“ฉันก็คิดถึงแกเหมือนกัน...เป็นยังไงบ้างสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง” กอหญ้าเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นยังทำใจเรื่องแม่ไม่ได้อยู่เป็นแน่
“ก็ยังทำใจยากอยู่ฉันเคยอยู่กับแม่มาแค่สองคนตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวมันหดหู่บอกไม่ถูก” เมื่อได้รับคำถามจากเพื่อนสาวหญิงสาวก็รู้ว่าเพื่อนของเธอนั้นยังคอยห่วงใยเธออยู่เหมือนเดิมพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอด้วยความรู้สึกในตอนนี้ว่าเธอนั้นยังทำใจกับเรื่องที่แม่เธอจากไปไม่ได้สักเท่าไร
“แอ้ๆ”
“ว่าไงจ๊ะ..ทักทายน้าเหรอคนเก่ง” จากที่มีนชญากำลังอยู่ในโหมดซึ้งกับเพื่อนสาวแม่หนูน้อยตัวกลมลูกของกอหญ้าก็ส่งเสียงเรียกมาทางเธอเป็นการทักทาย
“อิ่มเอมแกคุยเก่งมากนี่ขนาดแค่หกเจ็ดเดือนนะส่งเสียงไม่หยุดเลย” กอหญ้าก้มมองลูกสาวของเธอในอ้อมอกพร้อมอมยิ้มเอ็นดูที่ลูกสาวเธอนั้นช่างเป็นคนที่คุยเก่งเสียเหลือเกิน
“ถ้าฉันมีครอบครัวแบบแกก็คงจะดีกว่านี้เนอะ” มีนชญารู้สึกว่าเพื่อนสาวของเธอในตอนนี้นั้นช่างดูมีความสุขเหลือเกินที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกอีกอย่างสามีของเพื่อนสาวเธอก็รักเพื่อนเธอมากๆอีกด้วยลูกออกมาก็ยังน่ารักอีกเธออยากเป็นแบบนี้บ้างเสียจริง
“แกอย่าลืมนะว่าแกยังมีฉันแล้วการมีครอบครัวฉันเชื่อว่าสักวันเพื่อนสาวของฉันจะได้เจอคนดีๆแน่นอน” กอหญ้ารู้ว่าเพื่อนสาวของเธอคิดอะไรอยู่เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอคิดว่าตัวเองนั้นเหลือตัวคนเดียวหญิงสาวจึงบอกให้เพื่อนเธอรู้ว่ายังมีเธอที่จะคอยอยู่ข้างๆเสมอถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตามและการมีครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างที่มีนชญาอยากมีนั้นเธอคิดว่าคนดีๆอย่างเพื่อนสาวเธอต้องมีคนดีๆเข้ามาในชีวิตและทำให้เพื่อนเธอมีความสุขแน่นอนแค่รอเวลาเท่านั้น
ทั้งสองอยู่คุยกันพักใหญ่จนอิ่มเอมเริ่มงอแงเพราะง่วงนอนกอหญ้าเลยพากลับบ้านอีกอย่างอิทธิพลก็โทรตามลูกกับเมียกลับบ้านอยู่หลายสายทำให้สองสาวที่กำลังคุยกันเพลินต้องแยกย้ายกันไปในที่สุด
10 นาทีต่อมา
“หนูจ๊ะ...ช่วยยายซื้อหน่อยเถอะยายจะเอาเงินไปซื้อข้าว”
“เอ่อ...ตอนนี้หนูมีเงินติดตัวอยู่3000ยายเอาไปซื้อข้าวนะคะหนูไม่เอาล็อตเตอรี่หรอกค่ะ” เมื่อมีนชญากำลังลุกออกจากร้านจู่ๆก็มียายแก่ๆคนหนึ่งเดินหลังค่อมท่าทางเหนื่อยล้ายื่นล็อตเตอรี่จำนวนหลายใบมาให้เธอพร้อมให้เธอช่วยซื้อเพราะว่าจะนำเงินไปซื้อข้าวหญิงสาวเลยควักเงินที่ติดตัวอยู่สามพันบาทแล้วยื่นให้ยายตรงหน้าโดยที่ไม่ขอรับล็อตเตอรี่เพราะเธอไม่ได้ชอบเล่นหวยแต่อยากจะช่วยยายเฉยๆนั่นเอง
“รับไปเถอะถือว่าแลกเปลี่ยนกันขอบคุณมากนะแม่หนูขอให้เจริญๆนะลูก” หญิงชรารับเงินจากหญิงสาวพร้อมยัดล็อตเตอรี่ทั้งหมดใส่ในมือของหญิงสาวเพื่อแลกเปลี่ยนกันพร้อมอวยพรให้หญิงสาวก่อนจะเดินจากไปทันทีด้วยท่าทีที่ดีใจ
“เลขเดียวกันตั้ง10ใบเลยเหรอ” มีนชญาเดินกลับบ้านของเธอพร้อมก้มดูล็อตเตอรี่ในมือไปด้วยเธอเห็นว่ามันเป็นเลขเดียวกันตั้ง10ใบพร้อมอมยิ้มและคิดในใจว่าถ้าจะถูกหวยก็คงถูกหมดแต่ถ้าไม่ถูกก็ไม่มีสิทธิ์ลุ้นเลขอื่นพร้อมยัดล็อตเตอรี่ใส่ในเสื้อคลุมตัวโปรดของเธออย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร
21.00 น.
มีนชญาทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนุ่มพร้อมกับนึกถึงเวลาที่เธอได้เคยนอนกอดแม่แต่วันนี้เธอนั้นกลับต้องมานอนกอดหมอนข้างแทนมันเป็นอะไรที่หดหู่ใจของเธอเหลือเกินพลางนึกถึงครอบครัวของกอหญ้าเพื่อนสาวของเธออีกด้วยหญิงสาวคิดว่าสักวันเธอจะมีครอบครัวที่มีความสุขเหมือนเพื่อนเธอให้ได้จะได้ไม่เหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่แบบนี้
3วันต่อมา
18.00 น.
“ป้าคะผัดไทกุ้งสดจานนึงค่ะ” มีนชญายังมานั่งสั่งผัดไทกุ้งสดร้านเดิมเป็นประจำแทบทุกวันแต่วันนี้บรรยากาศในร้านคึกคักมากกว่าเดิมเพราะมีบรรดาป้าๆคอหวยนั่งจับกลุ่มคุยกัน
“รอแปปนึงนะลูก”
“ค่ะ”
“เป็นไงพี่แจ๋วถูกหวยไหมล่ะงวดนี้”
“พูดแล้วมันเจ็บใจ...ถูกกินน่ะสิ...เดี๋ยวจะเอาแผ่นลอตเตอรี่มาผัดขายแทนผัดไทให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย”
“555555...ใจเย็นๆพี่แจ๋ว”
มีนชญานั่งรอป้าแจ๋วเจ้าของร้านผัดไททำอาหารให้เธออยู่นั้นก็มีเสียงผู้หญิงอีกคนน่าจะอ่อนกว่าป้าแจ๋วไม่กี่ปีตะโกนคุยกับหญิงร่างท้วมที่กำลังผัดเส้นผัดไทอยู่ถึงเรื่องหวยจึงทำให้หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันหวยออกแล้วเธอก็มีลอตเตอรี่ที่หญิงชราเคยมาขายให้เธออยู่
“จริงสิลอตเตอรี่” หญิงสาวนึกออกว่าเลขลอตเตอรี่ของเธอนั้นมันเหมือนกันทั้ง10ใบแต่ก็จำเลขไม่ได้เธอจึงไม่ใส่ใจที่จะคิดต่อเอาไว้ไปตรวจดูที่บ้านก็ได้เพราะเธอไม่ได้พกมันมาด้วย
2 ชั่วโมงต่อมา
มีนชญาเดินเข้ามาในบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวเพราะเข้าบ้านมาเธอก็เจอแต่ความเงียบแม้จะเปิดทีวีให้มันมีสีสันขึ้นมาแต่เธอก็ยังรู้สึกเหงาอยู่ดี
หญิงสาวนึกได้ว่าเธอจะกลับมาลองตรวจลอตเตอรี่ที่เธอได้มาเสียหน่อยให้พอได้ลุ้นบ้างเผื่อจะถูกสองตัวท้ายให้เธอได้ดีใจเล่น
“เฮ้ยยย” มีนชญาถึงกับตาโตมือถือล่วงผล็อยลงจากมือทันทีเพราะเมื่อเธอหยิบลอตเตอรี่ขึ้นมาหนึ่งใบพร้อมตรวจรางวัลปรากฎว่าเธอนั้นถูกรางวัลที่หนึ่งและใบต่อๆไปก็คงไม่ต้องเชคเพราะเลขมันเหมือนกัน
“อร้ายยยยยยย...รวยแล้วเรา” ตอนนี้มีนชญาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่มันจะเป็นความจริงแสดงว่าเธอก็ไม่ต้องไปหางานทำแล้วและก็มีเงินทุนปิดร้านดอกไม้ได้ตามที่เธอฝันเอาไว้แล้วด้วยหญิงสาวกระโดโลดเต้นไปมาในห้องอยู่พักใหญ่เพราะความตื่นเต้น
“มีนอยากให้แม่อยู่ตรงนี้ด้วยจัง” หลังจากที่หายจากอาการตกใจกระโดดโลดเต้นไปพักใหญ่หญิงสาวก็กลับมานั่งลงที่เตียงพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่และคิดว่าหากแม่ของเธอนั้นอยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะมีความสุขไม่น้อยเพราะเงินที่เธอจะได้นั้นมันสามารถต่อยอดและทำให้เธอเลี้ยงแม่เธอได้อย่างสบายไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยแต่ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว
ตอนนี้หญิงสาวคิดว่าต้องโทรบอกข่าวดีนี้กับเพื่อนเธอเพื่อบอกข่าวดีเกี่ยวกับตัวเธอและก็เชื่อว่ากอหญ้านั้นจะยินดีกับเธออย่างมากแน่ๆ
เช้าวันต่อมาห้างสรรพสินค้า“เสร็จเรียบร้อยแล้วแกไปกว่าจะได้เงินนี่หลายขั้นตอนเนอะ” เกือบทั้งวันที่วันนี้มีนชญาไปเดินเรื่องเพื่อจะขึ้นเงินตกเย็นเธอเลยโทรนัดกอหญ้าทานข้าวเพื่อฉลองเมื่อมาถึงห้างเจอหน้าเพื่อนสาวเธอก็ขอแอบบ่นนิดว่าวันนี้มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน“ไป..เราไปทานข้าวกัน” กอหญ้าเห็นหน้าที่ดูเหนื่อยๆของเพื่อนสาวเธอจึงเข้าไปกอดคอมีนชญาเหมือนที่ชอบทำกันบ่อยตอนสมัยเรียนพร้อมรั้งคอเพื่อนสาวของเธอเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่แพงมากที่พวกเธอทั้งสองเคยอยากทานกันมากสมัยเรียนแต่เพราะงบไม่พอจนวันนี้ทั้งสองก็ได้มาทานสมใจอยาก“น้องเอมไม่ได้มาด้วยเหรอ” มีนชญาหันไปถามเพื่อนสาวของเธอว่าไม่ได้เอาลูกมาด้วยหรือเพราะเธอเห็นแค่เพื่อนสาวเธอยืนอยู่คนเดียว“อยู่กับพี่อิทน่ะรายนั้นติดลูกแจเลย...ไปเถอะมื้อนี้ฉันเลี้ยงแกเองฉลองที่เพื่อนถูกหวย” กอหญ้าหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสาวพร้อมบอกว่าเธอนั้นจะไปไหนมาไหนก็ได้แล้วเพราะสามีเธอนั้นติดลูกมากและสามารถเลี้ยงลูกเองได้โดยที่เธอนั้นไม่ต้องห่วงอะไรมากนักแค่บอกเวลาไปและเวลากลับก็พอละมื้อนี้เธอก็จะเป็นคนเลี้ยงเพื่อนสาวเธอเองเพราะเธอมีเงินพอที่จะเลี้ยงเพื่อนเธ
“ไอ้เราก็นึกว่าอะไร..แต่..ปฏิเสธซะสียงสูงเลยน้า...ถ้าแกสนใจฉันช่วยแกได้นะจะบอกว่าเค้าโสดอยู่ด้วยแถมทำธุรกิจก็เก่งเป็นที่หนึ่งขนาดพี่อิทยังชมให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆเลย..อีกอย่างเค้าก็สเปกแกด้วยนี่นาสาย ฝ ฮ่าๆๆๆ” กอหญ้าที่ล่วงรู้ความคิดของเพื่อนสาวเธอหญิงสาวเลยรีบพูดถึงโปรไฟล์ของชายหนุ่มว่าเพอเฟคขนาดไหนให้เพื่อนสาวของเธอฟังเผื่อเพื่อนสาวของเธอจะเลิกปากแข็งและยอมรับกับเธอมาตรงๆว่าสนใจเธอจะได้เดินหน้าช่วยเพื่อนเธอเต็มที่นั่นเอง“หยุดพูดเลยใครบอกว่าสนใจ...ไม่ได้สนซะหน่อยดูท่าเค้าเจ้าระเบียบมากเลยเนอะ” มีนชญาแกล้งผลักไหล่เพื่อนสาวของเธอหนึ่งทีพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจจริงๆและเธอเองก็เห็นว่าชายหนุ่มน่าจะเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างกับเธอสุดขั้วอีกด้วยดูจากมาดแบบนั้นเธอดูออกว่ายังไงก็ต้องเป็นคนที่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้วต่างจากเธอที่เป็นจอมซุ่มซ่ามแถมเรื่องเปิ่นนี่ก็ที่หนึ่งอีกด้วย“อืม...มันแน่อยู่แล้วคนเป็นนักธุรกิจต้องมีระเบียบอยู่แล้วอีกอย่างยิ่งเก่งแค่ไหนยิ่งระเบียบจัดแค่นั้น” กอหญ้าเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจทุกคนที่ประสบผลสำเร็จในการทำงานจะเจ้าระเบียบและมีวินัยเ
