บทนำ
/ดาร์บี้เป้าหมายปรากฏตัวแล้วรีบจบงานแล้วรีบออกมาซะ/
เสียงของหูฟังบลูทูธแบบจิ๋วดังขึ้นแจ้งให้ร่างโปร่งที่กำลังซุ่มอยู่ในที่ลับตาคนได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเป้าหมายที่เขากำลังตามอยู่
"โอเคเห็นเป้าหมายแล้ว ว่าแต่จบงานเราไปกินชาบูกันมั้ยคาร์ลเดี๋ยวเลี้ยงเอง"
ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!
ร่างโปร่งเอ่ยถามเพื่อนชายที่กำลังติดต่อพูดคุยกันผ่านหูฟังบลูทูธพร้อมกับลั่นไกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงสองสามนัดใส่เป้าหมาย และทุกนัดที่ยิงไปนั้นคือจุดตายร่างโปร่งซุ่มมองดูสถานการณ์สักพักเพื่อความมั่นใจว่างานของตนนั้นเรียบร้อยจริงมั้ย
และแน่นอนถ้าดาร์บี้นักฆ่าอันดับต้นๆลงมือไม่มีคำว่าพลาด
/ขอร้องละดาร์บี้อย่ามาชวนกูกินชาบูทั้งๆที่มึงกำลังฆ่าคนได้มั้ย ทำอย่างกับงานที่ตัวเองกำลังทำคืองานพนักงานบริษัททั่วไปพอเสร็จงานแล้วชวนกันแดกชาบู แล้วก็รีบออกมาได้แล้วยืนยิ้มภูมิใจกับผลงานอยู่นั้น/
คาร์ลเอ่ยพูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเอ่ยย้ำให้ร่างโปร่งออกมาจากตรงนั้นได้แล้วเพราะลูกน้องของฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ตัวแล้ว
"คาร์ลอย่าเล็งสไนเปอร์ใส่กูไอ้สัตว์"
ดาร์บี้หรือชื่อเล่นจริงๆคือเซทท์เอ่ยพูดขึ้นเสียงนิ่งๆพร้อมกับหันไปมองยังตึกสูงที่เพื่อนตัวสูงของตัวเองซุ่มเล็งสไนเปอร์อยู่
/ฮ่าๆโทษที กูไม่ได้ตั้งใจจะเล็งใส่มึงกูแค่จะดูว่ามึงออกมาจากตรงนั้นหรือยัง/
คาร์ลหรือองศาเอ่ยหัวเราะขึ้นพลางอธิบายให้เพื่อนสนิทฟังเพราะตัวเขานั้นก็ไม่ได้ตั้งใจจะเล็งปืนใส่เพื่อนจริงๆ ก่อนที่จะรีบบอกให้เซทท์นั้นรีบถอยออกมาจากตรงนั้นอีกครั้งเพราะตอนนี้พวกฝ่ายตรงข้ามกำลังแห่กันออกมาแล้ว
/ถอยด่วนเลยดาร์บี้ ฝั่งนั้นแห่กันออกมาแล้ว เจอกันที่สถานที่นัดไว้นะกูก็ต้องถอยแล้วเหมือนกัน/
"เคๆเจอกัน"
เอ่ยจบพิร์ภูณกรก็รีบถอนตัวออกจากมุมลับทันที ร่างโปร่งรีบวิ่งออกไปด้านนอกเพื่อแฝงตัวกับคนปกติก่อนที่จะมองหาห้องน้ำสาธารณะแถวนั้นเพื่อเปลี่ยนชุดและจัดการแยกชิ้นส่วนของปืนและอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่างๆ
พิร์ภูณกรในรูปโฉมใหม่ที่มีแว่นตาหน้าเตอะอยู่บนใบหน้าเดินสะพายกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากห้องน้ำ ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดแขนยาวสีขาวกางเกงยีนขาเดฟสีซีดกับรองเท้าผ้าใบสีดำเดินตามท้องถนนเหมือนคนปกติทั่วไปไม่หลงเหลือคาบนักฆ่าอีกต่อไป
ร่างบางเดินตรงไปยังร้านคาเฟ่ที่อยู่ไม่ไกลนักก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปสั่งเมนูโปรดของตัวเองโดยไม่ได้สังเกตคนตัวสูงที่ยืนอยู่ก่อนหน้า
"ลาเต้ปั่นหวานน้อยแก้วหนึ่งครับ"
"ลาเต้ปั่นหวานน้อยนะคะ รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ"
"ไม่ครับ"
"75บาทค่ะ"
เซทท์ยืนแบ่งแดงให้กลับพนักงานพอรับเงินทอนเสร็จก็เดินถอยหลังเล็กน้อยไปยืนรอเครื่องดื่มของตัวเองที่ข้างหลังลูกค้าชายอีกคน ร่างโปร่งยังคงมัวก้มหน้าแชทคุยกับเพื่อนสนิทถึงเรื่องงานที่พึ่งไปทำมา โดยไม่ได้สนใจหรือสังเกตเห็นสายตาที่จับจ้องของคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเลย
"อเมริกาโน่เย็นได้แล้วค่ะ"
"ลาเต้ปั่นหวานน้อยได้แล้วค่ะ"
"ขอบคุณครับ"ร่างโปร่งที่ได้เครื่องดื่มของตัวเองก็เดินออกมาจากร้านก่อนที่จะตรงไปขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเพื่อนที่จอดรออยู่ด้านนอก
ชายร่างสูงนั่งไข่วห้างอยู่ด้านหลังรถยุโรปคันหรู สายตาคมมองดูมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ที่เจ้าของลาเต้ปั่นหวานน้อยพึ่งจะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็วสูงจนลับสายตา
นัยต์ตาคมมองแก้วกาแฟในมือพลางกระตุกยิ้มขึ้นอย่างพอใจก่อนที่จะเอื้อนเอ่ยพร้อมออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
"หึ! ไม่ได้รู้สึกถูกใจใครแบบนี้มานานแล้ว ไปจับตัวมาให้ฉัน จะลากมาหรือยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ได้รับบาดเจ็บ"
ร่างสูงร้อยแปดสิบเก้าก้าวเดินเข้ายังบ่อนกาสิโนอย่างคุ้นเคยโดยมีชายชุดดำเกือบสิบคนคอยเดินตามหลัง ส่งผลให้คนที่มองมายังร่างสูงรู้สึกว่าคนตัวสูงนั้นน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวไม่อยากเข้าไปใกล้หรือเข้าไปยุ่งนัยต์ตาดำขลับกวาดมองรอบๆเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนที่จะเดินตรงไปยังลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้นที่ห้องทำงานของตัวเองอยู่ทันที"เรื่องที่ฉันสั่งถึงไหนแล้ว"เสียงทุ้มน่าเกรงขามเอ่ยถามถึงงานที่สั่งกับลูกน้องคนสนิททันทีที่นั่งลงยังเก้าอี้ในห้องทำงาน"ขอโทษครับบอส คนของเรายังหาคนที่บอสสั่งให้ไปจับตัวยังไม่เจอเลยครับ"เมทีเอ่ยตอบผู้เป็นนายตามความจริงถึงงานที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปจับตัวชายผู้หนึ่งแล้วจะให้พวกเขาทำยังไงได้ล่ะครับก็คนที่นายสั่งให้ไปจับตัวมานั้น พวกเขาไม่รู้ทั้งชื่อไม่มีทั้งรูปให้ดูไม่รู้ประวัติอะไรเลย รู้แค่สิ่งที่บอสบอกว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นผิวขาวรูปร่างโปร่งแค่นั้นแล้วจะให้พวกเขาหาตัวเจอภายในวันสองวันได้ยังไงกันปัง!"ไร้ประโยชน์!"เสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเปร่งออกมาพร้อมกับเสียงฝ่ามือทุบลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง บ่งบอกว่าผู้เป็นนายนั้นไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ยิน"ขอโทษครับบอสเดี๋ยวผมจะเร่งให้ลูกน้อง
เวลา18:47นาทีณ.คาเฟ่แห่งหนึ่งพิร์ภูณกรที่ในชุดลำลองกำลังนั่งขีดเขียนรูปภาพในไอแพดที่ตัวเองพกมาด้วยจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ๆก็มีชายหนุ่มใบหน้าคมในชุดนักศึกษาเดินมานั่งลงคิ้วสวยทั้งสองข้างของเซทท์ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย ดวงตาใสใต้กรอบแว่นจ้องมองไปยังหนุ่มน้อยหน้ามนที่นั่งยิ้มส่งสายตาหยอกเย้ามาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ"น้องมีอะไรหรือเปล่าครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามหนุ่มน้อยที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นก็ยังคงจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยด้วยสายตาไม่พอใจ"น้องเนิงอะไรกัน