ตอนที่ 7
เผลอตัวเผลอใจ
ชุลีเธอถือว่าเธอได้เตือนหลานชายไปหมดแล้ว ก็อยู่ที่เขาจะตัดสินในเลือกว่าจะเอาอย่างไรกับความรักของเขาต่อไป
หญิงในวัยชราเธอผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งและเธอก็ไม่อยากผิดซ้ำ เธอหวังเพิ่งตระการลูกชายไม่ได้เลย เขาไม่มี ความหนักแน่นไม่สามารถที่จะสั่งสอนลูกได้ ขนาดเรื่องที่ตามหาตฤณถ้าไม่ได้คนเป็นย่าไม่มีทางเจอกันแน่ๆ
ตฤณตั้งใจจะห่างจากเจนตามคำขู่ของคนเป็นย่าแต่เหมือนเขายิ่งพยายามห่างเธอเท่าไหร่ เธอกลับทำให้เขายิ่งใกล้ชิดเธอมากขึ้น
“วันนี้พี่ไม่ได้ไปกินข้าวเย็นด้วยนะว่าจะไปหาดุจดาว ไม่ได้ไปหาเธอนานมาก”
“ได้ค่ะเจนเข้าใจ ดีแล้วคุณย่าจะได้ไม่มองเจนกับพี่ไม่ดีด้วย”
ชายหนุ่มดีใจที่หญิงสาวเข้าใจเขา ว่าระหว่าเธอกลับเขาตอนนี้ก็เหมือนเพื่อนสนิทเพราะอย่างไรเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว
ตฤณขับรถออกจากตลาดที่เขาไปเก็บค่าเช่ามาวันนี้ซึ่งอยู่ไกลจากบ้านหลังเก่าของเขามากแต่ยังไม่ทันถึง เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเจนจิรา ว่าตอนนี้เธอปวดท้องมากและเธอก็อยู่ที่ห้างขับรถไปหาหมอไม่ไหว
ชายหนุ่มตัดสินใจหันรถกลับและรีบขับกลับไปรับเจนจิราไปหาหมอกว่าจะเสร็จก็สามทุ่มโทรศัพท์ของเขาก็แบตหมดจึงไม่ได้โทรบอกว่าดุจดาวว่าคงไม่ได้ไปคืนนี้
ดุจดาวเป็นห่วงสามีมาก เขพยายามโทรศัพท์หาเท่าไหร่ก็ไม่ติดจึงตัดสินใจโทรศัพท์หาชุลีผู้เป็นย่า
“ฟังฉันนะ เธอนอนได้เลยไม่ต้องเป็นห่วงหลานชายฉันปลอดภัยดีแต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านไว้พรุ่งนี้เธอค่อยถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เชื่อฉันอย่าคิดมากนอนและรักตัวเองให้มาก ๆ ”
วางสายแล้วดุจดาวใจคอไม่ดีเลยทั้งเป็นห่วงแล้วก็รู้สึกใจหวิว ๆ เหมือนกำลังคิดว่าสามีของเธออาจจะมีคนอื่น
คนนี้ทั้งคืนดุจดาวนอนไม่หลับ เสียงประตูที่ดังขึ้น เกือบตีหนึ่งทำให้เธอรีบลุกไปดูว่าใครมา
“พี่ขอโทษที่มาป่านนี้ พี่ออกจากตลาดมาแล้ว เพื่อนดันโทรศัพท์มาบอกว่าปวดท้องมากอยู่ที่ห้างจึงต้องขับไปรับพาไปโรงพยาบาลกว่าจะไปส่งที่บ้านอีกเลยดึกไปใหญ่”
ตฤณพูดความจริงเพียงแต่เขาไม่ได้บอกว่าเพื่อนคนนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายและดุจดาวก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับ
เช้านี้ชายหนุ่มไถ่โทษโดยการอยู่ช่วยภรรยาที่ร้านทั้งวันและรับเธอไปค้างที่บ้านใหญ่ด้วยพรุ่งนี้เช้าค่อยให้คนขับรถมาส่งที่ร้าน
อาหารมื้อเย็นวันนี้พร้อมหน้าครอบครัว ชุลีรู้สึกมีความสุข แต่ก็ยังคงไม่ไว้วางใจหลานชาย เพราะจากที่เธอแอบส่งคนตามดู ทำให้รู้ว่าทั้งตฤณและเจนจิรายังคงเจอกันทุกวันและอยู่ด้วยกันจนดึก
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นตฤณรีบควักออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะมองชื่อคนโทรมาแล้วหันมามองหน้าภรรยาและย่า
ชุลีถอนหายใจก่อนจะตัดสินพูดกับหลานชายที่ดูแล้วกำลังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะรับหรือไม่รับ
