อยู่ใกล้ชายหนุ่มแทบจะตลอดเวลาแล้วหญิงสาวรีบขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่พร้อมทั้งทำสีหน้าสำนึกในบุญคุณอย่างเห็นได้ชัดตอนนี้เธอนั้นอยากจะนั่งขอบคุณเขาสักชั่งโมงแต่มันก็น่าจะเสียเวลาเกินไปเมื่อเห็นว่าลูกโป่งของเธอนั้นมันก็ซื้อมาเยอะอยู่เธอจึงคิดว่าควรจะแบ่งให้เขานั้นเอาไปดูเล่นบ้างจะดีกว่าเผื่อหน้าตาของเขาจะสดใสมากกว่านี้“เธอเอากลับไปให้หมดนั่นแหละ...ฉันไม่รู้ว่าจะเอาลูกโป่งไปทำอะไร” โดมินิครีบปฏิเสธหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่ได้ชอบของอะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว“เอาไปเถอะค่ะ...มันจะทำคุณนิคยิ้มง่ายนะคะดูสิคะมันโคตรน่ารักเลย...นี่ค่ะมีนให้คุณนิคมีนไปแล้วนะคะบ๊ายบายค่ะ”มีนชญาพยายา
“ขอบคุณค่ะ” มีนชญารีบรับกุญแจห้องจากชายหนุ่มพร้อมขอบคุณคนตรงหน้าที่ใจดีกับเธอทันที“เดี๋ยวฉันออกไปวิ่งสักครึ่งชั่วโมงเธอเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉันด้วยนะ” โดมินิคกำลังจะออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆพร้อมบอกให้หญิงสาวทำอาหารเขช้ารอเขาไว้ได้เลยเพราะเขาจะไปวิ่งแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น“ค่ะ” มีนชญาถึงกับยิ้มหน้าบานเพราะได้ยินว่าชายหนุ่มนั้นจะออกไปวิ่งตั้งครึ่งชั่วโมงเธอเห็นว่าเป็นการดีที่ชายหนุ่มไม่อยู่ในช่วงเวลาเตรียมอาหารเพราะเธอนั้นจะสั่งจากร้านมาให้เขานั่นเองมาให้เธอนั่งดูสูตรทำอีกเธอกะว่าคงจะไม่รอด“ตอนนี้ก็ต้องสั่งอาหารก่อน” มีนชญามองชายหนุ่มจนเขานั้นเดินออกไปจากตัวบ้านเรียบร้อยแล้วเธอจึงยกมือถือมาโทรสั่งอาหารจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านดังมาให้ชายหนุ่มทีเดียวครบทั้งสามมื้อเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วเธอจึงยกกระเป๋าที่ขนมาเข้าไปเก็บในห้องที่ชายหนุ่มนั้นพึ่งยื่นกุญแจให้กับเธอ20 นาทีผ่านไป“เฮ้อ...เสร็จซะที” หลังจากจัดแจงเก็บของเข้าที่เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนุ่มทันทีRrrrrrrrrrrrrr“สวัสดีค่ะ....โอเคค่ะเดี๋ยวฉันออกไปรับ” ขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆหญิงสาว
แบบนี้ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมแล้วหละแต่เมื่อคิดไปคิดมาชุดก็มีตั้งสามชุดชายหนุ่มอาจจะไม่เลือกใส่ชุดที่เธอทำมันไหม้ก็เป็นได้ตอนนี้หญิงสาวเลยปิดเพลงพร้อมตั้งหน้าตั้งตารีดต่อ“เฮ้ยย...นี่มันผ้าอะไรกันเนี่ยรีดทีไรไหม้ทุกที” มีนชญารีดผ้าไปบ่นไปเพราะผ้าที่เธอลงเตารีดนาบไปนั้นมันก็มีรอยไหม้ทันทีจนเธอไม่เข้าใจว่าแล้วผ้าแบบนี้เขาต้องใช้เตารีดอะไรรีดกันแต่มีอย่างหนึ่งที่หญิงสาวลืมไปก็คือการเบาความร้อนของเตารีดนั่นเอง“ถ้าจะไหม้หมดอย่างนี้...ก็คงต้องรีดแค่นี้แล้วแหละ...เฮ้อ..มีนท้อแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าชุดที่รีดไปทั้งสองชุดของชายหนุ่มมีรอยไหม้เกือบจะทุกตัวจนเธอท้อใจไม่อยากจะรีดต่อเพราะไม่อยากจะทำชุดของชายหนุ่มพังเลยปล่อยอีกชุดที่สภาพดีเอาไว้แต่เธอก็ยังไม่ได้รีดพลางคิดในใจว่าหากชายหนุ่มอยากจะใส่ชุดดีๆก็กลับมารีดเองแล้วกันตอนนี้เธอยอมโดนตำหนิแล้วหละเพราะไม่ไหวกับการรีดผ้าแบบนี้เลยจริงๆไม่รู้ว่าเสื้อผ้าชายหนุ่มนั้นสั่งทำด้วยอะไรถึงได้ดูบอบบางแบบนี้เช้าวันต่อมา06.30 น.ปั้งๆๆๆๆ“ฟ้าผ่า...ฟ้าผ่า” มีนชญาถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจเพราะสียงดังจากการเคาะประตูห้องของเธอจนคิดว่าวันนี้มีฟ้าผ่าแต่เช้าเมื
“เธอ...อย่าลืมตานะ” ในขณะที่หญิงสาวนั้นล้มลงไปเธอก็ดึงเอาผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวที่พันท่อนล่างของเขาอยู่ไปด้วยทำให้ตอนนี้ชายหนุ่มเหลือตัวล่อนจ้อนจึงรีบบอกให้หญิงสาวที่กำลังจะเงยหน้ามาหลับตาลงทันทีเพราะกลัวว่าเธอนั้นจะเห็นของสงวนของเขาที่ไม่อยากให้ใครเห็นนั่นเอง“อะ..อร้ายยยยยย” มีนชญาที่ไม่ทันได้ฟังที่ชายหนุ่มพูดเธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเพราะภาพอนาจารตรงหน้าและรีบลุกวิ่งออกไปจากห้องนี้ทันทีเพราะค่อนข้างตกใจเพราะเกิดมาก็ไม่เคยต้องมาเห็นอะไรแบบนี้“มีน..มีนน..โถ่เอ้ย!!!บอกให้ปิดตาไงเล่า” โดมินิครีบหยิบผ้าขนหนูที่ร่วงอยู่กับพื้นมาพันตัวทันทีพร้อมร้องเรียกหญิงสาวแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้วและแบบนี้เขาจะกล้ามองหน้าเธอติดไหมล่ะทีนี้ชายหนุ่มไม่ได้ตามเธอออกไปเพราะตอนนี้เขาต้องรีบแต่งตัวและออกไปประชุมแล้วเรื่องหญิงสาวเขาค่อยกลับมาเคลียทีหลังก็แล้วกันโรงแรมXXX08.00 น.“นี่เอกสารทั้งหมดครับนาย” ชอวยื่นแฟ้มเอกสารรายงานเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดให้กับเจ้านายหนุ่มของเขาที่หน้าห้องประชุมหลังจากที่สรุปกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวานเกี่ยวกับประเด็นที่จะเสนอแก้ไขปรับปรุงนิดหน่อย“แน็ทตี้มาห
“นี่เธอถามละเอียดยิบขนาดนี้เป็นเมียฉันรึไง”โดมินิคเข้ามานั่งที่ฝั่งคนขับพร้อมสตาร์ทรถเพื่อที่จะพาหญิงสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลเขาถึงกับต้องเอ่ยแซวหญิงสาวที่ยิงคำถามใส่เขาโดยที่ไม่รอเว้นจังหวะให้เขานั้นตอบกลับเธอเลย“อะ...เอ่อ...มีนก็แค่อยากรู้เฉยๆค่ะ...ไม่บอกก็ไม่เป็นไร” มีนชญามีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นแกล้งแซวเธอพร้อมบอกกับเขาว่าเธอแค่อยากรู้เฉยๆไม่ได้จู้จี้ซะหน่อยและถ้าหากเขาไม่บอกก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย“ฉันไปประมาณสักสิบกว่าวัน...ก็ดีสำหรับเธอนะเธอจะได้พักด้วยเพราะว่าเจ็บอยู่” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวมีสีหน้าที่เจื่อนลงไปเขาจึงบอกเวลาที่เขาไปว่าประมาณกี่วันและอีกใจของเขาก็คิดว่าดีเหมือนกันที่เขานั้นกลับอิตาลีในขณะที่หญิงสาวนั้นเจ็บอยู่เธอจะได้พักผ่อนไปในตัวด้วยเลย“...สิบกว่าวัน..ดีค่ะ...” มีนชญาคิดอยู่ในใจว่าเวลาสิบกว่าวันกว่าชายหนุ่มจะกลับมาเป็นเวลาที่เธอต้องทำตามแผนพอดีตอนนี้เลยนั่งฉีกยิ้มอยู่คนเดียวจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆถึงกับส่ายหัวให้กับอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอเสียจริงพร้อมขับรถมุ่งหน้าพาหญิงสาวไปหาหมออย่างไม่สนใจว่าคนข้างๆนั้นจะนั่งยิ้มอะไรนักหนาโรงพยาบาลXXX
“เอ้า...คุณนิคเองเหรอคะมีอะไรหรือเปล่าคะมีนก็ว่าเบอร์ใคร” มีนชญาคลายสงสัยทันทีเมื่อปลายสายยอมพูดเสียทีว่าเขานั้นเป็นใครพร้อมถามเขาต่อว่าที่โทรหาเธอนั้นเขามีธุระอะไร“เอ่อ...คือจะโทรมาถามว่าข้อเท้าเธอเป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะตอนนี้มีนเดินได้สะดวกแล้วค่ะ”“แล้ว...เอ่อ...เธออย่าลืมไปรีดผ้าในตู้ของฉันด้วยล่ะ” โดมินิคยังพยายามหาเรื่องที่จะถามไถ่หญิงสาวทั้งที่เขานั้นไม่จำเป็นต้องห่วงคนที่เป็นแม่บ้านขนาดนี้ก็ได้แต่แปลกที่เขานั้นรู้สึกห่วงเธอ“มีนทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะรับรองไม่มีปัญหาเหมือนคราวก่อนแน่ค่ะ..