ตอนที่ 2
ชายแปลกหน้าที่เรียกว่าพ่อ
ตฤณมาทำงานตามปกติและวันนี้เขาเดินตรวจรอบบริเวณโรงงานเพราะชอบมีคนแอบเอาขยะเหวี่ยงข้ามกำแพงมา เขาต้องคอยมาดูที่จุดนี้อยู่บ่อยและคอยขว้างถุงกลับไป
“ตฤณ ผู้จัดการใหญ่ให้ตามไปพบที่ห้องของท่านด่วน”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลวิ่งมาตามเขาด้วยท่าทางที่รีบร้อนและดูตื่นเต้น จนคนถูกเรียกก็ตื่นเต้นไปด้วย
“ผู้จัดการ มีอะไรหรือเปล่าครับถึงขนาดนายใหญ่เรียกแบบนี้ผมใจคอไม่ดีเลย”
ระหว่างทางที่จะเดินไปยังส่วนในของฝ่ายบริหาร ชายหนุ่มก็พยายามถามคนมาตามเผื่อจะได้พอเดาได้บ้างว่าตัวเขาเองไปทำอะไรผิดไว้
“ผมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อเช้ามีแขกมาหาท่านคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ก่อนที่ท่านจะออกมาสั่งให้ผมออกมาตาม ท่าทางท่านดูตื่นเต้นแต่ก็ไม่ได้ดูโมโหอะไรนะ รีบวิ่งไปเถอะเพราะท่านดูรีบร้อนมาก”
ตฤณทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นตั้งแต่มาทำงานที่นี่ เขายังไม่เคยคุยกับนายใหญ่เลย เคยเห็นแค่ตอนประชุมไกล ๆ เท่านั้น รู้แต่ว่าท่านเป็นคนที่ดุแล้วก็เจ้าระเบียบมาก
ทันทีตฤณมาถึงที่ห้องของนายใหญ่ เลขาหน้าห้องให้เขารออยู่ด้านนอก เพราะเธอต้องเข้าไปรายงานและขออนุญาตก่อน
“เชิญเข้าข้างในได้เลยค่ะ”
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าจนลึกเพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปข้างใน
“สวัสดีครับ”
ชายหนุ่มหันไปสวัสดีเจ้านายของเขาและแขกที่นั่งอยู่ ด้วยท่าทางที่ดูตื่นเต้น
“ลากเก้าอี้มานั่งตรงนี้ เราคงมีเรื่องต้องคุยกันยาว”
นายใหญ่สั่งลูกน้องเพราะตฤณเลือกที่จะยืนห่างจากเขา สองคนด้วยความเกรงใจจนไม่กล้าเข้ามาใกล้ ๆ
“ไหนเรามาทำความรู้จักกันหน่อยสิ ความจริงฉันไปค้นเอกสารการสมัครงานจากฝ่ายบุคคลก็ได้แต่ไม่เอา อยากได้ยินเรื่องราวจากเจ้าตัวมากกว่า”
นายใหญ่เริ่มมีสีหน้าที่ดูยิ้มทำให้ตฤณรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
“นายจะถามอะไรผม ถามได้เลยครับ”ตฤณไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี
“เล่าตั้งแต่นายเกิดเลยผมอยากฟัง”
แขกของเจ้าของโรงงานทำท่าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาพูดโพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้น
“เอ่อ....” ชายหนุ่มลังเล
“ตามที่เขาบอกเลย ไว้คุยกันจบแล้วฉันจะแนะนำว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นใคร”
เมื่อเห็นว่าลูกน้องทำท่าไม่กล้า นายใหญ่จึงพูดเองเพื่อให้ตฤณมั่นใจมากขึ้น
“ผมเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์แม่ผมชื่อนิตยาและพ่อของผมที่ผมเห็นตามใบเกิดคือตระการแต่นามสกุลผมจำไม่ได้เพราะผมใช้นามสกุลของแม่และใบเกิดผมก็หายไปนานแล้วเพราะพอมี บัตรประชาชนก็ไม่ค่อยได้ใช้ ผมกับแม่อยู่ด้วยกันสองคนตั้งแต่ผมอายุได้สองขวบ ส่วนพ่อไปไหนแม่ขอร้องว่าไม่ให้ผมพูดถึงให้รู้ แค่เพียงว่าท่านยังมีชีวิตอยู่และรักผมมาก ต่อมาแม่ก็มาเสียด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกเพราะแม่ทำงานหนักแทบไม่ได้พักผ่อนและตอนหลังแม่เริ่มดื่มเหล้าหนัก พอแม่เสียได้เกือบปี ผมก็มาทำงานที่นี่และยู่กินกับดุจดาวที่ขายข้างแกงอยู่หน้าโรงงานมาสักพักแล้วครับ”
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเจ้านายของเขาต้องการรู้อะไรบ้างเขาจึงเล่าทุกอย่าง โดยที่ไม่มีอะไรต้องปิดบังเลย
“ลำบากมากไหมตอนเด็ก ๆ ”
แขกของเจ้านายถามตฤณด้วยสายตาที่ดูเหมือนคนกำลังรู้สึกเสียใจ
“ถ้าถามว่าลำบากไหม ตอนเด็ก ๆ ก็ถึงขั้นกินข้าวกับน้ำปลาบ่อยมาก จนแม่ไปช่วยป้าที่ตลาดทำขนมจนจำสูตรได้แม่ก็ทำไปขายอีกอำเภอ เราก็มีเงินพอซื้อกับข้าวแต่ก็ไม่ใช่ทุกมื้อเพราะตอนเช้าผมจะออกไปเดินตามหลวงตาตอนเช้า ท่านก็จะให้กับข้าวมาพอกินกันสองคนแม่ลูก แต่สำหรับผมตอนนั้นก็มีความสุขดี จนมาถึงตอนที่ผมเรียนจม ม.6 ผมออกมาทำงานแม่ก็เริ่มดื่มและช่วงนั้นคือช่วงที่ผมทุกข์ที่สุดในชีวิตแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแม่ไม่เคยพูดถึงพ่อแต่พอตั้งแต่ผมเรียนจบแม่ก็เอาแต่เมาและร้องไห้หาพ่อทุกวัน ความจริงผมไม่ควรเล่าถึงแม่เพราะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของผมเลย แต่พอคิดถึงความหลังก็อดคิดถึงแม่ไม่ได้”
ผู้ชายรูปร่างตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับนายใหญ่ลุกจากเก้าอี้และเดินตรงมาที่ตฤณ จนเขาต้องรีบลุกเพราะกลัวจะเสียมารยาท
“ฉันชื่อตระการ จรูญรุ่งเรืองกิจ และฉันก็เคยมีภรรยาชื่อนิตยาและลูกชื่อตฤณ ฉันทิ้งพวกเขามาเกือบสามสิบปีแล้ว แต่ความจริงฉันพยายามตามหาเขามาเกือบสิบปี จนมาเจอว่านิตยาเสียแล้ว ส่วนลูกชายของฉันเข้ามาทำงานในกรุงเทพ”
ตระการยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้กับยามหนุ่มที่ตอนนี้ เขาตัวชาไปหมดเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันคือเรื่องจริงหรือใครแกล้งอำเขาเล่น
ชายหนุ่มเปิดซองเอกสารในนั้นมีสำเนาใบแจ้งเกิดของเขา และรูปถ่ายของเขากับพ่อเกือบสิบรูป
ตฤณกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เขาก้มลงกราบไปที่เท้าของบิดาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกมันตื้นตันไปหมด
ตระการโน้มตัวลงไปจับไหล่ของลูกชายทั้งสองข้าง เขากอดลูกชายที่เขาอยากกอดมาเกือบสามสิบปีด้วยหัวใจที่มันมีความสุขจนล้นใจ
