ตอนที่ 4
ขอเวลา
ตระการส่งทั้งคู่ที่บ้านด้วยความรู้สึกที่เป็นห่วง แต่ด้วยที่ไม่ได้เลี้ยงลูกมาจึงไม่กล้าแม้แต่จะออกความคิดเห็นใด ๆ
บรรยากาศบ้านหลังเดิมที่เคยอบอุ่น มีความสุขถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่วันนี้บรรยากาศกลับดูเงียบ ต่างคนต่าง ไม่พูดจา ดุจดาวก็กลับไปที่มุมเดิมของเธอ เตรียมหมักหมูไว้ทอดขายพรุ่งนี้ ตฤณเองก็จะเข้าไปช่วยก็ไม่กล้าจึงเดินออกไป รดน้ำต้นไม้หน้าบ้านแทน
ดุจดาวเธอนั่งหั่นหมูไปก็คิดไปว่าเธอคิดถูกไหมที่จะไม่ยอมไปอยู่ที่บ้านย่าของสามี ใจหนึ่งเธอก็สงสารตฤณอีกใจก็ไม่อยากต้องไปอดทนกับคำพูดที่แสนดูถูกแบบนั้น
“พี่ ถ้าดาวไม่ไปพี่จะไปอยู่ที่บ้านพ่อพี่ไหม”
เสียงถามของภรรยาทำให้ชายหนุ่มที่รู้สึกอึดอัดมาตั้งนาน รีบเดินจากหน้าบ้านและไปนั่งข้าง ๆ ภรรยาทันที
มือหนาที่หยาบกร้านเพราะทำงานหนักมาตลอดจับมือเล็กที่หั่นหมูมาวางไว้ที่ขาของเขา
“ก่อนหน้านี้เราก็อยู่กันได้ ลำบากกว่านี้เราก็ผ่านมาแล้ว คงไม่มีที่ไหนมีความสุขถ้าที่นั่นไม่มีเมียพี่”
ดุจดาวส่งยิ้มพร้อมน้ำตาให้สามี เธอคิดว่าเขาจะเลือกที่จะไปอยู่บ้านหลังใหญ่ไปอยู่กับครอบครัวและทิ้งเธอไว้ข้างหลัง เสียอีก
“พี่พูดจริงใช่ไหม แต่นั่นพ่อกับย่าพี่นะ”
ดุจดาวถามทั้งที่เธอยินดีกับสิ่งที่ชายหนุ่มตัดสินใจแต่แค่อยากให้เขาได้คิดอีกครั้ง
“พี่ไม่ได้ไปอยู่กับท่านแต่ท่านก็ยังคงเป็นพ่อเป็นย่าของพี่ มีเวลาก็คงแวะไปหา พี่เลือกดาว ถ้าดาวไม่มีความสุขพี่ก็ไม่มีความสุขเหมือนกัน”
ค่ำคืนนี้ต่างคนต่างหลับตาแต่ไม่มีใครที่หลับได้สนิทจริง ๆ ดุจดาวคิดตลอดว่าการที่เธอทนฟังคำดูถูกจากย่าสามีไม่ได้กำลังทำร้ายตฤณทางอ้อมไหม เพราะถ้าเขาได้ไปใช้ชีวิตที่นัน เขาคงจะมีความสุขแล้วไม่ต้องเหนื่อยเหมือนอยู่ที่นี่
“นอนไม่หลับเป็นอะไร ไม่มีอะไรให้ต้องคิด พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปขายของอีก”
ตฤณนอนกอดภรรยาตัวเขาเองที่นอนไม่หลับก็รับรู้ได้ว่าดุจดาวเองก็นอนไม่หลับ
“ดาวสับสนค่ะ ความจริงดาวก็ยังไม่ได้รู้จักย่าของพี่มากพอก็ด่วนตัดสินว่าท่านกับดาวคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ดาวก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนคำพูดแบบนั้นได้ไหม เราเคยอยู่กันแบบนี้เหมือนต้องไปอยู่กับคนอื่น มันคงไม่มีความเป็นส่วนตัวและคงไม่คุ้นชิน ดาวไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดีพี่”
ตฤณดึงคนตัวเล็กเข้ามาชิดตัวเขากอดเธอไว้แน่นกว่าเดิม เพราะตอนนี้คนในอ้อมกอดดูเครียดกว่าที่เขาคิดไว้อีก
“นอนดีกว่า เอาเป็นว่าเรายังไม่ต้องให้คำตอบคุณพ่อ ให้เวลามันค่อย ๆ หมุนไปมันอาจจะมีทางออกที่ดีเอง คิดแค่วันนี้ก็พอ ไหนมาให้หอมแก้มหน่อยจะได้หลับฝันดี”
