เขาลักตัวเธอไปขังและทรมาน เพื่อจะแก้แค้นพี่ชายฝาแฝดให้รู้จักความรู้สึกที่อยู่เหมือนตายทั้งเป็น แต่สุดท้าย เขาก็พ่ายแพ้ให้แกเธอ หญิงสาวที่ทำให้คนเลวอย่างเขา กลายเป็นคนดี!!!
view more“อย่าสร้างความเดือดร้อนให้สาแล้วกัน”“คงเดือดร้อนเฉพาะตอนอยู่บนเตียงมั้ง”อคินชักสีหน้าไม่พอใจ “ช่วยพูดให้เกียรติเธอหน่อย ว่าแต่แกจะย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านรึเปล่า”“ถ้าฉันย้ายเข้ามา ฉันอาจทำให้แกเดือดร้อนได้นะ”“แต่ฉันอยากให้แกย้ายเข้ามา” เพราะเขาไม่อยากให้ศลิษาอยู่ไกลจากสายตาเขา แม้เขาต้องเจ็บปวดที่เธอเป็นของคนอื่นก็ตาม อย่างน้อยได้รู้ว่าเธอปลอดภัย ก็ยังดี “ฉันต้องการให้แกกับสาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านโดยเร็วที่สุด หากแก...”“งั้นขอเป็นห้องนอนติดแกแล้วกัน แต่ถ้ามีเสียงดังรบกวนทั้งคืน แกต้องทำใจหน่อยนะ”อคินพยายามจะไม่โมโหแล้วนะ “ฉันบอกว่าจะปล่อยสาให้เป็นอิสระ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันยกสาให้แก!!!”“เธอเป็นของฉันตั้งแต่แรกแล้ว แกก็รู้แล้วนี่”“แต่เธอเป็นคู่หมั้นฉัน จบมั้ย?”“เธอเป็นของฉัน!” ซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขามี ในขณะที่พี่ชายของเขามีครบทุกอย่าง “เธอเป็นของฉัน จำใส่สมองไว้ด้วย ว่าเธอเป็นสิทธิ์ของฉัน!”“ถ้าแกไม่โผล่กลับมา ป่านนี้เราคงแต่งงานกันแล้ว เป็นเพราะแกคนเดียว ชีวิตของฉันถึงได้พังแบบนี้”“งั้นแกก็หาทางจัดการฉันอีกสิ จะยัดฉันเข้าคุก หรือถีบลงไปในนรกดีล่ะ เอาที่แกถนัดเลย ไอ้คนดี!!
“เราถอนหมั้นกันนะคะ”อคินส่ายหน้าทันที“ไม่”“แต่คุณควรได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีกว่าสา”“ไล่ผมให้ไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วคุณจะได้อยู่กับไอ้อคิราห์อย่างนั้นสินะ”“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่สาไม่ดีพอ...”“เราจะแต่งงานกัน ได้ยินมั้ย เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ผมไม่ยอมเสียคุณไปแน่!!”สายตาแน่วแน่ของชายหนุ่มทำให้เธอยิ่งหนักใจ“ฉันไม่ยอมโว๊ย!!”อคิราห์ก้าวเข้ามายืนซ้อนหลังของหญิงสาว แล้วสวมกอดเธอเอาไว้แน่น“เพราะเธอเป็นดวงใจของฉัน”“ปล่อยคู่หมั้นฉันเดี๋ยวนี้!!”“แกนั่นแหละปล่อย เพราะเธอเป็นของฉันมาตั้งแต่แรกแล้วโว๊ย!!”“ตั้งแต่แรก แกเอาอะไรมาพูด”“เมื่อยี่สิบปีก่อนไง เธอเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้ นางฟ้าประจำตัวของฉัน เพราะงั้น ชีวิตของฉันจึงเป็นของเธอตั้งแต่บัดนั้น จนถึงตอนนี้ และตลอดไป!!”อคินไม่อยากจะเชื่อ “จริงเหรอสา??”สีหน้าของศลิษาบอกว่าเป็นเรื่องจริง อคินถึงกับอึ้งไปเลย เพราะไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้“คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่สา”“ก่อนที่คุณจะเข้าไปจัดการเขาจนสะบักสะบอมที่โฮมเสตย์นั่นแหละค่ะ”อคินถึงกับยกสองมือขึ้นกุมขมับ “เป็นไปไม่ได้”“แต่มันเป็นไปแล้วโว๊ย ที่สำคัญ เธออยากอยู่กับฉั