ทั้งสองคนนั่งคุยถึงเรื่องราวในฝั่งของตระการบ้าง ว่าเขาถูกมารดาขู่ให้กลับมาแต่งงาน แต่เขาเดินทางมาหามารดาเพื่อบอกว่าตอนนี้เขามีลูกแล้วคงไม่แต่งงานกับใคร แต่พอเขากลับไปที่นครสวรรค์ก็ไม่เจอนิตยาแล้ว เพราะเธอย้ายห้องเช่าหนีเขาไปและตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้เจอทั้งลูกและเมียอีกเลย
ตระการบอกกับลูกชายว่าเขาจะกลับไปบอกเรื่องนี้กับชุลีผู้เป็นแม่และคือย่าของตฤณซึ่งตอนนี้อายุมากแล้ว และเขาจะกลับมาหาลูกชายอีกครั้ง
ตอนที่ 3ต่ำต้อย ตฤณกลับมาถึงที่บ้านเขามองหน้าภรรยาไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาในวันนี้อย่างไรดี เพราะตัวเขาเองก็ยังสับสนไปหมด “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ตั้งแต่กลับมายังไม่ยอมพูดอะไรเลย” ดุจดาวกำลังตักน้ำพริกกะปิใส่ถุงเตรียมออกไปขาย นั่งมองสามีมานานยังไม่เห็นเขาจะเอ่ยทักเธอสักคำ ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้เดินมาล้างมือที่อ้างก่อนที่จะมาช่วยภรรยาหั่นชะอมชุบไข่ “วันนี้พ่อของพี่เขามาหาที่โรงงาน” ดุจดาวฟังคำสามีถึงกลับพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี “ถ้าเขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งพี่คงสบายใจกว่านี้ แต่นี่เขารวยมีโรงสีของตัวเองและเป็นเพื่อนกับเจ้าของโรงงานที่พี่ทำอีก รวยขนาดนี้กลับทิ้งพี่กับแม่” ดุจดาวลุกขึ้นไปหาสามี ด้วยความรู้สึกสงสารเขาคงลำบากมามากแล้วพอมารู้ว่าพ่อแท้ ๆ มีฐานะดีก็คงจะเสียความรู้สึก “ดาวพี่ไม่ได้โกรธพ่อนะ แต่พี่ทำตัวไม่ถูก เฮ้อ! อย่าเพิ่งไปคิดถึงมันดีกว่า เตรียมไปขายของเดี๋ยวไม่เสร็จ” ชายหนุ่มตัดบท3วันต่อมา ตระการกลับมารับลูกชายและลูกสะใภ้ไปที่บ้านของเขาที่อยู่ห่างจาก
ตอนที่ 4ขอเวลา ตระการส่งทั้งคู่ที่บ้านด้วยความรู้สึกที่เป็นห่วง แต่ด้วยที่ไม่ได้เลี้ยงลูกมาจึงไม่กล้าแม้แต่จะออกความคิดเห็นใด ๆ บรรยากาศบ้านหลังเดิมที่เคยอบอุ่น มีความสุขถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่วันนี้บรรยากาศกลับดูเงียบ ต่างคนต่าง ไม่พูดจา ดุจดาวก็กลับไปที่มุมเดิมของเธอ เตรียมหมักหมูไว้ทอดขายพรุ่งนี้ ตฤณเองก็จะเข้าไปช่วยก็ไม่กล้าจึงเดินออกไป รดน้ำต้นไม้หน้าบ้านแทน ดุจดาวเธอนั่งหั่นหมูไปก็คิดไปว่าเธอคิดถูกไหมที่จะไม่ยอมไปอยู่ที่บ้านย่าของสามี ใจหนึ่งเธอก็สงสารตฤณอีกใจก็ไม่อยากต้องไปอดทนกับคำพูดที่แสนดูถูกแบบนั้น “พี่ ถ้าดาวไม่ไปพี่จะไปอยู่ที่บ้านพ่อพี่ไหม” เสียงถามของภรรยาทำให้ชายหนุ่มที่รู้สึกอึดอัดมาตั้งนาน รีบเดินจากหน้าบ้านและไปนั่งข้าง ๆ ภรรยาทันที มือหนาที่หยาบกร้านเพราะทำงานหนักมาตลอดจับมือเล็กที่หั่นหมูมาวางไว้ที่ขาของเขา “ก่อนหน้านี้เราก็อยู่กันได้ ลำบากกว่านี้เราก็ผ่านมาแล้ว คงไม่มีที่ไหนมีความสุขถ้าที่นั่นไม่มีเมียพี่” ดุจดาวส่งยิ้มพร้อมน้ำตาให้สามี เธอคิดว่าเขาจะเลือก
