“เรื่องอะไร...ว่ามาสิ” โดมินิคเห็นท่าทีของคนตรงหน้าดูกังวลแปลกๆเขาจึงรีบให้แน็ทตี้พูดมาว่ามีธุระอะไรจะคุยกับเขา
“เรื่องมีนน่ะค่ะ”
“มีน...คุณเจอมีนแล้วใช่ไหม” โดมินิคถึงกับหูผึ่งเมื่อได้ยินว่าแน็ทตี้นั้นจะพูดถึงใครพร้อมถามคำถามที่เขาอยากจะรู้ทันที
“เจอแล้วค่ะ...แล้วก็แน็ทตี้อยากจะบอกบอสว่าแน็ทตี้รู้มาตลอดว่ามีนอยู่ที่ไหนแต่ไม่ได้บอกบอส”
“ทำไม???” โดมินิคเริ่มรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของแน็ทตี้น้ำเสียงที่เขาถามคนตรงหน้าถึงเหตุผลมันเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด
“คือว่าเรื่องที่แน็ทตี้จะบอกบอสก็คือ......” แน็ทตี้เองไม่อยากจะพูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกแล้วเขาค่อยๆเล่าเรื่องราวต่างๆอย่างละเอียดเหมือนกับที่เล่าให้กอหญ้าฟังแต่ปฏิกิริยาของเจ้านายของเขาทำให้เขาเดาไม่ออกเหมือนกันว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่แต่เธอก็ยังคงต้องทำใจดีสู้เสื้อเล่าเรื่องต่อไปจนกว่าจะจบ
“นี่พวกคุณเล่นบ้าอะไรกัน...แล้วปิดเรื่องนี้กับผมมาสี่ปีเนี่ยนะ” เมื่อโดมินิคฟังจบเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกรู้สึกว่ามีอะไรจุกอยู่ในอกคนที่เขาไว้ใจและคนที่เขารู้สึกดีด้วยยกล้าหลอกลวงเขาขนาดนี้เชียวหรือ
ตอนนี้ในใจของเขาเริ่มมีทิฐิเข้าครอบงำความรู้สึกดีๆที่มีต่อมีนชญาไปหมดแล้วใบหน้าที่มันแสนชาเมื่อรู้ว่าตัวเองมีลูกยิ่งอึ้งจนคนตรงหน้าเดาอารมณ์ไม่ถูก
“แน็ทตี้ขอโทษค่ะแน็ทตี้รู้ว่าแน็ทตี้ผิดบอสจะไล่แน็ทตี้ออกแน็ทตี้ก็ยินดีค่ะ” แน็ทตี้รีบยืนขึ้นก้มหัวขอโทษเจ้านายหนุ่มของเขายกใหญ่เพราะเธอคิดว่าตอนนี้คนตรงหน้าไม่พอใจกับเรื่องที่รับรู้เป็นแน่แหงล่ะเป็นเขาก็คงจะช็อคน่าดู
“คุณออกไปก่อนผมขออยู่คนเดียวสักพัก”
“ค่ะ” โดมินิคขอนั่งทำใจคนเดียวสักพักทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเขาเสียใจที่เขาเคยมอบความรู้สึกดีๆให้กับมีนชญาการที่เธอเข้ามาในชีวิตของเขามันมีแต่การหลอกลวงทั้งนั้น
เขายิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจเพราะเขานั้นเฝ้าโหยหาเธอมาตลอดสี่ปีแต่มาวันนี้วันที่เขาได้รู้ความจริงมันเหมือนหัวใจของเขาโดนหญิงสาวเหยียบเล่นมานานเกินทน อีกอย่างการที่เขามีลูกโตจนสามขวบเขาก็พึ่งจะได้รู้ก็วันนี้นี่เองหากแน็ทตี้ไม่ตัดสินใจบอกเขาตัวเขาเองกคงจะเป็นคนโง่ในสายตาของหญิงสาวต่อไป ตอนนี้ในหัวของเขาที่คิดคือในเมื่อเธอใช้วิธีสกปรกเพื่อที่จะมีลูกและพรากลูกไปจากเขาตัวเขาเองก็จะใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาลูกของเขาคืนมาเหมือนกัน
20.00 น.
