ร่างโปร่งบางนั่งมองแชทที่พึ่งจะเด้งขึ้นมาให้เขาได้อ่านเมื่อกี้ ก็ได้แต่นั่งขมวดคิ้วงงกับข้อความแชทที่เป็นรูปของชายคนหนึ่งที่เซทท์ดูจะคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ร่างบางก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอเขาที่ไหนทักติดต่อเข้ามาในเพจรับจ้างวาดรูปและออกแบบโลโก้ว่า
"สวัสดีครับผมเป็นคนของบริษัทST.กรุปจำกัด บริษัทที่ค้าขายเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ ทางบริษัทเราสนใจผลงานของคุณD.sและอยากที่ติดต่อคุณD.sให้มาช่วยออกแบบและวาดภาพให้กับทางบริษัทของเรา ไม่ทราบว่าคุณD.sสะดวกคุยมั้ยครับ"
"เอาไงดีวะ แต่บริษัทค้าขายเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์มีงานอะไรให้เราวาด หรือจะให้เราช่วยออกแบบลายรถให้ เห๊ยมันก็ไม่ใช่มั้ยไอ้เซทท์ก็เขาบอกอยู่ว่าขายอะไหล่รถยนต์ ไม่ใช่บริษัทขายรถซะหน่อยจะจ้างให้เราไปวาดออกแบบลายรถได้ไง แล้วบริษัทนี้จะจ้างให้เราไปวาดอะไร"
พิร์ภูณกรบ่นพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย ว่าคนคนนี้จะทักมาก่อกวนหรือโกหกอะไร
"ไปกินข้าวกันมั้ย"เซทท์ได้แต่ยืนนิ่งงงกับคำถามของคนตรงหน้าตาปริบๆ นัยน์ตาใต้กรอบแว่นจ้องมองใบหน้าคมเข้มของคนตรงหน้าด้วยสายตาสงสัยปนงงงวย ใบหน้าหวานแสดงสีหน้าและท่าทางตกใจและไม่เข้าใจให้คนตัวสูงได้เห็นอย่างชัดเจน"เอ่อ...คือคุณมังกรครับผมมาที่นี้เพื่อที่จะคุยงานนะครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยขึ้นเพื่อเตือนสติของคนตัวสูงพลางมือบางก็ยังคงพยายามที่จะชักมือออกจากการจับกุมของมังกรอยู่เรื่อยๆโอ๊ยยยยยนี้มือคนหรือมือปลาหมึกเนี่ยจับแน่นชะมัด"ครับผมรู้ว่าคุณมาเพื่อคุยงาน"มังกรเอ่ยตอบขึ้นอย่างยิ้มๆก่อนที่จะยอมปล่อยมือของคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ ทันทีที่คนตัวสูงปล่อยมือของเซทท์ให้เป็นอิสระเซทท์ก็รีบถอยห่างจากโต๊ะทำงานของคนตัวสูงทันที
ตึง ตึง ตึงเสียงการแจ้งเตือนของเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นไม่หยุดหย่อนทำให้พิร์ภูณกรที่กำลังสาละวนอยู่กับการร่างแบบภาพนั้นรู้สึกหงุดหงิดกับบุคคลเจ้าปัญหาที่หลายวันมานี้ก่อกวนเขาไม่หยุดน่ารำคาญจริง!เซทท์เอื้อมมือไปคว้ามือถือเจ้าปัญหาที่ดังรบกวนสติสมาธิเขาไม่หยุดหย่อน ก่อนที่คิ้วสวยจะกระตุกหยิกๆเมื่อเห็นข้อความที่ตัวปัญหาส่งมาถึงเขาตลอดตั้งแต่เช้าตรู่06.12"คุณเซทท์ตื่นยังคงรับ"07.13"คุณเซทท์วันนี้ว่างมั้ยครับ"08.01"คุณเซท์ทวันนี้จะเ
