One night stand อาจเป็นรสนิยมและเรื่องสนุกของใครหลายคน เป็นความสัมพันธ์แบบไม่ผูกพัน เพราะบางครั้งการผูกพันกับใครบางคนอาจสร้างความเจ็บปวด ประมาณว่ายิ่งรักมากยิ่งเจ็บมาก หลายคนเลยเลือกที่จะมีความสัมพันธ์เช่นนี้ ลี่เหยียน นางเอกของเรื่องนับว่าค่อนข้างจะโชคดี เธอตัดสินใจมีวันไนต์สแตนด์กับชายหนุ่มคนหนึ่ง และถึงแม้จะเกิดเรื่องราวความไม่เข้าใจผิดมากมาย สุดท้ายเธอกับวันไนต์ของเธอกลับได้ลงเอยกัน
View More“ทำต่อสิคะ” ลี่เหยียนเร่งเร้า เกรงว่าเขาจะปล่อยให้เธอค้างเติ่งกลางทาง ถ้าไม่อย่างนั้นประสบการณ์ครั้งแรกของเธอจากที่วิเศษสุดจะกลายเป็นห่วยแตกบรมจนยากจะลืม“คุณมันร้าย” เขาคาดโทษเธอไม่จริงจังนักแล้วดันตัวตนเข้าไปในช่องทางที่แสนคับแคบแถมยังตอดรัดอยู่ตลอดเวลา“อ๊ะ”“ผมจะพยายามนุ่มนวลกับคุณให้มากที่สุด”เขาต้องพยายามอย่างมากในการทำตามที่พูด เพราะความจริงแล้วเขาอยากร่วมรักกับเธอให้สุดเหวี่ยง การเคลื่อนตัวของเขาไปได้ช้ามากทั้งยังถูกบีบรัดจนเขารวดร้าวไปทั้งตัว แต่พอเห็นหญิงสาวใต้ร่างกัดปากข่มกลั้นความเจ็บก็นึกเห็นใจ พอเขาขยับตัวเข้าไปชนกับทางตันเขาก็หยุดเอาไว้ ก้มลงจูบซับเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าเธอ ความพยายามของเธอในการเปิดรับตัวตนอันใหญ่โตของเขาทำให้เธอดูเซ็กซี่และเร่าร้อน“ผมขอโทษนะ แล้วผมจะชดเชยให้หลังจากนี้” เขาบอกแล้วจูบปากเธอ ก่อนที่จะผลักดันตัวตนเข้าไปโดยแรงจนสุด“โอ๊ย…” ลี่เหยียนสะดุ้ง ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกถึงอวัยวะเบื้องล่างที่ฉีกขาด ความรัญจวนก่อนหน้าหายไปสิ้น“ฉันเจ็บ” เธอโอดครวญน้ำตาเล็ด“ผมรู้” เขายกมือลูบผมเพื่อปลอบเธอเขายังแช่ตัวตนไว้นิ่ง รอให้เธอปรับตัวสักพัก ป
“แล้วคุณรออะไรอยู่ล่ะคะ” เธอหัวเราะยั่วเขา แล้วเขาก็ช้อนตัวเธอขึ้น เฮ่าหรานตรงไปยังเตียงนอน“ผมพร้อมตั้งนานแล้วคุณก็รู้”เขาวางเธอลงบนเตียง โน้มตัวลงมาถอดชุดเธอออก นัยน์ตาเขาคล้ายมีประกายไฟดวงย่อม ๆ ขณะที่จ้องมองร่างเปลือยเปล่าของเธอ“ไม่สวมแพนตี้ คุณมันดาวยั่ว”เขาดึงเนคไทออกและเริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเอง“หก” ลี่เหยียนพึมพำกับตัวเองแล้วแอบยิ้ม“อะไรครับ” เขาหันมาหาเธอขณะที่กำลังปลดเข็มขัด“คุณมีลอนหน้าท้องหกลอน ตอนแรกฉันคิดว่าคุณอาจจะมีถึงแปด” เธอชี้ไปที่หน้าท้องหนั่นแน่นของเขา“มันเป็นปัญหากับคุณเหรอ” เขานั่งลงบนเตียงข้างเธอ ดึงมือของเธอให้ลูบไปทั่วแผงอกและหน้าท้องของตัวเอง“อืม…ขอฉันคิดดูก่อนละกัน” ปากตอบออกไป แต่ใจเต้นระรัว ถึงอย่างนั้นเธอกลับชอบและไล่นิ้วไปทั่วแผ่นอกเขาอย่างสำรวจตรวจตรา เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากผิวกายชายหนุ่ม เป็นความร้อนเร่าที่กำลังจะกลืนกินเธออยู่ในขณะนี้“ไม่ต้องคิดนานหรอก” เขาครางเสียงต่ำและถอดกางเกงโยนออกไปบนพื้นตอนนี้เขาขยับตัวขึ้นมานอนด้านข้างเธอ บนตัวเขาเหลือแต่กางเกงในสีขาวเท่านั้น และลี่เหยียนไม่แน่ใจว่าเธอจะทนได้อีกนานแค่ไหน แม้จะเวอร์จิ้น
