“อย่างแรกต้องต้มเส้นก่อน” มีนชญาถือมือถือเพื่อดูสูตรไปพลางๆอย่างแรกที่จะต้องทำคือต้มเส้นสปาเก็ตตี้ก่อนเธอจึงหยิบหม้อใบเล็กที่เหมือนในรูปมาวางบนเตาแล้วใส่น้ำตั้งให้น้ำเดือดแล้วใส่เส้นลงไป
“ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยตามด้วยเกลือป่นด้วยเหรอ....ตายแล้วไม่ได้ซื้อนี่ใช้น้ำมันปาล์มแทนละกันมันคงเหมือนกันนั่นแหละ...อ้าวแล้วเกลือป่น...เฮ้ออ..อีกแล้วนะยัยมีนน้ำปลาแทนละกันมันก็ให้ความเค็มเหมือนกันนั่นแหละ” หญิงสาวอ่านวิธีไปเรื่อยๆขณะที่มือก็หยิบวัตถุดิบตามสูตรที่บอกมาวางไว้ที่เคาเตอร์ทำครัวเมื่ออ่านถึงเทคนิคการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ว่าให้ใส่น้ำมันมะกอกลงไปและเกลือป่นเล็กน้อยหญิงสาวจึงนึกขี้นได้ว่าเธอลืมหยิบมาเธอหยิบมาแค่น้ำมันปาล์มกับน้ำมันถั่วเหลืองมาแค่นั้นและเธอก็ไม่ได้หยิบเกลือป่นมาด้วยหญิงสาวจึงดัดแปลงใช้น้ำมันเหล่านี้ให้มันเป็นประโยชน์และใช้น้ำปลาแทนเกลือเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ให้ความเค็มเหมือนกัน
“หั่นเบคอนเป็นชิ้นเล็กๆเตรียมไว้แล้วก็ตีผสมนมสดกับไข่ไก่เข้าด้วยกัน......” หลังจากที่น้ำเดือดและนำเส้นลงไปต้มแล้วหญิงสาวก็มาอ่านวิธีการทำส่วนประกอบอย่างอื่นต่อยังไงวันนี้เธอก็จะต้องทำเสร็จก่อนที่ชายหนุ่มจะออกมาจากห้องให้ได้หญิงสาวคิดว่าไอ้การผัดอาหารก็คงใช้เวลาไม่นานทำเสร็จแล้วเธอก็คงจะกลับเลยเพราะมันก็น่าจะถึงเวลาเลิกงานของเธอพอดี
“ตอนนี้ก็ต้องผัดเบค่อนกับกระเทียมก่อน” มีนชญาตั้งกระทะคู่กับหม้อต้มสปาเก็ตตี้หลังจากที่เธอหั่นเบค่อนกับกระเทียมเสร็จแล้วหญิงสาวใส่น้ำมันในกระทะเล็กน้อยตามสูตรพร้อมรอให้ร้อนแล้วใส่เบค่อนกับกระเทียมลงไปผัด
“ใส่เส้นลงไปผัด...อ้าวเส้นยังไม่ได้เอาลงจากเตาเลย” เมื่อดูวิธีต่อไปบอกให้นำเส้นลงไปผัดเธอเองลืมไปว่ายังไม่ได้เอาเส้นสปาเก็ตตี้ออกจากหม้อจึงละมือจากการผัดเบค่อนโดยที่ยังไม่ได้ปิดไฟแล้วไปจัดการกับเส้นสปาเก็ตตี้ก่อน
“เรียบร้อยใส่น้ำมันนิดหน่อย” มีนชญารีบปิดไฟที่หม้อต้มเส้นสปาเก็ตตี้พร้อมเทน้ำเย็นลงชามและเอาเส้นจากในหม้อลงแช่น้ำเย็นพร้อมกับเทน้ำเย็นในถ้วยทิ้งและใส่น้ำมันปาล์มเล็กน้อยแทนน้ำมันมะกอกที่เธอไม่ได้ซื้อมา
“อ้าว...เฮ้ยไหม้ๆ...ว่าแล้วกลิ่นอะไร” เมื่อเตรียมเส้นสปาเก็ตตี้เรียบร้อยแล้วเธอจึงหันมาที่กระทะเพื่อที่จะนำเส้นลงไปผัดแต่ตอนนี้ด้วยความที่เธอลืมเบาไฟและไปทำอย่างอื่นจึงทำให้กระเทียมและเบค่อนมันไหม้แทบจะเกรียมไปหมดหญิงสาวจำต้องวางชามใส่เส้นสปาเก็ตตี้เอาไว้ก่อนและปิดไฟที่กระทะเบค่อนตอนนี้เบค่อนที่เธอซื้อมาก็หมดแล้วด้วยเพราะเธอซื้อมาแค่ห่อเล็กห่อเดียวตอนนี้เบค่อนทั้งหมดก็นอนกระดำกระด่างแต่ก็เห็นสีชมพูบ้างอยู่บนกะทะอยู่ตรงหน้าเธอ
“เฮ้อ...จะทำไงต่อล่ะเนี่ย...คุณทานแบบนี้ไปก่อนแล้วกันนะคุณโดมินิควันหลังเดี๋ยวมีนจะแก้มือให้” มีนชญาเห็นว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วเธอจะหาซื้อวัตถุดิบใหม่ก็คงจะไม่ทันเลยผัดมันไปเสียแบบนั้นเลยถ้าหากว่าชายหนุ่มจะมีปัญหาเดี๋ยวเธอค่อยแก้สถานการณ์ตรงหน้าเอาก็แล้วกัน
18.00 น.