ผมว่าเราน่าจะอายุพอๆกันดีไม่ดีผมอาจจะอายุกว่าคุณด้วยซ้ำ เออจริงสิ ผมชื่อบิ๊กนะอยู่ปี4เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆคาเฟ่นี้นายชื่ออะไรอ่ะแล้วเรียนที่มหาลัยไหนหรอ"หนุ่มน้อยหน้าคมยังเอ่ยพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับแนะนำตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อและข้อมูลของเจ้าของโต๊ะที่ตัวเขาถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ"แล้วทำไมผมต้องบอกคุณ"เซทท์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ ในใจก็พลางคิดไปด้วยว่าไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนเขาอุสาหลบม
ร่างโปร่งที่กดตัดสายขององศาก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับเหล่าชายชุดดำที่ยืนดักหน้าดักหลังเขาอยู่"พวกคุณเป็นใคร"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามพวกชายชุดดำตรงหน้าขึ้นอย่างนิ่งๆ มือบางกำกระชับสายกระเป๋าที่สะพายไว้แน่น สายตาใต้กรอบแว่นก็รอบมองหาช่องว่างที่จะหนีห้าคน ไม่สิ! มีอีกคนนั่งอยู่บนรถพิร์ภูณกรมองสำรวจและคิดในใจ คนตัวเล็กไล่นับชายชุดดำที่ล้อมหน้าล้อมหลังก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับชายตัวอีกคนที่นั่งจ้องมองสถานการณ์อยู่บนรถไม่ไกลเอาไงดีวะ ด้านหน้ามีสามคนด้านหลังอีกสองบนรถอีกหนึ่ง มันพกปืนกันทุกคนด้วยสิ คิดสิเซทท์ คิดสิเอาเป็นว่าถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด สักสิบนาทีก็ยังดี สิบนาทีคงพอสำหรับรอให้องศามาช่วยเซทท์ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นจำต้องหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วเบี่ยงตัวหลบจากชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งมาที่ตัวเขา ก่อนที่เท้าสวยจะยกขึ้นถีบเต็มแรงเข้าที่สีข้างของชายชุดดำคนนั้น จนทำให้มันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะความจุกไปสักพักนอกจากจะไม่ได้คำตอบอะไรจากกลุ่มชายชุดดำตรงหน้าแล้ว คนพวกนั้นยังเล่นเขาที่เผลอด้วย"ใครส่งพวกมึงมา!"พิร์ภูณกรเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ
เพล้ง!!!"ไร้ประโยชน์!!!"เสียงทุ้มทรงอำนาจตวาดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียพร้อมกับเสียงแจกันที่กระแทกฟาดฝาผนังจนแตกด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายที่ขว้างมันเฉียดผ่านหัวลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเรียกหน้ากระดานกันอยู่ห้าคน"ขอโทษครับบอสผมผิดพลาดเอง"เมทีลูกน้องคนสนิทก้มหน้าเอ่ยรับความผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะเขานั้นดันคาดการณ์ผิดเองไม่คิดว่าผู้ชายคนที่นายสั่งให้ไปจับตัวจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดนี้ จึงเอาคนไปแค่ห้าคน จนทำให้งานที่นายสั่งในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าอชิตพล หันมามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตานิ่งๆก่อนที่นัยน์ตาคมจะหันกลับมาไล่สังเกตสภาพลูกน้องแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้สักคน รวมทั้งเมทีที่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขาด้วย"เฮ่ออออ...