ตอนที่ 8
เลือก
“คุณย่าพาดุจดาวมาที่นี่ทำไมคะ”
หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ เมื่อถูกย่าสามีพาเธอมาที่ร้านอาหารที่ดูไฮโซในโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ
ชุลียังไม่ทันจะตอบตฤณกับเจนจิราก็เดินเข้ามาในร้าน ชายหนุ่มดึงเก้าอี้ออกเพื่อให้หญิงสาวนั่ง ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปนั่งในฟังตรงข้ามแทน
“คุณย่า...”
ดุจดาวไม่รู้ว่าส่งที่เธอเห็นหมายความว่าอย่างไร ย่าของสามีพาเธอมาที่นี่เพื่อให้เธอรับรู้ว่าสามีของเธอไม่ได้ไปพบช่างตามที่บอกแต่เขากลับมากินข้าวกับสาวสวยที่เธอไม่รู้จัก
“ย่าบอกแล้วให้ตั้งสติ ดูไปก่อนอย่าคิดอะไรมาก”
ชุลีนั่งเงียบไม่พูดอะไรเพื่อให้ดุจดาวได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่กับตัวเองและภาพของสามีที่กำลังบริการเอาใจผู้หญิงอื่นตรงหน้าเธอ
“กลับกันเถอะค่ะ”
ดุจดาวทำท่าจะร้องไห้เธอทนไม่ไหวแล้วที่ต้องเห็นภาพตรงหน้าอีกต่อไป
“ร้องเลยถ้าอยากจะร้องไห้ แต่การที่เธอจะกลับไปจากตรงนี้ เธอต้องทำทุกอย่างให้มันชัดเจน ตฤณต้องมีคำตอบให้กับเรื่องนี้”
ดุจดาวนั่งร้องไห้แบบไร้เสียงจนเธอไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาแล้ว
“คุณย่าคิดว่าดาวควรทำอย่างไรคะ”
“โทรศัพท์ไปหาสามีของเธอถามว่าเขาอยู่ที่ไหน บอกให้เขาพักผ่อนบ้าง ขับรถกลับดี ๆ ”
ดุจดาวทำตามที่ชุลีแนะนำ หญิงสาวพยายามตั้งสติก่อนที่จะกดโทรศัพท์หาสามี
“พี่ตฤณทำงานเสร็จหรือยังคะ”
“ยังเลย วุ่นอยู่กับช่าง ดาวมีอะไรหรือเปล่า น้ำเสียงดูไม่ดีเลย”
“ดาวแค่เป็นห่วงไม่อยากให้พี่กลับดึก ทำงานหนักแบบนี้พักผ่อนบ้างนะคะดาวเป็นห่วง”
“จ้า พี่คิดถึงดาวนะไว้เจอกัน”
ชุลีรีบคว้าโทรศัพท์จากมือของหลานสะใภ้เพราะกลัวมันจะหล่นจากมือที่หมดแรงเสียก่อน
“ตั้งสติ ถึงเวลาที่เราต้องแสดงตัวแล้ว พร้อมไหม”
ชุลีจับมือหลานสะใภ้แน่นเพื่อให้เธอได้รู้สึกตัวและรู้ว่าตอนนี้มีเขาอยู่ข้าง ๆ เธอ
“เธอเดินไปทักทายสามีตามปกติ แล้วเราจะรู้กันว่าตฤณจะเลือกใครแต่ต่อให้เขาเลือกเธอ เขาจะต้องได้รับบทเรียนกับการเป็นผู้ชายที่ไม่หนักแน่น แต่ฉันจะบอกให้เธอรู้ว่าหลานชายของฉัน ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับแม่นั่น แต่ในเมื่อตฤณรู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงเขาต้องการจะมาทำลายครอบครัว ยังไม่เลิกยุ่งกับเขาอีก ย่าจึงต้องให้บทเรียน”
สองคนย่าหลานลุกจากโต๊ะและเดินมุ่งหน้าไปยังโต๊ะของชายหญิงที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
“พี่ตฤณมาคุยกับช่างที่นี่เอง ดาวโล่งใจกลัวว่าพี่จะไปลำบากอยู่ที่ตลาด ช่างก็แสนจะน่ารักแบบนี้ พี่ตฤณคงหายเหนื่อยแน่ ๆ ”
