ตอนที่ 11
อโหสิกรรม
ตลาดเสร็จแล้วแม่ค้าพ่อค้าต่างมาจองที่ขายกันจนแน่นเพราะตฤณคิดค่าเช่าที่ถูกมากแถมด้วยสามเดือนแลกฟรีโดยเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟโดยใช้วิธีการหารกันเท่านั้น
“คิดแล้วมันคุ้มแน่นะ ย่าแก่แล้วไม่อยากคิด”
ชุลีเป็นห่วงแต่ตัวเองก็เบื่อที่จะใช้สมองแล้ว จึงอยากให้หลานชายคิดดูดี ๆ และก็เชื่อในการตัดสินใจของเขา
“สามเดือนแรกเราขาดทุนครับเพราะมีค่าเก็บขยะ ค่าทำความสะอาดและอีกหลายอย่างที่เราต้องเสียแต่เรามีเงินที่เก็บค่าแรกเข้าตอนจองไว้ ก็เอาออกมาใช้แทน แต่เดือนต่อ ๆ ไปเราจะได้กำไรจากตลาดใหม่ตกเดือนละแสนกว่าบาทครับ”
ชุลีฟังหลานชายอธิบายสบายใจกว่าฟังลูกชายพูด เพราะเจ้านั้นเอาแต่พอเพียงเหมือนพอใจแค่มีเงินกินเงินใช้ไปวัน ๆ
“เงินที่ได้ก็จัดการให้ดี เพราะเราต้องปรับปรุงเสียภาษีอีก อย่าเอามาใช้จนหมด เรื่องแบบนี้ย่าว่าตฤณคงเข้าใจดีเพราะผ่านชีวิตของคำว่าจนมาแล้ว”
ดุจดาวเดินเข้ามาในห้องของชุลีเพื่อเอาน้ำส้มคั้นมาให้เพราะเธออยากให้ระบบขับถ่ายของคนอายุมากไม่มีปัญหา
“ทำอร่อย คนมันเก่งขนาดแค่น้ำส้มยังอร่อยเลย ความจริงทำขายก็ได้นะรสชาติดี” ย่าสามีออกปากชม
“ดาวตั้งใจจะทำอยู่ค่ะ แต่ด้วยราคาต้นทุนที่สูงสูตรนี้คงจะทำขายตามห้างหรือร้านกาแฟเพราะต้องขายฐานลูกค้าที่ฐานะดีหน่อย ส่วนที่ร้านเข้าแกงจะมีอีกสูตรค่ะกำลังอยู่ในช่วงทดลอง ว่าจะทำน้ำส้ม อัญชัญ และก็กระเจี๊ยบค่ะ”
ชุลีมองหน้าหลานสะใภ้ด้วยรอยยิ้มที่ดูภูมิใจ ข้อดีของการได้คนจนมาเป็นลูกสะใภ้คือเธอจะมีความขยันและอดทน
“บริหารเงินที่ร้านเป็นอย่างไรบ้าง ทำบัญชีให้ละเอียด รายรับรายจ่าย ไม่ใช่ขายดีแต่ขาดทุน”
“คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ทั้งสองสาขาเลี้ยงตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่สาขาแรกเราขายถูกแต่ได้กำไรเพราะจำนวนได้มากกว่า ส่วนสาขาหน้าบ้านลูกค้ายังไม่มากแต่กำไรก็เหลือเก็บค่ะ”
ตระการเดินเข้ามาหามารดาพอดี ชุลีจึงตัดสินใจที่จะ นัดหมายเวลาที่แน่นอนในการเดินทางไปนครสวรรค์
“ตระการวันเสาร์ล้อหมุนไม่เกินหกโมงเช้านะ แม่อยากไป ดูบ้านที่นิตยาเคยอยู่อยากไปรับรู้ว่าเธอต้องทุกข์ยากขนาดไหน กว่าจะเลี้ยงตฤณให้รอดมาเป็นทายาทของตระกูลได้ โดยที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากเราเลย”