“เรียบร้อยซะที” กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นไปก็เล่นเอาซะหญิงสาเหงื่อตกเพราะการจัดแจงวัตถุดิบแต่ละอย่างมันทำให้ห้องค่อนข้างเลอะน้ำมันที่กระเด็นจากการผัดเบค่อนก็ทำให้พื้นมันอีกด้วยเมื่อหญิงสาวทำอาหารเสร็จแล้วก็ยังคงต้องทำความสะอาดห้องครัวต่อตามที่แน็ทตี้ได้กำชับเธอเอาไว้ว่าทุกอย่างต้องสะอาดอยู่เสมอ
“อาหารเย็นของฉันได้แล้วใช่ไหม” โดมินิคนั้นออกมาจากห้องในเวลาอาหารเย็นพอดีเขาเดินไปดูที่โต๊ะอาหารแต่ก็ยังไม่มีอาหารวางอยู่จึงเดินเข้ามาในห้องครัวเมื่อเห็นว่าแม่บ้านคนใหม่ของเขานั่งอยู่จึงเอ่ยถามว่าอาหารเย็นได้หรือยัง
“อ๋อ...ค่ะคุณเจ้านายเดี๋ยวคุณไปรอมีนที่โต๊ะอาหารเลยค่ะ” มีนชญาที่กำลังนั่งปาดเหงื่ออยู่เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มเธอถึงกับเด้งตัวยืนขึ้นมาทันทีพร้อมบอกว่าอาหารนั้นเสร็จแล้วและให้เขานั้นไปรอที่โต๊ะอาหารได้เลยเดี๋ยวเธอจะยกไปเสริฟถึงที่
“โอเค” โดมินิคได้ยินว่าอาหารนั้นเสร็จแล้วเขาจึงเดินออกไปรอที่โต๊ะอาหารทันทีตอนนี้เขาหิวมากเพราะเมื่อกลางวันนอนพักเลยไม่ได้ทานอะไรและหวังว่าฝีมือของหญิงสาวจะทำให้เขานั้นประทับใจ
“อาหารมาแล้วค่ะ...มีนจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วขอตัวกลับก่อนนะคะ” มีนชญาเดินถือถาดอาหารที่มีฝาปิดมาวางตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมขอตัวกลับทันทีเพราะเธอไม่อยู่ตรงนี้หลังจากที่ชายหนุ่มนั้นเห็นหน้าตาอาหารแล้ว
“เดี๋ยวนั่นถุงอะไร...อาหารเย็นของเธอใช่หรือเปล่า” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวถือถุงที่ข้างในมีก้อนกลมๆสองก้อนและมีพวกถุงผักอยู่ด้วยเขาคิดว่าน่าจะเป็นอาหารของหญิงสาวถ้ามันเป็นอาหารเย็นของเธอเขาก็จะให้เธอนั่งทานเสียที่นี่เลยเพราะมันเย็นแล้วอีกอย่างกว่าเธอจะกลับถึงบ้านมันก็น่าจะเลยเวลาอาหารแล้วด้วย
“อ๋อ...อาหารเย็นของมีนน่ะค่ะ” หญิงสาวหันมาหาชายหนุ่มพร้อมยกถุงที่เธอถือขึ้นแล้วบอกกับคนตรงหน้าว่านี่มันเป็นถุงอาหารเย็นของเธอหญิงสาวไม่เข้าใจว่าเขาจะมาสนใจอะไรกับถุงผัดไทเธอด้วย
“มานั่งทานด้วยกันสิ” ในเมื่อมันเป็นอาหารเย็นของหญิงสาวแบบที่เขาคิดเขาจึงถือโอกาสชวนเธอมานั่งทานด้วยกันเสียเลยเพราะเขานั้นก็ไม่ได้ถืออะไรอยู่แล้วในเมื่อตอนนี้อยู่กันแค่สองคนเขาไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างที่จะนั่งทานข้าวพร้อมกันโต๊ะเดียวกับลูกจ้างไม่ได้
“คะ” มีนชญาตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็มาชวนให้เธอนั่งทานอาหารด้วยกัน
“ก็นี่มันเป็นเวลาอาหารเย็นแล้วเธอมานั่งทานกับฉันนี่แหละแล้วค่อยกลับ” โดมินิคเห็นหญิงสาวมีสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจที่ชวนเธอนั่งทานอาหารด้วยกันจึงต้องบอกเหตุผลออกไป
