เธอกับเขารักกัน ในวันที่ชายหนุ่มเป็นเพียงแค่ยามส่วนเธอก็แค่แม่ค้าขายข้าวแกง แต่วันนี้จากยามเขากลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลใหญ่เจ้าของโรงสีและกิจการอื่น ๆ อีกมากมาย ฐานะที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้การแสดงออกของตฤณเปลี่ยนไปด้วย คำว่ามือที่สามจะไม่มีค่าเลย ถ้าสองคนจับมือกันแน่นพอ
Lihat lebih banyakตอนที่ 4ขอเวลา ตระการส่งทั้งคู่ที่บ้านด้วยความรู้สึกที่เป็นห่วง แต่ด้วยที่ไม่ได้เลี้ยงลูกมาจึงไม่กล้าแม้แต่จะออกความคิดเห็นใด ๆ บรรยากาศบ้านหลังเดิมที่เคยอบอุ่น มีความสุขถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่วันนี้บรรยากาศกลับดูเงียบ ต่างคนต่าง ไม่พูดจา ดุจดาวก็กลับไปที่มุมเดิมของเธอ เตรียมหมักหมูไว้ทอดขายพรุ่งนี้ ตฤณเองก็จะเข้าไปช่วยก็ไม่กล้าจึงเดินออกไป รดน้ำต้นไม้หน้าบ้านแทน ดุจดาวเธอนั่งหั่นหมูไปก็คิดไปว่าเธอคิดถูกไหมที่จะไม่ยอมไปอยู่ที่บ้านย่าของสามี ใจหนึ่งเธอก็สงสารตฤณอีกใจก็ไม่อยากต้องไปอดทนกับคำพูดที่แสนดูถูกแบบนั้น “พี่ ถ้าดาวไม่ไปพี่จะไปอยู่ที่บ้านพ่อพี่ไหม” เสียงถามของภรรยาทำให้ชายหนุ่มที่รู้สึกอึดอัดมาตั้งนาน รีบเดินจากหน้าบ้านและไปนั่งข้าง ๆ ภรรยาทันที มือหนาที่หยาบกร้านเพราะทำงานหนักมาตลอดจับมือเล็กที่หั่นหมูมาวางไว้ที่ขาของเขา “ก่อนหน้านี้เราก็อยู่กันได้ ลำบากกว่านี้เราก็ผ่านมาแล้ว คงไม่มีที่ไหนมีความสุขถ้าที่นั่นไม่มีเมียพี่” ดุจดาวส่งยิ้มพร้อมน้ำตาให้สามี เธอคิดว่าเขาจะเลือก
ตอนที่ 3ต่ำต้อย ตฤณกลับมาถึงที่บ้านเขามองหน้าภรรยาไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาในวันนี้อย่างไรดี เพราะตัวเขาเองก็ยังสับสนไปหมด “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ตั้งแต่กลับมายังไม่ยอมพูดอะไรเลย” ดุจดาวกำลังตักน้ำพริกกะปิใส่ถุงเตรียมออกไปขาย นั่งมองสามีมานานยังไม่เห็นเขาจะเอ่ยทักเธอสักคำ ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้เดินมาล้างมือที่อ้างก่อนที่จะมาช่วยภรรยาหั่นชะอมชุบไข่ “วันนี้พ่อของพี่เขามาหาที่โรงงาน” ดุจดาวฟังคำสามีถึงกลับพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี “ถ้าเขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งพี่คงสบายใจกว่านี้ แต่นี่เขารวยมีโรงสีของตัวเองและเป็นเพื่อนกับเจ้าของโรงงานที่พี่ทำอีก รวยขนาดนี้กลับทิ้งพี่กับแม่” ดุจดาวลุกขึ้นไปหาสามี ด้วยความรู้สึกสงสารเขาคงลำบากมามากแล้วพอมารู้ว่าพ่อแท้ ๆ มีฐานะดีก็คงจะเสียความรู้สึก “ดาวพี่ไม่ได้โกรธพ่อนะ แต่พี่ทำตัวไม่ถูก เฮ้อ! อย่าเพิ่งไปคิดถึงมันดีกว่า เตรียมไปขายของเดี๋ยวไม่เสร็จ” ชายหนุ่มตัดบท3วันต่อมา ตระการกลับมารับลูกชายและลูกสะใภ้ไปที่บ้านของเขาที่อยู่ห่างจาก
