อู๋เสี่ยวหวาบรรณาการแค้วนซี

อู๋เสี่ยวหวาบรรณาการแค้วนซี

last updateLast Updated : 2025-02-18
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
Not enough ratings
17Chapters
24views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scan code to read on App

รอยยิ้มของวังหลวงแคว้นซี คือองค์ชายสิบที่ถูกถวายตัวเป็นเครื่องบรรณาการจากแคว้นที่เรืองอำนาจอย่างแคว้นเหยา ส่งมอบมาให้สวามิภักดิ์แด่องค์รัชทายาท ‘หวังซีเอ่อ’ เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม แต่มิมีผู้ใดล่วงรู้ว่ารอยยิ้มของ ‘อู๋เสี่ยวหวา' นั้นมีให้องค์รัชทายาทเพียงผู้เดียวเท่านั้น ท่ามกลางวันเวลาอันแสนสงบสุข ฮ่องเต้กลับสละราชบัลลังก์ ส่งไม้ต่อยกตำแหน่งให้หวังซีเอ่อก้าวขึ้นรับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบนับแต่ขึ้นครองราชย์ ซีเอ่อตั้งปณิธานว่าจะครองแผ่นดินโดยความชอบธรรม แต่เมื่อพรหมลิขิตให้พระชายาองค์ชายต่างแคว้นเข้ามามีอิทธิพลในการตัดสินใจต่าง ๆ จึงถูกตราหน้าข้อหาเป็นกบฏถึงขั้นประหารชีวิตโดยไร้ความเป็นธรรมในการไต่สวน ตาชั่งเมตตาธรรมอันเด็ดเดี่ยวของหวังซีเอ่อก็เริ่มเอนเอียงทันที

View More

Latest chapter

Free Preview

บทที่ 1 บรรณาการสวามิภักดิ์

วันที่ยี่สิบหกเดือนสามท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงอาทิตย์สาดส่องละลายหิมะยามเข้าสู่ฤดูวสันต์ หอสูงประดับกิเลนบนหลังคาอันเป็นเอกลักษณ์ของอําเภอควานเหลียง เด่นตระหง่านท่ามกลางแสงเหลืองทองแซมแดงสดสะท้อนประกายวาววับพร่างตา นกตัวน้อยน่ารักเกาะที่กิ่งไม้ ต้นหลิวใบเขียวสดดั่งหยกเนื้องามริมแม่น้ำโบกกิ่งไหว ตามสายลมใบไม้ผลิใบ ผู้คนบนถนนสัญจร ประกอบกับใกล้มีแม่น้ำไกลมีภูเขาปรากฏเป็นทัศนียภาพ ประหนึ่งภาพวาดวิจิตรศิลป์อันงดงามหนึ่งปีมีหนึ่งครั้ง ซึ่งก็คืองานเทศกาลอําเภอควานเหลียงที่จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพฮวาเตี๋ยน นอกจากคึกคักอย่างยิ่งแล้วยังมีความเป็นมายาวนานถึงสามร้อยหกสิบปีเล่ากันว่าเทพภูเขาลงมาท่องเที่ยวยังโลกมนุษย์ ครั้นเดินทางมาถึงสถานที่อันมีภูมิลักษณ์งดงามแห่งนี้ก็พบสามีภรรยาใจดีคู่หนึ่งให้ขนมเขากิน เทพภูเขากล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่าพวกเจ้าจะให้กําเนิดบุตรชายบุตรสาวคู่หนึ่ง ทั้งสองอยากได้ลูกมานานมาก แต่กลับไม่ท้องสักที หลังจากเทพภูเขาจากไปก็เป็นเหมือนที่เขากล่าว ทั้งสองให้กําเนิดมังกรหงส์น่ารักสดใสหนึ่งคู่จริง ๆต่อมาทั่วแคว้นทั้งหมดผู้คนเริ่มขยับขยายย้ายออกไปสร้างแผ่นดินขึ้นมาใหม่ ส่วนแคว้นเหยายัง...