“ชอวโทรเรียกแน็ทตี้ให้มาพบฉันที่โรงแรม”
“ครับนาย”
โดมินิคอยากจะรู้ว่าตอนนี้ความเป็นอยู่ของหญิงสาวและลูกของเขาเป็นอย่างไรบ้างการที่จะทำให้เขารู้เร็วที่สุดโดยไม่ต้องเสียเวลาคือการสอบถามจากแน็ทตี้นั่นเอง
“บอสเรียกแน็ทตี้มามีอะไรหรือเปล่าคะ” แน็ทตี้เดินเข้ามาในห้องรับแขกในห้องของชายหนุ่มเธอมีสีหน้าที่เจื่อนลงเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มยังจะรู้สึกโมโหเรื่องที่เธอบอกอย่างเมื่อตอนเช้าอีกหรือเปล่า
เมื่อกลางวันผมต้องขอโทษด้วยพอดีผมช็อคไปหน่อยเลยไล่คุณไปแบบนั้น” เมื่อเห็นว่าคนที่เขาต้องการพบเข้ามาแล้วชายหนุ่มก็เปิดประเด็นขอโทษคนตรงหน้าเรื่องเมื่อเช้าทันทีที่เขาไล่น็ทตี้ออไปแบบนั้นเพราะเขานั้นรู้สึกช็อคจนคุมสติตัวเองไม่อยู่จริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะบอสแน็ทตี้ผิดเอง” แน็ทตี้พอได้หายใจทั่วท้องเมื่อเห็นว่าตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายของเขาเป็นปกติ
“เรื่องนี้คุณไม่ได้เป็นคนต้นคิดอีกอย่างคุณก็ยังมีสำนึกที่ดีที่จะมาบอกกับผมเอาเป็นว่าผมจะปล่อยผ่านก็แล้วกันเพียงแต่ตอนนี้ผมต้องให้คุณช่วยผมนิดหน่อยเรื่องมีนกับลูกผม” ที่โดมินิคเรียกแน็ทตี้มาตอนนี้ก็เพราะว่าเขาอยากให้แน็ทตี้นั้นช่วยเขาเรื่องหญิงสาวกับลูกไม่ได้จะเรียกมาต่อว่าอะไรทั้งนั้นเพราะมันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว
เขายอมรับว่าคราแรกเขาเองก็โกรธแน็ทตี้อยู่เหมือนกันแต่เมื่อคิดไปคิดมาหากไม่มีคนต้นคิดเรื่องมันก็คงจะไม่เกิดไม่คิดว่าหญิงสาวจะแสบขนาดนี้
“บอสบอกมาได้เลยค่ะแน็ทตี้พร้อมช่วย” แน็ทตี้รู้ว่าเจ้านายของเขาอยากให้เขาช่วยเรื่องเพื่อนกับหลานของเขาเรื่องนี้เขาเต็มใจช่วยเสมอไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มาบอกความจริงที่เธอเองก็มีส่วนผิดด้วยแบบนี้หรอก
“ผมอยากจะคุยกับมีนเป็นการส่วนตัวคุณช่วยบอกที่อยู่ของเธอมาได้ไหม” โดมินิคเองอยากจะเข้าไปจัดการกับหญิงสาวจอมแสบแต่ต้องบอกกับแน็ทตี้ว่าเขานั้นอยากจะคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวเพื่อให้แน็ทตี้เห็นว่าตอนนี้เขาไม่ได้โกรธอะไรมีนชญาแล้วเพื่อที่แน็ทตี้จะได้ให้ที่อยู่ของหญิงสาวกับเขาโดยง่ายขืนเขาบอกไปตามตรงว่าเขาจะไปทวงลูกคืนคงไม่ดีเป็นแน่
“ได้ค่ะ...เอ่อ...แล้วบอส...เสียใจไหมคะที่รู้ว่ามีลูก” แน็ทตี้นั้นยินดีที่จะบอกที่อยู่ของมีนชญาให้กับเจ้านายของเขาอยู่แล้วแต่คำถามที่มันคาใจของเขาอยู่ตอนนี้ก็คืออยากจะรู้ว่าเจ้านายของเขารู้สึกอย่างไรและเสียใจหรือเปล่าที่รู้ว่าตัวเองมีลูกเพราะเขาไม่อยากให้หลานสาวของเขาผิดหวังว่าเป็นคนที่พ่อไม่ต้องการ
“ผมจะเสียใจได้ยังไงตอนนี้ผมอยากเห็นหน้าลูกของผมจะแย่” โดมินิคไม่เคยนึกเสียใจเลยสักนิดที่รู้ว่าตัวเองมีลูกแต่ที่รู้สึกหน่วงอยู่ในใจตอนนี้ก็คือเข้าไม่ได้มีโอกาสเห็นลูกเขาตั้งแต่ออกมาจนถึงสามปีไม่มีโอกาสที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาจะมีลูกสาวเขากำเนิดขึ้นมาตรงนี้แหละที่เขาเสียใจ