ชายหนุ่มไล้นิ้วมาถึงริมฝีปากแล้วสอดนิ้วเข้าไปในปากเธอ เธอตกใจแต่ก็ดูดนิ้วเขาเบา ๆ ดวงตาของเขาเข้มข้นไปด้วยความปรารถนา เขาค่อย ๆ ชักนิ้วออกจากปากเธอแล้วจุ่มมันลงไปในแก้วแชมเปญก่อนที่จะใส่มันเข้าปากเธออีกครั้ง เขาไม่ละสายตาไปจากเธอเลย เธอดูดนิ้วเขาแรงขึ้น ใช้ลิ้นเลียรสชาติของแชมเปญที่ติดอยู่บนนิ้วเขาสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปยามเมื่อเธอขยับเข้าใกล้เขามากขึ้น ท่าทางของเขาทำให้ลี่เหยียนใจกล้า เธอลองวางมือลงบนหน้าขาของเขา แล้วค่อย ๆ ขยับเข้าไปตรงกลางลำตัว ขณะเดียวกันเธอก็ยังไม่หยุดดูดเลียนิ้วมือแกร่ง เธอรู้ว่าเขากำลังมีอารมณ์ขั้นสุด นั่นทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจที่รู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลต่อผู้ชายที่เรียกได้ว่าไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง ลี่เหยียนตัดสินใจเดินหน้า ไม่สนใจแล้วว่าครั้งแรกของเธอจะเป็นแค่วันไนต์สแตนด์ เป็นแค่เซ็กซ์ที่ไม่มีความผูกพัน เธอมั่นใจว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำให้เธอมีประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดอย่างไม่เคยลืมแน่นอน“คุณกำลังยั่วผมอยู่นะ” เขาเตือนเสียงแหบพร่า ดึงนิ้วออกจากปากเธอ แล้ววางมือลงบนหน้าอกเธอแทน เขาขยำมันเบา ๆ ก่อนที่จะออกคำสั่ง “ยืนขึ้น แล้วถอดเสื้อผ้าออก”ลี่เหยียนชะงักไปกับความเปลี่ยนแ
“นี่ห้องผมครับ”เสียงประตูที่ปิดลงด้านหลังราวกับเตือนให้ลี่เหยียนรู้ว่าเธอจะไม่ได้ออกจากห้องนี้อย่างน้อยก็คืนนี้ ก่อนหน้านี้เธอต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก เพราะนี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตเธอ แต่ในที่สุดเธอก็พ่ายแพ้ให้กับข้อเสนอที่เย้ายวนใจของเขา ด้วยเหตุที่ว่าเธอจะเสียดายมากกว่าถ้าไม่ตอบรับ เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมา ห้องนี้กว้างมากและตกแต่งอย่างสวยงาม“ห้องนี้สวยมาก และราคาคงแพงมากด้วย”“ครับ ห้องสวีทชั้นหนึ่ง” เขาพยักหน้ารับแล้วค่อย ๆ เดินตรงเข้าหาเธอ“เอ่อ…คุณจองห้องนี้ตัดหน้าคู่บ่าวสาวรึเปล่าคะ” เธอพยายามเค้นอารมณ์ขันออกมาในขณะที่รู้สึกว่าท้องไส้กำลังปั่นป่วนเขายิ้ม แต่เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มของเขาช่างแสนล่อลวง โดยที่ไม่ทันตั้งตัว เขาก็ฉุดร่างเธอให้ปะทะเข้ากับเขา“เราควรจะหยุดคุยเรื่องไร้สาระ คุณว่ามั้ย” เขากระซิบชิดริมหู ลมหายใจร้อนที่ตกกระทำทำให้ลี่เหยียนขนลุกซู่“ฉัน…เอ่อ…”“ชู่ว์…อย่าเสียเวลาของเราอีกเลย”เขาเริ่มไซ้ซอกคอของเธอ กลิ่นกายสาวเร้าเลือดในกายหนุ่มให้ฉีดพล่าน“แต่ฉันยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของคุณ” ลี่เหยียนขืนตัวออกเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงเธอ
“เสร็จให้ผมเด็กดี” เขากระซิบพร้อมกับเร่งจังหวะตวัดและแยงลิ้นเข้าออกความเสียวซ่านแทบขาดใจทำให้ลี่เหยียนกระหายรู้ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรหากได้มีเซ็กซ์กับเขาจริง ๆ ความเสียวซ่านดำเนินมาจนถึงขึดสุดเกินกว่าที่ลี่เหยียนจะรับมือไหว ในที่สุดเธอก็เสร็จให้เขาจริง ๆ เขาจูบปุ่มสวาทเธอ ใช้ลิ้นตวัดเลียน้ำหวานที่เธอปลดปล่อยก่อนที่จะลุกขึ้นยืน“คุณหวานมาก” เขาบอกเธอด้วยความพอใจลี่เหยียนสบตาเขา ก่อนที่เธอจะจูบที่คอเขาแล้วดูดเม้ม“คุณกำลังจะทิ้งรอยบนคอผม” เขาเตือน“ฉันอยากฝากรอยไว้บนตัวคุณ” เธอบอกเขา แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงคิดที่จะยั่วเขาแบบนี้“คุณได้ฝากรอยเอาไว้แล้ว” เขาบอกเสียงแหบพร่าพร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเอง “คุณให้ผมยิ่งกว่ารอยจูบเสียอีก”ลี่เหยียนหัวเราะ ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจ ทั้งที่ไม่รู้จักกันเลยเธอกลับเลยเถิดไปกับเขาได้ขนาดนี้ แต่ลึก ๆ ในใจเธออยากเลยเถิดไปมากกว่านี้ เธอจึงเลื่อนมือไปปลดเข็มขัดเขา เธอปลดมันออกอย่างง่ายดาย ตามมาด้วยกระดุมกางเกง แต่พอมาถึงซิปกลับเจอปัญหา“มันรูดไม่ลงค่ะ” เธอบอกแล้วเงยหน้ามองเขา เธอสังเกตเห็นว่าเขากำลังกลั้นหัวเราะอยู่“บางทีซิปมันอาจจะรู้ก็ได้ว่าถ้าป
เฮือก!ลี่เหยียนสะดุ้งตกใจ เมื่อเสียงทุ้มนุ่มทว่าฟังแล้วเย้ายวนกระซิบชิดริมหู และมือใหญ่ได้เลื่อนจากเอวบางไปยังสะโพก“ตกลงคุณตัดสินใจได้รึยัง”เธอจำเสียงนี้ได้ในทันที หัวใจเธอกำลังเต้นเร็วแรง และตัดสินใจค่อย ๆ หันกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง ไม่รู้ว่าเธอเอาความกล้ามาจากไหน อาจเป็นเพราะเสน่ห์เกินห้ามใจของชายหนุ่ม ที่ทำให้เธอตัดสินใจอะไรบางอย่างโดยที่อาจจะรู้หรือไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ“ต้องเป็นลิ้นสิคะ”ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้เธอจนริมฝีปากเขาแทบจะสัมผัสกับของเธอ“คุณรู้อะไรมั้ย มีคนเคยบอกว่าผมใช้ลิ้นเก่ง”“…”น้ำเสียงทุ้มล่อลวงของเขาทำให้ลี่เหยียนรู้สึกประหม่าเขาขยิบตาให้พร้อมกับฉวยข้อมือเธอให้เดินตามเขากลับไปยังห้องน้ำที่ปราศจากผู้คน ลี่เหยียนรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะโดนเสือขย้ำ มิหนำซ้ำยังเป็นเสือร้ายเสียด้วย แต่เธอมิอาจขัดขืนเขาได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ที่เลือดในกายกำลังสูบฉีดไปด้วยความร้อนแห่งเปลวเพลิงปรารถนา ทุกสิ่งในตัวของผู้ชายคนนี้ทำให้นึกถึงเซ็กซ์ตลอดเวลา เธอหวั่นเกรง แต่ก็ตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย คิดว่าหากพลาดโอกาสนี้ไปคงจะรู้สึกเสียดายมากกว่า“คุณเซ็กซี่มาก” เขากระ
