วันนี้อรณิชาอยากโทรศัพท์ไปยกเลิกนัดกับน่านนทีแต่ถ้าเธอทำแบบนั้นก็กลัวว่าเขาจะหาว่าเธอกลัวที่จะเจอกับเขา หญิงสาวเลยจำต้องออกไปซื้อผ้าม่านกับชายหนุ่มตามที่นัดกันไว้
บรรยากาศระหว่างเธอกับน่านนทีวันนี้ค่อนข้างเงียบต่างฝ่ายต่างพูดให้น้อยที่สุดจะยกเว้นก็แต่ตอนที่เขาคุยกับร้านขายผ้าม่านว่า อยากได้ผ้าม่านแบบไหนรวมถึงการนัดเวลาให้พนักงานเข้ามาติดตั้งผ้าม่าน พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้วน่านนทีก็มาส่งอรณิชาที่บ้านโดยไม่ลงจากรถ
“ผมไปก่อนนะถ้าพรุ่งนี้ถ้าเขามาติดผ้าม่านโทรตามผมด้วย”
“แต่วันนี้คุยกับทางร้านโอเคแล้วอีฟคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ คุณไม่ต้องมาก็ได้” อรณิชาบอกเขาด้วยความเกรงใจ ตอนนี้หญิงสาวอยากจะอยู่ห่างกับเขาให้มากที่สุดเพราะคิดว่าการเจอกับเขาทุกวันคงไม่ดีเท่าไหร่สำหรับคนที่แต่งงานแล้วอย่างเธอ
“ที่คุณไม่อยากให้ผมมาเพราะไม่อยากจะเจอผมใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ฉันจะทำแบบนั้นแต่ที่ฉันไม่อยากให้คุณมาเพราะพรุ่งนี้มันเป็นวันจันทร์และกลัวว่าจะรบกวนเวลาทำงานของคุณ”
“ไม่เป็นไรหรอกการมาดูแลความเรียบร้อยบ้านลูกค้าก็ถือเป็นงานอย่างหนึ่งของผมนะ พรุ่งนี้ถ้าเขามาถึงก็รีบโทรบอก”
“บริษัทคุณอยู่แถวนี้เหรอคะ”
“บริษัทผมอยู่ห่างจากนี่ไม่ไกลหรอกถ้าขับรถก็ประมาณสิบนาทีเอง”
“ก็ได้ค่ะถ้าพรุ่งนี้พวกเขามาถึงแล้วอีฟจะโทรตามคุณ ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้”
“ไม่เป็นไรคุณรีบเข้าบ้านไปเถอะ”
ชายหนุ่มรอจนหญิงสาวเดินเข้าไปในตัวบ้านจากนั้นก็ขับรถออกไป
น่านนทีอยากอยู่ห่างจากเธอให้มากที่สุดเพราะยิ่งอยู่ใกล้เขาก็ อดคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้แต่ครั้นจะไม่มาช่วยดูก็รู้สึกเป็นห่วงเนื่องจากพนักงานที่เข้ามาติดตั้งผ้าม่านจะเป็นผู้ชายทั้งหมดและเขาก็อยากมาช่วยหญิงสาวสำรวจความเรียบร้อยด้วย น่านนทีคิดว่าบางทีพรุ่งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาและเธอจะได้เจอกันชายหนุ่มหวังว่าจากนี้ไปเขาจะทำใจและจะลืมเธอได้ในที่สุด
อรณิชาเดินเข้ามาในบ้านแล้วทรุดตัวลงนั่งลงบนโซฟาวันนี้เธอเหนื่อยกับการไปเดินเลือกผ้าม่านมากๆ กว่าจะได้สีและแบบที่ถูกใจก็ผ่านไปถึงสามร้านแต่มันก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยเนื่องจากผ้าม่านร้านสุดท้ายที่น่านนทีพาเธอไปดูนั้นสวยถูกใจอีกทั้งราคาก็ดีมากๆอีกด้วย
หญิงสาวนึกขอบคุณชายหนุ่มอยู่ในใจและคิดว่าถ้าเรื่องบ้านเธอเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างจะนัดน่านนทีและเพื่อนของเขามาทานข้าวด้วยกันอีกครั้ง จากนั้นก็จะไม่ติดต่อกับชายหนุ่มอีกเลย เพราะยิ่งอยู่ใกล้เขามากเท่าไหร่ความ ทรงจำในอดีตมันก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอหลงลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองนั้นแต่งงานแล้วและมันคงไม่ดีแน่ถ้าหากอเล็กซ์จะรู้เรื่องนี้
เมื่อนึกถึงสามีหญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรไปหาเขา แต่เมื่อเทียบเวลาแล้วที่อเมริกาก็น่าเป็นเวลาประมาณหกโมงเช้า ซึ่งอเล็กซ์น่าจะยังไม่ตื่นอรณิชาจึงอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวจนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หญิงสาวจะโทรศัพท์ไปหาผู้เป็นสามี
“สวัสดีค่ะ อเล็กซ์เป็นยังไงบ้าง”
“ผมสบายดี แล้วคุณล่ะคงยุ่งมากใช่ไหมถึงไม่มีเวลาโทรมาหาผมเลย”
“ขอโทษนะที่ได้แต่ส่งข้อความหาคุณ พอดีเวลาที่นี่กับที่นั่นมันต่างกันและอีฟก็กลัวว่าจะโทรไปรบกวนเวลาคุณน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วเรื่องบ้านเป็นยังไงบ้างเรียบร้อยดีไหม” เขาถามภรรยาขณะกำลังจะแต่งตัวออกไปทำงาน
“ก็อย่างที่ฉันส่งรูปให้คุณดูนั่นแหละค่ะ บ้านหลังนี้สวยและถูกใจฉันมากมันเหมือนบ้านในฝันเลยฉันอยากให้คุณมาเห็นด้วยตาของตัวเองนะคะ”
“ผมหวังว่าคงมีโอกาสได้ไปที่นั่นสักครั้งนะ”
