ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
ดูเพิ่มเติมกลิ่นอาหารของบ้านเซี่ยหอมถึงบ้านที่อยู่ห่างกันหลายจั้ง มีบางคนถึงขั้นเดินออกมาดูว่าเป็นกลิ่นอาหารจากบ้านหลังไหน พอตามกลิ่นมาถึงเห็นว่ามาจากบ้านเซี่ยก็แยกย้ายไปข่าวลือที่บ้านเซี่ยเลี้ยงสุนัขถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็รู้ว่าบ้านเซี่ยไม่มีเงิน ทว่าพวกเขากลับเอาภาระมาเลี้ยงเซี่ยซูเจี๋ยส่ายหน้าให้ท่านยายไห่ซือที่เดินมาถามหลังนางนั่งซักเสื้อ นางมี่ซือเป็นลูกสะใภ้ของท่านยายไห่ซือที่มาตามน้องชายคนรองเมื่อวานนี้ นางจึงไม่แปลกใจที่จะมีคนมาถาม ลำพังแต่ละบ้านก็อยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แต่บ้านเซี่ยกลับไปเอาภาระมาเพิ่ม“พี่สาว”เซี่ยซูเหยาที่เดินตามพี่สาวมานั่งลงข้าง ๆ กัน วันนี้นางขอเซี่ยซูเจี๋ยมาซักผ้าเองเพราะพี่สาวปวดท้อง มันจึงเป็นข้ออ้างที่เซี่ยซูเจี๋ยปฏิเสธไม่ได้“อาเหยานั่งนิ่ง ๆ นะ! รอรับผ้าก็พอ” เซี่ยซูเจี๋ยหันไปบอกน้องสาว“เจ้าค่ะ”ทว่าเซี่ยซูเจี๋ยก็คือเซี่ยซูเจี๋ย นางไม่ต้องการให้น้องสาวของนางออกแรงแม้แต่น้อย เซี่ยซูเจี๋ยหาที่นั่งให้น้องสาวก่อนจะลงมือซักเสื้อ“อาเจี๋ย ทำไมเจ้าไม่
เซี่ยห้าวไห่ยื่นเงินจำนวนเจ็ดสิบห้าอีแปะจากการนำไข่ไก่ไปขาย ให้ลูกสาวคนเล็กอย่างเซี่ยซูเหยาที่นั่งเล่นกับเจ้าเสี่ยวเฮยบนแคร่ไม้ไผ่เขาได้ปรึกษากับลูกอีกสองคนแล้วว่าเงินนี้ควรจะเป็นของเซี่ยซูเหยา หลังจากนำไข่ไก่ไปขายบางส่วน เขาก็เอากลับมาให้ลูกสาวโดยที่ไม่หักค่าไปขายเซี่ยซูเหยาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อด้วยความมึนงง คนที่เก็บเงินในบ้านคือเซี่ยซูเจี๋ย ทว่าวันนี้พ่อของนางกลับมอบเงินจำนวนหลายอีแปะให้นาง“เงินนี้ได้มากจากการขายไข่จำนวนเจ็ดสิบห้าฟอง โรงเตี๊ยมประกาศรับไข่ไก่ให้ฟองละหนึ่งอีแปะพ่อเลยลองไปดู” เซี่ยห้าวไห่ตอบอย่างละเอียด ลูกสาวจะไม่ได้ถามเขาซ้ำอีก“ให้พี่สาวเถิดเจ้าค่ะ”เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย เซี่ยซูเหยียน เซี่ยซูเจี๋ยไปรับจ้างหาเงินเข้าบ้านยังไม่เก็บไว้เอง นางจึงไม่ต้องการส่วนแบ่งนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาทุกคนก็ทำเพื่อนางมาก“พ่อกับพี่สาว พี่ชายคุยกันแล้ว” เซี่ยห้าวไห่ถอนหายใจพลางนั่งลงข้างลูกสาว เขาคิดเอาไว้แล้วว่านางจะไม่ยอมรับ“ท่านพ่อ อาเหยาอยากขายอาหาร”เซี่ยซูเหยาใ