ตอนที่ 5สองล้าน เช้านี้รถหรูคันเดิมขับมาจอดหน้าร้านแต่วันนี้มาเร็วกว่า เมื่อวาน ชุลีก้าวลงจากรถด้วยเสื้อผ้าที่ธรรมดาแต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ราคาถูก พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนแบบแม่ค้ามาด้วย “ไม่ได้ขายอะไรมานาน เดี๋ยววันนี้จะมาช่วยขายนะจะได้ ไว ๆ ลูกค้ารอกันนาน ต้องไปทำงานกันอีก” ดุจดาวทำหน้าที่คิดเงิน เพราะย่าสามีตักแกงใสถุงได้เก่งมาก ตักไว้รอพอลูกค้าสั่งดุจดาวก็หยิบใส่ถุงได้เลย วันนี้ลูกค้าจึงไม่ต้องยืนรอกันนาน “ขายหมดเลย ดีนะยังเหลือน้ำพริกเผาให้ฉันกลับไปกินบ้านตั้งถุงหนึ่ง ทำเองหรือรับเขามา” ชุลีลากเก้าอี้มานั่ง เพราะอายุที่มากและไม่ค่อยได้ยืนนานเธอเริ่มปวดเข่า “ทำเองค่ะ ยังมีที่บ้านอีก ตำครั้งหนึ่งก็จะขายสองวัน พอหมดก็เปลี่ยนเป็นน้ำพริกกะปิกับน้ำพริกตาแดงค่ะ” “น้ำพริกตาแดงกินกับปลาดุกย่างอร่อย” คนสูงอายุเสนอความคิดเห็นเพราะเธอจะเห็นสองอย่างนี้ขายคู่กันบ่อย ๆ “ใช่ค่ะ ถ้าวันไหนทำน้ำพริกตาแดงเมียเพื่อนพี่ตฤณจะมานั่งย่างปลาดุกขายข้าง ๆ ค่ะ” “แกงส้มอร่อยมากเลยนะ ไปได้ฝ
ตอนที่ 6ความเปลี่ยนแปลง 3 เดือนผ่านไป ร้านขายเข้าแกงข้าวแกงของดุจดาวสร้างเสร็จแล้ว ชุลีลงมาดูแลเอง ส่วนตฤณก็ลาออกจากยามไปช่วยงานที่โรงสีและเขาก็สามารถเรียนรู้มันได้ดี “จะแยกกันอยู่แบบนี้มันจะดีเหรอ” ชุลีถามหลานสะใภ้เพราะตอนนี้ดุจดาวยังคงอยู่บ้านหลังเดิม ร้านยังไม่มีคนทำกับข้าวได้ตามสูตรหลายอย่างหญิงสาวยังต้องทำเอง และอยากให้ลูกค้าเดิมมั่นใจว่าคือรสชาติเดิมที่เคยกินกันมา “ดาวอยู่ได้ค่ะ พี่ตฤณต้องทำงาที่โรงสีและไหนจะที่ตลาดอีกไม่อยากให้ต้องไปกลับมานอนบ้านนี้มันไกลจะเพลียเปล่า ๆ ไว้วันไหนว่างก็มาหากันได้ตลอด” ชุลีในฐานะผู้ใหญ่ที่ผ่านการมีชีวิตครอบครัวมาแล้ว เขารู้ว่าการที่สามีภรรยาแยกกันอยู่มันไม่ดีแต่ก็เคารพการตัดสินใจของ ดุจดาว “เพื่อนเธอสอนทำไปได้กี่เมนูแล้วหล่ะ จะได้ช่วยกัน เธอก็จะได้ว่างนั่งเป็นเถ้าแก่กับเขาบ้าง” รำพึงภรรยาของเพื่อนตฤณที่เป็นยามด้วยกัน เธอเคยมา ย่างปลาดุกขายเวลาที่ดุจดาวทำน้ำพริกตาแดง ตอนนี้หญิงสาวอยากให้เพื่อนมีรายได้จึงเอามาเป็นหัวหน้าแม่ครัว และจะเป็นคนเดียวที่ได้สูตรจากดุจดาว