“ที่รักเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” อคินเดินกลับเข้ามาสวมกอดหญิงสาวไว้แน่น พร้อมลูบแผ่นหลังปลอบโยน แสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ เพื่อให้ใครบางคนหยุดส่งสายตาหาคนรักของเขาเสียที “ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องตกอยู่ในอันตราย ผมเกือบจะเสียคุณไปแล้ว ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณ”“คุณควรจะขอบคุณน้องชายของคุณนะคะ”เธอทวงขึ้น เขาผละตัวออก แล้วหันมองน้องชายฝาแฝดที่ยังนั่งมองเขาด้วยสายตาเย็นชาเหมือนที่เคยเป็นมา“ผมไม่จำเป็นต้องขอบคุณคนที่ลักพาตัวคุณไปหรอก”“คุณอคินคะ”“ไม่จำเป็น ใช่ ถูกต้อง!” อคิราห์ยิ้มหยันใส่พี่ชาย ก่อนหันมามองหวานกับหญิงสาว “เพราะผมไม่ได้ทำเพื่อมัน ผมก็แค่มาช่วยเมียผมเท่านั้น”“ไอ้!”อคินทนไม่ไหวจะเข้ามากระทืบน้องชายฝาแฝดให้หยุดปากเสีย แต่หญิงสาวเข้าขวางกลางไว้ พร้อมร้องห้ามเสียงหลง ก่อนพี่น้องจะตีกันจนตาย “อย่านะคะ พอซะที พวกคุณเป็นพี่น้องกันนะคะ”“ไม่ใช่!” ทั้งคู่พูดพร้อมกัน สายตาจับจ้องกันเหมือนจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง“ผมไม่มีทางนับไอ้ฆาตกรเป็นน้องแน่”“ใครกันแน่วะ ฆาตกร ตกใจล่ะสิที่เห็นฉันยังไม่ตาย”อคินกัดกรามแน่น “แกรอดมาได้ยังไง”“ถามพ่อแกดิ”“ไอ้!”“ใช่ พ่อช่วยมันไว้เอง”
“เราจะลืมทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ต่อไปนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ห่างจากสายตาอีกแล้ว เข้าใจนะ”มันเหมือนเป็นคำสั่ง มากกว่าคำสัญญา...หัวใจของเธอชาชืดไปหมด เมื่อคิดว่าอคิราห์ตายไปแล้ว ตายไปอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลอันเงียบเหงาและเวิ้งว้าง“ฉันหลับไปกี่ชั่วโมงคะ”“คุณหลับไปสองวัน”สองวัน...จากตอนที่เขาถูกลากออกไปจากโฮมเสตย์ เพื่อนำไปขึ้นเรือแล้วนำไปทิ้งกลางทะเล หากเขาตายไปแล้ว และมีคนพบศพของเขา ก็คงจะมีข่าวออกมาบ้าง แต่ถ้าไม่มีคนพบศพของเขา เรื่องราวของเขาก็คงจะหายไปตลอดกาล“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ปากบอกขอบคุณ แต่ใจนั้นแสนโกรธ โกรธจนไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกแล้ว “ไม่เอาสิ ผมต้องช่วยคุณอยู่แล้ว ผมรักคุณนะ”เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขายังทำหน้าสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ หนำซ้ำยังคิดจะแต่งงานโดยไม่รู้สึกผิด“ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ”“ผมไม่อยากรื้อฟื้น” เขารู้ดีว่าเธออยากรู้เรื่องอะไร “ทุกอย่างมันจบแล้ว...คุณพักผ่อนซะนะ”เขาจุมพิตบนหน้าผากเธออีกครั้งด้วยความรัก เธอหลับตาลงแล้วแสร้งทำเป็นนอนหลับไปเสีย เพราะอยากให้เขาวางใจว่าเธอนั้นเชื่อฟังเขาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเธอรอจนอค
“ใจเย็นๆนะคะ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว มันจบแล้ว ตอนนี้คุณอยู่กับฉัน ต่อไปนี้ ฉันจะปกป้องคุณเอง”เขาเลื่อนมือขึ้นกุมมือเธอไว้ “ทำไม สงสารผมเหรอ”“เปล่านะคะ แต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นโชคชะตาของฉัน”“แต่คุณเป็นของมัน”เขาย้ำให้เธอรู้ถึงสถานะของตัวเอง“มีคนเคยเตือนฉัน...ว่าการเป็นคนรักของเขา อาจทำให้ชีวิตเกิดหายนะได้...คนที่โทรหาฉันเมื่อไม่นานมานี้”“ใช่ ผมเป็นคนโทรเอง”“คุณวางแผนจะจับตัวฉันตั้งแต่อยู่ในคุกเหรอคะ”“คุณรู้เรื่องผมได้ไง”“ฉันจำคุณได้ ฉันเคยฉีดวัคซีนให้คุณมาครั้งหนึ่ง คุณคงจำฉันไม่ได้”“ใครบอกว่าจำไม่ได้ ผมจำคุณได้ จำรายละเอียดบนใบหน้าของคุณได้ จำรอยยิ้มคุณได้ จำกลิ่นของคุณได้ขึ้นใจเลยล่ะ แถมผมยังฝันถึงคุณตั้งหลายครั้ง”“อย่าบอกนะว่าฝันลามก”“ชัวร์”เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ ก้มจูบปากเธออย่างเต็มรัก ก่อนจะผละออกแล้วมองเธอด้วยความหลงใหล“พอผมรู้ว่าคุณคือคู่หมั้นของมัน...ผมไม่แปลกใจเลยสักนิด รู้มั้ย ถ้าผมเป็นมัน ผมก็จะเอาคุณเหมือนกัน”“พูดอะไรของคุณ”“ผมจะทำยังไงกับคุณดี”ขาดคำนั้น ประตูถูกถีบอย่างแรง แล้วชายฉกรรจ์ประมาณสามคนก็กรูเข้ามาในห้องแล้วตรงมาจับตัวเขาเอาไว้ ก่อนที่อคินจะโผ
“คุณได้มาจากเด็กผู้หญิงที่อุ้มหมาใช่มั้ย”เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง แล้วดวงตาของเขาก็ลุกวาวด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวแทบคลั่ง เมื่อคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง มนุษย์เพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่เขาไม่เคยลืมแม้สักวินาทีอคิราห์น้ำตาไหลพรากทันที หัวใจแทบแตกสลายเมื่อคิดว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป“ผม...ผม...ผมสมควรตาย ผมสมควรตาย!!!”เขากำลังจะคุ้มคลั่งในวินาทีนั้น แต่เพราะเธอประกบปากจูบเขาเสียก่อน จึงทำให้เขาอารมณ์ของเขาสงบลงได้ ความหวาดกลัวก็มลายหายสิ้น“อืม...” รสจูบอันดูดดื่ม ดึงทั้งคู่เข้าสู่โลกแสนหวานที่มีเพียงสองเราเท่านั้น“อูวว...อคิราห์”“นางฟ้า...นางฟ้าของผม” “โอว...” ทั้งคู่ร่วมรักกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความหวาน ค่ำคืนที่ฝนยังคงกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย บทสวาทขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนอย่างไม่รู้จักเบื่อ...“อูวส์...” ทั้งคู่จูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม นัวเนียสอดใส่กระแทกกระทั้นกันจนน้ำใคร่นองเกลื่อนเต็มที่นอน แล้วก็กกกอดกันแนบแน่นใต้ผ้าห่มผืนหนา จ้องตากันนิ่งงันอย่างมีความหมายและลึกซึ้ง “คุณคือเด็กผู้ชายคนนั้น”“คุณคือนางฟ้าของผม...ผมเกือบทำ...เรื่องที่บ