“ถ้าคุณยังทำงานหนักอยู่แบบนี้ก็คงยากที่จะมาเที่ยวที่นี่”
“ทำไมเวลาเราคุยกันทุกครั้งคุณจะต้องบ่นเรื่องที่ผมทำงานหนักด้วยล่ะอีฟ ทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อครอบครัวของเรานะ ผมอยากมีฐานะที่มั่นคงมากกว่านี้”
“แต่อีฟว่าตอนนี้เราก็มีกินมีใช้มากพอแล้วนะคะ สิ่งที่อีฟต้องการจากคุณไม่ใช่เงินทองอะไรเลยแค่ต้องการเวลาจากคุณเท่านั้น”
“ผมรู้แต่ผมขอเวลาหน่อยได้ไหมล่ะขอเวลาผมทำงานให้เต็มที่ก่อน”
“อีกนานแค่ไหนคะอเล็กซ์กว่าคุณจะพอใจกับจำนวนเงินในบัญชีของคุณ”
อรณิชาอดไม่ได้ที่จะบ่นเขาเรื่องงาน เงินทองของเขามันก็มีมากอยู่แล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังทำงานหนักซึ่งเธอไม่เห็นถึงความจำเป็นเลยที่เขาจะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนั้น
สิ่งที่อรณิชาอยากจะได้จากสามีก็คือเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันไม่ใช่เงินทองของเขาเลยสักนิด
“ทำไมคุณต้องพูดประชดผมด้วย เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาและคิดว่าจะไปทำงานด้วยความสดชื่นมีสมาธิกับการทำงานแต่พอได้คุยกับคุณแล้วผมรู้สึกหงุดหงิดมากๆ” อเล็กซ์บ่นอย่างหัวเสีย
“อีฟต้องขอโทษด้วยนะคะที่โทรมารบกวนคุณและทำให้คุณหงุดหงิด ถ้ายังงั้นอีฟวางสายก่อน”
“ผมก็แค่อยากให้เราคุยกันดีๆ ผมอยากให้คุณเข้าใจผมบ้าง”
“อีฟเข้าใจค่ะ เข้าใจว่าคุณเห็นเงินสำคัญกว่าทุกอย่าง แต่สำหรับอีฟคำว่าครอบครัวควรมีเวลาได้อยู่ด้วยกันได้ใช้ชีวิตด้วยกันมากกว่านี้”
“ถ้าคุณอยากใช้ชีวิตด้วยกันกับผมแล้วคุณจะหนีมาเมืองไทยทำไมล่ะ”
“ถึงอีฟอยู่อเมริกาคุณก็ไม่มีเวลาให้อีฟอยู่ดี อีฟมีเวลาให้คุณคิดทบทวนอีกประมาณสามสัปดาห์นะอเล็กซ์”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่พูดถ้าอีฟกลับไปครั้งนี้เราจะคุยเรื่องอนาคตของเราอย่างจริงจัง อีฟอยากได้เวลาจากคุณมากกว่านี้ถ้าคุณคิดว่ามันยากที่จะทำ เราก็เลิกกัน แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงตัวเองและมีเวลาให้อีฟมากขึ้นอีฟก็ยินดีจะกลับไปเป็นภรรยาของคุณเหมือนเดิม” อรณิชาบอกความต้องการของตนเองออกไป
“เราสองคนจะเลิกกันด้วยเหตุผลแค่นี้เหรออีฟ”
“มันไม่ใช่เรื่องแค่นี้หรอกนะอเล็กซ์ มันคือการได้ใช้ชีวิตร่วมกัน อีฟแต่งงานกับคุณนะไม่ได้แต่งงานกับเงินของคุณ ก่อนหน้าที่เราจะแต่งงานกันทำไมคุณถึงมีเวลาให้ฉันมากมายขนาดนั้นล่ะ มันทำให้อีฟรู้สึกดีฉันหลงรักคุณ หลงรักที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน วันหยุดก็ออกไปเที่ยวด้วยกัน อีฟรักอเล็กซ์คนเดิมคนที่ยิ้มแย้ม คนที่หัวเราะไปกับอีฟในทุกๆ ที่ไม่ใช่คนที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานและไม่เคยมีเวลาให้เลย คุณอยู่ที่บริษัทมากกว่าอยู่ที่บ้านอีกอีกนะคะ คุณทิ้งให้อีฟอยู่คนเดียวมานานแค่ไหนแล้ว”
อรณิชาตัดสินใจพูดทุกอย่างที่เก็บไว้ข้างในมานาน หญิงสาวอยากให้อเล็กซ์ได้ใช้เวลาที่เหลือตัดสินใจว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ซึ่งถ้าเขาทำไม่ได้เธอก็ยินดีจะเดินจากเขาออกมาจากชีวิตของเขาเพราะคงทนไม่ได้ที่จะอยู่กับคนเย็นชาและบ้างานแบบนั้นอีกต่อไป
“ผมว่าตอนนี้คุณน่าจะพูดด้วยอารมณ์ เอาไว้คุณใจเย็นกว่านี้ก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน”
“อย่าลืมนะอเล็กซ์ทบทวนความรู้สึกของคุณดีๆ แล้วฉันจะกลับไปฟังคำตอบที่นั่น”
พูดจบอรณิชาก็กดวางสายและเอนตัวลงนอนหญิงสาวไม่รู้ว่าตนเองพลาดตรงไหน เธอทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่างแต่ผู้ชายอีกคนกลับเปลี่ยนไปเป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักเลย แต่ก่อนอเล็กซ์เป็นผู้ชายที่ร่าเริงสนุกสนานพาเธอออกไปเที่ยวไปแคมปิ้งมันทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขมากๆ แต่หลังจากแต่งงานกับเขาได้ครึ่งปีชายหนุ่มก็เริ่มเปลี่ยนไปเขาเคร่งเครียดกับการทำงานมากขึ้นใช้ชีวิตอยู่ในบริษัทมากขึ้นและบางครั้งก็ไม่กลับมานอนที่บ้าน