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
17 Chapters
บทที่ 1 บรรณาการสวามิภักดิ์
วันที่ยี่สิบหกเดือนสามท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงอาทิตย์สาดส่องละลายหิมะยามเข้าสู่ฤดูวสันต์ หอสูงประดับกิเลนบนหลังคาอันเป็นเอกลักษณ์ของอําเภอควานเหลียง เด่นตระหง่านท่ามกลางแสงเหลืองทองแซมแดงสดสะท้อนประกายวาววับพร่างตา นกตัวน้อยน่ารักเกาะที่กิ่งไม้ ต้นหลิวใบเขียวสดดั่งหยกเนื้องามริมแม่น้ำโบกกิ่งไหว ตามสายลมใบไม้ผลิใบ ผู้คนบนถนนสัญจร ประกอบกับใกล้มีแม่น้ำไกลมีภูเขาปรากฏเป็นทัศนียภาพ ประหนึ่งภาพวาดวิจิตรศิลป์อันงดงามหนึ่งปีมีหนึ่งครั้ง ซึ่งก็คืองานเทศกาลอําเภอควานเหลียงที่จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพฮวาเตี๋ยน นอกจากคึกคักอย่างยิ่งแล้วยังมีความเป็นมายาวนานถึงสามร้อยหกสิบปีเล่ากันว่าเทพภูเขาลงมาท่องเที่ยวยังโลกมนุษย์ ครั้นเดินทางมาถึงสถานที่อันมีภูมิลักษณ์งดงามแห่งนี้ก็พบสามีภรรยาใจดีคู่หนึ่งให้ขนมเขากิน เทพภูเขากล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่าพวกเจ้าจะให้กําเนิดบุตรชายบุตรสาวคู่หนึ่ง ทั้งสองอยากได้ลูกมานานมาก แต่กลับไม่ท้องสักที หลังจากเทพภูเขาจากไปก็เป็นเหมือนที่เขากล่าว ทั้งสองให้กําเนิดมังกรหงส์น่ารักสดใสหนึ่งคู่จริง ๆต่อมาทั่วแคว้นทั้งหมดผู้คนเริ่มขยับขยายย้ายออกไปสร้างแผ่นดินขึ้นมาใหม่ ส่วนแคว้นเหยายัง
last updateLast Updated : 2025-02-14
Read more
บทที่ 2 นักเลงอันธพาลในคราบผู้ดี
ท้องฟ้ามีแสงแดดจ้าจนแสบตา แต่เพราะลานด้านหลังของหอเจิ้นเชียงสร้างกระท่อมเล็กเป็นที่พักพิงคนงานไว้ไม่น้อย และที่ว่างบนลานด้านหลังมีราวไม้ มีเสื้อผ้าเก่า ผ้าขี้ริ้ว รวมทั้งของทะเลแห้งแขวนตากอยู่เต็มไปหมด เนื่องด้วยไม่มีแดดตลอดปี กลิ่นอับคาวจึงอบอวล กลิ่นพึงประสงค์ไม่เคยจางไปจากบริเวณนั้นเลยบนพื้นแผ่นหินเป็นมันเขรอะวางกะละมังไม้ใบใหญ่ ซึ่งมีกองชามตะเกียบสกปรกกองไว้สิบกว่าคู่ ม้านั่งเตี้ยที่ไม่สามารถบอกอายุอานามได้ว่าใช้งานผ่านศึกมาเพียงใดหนึ่งตัว อีกคนต้องนั่งยองล้าง บ่อน้ำที่มีตะไคร่ และลูกยุงเจริญเติบโตหนึ่งบ่อ เหล่านี้เป็นองค์ประกอบทั้งหมดของลานหลังด้านหน้าคือภัตตาคาร มีอาหารดีรสเลิศให้ลิ้มชิมได้ไม่หมด แต่ลานด้านหลังนี้กลับมีสภาพชวนสะอิดสะเอียน น้ำเจิ่งนองเฉอะแฉะเหมือนคูน้ำเน่า หากมีลูกค้ามาเห็น ร้อยทั้งร้อยต้องอ้าปากค้างเกิดอาการไม่อยากอาหารไปเลย ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นสถานที่เดียวกันเมื่อสองนายบ่าวมาถึงในตอนแรก น่ากลัวมากว่าจะมีหนูอยู่หรือไม่ มันสกปรกเสียจนที่ให้คนยืนยังไม่มีเลย แน่นอนว่าต้าหลิวกับอังโก้วที่คอยคุมพวกเขาเห็นจนชินกันแล้ว พูดว่า“พอดีเลย พวกคนที่ทำงานล้างชามก่อนหน้าน
last updateLast Updated : 2025-02-14
Read more
บทที่ 3 บุรุษขึ้นเกี้ยวมงคล
เหตุวุ่นวายหนักจนดึงดูดผู้คนตามท้องถนนหลักพากันวิ่งเข้ามาดูในตรอก บางคนซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์“เกิดเรื่องอะไรน่ะ สู้กันดุเดือดขนาดนี้”“ได้ยินว่าท่านเจ้าเมืองต้องการอนุเพิ่มอีกล่ะ เจ้าสาวเป็นลูกสาวบ้านหยาง”“งั้นที่ต่อสู้อยู่นี่ใครล่ะ”“เฮ้อ บางทีคงเป็นคนในดวงใจของยัยหนูสกุลหยางกระมัง ถึงได้กล้าตายมาขวางอยู่อย่างนี้”แม่ค้าขายซาลาเปาพูดด้วยสีหน้าหดหู่“เวรกรรมเสียจริง ใครก็รู้ท่านเจ้าเมืองควานเหลียงมักมากที่สุด เมียนี่ก็แต่งสิบคนเข้าไปแล้ว คราวนี้ ใครจะหยุดเขาได้”ตึง! ตึง!ฆ้องเบิกทางเสียงดัง ตามด้วยเสียงกลองปานเขย่าฟ้าให้ร่วง พอเห็นทหารกลุ่มใหญ่กรูมา ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ก็รีบหลีกทางแบบลนลานคุกเข่าสองข้างถนน ไม่กล้าปากมากวิพากษ์วิจารณ์อีก ผู้ที่มาคือ ‘ใต้เท้าเฉินสวี่เหล่ย’ ข้าราชการใหญ่ของอำเภอควานเหลียง หรือท่านเจ้าเมืองนั่นเอง ปีนี้อายุสี่สิบสามรูปลักษณ์ภูมิฐาน รูปร่างอวบอั๋นมีพุง แต่สูงใหญ่ เขาสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดง นั่งบนหลังม้าตัวสูงใหญ่ วางท่าองอาจห้าวหาญคล้ายไก่ตัวผู้สวมหมวกแดง ทหารที่เขานํามามีจํานวนสี่ห้าเท่าของเจ้าหน้าที่เมื่อครู่ เข้าควบคุมสถานการณ์วุ่นวายไว้ในทันที หัวหน้าเจ้า
last updateLast Updated : 2025-02-14
Read more
บทที่ 4 บรรณาการแคว้นซี
นอกเมืองควานเหลียนไกลออกไปหลายลี้ แม่น้ำยาวสุดลูกหูลูกตาส่องประกายภายใต้แสงอาทิตย์ร้อนระอุงามล้ำเกินบรรยาย บนที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำตอนเหนือ ทหารหยานชุนปักหลักยืนกันอยู่นานค่อนวัน ธงของกองทัพปลิวสะบัด หอกดาบวาววับ ขบวนแถวเรียงเป็นระเบียบมีวินัยเคร่งครัด ธงผืนใหญ่ที่มีเพียงตัวอักษร ‘หวัง’ สีดำลวดลายมังกรสีแดงสะบัดรับลมมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือดวงหน้าหล่อเหลาคมคาย รูปร่างสูงใหญ่ เขาอยู่บนหลังม้าพันธุ์ดี ขนสีน้ำตาลแดงเงาวับ บุรุษที่เป็นผู้นํา ศีรษะสวมมงกุฎทอง สวมเกราะสีทองเป็นประกาย ชายผ้าคลุมสีแดงพลิ้วสะบัดไหว ท่วงท่าองอาจไม่ธรรมดา บุรุษในชุดเกราะหันหน้าไปทางแม่น้ำที่ดวงตะวันลอยขึ้น ดวงตาคมกริบดุจหมาป่าคู่นั้นเหลือบขึ้นเล็กน้อย แสงแดดเหลือบทองระยิบระยับที่สะท้อนอยู่ภายในนัยน์ตาของเขา“รายงาน! องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”ไม่นานเพียงหนึ่งจิบชา บุรุษสวมเครื่องแบบทหารผู้หนึ่งควบม้าเร็วตะบึงมาตามถนนหลวงประหนึ่งลูกธนู ก่อนหยุดฝีเท้าอยู่ที่เบื้องหน้าม้าพันธุ์ดีสีน้ำตาลแดง แล้วโดดลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่วคุกเข่ารายงาน“เรียนองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!” ทหารองครักษ์เงยหน้ากล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “กระหม
last updateLast Updated : 2025-02-14
Read more
บทที่ 5 ใต้ผืนฟ้าคือแผ่นดินของกษัตริย์ และข้าคือโอรสกษัตริย์แคว้นเหยา
ภายในกระโจมสีแดง อู๋เสี่ยวหวาสังเกตเห็นสีหน้าองค์รัชทายาทที่นิ่งขรึมกว่าปกติหนึ่งเท่าตัวแล้วไม่สบายใจเอามาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ยังถูกอีกฝ่ายกอดกระชับในวงแขน ไร้ที่หลบซ่อนได้ นี่คือผลของการเป็นของบรรณาการสินะ อย่างไรก็ตาม เขาเป็นถึงองค์ชายสิบแคว้นซี ออกจากวังโดยพลการเพียงเพราะอยากหลบเลี่ยงการเป็นของบรรณาการขององค์รัชทายาท ไม่แคล้วฟ้าสวรรค์บันดาล สุดท้ายก็ต้องตกเป็นขององค์รัชทายาทอยู่ดี“ท่านนี่ว่านอนสอนง่ายอยู่นะองค์ชายสิบ”หวังซีเอ่อที่อยากรังแกบุรุษหนุ่มที่เป็นของบรรณาการมาให้ตกแต่งเป็นภรรยาของเขาในอนาคตกล่าวต่อคนที่อยู่ในวงแขน ซึ่งจู่ ๆ ก็ไม่ขัดขืนอีกแล้ว“ข้าจะขัดขืนไปไย สุดท้ายก็หนีความจริงไม่พ้น”ย้อนกลับไม่ได้อีกแล้ว มาถึงแล้วยังไงล่ะ ทั้งสองถึงแม้อายุห่างกันห้าปี เติบโตกันคนละแคว้นและต่างนิสัยกัน อู๋เสี่ยวหวาคือคนที่ไม่รักษามารยาท ไม่มีเปลือกนอก ซื่อตรง ไม่ประจบสอพลอ เคารพความยุติธรรม รักษากฏ แบบที่ขุนนางใหญ่กับเหล่านางกํานัลยกย่องชมเชย ส่วนหวังซีเอ่อคือ นิ่งสงบเยือกเย็น เฉยชา เคารพผู้อื่น แตกฉานในการปกครองบ้านเมือง รักประชาราษฎร์เหมือนบุตรตนเองและบิดามารดาองค์รัชทายาทห