หญิงสาวพยายามข่มใจให้คิดตามคำที่สามีพูด จนในที่สุดเธอก็ปล่อยหัวใจให้หลับได้ลง
เช้านี้ดุจดาวทำกับข้าวไปขายน้อยกว่าปกติเพราะช่วงเย็นของเมื่อวานเธอไม่ค่อยสบายใจจึงไม่อยากทำมาก
รถสีดำคันหรูขับมาจอดหน้าร้าน หญิงชราที่หน้าตาคุ้นเคยเดินลงมาจากรถพร้อมกับยืนมองผู้คนที่มารุมซื้อแกงจากร้านของหลานสะใภ้
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
ดุจดาวละจากลูกค้าหันมายกมือไหว้ทักทาย แต่ชุลีก็โบกมือให้เธอรู้ว่าให้ไปขายของให้เสร็จก่อน
ชุลีมองหาช่องว่างหน้าร้าน เธอเดินเข้าไปดูกับข้าวที่ตอนนี้เหลือไม่กี่อย่างแล้ว
“แกงเขียวหวานแล้วก็แกงส้มอย่างละสามถุงนะ”
ลูกค้าที่ยืนเลือกกับข้าวอยู่ต่างหันมาบอกให้ดุจดาวตักให้กับชุลีก่อน เพราะดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่ใช่คนธรรมดา
“ไม่ต้องทอน แล้วไม่ต้องให้ฟรีด้วยของซื้อของขาย เดี๋ยวฉันไปดูหลานชายฉันหน่อย ไปล่ะ”
ดุจดาวเก็บธนบัตรมูลค่าหนึ่งพันบาทใส่กระเป๋า เธอรู้สึกเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความฝันอยู่ดี ๆ ย่าสามีที่แสนจะพูดจา ดูถูกกับมาซื้อแกงเธอถึงร้าน
ดุจดาวได้แต่เก็บความรู้สึกที่สับสนไว้เพราะกว่าจะได้เจอสามีอีกทีก็เที่ยงคืน เธอไม่อยากโทรศัพท์ไปรบกวนในเวลางาน
ดุจดาวหลับสนิททั้งที่ตั้งใจจะยังไม่นอนเพราะจะรอสามีกลับมาอยากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เขาฟังแต่ด้วยความเหนื่อยพอล้างหม้อและเตรียมของทำกับข้าวตอนเช้าเสร็จดุจดาวก็ หลับสนิทมารู้ตัวอีกทีก็โดนสามีมานอนกอดแล้ว
“ดาวหลับสนิทเลยกินข้าวไหมคะ มีแกงหมูหน่อไม้อยู่ใน ตู้กับข้าว เดี๋ยวดาวไปตักให้ค่ะ”
หญิงสาวทำท่าจะลุกแต่ถูกอีกฝ่ายดึงตัวมากอด เพราะตฤณซื้อข้าวเหนียวที่โรงงานกินไปแล้วเมื่อตอนสองทุ่ม เขาจึงอิ่มไม่อยากกินข้าวแล้ว
“ไม่กินพี่ไม่หิว วันนี้คุณย่าไปที่ร้านมาเหรอ”
ดุจดาวยังไม่ทันเริ่มเล่า สามีของเธอก็พูดขึ้นมาเสียก่อนเพราะย่าของเขาคงไปบอกว่ามาที่ร้านของเธอ
“ใช่ค่ะ มาซื้อกับข้าวไปสองอย่างแต่อย่างละหลายถุง ท่านไปหาพี่ว่าอย่างไรบ้างคะ”
หญิงสาวผลิกตัวเพื่อหันหน้ามาทางสามี เพราะคิดว่าสองย่าหลานคงต้องคุยอะไรกันแน่ ๆ
“ท่านไม่ได้พูดอะไรแค่บอกว่าร้านของดาวขายดีขนาดนั้นน่าจะเปิดให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ถามพี่ว่าจะไปอยู่กับท่านเมื่อไหร่ พี่ก็ตอบไปว่ายังไม่ได้คิดเลย ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร”
ดุจดาวส่งยิ้มหวานให้สามีเพราะตอนนี้เธอก็เริ่มคิดว่าย่าของชายหนุ่มคงมีอีกหลายแง่มุมให้เธอได้รู้จักแต่เธอลองถามใจตัวเองตอนนี้เธอก็ยังคิดว่าอยากอยู่ที่บ้านหลังนี้มากกว่า
