ตอนที่ 9
เริ่มต้นใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
ชุลีกลับมาส่งหลานสะใภ้ที่บ้านในเวลาเย็นพร้อมกับนัดให้เจนจิรามาเจอที่ร้านด้วย
ทันทีที่ดุจดาวก้าวลงจากรถ ตฤณก็รีบเดินมากอดภรรยาไว้แน่นแต่แค่เพียงไม่กี่นาทีก็มีรถมาจอดข้าง ๆ ร้านและตฤณก็จำได้ดีว่ามันคือรถของเจนจิรา
“คุณย่า...”
ตฤณหันไปมองที่รถที่ขับเข้ามาจอดและหันมาเรียกชุลีเพื่อเป็นคำถามว่าย่าของเขานัดอีกฝ่ายมาใช่ไหม
“ใช่ ย่าเรียกหนูเจนมา จะได้จบ ๆ ตฤณเลือกใครย่าก็จบส่วนดุจดาวย่าก็จะรับเป็นหลานบุญธรรมถ้าตฤณเลือกหนูเจน”
ชายหนุ่มละสายตาจากย่าแล้วหันกลับมามองหน้าดุจดาวส่ายหัวไปมาเหมือนคนกำลังเสียสติ
“ไม่เอานะดาวมันไม่ใช่อย่างที่ดาวคิด พี่ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”
ดุจดาวแกะมือทั้งสองข้างออกจากตัวเขาและเธอเดินตรงไปหาเจนจิราที่กำลังลงจากรถ
“เชิญด้านในค่ะ”
หญิงสาวเดินนำทุกคนเข้าไปยังห้องที่เธอทำไว้สำหรับพักผ่อนในร้านเพราะคุยในนั้นคงสะดวกกว่าไม่มีใครได้ยิน
“พี่ตฤณพูดมาเลยค่ะว่าสรุปแล้วที่ทุกอย่างเปลี่ยนไประหว่างเราเพราะอะไรและเพราะใครและพี่จะเอาอย่างไรกับเราสามคนต่อ”
ดุจดาวเข้มแข็งกว่าที่ชุลีคิดไว้ เพราะด้วยความเป็นผู้ใหญ่เขาตั้งใจมานั่งเป็นคนกลางเพียงอย่างเดียวไม่ขอออกความเห็น
“พี่...เอ่อ...คือพี่ไม่ได้มีอะไร” ตฤณมองหน้าสองคนไปมา
“ถ้าพี่ไม่มี ถ้าอย่างนั้นดาวจะเป็นคนมีและเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ ในเมื่อดาวให้โอกาสพี่พูดความจริงและแก้ไขแล้ว แต่ถ้าเลือกจะแก้ตัวดาวจะหลีกทางให้ คุณเจนจิราจะได้ไม่ต้องคอยชกชิงจะได้กินอย่างเปิดเผย”
เจนจิราเดินมาจับแขนของตฤณแสดงความเป็นเจ้าของทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์แต่ในเมื่อฝ่ายชายไม่ยอมพูดอะไรเธอก็ถือว่าเขายังไม่ได้เลือก
“คุณดุจดาวคงเข้าใจอะไรผิดนะคะ ฉันไม่เคยชกชิง เราไปไหนมาไหนกันคุณตฤณก็ไปแบบเต็มใจใช่ว่าฉันฉุดลากเขาไป เสียที่ไหน แล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่าการเป็นพี่น้องคนสนิทเพราะคุณตฤณมีภรรยาอยู่แต่ถ้าเขาโสดอนาคตก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ดุจดาวส่งสายตาจ้องมองหญิงสาวที่ดูผู้ดีมีการศึกษาตรงหน้าด้วยสายตาที่แสนจะผิดหวังกับคำพูด
“ความดีความชั่วมันห่างกันแค่เพียงเส้นคั่น คุณเจนทำให้ดาวรู้ว่าคนเราจะดีหรือชั่วมันไม่ได้อยู่ที่ชาติตระกูลแต่มันอยู่ที่จิตสำนึกซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคนรวยและสวยมากอย่างคุณมีน้อยมาก..หรือว่าไม่มีเลย”
ตฤณดึงมือของเจนจิราออกเขาเดินมาจับมือเล็กของภรรยาไว้ก่อนจะหันไปมองผู้หญิงทั้งคู่
“พี่ผิดเองที่ไม่รู้จักวางตัวให้เหมาะกับคนที่มีภรรยาแล้ว พี่กับเจนเราแค่สนิทกันพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินกว่าคนรู้จักแต่เป็นเพราะพี่มัวแต่สนุกกับชีวิตใหม่และสิ่งใหม่ ๆ จนลืมไปว่าสิ่งที่ทำมันอาจทำให้คนที่รักพี่เสียใจ นับจากนี้ไปพี่จะไม่หลงกับสิ่งอะไรแบบนี้อีกแล้ว วันนี้พี่รู้แล้วว่าพี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีดาว”