last updateLast Updated : 2025-02-14
Read more
บทที่ 6 สนมชายตำแหน่งเฟิ่งอี๋
หลังค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไป องค์รัชทายาทหวังซีเอ่อก็ส่งข่าวให้ฮ่องเต้แคว้นซีทรงทราบว่าพบตัวองค์ชายสิบอู๋เสี่ยวหวาแล้ว และทางนั้นก็ได้ส่งสารตอบรับกลับมาว่าโปรดดูแลองค์ชายสิบของบรรณาการให้ดีแทนน้ำใจชาวแคว้นซีด้วยพิธีต้อนรับจัดขึ้นอย่างง่าย องค์ชายสิบได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเฟิ่งอี๋ ขั้นเก้า ชั้นเอก สนมลำดับต่ำต้อยที่สุดในตำหนัก รับใช้ปรนนิบัติองค์รัชทายาทเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่อู๋เสี่ยวหวาได้เข้ามาอยู่ในวังหลวงหยานชุนในฐานะ เฟิ่งอี๋ แล้วไหนจะต้องคอยรับฟังผู้คนนินทาว่าเป็นชาวซีเป่ยไร้เกียรติ แคว้นซีเล็กต่ำต้อย แต่อู๋เสี่ยวหวาก็มิได้เก็บมาใส่ใจนักวังหลวงแคว้นเหยาหยานชุน ณ ตำหนักซิงอี๋เหล่ยหลังจากเขียนอักษรเต็มพรืดเสร็จไปอีกหนึ่งแผ่น อู๋เสี่ยวหวาวางพู่กันลง หมุนคอซึ่งปวดเมื่อยแข็งล้า บิดเอว ถามอันเต๋อจื่ออีกครั้ง“องค์รัชทายาทกลับมาหรือยัง”“ยังพ่ะย่ะค่ะ พี่โจวจือหยวนตําหนักหน้าบอกว่า ถ้าองค์รัชทายาทหวังซีเอ่อเสด็จกลับมา จะทูลให้มาที่ห้องหนังสือทันที”อันเต๋อจื่อส่งชาแดงใส่ผลเป๊ะก๊วยผสมน้ำตาลกรวดชงใหม่ ๆ หนึ่งถ้วยให้องค์ชายสิบ“องค์ชายสิบทรงกระหายหรือไม่ ทรงพักสักหน่อยเถิด ค่อยเขียนต่อดีก
last updateLast Updated : 2025-02-16
Read more
บทที่ 7.1 ดอกไม้ไม่หอมต้นไม้ไม่เขียว
หลังฝนตกหนักห้าวันติดต่อกัน ท้องฟ้าโปร่งใสเป็นพิเศษ นกกระจิบบินเข้าอุทยานตำหนักชิงอี๋เหล่ย ส่งเสียงร้องวุ่นวายไม่หยุด บ่าวรับใช้สาดน้ำที่หน้าระเบียง กวาดถูขั้นบันได วันยุ่ง ๆ เริ่มจากเวลานี้อู๋เสี่ยวหวาตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงคึกคักนี้ หลังจากหาวหวอดใหญ่หนึ่งที ก็ลูบขอบเตียงด้านนอกด้วยความเคยชิน ผิวผ้าด้านข้างเย็นเฉียบว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่“ซีเอ่อ?”