ออกไปให้หมด!"ผู้เป็นนายถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ทำงานดังเดิมแล้วเอ่ยถามถึงเรื่องงานอีกอย่างที่เขาสั่งกับเมที"งานอีกอย่างที่สั่งถึงไหนแล้ว"มังกรเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นทันทีที่ลูกน้องทั้งห้าคนออกจากห้องไป คนตัวสูงเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะก่อนที่จะรับปากกาที่เมทีส่งให้มาเซ็น"นักฆ่าคาร์ลตอบมาแล้วครับบอส"ร่างสูงชะงักมือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ทัน
สถานที่งานประมูลภาพ/ดาร์บี้ได้ยินมั้ย/เสียงหูฟังบลูทูธรูปแบบคล้ายตู้มหูที่ร่างโปร่งสวมใส่อยู่ที่ใบหูเล็กดังขึ้น ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดสูทเรียบหรูบนใบหน้ามีแว่นสายตาประดับอยู่ก้าวเดินสำรวจรอบๆงานอย่างช้าๆ เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ไว้ เผื่อยามจำเป็นในการลงมือผิดพลาด ถึงแม้มันจะไม่มีวันผิดพลาดก็เถอะ"อืม"ดาร์บี้ครางรับในลำคอเบาๆพร้อมกับพยักหน้าให้กับบริกรที่เดินถือถาดเครื่องดื่มชั้นดีเสิร์ฟให้แขกในงานเป็นเชิงขอเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง แต่ความจริงในการพยักหน้านั้นคือการตอบคาร์ลที่กำลังส่องสไนเปอร์รอบมองทั่วงาน และการส่องเลงปืนมานั้นรวมถึงการส่องเลงมาที่เขาด้วยบอกไม่เคยจำ!ร่างโปร่งที่รับแก้วไวน์จากบริกรหนุ่มไว้ในมือ ก็หันมองรอบๆ
ร่างโปร่งบางที่อยู่ชุดสูทเรียบหรูก้าวเดินตามหลังชายวัยกลางคนอย่างเงียบเฉียบ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองด้านหลังของเป้าหมายด้วยแววตานิ่งสงบเกินที่จะคาดเดา มือบางถือมีดประจำกายที่ตัวเองมักจะใช้ปลิดชีพเป้าหมายเป็นประจำ สองขายาวก็พลันก้าวเดินเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายเปิดประตูกำลังผลักให้อ้าออกกว้างมือบางข้างที่มีมีดยกขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเป้าหมายจำต้องชะงักเปลี่ยนมาล็อกคอปิดปากชายเป้าหมายแทนแล้วผลักดันชายวัยกลางคนที่กำลังดีดดิ้นให้เข้าไปในห้องปิดประตูแล้วลงกลอน เมื่ออยู่ๆก็มีชายชุดดำนับสิบคนเดินมาทางพวกเขาเหมือนกำลังตามหาใครสักคน"บ้าชิบ!ผิดแผนไปหมด"ดาร์บี้สถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่ือแผนลอบฆ่าของเขาพังลงไม่เป็นท่า จนต้องหันมาเผชิญกับเป้าหมายโดยตรง ยังดีที่เป้าหมายของเขาไม่ได้พกลูกน้องหรือบอดี้การ์ดมาคุยงานในครั้งนี้ด้วย เพราะเห็นคาร์ลบอกว่างานที่พวกเขาทั้งสองตกลงจะซื้อขายกันมันเป็นของล็อตใหญ่จึงต้องคุยกันอย