"อื้มมมส์ อ่าาาส์ เบา ห...หน่อยค่ะ"เสียงครางหวานของหญิงสาวดังเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามเสียงไว้ไม่อยู่ เมื่อโดนนิ้วเรียวงามเล่นงานเข้าออกที่ช่องทางลับอย่างรัวเร็วจนเจ้าหล่อนนั้นแทบจะยืนทรงตัวไว้ไม่อยู่เพราะความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มหน้าหวานมอบให้อ่าาาไม่เสียแรงเลยที่หล่อนยกแก้วเครื่องดื่มชักชวนชายหนุ่มหน้าหล่อคนนี้มาทำเรื่องอย่างว่า แรกๆหล่อนคิดว่าชายหนุ่มหน้าหล่อหวานคนนี้คงใสซื่อไร้ประสบการณ์ ที่หล่อนชักชวนชายหนุ่มคนนี้เพราะหน้าตาของชายหนุ่มล้วนๆ ไม่ได้นึกคิดถึงความเด็ดดวงเลยสักนิด แต่ตอนนี้หล่อนคงต้องคิดใหม่เพราะดูจากความช่ำชองที่ชายหนุ่มหน้าหล่อคนนี้มอบให้หล่อนในตอนนี้แล้วเจ้าตัวคงจะมีประสบการณ์มามากพอสมควร"ผมไม่จูบครับ"เสียงทุ้มใสของพิร์ภูณกรเอ่ยห้ามขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับเบือนหน้าหนีริมฝีปากอวบอิ่ม เมื่อหญิงสาวเงยหน้าหมายมั่นจะประทับ
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นวะ!เซทท์นั่งเหม่อลอยมึนงงอยู่ที่ปลายเตียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่หาย ตอนนี้ร่างโปร่งกำลังนั่งเหม่อมองไปยังประตูห้องน้ำที่มีคนตัวสูงอย่างมังกรกำลังอาบน้ำชำระล้างร่างกายอยู่ข้างใน"เมื่อกี้กูโดนไอ้ลูกค้าบ้านั้นดึงไปจูบหรอวะ"ปากเล็กบ่นพึมพำไม่หยุดพลางมือบางยกขึ้นมาแตะสัมผัสที่ริมฝีปากของตัวเองที่ตอนนี้ได้มีรอยแตกและเลือดซิบอยู่หน่อยๆแกร๊กเสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นเรียกสติของคนตัวเล็กให้หันไปมองดูอย่างอัตโนมัติ คนตัวสูงที่ก้าวเดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำ ในมือหนามีผ้าขนหนูผืนเล็กคอยเช็ดผมที่เปียกชุ่ม ดวงตาคมเหลือบมองมาที่ร่างบางด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนที่มังกรจะก้าวเดินอย่างสุขุมมาหยุดอยู่เบื่องหน้าของคนตัวเล็กเซท
พิร์ภูณกรที่รู้สึกตัวลืมตาตื่นในช่วงสายของอีกวันก็พยายามดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากเมื่อความปวดราวตามร่างกายแล่นเข้ามาเล่นงานเขา ร่างโปร่งที่ยันตัวลุกขึ้นนั่งเรียบร้อยไล่สายตาสังเกตมองรอบๆห้อง ก่อนที่นัยน์ตาสวยจะหยุดที่ชายหนุ่มตัวสูงที่นอนคว่ำโชว์แผ่นหลังกว้างที่แต่งแต้มไปด้วยรอยสักรูปมังกรเต็มแผ่นหลังอยู่ข้างๆเขาฆ่าเลยดีมั้ยความคิดนี้ดังขึ้นในหัวของร่างบางทันทีเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ฉายซ้ำเข้ามาในหัวของเขาไม่หยุดหย่อน ภาพที่ไอ้บ้ามังกือนี้กระแทกกระทั้นเข้ามาในตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพที่ไอ้บ้านี้มันปลดปล่อยน้ำของมันเข้ามาในตัวเขาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ และภาพสุดท้ายที่เขาจำได้คือไอ้หมอนี้ยังคงขยับเอวรัวเข้าใส่ที่ช่องทางด้านหลังของเขาไม่หยุดไอ้บ้านี้มันกระทำชำเราเขาจนสลบคาที่มันน่าแค้นใจนัก!
