Share

ตอนที่สิบเจ็ด

“ไปกันเถอะ...เดี๋ยวเธอรออยู่ตรงนี้นะฉันไปเอารถออกมาก่อน”

“ค่ะ”

โดมินิคบอกให้หญิงสาวรออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมเดินไปที่โรงจอดรถและขับรถออกมารับเธอ

“โห...รถสปอร์ตเป็นบุญของเราเหมือนกันนะ”    มีนชญายืนรอชายหนุ่มไปขับรถออกมาจากโรงรถด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งนิดหน่อยแต่เมื่อได้ยินเสียงของรถเธอจึงหันไปมองภาพตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันหรูของเขาออกมาเพื่อที่จะไปส่งเธอหญิงสาวถึงกับตาลุกวาวพร้อมบอกกับตัวเองว่าเป็นบุญของเธอที่ได้นั่งรถแพงๆแบบนี้อย่างน้อยเรื่องที่เธอแอบเซ็งอยู่ตอนนี้มันก็ผ่อนคลายหายไปบ้างเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้นั่งรถหรูข้างๆกับผู้ชายที่สุดเพอร์เฟค

30 นาทีต่อมา

“โห...ตรงนี้เค้ามีจัดงานด้วย...คุณนิคคะจอดตรงนี้แปปนึงสิคะ”   เมื่อชายหนุ่มขับรถพามีนชญาออกมาได้พักใหญ่หญิงสาวเห็นว่าที่ข้างทางนั้นเหมือนมีงานวัดอยู่เธอเห็นว่ามีร้านลูกโป่งที่เธอชอบมากๆตั้งแต่เด็กยันโตจึงเอ่ยปากบอกให้ชายหนุ่มนั้นจอดรถให้เธอ

“ได้สิ”   โดมินิคนั้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะให้เขาจอดรถเพื่ออะไรแต่เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองไปที่ข้างทางเขาจึงต้องจอดให้เธอ

“ซื้อลูกโป่งเนี่ยนะ”    โดมินิคจอดรถได้หญิงสาวก็ลงจากรถทันทีเขามองไปที่กระจกหลังเห็นว่าหญิงสาวกำลังซื้อลูกโป่งที่มีเด็กนั่งขายอยู่จนหมดพวงเขาไม่เข้าใจว่าเธอโตป่านนี้แล้วเธอจะซื้อลูกโป่งไปทำอะไร

“คุณนิคคะมาช่วยมีนเอาใส่รถหน่อยสิคะ”   มีนชญาเปิดประตูรถพร้อมยัดลูกโป่งที่เบาะหลังแต่ด้วยลูกโป่งที่ค่อนข้างหลายลูกเลยทำให้เข้าไปในรถยากลำบากหญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มนั้นเอาแต่มองการกระทำของเธอและยังไม่คิดที่จะลงมาช่วยหญิงสาวจึงต้องเอ่ยปากขอร้องให้คนที่นั่งอยู่ลงมาช่วยเธอไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้กลับ

“อะ..เอ่อ..โอเค”  โดมินิคมีสีหน้าที่งงเล็กน้อยไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าใช้เขาแต่เมื่อเห็นว่าเธอเก็บเจ้าลูกโป่งเข้าไปที่เบาะหลังคนเดียวคงจะไม่ไหวเขาเลยจำเป็นต้องลงไปช่วย

“เรียบร้อยไปกันได้แล้วค่ะ”  เมื่อชายหนุ่มเก็บลูกโป่งเข้ารถให้เธอเรียบร้อยแล้วมีนชญาจึงเข้ามานั่งที่เบาะข้างๆคนขับพร้อมบอกให้ชายหนุ่มนั้นพาเธอกลับได้และอมยิ้มให้คนตรงหน้าเล็กน้อยที่เขาเข้ามาช่วยเธอ

“แล้วนี่ซื้อมาทำไมเยอะแยะ”  ด้วยความคาใจของโดมินิคว่าเธอนั้นจะซื้อของพวกนี้มาทำไมเยอะแยะจึงถามเธอขึ้นเมื่อกลับมานั่งที่เบาะคนขับพร้อมปิดประตูเรียบร้อยแล้ว

“มีนชอบลูกโป่งมากๆเลยค่ะอีกอย่างมีนก็อยากช่วยน้องที่นั่งขายลูกโป่งซื้อด้วยเพราะอยากให้น้องเค้ากลับไปนอนเร็วๆค่ะ”

มีนชญาชอบลูกโป่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและเธอยิ่งเห็นเป็นเด็กๆมานั่งขายอีกด้วยเธอเลยตั้งใจซื้อหมดเพราะเด็กๆที่นั่งขายจะได้กลับไปนอนเธอรู้ว่าเด็กๆช่วยพ่อแม่ทำงานมันเป็นเรื่องที่ดีแต่เด็กยังไงก็เป็นเด็กยังคงต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอเธอเลยเหมาจนหมดนั่นเอง

“ฮ่าๆๆ!!!...เธอนี่น้า...เล่นอะไรเป็นเด็กๆ”  โดมินิคเห็นหญิงสาวพูดไปยิ้มไปเขาก็อดที่จะขำกับท่าทางเธอไม่ได้คราแรกเขาก็นึกตำหนิเธอที่ซื้อมาจนเยอะแยะแต่เมื่อรู้ว่าเธอนั้นประสงค์ดีความรู้สึกดีๆของเขาที่มีต่อเธอมันก็ทำให้เขานั้นต้องมองเธอไปอีกแบบ