“ฮือ...แม่ครับ...อย่าทิ้งผม...ฮือ...พ่อครับ...ช่วยผมด้วย อย่าทิ้งผมนะครับ....”‘เขาเป็นอะไร เขาเป็นอะไร?’ เธอควรจะใช้โอกาสนี้หนีเขาไปเสีย แต่ทำไมเธอถึงไม่ยอมทำแบบนั้น ทั้งที่อาการไข้ก็ทุเลาลงแล้ว เธอมีแรงพอจะวิ่งแน่นอน‘เราต้องบ้าไปแล้วแน่ ทำไมเราถึง...สงสารเขา’อยู่ๆ ความรู้สึกเวทนาสงสารก็พุ่งเข้ากลางใจเธออย่างจัง เสียงสะอื้นของเขาที่ดังอยู่ในหู ก้องอยู่ในใจ ทำให้เธอรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก มันทำให้เธอคิดถึงเด็กคนหนึ่ง คนที่เธอเคยเจอสมัยเด็ก คนที่เธอเคยแบ่งลูกอมให้ ตอนที่เขาถูกจับตัวไว้ในโกดังร้าง ระหว่างทางที่เธอไปโรงเรียน‘น่าสงสารจัง’ วันนั้น เป็นวันที่ฝนตกหนัก เธอเจอลูกหมาพลัดหลงกับแม่ตรงข้างทาง เธออุ้มมันขึ้นมาแล้วเดินไปเรื่อยเปื่อย เพื่อจะพามันกลับไปคืนแม่ของมัน แล้วเธอก็ได้พบเด็กคนนั้นที่โกดังร้าง สิ่งที่เธอยื่นให้เขาในเวลานั้น ไม่ใช่แค่ลูกอมเท่านั้น แต่เธอยังพยายามช่วยเขาด้วยการใช้มีดคัดเตอร์ตัดเชือกให้กับเขาอีกด้วย หากพวกคนร้ายไม่กลับเข้ามาเสียก่อน เธอก็คงช่วยเขาออกมาได้แล้ว‘หนีไป’ นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่เด็กผู้ชายคนนั้นพูดกับเธอ ‘หนีไป’‘ฉันจะไม่ทิ้งนาย ฉันจะกลับมา’เธอสัญ
“มันจบแล้ว!” เขาบอกตัวเอง ก่อนจะหันไปมองบันไดเชือกสำหรับลงไปยังเรือเล็กที่ลอยเท้งเต้งอยู่บนสันคลื่นเบื้องล่าง เขาควรจะกลับเข้าฝั่งเสียที เพื่อกลับไปยังคฤหาสน์ของครอบครัว กลับไปหาบิดาและพี่ชายฝาแฝดที่รอฆ่าเขาอยู่“ตอนนี้...เราจะควรหัวเราะด้วยความสะใจ” แต่เขากลับหัวเราะไม่ออก แถมยังก้าวขาไม่ออกอีกต่างหาก“ไปเถอะ...ไป!”อคิราห์ขับเรือลำเล็กกลับสู่ฝั่ง พร้อมกับหญิงสาวที่นอนสลบอยู่ในเรือ เธอไข้ขึ้นสูงมาก จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้สติ“เราเป็นบ้าไปแล้ว” เขาแทบไม่มองข้างหน้าเลย ขณะขับเรือ สายตาเอาแต่จ้องหญิงสาวไม่วางตา“เราทำแบบนี้ทำไม” เขาตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยได้คำตอบเลย เขาตอบตัวเองไม่ได้ ว่าเขาทรยศตัวเองได้ยังไง เขาหักหลักตัวเองได้อย่างไรเขาขับเรือตรงไปยังหมู่บ้านชาวประมงซึ่งอยู่อีกด้านของเขาสูงริมทะเล เมื่อเรือขึ้นที่ท่าเทียบเรือเล็กแล้ว เขาอุ้มเธอขึ้นจากเรือ พาเธอไปยังโฮมสเตย์ที่เช่าทิ้งไว้ แล้วรีบออกไปซื้อยาแก้ไข้ที่คลินิกในตลาดไม่นานนักก็กลับมา พร้อมถุงยาและถุงอาหารในมือ เขารีบปลุกเธอขึ้นมา เมื่อเธอสลึมสะลือได้สติ เขาโล่งใจ สั่งเสียงเข้ม ฟังดุ แต่แฝงไว้ด้วยความห่วงหา“อ้าป