อชิตพลที่รู้สึกตัวจากห้วงความฝันก็ขยับวงแขนแกร่งเพื่อควานหาคนตัวเล็กที่ร่วมหลับนอนกับเขาเมื่อคืนแต่ไม่ว่ามือหนาจะปัดป่ายไปที่ใดก็ไม่พบกายอุ่นของคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างๆเขาเมื่อคืนเลยเมื่อมังกรที่สัมผัสหาคนข้างกายไม่เห็นก็รีบลืมตาตื่นขึ้นก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดสายตาคมมองสำรวจไปทั่วทั้งห้องเพื่อมองหาพิร์ภูณกรแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของคนตัวเล็กสายตาคมที่กวาดมองรอบๆห้องจำต้องมาสะดุดที่แบงก์สีเทาสามใบที่วางอยู่บนหัวเตียง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปหยิบแบงก์สีเทาสามใบมามองดู ในหัวก็ต่างคิดว่าเขามาวางเงินพวกนี้ไว้ที่หัวเตียงตอนไหน แต่ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เพราะตัวเขาเองก็ไม่เคยที่จะวางเงินไว้มั่ว เป็นไปไม่ได้ที่แบงก์พันสามใบนี้จะเป็นเขาที่มาวางทิ้งไว้ตรงนี้แต่เดี๋ยวนะ! ถ้าไม่ใช่เขาว่างเงินสามพันนี้ไว้บนหัวเตียง งั้นแสดงว่าเงินสามพันนี้คือเงินค่าตัวของเขาที่เ
อชิตพลเวลาล่วงเลยผ่านไปสามวันหลังจากที่ผมได้มีอะไรกับเด็กคนนั้น ผมก็ไม่ได้เจอหน้าของเซทท์อีกเลย ไม่ว่าจะติดต่อหรือทักหาเด็กดื้อ เด็กดื้อก็ไม่ยอมตอบผม มีแต่แชทตอบเมทีเกี่ยวกับเรื่องงานบางครั้งบางคราว ส่วนแชทของผมเด็กดื้อเลือกที่จะปล่อยเบลอไม่แม้แต่จะเปิดอ่านสักนิดกึก กึก กึกเสียงเคาะปากกาดังขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อผมเคาะมันลงกับโต๊ะทำงานอย่างคนกำลังกระวนกระวายใจ มือของผมยังคงจับปากกาเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างสม่ำเสมอ ในหัวก็พลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะทำให้เด็กดื้อเชื่อฟังและอยู่ใต้บัญชา แต่ไม่ว่าจะครุ่นคิดอย่างหนักเท่าไหร่ผมก็ยังคงคิดไม่ออกว่าจะทำให้เด็กเซทท์หันมาเชื่อฟังผมได้ยังไง"เฮ่ออออ"ผมถอนหายใจอย่างคนปลงใจพลางเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักของโต๊ะทำงานที่ภายในลิ้นชักมีกล่องสี่เหลี่ยมขนา
ตึก ตึก ตึกเสียงสองเท้าวิ่งกระทบกับพื้นอย่างร้อนรนพร้อมกับร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าขาวที่ดูอ่อนกว่าอายุมีหยาดเหงื่อไหลย้อนลงตามกรอบหน้า พิร์ภูณกรที่ได้รับสายจากเพื่อนสนิทแล้วรู้ข่าวคราวที่เกิดขึ้นกับเพื่อนหลังออกปฏิบัติภารกิจเดี่ยว ก็รีบร้อนตรงดิ่งมาหาเพื่อนยังห้องทันทีปัง!"องศา!!!"เซทท์ที่เปิดประตูห้องพร้อมกับเรียกชื่อขององศาขึ้นมาสุดเสียงก็แทบสตั้นกับภาพตรงหน้าที่ตัวขององศาแทบจะขึ้นไปนอนกายบนร่างของชายอีกคนแถมใบหน้าของคนทั้งสองก็ห่างกันไม่มากแทบจะจูบกันอยู่แล้ว"เห๊ยยยยมันเป็นอุบัติเหตุนะโว๊ยยยเซทท์ไม่ใช่อย่างที่มึงเห็นนะ!""โอ๊ยยยยคุณแผลผม"องศาที่ตกใจกับการมาของเพื่อนสนิ
