ความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
View More“ไอ้น่าน ทำไมทุกครั้งที่ลูกค้าคนนี้โทรมามึงจะต้องให้กูเป็นคนรับสายด้วยว่ะ ทั้งที่บ้านหลังนั้นมึงเป็นคนออกแบบและส่งแบบให้เขา” กษิดิศถามน่านนทีเพื่อนที่ร่วมหุ้นกับเขาเปิดบริษัทรับรีโนเวทและออกแบบบ้านด้วยความไม่เข้าใจ
ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าชาวไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ วันนี้หญิงสาวอยากจะรีโนเวทบ้านหลังเก่าก็เลยติดต่อมาที่บริษัทซึ่งน่านนทีเป็นคนออกแบบและควบคุมทุกขั้นตอนของการรีโนเวทอย่างใกล้ชิด แต่ชายหนุ่มไม่ยอมคุยกับลูกค้าคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวทำให้เขารู้สึกสงสัยในตัวเพื่อนมากๆ
“กูก็แค่ไม่อยากคุยแค่นั้นไม่มีอะไรหรอก”
“แต่กูว่ามันแปลกนะหรือมึงเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน กูเดาว่าเธอคือผู้หญิงมึงคบตอนอยู่ม.6 ใช่ไหม”
“มึงจะรู้มากเกินไปแล้วนะไอ้บาส”
“นั่นไงกูนึกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นผู้หญิงคนที่มึงยังไม่เคยลืม แล้วทีนี้จะเอายังไงล่ะอาทิตย์หน้าเธอก็จะกลับมาแล้วนะยังไงก็ต้องได้เจอกัน”
“กลับมาแล้วยังไงล่ะกูกับเธอก็คงไม่เจอกันอยู่ดี เรื่องบ้านกูฝากมึงจัดการด้วยแล้วกันนะบาส”
“ได้ยังไงกูไม่อยากรับความดีความชอบในสิ่งที่กูไม่ได้ทำหรอกนะ บ้านหลังนี้มันเป็นฝีมือมึงทั้งหมด ยังไงวันส่งมอบงานก็คงต้องไปเจอเธอ”
“กูไม่อยากเจอ”
“มึงกลัวอะไรน่าน”
“กูไม่ได้กลัวอะไรหรอก”
“แต่หน้าตามึงไม่ได้บอกแบบนั้นเลย มึงยังรักเธออยู่ใช่ไหม”
“อืม” น่านนทียอมรับอย่างไม่อายเพราะผู้หญิงคนนี้คือรักแรกของเขาในขณะที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
และไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีน่านนทีก็ไม่เคยลืมรักแรกได้เลยแม้จะมีแฟนมาหลายคนแต่ก็ไม่มีคนไหนที่ทำให้เขารักมากเท่ากับเธอเลยสักคน
“ถ้างั้นก็ยิ่งดีสิ มึงจะได้สานสัมพันธ์กับเธอต่อ ตอนนี้ก็โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วน่าจะคุยกันง่ายขึ้น”
“กูก็อยากทำแบบนั้น”
“แล้วทำไมมึงถึงไม่คุยกับเธอล่ะ เท่าที่กูได้คุยกับคุณอีฟเธอก็เป็นคนน่ารักอัธยาศัยดีและดูเหมือนจะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากๆ ด้วย กูไม่รู้ว่าในอดีตมึงกับเขาเลิกกันยังไงแต่ไม่ในเมื่อมีโอกาสกลับมาเจอกันก็น่าจะคุยกันให้เข้าใจดีกว่านะ”
“กูก็อยากทำแบบนั้นนะบาส แต่เท่าที่รู้มาอีฟเขาแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วว่ะ” น่านนทีพูดด้วยเสียงที่ฟังดูผิดหวัง ในวันที่เธออีเมลติดต่อมาที่บริษัทว่าอยากจะรีโนเวทบ้าน เขาดีใจมากแต่ก็ต้องเศร้าเมื่อเพื่อนที่อเมริกาบอกว่าตอนนี้อรณิชาแต่งงานไปแล้ว
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะมึงถึงไม่อยากคุยกับเธอ”
“อือ กูไม่รู้คุยแล้วจะได้อะไรขึ้นมาเผลอๆ จะเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม”