ตฤณลุกไปอาบน้ำแต่ก่อนที่เขาจะอาบก็ได้เตรียมตักน้ำพริกเผาผัดใส่ถุงไว้เพื่อขายในวันพรุ่งนี้เพื่อช่วยให้ดุจดาวไม่ต้องวุ่นเพราะเขาไม่ได้ออกไปช่วยกว่าจะตื่นก็สิบโมงกว่าเที่ยงก็ต้องไปเข้าเวรต่อ
ตอนที่ 5สองล้าน เช้านี้รถหรูคันเดิมขับมาจอดหน้าร้านแต่วันนี้มาเร็วกว่า เมื่อวาน ชุลีก้าวลงจากรถด้วยเสื้อผ้าที่ธรรมดาแต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ราคาถูก พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนแบบแม่ค้ามาด้วย “ไม่ได้ขายอะไรมานาน เดี๋ยววันนี้จะมาช่วยขายนะจะได้ ไว ๆ ลูกค้ารอกันนาน ต้องไปทำงานกันอีก” ดุจดาวทำหน้าที่คิดเงิน เพราะย่าสามีตักแกงใสถุงได้เก่งมาก ตักไว้รอพอลูกค้าสั่งดุจดาวก็หยิบใส่ถุงได้เลย วันนี้ลูกค้าจึงไม่ต้องยืนรอกันนาน “ขายหมดเลย ดีนะยังเหลือน้ำพริกเผาให้ฉันกลับไปกินบ้านตั้งถุงหนึ่ง ทำเองหรือรับเขามา” ชุลีลากเก้าอี้มานั่ง เพราะอายุที่มากและไม่ค่อยได้ยืนนานเธอเริ่มปวดเข่า “ทำเองค่ะ ยังมีที่บ้านอีก ตำครั้งหนึ่งก็จะขายสองวัน พอหมดก็เปลี่ยนเป็นน้ำพริกกะปิกับน้ำพริกตาแดงค่ะ” “น้ำพริกตาแดงกินกับปลาดุกย่างอร่อย” คนสูงอายุเสนอความคิดเห็นเพราะเธอจะเห็นสองอย่างนี้ขายคู่กันบ่อย ๆ “ใช่ค่ะ ถ้าวันไหนทำน้ำพริกตาแดงเมียเพื่อนพี่ตฤณจะมานั่งย่างปลาดุกขายข้าง ๆ ค่ะ” “แกงส้มอร่อยมากเลยนะ ไปได้ฝ
ตอนที่ 6ความเปลี่ยนแปลง 3 เดือนผ่านไป ร้านขายเข้าแกงข้าวแกงของดุจดาวสร้างเสร็จแล้ว ชุลีลงมาดูแลเอง ส่วนตฤณก็ลาออกจากยามไปช่วยงานที่โรงสีและเขาก็สามารถเรียนรู้มันได้ดี “จะแยกกันอยู่แบบนี้มันจะดีเหรอ” ชุลีถามหลานสะใภ้เพราะตอนนี้ดุจดาวยังคงอยู่บ้านหลังเดิม ร้านยังไม่มีคนทำกับข้าวได้ตามสูตรหลายอย่างหญิงสาวยังต้องทำเอง และอยากให้ลูกค้าเดิมมั่นใจว่าคือรสชาติเดิมที่เคยกินกันมา “ดาวอยู่ได้ค่ะ พี่ตฤณต้องทำงาที่โรงสีและไหนจะที่ตลาดอีกไม่อยากให้ต้องไปกลับมานอนบ้านนี้มันไกลจะเพลียเปล่า ๆ ไว้วันไหนว่างก็มาหากันได้ตลอด” ชุลีในฐานะผู้ใหญ่ที่ผ่านการมีชีวิตครอบครัวมาแล้ว เขารู้ว่าการที่สามีภรรยาแยกกันอยู่มันไม่ดีแต่ก็เคารพการตัดสินใจของ ดุจดาว “เพื่อนเธอสอนทำไปได้กี่เมนูแล้วหล่ะ จะได้ช่วยกัน เธอก็จะได้ว่างนั่งเป็นเถ้าแก่กับเขาบ้าง” รำพึงภรรยาของเพื่อนตฤณที่เป็นยามด้วยกัน เธอเคยมา ย่างปลาดุกขายเวลาที่ดุจดาวทำน้ำพริกตาแดง ตอนนี้หญิงสาวอยากให้เพื่อนมีรายได้จึงเอามาเป็นหัวหน้าแม่ครัว และจะเป็นคนเดียวที่ได้สูตรจากดุจดาว