“พี่ตฤณ ทำไมพี่พูดเหมือนเจนไม่สำคัญเลย ทุกวันที่เราอยู่ด้วยกันคืออะไรคะ”
ลูกสาวร้านทองยืนกำมือแน่นด้วยความโกรธเธอไม่คิดเลยว่าความใหม่กว่า สวยกว่า รวยกว่าของเธอจะแพ้แม่ค้าขายแกงอย่างดุจดาว
“เจนพี่ขอโทษที่พี่ทำอะไรให้เจนเข้าใจผิดแต่พี่ไม่เคยเห็นใครสำคัญกว่าเมียพี่เลยนะ พี่ยอมรับว่าพี่ให้ความสนิทกับเจน จนเจนอาจคิดมากไปแต่พี่ไม่มีหัวใจไว้รักใครนอกจากเมียพี่อีกแล้ว”
เจนจิราได้ยินชายหนุ่มที่เธอหมายปองพูดแบบนี้ก็ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องไม่เป็นตัวเองอีกแล้ว เธอจึงพูดทุกอย่างที่อยู่ในหัวใจ
“คิดว่าคนอย่างฉันอยากได้พี่นักเหรอ พี่มันก็แค่ยามที่ถูกเอามาสวมหน้ากากให้เป็นผู้ดีสุดท้ายมันก็กลิ่นเดิม เหมาะแล้วที่จะสมสู่กับแม่ค้าขายแกงต่ำพอกัน”
เจนจิราเตรียมจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากร้าน แต่ถูก ดุจดาวดึงแขนเธอไว้พร้อมกับเปิดประตูห้องเพื่อพูดกับลูกน้องในร้าน
“เอ้า..ทุกคนผู้หญิงคนนี้เขาบอกพวกแม่ค้าขายแกงเป็นคนชั้นต่ำ ไหนเราลองแสดงความต่ำให้เธอดูหน่อยสิ ใครว่างถ่ายคลิปให้ด้วยจะได้ส่งไปให้พ่อกับแม่เธอดูว่าลูกสาวชอบดูถูกคนอื่นแค่ไหน”
เจนจิราพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของดุจดาว แต่คุณหนูจะมามีแรงสู่แม่ค้าได้อย่างไรกัน หลังจากนั้นน้ำพะโล้ก็มา น้ำพริกปลาร้าก็มีแถมด้วยผักเต็มตัวลูกสาวร้านทองเต็มไปหมด
ดุจดาวปล่อยมือเมื่อเธอคิดว่าเพียงพอต่อการสั่งสอน คนรวยที่ชอบดูถูกคนจนให้ได้รู้ว่าคนจนก็คนเหมือนกัน
เจนจิรากลับไปแล้วต่อไปก็คงเหลือแต่เรื่องของสองคนสามีภรรยาที่ต้องจัดการ
“ดาวดีกับพี่นะ”
“ดาวเคยร้ายกับพี่ด้วยเหรอคะ ถ้าดาวร้ายคงไม่ปล่อยให้สามีสวมเขาได้แบบนี้หรอกค่ะ ดาวไม่เลิกกับพี่แน่ ๆ ไม่ต้องกลัว เราจะเริ่มต้นใหม่กัน แต่ดาวคงรู้สึกกับพี่ไม่เหมือนเดิมแล้ว พี่รับได้ใช่ไหม”
ชายหนุ่มยอมหมดในเวลานี้ เพราะเขารู้แล้วว่าดุจดาวไม่ใช่ของตายอีกต่อไปและเธอก็มีค่ากับชีวิตเขามากแค่ไหน
“ย่ากลับก่อนนะ ตกลงกันเอาและคิดว่าคงไม่มีเรื่องแบบนี้อีกเพราะเหนื่อยแล้ว ยากจนกับรักกันดีพอมีเข้าหน่อยก็ทำเป็น ลืมตัว มันไม่เจริญนะคนแบบนี้”
ชุลียังคงเป็นคุณย่าที่พูดจาได้เจ็บเสมอแต่ครั้งนี้ดุจดาวฟังแล้วรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะสามีของเธอลืมตัวจริง ๆ
ตอนที่ 10บทเรียน ตอนนี้ชุลีให้ตระการมาช่วยลูกชายดูแลเรื่องตลาด ที่จะเปิดใหม่เพื่อให้ตฤณได้มีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้น ส่วนดุจดาวชุลีก็ตัดสินใจที่จะเปิดร้านขายข้าวแกงหน้าโรงสีอีกสาขาเพื่อดึงลูกสะใภ้ให้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ ร้านสาขาเดิมรำพึงก็ดูแลแทน ชุลีขึ้นเงินเดือนให้รำพึงและยังให้โบนัสลูกน้องทุกคนตามยอดขาย ทำให้ทุกคนมองร้านนี้เป็นร้านของตัวเองด้วย รำพึงรักร้านนี้และดุจดาวมากเพราะจากอยู่ห้องเช่าตอนนี้เธอก็สามารถซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง สามีของเธอก็ไม่ต้องรับจ้างเข้าเวร ทำแค่ตามปกติและมาย่างปลาดุกขายช่วยเธอแทน “ดุจดาวทำไมเด