“แล้วมึงกับเขาเลิกกันยังไงวะ กูจำเหตุการณ์ไม่ได้ว่ะโทษทีนะเพื่อน ช่วงนั้นกูเอาแต่เล่นบาสหนักไปหน่อย”
“กูกับอีฟไม่เคยบอกเลิกกันแต่จู่ๆ อีฟก็หายไปกูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“แล้วตอนนั้นมึงได้ไปถามใครหรือเปล่า”
“กูจะถามใครล่ะช่วงนั้นมันช่วงปิดเทอมแล้วทุกคนก็ต้องเข้ามหาลัยเพื่อนสนิทของอีฟก็ย้ายไปเรียนที่อื่นกันหมด ตอนนี้กูก็ยังงงอยู่เลยว่ากูทำอะไรผิดทำไมอีฟถึงทิ้งกูไปแบบนั้น”
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อล่ะถ้าเกิดเธอกลับมาและอยากจะเจอมึงล่ะ”
“มึงก็ไปแทนกูสิ แค่รับมอบงานใครก็ทำได้” ใจจริงน่านนทีก็อยากเจอกับอรณิชาแต่ก็กลัวว่าการเจอกันอีกครั้งมันจะตอกย้ำให้เขาเจ็บมากขึ้น
“แต่กูว่ามึงควรจะออกไปเจอเธอนะคุยกันให้เข้าใจถามกันให้เคลียร์จะได้ไม่รู้สึกติดค้าง แล้วมึงก็จะได้เปิดใจรับผู้หญิงคนใหม่สักทีไม่ใช่คบไปเรื่อยสองสามเดือนก็เลิก ตอนนี้กูจำชื่อแฟนมึงแต่ละคนไม่ได้เลย”
“อย่าว่าแต่มึงเลยบางทีกูก็ลืมเรียกชื่อผิดก็เคยมีมาแล้ว”
“มึงนี่มันชั่วใช้ได้เลยว่ะ”
“เป็นคนดีแล้วยังไงล่ะ เป็นคนชั่วแบบกูใช้ชีวิตสนุกไม่ต้องซีเรียสกับอะไรมาก”
“เออตอนนี้มึงยังรู้สึกสนุกถ้ามึงอายุมากกว่านี้มึงจะสนุกไม่ออก”
“มึงอย่าพูดดีเลยไอ้บาสมึงกับกูก็อายุเท่ากันว่าแต่มึงเถอะจริงจังแล้วใช่ไหมผู้หญิงที่คบ”
“จริงจังสิคุณครูเขาน่ารักแบบนี้กูจะมองคนอื่นได้ยังไง”
“กูก็ขออวยพรให้มึงกับครูหนูนารักกันไปแบบนี้ตลอดนะ อย่าทำให้ครูเขาเสียใจล่ะ” น่านนทีพูดถึงครูวิยดาหรือครูหนูนาที่กษิดิศคบอยู่
“ถ้ามึงเคลียร์กับคุณอีฟได้แล้วกูว่าจะติดต่อเพื่อนของหนูนาให้เอาไหม เพื่อนครูที่โรงเรียนหนูนามีโสดอยู่หลายคนแต่ละคนก็น่ารักทั้งนั้น”
“ไม่ล่ะกูกลัวเลิกกันแล้วจะทำให้มึงกับแฟนมีปัญหา”
“มึงยังไม่ได้ลองคบเลย อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเลิกกันสิ”
“มึงก็รู้ว่ากูคบใครได้ไม่นานหรอก นิสัยอย่างกูจะมีผู้หญิงที่ไหนเขาจริงจังด้วยล่ะ”
“มึงไม่จริงจังกับเขาเองมากกว่าและกูก็พอจะเดาออกแล้วว่าทำไมคบใครก็เลิกเพราะมึงยังฝังใจเรื่องอีฟอยู่ใช่ไหม” กษิดิศพอจะเดาความรู้สึกของเพื่อนออก
“กูยอมรับกูยังฝังใจอยู่”
“เขากลับมาครั้งนี้มึงก็เคลียร์เลยจะได้จบๆ ตอนนี้มึงกับเขาไม่ใช่เด็กแล้วกูว่าน่าจะคุยกันเข้าใจมากขึ้น” กษิดิศบอกเพื่อนด้วยเสียงเข้มเพราะไม่อยากจะเห็นน่านนทีเป็นแบบนี้ต่อไปที่ผ่านมาเพื่อนของเขาคบผู้หญิงมาก็หลายคนแต่ไม่เคยคิดจริงจังกับใครชายหนุ่มเดาว่าน่าจะเป็นเพราะยังฝังใจกับรักแรกอยู่ก็เป็นได้