ร่างโปร่งบางที่อยู่ชุดสูทเรียบหรูก้าวเดินตามหลังชายวัยกลางคนอย่างเงียบเฉียบ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองด้านหลังของเป้าหมายด้วยแววตานิ่งสงบเกินที่จะคาดเดา มือบางถือมีดประจำกายที่ตัวเองมักจะใช้ปลิดชีพเป้าหมายเป็นประจำ สองขายาวก็พลันก้าวเดินเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายเปิดประตูกำลังผลักให้อ้าออกกว้างมือบางข้างที่มีมีดยกขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเป้าหมายจำต้องชะงักเปลี่ยนมาล็อกคอปิดปากชายเป้าหมายแทนแล้วผลักดันชายวัยกลางคนที่กำลังดีดดิ้นให้เข้าไปในห้องปิดประตูแล้วลงกลอน เมื่ออยู่ๆก็มีชายชุดดำนับสิบคนเดินมาทางพวกเขาเหมือนกำลังตามหาใครสักคน"บ้าชิบ!ผิดแผนไปหมด"ดาร์บี้สถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่ือแผนลอบฆ่าของเขาพังลงไม่เป็นท่า จนต้องหันมาเผชิญกับเป้าหมายโดยตรง ยังดีที่เป้าหมายของเขาไม่ได้พกลูกน้องหรือบอดี้การ์ดมาคุยงานในครั้งนี้ด้วย เพราะเห็นคาร์ลบอกว่างานที่พวกเขาทั้งสองตกลงจะซื้อขายกันมันเป็นของล็อตใหญ่จึงต้องคุยกันอย
สถานที่งานประมูลภาพ/ดาร์บี้ได้ยินมั้ย/เสียงหูฟังบลูทูธรูปแบบคล้ายตู้มหูที่ร่างโปร่งสวมใส่อยู่ที่ใบหูเล็กดังขึ้น ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดสูทเรียบหรูบนใบหน้ามีแว่นสายตาประดับอยู่ก้าวเดินสำรวจรอบๆงานอย่างช้าๆ เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ไว้ เผื่อยามจำเป็นในการลงมือผิดพลาด ถึงแม้มันจะไม่มีวันผิดพลาดก็เถอะ"อืม"ดาร์บี้ครางรับในลำคอเบาๆพร้อมกับพยักหน้าให้กับบริกรที่เดินถือถาดเครื่องดื่มชั้นดีเสิร์ฟให้แขกในงานเป็นเชิงขอเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง แต่ความจริงในการพยักหน้านั้นคือการตอบคาร์ลที่กำลังส่องสไนเปอร์รอบมองทั่วงาน และการส่องเลงปืนมานั้นรวมถึงการส่องเลงมาที่เขาด้วยบอกไม่เคยจำ!ร่างโปร่งที่รับแก้วไวน์จากบริกรหนุ่มไว้ในมือ ก็หันมองรอบๆ
เพล้ง!!!"ไร้ประโยชน์!!!"เสียงทุ้มทรงอำนาจตวาดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียพร้อมกับเสียงแจกันที่กระแทกฟาดฝาผนังจนแตกด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายที่ขว้างมันเฉียดผ่านหัวลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเรียกหน้ากระดานกันอยู่ห้าคน"ขอโทษครับบอสผมผิดพลาดเอง"เมทีลูกน้องคนสนิทก้มหน้าเอ่ยรับความผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะเขานั้นดันคาดการณ์ผิดเองไม่คิดว่าผู้ชายคนที่นายสั่งให้ไปจับตัวจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดนี้ จึงเอาคนไปแค่ห้าคน จนทำให้งานที่นายสั่งในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าอชิตพล หันมามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตานิ่งๆก่อนที่นัยน์ตาคมจะหันกลับมาไล่สังเกตสภาพลูกน้องแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้สักคน รวมทั้งเมทีที่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขาด้วย"เฮ่ออออ...ออกไปให้หมด!"ผู้เป็นนายถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ทำงานดังเดิมแล้วเอ่ยถามถึงเรื่องงานอีกอย่างที่เขาสั่งกับเมที"งานอีกอย่างที่สั่งถึงไหนแล้ว"มังกรเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นทันทีที่ลูกน้องทั้งห้าคนออกจากห้องไป คนตัวสูงเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะก่อนที่จะรับปากกาที่เมทีส่งให้มาเซ็น"นักฆ่าคาร์ลตอบมาแล้วครับบอส"ร่างสูงชะงักมือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ทัน