“เด็กหรือผู้ใหญ่ก็เล่นได้ทั้งนั้นแหละค่ะมันทำให้โลกสดใสว่าไหมคะ...เอ่อ”  มีนชญาแอบเคืองนิดหน่อยที่ชายหนุ่มนั้นว่าเธอเล่นเป็นเด็กๆพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าเจ้าลูกโป่งที่ชายหนุ่มคิดว่ามีแต่เด็กๆเค้าเล่นกันมันสามารถทำให้โลกของผู้ใหญ่แบบเธอสดใสได้เหมือนกันจากคราแรกที่หันไปในสีหน้าที่ขุ่นเคืองชายหนุ่มเล็กน้อยตอนนี้เธอต้องชะงักเพราะเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชายหนุ่มก็ตอนนี้รอยยิ้มของเขามันสามารถสะกดเธอให้แน่นิ่งไปเลยทีเดียว

“มองอะไรมีอะไรหรือเปล่า”  โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่จ้องมาที่ใบหน้าของเขาจนเขานั้นต้องกลับมาสู่โหมดหน้านิ่งอีกครั้งเพราะรู้สึกประหม่านิดหน่อยที่หญิงสาวเอาแต่จ้องหน้าเขาแบบนั้น

“รู้ไหมคะคุณนิคยิ้มหัวเราะแล้วดูดีมากเลยนะคะ...แต่ทำไมคุณนิคไม่ค่อยยิ้มล่ะคะ”   เมื่อได้ยินคำถามจากคนที่กำลังกลับเข้าสู่โหมดหน้านิ่งหญิงสาวเองก็ต้องหลุดจากภวังค์พร้อมทั้งบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความหวังดีว่าเวลาที่เขายิ้มหัวเราะนั้นมันทำให้เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนและก็ต้องมีคำถามให้เขาต่อว่าทำไมคนอย่างเขาถึงดูเป็นคนที่ยิ้มยากนั่นเอง

“เอ่อ..ฉันเป็นคนยิ้มไม่เก่ง...เราไปกันเถอะใกล้ถึงบ้านเธอหรือยัง”   โดมินิคถึงกับไปไม่ถูกที่หญิงสาวพูดกับเขาตรงๆแบบนี้จึงให้คำตอบกับเธอไปว่าเขานั้นยิ้มไม่เก่งและหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นถามทางกลับบ้านของเธอทันที

ถ้าเธอไม่ใช่แม่บ้านของเขาชายหนุ่มคงจะคิดว่าเธอกำลังป้อนคำหวานจีบเขาอยู่เป็นแน่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเมื่อครู่เขานั้นทั้งเผลอยิ้มและหัวเราะออกมาได้อย่างไรทั้งที่เขานั้นไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานแล้ว

“อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ”  มีนชญาลืมไปว่าชายหนุ่มเสียเวลามาส่งเธอนานมากแล้วจึงบอกกกับเขาว่าอีกครู่เดียวก็น่าจะถึงเพราะจากที่เธอดูจีพีเอสมันอยู่ห่างไปอีกแค่ประมาณสองกิโลแค่นั้นเอง

“จอดข้างหน้าเลยค่ะเพราะบ้านมีนต้องเดินเข้าไป”   มีนชญาเห็นว่ามันใกล้ถึงจุดหมายแล้วข้างหน้าที่เธอเห็นค่อนข้างเป็นชุมชนที่แออัดหญิงสาวแอบคิดในใจที่แน็ทตี้นั้นสั่งโลเคชั่นมาถูกใจเธอจริงๆเพราะข้างในนั้นรถยนต์ไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้ทำให้เธอไม่จำเป็นต้องบอกกับชายหนุ่มว่าบ้านเธออยู่หลังไหน

“แน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันเดินเข้าไปส่ง”   โดมินิคเห็นหญิงสาวกำลังจะเปิดประตูออกจากรถเขาจึงถามเธอให้แน่ใจว่าเธอนั้นเดินเข้าไปคนเดียวได้จริงหรือเพราะมันค่อนข้างมืดแล้วก็ค่อนข้างเปลี่ยวอีกด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าหญิงสาวอยู่ที่นี่คนเดียวก็เป็นที่ที่อันตรายน่าดู

“ไม่ต้องหรอกค่ะ...มีนเดินเข้าไปเองได้นิดเดียวเองค่ะ”   มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มมีทีท่าที่เป็นห่วงก็แหงล่ะใครเห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยทั้งนั้นเธอเลยบอกกับเขาว่าบ้านเธอนั้นอยู่ไม่ลึกเขาจะได้สบายใจว่าเธอจะปลอดภัยจะได้ไม่ต้องเดินไปส่ง

“ฉันว่าที่นี่มันค่อนข้างเปลี่ยวสำหรับการอยู่คนเดียวนะ...เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เธอเก็บของไปพักที่บ้านฉันดีกว่าเพราะห้องที่ฉันทำให้ชอวไม่มีใครพัก”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status