ดุจดาวเก็บอาการได้ดีทักทายเสร็จเธอก็เดินกลับออกมาที่รถก่อนจะปล่อยโฮแบบสุดเสียงเมื่อประตูปิดลง
“ร้องไห้หมดแล้วกลับมาเป็นคนเก่ง ต่อไปไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว อยู่ที่หลานชายฉันว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร”
ชุลนีและดุจดาวเดินทางกลับทันที ชุลีคิดว่าคืนนี้หลานสะใภ้ของเขาคงไม่สามารถอยู่คนเดียวได้และเธอก็อยากให้ตฤณตามหาภรรยาไม่เจอ
“ไปนอนโรงแรมกัน ฉันรู้ว่าเธออยู่คนเดียวไม่ได้แล้วคืนนี้หลานชายฉันจะต้องรีบไปง้อและอธิบายทุกเรื่องกับเธอ ซึ่งมันไม่ควรง่ายแบบนั้น”
ดุจดาวคิดอะไรไม่ออกแล้ว ตอนนี้ชุลีให้เธอทำอะไรเธอก็พร้อมที่จะทำตามเพราะเธอเหมือนสมองดับความรู้สึกมันชาเย็นไปหมด
ตฤณพยายามโทรศัพท์หาดุจดาวตลอดแต่ชุลีไม่ให้หญิงสาวรับ เพราะตอนนี้ทั้งคู่ต่างไม่มีสติ คุยกันก็มีแต่ทะเลาะและตฤณก็คงมีแต่คำโกหก ปล่อยให้เวลาทำให้ทั้งคู่มีสติมากกว่านี้แล้วค่อยคุยกัน
ตลอดทั้งคืนชุลีสอนลูกสะใภ้ถึงการใช้ชีวิตครอบครัวที่มันย่อมมีปัญหาต่าง ๆ เข้ามาเราต้องจัดการทุกอย่างให้เด็ดขาดแต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลิกแต่ต้องทำให้ฝ่ายที่ผิดรู้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเราเป็นแค่เพียงของตายได้อีก
ดุจดาวเชื่อในคำสอนของชุลีถึงแม้จะมีหลายคำที่หญิงชราว่าเธอด้วยคำแรง ๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงรู้สึกโกรธแต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า การแสดงออกความเป็นห่วงของแต่ละคนมันต่างกัน
ตฤณทั้งโทรศัพท์และรีบขับรถกลับไปที่บ้านเก่าของเขาแต่ไร้เงาของภรรยา เขานอนรอเธอทั้งคืน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเวลาที่ ดุจดาวต้องนอนรอเขามันเจ็บปวดแค่ไหน
ทุกอย่างในบ้านดูจัดดีขึ้นแต่ที่เหมือนเดิมคือรูปถ่ายของเขากับดุจดาว หญิงสาววางมันไว้ที่เดิมตลอด ความจริงแล้วสิ่งเหล่านี้ตฤณควรจะมองเห็นมานานแต่เขากลับมาที่นี่แบบเร่งรีบจนไม่ทันได้สังเกตอะไรเลย
เช้านี้ตฤณก็ตื่นไปช่วยงานที่ร้านทุกคนในร้านแปลกใจมากที่ดุจดาวหายไปแต่เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มาแทน
“ไม่ได้เจอกันเลยเนาะตฤณ แต่อย่างว่าเดี๋ยวนี้นายไม่ได้เป็นยามเหมือนเดิมเป็นถึงลูกชายคนมีเงิน ไอ้เราจะได้เจอเขามันก็อยาก เพื่อนนายเขาก็บ่นคิดถึงกันทั้งนั้น แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนก็พยายามเข้าใจ”
รำพึงเก็บความรู้สึกนี้มานาน เพราะทั้งดุจดาวและทุกคนที่อยู่รอบตัวต่างรู้สึกว่าตฤณคนเดิมได้หายไปแล้ว เหลือแต่ลูกชายของเจ้าของโรงสีเท่านั้น