“แน็ทตี้ดีใจนะคะที่ได้ยินแบบนี้เพราะนีน่าเองก็คงอยากจะเจอหน้าพ่อของเธอเหมือนกันค่ะ...นี่ค่ะบอสที่อยู่ของมีนแล้วนี่ก็เป็นของที่แน็ทตี้เตรียมมาให้บอสค่ะ” แน็ทตี้เองถึงกับยิ้มออกที่ได้รู้ว่าเจ้านายเขาคิดยังไงกับการที่ได้รู้ว่าตัวเองมีลูกพร้อมบอกกับเจ้านายของเขาว่าหลานสาวของเขาเองก็คงอยากจะเห็นหน้าคนเป็นพ่อเหมือนกัน
พร้อมส่งที่อยู่เป็นข้อความส่งไปในมือถือของเจ้านายของเขาและยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลซองใหญ่ให้กับเจ้านายของเขาและขอตัวกลับทันทีแน็ทตี้หวังว่าของในซองกระดาษจะช่วยให้เจ้านายของเขานั้นรู้สึกเอ็นดูหลานสาวของเขาเพิ่มขึ้นไปอีก
เมื่อแนทตี้ออกจากห้องไปแล้วโดมินิคเองก็เปิดซองน้ำตาลที่มันค่อนข้างหนาดูทันทีเพราะว่าอยากจะรู้เหมือนกันว่ามันคืออะไรข้างในมีแต่อัลบั้มรูปเต็มไปหมดหน้าปกอัลบั้มจะมีเขียนระบุไว้ทุกอย่างว่าข้างในเป็นรูปเกี่ยวกับอะไร
อัลบั้มแรกที่เขาหยิบมาข้างหน้าเขียนว่านีน่าตอนอยู่ในท้องกับแรกเกิดเมื่อเปิดเข้าไปชายหนุ่มถึงกับน้ำตาคลอและไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติภาพที่เขาเห็นก็คือมีนชญาที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่และท้องของเธอก็ใหญ่มากถ้าเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นแน็ทตี้ที่ถ่ายให้และมีภาพของหญิงสาวที่อุ้มท้องโตๆเดินอยู่ในร้านดอกไม้อีกหลายรูป“ผ่าคลอดงั้นเหรอ” เมื่อเปิดไปเรื่อยๆก็เห็นภาพตอนที่หญิงสาวจะเข้าห้องผ่าตัดในหลังรูประบุเวลาและวันที่ไว้อย่างชัดเจนมีคำอธิบายว่ามีนไม่สามารถคลอดเองได้เพราะหลานตัวใหญ่เกินนี่ก็คงจะเป็นแน็ทตี้ที่เก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้เช่นกันภาพรอยยิ้มของหญิงสาวที่นอนรออยู่ในห้องคลอดเธอดูมีความสุขมากจริงๆจนเขาแอบอิจฉาเธอที่ได้เห็นลูกด้วยตาตัวเองเมื่อตอนแรกเกิดผิดกับเขาที่ต้องมานั่งดูรูปภาพเอาแบบนี้“คนสวยของแดดดี๊” เมื่อเปิดดูอีกอัลบั้มก็จะเป็นลูกสาวของเขาตอนที่นอนอยู่ในเปลเด็กและภาพที่กำลังดูดนมแม่อย่างน่าเอ็นดูเขาใช้มือลูบไปที่รูปภาพพร้อมปล่อยน้ำตาแห่งความสุขให้ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายเขานั่งดูรูปไปเรื่อยๆตั้งแต่ลูกสาวของเขายังเดินไม่ได้เริ่มหัดนั่งหัดคลานหัดเดินหัดพูดจนถึงปัจจุบันรูปที่พึ่งถ่ายสดๆร้อนๆเพ