ตอนที่ 7เผลอตัวเผลอใจ ชุลีเธอถือว่าเธอได้เตือนหลานชายไปหมดแล้ว ก็อยู่ที่เขาจะตัดสินในเลือกว่าจะเอาอย่างไรกับความรักของเขาต่อไป หญิงในวัยชราเธอผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งและเธอก็ไม่อยากผิดซ้ำ เธอหวังเพิ่งตระการลูกชายไม่ได้เลย เขาไม่มี ความหนักแน่นไม่สามารถที่จะสั่งสอนลูกได้ ขนาดเรื่องที่ตามหาตฤณถ้าไม่ได้คนเป็นย่าไม่มีทางเจอกันแน่ๆ ตฤณตั้งใจจะห่างจากเจนตามคำขู่ของคนเป็นย่าแต่เหมือนเขายิ่งพยายามห่างเธอเท่าไหร่ เธอกลับทำให้เขายิ่งใกล้ชิดเธอมากขึ้น “วันนี้พี่ไม่ได้ไปกินข้าวเย็นด้วยนะว่าจะไปหาดุจดาว ไม่ได้ไปหาเธอนานมาก” “ได้ค
ตอนที่ 8เลือก “คุณย่าพาดุจดาวมาที่นี่ทำไมคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ เมื่อถูกย่าสามีพาเธอมาที่ร้านอาหารที่ดูไฮโซในโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ ชุลียังไม่ทันจะตอบตฤณกับเจนจิราก็เดินเข้ามาในร้าน ชายหนุ่มดึงเก้าอี้ออกเพื่อให้หญิงสาวนั่ง ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปนั่งในฟังตรงข้ามแทน “คุณย่า...” ดุจดาวไม่รู้ว่าส่งที่เธอเห็นหมายความว่าอย่างไร ย่าของสามีพาเธอมาที่นี่เพื่อให้เธอรับรู้ว่าสามีของเธอไม่ได้ไปพบช่างตามที่บอกแต่เขากลับมากินข้าวกับสาวสวยที่เธอไม่รู้จัก “ย่าบอกแล้วให้ตั้งสติ ดูไปก่อนอย่าคิดอะไร
ตอนที่ 9เริ่มต้นใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม ชุลีกลับมาส่งหลานสะใภ้ที่บ้านในเวลาเย็นพร้อมกับนัดให้เจนจิรามาเจอที่ร้านด้วย ทันทีที่ดุจดาวก้าวลงจากรถ ตฤณก็รีบเดินมากอดภรรยาไว้แน่นแต่แค่เพียงไม่กี่นาทีก็มีรถมาจอดข้าง ๆ ร้านและตฤณก็จำได้ดีว่ามันคือรถของเจนจิรา “คุณย่า...”ตฤณหันไปมองที่รถที่ขับเข้ามาจอดและหันมาเรียกชุลีเพื่อเป็นคำถามว่าย่าของเขานัดอีกฝ่ายมาใช่ไหม“ใช่ ย่าเรียกหนูเจนมา จะได้จบ ๆ ตฤณเลือกใครย่าก็จบส่วนดุจดาวย่าก็จะรับเป็นหลานบุญธรรมถ้าตฤณเลือกหนูเจน”ชายหนุ่มละสายตาจากย่าแล้วหันกลับมามองหน้าดุจดาวส่ายหัวไปมาเหมือนคนกำลังเสียสติ“ไม่เอานะดาวมันไม่ใช่อย่างที่ดาวคิด พี่ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”ดุจดาวแกะมือทั้งสองข้างออกจากตัวเขาและเธอเดินตรงไปหาเจนจิราที่กำลังลงจากรถ“เชิญด้า
ตอนที่ 10บทเรียน ตอนนี้ชุลีให้ตระการมาช่วยลูกชายดูแลเรื่องตลาด ที่จะเปิดใหม่เพื่อให้ตฤณได้มีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้น ส่วนดุจดาวชุลีก็ตัดสินใจที่จะเปิดร้านขายข้าวแกงหน้าโรงสีอีกสาขาเพื่อดึงลูกสะใภ้ให้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ ร้านสาขาเดิมรำพึงก็ดูแลแทน ชุลีขึ้นเงินเดือนให้รำพึงและยังให้โบนัสลูกน้องทุกคนตามยอดขาย ทำให้ทุกคนมองร้านนี้เป็นร้านของตัวเองด้วย รำพึงรักร้านนี้และดุจดาวมากเพราะจากอยู่ห้องเช่าตอนนี้เธอก็สามารถซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง สามีของเธอก็ไม่ต้องรับจ้างเข้าเวร ทำแค่ตามปกติและมาย่างปลาดุกขายช่วยเธอแทน “ดุจดาวทำไมเด