“คุณแม่ครับ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว เราจะไปรื้อฟื้นให้มันเจ็บทำไม ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกผิด แต่ผมรู้ว่าความผิดที่ผมมีมันแก้ไขไม่ได้ ถึงทุกวันนี้ไม่มีคืนไหนที่ผมไม่คิดถึงภาพวันเก่า ๆ แต่ผมคิดว่าการที่เราดูแลตฤณให้ดีที่สุดตอนนี้นิตยาคงจะให้อภัยเราสองคน”
ชุลีมองลูกชายที่เหมือนจะคล้ายพระขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ที่ตฤณมาช่วยดูแลธุรกิจ ตระการก็เริ่มเก็บตัวไปวัด ออกไปทำบุญ ทำทาน และดูจะปลงได้หมดทุกเรื่อง
“จ้า ลูกชายแม่ บวชเลยไหม แม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองอีกสักรอบ”
ชุลีพูดแซวโดยที่ไม่รู้ว่าคำพูดของเธอคือการเปิดทางให้ตระการได้พูดในสิ่งที่เขาอยากบอกมานาน
“ผมจะเริ่มไปถือศีลแปดก่อนครับ รอให้ทุกอย่างลงตัวก็คงไปบวชที่วัดที่อยู่บนเขาที่ผมชอบไปแต่ตอนนี้ผมยังห่วงลูกห่วงคุณแม่ และยังรอว่าเมื่อไหร่จะมีหลาน ถ้าทุกอย่างลงตัวผมก็คงไป ทางธรรมแน่นอน”
คนเป็นแม่ทำได้แต่ร่วมสาธุเพราะตัวชุลีเองห่างจากศาสนาเอามาก ๆ เธอสนใจแต่ทำมาหากิน การที่ตระการเป็นแบบนี้เพราะเขาไปอยู่กับคุณยายในช่วงปิดเทอมที่นครสวรรค์จึงชอบการทำบุญและก็ไปพบรักกับนิตยาที่นั่น
วันที่ชุลีรอคอยก็มาถึงเธอเดินทางมาถึง ตลาดที่นิตยาและตระการเคยเช่าห้องอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วกลายเป็นตึกไปหมด ตฤณเองตอนอยู่ที่นี่ก็แค่สองขวบจำใครไม่ได้ แต่คนแก่ ๆ หลายคนยังจำตระการได้อยู่
“ตระการใช่ไหมนั่น ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเลย หายไปนานมาก มาหาลูกกับเมียเหรอ นิตยามันตายจนไปเกิดใหม่แล้ว ลูกมันก็ไปทำงานที่ไหนไม่รู้”
หญิงชราวัยเดียวกับชุลีเดินมาทักทายตระการด้วยสีหน้าที่ไม่ได้ดีใจที่เจอแต่แปลกใจมากกว่า
“น้าชดครับนี้คุณแม่ผมและนี่ก็ตฤณลูกของผมกับนิตยา”
ชดทำหน้าตกใจที่สองพ่อลูกมาด้วยกัน เพราะคนที่นี่คิดกันมาตลอดว่าตฤณคงจะลำบากเพราะขาดแม่ไปแล้ว
“ตฤณหลานยายจริง ๆ ด้วย”
ชดเป็นน้าของนิตยาแต่เธอก็จนมากเหมือนกันในช่วงนั้นจึงช่วยอะไรหลานไม่ได้และตอนที่แม่ของตฤณพาลูกหนีไปก็ไม่ยอมบอกใครว่าไปอยู่ที่ไหน
ตระการแนะนำให้ลูกชายรู้จักยายของเขา แต่ยายจริง ๆ เสียไปตั้งแต่ตฤณยังไม่เกิด