“เอ...ฉันจะชอบไอ้นั่นหรือลิ้นมากกว่ากันนะ” เธอเผลอพูดออกมา แต่พอเธอลืมตาขึ้น เธอเห็นว่าจื่อหานยืนนิ่งค้างไปแล้ว เธอเลยหันไปมองทางด้านขวามือตัวเองตามสายตาของเพื่อนสนิท ปรากฏว่าเป็นชายหนุ่มแสนเย่อหยิ่งที่เธอเห็นก่อนหน้า!...ทุกสิ่งเหมือนหยุดนิ่งตกอยู่ในความเงียบงันดวงตาของลี่เหยียนสบเข้ากับดวงตาคมเข้มที่จ้องตรงมาที่เธอ เธอเห็นแววขบขันที่ฉายชัดในดวงตาคู่นั้น ต้องยอมรับว่าชายตรงหน้าดูดีมากจริง ๆ แต่แล้วลี่เหยียก็แทบจะมุดหน้าดำดินหนี รู้สึกอับอายอย่างถึงที่สุด เมื่อนึกได้ว่าเพิ่งจะหลุดพูดอะไรออกมา ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินรึเปล่าถึงอย่างนั้นเธอก็เก็บอาการแล้วจ้องชายหนุ่มกลับพร้อมกับลอบสำรวจเขาไปด้วย ริมฝีปากของเขาเป็นสีชมพูฉ่ำ สันกรามมีไรหนวดและเคราเล็กน้อย ทำให้เขาดูคมเข้มเซ็กซี่ แต่ลี่เหยียนดันไปจินตนาการว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรหากมันครูดไปกับผิวกายเธอ พอรู้ตัวว่าคิดเพ้อเจ้อลี่เหยียนก็หน้าร้อนแล้วอยากจะตบหน้าเตือนสติตัวเองสักฉาด“แล้วคุณตัดสินใจได้รึยัง” ชายตรงหน้าถามอย่างเนิบช้า เสียงทุ้มลึกของเขาช่างล่อลวงให้จินตนาการระเบิดไปไกล“ตัดสินใจอะไรคะ” ลี่เหยียนถามกลับทำเป็นไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า“เราไม่เห็นจำเป็นต้องไปงานแต่งยัยซินอี้เลยนี่” ลี่เหยียนบอกจื่อหาน เพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่ที่คอนโดร่วมกัน ตอนนี้ทั้งคู่แต่งตัวใกล้จะเสร็จแล้ว“ไปเหอะน่า เผื่อจะมีอะไรสนุก ๆ และเผื่อแกจะได้หาผู้ชายได้สักคน”“ไม่เห็นเกี่ยวกันเลยอ่า””ถ้าไม่ใช่โอกาสนี้แกจะไปหาผู้ชายมาให้เลือกได้จากไหน ก็รู้ ๆ อยู่ว่างานแต่งนี่แหล่งรวมผู้ชายเลยนะ”“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ายัยนั่นจะกล้าเชิญพวกเราด้วย ช่างกล้าหน้าด้านจริง ๆ”ลี่เหยียนเป็นห่วงความรู้สึกของจื่อหาน เพราะเธอ จื่อหาน และซินอี้เคยเป็นรูมเมทกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนเจ้าบ่าวของซินอี้ก็คือแฟนเก่าของจื่อหาน ที่พอเลิกกับจื่อหานปุ๊บก็ไปควงกับซินอี้ทันที“ยัยนั่นกล้าเชิญ พวกเราก็กล้าไป” จื่อหานพูดอย่างไม่อนาทรร้อนใจทั้งที่ตัวเองเป็นเจ้าทุกข์ ผิดกับลี่เหยียนที่เป็นเดือดเป็นแค้นแทน“แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะทนได้แค่ไหนน่ะสิ” กลับกันลี่เหยียนเองเสียอีกที่รู้สึกโกรธเกรี้ยวแทนคนที่ถูกแย่งแฟนลี่เหยียนเรียกได้ว่าเป็นเด็กดีของพ่อแม่ในบรรดาพี่น้องสี่คน คือพี่ชายสองคนกับพี่สาวหนึ่งคน เธอเป็นลูกคนเล็กสุด บรรดาพี่น้องทั้งหมดไม่อาจได้เรียกว่าสร้างป