เมื่อได้คุยกับสามีแล้วอรณิชาก็รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก แต่เธอก็หวังว่าคำพูดที่พูดออกไปในวันนี้อเล็กซ์จะกลับเอาไปคิดและทบทวนดูว่าที่ผ่านมานั้นเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆอรณิชาอยากจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง เพราะได้สัญญาต่อหน้าบาทหลวงแล้วว่าจะรักและดูแลกันไปตลอด และเธออยากจะประคับประคองชีวิตคู่ของตนเองไปให้ได้นานที่สุด แต่ก็ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายอยากจะประคับประคองร่วมกันไปกับเธอไหมนับว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่อรณิชาตัดสินใจฝังยาคุมกำเนิดแบบสามปีมันทำให้ระหว่างนี้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะท้องเพราะถ้าหากเรื่องคุยกับอเล็กซ์เรื่องนี้ไม่รู้เรื่องการจะมีลูกด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น ขนาดยังไม่มีลูกเขายังทิ้งให้เธออยู่ตามลำพังและถ้าหากมีลูกเธอก็คงจะต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดูลูกคนเดียวซึ่งมันไม่ดีแน่กับเด็กที่จะเกิดมาและเธอเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเพราะคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถพออรณิชาพยายามคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบมากที่สุด บางทีเวลาที่อยู่ห่างกับเธออเล็กซ์เขาอาจจะคิดได้และกลับมาเป็นผู้ชายคนเดิมที่เธอเคยรัก แต่ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างนั้นอรณิชาก็คิดว่าจะเลิกกับเขาอย่างเด็ดขาดเพราะถ้ายังฝืนอย
อรณิชากลับมาอยู่เมืองไทยครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่คุยกับอเล็กซ์ครั้งสุดท้ายหญิงสาวก็ไม่ได้ติดต่อเขาไปอีกเลยเธอรู้ว่าเขางานยุ่งแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้และคิดว่าถ้าหากอเล็กซ์ยังเป็นแบบนี้อยู่เธอที่จะต้องถอยออกมาจากชีวิตคู่เพราะฝืนต่อไปก็คงไม่มีความสุขมันไม่ใช่แค่เรื่องเวลาเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่อเล็กซ์เปลี่ยนไปแต่มีบางอย่างที่มันติดค้างอยู่ในใจของอรณิชา เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมาอเล็กซ์ไม่เคยนอนกับเธอเลย ชายหนุ่มแสดงความรักกับเธอแค่กอด และหอมแก้มก่อนไปทำงาน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ สำหรับคนอายุอย่างเขาหญิงสาวไม่รู้ว่าที่อเล็กซ์ไม่มีอะไรกับเธอนานถึงหนึ่งปีเพราะเขาเบื่อเขามีปัญหาสุขภาพหรือเพราะเขามีคนอื่น เรื่องหลังสุดเป็นเรื่องที่เธอคิดอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่เคยบอกมารดาหรือเล่าให้ใครฟังเพราะถ้าหากยังไม่แน่ใจก็ไม่อยากจะไปปรักปรำเขาหญิงสาวไม่รู้ตัวเองมีข้อบกพร่องเรื่องบนเตียงตรงไหนอเล็กซ์ถึงทำเย็นชากับเธอแบบนี้ เธอพยายามแต่งตัวยั่วยวน เอาใจเขาเวลาอยู่บนเตียงอเล็กซ์ก็ไม่สนใจเธอเลยเธอเป็นผู้หญิงอยู่ในวัยเจริญพันธุ์และย่อมมีความต้องการแต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาไปใช้บริการบาร์โฮสที่มีบริการอยู่เกลื่
“เสร็จแล้วใช่ไหมคุณน่าน”“ผมตรวจดูบ้านเสร็จแล้วแต่ผมว่าคุณน่าจะยังไม่เสร็จนะ” ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวซึ่งลุกขึ้นกำลังจะเปิดประตูให้เขาออกจากห้องนอน“คุณพูดอะไรคะ”“ก็พูดความจริงไงล่ะ”“ความจริงอะไรอีฟไม่เห็นจะรู้เรื่อง อีฟว่าคุณน่านรีบกลับไปเถอะ”“ถ้าผมกลับไปอีฟจะทำอะไรต่อเหรอ”“ก็เข้านอนสิ ฝนตกหนักอากาศเย็นแบบนี้มันเหมาะกับการนอนมากที่สุด คุณไม่อยากจะรีบกลับไปนอนรึไงล่ะ เนื้อตัวคุณเปียกหมดแล้วรีบกลับไปเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย”“คนอย่างผมไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกผมแข็งแรงดี” เขาพูดเน้นคำทำให้อรณิชารู้สึกแปลกกับคำพูดของชายหนุ่ม“งานเสร็จก็น่าจะรีบกลับนะ”“ผมถามอะไรอีฟตรงๆ ได้ไหม”“ยังมีเรื่องอะไรถามอีก เราไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันส่วนตัวแล้ว”“ถ้าเป็นเรื่องบ้านมันก็จบแล้ว แต่ผมมีเรื่องจะถามเพิ่ม”“คุณจะถามอะไรก็รีบถามมาเถอะค่ะ”“ถ้าผมกลับไปแล้วคุณจะทำแบบนั้นต่อใช่ไหมล่ะ”“แบบนั้นคือแบบไหน”“ตอบผมมาสิว่าก่อนหน้าที่ผมจะมาคุณกำลังทำอะไรอยู่”“อีฟก็นอนเล่นมือถืออยู่น่ะสิ คุณถามทำไม” หญิงสาวตอบแต่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับน่านนที“แน่ใจนะว่านอนเล่นมือถืออยู่ แล้วไอ้ที่ม