“อ๋อ...ท่านไม่ค่อยได้มาอยู่น่ะครับเลยปล่อยขายในราคาย่อมเยาอีกอย่างเงินที่ได้ท่านก็แบ่งไปทำบุญด้วยนะครับ” ชายหนุ่มที่เป็นนายหน้ามองหญิงสาวพร้อมยิ้มให้เธอและบอกว่าที่มันถูกก็เพราะเจ้าของบ้านนั้นไม่ค่อยได้มาอยู่เลยตัดสินใจขายและเงินที่ได้เขาก็ให้เอาไปทำบุญ“อ๋อ...ค่ะเจ้าของบ้านเค้าใจดีจังเลยนะคะ” มีนชญานับถือในน้ำใจของเจ้าของบ้านหลังนี้เสียจริงแต่เธอนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อว่าเขานั้นเป็นใครอยู่ที่ไหนเพราะเธอรู้มาว่าชื่อในใบที่ดินและชื่อเจ้าของบ้านเป็นของคนไทยแต่เจ้าของที่แท้จริงน่าจะเป็นต่างชาติเธอก็ไม่ได้ใส่ใจถามเหมือนกันว่าเขานั้นชื่ออะไรในเมื่อตอนนี้มันเป็นของเธอแล้วเธอก็จะจำแค่เธอเป็นเจ้าของบ้านก็พอ19.00 น.กว่ามีนชญาจะกลับมาบ้านก็เป็นเวลาเย็นพอดีตอนนี้ท้องของหญิงสาวก็เริ่มที่จะร้องขึ้นอีกแล้วความหิวของเธอตอนนี้มันอยู่ที่ระดับสิบเพราะทั้งเพลียทั้งหิวบวกกันนั่นเองหญิงสาวจำต้องเดินออกจากบ้านไปนั่งที่ร้านเดิม“เฮ้อเหนื่อยจังเลย...ป้าคะผัดไทยกุ้งสดจานนึงค่ะ” เมื่อสั่งผัดไทยกุ้งสดเมนูเดิมที่ร้านประจำมันก็พาให้เธอนั้นคิดวนไปเรื่องเดิมๆอีกก็คือวันวานที่เคยนั่งทานอยู่กับแม่ของเธอแต่ต
3 ชั่วโมงต่อมาห้างสรรพสินค้า“ถึงแล้ว...วันนี้แม่จะช้อปให้สะใจไปเลยงบสี่พันพอเนอะ” เมื่อลงจากแท็กซี่มีนชญาก็มองไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่ว่ากันว่าที่นี่มีแต่คนมีเงินเดินเธอเองคิดว่าวันนี้จะใช้เงินช้อปปิ้งไร้สาระที่เยอะที่สุดในชีวิตที่เคยใช้มาจำนวนสี่พันบาทนั่นเองถึงเงินแค่นี้ในการช้อปปิ้งของเธอคนอื่นจะมองว่าน้อยแต่เธอนั้นโคตรเสียดายมันสุดๆกับการช้อปปิ้งไร้สาระกับเงินสี่พันแต่อีกใจหญิงสาวก็บอกกับตัวเองว่าถือเป็นการให้ความสุขกับตัวเธอเองสักวันก็แล้วกัน“คู่ไหนดีน้า” มีนชญาเข้ามาในร้านรองเท้าแบรนด์หนึ่งซึ่งเงินที่เธอจำกัดวันนี้ก็น่าจะเอื้อมถึงเพราะเธอดูจากราคาแล้วเธอนั้นซื้อได้แถมเงินที่จำกัดมาสี่พันยังเหลือด้วย“หืมม...สวยทั้งคู่เลย...สีเงิน..สีชมพู..สีเงิน...สีชมพู..อืมม..สีเงินดีกว่า...ฉันเอาสีเงินเบอร์37คู่นึงค่ะ”มีนชญากำลังตัดสินใจเลือกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วหัวแหลมราคาคู่ละ2500บาทเธอกำลังชั่งใจอยู่ว่าเธอนั้นจะซื้อสีเงินหรือสีชมพูดีหญิงสาวนึกถึงชุดที่เธอจะใส่คืนนี้มันเป็นสีชมพูอ่อนหากเธอเลือกสีชมพูไปมันก็จะชมพูทั้งชุดเธอจึงคิดว่าเอาสีเงินจะดีกว่าจึงบอกพนักงานว่าเธอรับคู่สีเงินเบ