“เอ่อ...จะดีเหรอคะ” มีนชญาคิดว่ามันเป็นนิสัยที่ดีของชายหนุ่มอีกอย่างหนึ่งที่เขาไม่ถือตัวแต่เธอนั้นอยากกลับไปทานที่บ้านของแน็ทตี้มากกว่าเพราะเธอกลัวว่าเขานั้นจะบ่นเธอเรื่องอาหารที่ทำให้เขาน่ะสิ
“ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำสอง” โดมินิคเริ่มเปลี่ยนสีหน้าที่หญิงสาวนั้นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ”มีนชญาเห็นท่าไม่ค่อยดีแล้วถ้าหากเธอไม่นั่งทานอาหารโต๊ะเดียวกันกับเขาตามที่เขาสั่งเธอมีหวังเขาคงไม่พอใจเธอเป็นแน่“เอ่อ...แล้วทำไมสีมันเป็นแบบนี้” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวจัดอาหารใส่จานมานั่งทานข้างๆเขาเรียบร้อยแล้วเขาจึงเปิดฝาครอบจานอาหารของเขาขึ้นเขาแปลกใจนิดหน่อยที่สีสันสปาเก็ตตี้จานนี้มันดูแปลกๆค่อนข้างที่จะสีหมองผิดปกติจึงหันไปถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆว่าทำไมอาหารของเขามันจึงมีหน้าตาและสีสันเป็นแบบนี้“อะ..อ๋อ...มันเป็นสูตรน่ะค่ะอร่อยนะคะคุณเจ้านายลองดู” มีนชญาที่กำลังจะตักผัดไทเข้าปากเธอถึงกับต้องวางช้อนลงทันทีตอนนี้หน้าเธอเจื่อนลงนิดหน่อยเพราะหากจะตอบไปว่าเธอนั้นทำไม่เป็นก็คงจะไม่ได้จึงแกล้งบอกไปว่ามันเป็นสูตรของเธอเองและเธอก็บอกเขาอีกว่ามันอร่อย“เธอเลิกเรียกฉันว่าคุณเจ้านายได้แล้วฟังแล้วมันแปลกๆเรียกว่าคุณนิคก็พอ” โดมินิคไม่ได้สนใจที่จานอาหารของเขาแล้วตอนนี้เขารู้สึกอยากปรับคำพูดให้หญิงสาวมากกว่าเพราะเขานั้นรู้สึกว่าคำที่เธอเรียกเขานั้นมันช่างดูแปลกๆขัดหูอย่างไงบอกไม่ถูกจึงให้เธอเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อเล่นของเขาจะดีกว่า“ก็ได้ค่ะ” มีนชญายิ้มรับที่ชายหนุ่มนั้นย
“ไปกันเถอะ...เดี๋ยวเธอรออยู่ตรงนี้นะฉันไปเอารถออกมาก่อน”“ค่ะ”โดมินิคบอกให้หญิงสาวรออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมเดินไปที่โรงจอดรถและขับรถออกมารับเธอ“โห...รถสปอร์ตเป็นบุญของเราเหมือนกันนะ” มีนชญายืนรอชายหนุ่มไปขับรถออกมาจากโรงรถด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งนิดหน่อยแต่เมื่อได้ยินเสียงของรถเธอจึงหันไปมองภาพตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันหรูของเขาออกมาเพื่อที่จะไปส่งเธอหญิงสาวถึงกับตาลุกวาวพร้อมบอกกับตัวเองว่าเป็นบุญของเธอที่ได้นั่งรถแพงๆแบบนี้อย่างน้อยเรื่องที่เธอแอบเซ็งอยู่ตอนนี้มันก็ผ่อนคลายหายไปบ้างเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้นั่งรถหรูข้างๆกับผู้ชายที่สุดเพอร์เฟค30 นาทีต่อมา“โห...ตรงนี้เค้ามีจัดงานด้วย...คุณนิคคะจอดตรงนี้แปปนึงสิคะ” เมื่อชายหนุ่มขับรถพามีนชญาออกมาได้พักใหญ่หญิงสาวเห็นว่าที่ข้างทางนั้นเหมือนมีงานวัดอยู่เธอเห็นว่ามีร้านลูกโป่งที่เธอชอบมากๆตั้งแต่เด็กยันโตจึงเอ่ยปากบอกให้ชายหนุ่มนั้นจอดรถให้เธอ“ได้สิ” โดมินิคนั้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะให้เขาจอดรถเพื่ออะไรแต่เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองไปที่ข้างทางเขาจึงต้องจอดให้เธอ“ซื้อลูกโป่งเนี่ยนะ” โดมินิคจอดรถได้หญิงสาวก็ลงจากรถทันทีเขามองไ