เมื่อริมฝีปากร้อนบดจูบบนริมฝีปากอิ่มอีกครั้งตอนนี้สติของอรณิชาไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว หญิงสาวเปิดปากรับจูบของเขาด้วยความเต็มใจเพราะคิดว่าต่อต้านไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็มีความต้องการเป็นอย่างมากหญิงสาวได้แต่ขอโทษอเล็กซ์อยู่ในใจและคิดว่านี่จะเป็นแค่ครั้งเดียวที่เธอจะทำเรื่องแบบนี้ น่านนทีจูบจนพอใจก็ดึงชุดนอนของเธอออก ทั้งห้องสว่างจ้าทำให้เขาเห็นเรือนร่างของเธอที่มันสวยงามอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน“อีฟคุณสวยมากนะ ผัวคุณมันโง่มากๆ ที่ปล่อยให้คุณกลับมาเมืองไทย”“ถ้าอยากจะนอนกับอีฟก็เลิกพูดถึงเขาก่อนได้ไหม” อรณิชาห้ามเพราะไม่อยากจะรู้สึกผิดมากกว่านี้แต่จะให้น่านนทีหยุดร่างกายของเธอมันก็ต้องการให้เขาช่วยปลดปล่อย“ได้สิ ที่นี่มีแค่อีฟกับผม ตกลงให้ผมช่วยนะ”หญิงสาวพยักหน้าเพราะถ้าคืนนี้ไม่ได้รับการปลดปล่อยเธอก็คงจะแย่และนอนไม่หลับแน่ๆน่านนทีขบเม้นไปบนลำคอระหงจูบซับหนักเบาสลับกันจนขึ้นรอยแดงไปทั่ว ก่อนจะลากริมฝีปากร้อนมายังเนินอกอิ่ม สองมือเคล้นคลึงสองเต้าจนเต่งตึงสู้มือแล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยบนยอดถันจนมันแข็งชูชัน“สวยสู้มือและน่ากินมาก”ชายหนุ่มพูดออกมาตามความรู้สึกที่ไม
“ชอบไหมถูกใจหรือเปล่า”น่านนทีถามเมื่อเห็นว่าเธอกลับมาหายใจเป็นปกติ”“ชอบที่สุด”อรณิชาตอบออกมาอย่างไม่อายไม่ใช่เพราะไม่ได้นอนกับสามีมานานแต่เพราะเธอรู้สึกว่าน่านนทีมอบความสุขให้เธอไม่ใช่ตักตวงเอาแต่ความสุขให้กับตัวเองอย่างที่อเล็กซ์ทำกับเธอ เขาไม่เคยถามความรู้สึกหรือความต้องการเลยบางครั้งเขาก็ถึงสวรรค์ไปคนเดียวแล้วทิ้งให้เธออารมณ์ค้างอยู่แบบนั้น“ผมบอกแล้วว่าอีฟจะติดใจ ด๊อกกี้ไหมชอบหรือเปล่า”“ได้สิ”หญิงสาวตอบรับทันทีไม่ว่าคืนนี้น่านนทีจะบอกให้เธอทำอะไรเธอก็คงต้องยอมเขาทุกอย่างน่านนทีดึงท่อนเอ็นออกจากร่องรักแล้วจัดท่าให้หญิงสาวไปอยู่ท่าคลานเข่า แล้วกดแท่งร้อนเข้าหาเธอทีเดียวจนลึกสุดเพราะไม่อาจทนต่อท่าทางยั่วยวนของหญิงสาวได้“อื้อ....น่าน”“เจ็บเหรอ”“แค่ตกใจ”“อ่าห์ ลึกจังอีฟ”“ชอบหรือเปล่า”“ใครจะไม่ชอบก็บ้าล่ะอีฟ”เขายิ้มก่อนจะกดใบหน้าลงมาใกล้ หญิงสาวหันใบหน้าเข้าหาและเพื่อรอคอยจูบที่เขากำลังจะมอบให้จูบเร่าร้อนบดเบียดราวกับจะกระชากวิญญาณออกมาจากร่างหญิงสาวตอบสนองจูบของเขาไปตามอารมณ์ไปและความต้องการปลายลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อปลายลิ้นสาก ทำให้ชายครางในลำคออย่างพอใจกับลีลารัก
อรณิชารู้สึกตัวตื่นในตอนเช้าขณะที่น่านนทีกำลังลุกไปเข้าห้องน้ำแต่หญิงสาวยังคงแกล้งทำเป็นหลับต่อเพราะไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะพูดอะไรกับน่านนทีในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพราะมันน่าอายเกินกว่าจะคุยกันเหมือนเดิมได้เธอโกรธตัวเองมากที่ปล่อยให้อารมณ์และความต้องการอยู่เหนือความถูกต้อง ตอนนี้อรณิชารู้สึกผิดกับอเล็กซ์มากๆ แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงมีปัญหากันอยู่แต่เรื่องที่เธอทำมันก็ผิดกับเขา เธอไม่รู้เลยว่าถ้ากลับไปครั้งนี้จะสู้หน้ากับสามีได้ยังไงระหว่างที่ยังอยู่เมืองไทยอรณิชาคงไม่อาจจะเจอกับน่านนทีได้หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นอนอาบน้ำก่อนจะเก็บของใช้จำเป็นและเสื้อผ้าลงกระเป๋าเพื่อเดินทางไปเที่ยวทะเลก่อนกำหนดเดิมที่วางแผนว่าจะไปสัปดาห์หน้า หญิงสาวขับรถออกมาได้ไม่นานก็โทรศัพท์ไปบอกกิ่งกาญจน์ว่าตนเองจะขอเดินทางมาเที่ยวล่วงหน้าก่อนหนึ่งสัปดาห์และเมื่อถึงวันที่นัดกันไว้ให้กิ่งกาญจน์ตามมาทีหลัง“ทำไมรีบไปจังล่ะอีฟ” กิ่งกาญจน์ถามด้วยความแปลกใจเพราะอีกแค่สัปดาห์เดียวทั้งสองก็จะได้ไปเที่ยวพร้อมกันแล้ว“ก็ตอนนี้บ้านอีฟเสร็จแล้วก็เลยคิดว่าจะมาเที่ยวก่อนน่ะ ไม่โกรธกันใช่ไหม”“ไม่หรอกแต่เป็นห่วงมากกว่าน่
เสียงเคาะที่หน้าประตูทำให้อรณิชาต้องรีบวางกระเป๋าเดินทางไว้ในห้องรับแขกแล้วเดินไปเปิดเพราะคิดว่าคนที่มาเคาะเป็นพนักงานของรีสอร์ทที่เพิ่งจะเดินกลับไปเมื่อครู่แต่พอเปิดประตูออกมาก็ต้องตกใจจนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นคนที่เธอกำลังหนีและไม่อยากเจอหน้าอย่างที่สุดในตอนนี้“สวัสดีอีฟ” น่านนทีกล่าวทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม“สวัสดีน่าน คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“ก็ขับรถมาน่ะสิ”“ไม่ตลกเลยนะน่าน”“ผมก็ไม่ตลกเหมือนกันนะอีก ผมกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดแล้วรีบกลับไปหาคุณที่บ้านแต่ก็ไม่เจอคุณ”“น่านจะตามอีฟมาทำไม”“ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมไม่อยากยืนคุยตรงนี้”“มีอะไรก็คุยกันตรงนี้ก็ได้นะ อีฟขับรถมาเหนื่อยๆ อยากจะพักแล้ว”“แน่ใจเหรอว่าเราจะคุยเรื่องนั้นกันตรงนี้”“คุยข้างในก็ได้แต่คุยเสร็จแล้วต้องกลับนะ”“กลับสิ” เขาพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะคำว่ากลับของเขาไม่ได้หมายถึงกลับไปในวันนี้ น่านนทีจะอยู่กับเธอที่นี่หนึ่งสัปดาห์และจะกลับก่อนที่กิ่งกาญจน์จะมาเธอในสัปดาห์หน้าชายหนุ่มถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาวางไว้ข้างโซฟารับแขกก่อนจะนั่งลงแล้วดึงให้เธอลงมานั่งข้างๆ“คุณจะตามอีฟมาถึงที่นี่ทำไม”“ก็เมื่อ
น่านนทีและอรณิชาคุยกันจนเข้าใจและตกลงกันแล้วว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ระหว่างที่หญิงสาวอยู่ที่เมืองไทย ทั้งสองมองข้ามความถูกผิดต่างสนใจแค่ความสุขตรงหน้าชายหนุ่มรู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นไม่มีคนดีที่ไหนเขาทำกัน แต่เขาก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับอรณิชา ส่วนอรณิชานั้นก็โหยหาความรู้สึกแบบนี้มาตลอดหนึ่งปี และผู้ชายคนที่เธออยู่ด้วยก็เป็นคนที่เธอเคยรักและคิดว่าที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเลิกรักเขาได้เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองมันก็เลยพัฒนาไปอย่างรวดเร็วอรณิชายอมเป็นคนชั่วยอมเป็นคนเลวเพื่อแลกกับความสุขที่ตนเองไม่เคยได้รับมาตลอดหนึ่งปี เธอทิ้งความถูกต้องไว้ข้างหลังและคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่ตนเองจะมีความสุขแบบนี้เพราะถ้าหากกลับไปอเมริกาแล้วเธอไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอเล็กซ์จะเป็นยังไง ถึงแม้กลับไปแล้วจะหย่ากับเขาแต่เธอก็คงไม่กล้ากลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยหญิงสาวคิดว่าน่านนทีคงไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับผู้หญิงที่แต่งงานมาแล้วเขาก็แค่อยากหาความสุขตามประสาผู้ชายเท่านั้น คงไม่มีใครคิดจะจริงจังกับผู้หญิงที่นอกใจสามีอย่างแน่นอน“ตกลงระหว่าง
พรุ่งนี้ก็จะครบหนึ่งปีตามที่น่านนทีในสัญญาไว้กับกษิดิศแล้ววันนี้ชายหนุ่มเลยเข้ามาที่บ้านของอรณิชาอีกครั้งในเวลาค่ำเขาคิดว่าคืนนี้จะนอนค้างที่นี่หนึ่งคืนจากนั้นก็จะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเขาจะตัดใจเพราะคิดแล้วว่ายื้อต่อไปหรือรอต่อไปหญิงสาวก็คงไม่มีทางกลับมาหาชายหนุ่มถึงบ้านในเวลาหกโมงเย็นแต่เขายังไม่เปิดประตูเข้าไป ในบ้านเพราะคิดว่าจะรดน้ำต้นไม้บริเวณรอบๆ ก่อนที่มันจะมืดไปกว่านี้ใช้เวลารดน้ำต้นไม้ไม่นานก็เรียบร้อยน่านนทีเปิดประตูเข้าไปด้านในและใช้ห้องน้ำเล็กอาบน้ำก่อนจะมานอนอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะมานอนค้างที่นี่ปกติแล้วก็จะมานอนบนโซฟาอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่อรณิชากลับไปเพราะเขาคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาวในบ้านหลังนี้เนื่องจากทำงานหนักมาตลอดทั้งอาทิตย์ พอนอนไปสักพักน่านนทีก็เลยหลับลงด้วยความเหนื่อยแล้วน่านนทีก็รู้สึกตัวตื่นอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูชายหนุ่มลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อเห็นแสงไฟออกมาจากห้องนอนของอรณิชา เขาไม่รู้ว่านี่เป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสติและเพ่งมองไปรอบๆ บ้า
ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากอรณิชากลับไปอเมริกา ตั้งแต่นั้นน่านนทีไม่ได้ข่าวคราวของเธออีกเลย แต่เขาก็เข้าไปที่บ้านของหญิงสาวอาทิตย์ละครั้งเพื่อเข้าไปทำความสะอาดบ้านรดน้ำต้นไม้และดูแลความเรียบร้อยต่างๆ แม้ว่าอรณิชาจะไม่ได้สั่งไว้แต่เขาก็อยากทำให้บ้านมันน่าอยู่เผื่อวันในวันหนึ่งเธอกลับมาแล้วจะได้มีความสุขกับบ้านที่เขาตั้งใจดูแลให้เธอเป็นอย่างดีน่านนทีอยากจะโทรศัพท์ไปคุยกับเธออยากจะถามว่าเธอสบายดีไหมแต่ชายหนุ่มก็ไม่กล้าเพราะกลัวหญิงสาวจะโกรธ แต่ถ้าจะส่งข้อความหรือไลน์ไปก็รู้สึกเกรงใจ เขากลัวว่าการติดต่อไปของตนเองจะทำให้หญิงสาวมีปัญหากับสามี น่านนทีจึงได้แค่เฝ้ารอคอยให้เธอติดต่อมา แต่ก็ไม่มีวี่แววคงเธอเลยสักนิดชายหนุ่มคิดว่าตอนนี้อรณิชาแล้วจะลืมเรื่องระหว่างเธอกับเขาไปหมดแล้วแต่สำหรับเขามันทำใจให้ลืมเรื่องราวเรานั้นไม่ได้เลยสักนิดเขาคิดถึงใบหน้าหวานเวลาส่งยิ้มมาให้มันก็ทำให้เขาลืมเธอไม่ลงวันนี้น่านนทีมาทานข้าวกับลูกค้าที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากท่านเสร็จแล้วก็เดินมาที่ลานจอดรถชายหนุ่มดีใจมากเมื่อบังเอิญเห็นกิ่งกาญจน์กำลังเดินมาพอดี“สวัสดีครับกิ่ง”“สวัสดีน่าน มากินข้าวที่นี่เหมือนกันเหร
หญิงสาวมองหน้าบิดามารดาสลับกันไปมาก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่ตนเองแอบไปมีความสัมพันธ์กับน่านนทีที่เมืองไทยด้วยความรู้สึกผิดคุณอลิษามองหน้าลูกสาวแล้วถอนหายใจอย่างหนักเพราะไม่คิดว่าลูกสาวคนเดียวของเธอจะทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ เธออยากต่อว่าลูกสาวที่ทำตัวไร้ค่ามากแต่พอนึกถึงเรื่องที่อรณิชาเพิ่งเจอมาในวันนี้ก็เปลี่ยนใจเพราะฟังดูแล้วทั้งอรณิชาและอเล็กซ์ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ เธอไม่ได้เข้าข้างลูกสาวจนเกินไปแต่เรื่องที่อรณิชานอกใจอเล็กซ์มันเกิดขึ้นไม่นานผิดกับอเล็กซ์ที่ทำเรื่องแบบนั้นมานานถึงหนึ่งปีครึ่ง“แม่คะหนูรู้ว่าสิ่งที่หนูทำมันผิดต่อเล็กมากๆ แต่หนูก็ยอมรับอย่างไม่อายเลยค่ะว่าช่วงเวลาที่หนูใช้ชีวิตอยู่กับเขาที่เมืองไทยมันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ” อรณิชาสารภาพทุกอย่างออกมาเพราะถ้าทนเก็บไว้คนเดียวก็คงจะอึดอัดมาก“ที่หนูบอกว่ากลับมาจะหย่ากับอเล็กซ์เพราะหนูคิดว่าจะกลับใช้ชีวิตกับเขาที่นั่นเหรอลูก”“เปล่าค่ะแม่หนูบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องรอหนู ให้เขาเดินหน้าใช้ชีวิตของเขาต่อไปและมองหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขา”“อ้าว ในเมื่อหนูบอกว่าหนูรักเขาแล้วเขารักหนูทำไมหนูถึงไม่คิดจะกลับไปหาเขาล่ะ แม่ไม่ว่าอ
อรณิชาเช็ดน้ำตาออกจนแห้งสนิทก่อนจะเดินเข้าไปทางด้านหลังร้านอาหารไทยซึ่งตอนนี้พนักงานกำลังทยอยกันกลับบ้านหญิงสาวกล่าวทักทายกับทุกคนและยิ้มให้เล็กน้อย เธอรอจนกระทั่งทุกคนกลับไปหมดก็เดินเข้าไปหาบิดามารดาที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน“พ่อคะแม่คะหนูกลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวโผกอดบิดามารดาพร้อมทั้งสะอื้นเล็กๆ ทำให้มารดาของเธอรู้สึกแปลกใจมาก“อีฟหนูเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้แบบนี้ล่ะลูก”“หนูคิดถึงพ่อกับแม่นี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งเดือน”“แต่แม่ว่ามันผิดปกติมากๆ นะหนูไม่เคยร้องไห้เพราะคิดถึงแม่แบบนี้มาก่อนเลยนะลูก หนูเป็นอะไรหรือเปล่า”“หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะก็แค่คิดถึงพ่อกับแม่จริงๆ ค่ะ”“แต่แม่ว่าไม่น่าจะใช่นะลูก”“หนูไปเมืองไทยนานตั้งหนึ่งเดือนก็เลยคิดถึงมากกว่าทุกครั้ง แล้วพ่อกับแม่คิดถึงหนูมั้ยคะ”“คิดถึงสิแต่แม่ว่าหนูนั่นแหละไม่เคยคิดถึงพ่อแม่เลย ตั้งแต่ไปเมืองไม่ค่อยโทรหาแม่มัวแต่เที่ยวจนสนุกเลยใช่ไหม”“หนูยอมรับเลยค่ะแม่ว่ากันกลับไปเมืองไทยครั้งนี้หนูมีความสุขมากๆ จนแทบจะไม่อยากกลับมาที่นี่อีกเลย” หญิงสาวพูดด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อนึกถึงความสุขที่ตัวเองมีร่วมกับน่านนทีตอนที่อยู่เมือง
บรรยากาศในห้องรับแขกเงียบสนิทเพราะอเล็กซ์ไม่ยอมพูดอะไรส่วนอรณิชาก็จ้องหน้าเขาด้วยความโกรธเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่เคยได้ยินในร้านซักผ้าตอนอยู่เมืองไทยจะเกิดขึ้นกับตนเอง“ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไงรีน่าจะเป็นคนเล่าให้คุณอีฟฟังเองก็ได้ค่ะ ว่าแต่คุณพร้อมที่จะฟังจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ” มารีน่าคิดว่าถ้าหากอเล็กซ์ยังเอาแต่นั่งเงียบแบบนี้เรื่องก็คงไม่จบง่ายๆ และคนที่เสียหายจะต้องเป็นตัวเองที่ท้องเริ่มโตมากขึ้นทุกวัน“อีฟก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”แล้วมารีน่าก็เล่าเรื่องของตนเองกับอเล็กซ์ให้อรณิชาฟังอย่างละเอียดว่าเริ่มคบกันตั้งแต่ตอนไหนและใช้ชีวิตอยู่กันยังไงในเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องที่ตอนนี้เธอกำลังท้องและก่อนหน้าที่อรณิชาจะกลับมาอเล็กซ์ได้สัญญาว่าจะหย่ากับอรณิชาและจะมาสร้างครอบครัวกับมารีน่า“เป็นอย่างที่คุณรีน่าพูดใช่ไหมอเล็กซ์” อรณิชาหันไปถามชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งเงียบอเล็กซ์พยักหน้าแต่ไม่กล้าสบตากับอรณิชาเพราะตอนนี้เขาเองรู้สึกผิดมากๆ ที่นอกใจภรรยาหลังจากแต่งงานได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น“ทำไมคุณไม่พูดกับฉันตรงๆ ล่ะคะอเล็กซ์ ทำไมคุณไม่บอกฉันว่าคุณหมดรักฉันแ
อรณิชามาถึงสนามบินในเวลาบ่าย เมื่อรับกระเป๋าก็รีบเปลี่ยนซิมโทรศัพท์จากนั้นก็ไลน์ไปบอกน่านนทีและกิ่งกาญจน์ว่าเธอมาถึงอเมริกาอย่างปลอดภัยแล้วจากนั้นหญิงสาวก็เรียกรถให้ไปส่งที่บ้านและอดแปลกใจไม่ได้ว่าที่เห็นรถยนต์ของอเล็กซ์จอดอยู่ในบ้านซึ่งปกติเวลานี้ชายหนุ่มน่าจะอยู่ที่บริษัทมากกว่า หญิงสาวบอกเขาแล้วบอกเขาว่าเธอจะมาถึงวันพรุ่งนี้เพราะจำวันที่ผิด แต่ก็รู้สึกดีใจที่กลับมาแล้วเจอเขาอยู่ที่บ้านเธอหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโหมดวิดีโอเพื่อจะถ่ายสีหน้าของเขาเมื่อเห็นเธอมาถึงบ้านก่อนเวลา เธอเปิดประตูพร้อมกับลากกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาในบ้านแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ในห้องรับแขกมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดมีทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงผู้ชาย หญิงสาวตัวชาหน้าซีดและก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องรับแขกเธอยังคงถือกล้องถ่ายไว้ขณะที่เดินเข้ามาใกล้ห้องนอนของตนเองจนได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ด้านใน เธอจำเสียงนั้นได้เป็นอย่างดีเพราะมันเป็นเสียงของอเล็กซ์ส่วนอีกเสียงนั้นเธอไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกคุ้นเหมือนเคยได้ยินที่ไหนใจหนึ่งอยากจะหนีออกไปจากที่นี่เพราะไม่อยากรับรู้ว่าภายในห้องนอนนั้นเ
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาชายหนุ่มรูปร่างสูงดูภูมิฐานเดินประคองคนรักออกมาจากห้องตรวจแผนกสูตินรีเวชและพาเธอมานั่งรอที่เก้าอี้ทางด้านหน้าโรงพยาบาลก่อนที่เขาจะลงไปที่ลานจอดรถและขับมารับหญิงสาว“หมอบอกว่าลูกของเราแข็งแรงดีคุณดีใจไหมคะอเล็กซ์”“ดีใจสิรีน่าผมทั้งดีใจและตื่นเต้นที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว”“คุณอยากได้ถูกผู้หญิงหรือผู้ชายคะอเล็กซ์”“ไม่ว่าจะเพศไหนก็ได้หมดเพราะเด็กที่จะเกิดมาเป็นลูกคุณกับผม แล้วคุณล่ะรีน่าอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย”“รีน่าก็คิดเหมือนคุณค่ะอเล็กซ์ ขอแค่ลูกเกิดมาแล้วแข็งแรงก็ดีใจมากแล้วค่ะเพราะยังไงก็คือลูกของเรา รีน่าก็จะรักและเลี้ยงดูเขาอย่างดีค่ะ”“ผมจะดูช่วยคุณเลี้ยงลูกนะรีน่า”“แต่คุณยังไม่หย่ากับเมียคุณเลยนะอเล็กซ์ คุณจะมาดูแลรีน่าได้ยังไง”“ตอนนี้อีฟเขากลับไปเมืองไทยน่ะ ถ้าเขากลับมาครั้งนี้ผมคิดว่าจะต้องบอกเรื่องของเราให้เขารู้”“แล้วคุณอีฟเขาจะไม่โกรธและจะไม่ตามมาเอาเรื่องรีน่าที่บริษัทใช่ไหมคะ” มารีน่ากลัวว่าถ้าภรรยาของอเล็กซ์ตามมาเอาเรื่องตนเองจะอายเพื่อนในบริษัท“ไม่หรอกเธอเป็นคนบอกผมเองว่าให้ผมตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ ที่ผ่านมาผมโกหกเธอมาต
น่านนทีรู้ว่าหญิงสาวแสดงทุกอย่างออกมาตามสัญชาตญาณไม่ได้มีการเสแสร้งอะไรเลยเสร็จก็บอกว่าเสร็จเสียวก็บอกว่าเสียวมันทำให้เขารู้สึกหลงใหลกับทุกอย่างที่เป็นเธอและไม่อยากจะให้หญิงสาวกลับไปอเมริกาเลยสักนิดแต่ในเมื่ออรณิชาตัดสินใจแล้วเขาก็ยินดีจะปล่อยเธอไปแต่ก่อนไปก็อยากจะมอบความสุขให้เธอและตัวเองอย่างเต็มที่ก่อน เมื่อคิดถึงอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร เขาก็สวนสะโพกเข้าหาเธออยากบ้าคลั่ง ชายหนุ่มอยากจะให้เธอจำไว้ว่าครั้งหนึ่งเขาและเธอเคยมีความสุขร่วมกันมากมายแค่ไหน“อื้อ.....แรงไปแล้วนะน่าน”“แรงแล้ว ดีไหมชอบหรือเปล่าชอบให้กระแทกไหม”“ชอบแต่ค่ะ แต่ไม่ไหวมันจะเสร็จแล้ว ใกล้จะเสร็จแล้ว”“เสร็จก็ปล่อยออกมาเลยอีฟร้องออกมาดังๆ เรียกชื่อผมนะที่รัก”น่านนทีออกคำสั่งด้วยเสียงแหบพร่าร่องรักที่ตอดรัดเขาในตอนนี้มันทั้งแรงและถี่รัวมากกว่าครั้งไหน“น่านขา......อ้า....น่าน”หญิงสาวกรีดร้องด้วยความสุขสมอีกครั้งร่างกายสั่นสะท้านจนทรงตัวแทบไม่อยู่ ขาเรียวสั่นระริกชายหนุ่มประคองเธอไว้ในอ้อมแขนจูบซับบริเวณต้นคอของหญิงสาวเมื่อรู้สึกถึงแรงตอดรับที่เริ่มคลายตัวลงเขาก็จับหญิงสาวหันหน้ามาหาแล้วรีบพาเธอไปวางลงบนเตียงอ
น่านนทีจอดรถที่หน้าดูบ้านก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเขายังมีกุญแจรั้วรวมถึงรหัสเข้าบ้านของหญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องกดออดให้อรณิชาออกมาเปิดชายหนุ่มถือวิสาสะเปิดประตูบ้านเข้าไป ตอนนี้บริเวณห้องรับแขกไฟมืดสนิทเหลือแค่ไฟบริเวณห้องนอนของหญิงสาวเท่านั้นเขาแง้มประตูห้องนอนเปิดเข้าไปก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแต่ได้ยินเสียงหญิงสาวกำลังอาบน้ำอยู่ น่านนทีกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วเดินเข้าไปหาเธอในห้องน้ำเพราะไม่อาจทนนั่งรอให้เธอออกมานอกห้องได้เลย ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กันที่โรงแรมในคืนนั้นเขากับเธอก็ยังไม่ได้นอนด้วยกันอีกเลยและในเมื่อมันเป็นคืนสุดท้ายเขาก็ไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะมอบความสุขให้กับคนที่เขารักชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปแล้วยืนกอดอกมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวตอนนี้ฟองสบู่ปกปิดเรือนร่างของเธอไว้แต่เมื่ออรณิชาเปิดฝักบัวสายน้ำก็ชำระฟองสบู่ออกจนร่างขาวเนียนที่เขาหลงใหลปรากฏต่อสายตาหญิงสาวล้างฟองสบู่ออกจนหมดก่อนจะปิดฝักบัวแล้วหมุนตัวกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้น่านนทียืนกอดอกพิงผนังห้องน้ำอยู่อีกด้านหนึ่ง“น่าน....” อรณิชารีบเอามือปิดร่างกายเป็นพัลวัน น่านนทีมองแล้วหัว