ชุลีได้มาที่แรกสมใจ ที่ต่อไปเขาอยากรู้ว่านิตยาพาหลานชายเขาหนีไปที่ไหน ตฤณจึงนำทางทุกคนไป
บริเวณที่ตฤณเคยอยู่เคยเป็นสลัมคนเร่ร่อนไม่มีบ้านมาอาศัยอยู่กันหลายครอบครัว แต่พอไปถึงกลับกลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรไม่มีคนที่ชายหนุ่มรู้จักเลย
“ป้าครับตรงนี้เคยเป็นสลัมแล้วคนที่อยู่สลัมไปไหนกันหมดแล้วครับ”
ชายหนุ่มเดินไปถามร้านค้าที่อยู่หน้าวัดเพราะดูแล้วน่าจะเป็นร้านค้าของคนแถวนั้น
“เทศบาลเขาหาที่อยู่ให้ไม่ ย้ายไปอยู่กันที่เขาจัดให้หมดแล้ว บางคนก็มีเงินไปซื้อบ้านซื้อช่องกัน”
วันนี้ชุลีได้เห็นแค่เพียงสิ่งที่เปลี่ยนไป เธอจึงรู้ว่ามันนานเกินไปจริง ๆ ที่เธอจะคิดถึงอดีต
วัดที่อยู่ติดกับสลัมคือที่เก็บกระดูกของนิตยา ตฤณฝากกระดูกแม่ไว้กับพระที่วัดที่ตอนนั้นท่านก็ยังอายุไม่มากเท่าไหร่ ตฤณมาอาศัยข้าวก้นบาตรจากท่านกินอยู่บ่อย ๆ
“ผมมาหาหลวงพี่ขจรครับ”
“โยมมาช้าไป หลวงพี่ขจรกลับไปอยู่บ้านแล้ว ท่านอาพาธบ่อย จึงย้ายกลับไปอยู่ใกล้ ๆ ญาติพี่น้อง”
“คือผมเคยฝากกระดูกแม่ไว้กับท่านเมื่อหลายปีที่แล้ว เลยไม่รู้ว่าจะไปหากระดูกแม่ได้ที่ไหน”
“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นตามอาตมามา หลวงพี่ขจรแกสั่งพระทุกคนไว้ว่าจะเก็บอัฐิที่ญาติโยมฝากไว้ที่ศาลาหลังเล็ก โยมตามอาตมามาแล้วไปดูเอาเองนะ”
ตฤณเดินขึ้นไปยังศาลาพร้อมกับทุกคนเขามองหา ผ้าขาวบางที่เขาใส่กระดูกแม่ไว้เพราะตอนนั้นไม่มีเงินพอจะซื้อโกศแต่ไม่มี เขาจึงลองยกโกศที่มีอยู่สิบกว่าอันเพื่อดูชื่อเผื่อจะมีชื่อแม่ของเขา
“นิตายา วารี”
ชายหนุ่มอ่านชื่อใต้โกศแล้วร้องไห้กอดโกศใส่กระดูกไว้แน่น เขาทิ้งกระดูแม่ไปถึงหลายปีแต่กลับมีคนซื้อโกศมาใส่กระดูกให้แม่ของเขา
“คนรวยจากกรุงเทพเขามาทำบุญกัน เขาเห็นมีผ้าห่อกระดูกวางอยู่เขาเลยซื้อโกศมาให้ เอาแม่กลับบ้านเสียนะ อาตามาดีใจที่โยมไปได้ดีมีสุขแล้วยังคิดมารับอัฐิแม่ไปอยู่ด้วย”
ชุลีเธอพูดอะไรไม่ออก ความจน ความลำบากที่เธอคิดไว้ มันยังน้อยกว่าที่หลานชายของเธอต้องเจอ ลูกสะใภ้ไม่มีแม้แต่โกศจะใส่กระดูก คนชราที่กำลังอ่อนไหว ร้องไห้ด้วยความสำนึกผิด
“คุณย่าไม่ต้องร้องไห้นะครับ แม่คงดีใจที่รู้ว่าคุณย่ามารับแม่ด้วยตัวเอง ไปอยู่กับตฤณนะครับแม่”
ย่าหลานและคนเป็นพ่อกอดกันร้องไห้พร้อมกับโกศที่ในนั้นมีกระดูกของผู้หญิงที่เคยลำบากแสนสาหัสเพื่อเลี้ยงลูกชายมาจนโตอยู่ในนั้น