ตอนที่ 2ชายแปลกหน้าที่เรียกว่าพ่อ ตฤณมาทำงานตามปกติและวันนี้เขาเดินตรวจรอบบริเวณโรงงานเพราะชอบมีคนแอบเอาขยะเหวี่ยงข้ามกำแพงมา เขาต้องคอยมาดูที่จุดนี้อยู่บ่อยและคอยขว้างถุงกลับไป “ตฤณ ผู้จัดการใหญ่ให้ตามไปพบที่ห้องของท่านด่วน” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลวิ่งมาตามเขาด้วยท่าทางที่รีบร้อนและดูตื่นเต้น จนคนถูกเรียกก็ตื่นเต้นไปด้วย “ผู้จัดการ มีอะไรหรือเปล่าครับถึงขนาดนายใหญ่เรียกแบบนี้ผมใจคอไม่ดีเลย” ระหว่างทางที่จะเดินไปยังส่วนในของฝ่ายบริหาร ชายหนุ่มก็พยายามถามคนมาตามเผื่อจะได้พอเดาได้บ้างว่าตัวเขาเองไปทำอะไรผิดไว้ “ผมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อเช้ามีแขกมาหาท่านคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ก่อนที่ท่านจะออกมาสั่งให้ผมออกมาตาม ท่าทางท่านดูตื่นเต้นแต่ก็ไม่ได้ดูโมโหอะไรนะ รีบวิ่งไปเถอะเพราะท่านดูรีบร้อนมาก” ตฤณทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นตั้งแต่มาทำงานที่นี่ เขายังไม่เคยคุยกับนายใหญ่เลย เคยเห็นแค่ตอนประชุมไกล ๆ เท่านั้น รู้แต่ว่าท่านเป็นคนที่ดุแล้วก็เจ้าระเบียบมาก ทันทีตฤณมาถึงที่ห้องของนายใหญ่ เลขาหน้าห้องให้เขารออยู่ด้านนอก เพราะเธอต้องเข้าไปรา
ตอนที่ 1เคียงข้าง ตฤณชายหนุ่มจากต่างจังวันผันตัวเองเข้ามาทำงานในกรุงเทพเพราะมารดาจากไปอย่างกะทันหัน ทำให้เขาไม่อยากอยู่คนเดียว เขาเข้ามาสมัครงานเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัยหรือที่คนทั่วไปเรียกว่ายาม ดุจดาวแม่ค้าขายเข้าแกง เธอพบรักกับตฤณได้เพียงปีเดียวก็ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีงานแต่งานไม่มีการจดทะเบียนสมรส เพราะเธอก็ไม่มีทั้งพ่อและแม่เหมือนกับชายหนุ่ม ทั้งสองคนเช่าห้องอยู่ด้วยกัน อีกฝ่ายก็ทำหน้าที่ยาม อีกฝ่ายก็ขายข้าวแกง จากตอนแรกที่ขายเฉพาะช่วงเช้าถึงบ่ายโมง ตอนนี้ดุจดาวก็ขายช่วงเย็นด้วยแต่ขายเป็นแบบแกงถุง ความจนที่ทำให้ทั้งคู่อยากหลุดพ้น ตฤณเองก็มักจะเข้าวเวรแทนเพื่อนถึงแม้จะได้เงินเพียงไม่กี่ร้อย แต่สำหรับเขาเมื่อมันรวมกันหลาย ๆ ครั้งมันก็กลายเป็นหลักพัน “วันนี้พี่ไปแล้วกลับเย็นอีกวันเลยนะ ชดมันจ้าง200 พี่หั่นหมูใส่ช่องแช่แข็งไว้ให้แล้ว ส่วนหมูทอดก็หมักแล้ว พี่ไปก่อนนะ” ตฤณจะช่วยแบ่งเบาภาระของภรรยาทุกครั้งที่พอมีเวลาเพราะเขารู้ว่าดุจดาวเหนื่อยแค่ไหน รายได้จากการเป็นยามและรับจ้างอยู่เวรเดือนหนึ่งก็หมื่นกว่าบาท แต่สำหร
ตอนที่ 1เคียงข้าง ตฤณชายหนุ่มจากต่างจังวันผันตัวเองเข้ามาทำงานในกรุงเทพเพราะมารดาจากไปอย่างกะทันหัน ทำให้เขาไม่อยากอยู่คนเดียว เขาเข้ามาสมัครงานเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัยหรือที่คนทั่วไปเรียกว่ายาม ดุจดาวแม่ค้าขายเข้าแกง เธอพบรักกับตฤณได้เพียงปีเดียวก็ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีงานแต่งานไม่มีการจดทะเบียนสมรส เพราะเธอก็ไม่มีทั้งพ่อและแม่เหมือนกับชายหนุ่ม ทั้งสองคนเช่าห้องอยู่ด้วยกัน อีกฝ่ายก็ทำหน้าที่ยาม อีกฝ่ายก็ขายข้าวแกง จากตอนแรกที่ขายเฉพาะช่วงเช้าถึงบ่ายโมง ตอนนี้ดุจดาวก็ขายช่วงเย็นด้วยแต่ขายเป็นแบบแกงถุง ความจนที่ทำให้ทั้งคู่อยากหลุดพ้น ตฤณเองก็มักจะเข้าวเวรแทนเพื่อนถึงแม้จะได้เงินเพียงไม่กี่ร้อย แต่สำหรับเขาเมื่อมันรวมกันหลาย ๆ ครั้งมันก็กลายเป็นหลักพัน “วันนี้พี่ไปแล้วกลับเย็นอีกวันเลยนะ ชดมันจ้าง200 พี่หั่นหมูใส่ช่องแช่แข็งไว้ให้แล้ว ส่วนหมูทอดก็หมักแล้ว พี่ไปก่อนนะ” ตฤณจะช่วยแบ่งเบาภาระของภรรยาทุกครั้งที่พอมีเวลาเพราะเขารู้ว่าดุจดาวเหนื่อยแค่ไหน รายได้จากการเป็นยามและรับจ้างอยู่เวรเดือนหนึ่งก็หมื่นกว่าบาท แต่สำหร...
Komen