ร่างโปร่งที่กดตัดสายขององศาก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับเหล่าชายชุดดำที่ยืนดักหน้าดักหลังเขาอยู่"พวกคุณเป็นใคร"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามพวกชายชุดดำตรงหน้าขึ้นอย่างนิ่งๆ มือบางกำกระชับสายกระเป๋าที่สะพายไว้แน่น สายตาใต้กรอบแว่นก็รอบมองหาช่องว่างที่จะหนีห้าคน ไม่สิ! มีอีกคนนั่งอยู่บนรถพิร์ภูณกรมองสำรวจและคิดในใจ คนตัวเล็กไล่นับชายชุดดำที่ล้อมหน้าล้อมหลังก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับชายตัวอีกคนที่นั่งจ้องมองสถานการณ์อยู่บนรถไม่ไกลเอาไงดีวะ ด้านหน้ามีสามคนด้านหลังอีกสองบนรถอีกหนึ่ง มันพกปืนกันทุกคนด้วยสิ คิดสิเซทท์ คิดสิเอาเป็นว่าถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด สักสิบนาทีก็ยังดี สิบนาทีคงพอสำหรับรอให้องศามาช่วยเซทท์ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นจำต้องหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วเบี่ยงตัวหลบจากชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งมาที่ตัวเขา ก่อนที่เท้าสวยจะยกขึ้นถีบเต็มแรงเข้าที่สีข้างของชายชุดดำคนนั้น จนทำให้มันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะความจุกไปสักพักนอกจากจะไม่ได้คำตอบอะไรจากกลุ่มชายชุดดำตรงหน้าแล้ว คนพวกนั้นยังเล่นเขาที่เผลอด้วย"ใครส่งพวกมึงมา!"พิร์ภูณกรเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ
เวลา18:47นาทีณ.คาเฟ่แห่งหนึ่งพิร์ภูณกรที่ในชุดลำลองกำลังนั่งขีดเขียนรูปภาพในไอแพดที่ตัวเองพกมาด้วยจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ๆก็มีชายหนุ่มใบหน้าคมในชุดนักศึกษาเดินมานั่งลงคิ้วสวยทั้งสองข้างของเซทท์ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย ดวงตาใสใต้กรอบแว่นจ้องมองไปยังหนุ่มน้อยหน้ามนที่นั่งยิ้มส่งสายตาหยอกเย้ามาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ"น้องมีอะไรหรือเปล่าครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามหนุ่มน้อยที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นก็ยังคงจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยด้วยสายตาไม่พอใจ"น้องเนิงอะไรกัน ผมว่าเราน่าจะอายุพอๆกันดีไม่ดีผมอาจจะอายุกว่าคุณด้วยซ้ำ เออจริงสิ ผมชื่อบิ๊กนะอยู่ปี4เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆคาเฟ่นี้นายชื่ออะไรอ่ะแล้วเรียนที่มหาลัยไหนหรอ"หนุ่มน้อยหน้าคมยังเอ่ยพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับแนะนำตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อและข้อมูลของเจ้าของโต๊ะที่ตัวเขาถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ"แล้วทำไมผมต้องบอกคุณ"เซทท์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ ในใจก็พลางคิดไปด้วยว่าไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนเขาอุสาหลบม
ร่างสูงร้อยแปดสิบเก้าก้าวเดินเข้ายังบ่อนกาสิโนอย่างคุ้นเคยโดยมีชายชุดดำเกือบสิบคนคอยเดินตามหลัง ส่งผลให้คนที่มองมายังร่างสูงรู้สึกว่าคนตัวสูงนั้นน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวไม่อยากเข้าไปใกล้หรือเข้าไปยุ่งนัยต์ตาดำขลับกวาดมองรอบๆเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนที่จะเดินตรงไปยังลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้นที่ห้องทำงานของตัวเองอยู่ทันที"เรื่องที่ฉันสั่งถึงไหนแล้ว"เสียงทุ้มน่าเกรงขามเอ่ยถามถึงงานที่สั่งกับลูกน้องคนสนิททันทีที่นั่งลงยังเก้าอี้ในห้องทำงาน"ขอโทษครับบอส คนของเรายังหาคนที่บอสสั่งให้ไปจับตัวยังไม่เจอเลยครับ"เมทีเอ่ยตอบผู้เป็นนายตามความจริงถึงงานที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปจับตัวชายผู้หนึ่งแล้วจะให้พวกเขาทำยังไงได้ล่ะครับก็คนที่นายสั่งให้ไปจับตัวมานั้น พวกเขาไม่รู้ทั้งชื่อไม่มีทั้งรูปให้ดูไม่รู้ประวัติอะไรเลย รู้แค่สิ่งที่บอสบอกว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นผิวขาวรูปร่างโปร่งแค่นั้นแล้วจะให้พวกเขาหาตัวเจอภายในวันสองวันได้ยังไงกันปัง!"ไร้ประโยชน์!"เสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเปร่งออกมาพร้อมกับเสียงฝ่ามือทุบลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง บ่งบอกว่าผู้เป็นนายนั้นไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ยิน"ขอโทษครับบอสเดี๋ยวผมจะเร่งให้ลูกน้อง
บทนำ/ดาร์บี้เป้าหมายปรากฏตัวแล้วรีบจบงานแล้วรีบออกมาซะ/เสียงของหูฟังบลูทูธแบบจิ๋วดังขึ้นแจ้งให้ร่างโปร่งที่กำลังซุ่มอยู่ในที่ลับตาคนได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเป้าหมายที่เขากำลังตามอยู่"โอเคเห็นเป้าหมายแล้ว ว่าแต่จบงานเราไปกินชาบูกันมั้ยคาร์ลเดี๋ยวเลี้ยงเอง"ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!ร่างโปร่งเอ่ยถามเพื่อนชายที่กำลังติดต่อพูดคุยกันผ่านหูฟังบลูทูธพร้อมกับลั่นไกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงสองสามนัดใส่เป้าหมาย และทุกนัดที่ยิงไปนั้นคือจุดตายร่างโปร่งซุ่มมองดูสถานการณ์สักพักเพื่อความมั่นใจว่างานของตนนั้นเรียบร้อยจริงมั้ยและแน่นอนถ้าดาร์บี้นักฆ่าอันดับต้นๆลงมือไม่มีคำว่าพลาด/ขอร้องละดาร์บี้อย่ามาชวนกูกินชาบูทั้งๆที่มึงกำลังฆ่าคนได้มั้ย ทำอย่างกับงานที่ตัวเองกำลังทำคืองานพนักงานบริษัททั่วไปพอเสร็จงานแล้วชวนกันแดกชาบู แล้วก็รีบออกมาได้แล้วยืนยิ้มภูมิใจกับผลงานอยู่นั้น/คาร์ลเอ่ยพูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเอ่ยย้ำให้ร่างโปร่งออกมาจากตรงนั้นได้แล้วเพราะลูกน้องของฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ตัวแล้ว"คาร์ลอย่าเล็งสไนเปอร์ใส่กูไอ้สัตว์"ดาร์บี้หรือชื่อเล่นจริงๆคือเซทท์เอ่ยพูดขึ้นเสียงนิ่งๆพร้อมกับหันไ