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร
ตอนที่ 4เยียวยาหัวใจ ค่ำคืนแรกในบ้านหลังใหม่เทียนหอมนอนในห้องนอนของตัวเองเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะไปอยู่กับพ่อเลี้ยงเต็มตัว สายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงฟ้าร้องและลมที่พัดแรงทำให้เด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อและแม่ไปนอนกอดตัวเองร้องไห้เหมือนคนที่เสียสติ เสียงฟ้าผ่าอย่างแรงและตามมาด้วยไฟดับ เทียนหอมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้องเผื่อว่าจะเจอไฟฉายแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน “เทียนหอม ฉันเองพ่อเลี้ยงเปิดประตู” ความกลัวทำให้เทียนหอมไม่ลังเลเธอรีบเปิดประตูให้พ่อเลี้ยง เสียงจากฟ้าร้องทำให้หญิงสาวโผตัวเข้ากอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น “ฉันอยู่นี่เธอไม่ต้องกลัวนะ&
ตอนที่ 3รอ..จนกว่าจะพร้อม เย็นนี้เทียนหอมได้เจอกับแม่เล็กของพ่อเลี้ยงแล้วที่ โต๊ะอาหาร ตอนแรกสาวน้อยจินตนาการว่าแม่เล็กคงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอแต่พอเจอตัวจริงจึงได้รู้ว่าแม่เล็กอายุมากแล้ว “สวัสดีค่ะแม่เล็ก” เทียนหอมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “สวัสดีจ้า ความจริงเราเคยเจอกันแล้วตอนเธอเด็ก ๆ เพราะฉันก็เป็นคนที่นี่เป็นเพื่อนกับยายของเธอด้วยแต่พอพักหลังฉันก็เก็บตัวอยู่แต่ในไร่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงไม่เคยเจอ เรียกฉันว่าแม่เล็กเหมือนพ่อเลี้ยงนั่นแหละ ฉันจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน” เทียนหอมดีใจที่เธอได้ยินแบบนี้เพราะตอนแรกที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในบ
ตอนที่ 2บ้านหลังใหม่ เทียนหอมอยู่บ้านของผู้ใหญ่แค่เพียงคืนเดียวเพราะทุกคนต่างกลัวเรื่องความปลอดภัยและกลัวว่าพวกมันจะกลับมาจัดการเทียนหอมอีก ลำไยทำหน้าที่พาเด็กสาวที่ยังคงร้องไห้ตลอดเวลาไปเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อย้ายไปอยู่ในฟาร์มของพ่อเลี้ยงดนัทธ์ “อะไรที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง เอาไปบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้เรา เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ” ลำไยจับมือเด็กสาวที่อายุห่างจากลูก ๆ ของเธอไม่มาก หัวอกของคนที่เป็นแม่รู้ดีว่านาทีที่ลออจะขาดใจความห่วงลูกมีมากแค่ไหนแล้วทั้งสองคนคงไปไม่สบายถ้าเทียนหอมไม่ยอมเลิกเสียใจแบบนี้ คราบเลือดที่ยังติดอยู่ที่พื้นกระดานของบ้าน กับข้าวที่แม่และพ่อของเธอกำลังเตรียมไว้