พิร์ภูณกรนัยน์ตาคู่งามไล่เหลือบมองอาวุธหลากหลายชนิดที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยกลางห้อง มือบางไล่หยิบอาวุธแต่ละชิ้นขึ้นมาตรวจทรานเช็กดู ทีละชิ้นๆเพื่อดูความเรียบร้อยในการจะใช้งาน ก่อนที่จะจัดการนำมาซุกซ่อนตามลำตัวของตัวเองแล้วหันไปมององศาที่กำลังกดเปิดห้องลับที่ใช้ในการเก็บคลังอาวุธ"หามีดที่น้ำหนักถนัดมือไม่ได้เลยวะ"ผมบ่นพึมพำออกมาไม่เบานักกับตัวเองพลางนัยน์ตาคู่คมของผมก็พยายามไล่มองหามีดเล่มใหม่มาใช้แทนเล่มโปรดของผมที่ทิ้งไว้ในช่องลับลิ้นชักข้างหัวเตียงที่ห้อง"เอาของกูไปใช้มั้ยล่ะ เพราะยังไงกูก็ไม่ค่อยได้ใช้มีดเดี๋ยวกูหาเล่มใหม่ใช้"องศามันเอ่ยถามผมขึ้นพลางสายตาของมันก็ไล่มองหาอาวุธที่จะพกไปลุยในการใหญ่ครั้งนี้มีดพกเล่มที่มันพูดว่าจะให้ผมมาใช้คือเล่มที่ทางองค์กรทำขึ้นมาและมอบให้เป็นอาวุธประจำกายของแต่ละคน เป็นมีดที่น้ำหนักเบาและใช้งานง่าย คนขององค์จะมีกันทุกคน และถือว่ามีดเล่มนี้เป็นตราสัญลักษณ์ของนักฆ่าองค์กรXD"ไม่เป็นไร กูหาเล่มที่น้ำหนักเบาคล้ายๆกันได้ล่ะ"ผมเอ่ยปฏิเสธมันไปพร้อมกับจับมีดเล่มที่น้ำหนักเบาพอๆกับมีดพกเล่มเก
ด้านองศาและพิร์ภูณกรสองหนุ่มร่างสูงโปร่งย่างเท้าเหยียบย้ำเข้าอานาเขตประเทศที่คุ้นเคย ประเทศที่เขาและองศาเติบโตประเทศที่พวกเขาทั้งสองอาศัยมาตั้งแต่เด็กประเทศที่พวกเขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ต่างๆมากมายและเป็นประเทศที่มีองค์กรXDตั้งอยู่ประเทศที่เขาไม่คิดว่าจะได้กลับมาเหยียบอีกครั้งที่เขาไม่คิดว่าจะกลับมาเหยียบที่ประเทศนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบหรือเกลียดชังประเทศนี้ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากกลับมาเพราะองค์กรเฮงซวยXDต่างหากล่ะองค์กรสารเลวนั่นหลังจากที่ผมกับองศาเคลียร์กันเรื่องที่องศาได้เปิดร่องรอยของตัวเองให้กับทางองค์กรรู้ พวกผมก็ตัดสินใจที่จะตีตัวออกห่างจากมังกรและภูเขาและเลือกที่จะจะพากันหายมาอย่างเงียบๆแล้วซ่อนร่องรอยของตัวเองไม่ให้คนทั้งสองได้ตามหาเจอเพื่อที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ เพราะไม่อยากให้ทางองค์กรเพ่งเล็งไปเล่นงานชายทั้งสอง เพราะฉะนั้นผมกับองศาถึงได้จากมาอย่างเงียบๆโดยที่ไม่เอาของมาหรือเอ่ยลาใดๆกับพวกเขา
