Accueil / รักโบราณ / เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา / บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

Share

บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

last update Dernière mise à jour: 2025-03-15 02:55:23

เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย

“องค์หญิง”

“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า

“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”

“ยามซื่อ!”

สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว

“เพคะ”

“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน

“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

    Dernière mise à jour : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

    Dernière mise à jour : 2025-03-15
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 1 เนเน่ เนตรนภา

    หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ทุก ๆ ครั้งที่มหาวิทยาลัยมีโครงงานศึกษาดูงานต่างประเทศ เนเน่จะเป็นตัวเลือกคนแรกที่ถูกอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกเข้าพบ แม้เธอจะไม่ต้องการก็ตามลำพังแค่ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยจนขึ้นปีสองคนเดียวก็ยากแล้ว เพื่อนในสาขาที่เรียนด้วยกันยังเหมือนจะไม่ชอบเธออีก เธอจึงชอบตัดปัญหาโดยการไม่สุงสิงกับใคร“นะ เนตรนภา เธอก็รู้ว่ายังไงถ้าไม่อ้างอิงตามคะแนนของรายวิชา เธอก็ผ่านไปได้อยู่แล้ว”เนตรนภาคือชื่อจริงของเนเน่ เธอเรียกว่าเป็นตัวท็อปอันดับต้น ๆ ของสาขาเลยก็ว่าได้ อีกอย่างก็เป็นเด็กกิจกรรมที่เข้าร่วมไม่เคยขาดจนเป็นที่เอ็นดูของเหล่าอาจารย์ครั้งนี้มหาวิทยาลัยสามารถพานิสิตไปศึกษางานเกี่ยวกับอดีตและยุคสมัยได้ถึงสิบคน ที่ไม่รวมกับอาจารย์ที่ปรึกษาของรายวิชาและอาจารย์อีกสองท่าน อาจารย์กมลนิลจึงเรียกเธอเข้ามาพูดคุย“อีกตั้งหลายวันจะมีการทำงานกลุ่มน่าจะเป็นงานสุดท้ายที่ตัดสินหรือเปล่าคะ? หนูขอกลับไปถามครอบครัวก่อนเพราะประเทศจีนต้องเดินทางไกล ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก หนูกลัวว่าที่บ้านจะไม่อนุญาตค่ะ”“ได้ ๆ”เพราะสามารถพาไปได้หลายคนเหล่าอาจารย์จึงปรึกษากันว่าคะแนนเก็บใครเยอะสุดคนน

    Dernière mise à jour : 2025-02-14
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 2 เซี่ยซูเหยา

    เนเน่ขยับตัวด้วยความอ่อนล้า ความจำล่าสุดของเธอก่อนที่จะหมดสติคือการที่เธอกลัวความมืดและกรีดร้องจนหมดสติ แต่พอลืมตาขึ้นมามันทำให้เธอถึงกับชะงัก เธอยังไม่ได้ออกจากบ้านร้างที่เก่าแก่?แต่พอมองรอบ ๆ แล้วเนเน่ต้องขยี้ตาหลายรอบ ต่อให้เป็นความมืดแต่สิ่งที่เธอจำได้ก็คือ บ้านหลังนั้นมันรกมากและกลิ่นอับชื้นก็ตีขึ้นจมูก แต่ที่นี่ไม่ใช่ และเธอยังจำได้อีกว่าเธออยู่ที่หน้าประตู ตอนนี้เธอกลับนอนอยู่บนเตียงที่มีเศษผ้าเก่า และรู้สึกถึงมือที่เล็กลง“อึก!”เนเน่ยกมือขึ้นกุมขมับทันทีที่ครามทรงจำบางอย่างไหลเข้าหัว มันเป็นความเจ็บปวดที่ร่างกายแทบจะทนไม่ไหว เกือบสิบนาทีที่เนเน่ต้องทนเจ็บปวดก่อนที่ความเจ็บปวดมันจะหายไป‘มันคืออะไร’เนเน่นอนนิ่งก่อนจะทบทวนความทรงจำที่ได้รับมา ดูเหมือนว่าเธอจะตายในบ้านที่ถูกผลักเข้าไป และตื่นขึ้นมาบนร่างของ เซี่ยซูเหยา เด็กน้อยวัยสิบหนาวในแคว้นหนาน แคว้นที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพืชผักและกำลังทหารเซี่ยซูเหยาเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวสกุลเซี่ย เป็นสกุลเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของแคว้น และอยู่ในเมืองที่เลือกได้ว่ายากจนที่สุด ต่อให้แคว้นอุดมสมบูรณ์มากแค่ไหนแต่พอห่างไกลจากเมืองหลวง

