"ไม่ว่าจะทำอย่างไรจัดการในรูปแบบไหนฉันก็ต้องเอานายมาเป็นเด็กของฉันให้ได้!!!" "ทานโทษนะพอดีเป็นคนชอบความอิสระไม่นิยมมีโซ่คล้องคอ!"
View Moreด้านองศาและพิร์ภูณกรสองหนุ่มร่างสูงโปร่งย่างเท้าเหยียบย้ำเข้าอานาเขตประเทศที่คุ้นเคย ประเทศที่เขาและองศาเติบโตประเทศที่พวกเขาทั้งสองอาศัยมาตั้งแต่เด็กประเทศที่พวกเขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ต่างๆมากมายและเป็นประเทศที่มีองค์กรXDตั้งอยู่ประเทศที่เขาไม่คิดว่าจะได้กลับมาเหยียบอีกครั้งที่เขาไม่คิดว่าจะกลับมาเหยียบที่ประเทศนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบหรือเกลียดชังประเทศนี้ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากกลับมาเพราะองค์กรเฮงซวยXDต่างหากล่ะองค์กรสารเลวนั่นหลังจากที่ผมกับองศาเคลียร์กันเรื่องที่องศาได้เปิดร่องรอยของตัวเองให้กับทางองค์กรรู้ พวกผมก็ตัดสินใจที่จะตีตัวออกห่างจากมังกรและภูเขาและเลือกที่จะจะพากันหายมาอย่างเงียบๆแล้วซ่อนร่องรอยของตัวเองไม่ให้คนทั้งสองได้ตามหาเจอเพื่อที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ เพราะไม่อยากให้ทางองค์กรเพ่งเล็งไปเล่นงานชายทั้งสอง เพราะฉะนั้นผมกับองศาถึงได้จากมาอย่างเงียบๆโดยที่ไม่เอาของมาหรือเอ่ยลาใดๆกับพวกเขา
อชิตพล"เซทท์!/องศา!"ผมอุทานชื่อเล่นของพิร์ภูณกรขึ้นพร้อมกับที่ไอ้ภูเขาอุทานชื่อเพื่อนชายคนสนิทของเซทท์ที่มักจะแวะเวียนมาหาที่ห้องบ่อยๆ แต่เดี๋ยวนะไอ้ภูเขามันรู้จักเพื่อนชายคนนี้ของเซทท์งั้นหรอ ผมขมวดคิ้วเงยหน้าไปจ้องมองไอ้ภูเขาที่ยืนเบิกตากว้างทำใบหน้างงงวยอยู่ด้านข้าง ก่อนที่ผมจะเอ่ยถามมันขึ้นว่ารู้จักกับคนที่ชื่อองศาอย่างงั้นหรอ"มึงรู้จักกับองศาเพื่อนของเซทท์อย่างงั้นหรอ""ก็องศาเนี่ยแหละเมียกู! มึงนั่นแหละรู้จักเพื่อนของเมียกูอย่างงั้นหรอ"ภูเขามันหันมาจ้องหน้าผมแล้วตอบคำถามของผมออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะถามผมกลับว่าผมรู้จักเซทท์เพื่อนเมียมันหรอจะไม่รู้จักได้ยังไงก็นั้นก็เมียกูมั้ยล่ะผมได้แต่เอ่ยตอบมันในใจเพราะตอนนี้ผมกำลังอึ้งกับสถานการณ์ในตอนนี้อยู่ เมื่อกี้ถ้าผมฟังไม่ผิดไอ้ภูเขามันบอกว่าองศาเป็นเมียมันอย่างนั้นใช่มั้ยนะ แล้วมันไปเป็นผัวเขาตอนไหนวะเนี่ย งั้นก็แสดงว่ามันก็ต้องเคยเจอเซทท์ไปหาองศาที่ห้องบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายรูปร่างสูงที่ผลักประตูอ้าออกกว้างแล้วก้าวเดินเข้ามาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของผู้เป็นนาย"เป็นไงได้เรื่องมั้ย"ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาเสียงทุ้มของอชิตพลก็เอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้น ที่ตอนนี้ได้ยืนก้มหัวลงเล็กน้อยให้เขาเพื่อเป็นการทำความเคารพ มังกรพยักหน้ารับเพียงนิด ก่อนที่มือหนาจะวางปากกาในมือลงกับโต๊ะแล้วเอนหลังไปพิงผนักเก้าอี้ นัยน์ตาคมก็สายแววจดจ้องไปยังใบหน้าของเมทีเพื่อรอคำตอบในเรื่องที่เจ้าตัวสั่งให้ไปทำภูเขาที่นั่งเฝ้ารอข่าวคราวในห้องทำงานของมังกรอยู่อย่างเงียบๆ ก็พลางลดมือถือในมือลงแล้วหันไปสนใจเมทีเมื่อคิดว่าลูกน้องคนสนิทของมังกรคงมาบอกข่าวเกี่ยวกับการหายตัวไปของเมียเขา"ได้ครับบอส""ว่ายังไง เล่ามาให้ละเอียด"ดวงตาคมยังคงจดจ้องไปยังที่เมทีอย่างนิ่งๆ สร้างความหวั่นเกรงให้คนที่ถูกจ้องอยู่ไม่น้อย เมทีข่มความหวั่นเกรงไว้ในใจก่อนที่จะเอ่ยบอกผู้เป็นนายในสิ่งที่ตัวเองไปสืบเสาะมาได้"กลุ่มคนพวกนั้นที่บอสสั่งให้ผมต
เพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือฟาดผ่านลงใบหน้าขาวนวลดังสนั่นลั่นห้อง ใบหน้าขององศาสะบัดไปตามทิศทางแรงตบของฝ่ามือขาวที่หยาบกร้านของพิร์ภูณกร"ได้สติหรือยัง"เซทท์กดเสียงต่ำเอ่ยถามเพื่อนตรงหน้าพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้ององศาด้วยแววตานิ่งๆเกิดที่จะคาดเดาหลังจากวันนั้นที่ผมกดวางสายจากองศา ผมก็นั่งทบทวนในสิ่งที่มันเอ่ยย้ำเตือน ในตอนนั้นผมยอมรับเลยว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อมังกรมันถลำลึกไปมาก มากจนเกินที่จะถอยออกมาแบบจะไม่เสียใจมันเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงแม้ว่าจะเสียใจมากแค่ไหนผมก็คงต้องทนถอยออกมาพร้อมกับความเสียใจนั้นก็อย่างที่องศามันว่าละนะ ชีวิตของพวกผมมันเน่าเฟะไม่ควรที่จะดึงใครเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย แถมยังไม่รู้ว่าตัวเองจะตายวันตายพรุ่งเพราะชีวิตของผมกับองศามันมีความเสี่ยงตลอดเวลา ไม่ควรที่จะผูกมัดไว้กับใครแต่แล้วทำไมไอ้องศามันถึงเลือกที่จะนำความตายเข้ามาใกล้ตัวเองเร็วขนาดนี้ ทำไมมันถึงเลือกที่จะเปิดตำแหน่งการเคลื่อนไหวของตัวเอง มันคิดจะทำอะไรกันแน่!องศามันยังคงเงียบไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรออกมา ใบ
วันเวลาผ่านมาช่วงสายของอีกวันร่างสูงโปร่งที่อยู่ในชุดลำลองยืนสอดส่องผ่านกล่องดูเป้าหมายจากระยะไกลบนดาดฟ้าจากตึกตรงข้าม องศาที่ได้รับการว่าจ้างให้มาจัดการนักธุรกิจการเมืองท่านหนึ่งที่ขัดแย้งกับผู้ว่าจ้างเขา ก็ได้มาสอดแนมดูกิจวัตรประจำวันของเป้าหมายเพื่อที่จะหาช่องโหว่ในการลงมือ"อืมมมแทบไม่มีช่องโหว่เลยแฮะ"เสียงใสบ่นพึมพำออกมาเบาๆพลางลดมือข้างที่ถือกล้องส่องทางไกลลงไว้ข้างตัว ก่อนที่มืออีกข้างจะลวงเอามือถือเครื่องแพงในกระเป๋ากางเกงตัวเก่งขึ้นมาติดต่อหาใครบางคน/ว่าไง/เสียงปลายสายเอ่ยถามขึ้นหลังจากกดรับสายในเขา"แทบไม่มีช่องโหว่ให้เข้าใกล้ตัวได้เลยวะ"องศาเอ่ยพูดพลางยกกล้องส่องทางไกลในมือขึ้นมาส่องดูเป้าหมายอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเหมือนเดิม/อ่อโอเคถ้างั้นมึงก็ถอยออกมาก่อน แล้วนี่มึงส่งประวัติเป้าหมายมาให้กูหรือยัง/พิร์ภูณกรเอ่ยบอกเพื่อนพลางถามองศาเมื่อเปิดอีเมลของตัวเองแล้วไม่เห็นประวัติของเป้าหมายส่งเข้ามาให้เขาเลย"กูส่งไปตั้งแต่เช้าแล้วนะ"คิ้วสวยขององศาขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำถามจากเพื่อนสนิทที่อยู่ปลายสาย ก่อนที่จะเอ่ยตอ