โดมินิคคิดว่าหากหญิงสาวตัวคนเดียวจะอยู่ในพื้นที่แบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่เขาจึงบอกให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขาเพราะมันปลอดภัยกว่าการอยู่ที่นี่คนเดียวอีกอย่างก็ไม่ต้องไปๆกลับๆด้วยเขาให้เธอมาอยู่ห้องของชอวเพราะห้องนั้นก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว“ให้มีนพักที่นั่นได้เหรอคะ...ขอบคุณนะคะคุณนิค...เดี๋ยวมีนแบ่งลูกโป่งให้คุณเป็นการตอบแทนนะคะ” มีนชญาถึงกับตาลุกวาวเกี่ยวกับข้อเสนอของชายหนุ่มที่ให้เธอมาเพราะนี่คือโอกาสของเธอที่จะได้อยู่ใกล้ชายหนุ่มแทบจะตลอดเวลาแล้วหญิงสาวรีบขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่พร้อมทั้งทำสีหน้าสำนึกในบุญคุณอย่างเห็นได้ชัดตอนนี้เธอนั้นอยากจะนั่งขอบคุณเขาสักชั่งโมงแต่มันก็น่าจะเสียเวลาเกินไปเมื่อเห็นว่าลูกโป่งของเธอนั้นมันก็ซื้อมาเยอะอยู่เธอจึงคิดว่าควรจะแบ่งให้เขานั้นเอาไปดูเล่นบ้างจะดีกว่าเผื่อหน้าตาของเขาจะสดใสมากกว่านี้“เธอเอากลับไปให้หมดนั่นแหละ...ฉันไม่รู้ว่าจะเอาลูกโป่งไปทำอะไร” โดมินิครีบปฏิเสธหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่ได้ชอบของอะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว“เอาไปเถอะค่ะ...มันจะทำคุณนิคยิ้มง่ายนะคะดูสิคะมันโคตรน่ารักเลย...นี่ค่ะมีนให้คุณนิคมีนไปแล้วนะคะบ๊ายบายค่ะ”มีนชญาพยายา
“ขอบคุณค่ะ” มีนชญารีบรับกุญแจห้องจากชายหนุ่มพร้อมขอบคุณคนตรงหน้าที่ใจดีกับเธอทันที“เดี๋ยวฉันออกไปวิ่งสักครึ่งชั่วโมงเธอเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉันด้วยนะ” โดมินิคกำลังจะออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆพร้อมบอกให้หญิงสาวทำอาหารเขช้ารอเขาไว้ได้เลยเพราะเขาจะไปวิ่งแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น“ค่ะ” มีนชญาถึงกับยิ้มหน้าบานเพราะได้ยินว่าชายหนุ่มนั้นจะออกไปวิ่งตั้งครึ่งชั่วโมงเธอเห็นว่าเป็นการดีที่ชายหนุ่มไม่อยู่ในช่วงเวลาเตรียมอาหารเพราะเธอนั้นจะสั่งจากร้านมาให้เขานั่นเองมาให้เธอนั่งดูสูตรทำอีกเธอกะว่าคงจะไม่รอด“ตอนนี้ก็ต้องสั่งอาหารก่อน” มีนชญามองชายหนุ่มจนเขานั้นเดินออกไปจากตัวบ้านเรียบร้อยแล้วเธอจึงยกมือถือมาโทรสั่งอาหารจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านดังมาให้ชายหนุ่มทีเดียวครบทั้งสามมื้อเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วเธอจึงยกกระเป๋าที่ขนมาเข้าไปเก็บในห้องที่ชายหนุ่มนั้นพึ่งยื่นกุญแจให้กับเธอ20 นาทีผ่านไป“เฮ้อ...เสร็จซะที” หลังจากจัดแจงเก็บของเข้าที่เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนุ่มทันทีRrrrrrrrrrrrrr“สวัสดีค่ะ....โอเคค่ะเดี๋ยวฉันออกไปรับ” ขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆหญิงสาว
แบบนี้ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมแล้วหละแต่เมื่อคิดไปคิดมาชุดก็มีตั้งสามชุดชายหนุ่มอาจจะไม่เลือกใส่ชุดที่เธอทำมันไหม้ก็เป็นได้ตอนนี้หญิงสาวเลยปิดเพลงพร้อมตั้งหน้าตั้งตารีดต่อ“เฮ้ยย...นี่มันผ้าอะไรกันเนี่ยรีดทีไรไหม้ทุกที” มีนชญารีดผ้าไปบ่นไปเพราะผ้าที่เธอลงเตารีดนาบไปนั้นมันก็มีรอยไหม้ทันทีจนเธอไม่เข้าใจว่าแล้วผ้าแบบนี้เขาต้องใช้เตารีดอะไรรีดกันแต่มีอย่างหนึ่งที่หญิงสาวลืมไปก็คือการเบาความร้อนของเตารีดนั่นเอง“ถ้าจะไหม้หมดอย่างนี้...ก็คงต้องรีดแค่นี้แล้วแหละ...เฮ้อ..มีนท้อแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าชุดที่รีดไปทั้งสองชุดของชายหนุ่มมีรอยไหม้เกือบจะทุกตัวจนเธอท้อใจไม่อยากจะรีดต่อเพราะไม่อยากจะทำชุดของชายหนุ่มพังเลยปล่อยอีกชุดที่สภาพดีเอาไว้แต่เธอก็ยังไม่ได้รีดพลางคิดในใจว่าหากชายหนุ่มอยากจะใส่ชุดดีๆก็กลับมารีดเองแล้วกันตอนนี้เธอยอมโดนตำหนิแล้วหละเพราะไม่ไหวกับการรีดผ้าแบบนี้เลยจริงๆไม่รู้ว่าเสื้อผ้าชายหนุ่มนั้นสั่งทำด้วยอะไรถึงได้ดูบอบบางแบบนี้เช้าวันต่อมา06.30 น.ปั้งๆๆๆๆ“ฟ้าผ่า...ฟ้าผ่า” มีนชญาถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจเพราะสียงดังจากการเคาะประตูห้องของเธอจนคิดว่าวันนี้มีฟ้าผ่าแต่เช้าเมื
“เธอ...อย่าลืมตานะ” ในขณะที่หญิงสาวนั้นล้มลงไปเธอก็ดึงเอาผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวที่พันท่อนล่างของเขาอยู่ไปด้วยทำให้ตอนนี้ชายหนุ่มเหลือตัวล่อนจ้อนจึงรีบบอกให้หญิงสาวที่กำลังจะเงยหน้ามาหลับตาลงทันทีเพราะกลัวว่าเธอนั้นจะเห็นของสงวนของเขาที่ไม่อยากให้ใครเห็นนั่นเอง“อะ..อร้ายยยยยย” มีนชญาที่ไม่ทันได้ฟังที่ชายหนุ่มพูดเธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเพราะภาพอนาจารตรงหน้าและรีบลุกวิ่งออกไปจากห้องนี้ทันทีเพราะค่อนข้างตกใจเพราะเกิดมาก็ไม่เคยต้องมาเห็นอะไรแบบนี้“มีน..มีนน..โถ่เอ้ย!!!บอกให้ปิดตาไงเล่า” โดมินิครีบหยิบผ้าขนหนูที่ร่วงอยู่กับพื้นมาพันตัวทันทีพร้อมร้องเรียกหญิงสาวแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้วและแบบนี้เขาจะกล้ามองหน้าเธอติดไหมล่ะทีนี้ชายหนุ่มไม่ได้ตามเธอออกไปเพราะตอนนี้เขาต้องรีบแต่งตัวและออกไปประชุมแล้วเรื่องหญิงสาวเขาค่อยกลับมาเคลียทีหลังก็แล้วกันโรงแรมXXX08.00 น.“นี่เอกสารทั้งหมดครับนาย” ชอวยื่นแฟ้มเอกสารรายงานเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดให้กับเจ้านายหนุ่มของเขาที่หน้าห้องประชุมหลังจากที่สรุปกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวานเกี่ยวกับประเด็นที่จะเสนอแก้ไขปรับปรุงนิดหน่อย“แน็ทตี้มาห