เซี่ยห้าวไห่นั่งแทบไม่ติดแคร่ไม้ไผ่หลังจากกลับมาจากการล่าสัตว์ ท่านยายหลี่ฮัวที่อยู่ข้างบ้านบอกว่าเซี่ยซูเหยียนพาพี่สาวและน้องสาวเข้าป่าไปแล้ว ยังเล่าเรื่องที่สายรองเซี่ยมาที่บ้านอีกทว่าที่เซี่ยห้าวไห่ไม่เข้าไปตามลูก ๆ เพราะอีกไม่นานเซี่ยซูเหยียนก็คงพาพี่สาวและน้องสาวกลับมา ลูกชายคนรองของเขารู้ตัวว่าสามารถพาไปที่ไหนได้บ้าง และกว่าจะเดินทางกลับมาถึงบ้านเซี่ยห้าวไห่ก็หมดแรงแล้วผ่านไปเกือบชั่วยามเซี่ยห้าวไห่จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นลูกชายพาพี่สาวและน้องสาวกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ!”เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของเซี่ยซูเหยาที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ นางคำนวณวันตามที่พี่สาวบอกทว่าเหลืออีกตั้งสองวันไม่ใช่หรือ ทำไมรอบนี้ถึงกลับมาเร็วกว่าปกติ“อาเจี๋ย! อาเหยียน! อาเหยา!”เซี่ยซูเจี๋ยรีบเข้าไปในบ้านเพื่อทำอาหารให้เซี่ยห้าวไห่ ปกติเวลาที่เซี่ยห้าวไห่กลับมาจากการล่าสัตว์ เซี่ยซูเจี๋ยก็จะรีบทำอาหารให้ เพราะเหล่านายพรานเร่งเดินทางกลับพวกเขาจึงไม่หยุดแวะพัก ทว่า
ผ่านมาแล้วสองวันใบหน้าที่บวมช้ำของเซี่ยซูเจี๋ยก็กลับมาเป็นปกติ และทั้งสามก็ลงมือนปลูกผักเรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่วันเซี่ยห้าวไห่ก็จะกลับมา เซี่ยซูเหยาเลยอ้อนขอให้เซี่ยซูเหยียนพาเข้าป่า จริง ๆ เซี่ยซูเหยียนปฏิเสธทว่าเซี่ยซูเหยาไม่ยอมแพ้ นางอ้อนขอจนได้ไปก็ยังเป็นเซี่ยซูเจี๋ยที่เตรียมอาหารสำหรับเข้าป่าวันนี้ มีเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ไปทำงาน และท่านยายหลี่ฮัวก็อยู่ที่บ้าน เซี่ยซูเจี๋ยเลยไปขอให้ช่วยดูบ้านให้ด้วย นางไม่ไว้ใจที่จะให้น้องชายกับน้องสาวพากันไปเองปลาในถังเหลือออยู่เจ็ดตัว กุ้งอีกเป็นร้อยตัวเซี่ยซูเจี๋ยก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องพากันเข้าป่าอีก นางไม่อยากปฏิเสธน้องสาวที่ยิ้มกว้างตอนที่เซี่ยซูเหยียนอนุญาต“ครบแล้วใช่ไหม”นอกจากตะกร้าอาหารมื้อกลางวันแล้วทั้งสามก็มีตะกร้าสานสะพายคนละอัน เซี่ยซูเหยาได้ตะกร้าที่มันเล็กแต่ก็ใส่ของได้เยอะ และเซี่ยซูเหยียนก็เอาพวกมีดกับขวานไปด้วย ของพวกนี้เขาเอาติดตัวไปด้วยตลอดยามเข้าป่า“ขอรับ” เซี่ยซูเหยียนพยักหน้าเซี่ยซูเหยาไม่เอาเสี่ยวเฮยไปด้วย น้ำหนักของเสี่ยวเฮยไม่ใช่น้อย ๆ นางกลัวว่ามันจะถ่วงเวลาเดินนาง จึงเลือกที่จะขังไว้ในห้องครัว ทว่านางเทน้ำต้มข้าว น้
เป็นไปตามที่สามพี่น้องบ้านเซี่ยคิดกันจริง ๆ หลังจากฝาแฝดเซี่ยกลับไปไม่นานทั้งสามก็ได้ยินเสียงก่นด่าทอดังเข้ามาใกล้‘นังเด็กสารเลว!มา‘ท่านแม่ ท่านแม่ต้องให้ความยุติธรรมกับยุ่นเอ๋อร์นะเจ้าคะ! โฮ หลานของท่านแม่จะมีแผลไม่ได้!’‘ใช่ ๆ’‘เด็กพวกนี้มันกล้าทำขนาดนี้ ถ้าปล่อยไว้มันต้องทำอาหรงแน่ ๆ’‘นั่นสิ’“เซี่ยซูเจี๋ย!”เซี่ยซูเหยาหลบหลังพี่สาวทันทีที่เห็นกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้ ในกลุ่มมีนางซือหลิงที่ตาแดงเดินมาด้วย คาดว่าคงเห็นที่แขนลูกสาวแล้ว“ท่านย่า” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยเรียกย่าเซี่ยหรือก็คือย่ารองสกุลเซี่ย ภรรยาปู่รอง น้องชายของปู่นางท่านปู่และท่านย่าแท้ ๆ ขของพวกนางเสียไปนานแล้วท่านย่าเซี่ยคือผู้อาวุโสของสกุลเซี่ย พวกนางจึงต้องเรียกตามที่คนอื่นเรียก“เซี่ยหลินยุ่นเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเจ้าคนหนึ่ง ทำไมถึงต้องลงมือด้วย”“นางจะตีอาเหยา ข้าจึงปกป้องน้องสาวของข้าเจ้าค่ะท่านย่า” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยขึ้นเสียงเบาเซี่ยหลินยุ่นเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของท่านย่าเซี่ยที่ขึ้นชื่อว่าใจร้ายในหมู่บ้าน นางทำให้หลานสาวของท่านย่าเซี่ยมีบาดแผล ไม่รู้จะโดนอะไรบ้างยิ่งมากับนางซือหลิงและลูกชาย ลูกสะใภ้ อีกสามสี่คน เซี่ยซู
เซี่ยห้าวไห่ไปล่าสัตว์ได้สองวันแล้ว สามพี่น้องบ้านเซี่ยจึงได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง โชคดีที่บ้านไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นมาก เซี่ยห้าวไห่เลยไม่ค่อยเป็นห่วงทว่าวันนี้ผักที่ปลูกในแปลงถูกเซี่ยซูเหยียนเก็บขึ้นมาให้พี่สาวนำไปทำอาหารหมดแล้ว ทั้งสามเลยคุยกันว่าจะปลูกผักใหม่เซี่ยซูเหยาเสนอแนวคิดว่านำมูลไก่ที่มีในคอกมาผสมหน้าดินเตรียมเอาไว้ก่อนลงมือปลูก วิธีนี้จะทำให้ผักเจริญงอกงาม และไม่ใช่ว่าสามารถปลูกได้ทุกอย่าง ผักบางอย่างไม่สามารถเจริญเติบโตบนดินพวกนี้ได้ระหว่างรอเซี่ยซูเจี๋ยไปเลือกซื้อเมล็ดผัก เซี่ยซูเหยียนกับเซี่ยซูเหยาก็ช่วยกันปรับหน้าดินรอ และงานในบ้านที่ยังทำค้างไว้อยู่ เซี่ยซูเหยาก็อาสาทำก่อนพี่สาวจะกลับจริง ๆ วันนี้มีชาวบ้านมาเรียกให้เซี่ยซูเหยียนไปช่วยเก็บฟืนในป่า ทว่าที่บ้านมีน้องสาวอยู่คนเดียวเลยปฏิเสธไป แม้ตอนแรกคนที่มาเรียกจะหัวเสียก็ตามเซี่ยซูเหยาอ้าปากหาวพลางอุ้มเจ้าเสี่ยวเฮยที่นอนหลับอย่างสบายใจ อีกไม่นานนางคงอุ้มไม่ได้แล้ว ยังดีที่มันไม่ได้โตเร็วมากเมื่อวานเซี่ยซูเหยาให้เซี่ยซูเหยียนไปซื้อข้าวสารมาห้าจิน เป็นเงินหนึ่งตำลึงเงินและห้าร้อยอีแปะ เงินจำนวนนี้ต้องทำงานส
เซี่ยซูเหยามองตามเซี่ยหยุนหรงที่ถูกพี่สาวลากกลับไปด้วยความไม่พอใจ นางซือหลิงเลี้ยงลูกของนางแต่ละคนได้ดีจริง ๆถ้าจำไม่ผิดนางเคยได้ยินท่านพ่อเล่าว่าลูกสาวคนโตของนางซือหลิงแต่งออกไปก่อนที่เซี่ยซูเหยาจะเกิดซะอีก ส่วนลูกชายอีกสามคนของนางที่ไม่รวมเด็กแฝดคู่นี้เห็นว่าไม่มีการงานมั่นคง ออกไปรับจ้างอย่างเกียจคร้าน แต่มีลูกมีเมียเต็มบ้านอายุลูกชายของนางซือหลิงแต่ละคนก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว และแต่ละบ้านก็มีลูกไม่ต่ำกว่าสามคน เห็นว่ายามนี้ลูกสะใภ้ของนางก็ใกล้คลอดอีกแล้ว“พี่ชายมาแล้ว อาเหยาว่าเรากินข้าวกันเถอะ” เซี่ยซูเหยาเอ่ยขึ้น“ได้”อากาศด้านนอกมันดีกว่าในบ้านที่อบอ้าว เซี่ยซูเจี๋ยจึงยกถาดปลาย่างเกลือและน้ำจิ้ม ที่น้องสาวเตรียมของไว้ให้ปรุงออกมากินที่หน้าบ้าน ส่วยเซี่ยซูเหยายกหม้อข้าวที่หุงไว้มาตามหลังนอกจากปลาย่างเกลือและน้ำจิ้มแล้ว ยังมีผักดองและลวกผักเอาไว้กินคู่ด้วย เซี่ยซูเหยาคิดว่าเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนจะไม่ชินหากไม่มีผักหรือของที่กินประจำ“โอ้ นี่หรือปลาย่างเกลือที่อาเหยาบอก” เซี่ยห้าวไห่ที่เตรียมลงมือกินข้าวมื้อกลางวันอุทานถาม“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”มิใช่ว่าเซี่ยซูเจี๋ยไม่เคยทำให้คนในบ้
เซี่ยซูเหยากอดเข่านั่งมองเสี่ยวเฮย ที่นางเก็บกลับมาด้วย นางอ้อนพ่อของนางเกือบครึ่งวันเพื่อขอเลี้ยงลูกหมาป่าตัวสีขาวเสี่ยวเฮยมีขนสีขาวแต่ที่ไม่ได้ตั้งว่าเสี่ยวไป๋ เพราะเซี่ยซูเหยานึกถึงแม่หมาป่ากับบรรดาพี่น้องของเสี่ยวเฮยที่มีขนสีดำ นางเลยตั้งชื่อนี้ให้เสี่ยวเฮยถึงเซี่ยซูเจี๋ยไม่ต้องการให้น้องสาวเลี้ยงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ลูกหมาป่ายังเด็กมันช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น และนางก็ไม่ได้ใจดำ“ท่านพ่อ อาเหยาอยากกินปลาย่าง” เซี่ยซูเหยาหันไปบอกเซี่ยห่าวไห่ที่นั่งสานตะกร้าเซี่ยห้าวไห่สามารถทำได้หลายอย่าง ล่าสัตว์ รับจ้างทั่วไป หรือสานตะกร้าเขาก็สามารถทำได้ วันนี้เขาไม่ได้เข้าป่าเพราะเพิ่งเข้าไปเมื่อวานและของที่ได้มาก็กลัวจะกินไม่ทัน อีกทั้งไม่มีใครจ้างงาน“ทำไมไม่บอกพี่สาวทำให้ล่ะ”“อาเหยาอยากทำเองเจ้าค่ะ”เวลาเซี่ยห้าวไห่อยู่บ้านเขาจะจับตานางตลอดเวลา และไม่ต้องการให้นางทำอะไรที่เหนื่อย เซี่ยซูเหยาจึงต้องขอผู้เป็นพ่อ ส่วนพี่สาวนั้นอนุญาตแล้ว“อืม ให้พี่สาวช่วยทำด้วย”เซี่ยซูเหยาพยักหน้า อันที่จริงตอนนี้พี่สาวคงล้างทำความสะอาดปลาเสร็จแล้ว นางเลยรีบเดินไปยังหลังบ้านเพื่อหาหนิงเหมิงเฉ่ามายัดไส้ตัวปลา อ