ตอนเดินลงจากศาลาและเดินไปที่รถ ตระการขอถือโกศของภรรยาเขาเดินเงียบไปตลอดทาง น้ำตาไหลแบบไร้เสียงสะอื้น ภาพที่เขาขี่จักรยานเล่นตอนเย็นกลับสาวน้อยผมเปียในช่วง ปิดเทอมยังอยู่ในความทรงจำเสมอ
ตอนที่ 12หมดห่วง โกศของนิตยาถูกวางไว้กับโกศปู่ของตฤณ เพราะชุลีทำพิธีงานศพแบบไทยไม่ได้ฝัง “อโหสิกรรมให้ฉันนะนิตยา เวรกรรมมันตามฉันแล้วใน ชาตินี้ฉันอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา สักวันเราคงได้เจอกันนะ” ชุลีได้ทำตามที่ตั้งใจไว้แล้ว อย่างน้อยความรู้สึกผิดก็น้อยลง สิ่งต่อไปที่เขารอคอยคือการมีทายาทสืบเชื้อสายตระกูลต่อไป ตฤณไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะหลังจากที่กลับจากนครสวรรค์ได้สองเดือน ดุจดาวก็ตั้งท้อง “ย่าจะมามัวไม่สบายไม่ได้แล้ว ใครจะเลี้ยงหลาน พวกแม่บ้านที่นี่ก็ไม่เคยมีลูกกันสักคน ดุจดาวก็ต้องดูร้าน ตระการลูกไม่ต้องไปทำงานหรอก ช่วยแม่เลี้ยงหลานอยู่บ้านดีกว่า ปล่อยหน้าที่ทำมาหากินให้หนุ่มสาวเขาทำไป” ตระการเต็มใจและดีใจที่สุดเพราะเขายังคิดถึงวันเวลาที่เขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยไปขายปลาที่ตลาดในช่วงเช้าได้เพื่อให้นิตยาได้มีเวลาทำงานบ้านและเตรียมทำขนมขายตอนเย็น “ตอนลูกได้เลี้ยงแค่สองขวบ เอาไว้เลี้ยงหลานแทนก็ได้เนาะคุณแม่” ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลาดมีปัญหาเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะแม่ค้าทะเลาะกัน ปัญหาความสกปรก ห
ตอนที่ 1พราก “แม่คะ! เทียนไปตามหาเจ้าตูบที่หลังบ้านก่อนนะ เรียกมันให้มากินข้าวมันก็ไม่ยอมมา สงสัยไปแอบหาหนูหลังบ้านแน่ ๆ ” เจ้าตูบแมวไทยเพื่อนเล่นเพียงหนึ่งเดียวของเทียนหอม สาวน้อยในวันสิบแปด มันชอบไปเที่ยวเล่นหลังบ้านที่เป็นพื้นที่นาของครอบครัว ปัง! ปัง! เทียนหอมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอเดินมาถึงที่นาห่างจากตัวบ้านหลายสิบเมตรแต่ก็ได้ยินชัดว่าเสียงที่กำลังดังอยู่คือเสียงปืนและมันดังมาจากในบ้านของเธอ สาวน้อยอุ้มเจ้าตูบที่เธอเพิ่งเจอมันวิ่งกลับบ้านทันที แต่เธอต้องหยุดและซ่อนตัวอยู่หลังป่ากล้วยเมื่อได้ยินว่า บนบ้านของเธอมีเสียงชายแปลกหน้า&nb
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้