“เจ้าสัวครับ เจ้านายครับ” ธาดาเดินเข้ามาพร้อมเศษซากมือถือหลายส่วนที่รวมไว้ในถุงพลาสติก “นี่ครับ น่าจะเป็นของคุณอคิราห์”อคินรับถุงใส่ชิ้นส่วนมือถือมาดูด้วยความตระหนกหนักใจ ก่อนจะส่งคืนให้ธาดา“รีบนำไปตรวจสอบ เผื่อเจอเบาะแสอะไร แล้วรีบรายงานด้วยล่ะ”“ครับ”“พวกแกออกไปจากบ้านหลังนี้ให้หมด” เจ้าสัวสั่งลูกน้องทั้งหมดให้ออกไปด้านนอก เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวกับลูกชายคนโต ที่เวลานี้ สภาพแทบไม่ต่างจากซอมบี้“ถ้าหามันเจอ ลูกจะทำไง”“ผมจะฆ่ามัน”“แต่...”“มันไม่ใช่น้องผม คราวนี้ผมไม่มีวันปล่อยมันไปอีกแล้ว ผมสูญเสียมามากพอแล้ว”“แต่ลูกจะเป็นฆาตกรเสียเองนะ”“ผมยอม”“แต่พ่อไม่ยอม พ่อไม่ยอมเสียลูกไปแน่ หากคู่หมั้นของลูก...”“ไม่ครับ” อคินกัดกรามแน่น กำมือจนตัวสั่นเทิ้ม เพราะนึกรู้ว่าบิดาจะพูดอะไร “ผมต้องได้ตัวเธอกลับมา ผมต้องได้ตัวเธอกลับมาเท่านั้น ผมจะไม่ยอมเสียเธอไปแน่”สายตาแน่วแน่จริงจังของลูกชายทำให้บิดารู้ได้ทันทีว่าครั้งนี้เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยอีกแล้ว“แล้วถ้า...เราช่วยเธอไม่ทันล่ะ”“ไม่ครับ ป๋าบอกเองนี่ ว่ามันคือการเริ่มต้นเท่านั้น มันยังไม่ได้ทำอะไรเธอหรอก ผมมาคิดดูแล้ว เห็นจะจริงอย่างที่ป
ตอนเย็นที่หน้าโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง...“ที่รัก!!!”เสียงเรียกจากชายหนุ่มในชุดสูทหรูเรียบสีดำทำให้เธอหันไปมองด้วยความแปลกใจ เพราะคู่หมั้นของเธอไม่เคยเรียกเธอแบบนี้มาก่อน เขาเพียกเรียกชื่อเล่นของเธอเท่านั้น“คุณอคิน!”อคิราห์ยิ้มให้หญิงสาวซึ่งเป็นคู่หมั้นสุดที่รักของพี่ชายฝาแฝดนามว่าอคินด้วยความเต็มใจ อคินผู้ได้ทุกอย่างไปจากเขา แม้แต่ชีวิตที่เหลืออยู่ในโลกใบนี้ ผู้ที่ขึ้นให้การต่อศาลในฐานะพยานว่าเห็นน้องชายคนนี้เป็นผู้ก่อเหตุเผาบ้านของคู่อริจนวอดวายไม่เหลือซาก รวมทั้งพยายามฆ่าคนทั้งบ้านอีกข้อหา พี่ชายฝาแฝดผู้จงใจยัดเขาเข้าตารางด้วยข้อหาที่เขาไม่ได้ก่อ เพียงเพราะสงสัยว่าน้องชายโรคจิตคนนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนสาวจำนวนหกคนของเขาต้องกลายเป็นศพจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งอุบัติเหตุ ฆ่าตัวตายและฆาตกรรม !!!เขาหยั่งรู้ว่าพี่ชายอยากกำจัดเขาทิ้งแทบขาดใจ หากฆ่าได้เขาคงจะฆ่าไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะบิดาขอไว้ ให้เขาเมตตาต่อสัตว์ อคิราห์คนนี้คงตายไปแล้วตั้งแต่สิบปีก่อน‘ไอ้สารเลว ฝีมือแกใช่มั้ย แกทำพวกเธอใช่มั้ย’‘ใครจะรู้’‘แกมันก็แค่สัตว์ร้าย แกมันไม่ใช่คน!’‘เรามันก็สายเลือดเดียวกันแหละน่าพี่ชาย’‘ไอ...
Mga Comments