    Dernière mise à jour : 2025-02-14
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 3 เซี่ยซูเหยาหายป่วย

    เซี่ยซูเหยาท้าวคางมองหน้าบ้านด้วยความเบื่อหน่าย เข้าวันที่เจ็ดแล้วที่นางได้มาอยู่ที่นี่ แต่เพราะมีร่างกายที่อ่อนแอจึงถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน แม้แต่แสงแดดก็ห้ามโดนจนกว่าอาการจะดีขึ้นแต่ยามนี้อาการนางดีขึ้นมากแล้วเพราะได้กินน้ำแกงไก่บำรุงร่างกายเกือบทุกวัน ไหนจะการที่นางลอบออกกำลังกายในห้องนอนอีก อาการต่าง ๆ จึงไม่ค่อยมีแล้ว คงจะมีแต่ความเบื่อนี่แหละ“พี่สาว อาเหยาเบื่ิอ” เซี่ยซูเหยาหันไปบอกเซี่ยซูเจี๋ยที่ล้างผักอยู่ ผักพวกนี้จะถูกนำไปดองเก็บไว้กิน“อาเหยาเบื่อหรือ แต่ท่านพ่อไม่ให้อาเหยาออกไปไหน” เซี่ยซูเจี๋ยเงยหน้าขึ้นมองแม้ตัวน้องสาวจะบอกว่าหายดีแล้วแต่เซี่ยซูเจี๋ยกับผู้เป็นพ่อและน้องชายก็ไม่เชื่อ อาเหยาชอบบอกว่าหายดีแล้วเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง“เฮ้อ”เซี่ยซูเหยาถอนหายใจครั้งที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้ นางเบื่อจริง ๆ นะ แม้แต่งานในครัวพี่สาวก็ไม่ยอมให้นางแตะ ให้เหตุผลว่ารอให้อากาศดีกว่านี้เสียก่อน“งั้นมาช่วยพี่สาวล้างผักดีไหม พรุงนี้พี่สาวจะทำเกี่ยมฉ่าย กับซึงไฉ่ เก็บไว้กินเดือนหน้า” เซี่ยซูเจี๋ยบอกน้องสาวนางสามารถออกไปไหนมาไหนได้ แต่อาเหยาไม่สามารถออกไปได้เพราะทุกคนเป็นห่วง เซี

    Dernière mise à jour : 2025-02-14
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 4 เข้าป่า

    เซี่ยซูเหยาอดตื่นเต้นไม่ได้ นับรวมจากที่ได้คุยกับผู้เป็นพ่อ วันนี้ก็เข้าวันที่สิบแล้ว อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือไม่หนาวจนเกินไป เซี่ยห้าวไห่จึงบอกให้ลูกชายและลูกสาวเตรียมตัว เพราะจะไปด้วยกันทั้งหมดเซี่ยห้าวไห่ไม่ค่อยเป็นห่วงเซี่ยซูเหยียนเพราะไปด้วยกันทุกวัน จะเป็นห่วงก็แต่ลูกสาวอีกสองคน คนโตไม่เท่าไรเพราะเขาเชื่อว่านางเอาตัวรอดได้ ต่างจากอาเหยาที่เป็นครั้งแรกของการเข้าป่าวันนี้เซี่ยห้าวไห่จะพาไปก็จริงแต่เขาจะให้อยู่เพียงตีนป่าเท่านั้น ข้างในมันอันตราย เขาไม่สามารถช่วยลูก ๆ ได้ทั้งหมดหากเกิดอะไรขึ้นมา ลำพังพาลูกชายไปด้วยทุกวันก็ยังเป็นห่วง“พี่สาวห่อข้าวไปด้วยหรือ” เซี่ยซูเหยาเอียงคอถามจนเซี่ยซูเจี๋ยเอื้อมมือมาบีบแก้มน้องสาว น้องสาวของนางเดิมทีก็น่ารักอยู่แล้ว พอทำท่าทางแบบนี้ยิ่งน่ารักไปใหญ่“แก้มอาเหยา!” เซี่ยซูเหยาพองแก้มพลางเท้าเอว“ฮ่า ฮ่า วันนี้ท่านพ่อให้พี่สาวทำอาหารไปเผื่อด้วย” เซี่ยซูเจี๋ยตอบปกติเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนไม่ได้ห่อกับข้าวไปด้วย เพราะทั้งสองจะกลับมากินข้าวที่บ้านทุกวัน จะมีก็แต่ยามขึ้นเขาไปล่าสัตว์เท่านั้นที่เซี่ยห้าวไห่จะให้ลูกสาวทำไว้ให้“อ๋อ”เซี่ยซูเหยา