ณ.เวลาปัจจุบันเวลา17.19นาทีองศาร่างสูงโปร่งยืนพิงหลังกับราวระเบียงหันหน้ามองทอดเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองพลางขยับเรียวแขนข้างซ้ายที่พักพิงไว้กับราวระเบียงเล็กน้อยเพื่อยกมือที่คีบแท่งบุหรี่ขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากแล้วสูดอัดสารนิโคตินเข้าเต็มปอด ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะเผยพ่นควันสีขาวออกไปทางสีเทาปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายลมติ๊ดเสียงกดเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเมื่อนิ้วเรียวสวยข้างขวากดโทรออกหาปลายสายเมื่อมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุย รอสายไม่นานคนที่อยู่ปลายสายก็กดรับสายแต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาจนเป็นองศาที่ต้องเอ่ยทักขึ้นด้วยตัวเอง"ทำอะไรอยู่"เสียงใสเอ่ยถามพลางสูบอัดเอาสารนิโคตินเข้าไปเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันมันออกมาพลันนัยน์ตาสวยก็เหลียวมองไปยังเตียงนอนที่มีชายหนุ่มตัวสูงนอนคว่ำหน้าเผยแผ่นหลังแกร่งให้เขาได้เห็น/นอน.../เสียงเอ่ยตอบงัวเงียจากปลายดังขึ้นอย่างสั้นๆแล้วก็เงียบไปจนทำให้องศาขมวดคิ้วหน้ามุ้ยอย่างคนหงุดหงิด เมื่อรู้สึกว่าช่วงนี้เพื่อนสนิทของตนนั้นดูจะยุ่งกับการนอนซะเ
"ไปต่อกันมั้ย"...หลังจากที่องศาได้เอ่ยปากชวนผมที่ผับแบบนั้น ผมก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไปทำเพียงแค่พยุงคนที่ดื่มจนเมามายมาขึ้นรถแล้วขับออกมาจากผับแล้วตรงไปที่คอนโดของผมทันที คอนโดที่ผมไม่เคยให้ใครเข้ามาเหยียบแม้กระทั่งไอ้มังกรก็ยังไม่เคยได้เข้ามา มีองศาที่ได้เหยียบเข้ามาเป็นคนแรก ชายหนุ่มที่ผมพึ่งจะรู้จักได้ไม่นานพอผมกับองศาเหยียบก้าวเข้ามาในห้องนอนคนที่ตัวเล็กกว่าก็เล่นกระโจนเข้ามาจูบผมในทันที จนผมแทบจะตั้งรับไม่ทัน พอผมตั้งตัวได้ก็เปิดปากให้ร่างบางได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผม ก่อนที่จะดันให้องศาก้าวถอยหลังไปที่เตียงนอนแล้วผลักให้แผ่นหลังเล็กได้สัมผัสกับพื้นนอนนุ่มผมกับองศาจูบแลกลิ้นกันนัวเนียอยู่บนเตียงนอนนุ่มพลันลิ้นหนาของผมก็สอดขยับไล่ต้อนเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กในโพรงปากอุ่น ก่อนที่ผมจะผละริมฝีปากออกจากปากบางแล้วโน้มใบหน้าก้มลงมาคลอเครียร์ที่ลำคอขาวทั้งเลียและขบเม้นเพ
"เมียผมก็บอกชัดเจนแล้วนะ ว่าเขาคิดกับคุณแค่น้องชาย เพราะงั้นคุณกลับไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับเมียผมอีก"นัตน์ตาคมจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าวแสดงให้เห็นว่าเขานั้นพร้อมที่จะกระโจนเข้าหาได้ทุกเวลาถ้าเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้ายังไม่หยุดที่จะลุกล้ำเข้ามาในอาเขตของคนที่เขาเรียกว่าเมีย"กลับไปแม็กซ์"คนในอ้อมแขนแกร่งเอ่ยบอกเด็กหนุ่มตัวสูงอีกครั้งพร้อมกับเบือนหน้าหนีเลือกที่จะไม่สบสายตากับคนที่เขาเรียกว่าน้องชายเพราะกลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะใจอ่อนให้กับสายตาเศร้าสร้อยของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าแม็กซ์เขาเองก็เหมือนเซทท์ที่มักจะใจอ่อนให้กับคนที่ตัวเองเรียกน้องชาย ก็เพราะมีจุดอ่อนตรงนี้นี่แหละถึงทำให้ผมกับไอ้เซทท์เกือบตายกัน"พี่~....