ตอนที่ 11อโหสิกรรม ตลาดเสร็จแล้วแม่ค้าพ่อค้าต่างมาจองที่ขายกันจนแน่นเพราะตฤณคิดค่าเช่าที่ถูกมากแถมด้วยสามเดือนแลกฟรีโดยเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟโดยใช้วิธีการหารกันเท่านั้น “คิดแล้วมันคุ้มแน่นะ ย่าแก่แล้วไม่อยากคิด” ชุลีเป็นห่วงแต่ตัวเองก็เบื่อที่จะใช้สมองแล้ว จึงอยากให้หลานชายคิดดูดี ๆ และก็เชื่อในการตัดสินใจของเขา “สามเดือนแรกเราขาดทุนครับเพราะมีค่าเก็บขยะ ค่าทำความสะอาดและอีกหลายอย่างที่เราต้องเสียแต่เรามีเงินที่เก็บค่าแรกเข้าตอนจองไว้ ก็เอาออกมาใช้แทน แต่เดือนต่อ ๆ ไปเราจะได้กำไรจากตลาดใหม่ตกเดือนละแสนกว่าบาทครับ” ชุลีฟังหลานชายอธิบายสบายใจกว่าฟังลูกชายพูด เพราะเจ้านั้นเอาแต่พอเพียงเหมือนพอใจแค่มีเงินกินเงินใช้ไปวัน ๆ “เงินที่ได้ก็จัดการให้ดี เพราะเราต้องปรับปรุงเสียภาษีอีก อย่าเอามาใช้จนหมด เรื่องแบบนี้ย่าว่าตฤณคงเข้าใจดีเพราะผ่านชีวิตของคำว่าจนมาแล้ว” ดุจดาวเดินเข้ามาในห้องของชุลีเพื่อเอาน้ำส้มคั้นมาให้เพราะเธออยากให้ระบบขับถ่ายของคนอายุมากไม่มีปัญหา “ทำอร่อย คนมันเก่งขนาดแค่น้ำส้มยังอร่อยเลย ความจริงทำขายก็ได้นะรส
ตอนที่ 12หมดห่วง โกศของนิตยาถูกวางไว้กับโกศปู่ของตฤณ เพราะชุลีทำพิธีงานศพแบบไทยไม่ได้ฝัง “อโหสิกรรมให้ฉันนะนิตยา เวรกรรมมันตามฉันแล้วใน ชาตินี้ฉันอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา สักวันเราคงได้เจอกันนะ” ชุลีได้ทำตามที่ตั้งใจไว้แล้ว อย่างน้อยความรู้สึกผิดก็น้อยลง สิ่งต่อไปที่เขารอคอยคือการมีทายาทสืบเชื้อสายตระกูลต่อไป ตฤณไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะหลังจากที่กลับจากนครสวรรค์ได้สองเดือน ดุจดาวก็ตั้งท้อง “ย่าจะมามัวไม่สบายไม่ได้แล้ว ใครจะเลี้ยงหลาน พวกแม่บ้านที่นี่ก็ไม่เคยมีลูกกันสักคน ดุจดาวก็ต้องดูร้าน ตระการลูกไม่ต้องไปทำงานหรอก ช่วยแม่เลี้ยงหลานอยู่บ้านดีกว่า ปล่อยหน้าที่ทำมาหากินให้หนุ่มสาวเขาทำไป” ตระการเต็มใจและดีใจที่สุดเพราะเขายังคิดถึงวันเวลาที่เขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยไปขายปลาที่ตลาดในช่วงเช้าได้เพื่อให้นิตยาได้มีเวลาทำงานบ้านและเตรียมทำขนมขายตอนเย็น “ตอนลูกได้เลี้ยงแค่สองขวบ เอาไว้เลี้ยงหลานแทนก็ได้เนาะคุณแม่” ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลาดมีปัญหาเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะแม่ค้าทะเลาะกัน ปัญหาความสกปรก ห
ตอนที่ 1พราก “แม่คะ! เทียนไปตามหาเจ้าตูบที่หลังบ้านก่อนนะ เรียกมันให้มากินข้าวมันก็ไม่ยอมมา สงสัยไปแอบหาหนูหลังบ้านแน่ ๆ ” เจ้าตูบแมวไทยเพื่อนเล่นเพียงหนึ่งเดียวของเทียนหอม สาวน้อยในวันสิบแปด มันชอบไปเที่ยวเล่นหลังบ้านที่เป็นพื้นที่นาของครอบครัว ปัง! ปัง! เทียนหอมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอเดินมาถึงที่นาห่างจากตัวบ้านหลายสิบเมตรแต่ก็ได้ยินชัดว่าเสียงที่กำลังดังอยู่คือเสียงปืนและมันดังมาจากในบ้านของเธอ สาวน้อยอุ้มเจ้าตูบที่เธอเพิ่งเจอมันวิ่งกลับบ้านทันที แต่เธอต้องหยุดและซ่อนตัวอยู่หลังป่ากล้วยเมื่อได้ยินว่า บนบ้านของเธอมีเสียงชายแปลกหน้า&nb
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้