พรุ่งนี้ก็จะครบหนึ่งปีตามที่น่านนทีในสัญญาไว้กับกษิดิศแล้ววันนี้ชายหนุ่มเลยเข้ามาที่บ้านของอรณิชาอีกครั้งในเวลาค่ำเขาคิดว่าคืนนี้จะนอนค้างที่นี่หนึ่งคืนจากนั้นก็จะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเขาจะตัดใจเพราะคิดแล้วว่ายื้อต่อไปหรือรอต่อไปหญิงสาวก็คงไม่มีทางกลับมาหาชายหนุ่มถึงบ้านในเวลาหกโมงเย็นแต่เขายังไม่เปิดประตูเข้าไป ในบ้านเพราะคิดว่าจะรดน้ำต้นไม้บริเวณรอบๆ ก่อนที่มันจะมืดไปกว่านี้ใช้เวลารดน้ำต้นไม้ไม่นานก็เรียบร้อยน่านนทีเปิดประตูเข้าไปด้านในและใช้ห้องน้ำเล็กอาบน้ำก่อนจะมานอนอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะมานอนค้างที่นี่ปกติแล้วก็จะมานอนบนโซฟาอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่อรณิชากลับไปเพราะเขาคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาวในบ้านหลังนี้เนื่องจากทำงานหนักมาตลอดทั้งอาทิตย์ พอนอนไปสักพักน่านนทีก็เลยหลับลงด้วยความเหนื่อยแล้วน่านนทีก็รู้สึกตัวตื่นอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูชายหนุ่มลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อเห็นแสงไฟออกมาจากห้องนอนของอรณิชา เขาไม่รู้ว่านี่เป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสติและเพ่งมองไปรอบๆ บ้า
ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากอรณิชากลับไปอเมริกา ตั้งแต่นั้นน่านนทีไม่ได้ข่าวคราวของเธออีกเลย แต่เขาก็เข้าไปที่บ้านของหญิงสาวอาทิตย์ละครั้งเพื่อเข้าไปทำความสะอาดบ้านรดน้ำต้นไม้และดูแลความเรียบร้อยต่างๆ แม้ว่าอรณิชาจะไม่ได้สั่งไว้แต่เขาก็อยากทำให้บ้านมันน่าอยู่เผื่อวันในวันหนึ่งเธอกลับมาแล้วจะได้มีความสุขกับบ้านที่เขาตั้งใจดูแลให้เธอเป็นอย่างดีน่านนทีอยากจะโทรศัพท์ไปคุยกับเธออยากจะถามว่าเธอสบายดีไหมแต่ชายหนุ่มก็ไม่กล้าเพราะกลัวหญิงสาวจะโกรธ แต่ถ้าจะส่งข้อความหรือไลน์ไปก็รู้สึกเกรงใจ เขากลัวว่าการติดต่อไปของตนเองจะทำให้หญิงสาวมีปัญหากับสามี น่านนทีจึงได้แค่เฝ้ารอคอยให้เธอติดต่อมา แต่ก็ไม่มีวี่แววคงเธอเลยสักนิดชายหนุ่มคิดว่าตอนนี้อรณิชาแล้วจะลืมเรื่องระหว่างเธอกับเขาไปหมดแล้วแต่สำหรับเขามันทำใจให้ลืมเรื่องราวเรานั้นไม่ได้เลยสักนิดเขาคิดถึงใบหน้าหวานเวลาส่งยิ้มมาให้มันก็ทำให้เขาลืมเธอไม่ลงวันนี้น่านนทีมาทานข้าวกับลูกค้าที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากท่านเสร็จแล้วก็เดินมาที่ลานจอดรถชายหนุ่มดีใจมากเมื่อบังเอิญเห็นกิ่งกาญจน์กำลังเดินมาพอดี“สวัสดีครับกิ่ง”“สวัสดีน่าน มากินข้าวที่นี่เหมือนกันเหร
หญิงสาวมองหน้าบิดามารดาสลับกันไปมาก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่ตนเองแอบไปมีความสัมพันธ์กับน่านนทีที่เมืองไทยด้วยความรู้สึกผิดคุณอลิษามองหน้าลูกสาวแล้วถอนหายใจอย่างหนักเพราะไม่คิดว่าลูกสาวคนเดียวของเธอจะทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ เธออยากต่อว่าลูกสาวที่ทำตัวไร้ค่ามากแต่พอนึกถึงเรื่องที่อรณิชาเพิ่งเจอมาในวันนี้ก็เปลี่ยนใจเพราะฟังดูแล้วทั้งอรณิชาและอเล็กซ์ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ เธอไม่ได้เข้าข้างลูกสาวจนเกินไปแต่เรื่องที่อรณิชานอกใจอเล็กซ์มันเกิดขึ้นไม่นานผิดกับอเล็กซ์ที่ทำเรื่องแบบนั้นมานานถึงหนึ่งปีครึ่ง“แม่คะหนูรู้ว่าสิ่งที่หนูทำมันผิดต่อเล็กมากๆ แต่หนูก็ยอมรับอย่างไม่อายเลยค่ะว่าช่วงเวลาที่หนูใช้ชีวิตอยู่กับเขาที่เมืองไทยมันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ” อรณิชาสารภาพทุกอย่างออกมาเพราะถ้าทนเก็บไว้คนเดียวก็คงจะอึดอัดมาก“ที่หนูบอกว่ากลับมาจะหย่ากับอเล็กซ์เพราะหนูคิดว่าจะกลับใช้ชีวิตกับเขาที่นั่นเหรอลูก”“เปล่าค่ะแม่หนูบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องรอหนู ให้เขาเดินหน้าใช้ชีวิตของเขาต่อไปและมองหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขา”“อ้าว ในเมื่อหนูบอกว่าหนูรักเขาแล้วเขารักหนูทำไมหนูถึงไม่คิดจะกลับไปหาเขาล่ะ แม่ไม่ว่าอ
อรณิชาเช็ดน้ำตาออกจนแห้งสนิทก่อนจะเดินเข้าไปทางด้านหลังร้านอาหารไทยซึ่งตอนนี้พนักงานกำลังทยอยกันกลับบ้านหญิงสาวกล่าวทักทายกับทุกคนและยิ้มให้เล็กน้อย เธอรอจนกระทั่งทุกคนกลับไปหมดก็เดินเข้าไปหาบิดามารดาที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน“พ่อคะแม่คะหนูกลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวโผกอดบิดามารดาพร้อมทั้งสะอื้นเล็กๆ ทำให้มารดาของเธอรู้สึกแปลกใจมาก“อีฟหนูเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้แบบนี้ล่ะลูก”“หนูคิดถึงพ่อกับแม่นี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งเดือน”“แต่แม่ว่ามันผิดปกติมากๆ นะหนูไม่เคยร้องไห้เพราะคิดถึงแม่แบบนี้มาก่อนเลยนะลูก หนูเป็นอะไรหรือเปล่า”“หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะก็แค่คิดถึงพ่อกับแม่จริงๆ ค่ะ”“แต่แม่ว่าไม่น่าจะใช่นะลูก”“หนูไปเมืองไทยนานตั้งหนึ่งเดือนก็เลยคิดถึงมากกว่าทุกครั้ง แล้วพ่อกับแม่คิดถึงหนูมั้ยคะ”“คิดถึงสิแต่แม่ว่าหนูนั่นแหละไม่เคยคิดถึงพ่อแม่เลย ตั้งแต่ไปเมืองไม่ค่อยโทรหาแม่มัวแต่เที่ยวจนสนุกเลยใช่ไหม”“หนูยอมรับเลยค่ะแม่ว่ากันกลับไปเมืองไทยครั้งนี้หนูมีความสุขมากๆ จนแทบจะไม่อยากกลับมาที่นี่อีกเลย” หญิงสาวพูดด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อนึกถึงความสุขที่ตัวเองมีร่วมกับน่านนทีตอนที่อยู่เมือง
บรรยากาศในห้องรับแขกเงียบสนิทเพราะอเล็กซ์ไม่ยอมพูดอะไรส่วนอรณิชาก็จ้องหน้าเขาด้วยความโกรธเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่เคยได้ยินในร้านซักผ้าตอนอยู่เมืองไทยจะเกิดขึ้นกับตนเอง“ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไงรีน่าจะเป็นคนเล่าให้คุณอีฟฟังเองก็ได้ค่ะ ว่าแต่คุณพร้อมที่จะฟังจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ” มารีน่าคิดว่าถ้าหากอเล็กซ์ยังเอาแต่นั่งเงียบแบบนี้เรื่องก็คงไม่จบง่ายๆ และคนที่เสียหายจะต้องเป็นตัวเองที่ท้องเริ่มโตมากขึ้นทุกวัน“อีฟก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”แล้วมารีน่าก็เล่าเรื่องของตนเองกับอเล็กซ์ให้อรณิชาฟังอย่างละเอียดว่าเริ่มคบกันตั้งแต่ตอนไหนและใช้ชีวิตอยู่กันยังไงในเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องที่ตอนนี้เธอกำลังท้องและก่อนหน้าที่อรณิชาจะกลับมาอเล็กซ์ได้สัญญาว่าจะหย่ากับอรณิชาและจะมาสร้างครอบครัวกับมารีน่า“เป็นอย่างที่คุณรีน่าพูดใช่ไหมอเล็กซ์” อรณิชาหันไปถามชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งเงียบอเล็กซ์พยักหน้าแต่ไม่กล้าสบตากับอรณิชาเพราะตอนนี้เขาเองรู้สึกผิดมากๆ ที่นอกใจภรรยาหลังจากแต่งงานได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น“ทำไมคุณไม่พูดกับฉันตรงๆ ล่ะคะอเล็กซ์ ทำไมคุณไม่บอกฉันว่าคุณหมดรักฉันแ
อรณิชามาถึงสนามบินในเวลาบ่าย เมื่อรับกระเป๋าก็รีบเปลี่ยนซิมโทรศัพท์จากนั้นก็ไลน์ไปบอกน่านนทีและกิ่งกาญจน์ว่าเธอมาถึงอเมริกาอย่างปลอดภัยแล้วจากนั้นหญิงสาวก็เรียกรถให้ไปส่งที่บ้านและอดแปลกใจไม่ได้ว่าที่เห็นรถยนต์ของอเล็กซ์จอดอยู่ในบ้านซึ่งปกติเวลานี้ชายหนุ่มน่าจะอยู่ที่บริษัทมากกว่า หญิงสาวบอกเขาแล้วบอกเขาว่าเธอจะมาถึงวันพรุ่งนี้เพราะจำวันที่ผิด แต่ก็รู้สึกดีใจที่กลับมาแล้วเจอเขาอยู่ที่บ้านเธอหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโหมดวิดีโอเพื่อจะถ่ายสีหน้าของเขาเมื่อเห็นเธอมาถึงบ้านก่อนเวลา เธอเปิดประตูพร้อมกับลากกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาในบ้านแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ในห้องรับแขกมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดมีทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงผู้ชาย หญิงสาวตัวชาหน้าซีดและก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องรับแขกเธอยังคงถือกล้องถ่ายไว้ขณะที่เดินเข้ามาใกล้ห้องนอนของตนเองจนได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ด้านใน เธอจำเสียงนั้นได้เป็นอย่างดีเพราะมันเป็นเสียงของอเล็กซ์ส่วนอีกเสียงนั้นเธอไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกคุ้นเหมือนเคยได้ยินที่ไหนใจหนึ่งอยากจะหนีออกไปจากที่นี่เพราะไม่อยากรับรู้ว่าภายในห้องนอนนั้นเ
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาชายหนุ่มรูปร่างสูงดูภูมิฐานเดินประคองคนรักออกมาจากห้องตรวจแผนกสูตินรีเวชและพาเธอมานั่งรอที่เก้าอี้ทางด้านหน้าโรงพยาบาลก่อนที่เขาจะลงไปที่ลานจอดรถและขับมารับหญิงสาว“หมอบอกว่าลูกของเราแข็งแรงดีคุณดีใจไหมคะอเล็กซ์”“ดีใจสิรีน่าผมทั้งดีใจและตื่นเต้นที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว”“คุณอยากได้ถูกผู้หญิงหรือผู้ชายคะอเล็กซ์”“ไม่ว่าจะเพศไหนก็ได้หมดเพราะเด็กที่จะเกิดมาเป็นลูกคุณกับผม แล้วคุณล่ะรีน่าอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย”“รีน่าก็คิดเหมือนคุณค่ะอเล็กซ์ ขอแค่ลูกเกิดมาแล้วแข็งแรงก็ดีใจมากแล้วค่ะเพราะยังไงก็คือลูกของเรา รีน่าก็จะรักและเลี้ยงดูเขาอย่างดีค่ะ”“ผมจะดูช่วยคุณเลี้ยงลูกนะรีน่า”“แต่คุณยังไม่หย่ากับเมียคุณเลยนะอเล็กซ์ คุณจะมาดูแลรีน่าได้ยังไง”“ตอนนี้อีฟเขากลับไปเมืองไทยน่ะ ถ้าเขากลับมาครั้งนี้ผมคิดว่าจะต้องบอกเรื่องของเราให้เขารู้”“แล้วคุณอีฟเขาจะไม่โกรธและจะไม่ตามมาเอาเรื่องรีน่าที่บริษัทใช่ไหมคะ” มารีน่ากลัวว่าถ้าภรรยาของอเล็กซ์ตามมาเอาเรื่องตนเองจะอายเพื่อนในบริษัท“ไม่หรอกเธอเป็นคนบอกผมเองว่าให้ผมตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ ที่ผ่านมาผมโกหกเธอมาต