พี่ครับ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเศร้าสร้อยทำให้องศาที่ได้ยินแทบที่จะหันมามองใบหน้าออกไปทางฝรั่งของแม็กซ์ แต่ก็โดนฝ่ามือใหญ่ของคนตัวสูงที่อยู่ด้านหลังเลื่อนขึ้นมาปิดสายตาของเขาซะก่อน"กลับไป! แล้วอย่ามายุ่งกับเมียกูอีก"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมสาดมองไปทางแม็กซ์อย่างเชือดเฉือน แม็กซ์เองก็จ้องมองกลับอย่างไม่เกรงกลั
ณ.เวลา03.12ร่างโปร่งบางยืนทิ้งตัวเท้าแขนกับราวระเบียงนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองท้องฟ้าอันเงียบสงบยามค่ำราตรีพลางนิ้วมือเรียวสวยที่คีบแท่งบุหรี่อยู่ก็ยกขึ้นมาจรดริมฝีปากก่อนที่สูดอัดสารนิโคตินเข้าปอดเพื่อหวังให้สารเหล่านี้ได้ช่วยให้เขาผ่อนคลายและสบายใจขึ้นริมฝีปากบางพ่นควันสีเทาปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายลมที่พัดผ่านพลันเปลือกตาสีมุกก็ค่อยๆปิดลงเพื่อซึมซับบรรยากาศอันหนาวเย็นและเงียบสงบในยามค่ำคืน"ออกมาทำอะไรที่ระเบียงหื้ม..."เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามพร้อมกับสองเท้าหนาได้เดินมายืนซ้อนแผ่นหลังเล็กแล้วสอดแขนโอบกอดเอวบางจากทางด้านหลังฟอดดดสันจมูกโด่งกดหอมลงที่แก้มนุ่มของเซทท์อย่างมันเขี้ยวก่อนที่ใบหน้าคมจะซุกลงที่ลาดไหล่บางแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ
บทนำ/ดาร์บี้เป้าหมายปรากฏตัวแล้วรีบจบงานแล้วรีบออกมาซะ/เสียงของหูฟังบลูทูธแบบจิ๋วดังขึ้นแจ้งให้ร่างโปร่งที่กำลังซุ่มอยู่ในที่ลับตาคนได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเป้าหมายที่เขากำลังตามอยู่"โอเคเห็นเป้าหมายแล้ว ว่าแต่จบงานเราไปกินชาบูกันมั้ยคาร์ลเดี๋ยวเลี้ยงเอง"ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!ร่างโปร่งเอ่ยถามเพื่อนชายที่กำลังติดต่อพูดคุยกันผ่านหูฟังบลูทูธพร้อมกับลั่นไกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงสองสามนัดใส่เป้าหมาย และทุกนัดที่ยิงไปนั้นคือจุดตายร่างโปร่งซุ่มมองดูสถานการณ์สักพักเพื่อความมั่นใจว่างานของตนนั้นเรียบร้อยจริงมั้ยและแน่นอนถ้าดาร์บี้นักฆ่าอันดับต้นๆลงมือไม่มีคำว่าพลาด/ขอร้องละดาร์บี้อย่ามาชวนกูกินชาบูทั้งๆที่มึงกำลังฆ่าคนได้มั้ย ทำอย่างกับงานที่ตัวเองกำลังทำคืองานพนักงานบริษัททั่วไปพอเสร็จงานแล้วชวนกันแดกชาบู แล้วก็รีบออกมาได้แล้วยืนยิ้มภูมิใจกับผลงานอยู่นั้น/คาร์ลเอ่ยพูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเอ่ยย้ำให้ร่างโปร่งออกมาจากตรงนั้นได้แล้วเพราะลูกน้องของฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ตัวแล้ว"คาร์ลอย่าเล็งสไนเปอร์ใส่กูไอ้สัตว์"ดาร์บี้หรือชื่อเล่นจริงๆคือเซทท์เอ่ยพูดขึ้นเสียงนิ่งๆพร้อมกับหันไ...
Comments