เขาเลิกผ้าห่มปักดิ้นลุกขึ้นนั่งหัวฟู อันเต๋อจือรีบเดินมา รวบม่านคลุมเตียงไหมปักชิ้นงามขึ้น นางกำนัลวัยขบเผาะสี่นางเดินเข้ามารับใช้เฟิ่งอี๋ ล้างหน้า หวีผม“เฟิ่งอี๋ เมื่อคืนทรงบรรทมสนิทดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”อันเต๋อจื่อยิ้มตาหยี ขันทีอายุอานามเดียวกันกับอู๋เสี่ยวหวาที่ติดตามมารับใช้จากแคว้นซี ในคราแรกเขาไม่ได้ถูกส่งมาเฝ้ารับใช้องค์ชายสิบ จึงต้องกลับแคว้นซี แต่เขาคุกเข่าขอร้องอยู่หลายครั้ง ขอฝ่าบาททรงอนุญาตให้เขาอยู่ที่นี่ คอยรับใช้องค์ชายสิบอู๋เสี่ยวหวา ฮองเฮาแคว้นเหยาจางหรงผิงเห็นแก่เขาที่เป็นคนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ไม่เคยทอดทิ้งเจ้านายจึงอนุญาตให้อยู่รับใช้ข้างกายอู๋เสี่ยวหวาต่อ ทั้งสองตัวติดกันใช้ชีวิตเป็นบ่าวกับนายมาถึงสิบปีแล้ว ปัจจุบันเขาย
last updateLast Updated : 2025-02-16
Read more
บทที่ 7.2 ดอกไม้ไม่หอมต้นไม้ไม่เขียว
“ใช่ เห็นว่าช่วงนี้องค์รัชทายาทสนิทสนมกับเฟิ่งอี๋มากเกินไป ไม่เหมาะไม่ควร เหลียงตี้ที่เพียบพร้อมกว่า แสนสง่างามกว่า อยู่มานานกว่ากลับได้รับการปฏิบัติที่ห่างเหิน จึงได้มีรับสั่งห้ามไปหาเฟิ่งอี๋แต่เพียงผู้เดียว ให้แวะเวียนไปเยือนพระสนมนางอื่นบ้าง เฮ้อ แต่ว่าก็ว่านะ ตำหนักชิงอี๋เหล่ยเนี่ยหากขาดองค์รัชทายาทมาเยือน ดอกไม้ไม่หอมต้นไม้ไม่เขียวเลยจริง ๆ"“บังอาจนัก พวกกำเริบเสิบสานนินทานาย!”ประโยคตําหนิของอู๋เสี่ยวหวาทําให้นางกํานัลทั้งสองตกใจมาก พวกนางรีบคุกเข่าลง ก้มศีรษะคํานับขออภัย “ฟะ..เฟิ่งอี๋! โปรดให้อภัยด้วย! บ่าวไม่รู้ว่าพระองค์อยู่ตรงนี้..”“ฐานะเป็นนางกํานัลกลับปากพล่อย ดอกไม้ไม่หอม ต้นไม้ไม่เขียวอะไร หาที่ตายใช่หรือไม่!”“พวกบ่าวมิกล้าอีกแล้ว! ขอเฟิ่งอี๋โปรดไว้ชีวิตด้วยเพคะ!” นางกํานัลทั้งสองตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวทั้งตัวสั่นงันงก“ไม่ได้! ปล่อยพวกเจ้าไว้ไม่ได้! ข้าจะกราบทูลฮองเฮาให้อบรมพวกเจ้า!” อู๋เสี่ยวหวาตําหนิหนัก สั่งขันทีไล่สองคนนี้ออกไป“เฟิ่งอี๋โปรดอย่าทรงกริ้วพ่ะย่ะค่ะ วางพระทัยให้นิ่ง ๆ ”อันเต๋อจื่อพูดปลอบอู๋เสี่ยวหวา ต่อมาอู๋เสี่ยวหวาที่คล้ายกับเพิ่งได้สติคืนมามองอั
last updateLast Updated : 2025-02-16
Read more
บทที่ 8 ฮ่องเต้ที่สมบูรณ์แบบ