ผู้ชายคนนี้ไม่สมควรมาอยู่ที่นี่ ในบ้านของเธอ หรือเรียกให้ถูกว่าบ้านพ่อแม่ของเธอ เขาส่งยิ้มให้เธอและแกล้งเลียริมฝีปากอย่างจงใจ ซึ่งมันทำให้เธอนึกถึงคำคืนที่ทั้งคู่เคยมีร่วมกัน เป็นคืนบาปที่เธอไม่เคยลืมเธอกับเขา…วันไนต์สแตนด์…มันสมควรเป็นเพียงเรื่องสนุกที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่ใช่การที่คู่นอนคืนเดียวจะมาโผล่ในบ้านของพ่อแม่ตัวเองแบบนี้ลี่เหยียนรู้สึกช็อกเมื่อเห็นผู้ชายวันไนต์ของเธอกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดของเธอ ชายนหนุ่มดูท่าทางสบายราวกับว่าคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี ซ้ำร้ายยามที่ได้สบตากับเขา ประกายตายั่วเย้าเช่นนี้เตือนให้เธอนึกถึงคืนนั้น ช่วงเวลาที่เธอตัดสินใจที่จะมีอะไรกับเขา มันทั้งล่อลวง ลึกลับและมีเสน่ห์จนเธอมิอาจต้าน เธอยืนนิ่งค้างอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนมองตรงมาที่เธอพร้อมส่งยิ้มกว้างให้ ช่างเป็นรอยยิ้มที่มั่นใจจนน่าหมั่นไหส้“สวัสดีครับ ผมกู้หยุนเฟิงยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายื่นมือออกมาตรงหน้า“ฉันฉู่ลี่เหยียนค่ะ” เธอทักเขากลับเสียงเบาก่อนที่จะยื่นมือออกไปจับกับเขา“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณฉู่” เขาพูด แต่ดวงตาเขาแฝงประกายยั่วเย้าอย่างเห็นได้ชัด และนั่นทำให
ผู้ชายคนนี้ไม่สมควรมาอยู่ที่นี่ ในบ้านของเธอ หรือเรียกให้ถูกว่าบ้านพ่อแม่ของเธอ เขาส่งยิ้มให้เธอและแกล้งเลียริมฝีปากอย่างจงใจ ซึ่งมันทำให้เธอนึกถึงคำคืนที่ทั้งคู่เคยมีร่วมกัน เป็นคืนบาปที่เธอไม่เคยลืมเธอกับเขา…วันไนต์สแตนด์…มันสมควรเป็นเพียงเรื่องสนุกที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่ใช่การที่คู่นอนคืนเดียวจะมาโผล่ในบ้านของพ่อแม่ตัวเองแบบนี้ลี่เหยียนรู้สึกช็อกเมื่อเห็นผู้ชายวันไนต์ของเธอกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดของเธอ ชายนหนุ่มดูท่าทางสบายราวกับว่าคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี ซ้ำร้ายยามที่ได้สบตากับเขา ประกายตายั่วเย้าเช่นนี้เตือนให้เธอนึกถึงคืนนั้น ช่วงเวลาที่เธอตัดสินใจที่จะมีอะไรกับเขา มันทั้งล่อลวง ลึกลับและมีเสน่ห์จนเธอมิอาจต้าน เธอยืนนิ่งค้างอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนมองตรงมาที่เธอพร้อมส่งยิ้มกว้างให้ ช่างเป็นรอยยิ้มที่มั่นใจจนน่าหมั่นไหส้“สวัสดีครับ ผมกู้หยุนเฟิงยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายื่นมือออกมาตรงหน้า“ฉันฉู่ลี่เหยียนค่ะ” เธอทักเขากลับเสียงเบาก่อนที่จะยื่นมือออกไปจับกับเขา“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณฉู่” เขาพูด แต่ดวงตาเขาแฝงประกายยั่วเย้าอย่างเห็นได้ชัด และนั่นทำให...
Comments