    Dernière mise à jour : 2025-02-14
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 5 ไก่ย่างสมุนไพร

    ทุกคนดูชอบกุ้งนึ่งกับน้ำจิ้มที่เซี่ยซูเหยาทำมาก โดยเฉพาะเซี่ยห้าวไห่ที่เอ่ยชมลูกสาวไม่หยุด ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เซี่ยซูเหยาจะทำอาหารให้คนในครอบครัวกินบ่อย ๆ ยามที่จะเปิดร้านอาหารจะได้ไม่มีใครกังวล และจะได้สนับสนุนนางวันนี้ทั้งเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนออกไปรับจ้างนอกบ้านไม่ได้เข้าป่าล่าสัตว์ เซี่ยซูเจี๋ยก็นำตะกร้าผ้าไปซักที่ลำธาร ซึ่งที่บ้านก็เหลือเพียงเซี่ยซูเหยาผ่านมาสามวันแล้วพ่อของนางก็ยังไม่พานางเข้าป่าอีกครั้ง แต่นางเห็นว่ายุ่งเลยไม่ได้ไปอ้อนให้พาไป กุ้งกับปลาที่จับมายังไม่หมด เปลี่ยนน้ำทุกวันจึงยังไม่ตายและสดอยู่เซี่ยซูเหยาอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้านออกไปหาผักในแปลงผัก เซี่ยซูเจี๋ยจะย่างไก่ป่าที่ได้มาหลายวันก่อนแต่นางไปซักผ้าอยู่ เซี่ยซูเหยาเบื่อย่างแบบเกลือแล้วนางเห็นว่าแปลงผักมีผักหลายชนิดที่เป็นสมุนไพร สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ไหน ๆ ในอนาคตนางต้องการจะเปิดร้านอาหารอยู่แล้ว เลยคิดค้นเมนูใหม่ของที่บ้าน แม้อาจเป็นเมนูที่หลายร้านมีก็ตาม เซี่ยซูเหยาคิดว่าต่อให้ชื่อเหมือนกันแต่วิธีปรุงหรือสูตรมันต่างกันก็เพียงพอแล้วเซี่ยซูเหยาเก็บเจียง หนันเจียง และหนิงเหมิงเฉ่า จา

    Dernière mise à jour : 2025-02-14
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 6 ช่วยชีวิตลูกหมาป่า

    เซี่ยซูเหยารีบเตรียมของเมื่อพ่อของนางอนุญาตและจะพาเข้าป่าไปจับปลาอีกครั้ง เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนรับจ้างชาวบ้านทำงานวันละสิบอีแปะ ทำทั้งหมดห้าวันจึงได้เงินมาหนึ่งร้อยอีแปะ ซึ่งเซี่ยซูเหยาปวดใจไม่น้อย เงินที่ได้รับน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงงานที่ได้ทำไปข้าวสาร 1 จิน เกือบสามร้อยอีแปะ ทั้งสองต้องทำงานมากกว่าครึ่งเดือนเพื่อซื้อข้าวสารให้นางกิน แล้วคนอื่นในบ้านกินเพียงน้ำข้าวต้มที่เหลืออยู่เท่านั้น หากนางไม่ใช่ผู้ตักข้าวเองเซี่ยซูเหยาไม่เข้าใจพ่อของนางเลย ทุกวันหากเข้าป่าล่าสัตว์ไปขายและเหลือไว้กินในบ้าน อย่างน้อยวันหนึ่งก็ได้เงินไม่ตำกว่าห้าสิบอีแปะ ทั้งยังใช้เวลาไม่นานและพักเหนื่อยได้ตลอดรับจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เพียงแต่ต้องใช้แรง ยังได้รับเงินที่สมควรจะได้รับน้อยมาก สู้เข้าป่าหาอาหารมากินดีกว่าได้เงินเพียงน้อยแล้วอดกินแต่นางก็ไม่ได้ถามอันใดต่อ เอาไว้เมื่อถึงเวลานั้นค่อยถาม เซี่ยซูเหยารอให้เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนหยุดพักหนึ่งวันหลังออกไปรับจ้าง และวันต่อมานางถึงอ้อนท่านพ่อเพื่อขอให้พาเข้าป่าอีกครั้ง ซึ่งท่านก็ตกลง“วันนี้พี่คงไม่ได้ไปด้วย อาเหยาระวังตัวดี ๆ นะ!” เซี่ยซูเจี๋ย