“ถ้ามันสำคัญก็รับแต่ถ้าคิดว่าการกินข้าวพร้อมหน้ามันสำคัญกว่าก็ค่อยโทรกลับไป”
“ช่างที่กำลังทำตลาดโทรมาผมขอตัวไปคุยก่อนนะครับ”
ตฤณลุกออกไปคุยโทรศัพท์สร้างความผิดหวังให้กับคนเป็นย่าที่เขารู้อยู่แล้วว่าคนที่โทรมาคือเจนจิรา ฟางเส้นสุดท้ายขาดลง ชุลีตัดสินใจที่จะให้ดุจดาวได้รู้ความจริงด้วยตัวเอง เธอจะไม่มีทางบอกเด็ดขาด และหญิงชราผู้ผ่านโลกมามากมายก็คิดแผนได้ทันที
ดุจดาววันศุกร์นี้เดี๋ยวฉันไปรับ ไปธุระเป็นเพื่อนฉันหน่อยแล้วไม่ต้องบอกสามีเธอนะ แต่งตัวให้สวย ๆ
หญิงสาวแค่ได้ยินคำว่าไม่ต้องบอกสามีเธอนะ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับตฤณแน่นอน
ชุลีจัดการนัดกับหลานสะใภ้เรียบร้อยแล้ว แผนต่อไปเธอโทรศัพท์ไปหาเจนจิราเพื่อบอกข้อเสนอบางอย่าง
“เจนจิราที่ฉันโทรมาหาเธอวันนี้ ขอพูดตรง ๆ เลยนะ เธอต้องการได้หลานชายฉันเป็นสามีใช่ไหม และมันคงจะดีถ้าเขาเลิกกับภรรยาเขาก่อนจริงไหม”
หญิงสาวปลายสาวไม่รู้ว่าจะแสดงว่าเป็นคนดีคิดแค่เพื่อนหรือจะพูดความจริงดี แต่ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าพูดตรง ๆ เธอก็จะลองเสี่ยงดู
“จริงค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น เธอทำตามแผนฉัน วันศุกร์เธอทำอย่างไรก็ได้ให้ตฤณไปกินข้าวเย็นกับเธอที่ร้านอาหารที่เธอชอบไปประจำกันและส่งโลเคชั่นมาให้ฉัน และฉันจะพาภรรยาของเขาไปเจอและคงไม่มีผู้หญิงคนไหนทนได้ถ้ารู้ว่าสามีนอกใจ”
ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ชุลีวางแผนครั้งนี้ไม่ได้หวังจะให้หลานชายกับดุจดาวเลิกกันแต่เขาหวังให้หลานชายรู้ใจตัวเองว่าใครที่มีค่าต่อเขา เพราเธอทนเห็นหลานสะใภ้เอาแต่ก้มหน้าโง่อยู่แต่ในครัวไม่ไหวแล้ว
วันศุกร์ก็มาถึงชุลีขับรถไปรับดุจดาวตั้งแต่ช่วงสายเพื่อพาเธอมาทำผมแต่งหน้า เพื่อไม่ให้น้อยหน้าเจนจิราลูกสาวร้านทอง
“โทรศัพท์หาตฤณ ถามเขาว่าคืนนี้เขาจะมานอนกลับเธอไหมและฉันก็ทายได้ว่าเขาต้องตอบว่าไม่”
ชุลีสั่งหลานสะใภ้และคำตอบที่ได้มันก็ตรงกับที่เธอบอก ชายหนุ่มให้เหตุผลว่าเขาต้องไปคุยกับช่างที่ตลาดเพื่อตรวจงานแล้วพรุ่งนี้เช้าต้องรีบสั่งของเพิ่มไม่อยากรีบไปรีบมา
ดุจดาววางสายเสร็จเธอมองหน้าย่าของสามีด้วยสายตาที่อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด
“อย่าอ่อนแอ เข้มแข็ง วันนี้เราจะไปดูกันว่าที่หลานชายฉันบอกว่าต้องคุยกับช่างตรวจงานที่ตลาดจนดึกมันจริงไหม แต่เธอต้องฟังคำย่านะ ไม่ว่าสิ่งที่เห็นจะคืออะไร นิ่ง สงบและทำตัวเองให้มีค่า”
ชุลีกำลังจะเดินนำขึ้นรถแต่ดุจดางดึงมือหญิงชราไว้ก่อนด้วยท่าทีที่ลังเล
“ดาวไม่อยากไปแล้วค่ะ ดาวกลัว”
“มองหน้าฉัน เธอแค่ไปดูความจริง มันอาจจะไม่ได้มีอะไรก็ได้ ฉันรู้ว่าเธอก็กำลังระแวงถ้าเราไปแล้วไม่เจออะไร เธอกับตฤณก็จะได้ไม่ระแวงกัน แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็อยู่ที่เธอตัดสินใจ”
หญิงชราดึงคนตัวเล็กมากอดไว้ด้วยความสงสาร ดุจดาวไม่คิดเลยว่าย่าสามีที่เธอเคยไม่ชอบเอาเสียเลยจะทำเพื่อเธอทุกอย่างแบบนี้