ตอนที่ 7เผลอตัวเผลอใจ ชุลีเธอถือว่าเธอได้เตือนหลานชายไปหมดแล้ว ก็อยู่ที่เขาจะตัดสินในเลือกว่าจะเอาอย่างไรกับความรักของเขาต่อไป หญิงในวัยชราเธอผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งและเธอก็ไม่อยากผิดซ้ำ เธอหวังเพิ่งตระการลูกชายไม่ได้เลย เขาไม่มี ความหนักแน่นไม่สามารถที่จะสั่งสอนลูกได้ ขนาดเรื่องที่ตามหาตฤณถ้าไม่ได้คนเป็นย่าไม่มีทางเจอกันแน่ๆ ตฤณตั้งใจจะห่างจากเจนตามคำขู่ของคนเป็นย่าแต่เหมือนเขายิ่งพยายามห่างเธอเท่าไหร่ เธอกลับทำให้เขายิ่งใกล้ชิดเธอมากขึ้น “วันนี้พี่ไม่ได้ไปกินข้าวเย็นด้วยนะว่าจะไปหาดุจดาว ไม่ได้ไปหาเธอนานมาก” “ได้ค
ตอนที่ 8เลือก “คุณย่าพาดุจดาวมาที่นี่ทำไมคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ เมื่อถูกย่าสามีพาเธอมาที่ร้านอาหารที่ดูไฮโซในโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ ชุลียังไม่ทันจะตอบตฤณกับเจนจิราก็เดินเข้ามาในร้าน ชายหนุ่มดึงเก้าอี้ออกเพื่อให้หญิงสาวนั่ง ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปนั่งในฟังตรงข้ามแทน “คุณย่า...” ดุจดาวไม่รู้ว่าส่งที่เธอเห็นหมายความว่าอย่างไร ย่าของสามีพาเธอมาที่นี่เพื่อให้เธอรับรู้ว่าสามีของเธอไม่ได้ไปพบช่างตามที่บอกแต่เขากลับมากินข้าวกับสาวสวยที่เธอไม่รู้จัก “ย่าบอกแล้วให้ตั้งสติ ดูไปก่อนอย่าคิดอะไร
ตอนที่ 9เริ่มต้นใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม ชุลีกลับมาส่งหลานสะใภ้ที่บ้านในเวลาเย็นพร้อมกับนัดให้เจนจิรามาเจอที่ร้านด้วย ทันทีที่ดุจดาวก้าวลงจากรถ ตฤณก็รีบเดินมากอดภรรยาไว้แน่นแต่แค่เพียงไม่กี่นาทีก็มีรถมาจอดข้าง ๆ ร้านและตฤณก็จำได้ดีว่ามันคือรถของเจนจิรา “คุณย่า...”ตฤณหันไปมองที่รถที่ขับเข้ามาจอดและหันมาเรียกชุลีเพื่อเป็นคำถามว่าย่าของเขานัดอีกฝ่ายมาใช่ไหม“ใช่ ย่าเรียกหนูเจนมา จะได้จบ ๆ ตฤณเลือกใครย่าก็จบส่วนดุจดาวย่าก็จะรับเป็นหลานบุญธรรมถ้าตฤณเลือกหนูเจน”ชายหนุ่มละสายตาจากย่าแล้วหันกลับมามองหน้าดุจดาวส่ายหัวไปมาเหมือนคนกำลังเสียสติ“ไม่เอานะดาวมันไม่ใช่อย่างที่ดาวคิด พี่ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”ดุจดาวแกะมือทั้งสองข้างออกจากตัวเขาและเธอเดินตรงไปหาเจนจิราที่กำลังลงจากรถ“เชิญด้า
ตอนที่ 10บทเรียน ตอนนี้ชุลีให้ตระการมาช่วยลูกชายดูแลเรื่องตลาด ที่จะเปิดใหม่เพื่อให้ตฤณได้มีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้น ส่วนดุจดาวชุลีก็ตัดสินใจที่จะเปิดร้านขายข้าวแกงหน้าโรงสีอีกสาขาเพื่อดึงลูกสะใภ้ให้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ ร้านสาขาเดิมรำพึงก็ดูแลแทน ชุลีขึ้นเงินเดือนให้รำพึงและยังให้โบนัสลูกน้องทุกคนตามยอดขาย ทำให้ทุกคนมองร้านนี้เป็นร้านของตัวเองด้วย รำพึงรักร้านนี้และดุจดาวมากเพราะจากอยู่ห้องเช่าตอนนี้เธอก็สามารถซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง สามีของเธอก็ไม่ต้องรับจ้างเข้าเวร ทำแค่ตามปกติและมาย่างปลาดุกขายช่วยเธอแทน “ดุจดาวทำไมเด