น่านนทีรู้ว่าหญิงสาวแสดงทุกอย่างออกมาตามสัญชาตญาณไม่ได้มีการเสแสร้งอะไรเลยเสร็จก็บอกว่าเสร็จเสียวก็บอกว่าเสียวมันทำให้เขารู้สึกหลงใหลกับทุกอย่างที่เป็นเธอและไม่อยากจะให้หญิงสาวกลับไปอเมริกาเลยสักนิดแต่ในเมื่ออรณิชาตัดสินใจแล้วเขาก็ยินดีจะปล่อยเธอไปแต่ก่อนไปก็อยากจะมอบความสุขให้เธอและตัวเองอย่างเต็มที่ก่อน เมื่อคิดถึงอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร เขาก็สวนสะโพกเข้าหาเธออยากบ้าคลั่ง ชายหนุ่มอยากจะให้เธอจำไว้ว่าครั้งหนึ่งเขาและเธอเคยมีความสุขร่วมกันมากมายแค่ไหน“อื้อ.....แรงไปแล้วนะน่าน”“แรงแล้ว ดีไหมชอบหรือเปล่าชอบให้กระแทกไหม”“ชอบแต่ค่ะ แต่ไม่ไหวมันจะเสร็จแล้ว ใกล้จะเสร็จแล้ว”“เสร็จก็ปล่อยออกมาเลยอีฟร้องออกมาดังๆ เรียกชื่อผมนะที่รัก”น่านนทีออกคำสั่งด้วยเสียงแหบพร่าร่องรักที่ตอดรัดเขาในตอนนี้มันทั้งแรงและถี่รัวมากกว่าครั้งไหน“น่านขา......อ้า....น่าน”หญิงสาวกรีดร้องด้วยความสุขสมอีกครั้งร่างกายสั่นสะท้านจนทรงตัวแทบไม่อยู่ ขาเรียวสั่นระริกชายหนุ่มประคองเธอไว้ในอ้อมแขนจูบซับบริเวณต้นคอของหญิงสาวเมื่อรู้สึกถึงแรงตอดรับที่เริ่มคลายตัวลงเขาก็จับหญิงสาวหันหน้ามาหาแล้วรีบพาเธอไปวางลงบนเตียงอ
น่านนทีจอดรถที่หน้าดูบ้านก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเขายังมีกุญแจรั้วรวมถึงรหัสเข้าบ้านของหญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องกดออดให้อรณิชาออกมาเปิดชายหนุ่มถือวิสาสะเปิดประตูบ้านเข้าไป ตอนนี้บริเวณห้องรับแขกไฟมืดสนิทเหลือแค่ไฟบริเวณห้องนอนของหญิงสาวเท่านั้นเขาแง้มประตูห้องนอนเปิดเข้าไปก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแต่ได้ยินเสียงหญิงสาวกำลังอาบน้ำอยู่ น่านนทีกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วเดินเข้าไปหาเธอในห้องน้ำเพราะไม่อาจทนนั่งรอให้เธอออกมานอกห้องได้เลย ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กันที่โรงแรมในคืนนั้นเขากับเธอก็ยังไม่ได้นอนด้วยกันอีกเลยและในเมื่อมันเป็นคืนสุดท้ายเขาก็ไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะมอบความสุขให้กับคนที่เขารักชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปแล้วยืนกอดอกมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวตอนนี้ฟองสบู่ปกปิดเรือนร่างของเธอไว้แต่เมื่ออรณิชาเปิดฝักบัวสายน้ำก็ชำระฟองสบู่ออกจนร่างขาวเนียนที่เขาหลงใหลปรากฏต่อสายตาหญิงสาวล้างฟองสบู่ออกจนหมดก่อนจะปิดฝักบัวแล้วหมุนตัวกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้น่านนทียืนกอดอกพิงผนังห้องน้ำอยู่อีกด้านหนึ่ง“น่าน....” อรณิชารีบเอามือปิดร่างกายเป็นพัลวัน น่านนทีมองแล้วหัว
Comments