คุณนิคมีอะไรจะให้มีนทำอีกหรือเปล่าคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มนั้นคงจะโทรมาตรวจความเรียบร้อยภายในบ้านเป็นแน่เธอจึงบอกกับเขาไปว่างานทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ต้องเป็นห่วง“แล้ว.....เธอทานข้าวหรือยัง” โดมินิคเองก็ไม่รู้จะคุยเรื่องงานอะไรกับเธอต่อเพราะงานที่เขาจะสั่งเธอหญิงสาวก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้วเขาเองก็จำต้องหาเรื่องอื่นคุยกับเธอเพราะอยากได้ยินเสียงของเธอนานๆมันทำให้เขานั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี“เรียบร้อยค่ะคุณนิคอิ่มจนพุงกางแล้วค่ะ...คุณนิคล่ะคะอยู่ที่โน่นทานอาหารตรงเวลา
“เอ่อ...ครับเธอน่าจะชอบนะครับ” ชอวอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นของใครพร้อมบอกกกับเจ้านายหนุ่มเพื่อเป็นกำลังใจว่าของสิ่งนี้มีนชญาน่าจะชอบดูจากที่เขารู้จักนิสัยของเธอและตอนนี้ยังรู้อีกว่าสิ่งที่เขาสงสัยอยู่นั้นมันน่าจะเป็นความจริงว่าเจ้านายหนุ่มของเขานั้นกำลังหลงเสน่ห์แม่บ้านคนใหม่นี้อยู่เป็นแน่แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะเตือนอะไรเพราะหญิงสาวก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรและอีกอย่างยังทำให้เจ้านายของเขายิ้มได้อีกต่างหากเรื่องชนชั้นเขารู้ว่าเจ้านายของเขาเคยเหยียดใครอยู่แล้วเมื่อเจ้านายของเขานั้นเจอคนที่ถูกใจเขาก็พร้อมยินดีด้วยเพราะอายุเจ้านายของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วควรที่จะเลือกใครเพื่อมีครอบครัวได้แล้ว“อืม...ไปกันเถอะ”ประเทศไทยเช้าวันต่อมา“เรียบร้อยแล้วนายไปพักเถอะฉันให้เวลาพักสองสามวัน” หลังจากที่ชอวช่วยเขาเอากระเป๋าเข้ามาเก็บที่ห้องเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงบอกให้เขานั้นไปพักได้เพราะเขาเองก็ว่าจะพักการทำงานสักสองสามวันหลังจากที่ทำงานกันอย่างหนักมาหลายวันแล้ว“ขอบคุณครับนาย...” ชอวเดินออกจากบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะรู้ตัวว่าจะได้พักเขาเองก็กะว่าจะหาที่เที่ยวพักผ่อนเหมือนกันเพราะเคยอยาก
ทางด้านโดมินิคตอนนี้ชายหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการจัดชุดเพื่อไปเที่ยวกับหญิงสาวเขารู้สึกว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปตั้งแต่มีหญิงสาวเข้ามาในบ้านตอนนี้เขาจำต้องตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่าเขานั้นคิดยังไงกับหญิงสาวกันแน่จากที่ไม่ชอบเที่ยวก็อยากจะไปเที่ยวกับเธอและจากที่ชอบอยู่คนเดียวก็ชอบนึกถึงแต่หญิงสาวตลอดระยะเวลาไม่นานที่เขารู้จักเธอมันทำให้เขายิ้มมากกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมาเสียอีกเขาคิดว่าการไปเที่ยวกับหญิงสาวครั้งนี้เขาคงจะให้คำตอบกับตัวเองได้แน่ชัดว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่เช้าวันต่อมา“พร้อมที่จะไปแล้วใช่ไหม” โดมินิคกำลังจะเดินไปตามหญิงสาวที่ห้องเพราะว่าเขานั้นเตรียมตัวเสร็จแล้วเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังแบกกระเป๋าออกมาพอดีจึงถามเธอว่าเธอพร้อมแล้วหรือยังหญิงสาวที่อยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีฟ้าขาวแตกต่างจากชุดแม่บ้านที่เขาเคยเห็นมันช่างสะกดสายตาชายหนุ่มให้หยุดนิ่งไปที่เธอได้ดีทีเดียวผิวขาวเนียนกับชุดที่เห็นทรวดทรงของเธอได้ชัดมันทำให้เธอน่าดูไปอีกแบบสำหรับชายหนุ่ม“พร้อมแล้วค่ะ...” มีนชญาเดินนำหน้าชายหนุ่มเอากระเป๋าของเธอไปใส่ที่รถของเขาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มนั้นเดินมาตามเธอเขาก็คงจะเสร