“ฟังย่านะลูก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นย่าอยู่ข้างหนูเพราะหนูคือความถูกต้อง ย่าทำผิดพลาดในอดีตมาแล้ว จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก ขอแค่หนูมีสติและฟังย่าอย่าใช้แต่อารมณ์”
ทั้งสองคนขับรถออกจากร้านแล้วเพื่อพาดุจดาวไปเสริมสวยและไปต่อยังจุดนัดหมายที่ชุลีกับเจนจิรานัดกันไว้ ชุลีต้องการไปถึงก่อนเพื่อให้อีกฝ่ายไม่เห็นพวกเธอสองคน
ตอนที่ 8เลือก “คุณย่าพาดุจดาวมาที่นี่ทำไมคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ เมื่อถูกย่าสามีพาเธอมาที่ร้านอาหารที่ดูไฮโซในโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ ชุลียังไม่ทันจะตอบตฤณกับเจนจิราก็เดินเข้ามาในร้าน ชายหนุ่มดึงเก้าอี้ออกเพื่อให้หญิงสาวนั่ง ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปนั่งในฟังตรงข้ามแทน “คุณย่า...” ดุจดาวไม่รู้ว่าส่งที่เธอเห็นหมายความว่าอย่างไร ย่าของสามีพาเธอมาที่นี่เพื่อให้เธอรับรู้ว่าสามีของเธอไม่ได้ไปพบช่างตามที่บอกแต่เขากลับมากินข้าวกับสาวสวยที่เธอไม่รู้จัก “ย่าบอกแล้วให้ตั้งสติ ดูไปก่อนอย่าคิดอะไร
ตอนที่ 9เริ่มต้นใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม ชุลีกลับมาส่งหลานสะใภ้ที่บ้านในเวลาเย็นพร้อมกับนัดให้เจนจิรามาเจอที่ร้านด้วย ทันทีที่ดุจดาวก้าวลงจากรถ ตฤณก็รีบเดินมากอดภรรยาไว้แน่นแต่แค่เพียงไม่กี่นาทีก็มีรถมาจอดข้าง ๆ ร้านและตฤณก็จำได้ดีว่ามันคือรถของเจนจิรา “คุณย่า...”ตฤณหันไปมองที่รถที่ขับเข้ามาจอดและหันมาเรียกชุลีเพื่อเป็นคำถามว่าย่าของเขานัดอีกฝ่ายมาใช่ไหม“ใช่ ย่าเรียกหนูเจนมา จะได้จบ ๆ ตฤณเลือกใครย่าก็จบส่วนดุจดาวย่าก็จะรับเป็นหลานบุญธรรมถ้าตฤณเลือกหนูเจน”ชายหนุ่มละสายตาจากย่าแล้วหันกลับมามองหน้าดุจดาวส่ายหัวไปมาเหมือนคนกำลังเสียสติ“ไม่เอานะดาวมันไม่ใช่อย่างที่ดาวคิด พี่ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”ดุจดาวแกะมือทั้งสองข้างออกจากตัวเขาและเธอเดินตรงไปหาเจนจิราที่กำลังลงจากรถ“เชิญด้า
ตอนที่ 10บทเรียน ตอนนี้ชุลีให้ตระการมาช่วยลูกชายดูแลเรื่องตลาด ที่จะเปิดใหม่เพื่อให้ตฤณได้มีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้น ส่วนดุจดาวชุลีก็ตัดสินใจที่จะเปิดร้านขายข้าวแกงหน้าโรงสีอีกสาขาเพื่อดึงลูกสะใภ้ให้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ ร้านสาขาเดิมรำพึงก็ดูแลแทน ชุลีขึ้นเงินเดือนให้รำพึงและยังให้โบนัสลูกน้องทุกคนตามยอดขาย ทำให้ทุกคนมองร้านนี้เป็นร้านของตัวเองด้วย รำพึงรักร้านนี้และดุจดาวมากเพราะจากอยู่ห้องเช่าตอนนี้เธอก็สามารถซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง สามีของเธอก็ไม่ต้องรับจ้างเข้าเวร ทำแค่ตามปกติและมาย่างปลาดุกขายช่วยเธอแทน “ดุจดาวทำไมเด