“เอ่อ...สารภาพเรื่องอะไร...มีนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณทั้งนั้นออกจากบ้านมีนไปได้แล้ว” มีนชญามีอาการหน้าเสียทันทีเมื่อได้ยินคำที่ชายหนุ่มพูดกับเธอหญิงสาวไม่รู้ว่าเขาไปรู้อะไรมาบ้างถึงมาถามเธอแบบนี้แต่เธอก็ยังขอยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเขาทั้งนั้นพร้อมไล่เขาออกไปจากบ้านโดยเร็วสิ่งที่เธอกลัวอยู่ในใจตอนนี้คือกลัวว่าเธอนั้นจะเสียลูกสาวของเธอไป“ไม่มีอะไรจะสารภาพงั้นเหรอ...วางแผนที่จะมีลูกกับฉันแล้วมาพรากลูกฉันไปตั้งหลายปีโดยที่ฉันไม่รู้อย่าคิดว่าฉันจะยอมปล่อยไปง่ายๆ....เธอกล้ามากนะมีน...ฉันจะมาทวงลูกฉันคืน”โดมินิคเริ่มมีอารมณ์โมโหขึ้นทันทีที่หญิงสาวปฏิเสธได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรชายหนุ่มเริ่มใช้น้ำเสียงที่หนักและดุดันขึ้นพูดถึงวีรกรรมของหญิงสาวด้วยความโมโหพร้อมบอกว่าเขานั้นจะมาทวงลูกของเขาคืน“ไม่ได้นะคะคุณนิค....อย่าพรากลูกมีนไปนะคะมีนขอร้อง” มีนชญามือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกเมื่อในสิ่งที่คิดมันเป็นจริงเธอน้ำตาไหลพรากสะอึกสะอื้นพร้อมยกมือเย็นของเธอทั้งสองไปจับมือของชายหนุ่มเอาไว้พร้อมขอร้องคนตรงหน้าด้วยน้ำตาว่าอย่าพรากสิ่งที่เธอรักที่สุดในชีวิตไปตอนนี้เธอเอาแต่ส่ายหัวร้องให้เ
มีนชญากำลังเดินเลยรถของชายหนุ่มไปเพื่อเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนเพื่อไปซื้อไอติมให้ลูกสาวของเธอหญิงสาวของเธอโดมินิคเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เดินมาที่รถของเขาตามที่สั่งเขาจำต้องเดินลงจากรถแล้วตามหญิงสาวเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อทันทีเพราะเขาไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวเท่าไรว่าเธอจะกลัวคำขู่ของเขาหรือเปล่า“ไปจ่ายเงินกันค่ะ” เมื่อนีน่าเลือกไอติมในตู้แช่แข็งเรียบร้อยแล้วมีนชญาจึงบอกให้ลูกของเธอเดินถือของไปจ่ายเงินกันจะได้รีบกลับมีนชญาแอบเห็นชายหนุ่มเดินตามเธอมาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเธอเพียงแค่ยืนดูอยู่ห่างๆหญิงสาวคิดในใจว่าเขาอาจจะคิดว่าเธอจะหนีก็เป็นได้จึงตามมาดู“ไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ”“ไม่ใช่รถคุณแม่นี่คะ” นีน่าชะงักการเดินแล้วดึงมือของคนเป็นแม่ไว้เล็กน้อยเพราะเธอรู้สึกไม่คุ้นกับรถคันตรงหน้าเสียเท่าไรเพราะว่ามันไม่ใช่รถของแม่เธอ“นีน่าคะ”“คุณลุง” โดมินิคเปิดประตูออกมาจากรถพร้อมเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้ทั้งสองขึ้นไปนั่งในรถเด็กหญิงแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเจอคุณลุงคนเมื่อกลางวันอีกครั้ง“พาลูกขึ้นรถ”“ไปค่ะนีน่า” มีนชญารีบพานีน่าขึ้นรถก่อนที่ลูกสาวของเธอจะตั้งคำถามอะไรขึ้นมาอีก