5 นาทีต่อมา“เอ๋..มือถือล่ะ...หรือว่า..โอ้ยแกนี่มันจริงๆเลยยัยมีน”หลังจากที่เดินออกจากร้านหนังสือมาสักพักมีนชญาก็กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วแต่เมื่อล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอกลับไม่เจอพอนึกไปนึกมาเธอคิดว่าจะเป็นช่วงที่เธอจ่ายเงินค่าหนังสือแล้วทำหล่นแน่เลยเธอชอบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำหญิงสาวเตือนตัวเองหลายรอบแล้วว่าอย่าเอามือถือใส่รวมกับเงินแต่ก็ลืมทุกทีตอนนี้เธอก็ทำได้แต่วิ่งหลับไปที่ร้านหนังสือดังเดิมเพื่อที่จะไปตามมือถือของเธอคืนนั่นเอง“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่ามีคนเจอมือถือเครื่องสีชมพูที่ใส่เคสยูนิคอร์นบ้างหรือเปล่าคะ”มีนชญาวิ่งพุ่งตรงมาที่เคาเตอร์สอบถามพนักงานเรื่องมือถือของเธอทันทีเพราะคิดว่าหากมีคนเก็บได้ในร้านก็คงจะเอามาฝากที่พนักงานเป็นแน่หรืออีกอย่างก็คือเอาไปเลยอันนั้นมันก็เป็นความซวยของเธอแล้วหละถึงแม้เธอจะมีเงินซื้อใหม่แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องที่แม่ของเธอซื้อให้ก่อนท่านจะเสียนั่นเอง“เครื่องนี้ใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ...ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” หลังจากที่ใจไม่ดีอยู่นานมีนชญาก็โล่งใจเพราะพนักงานหยิบมือถือของเธอขึ้นมาจากหลังเคาเตอร์พร้
แน็ทตี้ต้องรีบปรามทั้งสองว่าห้ามเรียกชื่อนี้ของเธอได้แล้วเพราะเธอนั้นไปเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนชื่อมาเรียบร้อยแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาเรียกชื่อเดิมของเธออีกเพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงสมใจแล้วเพียงแต่ไม่มีมดลูกและเสียงที่ยังแอบห้าวอยู่“อะ...เอ่อ..โอเค..ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าแก” กอหญ้าเห็นว่าในนี้คนมันค่อนข้างพลุกพล่านและเสียงดนตรีมันก็ดังเลยชวนทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ที่มันส่วนตัวกว่านี้จะดีกว่า“อย่าบอกนะที่แกหายไปเรียนเมืองนอกแกไปแปลงเพศมา” เมื่อออกมาถึงจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในด้านนอกของโรงแรมแล้วกอหญ้าก็ถือโอกาสถามแน็ทตี้ทันทีว่าที่หายหน้าหายตาไปหลังจากเรียนจบม.ปลายเพื่อนของเธอไปเก็บตัวแปลงเพศทำหน้าใหม่มาทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช่หรือไม่“ก็ใช่น่ะสิมันเป็นความฝันของฉันเลยพวกแกก็รู้” แน็ตตี้ตอบด้วยความภาคภูมิใจเพราะเขานั้นเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากจบม.ปลายแล้วความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากไปเรียนเมืองนอกเมืองนาสักเท่าไรหรอกเพียงแต่ป๊าของเขานั้นเสนอว่าหากยอมไปเรียนแต่โดยดีป๊าของเขาจะยอมตามใจทุกอย่างเลยทำให้เขาต้องไปเรียนเมืองนอกแลกกับการแปลงเพศอัพอึ๋มอัพหน้าใหม