ตอนที่ 11อโหสิกรรม ตลาดเสร็จแล้วแม่ค้าพ่อค้าต่างมาจองที่ขายกันจนแน่นเพราะตฤณคิดค่าเช่าที่ถูกมากแถมด้วยสามเดือนแลกฟรีโดยเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟโดยใช้วิธีการหารกันเท่านั้น “คิดแล้วมันคุ้มแน่นะ ย่าแก่แล้วไม่อยากคิด” ชุลีเป็นห่วงแต่ตัวเองก็เบื่อที่จะใช้สมองแล้ว จึงอยากให้หลานชายคิดดูดี ๆ และก็เชื่อในการตัดสินใจของเขา “สามเดือนแรกเราขาดทุนครับเพราะมีค่าเก็บขยะ ค่าทำความสะอาดและอีกหลายอย่างที่เราต้องเสียแต่เรามีเงินที่เก็บค่าแรกเข้าตอนจองไว้ ก็เอาออกมาใช้แทน แต่เดือนต่อ ๆ ไปเราจะได้กำไรจากตลาดใหม่ตกเดือนละแสนกว่าบาทครับ” ชุลีฟังหลานชายอธิบายสบายใจกว่าฟังลูกชายพูด เพราะเจ้านั้นเอาแต่พอเพียงเหมือนพอใจแค่มีเงินกินเงินใช้ไปวัน ๆ “เงินที่ได้ก็จัดการให้ดี เพราะเราต้องปรับปรุงเสียภาษีอีก อย่าเอามาใช้จนหมด เรื่องแบบนี้ย่าว่าตฤณคงเข้าใจดีเพราะผ่านชีวิตของคำว่าจนมาแล้ว” ดุจดาวเดินเข้ามาในห้องของชุลีเพื่อเอาน้ำส้มคั้นมาให้เพราะเธออยากให้ระบบขับถ่ายของคนอายุมากไม่มีปัญหา “ทำอร่อย คนมันเก่งขนาดแค่น้ำส้มยังอร่อยเลย ความจริงทำขายก็ได้นะรส
ตอนที่ 12หมดห่วง โกศของนิตยาถูกวางไว้กับโกศปู่ของตฤณ เพราะชุลีทำพิธีงานศพแบบไทยไม่ได้ฝัง “อโหสิกรรมให้ฉันนะนิตยา เวรกรรมมันตามฉันแล้วใน ชาตินี้ฉันอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา สักวันเราคงได้เจอกันนะ” ชุลีได้ทำตามที่ตั้งใจไว้แล้ว อย่างน้อยความรู้สึกผิดก็น้อยลง สิ่งต่อไปที่เขารอคอยคือการมีทายาทสืบเชื้อสายตระกูลต่อไป ตฤณไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะหลังจากที่กลับจากนครสวรรค์ได้สองเดือน ดุจดาวก็ตั้งท้อง “ย่าจะมามัวไม่สบายไม่ได้แล้ว ใครจะเลี้ยงหลาน พวกแม่บ้านที่นี่ก็ไม่เคยมีลูกกันสักคน ดุจดาวก็ต้องดูร้าน ตระการลูกไม่ต้องไปทำงานหรอก ช่วยแม่เลี้ยงหลานอยู่บ้านดีกว่า ปล่อยหน้าที่ทำมาหากินให้หนุ่มสาวเขาทำไป” ตระการเต็มใจและดีใจที่สุดเพราะเขายังคิดถึงวันเวลาที่เขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยไปขายปลาที่ตลาดในช่วงเช้าได้เพื่อให้นิตยาได้มีเวลาทำงานบ้านและเตรียมทำขนมขายตอนเย็น “ตอนลูกได้เลี้ยงแค่สองขวบ เอาไว้เลี้ยงหลานแทนก็ได้เนาะคุณแม่” ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลาดมีปัญหาเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะแม่ค้าทะเลาะกัน ปัญหาความสกปรก ห
ตอนที่ 1พราก “แม่คะ! เทียนไปตามหาเจ้าตูบที่หลังบ้านก่อนนะ เรียกมันให้มากินข้าวมันก็ไม่ยอมมา สงสัยไปแอบหาหนูหลังบ้านแน่ ๆ ” เจ้าตูบแมวไทยเพื่อนเล่นเพียงหนึ่งเดียวของเทียนหอม สาวน้อยในวันสิบแปด มันชอบไปเที่ยวเล่นหลังบ้านที่เป็นพื้นที่นาของครอบครัว ปัง! ปัง! เทียนหอมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอเดินมาถึงที่นาห่างจากตัวบ้านหลายสิบเมตรแต่ก็ได้ยินชัดว่าเสียงที่กำลังดังอยู่คือเสียงปืนและมันดังมาจากในบ้านของเธอ สาวน้อยอุ้มเจ้าตูบที่เธอเพิ่งเจอมันวิ่งกลับบ้านทันที แต่เธอต้องหยุดและซ่อนตัวอยู่หลังป่ากล้วยเมื่อได้ยินว่า บนบ้านของเธอมีเสียงชายแปลกหน้า&nb
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้