เลยยามไฮ่มาแล้ว ภายในห้องบรรทมของตําหนักชางชุน ขันทีถือโคมไล่ดับตะเกียงตามโต๊ะ โคมบนผนัง เหลือโคมใหญ่เพียงสองสามอันนที่ยังคงให้แสงเหลืองนวลแม้เทียนจะสั้นลงแล้ว แต่ด้วยเพราะเป็นคืนฤดูร้อน อากาศจึงยังคงอบอ้าวเกินทน ประตูหน้าต่างของห้องบรรทมล้วนเปิดไว้หมด อันเต่อจื่อย้ายเก้าอี้มานั่งข้างเตียงอู๋เสี่ยวหวาในมือถือพัดขนเป็ด คอยพัดให้องค์ชายสิบของเขาที่นอนตะแคงอยู่ช่วงกลางดึก ผู้คนพักผ่อนบรรยากาศเงียบสงบ ไม่นานนักเขาก็ง่วง ศีรษะเอนเอียง ไหล่พิงเสาเตียง ผล็อยหลับไป จึงเปิดโอกาสให้หวังซีเอ่อในชุดดำทั้งกายกระโดดเข้ามาจากทางหน้าต่างโดยปราศจากเสียง เขาเคลื่อนตัวผ่านโต๊ะ เก้าอี้ ฉากกั้นมาแบบคุ้นที่คุ้นทาง ไปหยุดยืนข้างเตียงนอนซึ่งแขวนม่านโปร่งสีฟ้านั้น หลังจากมองอันเต๋อจื่อซึ่งไร้ปฏิกิริยาแม้แต่นิดจนแน่ใจแล้วจึงเอาผ้าปิดปากออกบนตัวอู๋เสี่ยวหวาคลุมด้วยผ้าห่มสีเหลืองอ่อนปักลายดอกเก๊กฮวยทั้งผืน ใบหน้าหันออกไปด้านนอก แขนกอดหมอน ขดตัวเหมือนกับลูกแมว ด้วยความที่เตียงนั้นมีขนาดใหญ่ ทําให้ตัวเขาดูเล็กน่ารักเป็นพิเศษ อู๋เสี่ยวหวาชอบนอนริมเตียงตั้งแต่อยู่แคว้นซีแล้ว สมัยก่อนอันเต๋อจื่อจึงต้องคอยเฝ้าข้างเต
last updateLast Updated : 2025-02-17
Read more
บทที่ 9.1 สุราบุปผา พูดคุยยอดพธู
หน้าต่างฉลุลายบานนั้นมีน้ำเสียงใสแจ๋ว ท่วงทำนองเสนาะหูลอยอ้อยอิ่งมาเป็นช่วง ๆ ใครได้ฟังเป็นต้องเคลิบเคลิ้ม จิตใจล่องลอยราวกับเหินขึ้นท้องฟ้าไปอยู่ในวังจันทราเรือสำราญลำหนึ่งชื่อ ‘อิงซื่อ’ มีชื่อเสียงที่สุด มันใหญ่เป็นสามเท่าของนาวาบุปผาลำอื่น อีกทั้งยังสูงถึงสามชั้น ม่านโปร่งบางห้อยเรี่ยพื้นเล่นแสงโคมงามพร่างพราว มีคนลากเรือเปลือยท่อนบนสามสิบกว่าคนที่ริมฝั่งแม่น้ำ ลาก ‘อิงซื่อ’ ด้วยท่วงท่าเหนือชั้น ทุกครั้งที่ถึงท่าเรือจะมีแขกสวมอาภรณ์หรูหราท่าทางร่ำรวย เอาแต่ใจ ขึ้นเรือสำราญไปซื้อความสุข วางเดิมพันครั้งละพันตำลึง ใช้เงินเป็นเบี้ยหมาก แน่นอนว่าเหล่านายท่านล้วนกลับไปด้วยความพึงพอใจ ที่แห่งนี้ไม่เพียงคัดเลือกหญิงสาวมาให้อยู่เป็นเพื่อน ยังมีหนุ่มน้อยหน้าตาดี หลายแบบให้เลือกด้วย ล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกอบรมครบถ้วนทุกด้าน เหล่าหนุ่มสาวรู้จักว่าควรเอาอกเอาใจแขกอย่างไรให้ถุงเงินของคนรวยฟีบแบน จนแม้สักอีแปะเดียวก็ไม่เหลือหนุ่มสาวพวกนี้มีชีวิตสุขสำราญมาก ในจำนวนนั้นมี ‘ฟางเย่เซียน’ อายุสิบเจ็ดปี ซึ่งงามเลิศที่สุด ยังสามารถเลือกแขกได้เอง พวกเศรษฐีใหม่คหบดีบ้านนอกอ้วนพุงโลนั้นไม่เข้าตานางแม้แต่น
last updateLast Updated : 2025-02-17
Read more
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status