อชิตพล"เซทท์!/องศา!"ผมอุทานชื่อเล่นของพิร์ภูณกรขึ้นพร้อมกับที่ไอ้ภูเขาอุทานชื่อเพื่อนชายคนสนิทของเซทท์ที่มักจะแวะเวียนมาหาที่ห้องบ่อยๆ แต่เดี๋ยวนะไอ้ภูเขามันรู้จักเพื่อนชายคนนี้ของเซทท์งั้นหรอ ผมขมวดคิ้วเงยหน้าไปจ้องมองไอ้ภูเขาที่ยืนเบิกตากว้างทำใบหน้างงงวยอยู่ด้านข้าง ก่อนที่ผมจะเอ่ยถามมันขึ้นว่ารู้จักกับคนที่ชื่อองศาอย่างงั้นหรอ"มึงรู้จักกับองศาเพื่อนของเซทท์อย่างงั้นหรอ""ก็องศาเนี่ยแหละเมียกู! มึงนั่นแหละรู้จักเพื่อนของเมียกูอย่างงั้นหรอ"ภูเขามันหันมาจ้องหน้าผมแล้วตอบคำถามของผมออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะถามผมกลับว่าผมรู้จักเซทท์เพื่อนเมียมันหรอจะไม่รู้จักได้ยังไงก็นั้นก็เมียกูมั้ยล่ะผมได้แต่เอ่ยตอบมันในใจเพราะตอนนี้ผมกำลังอึ้งกับสถานการณ์ในตอนนี้อยู่ เมื่อกี้ถ้าผมฟังไม่ผิดไอ้ภูเขามันบอกว่าองศาเป็นเมียมันอย่างนั้นใช่มั้ยนะ แล้วมันไปเป็นผัวเขาตอนไหนวะเนี่ย งั้นก็แสดงว่ามันก็ต้องเคยเจอเซทท์ไปหาองศาที่ห้องบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายรูปร่างสูงที่ผลักประตูอ้าออกกว้างแล้วก้าวเดินเข้ามาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของผู้เป็นนาย"เป็นไงได้เรื่องมั้ย"ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาเสียงทุ้มของอชิตพลก็เอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้น ที่ตอนนี้ได้ยืนก้มหัวลงเล็กน้อยให้เขาเพื่อเป็นการทำความเคารพ มังกรพยักหน้ารับเพียงนิด ก่อนที่มือหนาจะวางปากกาในมือลงกับโต๊ะแล้วเอนหลังไปพิงผนักเก้าอี้ นัยน์ตาคมก็สายแววจดจ้องไปยังใบหน้าของเมทีเพื่อรอคำตอบในเรื่องที่เจ้าตัวสั่งให้ไปทำภูเขาที่นั่งเฝ้ารอข่าวคราวในห้องทำงานของมังกรอยู่อย่างเงียบๆ ก็พลางลดมือถือในมือลงแล้วหันไปสนใจเมทีเมื่อคิดว่าลูกน้องคนสนิทของมังกรคงมาบอกข่าวเกี่ยวกับการหายตัวไปของเมียเขา"ได้ครับบอส""ว่ายังไง เล่ามาให้ละเอียด"ดวงตาคมยังคงจดจ้องไปยังที่เมทีอย่างนิ่งๆ สร้างความหวั่นเกรงให้คนที่ถูกจ้องอยู่ไม่น้อย เมทีข่มความหวั่นเกรงไว้ในใจก่อนที่จะเอ่ยบอกผู้เป็นนายในสิ่งที่ตัวเองไปสืบเสาะมาได้"กลุ่มคนพวกนั้นที่บอสสั่งให้ผมต
เพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือฟาดผ่านลงใบหน้าขาวนวลดังสนั่นลั่นห้อง ใบหน้าขององศาสะบัดไปตามทิศทางแรงตบของฝ่ามือขาวที่หยาบกร้านของพิร์ภูณกร"ได้สติหรือยัง"เซทท์กดเสียงต่ำเอ่ยถามเพื่อนตรงหน้าพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้ององศาด้วยแววตานิ่งๆเกิดที่จะคาดเดาหลังจากวันนั้นที่ผมกดวางสายจากองศา ผมก็นั่งทบทวนในสิ่งที่มันเอ่ยย้ำเตือน ในตอนนั้นผมยอมรับเลยว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อมังกรมันถลำลึกไปมาก มากจนเกินที่จะถอยออกมาแบบจะไม่เสียใจมันเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงแม้ว่าจะเสียใจมากแค่ไหนผมก็คงต้องทนถอยออกมาพร้อมกับความเสียใจนั้นก็อย่างที่องศามันว่าละนะ ชีวิตของพวกผมมันเน่าเฟะไม่ควรที่จะดึงใครเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย แถมยังไม่รู้ว่าตัวเองจะตายวันตายพรุ่งเพราะชีวิตของผมกับองศามันมีความเสี่ยงตลอดเวลา ไม่ควรที่จะผูกมัดไว้กับใครแต่แล้วทำไมไอ้องศามันถึงเลือกที่จะนำความตายเข้ามาใกล้ตัวเองเร็วขนาดนี้ ทำไมมันถึงเลือกที่จะเปิดตำแหน่งการเคลื่อนไหวของตัวเอง มันคิดจะทำอะไรกันแน่!องศามันยังคงเงียบไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรออกมา ใบ
วันเวลาผ่านมาช่วงสายของอีกวันร่างสูงโปร่งที่อยู่ในชุดลำลองยืนสอดส่องผ่านกล่องดูเป้าหมายจากระยะไกลบนดาดฟ้าจากตึกตรงข้าม องศาที่ได้รับการว่าจ้างให้มาจัดการนักธุรกิจการเมืองท่านหนึ่งที่ขัดแย้งกับผู้ว่าจ้างเขา ก็ได้มาสอดแนมดูกิจวัตรประจำวันของเป้าหมายเพื่อที่จะหาช่องโหว่ในการลงมือ"อืมมมแทบไม่มีช่องโหว่เลยแฮะ"เสียงใสบ่นพึมพำออกมาเบาๆพลางลดมือข้างที่ถือกล้องส่องทางไกลลงไว้ข้างตัว ก่อนที่มืออีกข้างจะลวงเอามือถือเครื่องแพงในกระเป๋ากางเกงตัวเก่งขึ้นมาติดต่อหาใครบางคน/ว่าไง/เสียงปลายสายเอ่ยถามขึ้นหลังจากกดรับสายในเขา"แทบไม่มีช่องโหว่ให้เข้าใกล้ตัวได้เลยวะ"องศาเอ่ยพูดพลางยกกล้องส่องทางไกลในมือขึ้นมาส่องดูเป้าหมายอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเหมือนเดิม/อ่อโอเคถ้างั้นมึงก็ถอยออกมาก่อน แล้วนี่มึงส่งประวัติเป้าหมายมาให้กูหรือยัง/พิร์ภูณกรเอ่ยบอกเพื่อนพลางถามองศาเมื่อเปิดอีเมลของตัวเองแล้วไม่เห็นประวัติของเป้าหมายส่งเข้ามาให้เขาเลย"กูส่งไปตั้งแต่เช้าแล้วนะ"คิ้วสวยขององศาขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำถามจากเพื่อนสนิทที่อยู่ปลายสาย ก่อนที่จะเอ่ยตอ
ณ.เวลาปัจจุบันเวลา17.19นาทีองศาร่างสูงโปร่งยืนพิงหลังกับราวระเบียงหันหน้ามองทอดเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองพลางขยับเรียวแขนข้างซ้ายที่พักพิงไว้กับราวระเบียงเล็กน้อยเพื่อยกมือที่คีบแท่งบุหรี่ขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากแล้วสูดอัดสารนิโคตินเข้าเต็มปอด ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะเผยพ่นควันสีขาวออกไปทางสีเทาปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายลมติ๊ดเสียงกดเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเมื่อนิ้วเรียวสวยข้างขวากดโทรออกหาปลายสายเมื่อมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุย รอสายไม่นานคนที่อยู่ปลายสายก็กดรับสายแต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาจนเป็นองศาที่ต้องเอ่ยทักขึ้นด้วยตัวเอง"ทำอะไรอยู่"เสียงใสเอ่ยถามพลางสูบอัดเอาสารนิโคตินเข้าไปเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันมันออกมาพลันนัยน์ตาสวยก็เหลียวมองไปยังเตียงนอนที่มีชายหนุ่มตัวสูงนอนคว่ำหน้าเผยแผ่นหลังแกร่งให้เขาได้เห็น/นอน.../เสียงเอ่ยตอบงัวเงียจากปลายดังขึ้นอย่างสั้นๆแล้วก็เงียบไปจนทำให้องศาขมวดคิ้วหน้ามุ้ยอย่างคนหงุดหงิด เมื่อรู้สึกว่าช่วงนี้เพื่อนสนิทของตนนั้นดูจะยุ่งกับการนอนซะเ