“เอ่อ...คือ...” มีนชญาถึงกับพูดไม่ออกจะเดินออกไปก็กลัวว่าเขาจะพาลูกหนีอีกใจมันก็จริงอย่างที่เขาบอกตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอาหารเย็นไว้ให้ลูกของเธอแล้วด้วย“ฉันไม่ไปไหนหรอก...นี่กุญแจ” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่เขาจึงมองจ้องไปที่หน้าของหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอได้ฟังชัดๆว่าเขานั้นจะไม่ไปไหนให้เธอนั้นสบายใจได้พร้อมส่งกุญแจรถหรูวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาให้เธอมาหยิบอีกต่างหากเพื่อให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหกเธอ“อืม...เอ่อ...คุณนิคจะทานอะไหมคะเดี๋ยวมีนทำให้ค่ะ” มีนชญาเดินมาหยิบกุญแจรถของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนพร้อมเดินตรงไปที่ครัวแต่เธอก็ต้องชะงักนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าวันนี้เธอก็คงจะต้องทำอาหารเผื่อพ่อของลูกของเธอด้วยจึงถามเขาขึ้นว่าเขานั้นจะทานอะไรอย่างน้อยตอนนี้เขายังใจดีไม่พาลูกหนีไปจากเธอหญิงสาวคิดว่าควรที่จะสร้างไมตรีที่ดีกับชายหนุ่มเอาไว้เผื่อว่าเรื่องที่เธอจะคุยกับเขานั้นง่ายขึ้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบทานอะไร”โดมินิคหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเธอรู้ว่าเขานั้นชอบอะไรในใจชายหนุ่มก็อยากจะรู้ว่าเธอนั้นยังจำเรื่องราวตอนที่อยู่กับเขาอยู่ได้หรือเ
“ค่ะ...วันนี้น่าจะเล่นเยอะจนเพลีย” มีนชญาลุกออกมาจากเตียงพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าวันนี้นีน่าค่อนข้างที่จะหลับไวจากการที่เธอเดาน่าจะเป็นเพราะเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมากไปหน่อยเพราะตั้งแต่ไปโรงเรียนก็หลับง่ายแบบนี้มาสองวันแล้ว“เธอมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคทำหน้างอยู่ดีๆหญิงสาวก็เดินมายืนจ้องหน้าของเขาอยู่ที่หน้าประตูใบหน้าแสดงออกถึงการมีเรื่องอะไรในใจจนเขานั้นจำต้องถามเธอขึ้น“มีนขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”“งั้นเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” โดมินิคดูจากสีหน้าที่จริงจังของหญิงสาวแล้วเขารู้ว่าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขาต้องเป็นเรื่องที่เธอนั้นซีเรียสอย่ามากเป็นแน่เขาจึงดึงมือเธอให้ตามเขามานั่งคุยในห้องหนังสือของเธอที่เขาพึ่งออกมาเมื่อครู่นี้“คุณนิคคะอย่าหาว่ามีนเห็นแก่ตัวเลยนะคะ...คุณอย่าพานีน่าไปจากที่นี่เลยนะคะไม่อย่างนั้นมีนคงอยู่ไม่ได้แน่” เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็ยืนก้มหน้าหลับตาพร้อมขอร้องชายหนุ่มอย่างที่ใจเธอคิดอย่างรวดเร็วและยังยืนก้มหน้าบีบมือรอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอยู่“ยังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันจะพาลูกไปอยู่กับผม....แต่....ฉันเองก็ไม่เคยพูดนี่ว่าไม่ให้เธอตามไปด้วย” โด