ตอนที่ 11อโหสิกรรม ตลาดเสร็จแล้วแม่ค้าพ่อค้าต่างมาจองที่ขายกันจนแน่นเพราะตฤณคิดค่าเช่าที่ถูกมากแถมด้วยสามเดือนแลกฟรีโดยเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟโดยใช้วิธีการหารกันเท่านั้น “คิดแล้วมันคุ้มแน่นะ ย่าแก่แล้วไม่อยากคิด” ชุลีเป็นห่วงแต่ตัวเองก็เบื่อที่จะใช้สมองแล้ว จึงอยากให้หลานชายคิดดูดี ๆ และก็เชื่อในการตัดสินใจของเขา “สามเดือนแรกเราขาดทุนครับเพราะมีค่าเก็บขยะ ค่าทำความสะอาดและอีกหลายอย่างที่เราต้องเสียแต่เรามีเงินที่เก็บค่าแรกเข้าตอนจองไว้ ก็เอาออกมาใช้แทน แต่เดือนต่อ ๆ ไปเราจะได้กำไรจากตลาดใหม่ตกเดือนละแสนกว่าบาทครับ” ชุลีฟังหลานชายอธิบายสบายใจกว่าฟังลูกชายพูด เพราะเจ้านั้นเอาแต่พอเพียงเหมือนพอใจแค่มีเงินกินเงินใช้ไปวัน ๆ “เงินที่ได้ก็จัดการให้ดี เพราะเราต้องปรับปรุงเสียภาษีอีก อย่าเอามาใช้จนหมด เรื่องแบบนี้ย่าว่าตฤณคงเข้าใจดีเพราะผ่านชีวิตของคำว่าจนมาแล้ว” ดุจดาวเดินเข้ามาในห้องของชุลีเพื่อเอาน้ำส้มคั้นมาให้เพราะเธออยากให้ระบบขับถ่ายของคนอายุมากไม่มีปัญหา “ทำอร่อย คนมันเก่งขนาดแค่น้ำส้มยังอร่อยเลย ความจริงทำขายก็ได้นะรส
ตอนที่ 12หมดห่วง โกศของนิตยาถูกวางไว้กับโกศปู่ของตฤณ เพราะชุลีทำพิธีงานศพแบบไทยไม่ได้ฝัง “อโหสิกรรมให้ฉันนะนิตยา เวรกรรมมันตามฉันแล้วใน ชาตินี้ฉันอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา สักวันเราคงได้เจอกันนะ” ชุลีได้ทำตามที่ตั้งใจไว้แล้ว อย่างน้อยความรู้สึกผิดก็น้อยลง สิ่งต่อไปที่เขารอคอยคือการมีทายาทสืบเชื้อสายตระกูลต่อไป ตฤณไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะหลังจากที่กลับจากนครสวรรค์ได้สองเดือน ดุจดาวก็ตั้งท้อง “ย่าจะมามัวไม่สบายไม่ได้แล้ว ใครจะเลี้ยงหลาน พวกแม่บ้านที่นี่ก็ไม่เคยมีลูกกันสักคน ดุจดาวก็ต้องดูร้าน ตระการลูกไม่ต้องไปทำงานหรอก ช่วยแม่เลี้ยงหลานอยู่บ้านดีกว่า ปล่อยหน้าที่ทำมาหากินให้หนุ่มสาวเขาทำไป” ตระการเต็มใจและดีใจที่สุดเพราะเขายังคิดถึงวันเวลาที่เขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยไปขายปลาที่ตลาดในช่วงเช้าได้เพื่อให้นิตยาได้มีเวลาทำงานบ้านและเตรียมทำขนมขายตอนเย็น “ตอนลูกได้เลี้ยงแค่สองขวบ เอาไว้เลี้ยงหลานแทนก็ได้เนาะคุณแม่” ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลาดมีปัญหาเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะแม่ค้าทะเลาะกัน ปัญหาความสกปรก ห
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้