"ไปต่อกันมั้ย"...หลังจากที่องศาได้เอ่ยปากชวนผมที่ผับแบบนั้น ผมก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไปทำเพียงแค่พยุงคนที่ดื่มจนเมามายมาขึ้นรถแล้วขับออกมาจากผับแล้วตรงไปที่คอนโดของผมทันที คอนโดที่ผมไม่เคยให้ใครเข้ามาเหยียบแม้กระทั่งไอ้มังกรก็ยังไม่เคยได้เข้ามา มีองศาที่ได้เหยียบเข้ามาเป็นคนแรก ชายหนุ่มที่ผมพึ่งจะรู้จักได้ไม่นานพอผมกับองศาเหยียบก้าวเข้ามาในห้องนอนคนที่ตัวเล็กกว่าก็เล่นกระโจนเข้ามาจูบผมในทันที จนผมแทบจะตั้งรับไม่ทัน พอผมตั้งตัวได้ก็เปิดปากให้ร่างบางได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผม ก่อนที่จะดันให้องศาก้าวถอยหลังไปที่เตียงนอนแล้วผลักให้แผ่นหลังเล็กได้สัมผัสกับพื้นนอนนุ่มผมกับองศาจูบแลกลิ้นกันนัวเนียอยู่บนเตียงนอนนุ่มพลันลิ้นหนาของผมก็สอดขยับไล่ต้อนเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กในโพรงปากอุ่น ก่อนที่ผมจะผละริมฝีปากออกจากปากบางแล้วโน้มใบหน้าก้มลงมาคลอเครียร์ที่ลำคอขาวทั้งเลียและขบเม้นเพ
"เมียผมก็บอกชัดเจนแล้วนะ ว่าเขาคิดกับคุณแค่น้องชาย เพราะงั้นคุณกลับไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับเมียผมอีก"นัตน์ตาคมจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าวแสดงให้เห็นว่าเขานั้นพร้อมที่จะกระโจนเข้าหาได้ทุกเวลาถ้าเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้ายังไม่หยุดที่จะลุกล้ำเข้ามาในอาเขตของคนที่เขาเรียกว่าเมีย"กลับไปแม็กซ์"คนในอ้อมแขนแกร่งเอ่ยบอกเด็กหนุ่มตัวสูงอีกครั้งพร้อมกับเบือนหน้าหนีเลือกที่จะไม่สบสายตากับคนที่เขาเรียกว่าน้องชายเพราะกลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะใจอ่อนให้กับสายตาเศร้าสร้อยของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าแม็กซ์เขาเองก็เหมือนเซทท์ที่มักจะใจอ่อนให้กับคนที่ตัวเองเรียกน้องชาย ก็เพราะมีจุดอ่อนตรงนี้นี่แหละถึงทำให้ผมกับไอ้เซทท์เกือบตายกัน"พี่~....พี่ครับ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเศร้าสร้อยทำให้องศาที่ได้ยินแทบที่จะหันมามองใบหน้าออกไปทางฝรั่งของแม็กซ์ แต่ก็โดนฝ่ามือใหญ่ของคนตัวสูงที่อยู่ด้านหลังเลื่อนขึ้นมาปิดสายตาของเขาซะก่อน"กลับไป! แล้วอย่ามายุ่งกับเมียกูอีก"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมสาดมองไปทางแม็กซ์อย่างเชือดเฉือน แม็กซ์เองก็จ้องมองกลับอย่างไม่เกรงกลั