ชายหนุ่มตัดสินใจโทรศัพท์ไปปรึกษาบิดาเพราะเขาไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร คนที่ร้านก็คงไม่มีใครอยากช่วยเขา เพราะตัว เขาเองที่ทำให้ทุกคนมองเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“พ่อคงบอกลูกได้แค่ว่าถ้าพ่อทำทุกอย่างเร็วกว่านี้ แม่ของลูกก็คงยังอยู่ เราก็คงไม่ต้องพรากจากันไปตลอดชีวิตแต่เพราะความไม่หนักแน่นและไม่กล้าเผชิญความจริงพ่อจึงต้องเสียทุกอย่างไป อย่าปล่อยให้ทุกอย่างสายไปเหมือนพ่อนะ”
ตฤณร้องไห้ออกมาเพราะเขาสำนึกแล้วเพราะความสนุกหลงในความชุ่มชื้นหัวใจเพียงชั่วครู่กำลังจะทำให้เขาเสียคนที่เขารักไป เขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อได้ภรรยาของเขาคืนมาให้ได้
ตอนที่ 9เริ่มต้นใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม ชุลีกลับมาส่งหลานสะใภ้ที่บ้านในเวลาเย็นพร้อมกับนัดให้เจนจิรามาเจอที่ร้านด้วย ทันทีที่ดุจดาวก้าวลงจากรถ ตฤณก็รีบเดินมากอดภรรยาไว้แน่นแต่แค่เพียงไม่กี่นาทีก็มีรถมาจอดข้าง ๆ ร้านและตฤณก็จำได้ดีว่ามันคือรถของเจนจิรา “คุณย่า...”ตฤณหันไปมองที่รถที่ขับเข้ามาจอดและหันมาเรียกชุลีเพื่อเป็นคำถามว่าย่าของเขานัดอีกฝ่ายมาใช่ไหม“ใช่ ย่าเรียกหนูเจนมา จะได้จบ ๆ ตฤณเลือกใครย่าก็จบส่วนดุจดาวย่าก็จะรับเป็นหลานบุญธรรมถ้าตฤณเลือกหนูเจน”ชายหนุ่มละสายตาจากย่าแล้วหันกลับมามองหน้าดุจดาวส่ายหัวไปมาเหมือนคนกำลังเสียสติ“ไม่เอานะดาวมันไม่ใช่อย่างที่ดาวคิด พี่ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”ดุจดาวแกะมือทั้งสองข้างออกจากตัวเขาและเธอเดินตรงไปหาเจนจิราที่กำลังลงจากรถ“เชิญด้า
ตอนที่ 10บทเรียน ตอนนี้ชุลีให้ตระการมาช่วยลูกชายดูแลเรื่องตลาด ที่จะเปิดใหม่เพื่อให้ตฤณได้มีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้น ส่วนดุจดาวชุลีก็ตัดสินใจที่จะเปิดร้านขายข้าวแกงหน้าโรงสีอีกสาขาเพื่อดึงลูกสะใภ้ให้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ ร้านสาขาเดิมรำพึงก็ดูแลแทน ชุลีขึ้นเงินเดือนให้รำพึงและยังให้โบนัสลูกน้องทุกคนตามยอดขาย ทำให้ทุกคนมองร้านนี้เป็นร้านของตัวเองด้วย รำพึงรักร้านนี้และดุจดาวมากเพราะจากอยู่ห้องเช่าตอนนี้เธอก็สามารถซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง สามีของเธอก็ไม่ต้องรับจ้างเข้าเวร ทำแค่ตามปกติและมาย่างปลาดุกขายช่วยเธอแทน “ดุจดาวทำไมเด
ตอนที่ 11อโหสิกรรม ตลาดเสร็จแล้วแม่ค้าพ่อค้าต่างมาจองที่ขายกันจนแน่นเพราะตฤณคิดค่าเช่าที่ถูกมากแถมด้วยสามเดือนแลกฟรีโดยเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟโดยใช้วิธีการหารกันเท่านั้น “คิดแล้วมันคุ้มแน่นะ ย่าแก่แล้วไม่อยากคิด” ชุลีเป็นห่วงแต่ตัวเองก็เบื่อที่จะใช้สมองแล้ว จึงอยากให้หลานชายคิดดูดี ๆ และก็เชื่อในการตัดสินใจของเขา “สามเดือนแรกเราขาดทุนครับเพราะมีค่าเก็บขยะ ค่าทำความสะอาดและอีกหลายอย่างที่เราต้องเสียแต่เรามีเงินที่เก็บค่าแรกเข้าตอนจองไว้ ก็เอาออกมาใช้แทน แต่เดือนต่อ ๆ ไปเราจะได้กำไรจากตลาดใหม่ตกเดือนละแสนกว่าบาทครับ” ชุลีฟังหลานชายอธิบายสบายใจกว่าฟังลูกชายพูด เพราะเจ้านั้นเอาแต่พอเพียงเหมือนพอใจแค่มีเงินกินเงินใช้ไปวัน ๆ “เงินที่ได้ก็จัดการให้ดี เพราะเราต้องปรับปรุงเสียภาษีอีก อย่าเอามาใช้จนหมด เรื่องแบบนี้ย่าว่าตฤณคงเข้าใจดีเพราะผ่านชีวิตของคำว่าจนมาแล้ว” ดุจดาวเดินเข้ามาในห้องของชุลีเพื่อเอาน้ำส้มคั้นมาให้เพราะเธออยากให้ระบบขับถ่ายของคนอายุมากไม่มีปัญหา “ทำอร่อย คนมันเก่งขนาดแค่น้ำส้มยังอร่อยเลย ความจริงทำขายก็ได้นะรส
ตอนที่ 12หมดห่วง โกศของนิตยาถูกวางไว้กับโกศปู่ของตฤณ เพราะชุลีทำพิธีงานศพแบบไทยไม่ได้ฝัง “อโหสิกรรมให้ฉันนะนิตยา เวรกรรมมันตามฉันแล้วใน ชาตินี้ฉันอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา สักวันเราคงได้เจอกันนะ” ชุลีได้ทำตามที่ตั้งใจไว้แล้ว อย่างน้อยความรู้สึกผิดก็น้อยลง สิ่งต่อไปที่เขารอคอยคือการมีทายาทสืบเชื้อสายตระกูลต่อไป ตฤณไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะหลังจากที่กลับจากนครสวรรค์ได้สองเดือน ดุจดาวก็ตั้งท้อง “ย่าจะมามัวไม่สบายไม่ได้แล้ว ใครจะเลี้ยงหลาน พวกแม่บ้านที่นี่ก็ไม่เคยมีลูกกันสักคน ดุจดาวก็ต้องดูร้าน ตระการลูกไม่ต้องไปทำงานหรอก ช่วยแม่เลี้ยงหลานอยู่บ้านดีกว่า ปล่อยหน้าที่ทำมาหากินให้หนุ่มสาวเขาทำไป” ตระการเต็มใจและดีใจที่สุดเพราะเขายังคิดถึงวันเวลาที่เขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยไปขายปลาที่ตลาดในช่วงเช้าได้เพื่อให้นิตยาได้มีเวลาทำงานบ้านและเตรียมทำขนมขายตอนเย็น “ตอนลูกได้เลี้ยงแค่สองขวบ เอาไว้เลี้ยงหลานแทนก็ได้เนาะคุณแม่” ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลาดมีปัญหาเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะแม่ค้าทะเลาะกัน ปัญหาความสกปรก ห
ตอนที่ 1พราก “แม่คะ! เทียนไปตามหาเจ้าตูบที่หลังบ้านก่อนนะ เรียกมันให้มากินข้าวมันก็ไม่ยอมมา สงสัยไปแอบหาหนูหลังบ้านแน่ ๆ ” เจ้าตูบแมวไทยเพื่อนเล่นเพียงหนึ่งเดียวของเทียนหอม สาวน้อยในวันสิบแปด มันชอบไปเที่ยวเล่นหลังบ้านที่เป็นพื้นที่นาของครอบครัว ปัง! ปัง! เทียนหอมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอเดินมาถึงที่นาห่างจากตัวบ้านหลายสิบเมตรแต่ก็ได้ยินชัดว่าเสียงที่กำลังดังอยู่คือเสียงปืนและมันดังมาจากในบ้านของเธอ สาวน้อยอุ้มเจ้าตูบที่เธอเพิ่งเจอมันวิ่งกลับบ้านทันที แต่เธอต้องหยุดและซ่อนตัวอยู่หลังป่ากล้วยเมื่อได้ยินว่า บนบ้านของเธอมีเสียงชายแปลกหน้า&nb
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้