“ทำไมจะทำอะไรไม่ได้เธอรักฉัน..แล้วฉันก็รักเธออย่าหลอกตัวเองเลยนะมีนคนเรามันเท่าเทียมกันอย่าดูถูกตัวเองว่าเธอไม่เหมาะสมกับใครอีกอย่างเราก็มีลูกด้วยกันจนสามขวบแล้วด้วยทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวจอมซื่อบื้อคนนี้คงจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่เขาจึงต้องบอกกับเธอตรงๆว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรพร้อมบอกให้เธอได้รู้ด้วยว่าเขาก็รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาเช่นไรเขาไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเองเพราะขนาดเขาก็ยังไม่เคยคิดที่จะดูถูกเธอด้วยซ้ำอีกอย่างมันก็จะดีต่อลูกอีกด้วยถ้าทั้งเขาและเธอหันหน้าปรับความเข้าใจกัน“อะไรนะคะ...อื้มมมม” มีนชญารู้สึกอึ้งเล็กน้อยเมื่อล่วงรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดกับเธอเช่นไรในขณะที่เธอยังอึ้งอยู่นั้นชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เสียจังหวะเขาพยายามบดจูบหญิงสาวเรียกอารมณ์รักของเธอออกมาเพราะเขานั้นโหยหาร่างกายนี้มานานแสนนานต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่เมียตัวแสบคนนี้ไปเด็ดขาด“คุณนิค...อื้อ...” มีนชญาถึงกับครางเสียงกระเส่าเพราะชายหนุ่มจูบวนอยู่ที่ลำคอระหงของเธออย่างนุ่มนวลไล่ลงไปที่สองเต้างามสลับกันดูดคลึงเล่นกับมืออย่างสนุกและมอบความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวได้อย่างดีโดมินิค
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะแถมร่มรื่นกว่าเดิมอีก” โดมินิคขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านที่เปิดเป็นร้านดอกไม้เขาก็จำได้ทันทีว่าที่นี่นั้นเคยเป็นบ้านของเขามาก่อนเมื่อลงจากรถสำรวจดูรอบๆเขาก็รู้สึกชอบที่นี่มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะมันทั้งร่มรื่นและมีดอกไม้ต่างๆปลูกรอบๆบ้านเป็นภาพที่สวยงามเป็นอาหารตาแก่เขามากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ในตอนเช้าๆ“คุณนิคเคยมาที่ด้วยเหรอคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆเหมือนเคยมที่นี่ยังไงยังงั้นจึงถามเขาขึ้นให้คลายสงสัย“บ้านหลังนี้เป็นของฉันเอง...ฉันปล่อยขายเมื่อห้าปีที่แล้วโลกกลมจังเลยเนอะ” โดมินิคหันมายิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาเองและคนที่ซื้อในตอนนั้นก็เป็นหญิงสาวตรงหน้าเขาคนนี้เขาไม่แปลกใจที่ทำไมหญิงสาวไม่รู้ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาเองเป็นเจ้าของบ้านเขาคิดว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินหรือไม่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ขีดมาให้เขาและเธอได้เจอกันที่ทำให้คนสองคนที่แสนจะแตกต่างกันมาเติมเต็มกันและกันได้“บังเอิญจังเลยนะคะ” มีนชญารู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะวางแผนไปทำงานที่บ้านของเข
เช้าวันต่อมาตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”“ใช่ค่ะแดดดี๊”“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเองมีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด