เมื่อได้คุยกับสามีแล้วอรณิชาก็รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก แต่เธอก็หวังว่าคำพูดที่พูดออกไปในวันนี้อเล็กซ์จะกลับเอาไปคิดและทบทวนดูว่าที่ผ่านมานั้นเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
อรณิชาอยากจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง เพราะได้สัญญาต่อหน้าบาทหลวงแล้วว่าจะรักและดูแลกันไปตลอด และเธออยากจะประคับประคองชีวิตคู่ของตนเองไปให้ได้นานที่สุด แต่ก็ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายอยากจะประคับประคองร่วมกันไปกับเธอไหม
นับว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่อรณิชาตัดสินใจฝังยาคุมกำเนิดแบบสามปีมันทำให้ระหว่างนี้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะท้องเพราะถ้าหากเรื่องคุยกับอเล็กซ์เรื่องนี้ไม่รู้เรื่องการจะมีลูกด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น ขนาดยังไม่มีลูกเขายังทิ้งให้เธออยู่ตามลำพังและถ้าหากมีลูกเธอก็คงจะต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดูลูกคนเดียวซึ่งมันไม่ดีแน่กับเด็กที่จะเกิดมาและเธอเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเพราะคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถพอ
อรณิชาพยายามคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบมากที่สุด บางทีเวลาที่อยู่ห่างกับเธออเล็กซ์เขาอาจจะคิดได้และกลับมาเป็นผู้ชายคนเดิมที่เธอเคยรัก แต่ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างนั้นอรณิชาก็คิดว่าจะเลิกกับเขาอย่างเด็ดขาดเพราะถ้ายังฝืนอยู่ด้วยกันก็คงจะเครียดและไม่มีความสุขในชีวิต
เธอนอนคิดเรื่องของตนเองและอเล็กซ์จนเผลอหลับยาวจนกระทั่งเช้าของวันใหม่ หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ไปออกกำลังกายจะอาบน้ำแต่งตัวและไปตลาดสดเพื่อหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร
บิดามารดาของอรณิชาเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่อเมริกามันเลยทำให้หญิงสาวทำอาหารไทยได้หลายอย่างถึงแม้รสชาติจะไม่อร่อยเหมือนมืออาชีพทำแต่มันก็ไม่ได้น่าเกลียดถึงขั้นทานไม่ได้ หญิงสาวเลือกซื้อของสดหลายอย่างทั้งหมู ไก่และอาหารทะเลรวมทั้งเครื่องปรุงและวัตถุดิบอื่นๆ อีกหลายอย่างก่อนจะกลับบ้านที่และผัดกะเพราไก่กับไข่ดาวทานในมื้อเช้า ส่วนมื้อกลางวันเธอคิดว่าจะสั่งอาหารกล่องมาจากข้างนอกเพราะอาจจะต้องสั่งเผื่อคนงานที่มาติดผ้าม่านซึ่งนัดว่าจะมาในเวลาสิบโมงเช้า
เมื่อถึงเวลานัดคนงานจากร้านผ้าม่านก็มากดออดเรียกที่หน้าบ้าน
“สวัสดีครับผมเป็นคนงานมาจากร้านผ้าม่านครับ เราจะขอมาวัดขนาดประตูกับหน้าต่างก่อนครับ”
“เชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะ”
“พวกเราขอถอยรถเข้าไปได้ไหมรบกวนคุณเปิดประตูรั้วให้ด้วย”
“ได้ค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูรั้วให้จากนั้นก็ติดตามรถกระบะไปก่อนจะบอกกับคนงานว่าเธอจะติดตั้งผ้าม่านที่ห้องไหนบ้าง
“เราขอวัดขนาดก่อนนะครับ”
“ฉันนึกว่าผ้าม่านจะมาติดได้เลย”
“ไม่หรอกครับมันต้องมีการวัดขนาดแล้วเราจะโทรไปให้ทางร้านตัดและส่งไปให้อีกที”
“ใช้เวลานานไหมคะ”
“ไม่หรอกครับ”
“วันนี้เสร็จไหมคะ”
“เสร็จครับ”
“ถ้างั้นเชิญพวกคุณทำงานตามสบายเลยค่ะ” เมื่อคนงานเดินเข้าไปในบ้านแล้วอรณิชาก็โทรศัพท์ไปบอกน่านนที ตอนนี้หญิงสาวไม่กล้าเข้าไปในบ้านคนเดียวเพราะมีผู้ชายอยู่ในนั้นถึงสี่คนเธอจึงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ตรงหน้าสนามหญ้า เมื่อเห็นน่านนทีขับรถมาจอดหน้ารั้วอรณิชาก็รู้สึกโล่งใจและคิดไม่ผิดเลยที่ยอมตกลงให้เขาเข้าในวันนี้เพราะถ้าให้อยู่กับคนงานผู้ชายถึงสี่คนเธอก็รู้สึกกลัว
“พวกเขานานแล้วเหรอ”
“เพิ่งมาถึงค่ะ เขาบอกว่าจะวัดขนาดของผ้าม่านแต่ละห้องแล้วค่อยโทรไปบอกให้ทางร้านตัดผ้ามาให้เพื่อจะได้ขนาดความกว้างที่ถูกต้อง ที่เขาทำมันถูกแล้วใช่ไหมคะคุณน่าน”
“บ้านแต่ละหลังขนาดความกว้างความสูงของประตูหน้าต่างไม่เท่ากันที่เขาทำก็ถูกต้องแล้ว”
“อ๋อ”
“แล้วทำไมออกมานั่งรอตรงนี้ล่ะมันร้อนนะ”
“อีฟไม่กล้าเข้าไปข้างในหรอกค่ะ พวกเขามากันตั้งสี่คน”
“แต่ตอนนี้ผมมาแล้วเข้าไปดูกันเถอะเผื่อมีตรงไหนที่อยากจะเปลี่ยนแปลง”
“ได้ค่ะ”
เมื่อวัดขนาดผ้าม่านที่จะติดตั้งแล้ว คนงานก็โทรศัพท์ไปแจ้งกับทางร้านไม่นานถ้าม่านก็ถูกติดครบทุกจุดตามที่หญิงสาวต้องการ
“ขอบคุณมากนะคะ เธอบอกกับคนงานพร้อมกับส่งเครื่องดื่มและข้าวกล่องให้เขาคนละชุดเนื่องจากตอนนี้มันเป็นเวลาบ่ายโมงแล้วแต่คนงานไม่ยอมพักทานข้าวตอนเที่ยว พวกเขาบอกว่าอยากจะทำงานให้เสร็จก่อนจะทานอาหารกลางวัน
“พวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
เมื่อคนงานออกไปแล้วตอนนี้ในบ้านก็เหลือแค่อรณิชากับน่านนทีสองคน
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าวันนี้คุณไม่มาอีฟก็คงแย่แน่เพราะฟังพวกเขาพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับทุกอย่างเรียบร้อยแล้วแต่ผมว่าคุณต้องทำความสะอาดบ้านหน่อยนะ ทำไหวไหมจะให้ผมช่วยหรือเปล่าไม่”
“เป็นไรหรอกค่ะแค่กวาดพื้นถูพื้นแค่นี้อีฟทำได้อยู่แล้ว ว่าแต่คุณจะเอาข้าวกล่องกลับไปกินที่บริษัทหรือจะนั่งกินที่นี่เลย”
“ตอนนี้ผมหิวมากขอนั่งกินที่นี่ก่อนได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
ทั้งสองคนนั่งทานอาหารกล่องกันอย่างเงียบๆ เมื่อทานเสร็จน่านนทีก็ขอตัวกลับ
วันนี้น่านนทีพูดกับอรณิชาน้อยทุกวันเพราะไม่อยากสร้างความผูกพันกับหญิงสาวอีกต่อไปแล้ว เขาคิดว่าจากนี้จะไม่ติดต่อเธอมาอีก
“บ้านคุณเรียบร้อยดีทุกอย่างแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ผ้าม่านก็ติดแล้วเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างก็ได้ครบแล้วสัปดาห์หน้าคุณว่างไหมอีฟว่าจะนัดคุณและเพื่อนออกมาทานข้าวเป็นการเลี้ยงขอบคุณอีกครั้ง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเลี้ยงขอบคุณเราไปแล้วครั้งหนึ่งแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนถ้ามีปัญหาเรื่องบ้านจะปรึกษาก็ติดต่อไปที่บริษัทผมได้เลยผมยินดีรับใช้”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณแล้วเดินไปส่งของที่ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หญิงสาวรู้สึกใจหายแปลกๆ เมื่อคิดว่าจากนี้คงไม่ได้เจอกับน่านนทีอีกแล้วแต่มันก็ดีกับตัวเธอเองอยู่เหมือนกันเพราะถ้าหากใกล้เขามากก็กลัวเหลือเกินว่าความรู้สึกแบบเดิมมันจะกลับมาอีก
อรณิชาทำความสะอาดบ้านจนสะอาดจากนั้นถ่ายรูปภายในบ้านส่งไปให้กับมารดาดูอีกครั้ง
“สวยไหมคะแม่” อรณิชาวิดีโอคอลหามารดาเมื่อส่งรูปไปให้ท่านผ่านไปห้านาที
“สวยมากๆ เลยมันไม่เหมือนบ้านหลังเดิมเลยสักนิดเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างหนูก็ซื้อใหม่ใช่ไหม”
“หนูซื้อเตียงนอนกับชุดรับแขกกับของตกแต่งใหม่ค่ะแม่เพราะของเดิมมันไม่เข้ากับบ้านเลย”
“แล้วของเดิมบอกเอาไปทิ้งไว้ที่ไหนล่ะลูก”
“หนูยกให้กับคนงานที่เขามารีโนเวทบ้านค่ะ ตอนแรกกะจะขายทิ้งเป็นของเก่าแต่คิดว่าให้คนอื่นไปใช้น่าจะได้ประโยชน์กว่า”
“ดีแล้วล่ะลูกเพราะของชิ้นใหญ่ขนาดนั้นเราคงขนไปทิ้งเองลำบากมากๆ”
“แม่อยากมาเที่ยวเมืองไทยไหมคะมาดูบ้านของเรา”
“เอาไว้มีโอกาสแม่กับพ่อคงต้องหาทางกลับไปพักที่บ้านนั้นสักหน่อย แล้วหนูล่ะลูกเป็นยังไงบ้างได้คุยกับอเล็กซ์บ้างหรือเปล่าชวนเขาไปเที่ยวที่บ้านเราสิ”
“เมื่อเช้าเราก็เพิ่งคุยกันคุยกันค่ะ”
“คุยแน่นะไม่ใช่ทะเลาะกัน”
“ไม่หรอกค่ะแม่หนูพูดกับเขาแล้วว่าช่วงนี้ให้เขาทบทวนความรู้สึกของตัวเองว่าเขายังต้องการหนูอยู่ไหม หนูอยากให้เขากลับมาเป็นคนเดิม”
“แล้วเขาว่ายังไงล่ะ”
“เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ บางทีเขาอาจจะรู้สึกสบายใจมากๆ ที่หนูไม่อยู่ก็ได้นะคะแม่ เพราะตั้งแต่มาที่นี่เขาไม่เคยโทรมาหาหนูหรือไลน์มาหาหนูเลยสักครั้งมีแต่หนูที่ติดต่อเขาไป”
“หนูก็รู้นี่ว่าเขางานยุ่ง”
“ใช่ค่ะหนูรู้ว่าเขาเป็นคนงานยุ่งมากๆ แต่หนูหายมาตั้งหลายวันแบบนี้เขาน่าจะถามไถ่บ้างว่าเดินทางเป็นยังไง แต่เขาก็เงียบ”
“ช่วงนี้เขาอาจจะเครียดกับเรื่องงานแม่ว่าถ้าห่างกันสักพักเขาอาจจะคิดได้”
“หนูก็หวังว่าเขาจะคิดได้ค่ะแม่ แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบที่หนูหวังมันก็คงต้องจบ”
“แม่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย เวลาที่เหลือหนูค่อยๆ คิดค่อยๆ ตัดสินใจนะอีฟการเป็นแม่หม้ายมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยถ้าหากอยู่แล้วไม่มีความสุขเราก็แค่ถอยออกมา แต่นั่นคือทางเลือกสุดท้ายนะ”
“ค่ะแม่หนูจะพยายามใจเย็นและคิดทบทวนความรู้สึกของตนเองค่ะ”
อรณิชาคุยกับมารดาไม่นานก่อนจะกดวางสายเธอคิดว่าตอนนี้ความรู้สึกของเธอที่มีกับอเล็กซ์นั้นมันเปลี่ยนไปแต่นั่นก็เป็นเพราะตัวเขาไม่ใช่อเล็กซ์คนเดิมที่เธอรู้จัก
อรณิชากลับมาอยู่เมืองไทยครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่คุยกับอเล็กซ์ครั้งสุดท้ายหญิงสาวก็ไม่ได้ติดต่อเขาไปอีกเลยเธอรู้ว่าเขางานยุ่งแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้และคิดว่าถ้าหากอเล็กซ์ยังเป็นแบบนี้อยู่เธอที่จะต้องถอยออกมาจากชีวิตคู่เพราะฝืนต่อไปก็คงไม่มีความสุขมันไม่ใช่แค่เรื่องเวลาเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่อเล็กซ์เปลี่ยนไปแต่มีบางอย่างที่มันติดค้างอยู่ในใจของอรณิชา เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมาอเล็กซ์ไม่เคยนอนกับเธอเลย ชายหนุ่มแสดงความรักกับเธอแค่กอด และหอมแก้มก่อนไปทำงาน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ สำหรับคนอายุอย่างเขาหญิงสาวไม่รู้ว่าที่อเล็กซ์ไม่มีอะไรกับเธอนานถึงหนึ่งปีเพราะเขาเบื่อเขามีปัญหาสุขภาพหรือเพราะเขามีคนอื่น เรื่องหลังสุดเป็นเรื่องที่เธอคิดอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่เคยบอกมารดาหรือเล่าให้ใครฟังเพราะถ้าหากยังไม่แน่ใจก็ไม่อยากจะไปปรักปรำเขาหญิงสาวไม่รู้ตัวเองมีข้อบกพร่องเรื่องบนเตียงตรงไหนอเล็กซ์ถึงทำเย็นชากับเธอแบบนี้ เธอพยายามแต่งตัวยั่วยวน เอาใจเขาเวลาอยู่บนเตียงอเล็กซ์ก็ไม่สนใจเธอเลยเธอเป็นผู้หญิงอยู่ในวัยเจริญพันธุ์และย่อมมีความต้องการแต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาไปใช้บริการบาร์โฮสที่มีบริการอยู่เกลื่
“เสร็จแล้วใช่ไหมคุณน่าน”“ผมตรวจดูบ้านเสร็จแล้วแต่ผมว่าคุณน่าจะยังไม่เสร็จนะ” ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวซึ่งลุกขึ้นกำลังจะเปิดประตูให้เขาออกจากห้องนอน“คุณพูดอะไรคะ”“ก็พูดความจริงไงล่ะ”“ความจริงอะไรอีฟไม่เห็นจะรู้เรื่อง อีฟว่าคุณน่านรีบกลับไปเถอะ”“ถ้าผมกลับไปอีฟจะทำอะไรต่อเหรอ”“ก็เข้านอนสิ ฝนตกหนักอากาศเย็นแบบนี้มันเหมาะกับการนอนมากที่สุด คุณไม่อยากจะรีบกลับไปนอนรึไงล่ะ เนื้อตัวคุณเปียกหมดแล้วรีบกลับไปเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย”“คนอย่างผมไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกผมแข็งแรงดี” เขาพูดเน้นคำทำให้อรณิชารู้สึกแปลกกับคำพูดของชายหนุ่ม“งานเสร็จก็น่าจะรีบกลับนะ”“ผมถามอะไรอีฟตรงๆ ได้ไหม”“ยังมีเรื่องอะไรถามอีก เราไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันส่วนตัวแล้ว”“ถ้าเป็นเรื่องบ้านมันก็จบแล้ว แต่ผมมีเรื่องจะถามเพิ่ม”“คุณจะถามอะไรก็รีบถามมาเถอะค่ะ”“ถ้าผมกลับไปแล้วคุณจะทำแบบนั้นต่อใช่ไหมล่ะ”“แบบนั้นคือแบบไหน”“ตอบผมมาสิว่าก่อนหน้าที่ผมจะมาคุณกำลังทำอะไรอยู่”“อีฟก็นอนเล่นมือถืออยู่น่ะสิ คุณถามทำไม” หญิงสาวตอบแต่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับน่านนที“แน่ใจนะว่านอนเล่นมือถืออยู่ แล้วไอ้ที่ม
เมื่อริมฝีปากร้อนบดจูบบนริมฝีปากอิ่มอีกครั้งตอนนี้สติของอรณิชาไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว หญิงสาวเปิดปากรับจูบของเขาด้วยความเต็มใจเพราะคิดว่าต่อต้านไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็มีความต้องการเป็นอย่างมากหญิงสาวได้แต่ขอโทษอเล็กซ์อยู่ในใจและคิดว่านี่จะเป็นแค่ครั้งเดียวที่เธอจะทำเรื่องแบบนี้ น่านนทีจูบจนพอใจก็ดึงชุดนอนของเธอออก ทั้งห้องสว่างจ้าทำให้เขาเห็นเรือนร่างของเธอที่มันสวยงามอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน“อีฟคุณสวยมากนะ ผัวคุณมันโง่มากๆ ที่ปล่อยให้คุณกลับมาเมืองไทย”“ถ้าอยากจะนอนกับอีฟก็เลิกพูดถึงเขาก่อนได้ไหม” อรณิชาห้ามเพราะไม่อยากจะรู้สึกผิดมากกว่านี้แต่จะให้น่านนทีหยุดร่างกายของเธอมันก็ต้องการให้เขาช่วยปลดปล่อย“ได้สิ ที่นี่มีแค่อีฟกับผม ตกลงให้ผมช่วยนะ”หญิงสาวพยักหน้าเพราะถ้าคืนนี้ไม่ได้รับการปลดปล่อยเธอก็คงจะแย่และนอนไม่หลับแน่ๆน่านนทีขบเม้นไปบนลำคอระหงจูบซับหนักเบาสลับกันจนขึ้นรอยแดงไปทั่ว ก่อนจะลากริมฝีปากร้อนมายังเนินอกอิ่ม สองมือเคล้นคลึงสองเต้าจนเต่งตึงสู้มือแล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยบนยอดถันจนมันแข็งชูชัน“สวยสู้มือและน่ากินมาก”ชายหนุ่มพูดออกมาตามความรู้สึกที่ไม
“ชอบไหมถูกใจหรือเปล่า”น่านนทีถามเมื่อเห็นว่าเธอกลับมาหายใจเป็นปกติ”“ชอบที่สุด”อรณิชาตอบออกมาอย่างไม่อายไม่ใช่เพราะไม่ได้นอนกับสามีมานานแต่เพราะเธอรู้สึกว่าน่านนทีมอบความสุขให้เธอไม่ใช่ตักตวงเอาแต่ความสุขให้กับตัวเองอย่างที่อเล็กซ์ทำกับเธอ เขาไม่เคยถามความรู้สึกหรือความต้องการเลยบางครั้งเขาก็ถึงสวรรค์ไปคนเดียวแล้วทิ้งให้เธออารมณ์ค้างอยู่แบบนั้น“ผมบอกแล้วว่าอีฟจะติดใจ ด๊อกกี้ไหมชอบหรือเปล่า”“ได้สิ”หญิงสาวตอบรับทันทีไม่ว่าคืนนี้น่านนทีจะบอกให้เธอทำอะไรเธอก็คงต้องยอมเขาทุกอย่างน่านนทีดึงท่อนเอ็นออกจากร่องรักแล้วจัดท่าให้หญิงสาวไปอยู่ท่าคลานเข่า แล้วกดแท่งร้อนเข้าหาเธอทีเดียวจนลึกสุดเพราะไม่อาจทนต่อท่าทางยั่วยวนของหญิงสาวได้“อื้อ....น่าน”“เจ็บเหรอ”“แค่ตกใจ”“อ่าห์ ลึกจังอีฟ”“ชอบหรือเปล่า”“ใครจะไม่ชอบก็บ้าล่ะอีฟ”เขายิ้มก่อนจะกดใบหน้าลงมาใกล้ หญิงสาวหันใบหน้าเข้าหาและเพื่อรอคอยจูบที่เขากำลังจะมอบให้จูบเร่าร้อนบดเบียดราวกับจะกระชากวิญญาณออกมาจากร่างหญิงสาวตอบสนองจูบของเขาไปตามอารมณ์ไปและความต้องการปลายลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อปลายลิ้นสาก ทำให้ชายครางในลำคออย่างพอใจกับลีลารัก
อรณิชารู้สึกตัวตื่นในตอนเช้าขณะที่น่านนทีกำลังลุกไปเข้าห้องน้ำแต่หญิงสาวยังคงแกล้งทำเป็นหลับต่อเพราะไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะพูดอะไรกับน่านนทีในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพราะมันน่าอายเกินกว่าจะคุยกันเหมือนเดิมได้เธอโกรธตัวเองมากที่ปล่อยให้อารมณ์และความต้องการอยู่เหนือความถูกต้อง ตอนนี้อรณิชารู้สึกผิดกับอเล็กซ์มากๆ แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงมีปัญหากันอยู่แต่เรื่องที่เธอทำมันก็ผิดกับเขา เธอไม่รู้เลยว่าถ้ากลับไปครั้งนี้จะสู้หน้ากับสามีได้ยังไงระหว่างที่ยังอยู่เมืองไทยอรณิชาคงไม่อาจจะเจอกับน่านนทีได้หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นอนอาบน้ำก่อนจะเก็บของใช้จำเป็นและเสื้อผ้าลงกระเป๋าเพื่อเดินทางไปเที่ยวทะเลก่อนกำหนดเดิมที่วางแผนว่าจะไปสัปดาห์หน้า หญิงสาวขับรถออกมาได้ไม่นานก็โทรศัพท์ไปบอกกิ่งกาญจน์ว่าตนเองจะขอเดินทางมาเที่ยวล่วงหน้าก่อนหนึ่งสัปดาห์และเมื่อถึงวันที่นัดกันไว้ให้กิ่งกาญจน์ตามมาทีหลัง“ทำไมรีบไปจังล่ะอีฟ” กิ่งกาญจน์ถามด้วยความแปลกใจเพราะอีกแค่สัปดาห์เดียวทั้งสองก็จะได้ไปเที่ยวพร้อมกันแล้ว“ก็ตอนนี้บ้านอีฟเสร็จแล้วก็เลยคิดว่าจะมาเที่ยวก่อนน่ะ ไม่โกรธกันใช่ไหม”“ไม่หรอกแต่เป็นห่วงมากกว่าน่
เสียงเคาะที่หน้าประตูทำให้อรณิชาต้องรีบวางกระเป๋าเดินทางไว้ในห้องรับแขกแล้วเดินไปเปิดเพราะคิดว่าคนที่มาเคาะเป็นพนักงานของรีสอร์ทที่เพิ่งจะเดินกลับไปเมื่อครู่แต่พอเปิดประตูออกมาก็ต้องตกใจจนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นคนที่เธอกำลังหนีและไม่อยากเจอหน้าอย่างที่สุดในตอนนี้“สวัสดีอีฟ” น่านนทีกล่าวทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม“สวัสดีน่าน คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“ก็ขับรถมาน่ะสิ”“ไม่ตลกเลยนะน่าน”“ผมก็ไม่ตลกเหมือนกันนะอีก ผมกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดแล้วรีบกลับไปหาคุณที่บ้านแต่ก็ไม่เจอคุณ”“น่านจะตามอีฟมาทำไม”“ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมไม่อยากยืนคุยตรงนี้”“มีอะไรก็คุยกันตรงนี้ก็ได้นะ อีฟขับรถมาเหนื่อยๆ อยากจะพักแล้ว”“แน่ใจเหรอว่าเราจะคุยเรื่องนั้นกันตรงนี้”“คุยข้างในก็ได้แต่คุยเสร็จแล้วต้องกลับนะ”“กลับสิ” เขาพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะคำว่ากลับของเขาไม่ได้หมายถึงกลับไปในวันนี้ น่านนทีจะอยู่กับเธอที่นี่หนึ่งสัปดาห์และจะกลับก่อนที่กิ่งกาญจน์จะมาเธอในสัปดาห์หน้าชายหนุ่มถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาวางไว้ข้างโซฟารับแขกก่อนจะนั่งลงแล้วดึงให้เธอลงมานั่งข้างๆ“คุณจะตามอีฟมาถึงที่นี่ทำไม”“ก็เมื่อ
น่านนทีและอรณิชาคุยกันจนเข้าใจและตกลงกันแล้วว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ระหว่างที่หญิงสาวอยู่ที่เมืองไทย ทั้งสองมองข้ามความถูกผิดต่างสนใจแค่ความสุขตรงหน้าชายหนุ่มรู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นไม่มีคนดีที่ไหนเขาทำกัน แต่เขาก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับอรณิชา ส่วนอรณิชานั้นก็โหยหาความรู้สึกแบบนี้มาตลอดหนึ่งปี และผู้ชายคนที่เธออยู่ด้วยก็เป็นคนที่เธอเคยรักและคิดว่าที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเลิกรักเขาได้เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองมันก็เลยพัฒนาไปอย่างรวดเร็วอรณิชายอมเป็นคนชั่วยอมเป็นคนเลวเพื่อแลกกับความสุขที่ตนเองไม่เคยได้รับมาตลอดหนึ่งปี เธอทิ้งความถูกต้องไว้ข้างหลังและคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่ตนเองจะมีความสุขแบบนี้เพราะถ้าหากกลับไปอเมริกาแล้วเธอไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอเล็กซ์จะเป็นยังไง ถึงแม้กลับไปแล้วจะหย่ากับเขาแต่เธอก็คงไม่กล้ากลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยหญิงสาวคิดว่าน่านนทีคงไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับผู้หญิงที่แต่งงานมาแล้วเขาก็แค่อยากหาความสุขตามประสาผู้ชายเท่านั้น คงไม่มีใครคิดจะจริงจังกับผู้หญิงที่นอกใจสามีอย่างแน่นอน“ตกลงระหว่าง
คืนนี้เป็นคืนที่สองแล้วที่อรณิชากับน่านนทีใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในรีสอร์ทหลังเล็ก หลังจากทานอาหารค่ำแล้วอรณิชาก็สวมชุดว่ายและลงไปว่ายอยู่บริเวณสระด้านข้างของตัวบ้านพัก ขณะที่น่านนทีนั้นมีงานต้องคุยกับกษิดิศแต่เมื่อคุยเสร็จเขาก็รีบตามหญิงสาวไปข้างสระว่ายน้ำทันทีเขายืมมองอรณิชาที่กำลังว่ายน้ำไปมาอย่างมีความสุขแล้วยิ้ม ตอนนี้หญิงสาวดูมีความสุขมาก สองวันที่ผ่านมาเขาและเธอใช้ชีวิตเหมือนกับคู่รักที่พากันมาพักผ่อนในวันหยุด ทั้งสองไม่สนใจเรื่องในอดีตหรือในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงต่างโฟกัสแค่ความสุขที่มีร่วมกัน เท่านั้นอรณิชาว่ายน้ำจนเหนื่อยหญิงสาวจึงวางแขนกับขอบสระเอาคางเกยไว้บนท่อนแขนขณะที่สายตามองตรงไปยังผืนท้องทะเลทะเลกว้าง เธอรู้สึกมีความสุขมากๆ ที่อยู่ที่นี่และไม่อยากจะกลับไปเผชิญกับความเป็นจริงเลยแต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ เวลาที่ได้อยู่กับน่านนทีมันกำลังนับถอยหลัง เธออยากจะหยุดเวลานี้ไว้ให้นานที่สุดอยากอยู่กับเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้ผ่านมาหลายวันแล้วที่อรณิชาได้คุยกับอเล็กซ์และเขาก็ไม่เคยคิดต่อเธอมาอีกเลยแม้แต่ข้อความเขาก็ไม่ส่งมาหาซึ่งมันแปลกมากเพราะแต่ก่อนเขาจะโทรศัพท
พรุ่งนี้ก็จะครบหนึ่งปีตามที่น่านนทีในสัญญาไว้กับกษิดิศแล้ววันนี้ชายหนุ่มเลยเข้ามาที่บ้านของอรณิชาอีกครั้งในเวลาค่ำเขาคิดว่าคืนนี้จะนอนค้างที่นี่หนึ่งคืนจากนั้นก็จะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเขาจะตัดใจเพราะคิดแล้วว่ายื้อต่อไปหรือรอต่อไปหญิงสาวก็คงไม่มีทางกลับมาหาชายหนุ่มถึงบ้านในเวลาหกโมงเย็นแต่เขายังไม่เปิดประตูเข้าไป ในบ้านเพราะคิดว่าจะรดน้ำต้นไม้บริเวณรอบๆ ก่อนที่มันจะมืดไปกว่านี้ใช้เวลารดน้ำต้นไม้ไม่นานก็เรียบร้อยน่านนทีเปิดประตูเข้าไปด้านในและใช้ห้องน้ำเล็กอาบน้ำก่อนจะมานอนอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะมานอนค้างที่นี่ปกติแล้วก็จะมานอนบนโซฟาอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่อรณิชากลับไปเพราะเขาคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาวในบ้านหลังนี้เนื่องจากทำงานหนักมาตลอดทั้งอาทิตย์ พอนอนไปสักพักน่านนทีก็เลยหลับลงด้วยความเหนื่อยแล้วน่านนทีก็รู้สึกตัวตื่นอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูชายหนุ่มลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อเห็นแสงไฟออกมาจากห้องนอนของอรณิชา เขาไม่รู้ว่านี่เป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสติและเพ่งมองไปรอบๆ บ้า
ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากอรณิชากลับไปอเมริกา ตั้งแต่นั้นน่านนทีไม่ได้ข่าวคราวของเธออีกเลย แต่เขาก็เข้าไปที่บ้านของหญิงสาวอาทิตย์ละครั้งเพื่อเข้าไปทำความสะอาดบ้านรดน้ำต้นไม้และดูแลความเรียบร้อยต่างๆ แม้ว่าอรณิชาจะไม่ได้สั่งไว้แต่เขาก็อยากทำให้บ้านมันน่าอยู่เผื่อวันในวันหนึ่งเธอกลับมาแล้วจะได้มีความสุขกับบ้านที่เขาตั้งใจดูแลให้เธอเป็นอย่างดีน่านนทีอยากจะโทรศัพท์ไปคุยกับเธออยากจะถามว่าเธอสบายดีไหมแต่ชายหนุ่มก็ไม่กล้าเพราะกลัวหญิงสาวจะโกรธ แต่ถ้าจะส่งข้อความหรือไลน์ไปก็รู้สึกเกรงใจ เขากลัวว่าการติดต่อไปของตนเองจะทำให้หญิงสาวมีปัญหากับสามี น่านนทีจึงได้แค่เฝ้ารอคอยให้เธอติดต่อมา แต่ก็ไม่มีวี่แววคงเธอเลยสักนิดชายหนุ่มคิดว่าตอนนี้อรณิชาแล้วจะลืมเรื่องระหว่างเธอกับเขาไปหมดแล้วแต่สำหรับเขามันทำใจให้ลืมเรื่องราวเรานั้นไม่ได้เลยสักนิดเขาคิดถึงใบหน้าหวานเวลาส่งยิ้มมาให้มันก็ทำให้เขาลืมเธอไม่ลงวันนี้น่านนทีมาทานข้าวกับลูกค้าที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากท่านเสร็จแล้วก็เดินมาที่ลานจอดรถชายหนุ่มดีใจมากเมื่อบังเอิญเห็นกิ่งกาญจน์กำลังเดินมาพอดี“สวัสดีครับกิ่ง”“สวัสดีน่าน มากินข้าวที่นี่เหมือนกันเหร
หญิงสาวมองหน้าบิดามารดาสลับกันไปมาก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่ตนเองแอบไปมีความสัมพันธ์กับน่านนทีที่เมืองไทยด้วยความรู้สึกผิดคุณอลิษามองหน้าลูกสาวแล้วถอนหายใจอย่างหนักเพราะไม่คิดว่าลูกสาวคนเดียวของเธอจะทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ เธออยากต่อว่าลูกสาวที่ทำตัวไร้ค่ามากแต่พอนึกถึงเรื่องที่อรณิชาเพิ่งเจอมาในวันนี้ก็เปลี่ยนใจเพราะฟังดูแล้วทั้งอรณิชาและอเล็กซ์ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ เธอไม่ได้เข้าข้างลูกสาวจนเกินไปแต่เรื่องที่อรณิชานอกใจอเล็กซ์มันเกิดขึ้นไม่นานผิดกับอเล็กซ์ที่ทำเรื่องแบบนั้นมานานถึงหนึ่งปีครึ่ง“แม่คะหนูรู้ว่าสิ่งที่หนูทำมันผิดต่อเล็กมากๆ แต่หนูก็ยอมรับอย่างไม่อายเลยค่ะว่าช่วงเวลาที่หนูใช้ชีวิตอยู่กับเขาที่เมืองไทยมันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ” อรณิชาสารภาพทุกอย่างออกมาเพราะถ้าทนเก็บไว้คนเดียวก็คงจะอึดอัดมาก“ที่หนูบอกว่ากลับมาจะหย่ากับอเล็กซ์เพราะหนูคิดว่าจะกลับใช้ชีวิตกับเขาที่นั่นเหรอลูก”“เปล่าค่ะแม่หนูบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องรอหนู ให้เขาเดินหน้าใช้ชีวิตของเขาต่อไปและมองหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขา”“อ้าว ในเมื่อหนูบอกว่าหนูรักเขาแล้วเขารักหนูทำไมหนูถึงไม่คิดจะกลับไปหาเขาล่ะ แม่ไม่ว่าอ
อรณิชาเช็ดน้ำตาออกจนแห้งสนิทก่อนจะเดินเข้าไปทางด้านหลังร้านอาหารไทยซึ่งตอนนี้พนักงานกำลังทยอยกันกลับบ้านหญิงสาวกล่าวทักทายกับทุกคนและยิ้มให้เล็กน้อย เธอรอจนกระทั่งทุกคนกลับไปหมดก็เดินเข้าไปหาบิดามารดาที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน“พ่อคะแม่คะหนูกลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวโผกอดบิดามารดาพร้อมทั้งสะอื้นเล็กๆ ทำให้มารดาของเธอรู้สึกแปลกใจมาก“อีฟหนูเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้แบบนี้ล่ะลูก”“หนูคิดถึงพ่อกับแม่นี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งเดือน”“แต่แม่ว่ามันผิดปกติมากๆ นะหนูไม่เคยร้องไห้เพราะคิดถึงแม่แบบนี้มาก่อนเลยนะลูก หนูเป็นอะไรหรือเปล่า”“หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะก็แค่คิดถึงพ่อกับแม่จริงๆ ค่ะ”“แต่แม่ว่าไม่น่าจะใช่นะลูก”“หนูไปเมืองไทยนานตั้งหนึ่งเดือนก็เลยคิดถึงมากกว่าทุกครั้ง แล้วพ่อกับแม่คิดถึงหนูมั้ยคะ”“คิดถึงสิแต่แม่ว่าหนูนั่นแหละไม่เคยคิดถึงพ่อแม่เลย ตั้งแต่ไปเมืองไม่ค่อยโทรหาแม่มัวแต่เที่ยวจนสนุกเลยใช่ไหม”“หนูยอมรับเลยค่ะแม่ว่ากันกลับไปเมืองไทยครั้งนี้หนูมีความสุขมากๆ จนแทบจะไม่อยากกลับมาที่นี่อีกเลย” หญิงสาวพูดด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อนึกถึงความสุขที่ตัวเองมีร่วมกับน่านนทีตอนที่อยู่เมือง
บรรยากาศในห้องรับแขกเงียบสนิทเพราะอเล็กซ์ไม่ยอมพูดอะไรส่วนอรณิชาก็จ้องหน้าเขาด้วยความโกรธเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่เคยได้ยินในร้านซักผ้าตอนอยู่เมืองไทยจะเกิดขึ้นกับตนเอง“ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไงรีน่าจะเป็นคนเล่าให้คุณอีฟฟังเองก็ได้ค่ะ ว่าแต่คุณพร้อมที่จะฟังจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ” มารีน่าคิดว่าถ้าหากอเล็กซ์ยังเอาแต่นั่งเงียบแบบนี้เรื่องก็คงไม่จบง่ายๆ และคนที่เสียหายจะต้องเป็นตัวเองที่ท้องเริ่มโตมากขึ้นทุกวัน“อีฟก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”แล้วมารีน่าก็เล่าเรื่องของตนเองกับอเล็กซ์ให้อรณิชาฟังอย่างละเอียดว่าเริ่มคบกันตั้งแต่ตอนไหนและใช้ชีวิตอยู่กันยังไงในเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องที่ตอนนี้เธอกำลังท้องและก่อนหน้าที่อรณิชาจะกลับมาอเล็กซ์ได้สัญญาว่าจะหย่ากับอรณิชาและจะมาสร้างครอบครัวกับมารีน่า“เป็นอย่างที่คุณรีน่าพูดใช่ไหมอเล็กซ์” อรณิชาหันไปถามชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งเงียบอเล็กซ์พยักหน้าแต่ไม่กล้าสบตากับอรณิชาเพราะตอนนี้เขาเองรู้สึกผิดมากๆ ที่นอกใจภรรยาหลังจากแต่งงานได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น“ทำไมคุณไม่พูดกับฉันตรงๆ ล่ะคะอเล็กซ์ ทำไมคุณไม่บอกฉันว่าคุณหมดรักฉันแ
อรณิชามาถึงสนามบินในเวลาบ่าย เมื่อรับกระเป๋าก็รีบเปลี่ยนซิมโทรศัพท์จากนั้นก็ไลน์ไปบอกน่านนทีและกิ่งกาญจน์ว่าเธอมาถึงอเมริกาอย่างปลอดภัยแล้วจากนั้นหญิงสาวก็เรียกรถให้ไปส่งที่บ้านและอดแปลกใจไม่ได้ว่าที่เห็นรถยนต์ของอเล็กซ์จอดอยู่ในบ้านซึ่งปกติเวลานี้ชายหนุ่มน่าจะอยู่ที่บริษัทมากกว่า หญิงสาวบอกเขาแล้วบอกเขาว่าเธอจะมาถึงวันพรุ่งนี้เพราะจำวันที่ผิด แต่ก็รู้สึกดีใจที่กลับมาแล้วเจอเขาอยู่ที่บ้านเธอหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโหมดวิดีโอเพื่อจะถ่ายสีหน้าของเขาเมื่อเห็นเธอมาถึงบ้านก่อนเวลา เธอเปิดประตูพร้อมกับลากกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาในบ้านแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ในห้องรับแขกมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดมีทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงผู้ชาย หญิงสาวตัวชาหน้าซีดและก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องรับแขกเธอยังคงถือกล้องถ่ายไว้ขณะที่เดินเข้ามาใกล้ห้องนอนของตนเองจนได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ด้านใน เธอจำเสียงนั้นได้เป็นอย่างดีเพราะมันเป็นเสียงของอเล็กซ์ส่วนอีกเสียงนั้นเธอไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกคุ้นเหมือนเคยได้ยินที่ไหนใจหนึ่งอยากจะหนีออกไปจากที่นี่เพราะไม่อยากรับรู้ว่าภายในห้องนอนนั้นเ
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาชายหนุ่มรูปร่างสูงดูภูมิฐานเดินประคองคนรักออกมาจากห้องตรวจแผนกสูตินรีเวชและพาเธอมานั่งรอที่เก้าอี้ทางด้านหน้าโรงพยาบาลก่อนที่เขาจะลงไปที่ลานจอดรถและขับมารับหญิงสาว“หมอบอกว่าลูกของเราแข็งแรงดีคุณดีใจไหมคะอเล็กซ์”“ดีใจสิรีน่าผมทั้งดีใจและตื่นเต้นที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว”“คุณอยากได้ถูกผู้หญิงหรือผู้ชายคะอเล็กซ์”“ไม่ว่าจะเพศไหนก็ได้หมดเพราะเด็กที่จะเกิดมาเป็นลูกคุณกับผม แล้วคุณล่ะรีน่าอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย”“รีน่าก็คิดเหมือนคุณค่ะอเล็กซ์ ขอแค่ลูกเกิดมาแล้วแข็งแรงก็ดีใจมากแล้วค่ะเพราะยังไงก็คือลูกของเรา รีน่าก็จะรักและเลี้ยงดูเขาอย่างดีค่ะ”“ผมจะดูช่วยคุณเลี้ยงลูกนะรีน่า”“แต่คุณยังไม่หย่ากับเมียคุณเลยนะอเล็กซ์ คุณจะมาดูแลรีน่าได้ยังไง”“ตอนนี้อีฟเขากลับไปเมืองไทยน่ะ ถ้าเขากลับมาครั้งนี้ผมคิดว่าจะต้องบอกเรื่องของเราให้เขารู้”“แล้วคุณอีฟเขาจะไม่โกรธและจะไม่ตามมาเอาเรื่องรีน่าที่บริษัทใช่ไหมคะ” มารีน่ากลัวว่าถ้าภรรยาของอเล็กซ์ตามมาเอาเรื่องตนเองจะอายเพื่อนในบริษัท“ไม่หรอกเธอเป็นคนบอกผมเองว่าให้ผมตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ ที่ผ่านมาผมโกหกเธอมาต
น่านนทีรู้ว่าหญิงสาวแสดงทุกอย่างออกมาตามสัญชาตญาณไม่ได้มีการเสแสร้งอะไรเลยเสร็จก็บอกว่าเสร็จเสียวก็บอกว่าเสียวมันทำให้เขารู้สึกหลงใหลกับทุกอย่างที่เป็นเธอและไม่อยากจะให้หญิงสาวกลับไปอเมริกาเลยสักนิดแต่ในเมื่ออรณิชาตัดสินใจแล้วเขาก็ยินดีจะปล่อยเธอไปแต่ก่อนไปก็อยากจะมอบความสุขให้เธอและตัวเองอย่างเต็มที่ก่อน เมื่อคิดถึงอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร เขาก็สวนสะโพกเข้าหาเธออยากบ้าคลั่ง ชายหนุ่มอยากจะให้เธอจำไว้ว่าครั้งหนึ่งเขาและเธอเคยมีความสุขร่วมกันมากมายแค่ไหน“อื้อ.....แรงไปแล้วนะน่าน”“แรงแล้ว ดีไหมชอบหรือเปล่าชอบให้กระแทกไหม”“ชอบแต่ค่ะ แต่ไม่ไหวมันจะเสร็จแล้ว ใกล้จะเสร็จแล้ว”“เสร็จก็ปล่อยออกมาเลยอีฟร้องออกมาดังๆ เรียกชื่อผมนะที่รัก”น่านนทีออกคำสั่งด้วยเสียงแหบพร่าร่องรักที่ตอดรัดเขาในตอนนี้มันทั้งแรงและถี่รัวมากกว่าครั้งไหน“น่านขา......อ้า....น่าน”หญิงสาวกรีดร้องด้วยความสุขสมอีกครั้งร่างกายสั่นสะท้านจนทรงตัวแทบไม่อยู่ ขาเรียวสั่นระริกชายหนุ่มประคองเธอไว้ในอ้อมแขนจูบซับบริเวณต้นคอของหญิงสาวเมื่อรู้สึกถึงแรงตอดรับที่เริ่มคลายตัวลงเขาก็จับหญิงสาวหันหน้ามาหาแล้วรีบพาเธอไปวางลงบนเตียงอ
น่านนทีจอดรถที่หน้าดูบ้านก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเขายังมีกุญแจรั้วรวมถึงรหัสเข้าบ้านของหญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องกดออดให้อรณิชาออกมาเปิดชายหนุ่มถือวิสาสะเปิดประตูบ้านเข้าไป ตอนนี้บริเวณห้องรับแขกไฟมืดสนิทเหลือแค่ไฟบริเวณห้องนอนของหญิงสาวเท่านั้นเขาแง้มประตูห้องนอนเปิดเข้าไปก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแต่ได้ยินเสียงหญิงสาวกำลังอาบน้ำอยู่ น่านนทีกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วเดินเข้าไปหาเธอในห้องน้ำเพราะไม่อาจทนนั่งรอให้เธอออกมานอกห้องได้เลย ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กันที่โรงแรมในคืนนั้นเขากับเธอก็ยังไม่ได้นอนด้วยกันอีกเลยและในเมื่อมันเป็นคืนสุดท้ายเขาก็ไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะมอบความสุขให้กับคนที่เขารักชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปแล้วยืนกอดอกมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวตอนนี้ฟองสบู่ปกปิดเรือนร่างของเธอไว้แต่เมื่ออรณิชาเปิดฝักบัวสายน้ำก็ชำระฟองสบู่ออกจนร่างขาวเนียนที่เขาหลงใหลปรากฏต่อสายตาหญิงสาวล้างฟองสบู่ออกจนหมดก่อนจะปิดฝักบัวแล้วหมุนตัวกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้น่านนทียืนกอดอกพิงผนังห้องน้ำอยู่อีกด้านหนึ่ง“น่าน....” อรณิชารีบเอามือปิดร่างกายเป็นพัลวัน น่านนทีมองแล้วหัว