เซี่ยซูเหยารีบเตรียมของเมื่อพ่อของนางอนุญาตและจะพาเข้าป่าไปจับปลาอีกครั้ง เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนรับจ้างชาวบ้านทำงานวันละสิบอีแปะ ทำทั้งหมดห้าวันจึงได้เงินมาหนึ่งร้อยอีแปะ ซึ่งเซี่ยซูเหยาปวดใจไม่น้อย เงินที่ได้รับน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงงานที่ได้ทำไปข้าวสาร 1 จิน เกือบสามร้อยอีแปะ ทั้งสองต้องทำงานมากกว่าครึ่งเดือนเพื่อซื้อข้าวสารให้นางกิน แล้วคนอื่นในบ้านกินเพียงน้ำข้าวต้มที่เหลืออยู่เท่านั้น หากนางไม่ใช่ผู้ตักข้าวเองเซี่ยซูเหยาไม่เข้าใจพ่อของนางเลย ทุกวันหากเข้าป่าล่าสัตว์ไปขายและเหลือไว้กินในบ้าน อย่างน้อยวันหนึ่งก็ได้เงินไม่ตำกว่าห้าสิบอีแปะ ทั้งยังใช้เวลาไม่นานและพักเหนื่อยได้ตลอดรับจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เพียงแต่ต้องใช้แรง ยังได้รับเงินที่สมควรจะได้รับน้อยมาก สู้เข้าป่าหาอาหารมากินดีกว่าได้เงินเพียงน้อยแล้วอดกินแต่นางก็ไม่ได้ถามอันใดต่อ เอาไว้เมื่อถึงเวลานั้นค่อยถาม เซี่ยซูเหยารอให้เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนหยุดพักหนึ่งวันหลังออกไปรับจ้าง และวันต่อมานางถึงอ้อนท่านพ่อเพื่อขอให้พาเข้าป่าอีกครั้ง ซึ่งท่านก็ตกลง“วันนี้พี่คงไม่ได้ไปด้วย อาเหยาระวังตัวดี ๆ นะ!” เซี่ยซูเจี๋ย
หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ทุก ๆ ครั้งที่มหาวิทยาลัยมีโครงงานศึกษาดูงานต่างประเทศ เนเน่จะเป็นตัวเลือกคนแรกที่ถูกอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกเข้าพบ แม้เธอจะไม่ต้องการก็ตามลำพังแค่ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยจนขึ้นปีสองคนเดียวก็ยากแล้ว เพื่อนในสาขาที่เรียนด้วยกันยังเหมือนจะไม่ชอบเธออีก เธอจึงชอบตัดปัญหาโดยการไม่สุงสิงกับใคร“นะ เนตรนภา เธอก็รู้ว่ายังไงถ้าไม่อ้างอิงตามคะแนนของรายวิชา เธอก็ผ่านไปได้อยู่แล้ว”เนตรนภาคือชื่อจริงของเนเน่ เธอเรียกว่าเป็นตัวท็อปอันดับต้น ๆ ของสาขาเลยก็ว่าได้ อีกอย่างก็เป็นเด็กกิจกรรมที่เข้าร่วมไม่เคยขาดจนเป็นที่เอ็นดูของเหล่าอาจารย์ครั้งนี้มหาวิทยาลัยสามารถพานิสิตไปศึกษางานเกี่ยวกับอดีตและยุคสมัยได้ถึงสิบคน ที่ไม่รวมกับอาจารย์ที่ปรึกษาของรายวิชาและอาจารย์อีกสองท่าน อาจารย์กมลนิลจึงเรียกเธอเข้ามาพูดคุย“อีกตั้งหลายวันจะมีการทำงานกลุ่มน่าจะเป็นงานสุดท้ายที่ตัดสินหรือเปล่าคะ? หนูขอกลับไปถามครอบครัวก่อนเพราะประเทศจีนต้องเดินทางไกล ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก หนูกลัวว่าที่บ้านจะไม่อนุญาตค่ะ”“ได้ ๆ”เพราะสามารถพาไปได้หลายคนเหล่าอาจารย์จึงปรึกษากันว่าคะแนนเก็บใครเยอะสุดคนน...
ความคิดเห็น