“อะ...เอ่อ...สองล้าน...อะ..อืมช่วยก็ได้นี่ฉันเห็นว่าแกอยากจะมีความสุขหรอกนะถึงยอมช่วย” แน็ทตี้ถึงกับตาลุกวาวเมื่อเพื่อนของเขาใจปล้ำยอมจ่ายเงินให้เขาเป็นหลักล้านแบบนี้เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอและยิ่งได้ฟังที่เพื่อนสาวของเธอพูดเรื่องไปทำหน้าใหม่ในหัวของเขาตอนนี้จินตนาการใบหน้าของเขาที่มันจะเหมือนนางเอกหนังฮอลลีวูดไปไกลแล้วพร้อมตอบตกลงเพื่อนของเขาทันทีเอาเรื่องทำสวยมาล่อแบบนี้แน็ทตี้สู้ตายเลยจ้า“ขอบใจจ้า..เพื่อนเลิฟ...เริ่มได้เมื่อไรอะ” มีนชญายิ้มอย่างภูมิใจที่แผนการของเธอสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้นตอนนี้เธอมีตัวช่วยแล้วเหลือก็แต่วันที่เธอพร้อมปฏิบัติการจริงก็เท่านั้นพร้อมถามเพื่อนของเธอด้วยใบหน้าที่มีความหวังว่าเธอสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับโดมินิคได้เมื่อไร“คงอีกสามเดือนขางหน้าเพราะตอนนี้บอสฉันเค้าเตรียมตัวกลับอิตาลีแล้วต้องไปดูงานทางโน้นต่อ...แกรออีกหน่อยก็แล้วกันนะแต่เงินจ่ายก่อน”“รู้แล้วน่า...สามเดือนเลยเหรอ..อืมม..รอก็รอ” คำตอบของแน็ทตี้ทำให้มีนชญาหน้าห่อเหี่ยวลงในทันทีเมื่อพึ่งจะรู้ข่าวจากปากแน็ทตี้ว่าชายหนุ่มที่เป็นเป้าหมายของเธอนั้นจะบินกลับไปอิตาลีตั้งสามเดือนแต่จะให้ทำอย่างไรได้เธอก
3 เดือนผ่านไปไวเหมือนในนิยายเขาใหญ่มีนชญาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ส่งให้ลูกค้าหญิงสาวเพิ่งจะเปิดร้านได้สองเดือนกว่าๆแต่เมื่อทำการตลาดออนไลน์ไปด้วยตอนนี้เลยเริ่มมีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งฝีมือของหญิงสาวก็เป็นที่บอกต่อกันอีกด้วยรูปแบบการจัดก็แปลกตาไปจากร้านอื่นอยู่มากราคาก็ย่อมเยานับว่าการเปิดร้านครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของเธออย่างมากอีกหนึ่งเรื่องตอนนี้เธอพึ่งจะรับลูกจ้างมาอีกสองคนเพราะทำคนเดียวคงไม่ทันอีกอย่างอนาคตเธอก็ต้องรับอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดไว้คือเธอก็คงจะต้องดูแลลูกน้อยอีกเลยรับเสียตอนนี้เลยจะดีกว่าRrrrrrrrrr“ว่าไงแน็ทตี้ฉันกำลังจัดดอกไม้ส่งลูกค้าอยู่มีไรพูดมาด่วน” ในขณะที่มีนชญายุ่งๆอยู่นั้นก็มีสายจากแน็ทตี้เพื่อนของเธอโทรเข้ามาหญิงสาวจึงกดรับทันทีพร้อมเอียงคอแนบมือถือไว้ระหว่างหูและไหล่เพราะมือทั้งสองยังต้องหยิบจับจัดช่อดอกไม้หญิงสาวจึงรีบให้เพื่อนของเธอคุยมาว่ามีอะไรเพราะถ้าไม่สำคัญมันก็คงจะรบกวนเวลาเธออย่างมาก“บอสฉันกำลังกลับมาแล้วด่วนพอไหมข่าวนี้”“หา...เอ่อ...ด่วนมาก...งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาแกเลย” จากเสียงปลายสายบอกข่าวดีทำให้หญิงสาวต้องละมือจา