“นี่เธอถามละเอียดยิบขนาดนี้เป็นเมียฉันรึไง”โดมินิคเข้ามานั่งที่ฝั่งคนขับพร้อมสตาร์ทรถเพื่อที่จะพาหญิงสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลเขาถึงกับต้องเอ่ยแซวหญิงสาวที่ยิงคำถามใส่เขาโดยที่ไม่รอเว้นจังหวะให้เขานั้นตอบกลับเธอเลย“อะ...เอ่อ...มีนก็แค่อยากรู้เฉยๆค่ะ...ไม่บอกก็ไม่เป็นไร” มีนชญามีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นแกล้งแซวเธอพร้อมบอกกับเขาว่าเธอแค่อยากรู้เฉยๆไม่ได้จู้จี้ซะหน่อยและถ้าหากเขาไม่บอกก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย“ฉันไปประมาณสักสิบกว่าวัน...ก็ดีสำหรับเธอนะเธอจะได้พักด้วยเพราะว่าเจ็บอยู่” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวมีสีหน้าที่เจื่อนลงไปเขาจึงบอกเวลาที่เขาไปว่าประมาณกี่วันและอีกใจของเขาก็คิดว่าดีเหมือนกันที่เขานั้นกลับอิตาลีในขณะที่หญิงสาวนั้นเจ็บอยู่เธอจะได้พักผ่อนไปในตัวด้วยเลย“...สิบกว่าวัน..ดีค่ะ...” มีนชญาคิดอยู่ในใจว่าเวลาสิบกว่าวันกว่าชายหนุ่มจะกลับมาเป็นเวลาที่เธอต้องทำตามแผนพอดีตอนนี้เลยนั่งฉีกยิ้มอยู่คนเดียวจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆถึงกับส่ายหัวให้กับอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอเสียจริงพร้อมขับรถมุ่งหน้าพาหญิงสาวไปหาหมออย่างไม่สนใจว่าคนข้างๆนั้นจะนั่งยิ้มอะไรนักหนาโรงพยาบาลXXX
“เอ้า...คุณนิคเองเหรอคะมีอะไรหรือเปล่าคะมีนก็ว่าเบอร์ใคร” มีนชญาคลายสงสัยทันทีเมื่อปลายสายยอมพูดเสียทีว่าเขานั้นเป็นใครพร้อมถามเขาต่อว่าที่โทรหาเธอนั้นเขามีธุระอะไร“เอ่อ...คือจะโทรมาถามว่าข้อเท้าเธอเป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะตอนนี้มีนเดินได้สะดวกแล้วค่ะ”“แล้ว...เอ่อ...เธออย่าลืมไปรีดผ้าในตู้ของฉันด้วยล่ะ” โดมินิคยังพยายามหาเรื่องที่จะถามไถ่หญิงสาวทั้งที่เขานั้นไม่จำเป็นต้องห่วงคนที่เป็นแม่บ้านขนาดนี้ก็ได้แต่แปลกที่เขานั้นรู้สึกห่วงเธอ“มีนทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะรับรองไม่มีปัญหาเหมือนคราวก่อนแน่ค่ะ..คุณนิคมีอะไรจะให้มีนทำอีกหรือเปล่าคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มนั้นคงจะโทรมาตรวจความเรียบร้อยภายในบ้านเป็นแน่เธอจึงบอกกับเขาไปว่างานทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ต้องเป็นห่วง“แล้ว.....เธอทานข้าวหรือยัง” โดมินิคเองก็ไม่รู้จะคุยเรื่องงานอะไรกับเธอต่อเพราะงานที่เขาจะสั่งเธอหญิงสาวก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้วเขาเองก็จำต้องหาเรื่องอื่นคุยกับเธอเพราะอยากได้ยินเสียงของเธอนานๆมันทำให้เขานั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี“เรียบร้อยค่ะคุณนิคอิ่มจนพุงกางแล้วค่ะ...คุณนิคล่ะคะอยู่ที่โน่นทานอาหารตรงเวลา