    Dernière mise à jour : 2025-02-16

Latest chapter

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

    เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย“องค์หญิง”“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”“ยามซื่อ!”สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว“เพคะ”“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 77 งานมงคล

    วันที่สิบเจ็ด เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่ยี่สิบเอ็ด แคว้นหนานมีงานมงคลครั้งใหญ่โดยมีฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง หรือก็คือองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ ที่สมรสกับรองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน คุณชายรองเจิ้งแห่งสกุลเจิ้งแม้จะมีเสียงกล่าวว่าไม่เหมาะสมบ้าง แต่ใครจะสนกันล่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวไม่ปราถนาที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้ ทั้งได้ยินว่านางจะออกบวชชีที่อารามนอกเมือง หากรอพี่สาวแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ผู้เป็นน้องสาวก็คงไม่ได้แต่งงานแล้วชีวิตนี้ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่แต่งให้รองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน โดยที่ไม่ต้องลดบรรดาศักดิ์เชื้อพระวงศ์หญิงอันดับหนึ่ง ยังเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นเดิม ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าเป็นคนโปรดเพียงใด ขนาดองค์หญิงรอง องค์หญิงสี่ที่แต่งไปกับเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นยังต้องลดบรรดาศักดิ์ลงเลยเสียงสนทนาเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าห้องแต่งตัวของผู้เป็นเจ้าสาว ทำให้เซี่ยซูเหยาที่แต่งตัวอยู่อดที่จะมองดูไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าคนสนิทของนางเดินทางมาถึงแล้ว“องค์หญิง”“ฟางไฉ่!”ฟางไฉ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 76 สมรสพระราชทาน

    เสียงหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบสร้างความสุขให้แก่นางกำนัลและองครักษ์ในตำหนักบูรพาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอากาศยังเย็นสบาย“ได้ยินมาว่าพี่หญิงถูกชินอ๋องแคว้นหลิงตามเกี้ยวหรือขอรับ” ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่นั่งตรงข้ามกล่าวถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ชะงักมือที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งที่ตามเกี้ยวมาตลอดห้าปีอย่างขบขัน“อืม”“พี่หญิงยังไม่ใจอ่อนให้เขาอีกหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาผู้นั่งข้างๆ พี่สาวเอ่ยถามบ้าง“ใจอ่อนอันใด นางมาปรึกษาข้าว่าอยากบวชชีอยู่เลย”แค่กๆหลายคนถึงกับน้ำพุ่งออกจากปากเมื่อได้ยินคุณหนูเจ็ดเย่กล่าว ทั้งยังหันมององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ที่นั่งจิบน้ำชาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเป็นตาเดียว“ฮ่าๆ เหตุใดสีหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” นางเพียงอยากบวชชีก็เท่านั้นเองเซี่ยซูเหยามองพี่สาวอย่างอึ้งๆ หลายปีที่ผ่านมาชินอ๋องผู้นั้นยังพิชิตใจพี่หญิงของนางไม่ได้อีกหรือ นางคิดว่าเขาจะตามเกี้ยวพี่สาวจนยอมตกลงแล้วเสียอีก“แล้วชินอ๋องแคว้นหลิงเล่า”“ชินอ๋องผู้นนั้นหรือ พี่ไล่เขากลับแคว้นหลิงแล้ว เชื้อพระวงศ์สองแคว้นควรเกี่ยวดอง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 75 พี่น้องพบหน้า

    ต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ บนเนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมาก ทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ทั่วทั้งเนินเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ที่ได้รับพระราชทานมาในยามที่ได้รับตำแหน่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วม้าสองตัวถูกบังคับตามกันขึ้นไปยังเนินเขาที่มีเหล่าองครักษ์รออยู่ตีนเขา เสียงหัวเราะของสองพี่น้องช่างทำให้ฟางไฉ่และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองเฟิงยิ้มกว้าง หลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงของพวกเขาร่าเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนก็จริงทว่าโดดเดี่ยวนักเมื่ออยู่เพียงลำพังเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เคยเรียกว่าคุณชาย คุณหนู ยามนี้กลายเป็นองค์หญิงและซื่อจื่อกันหมดแล้ว ยิ่งแต่ละคนเติบโตการมีบรรดาศักดิ์ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวคนโต ยามนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือการเป็นศิษย์ของหมอเทวดาหญิง ทั้งยังมีชื่อเรียกว่าองค์หญิงเทพธิดาจากการช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน กลับมาหาน้องสาวเพียงปีละครั้งเท่านั้นซื่อจื่อหมิงซูเหยียนพี่ชายคนรองที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะได้รับบรรดาศักดิ์อ๋องและยามนี้เ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 74 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ

    ท้องฟ้าเริ่มมืด รถม้าของจวนขุนนางต่างทยอยจอดที่หน้าประตูวังเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ยิ่งงานเลี้ยงครั้งนี้อนุญาตให้นำบุตรอนุเข้าร่วมได้ ผู้คนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ หากเป็นที่ถูกใจของเชื้อพระวงศ์อย่างน้อยก็อาจได้เป็นสนมเซี่ยซูเหยาก้าวลงรถม้าเมื่อถึงเวลาที่ควรเข้าไปด้านใน อาภรณ์ที่สวมใส่ล้วนเป็นสีแดงที่หมายถึงมงคล กลับปักหลายหงส์ที่ไม่ควรจะสวมใส่ เสด็จลุงเป็นผู้ส่งอาภรณ์นี้ให้นางเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แม้ตัวนางจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากหงส์เป็นสัญลักษณ์ของฮองเฮาที่เคียงคู่มังกร ทว่าก็ถูกลี่กงกงเอ่ยขอร้อง มิเช่นนั้นจะถูกเสด็จลุงโทษนางจึงยอมเมินเหล่าคุณหนูสกุลใหญ่ที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น ก้าวเท้าตามลี่กงกงที่นั่งเฝ้านางแต่งตัวเพื่อไปหาเสด็จลุง อันที่จริงนางควรจะเข้าไปในงานเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เสด็จลุงของนางกล่าวว่าให้ไปหาก่อนเสียงซุบซิบที่พอเห็นว่านางเหลือบมองก็เงียบลง เซี่ยซูเหยาถอนหายใจ หมายมั่นว่าหลังจากจบงานเลี้ยงนี้นางจะไม่ยอมใส่ชุดหงส์ที่เสด็จลุงส่งมาให้แน่“หลานรักมาแล้วหรือ”เซี่ยซูเหยามองฮ่องเต้หมิงหลงอันที่ให้นางกำนัลสวมชุดให้อย่างเบื่อหน่าย หลายปีมานี้นางสนิทกับเสด็จลุงและเสด็

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 73 ห้าวสันต์ที่พ้นผ่าน

    วันที่สิบสาม เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่สิบห้า สกุลเย่เป็นหนึ่งในกบฎเมื่อหลายปีก่อน ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการประหารเจ็ดชั่วโคตรโทษฐานกบฏ ละเว้นคุณหนูหกเย่ คุณหนูเจ็ดเย่ ที่สร้างชื่อเสียงให้แคว้นในการแข่งขันที่ผ่านมา ทว่าถูกกักตัวภายในคุก ส่วนคุณชายสี่เย่ไม่ได้รับการละเว้น บุรุษสกุลเย่ไม่สามารถสอบขุนนางได้อีกตลอดชีวิต รวมถึงสตรีที่ไม่สามารถเข้าวังเป็นพระสนมได้เย่ฮองเฮาคบชู้สู่ชายสวมหมวกเขียวให้ฝ่าบาทจนมีองค์ชายเจ็ด ปลดออกจากตำแหน่งฮองเฮา พระราชทานผ้าแพรขาว รวมถึงพระราชทานยาพิษให้แก่องค์ชายน้อยให้เป็นเยี่ยงอย่างของพระสนม ว่าหากคบชู้จะถูกลงโทษอย่างไร องค์หญิงใหญ่ถูกกักบริเวณภายในตำหนักจนกว่าจะมีการสืบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่บ้านรองสกุลเซี่ยถูกราชโองการประหารโทษฐานสร้างความเสื่อมเสียให้แก่แคว้นหนานในขณะที่มีแคว้นพันธมิตรอยู่ในแคว้น ทั้งยังลอบทำร้ายองครักษ์ของฮ่องเต้หมิงหลงอันที่เป็นบิดาขององค์หญิงเจิ้นกั๋วทั้งสองจนถึงแก่ความตายวันที่สิบห้า เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่สิบห้ามีราชโองการประกาศรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับสกุลเย่ ขุนนางที่เกี่ยวข้องล้วนต้องโทษประหาร บุรุษในสกุลถูกส่งไปเป็นทาสนอกเมืองหล

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 72 โทษประหาร

    เสียงกระทบกันของโลหะบ่งบอกว่ามีคนเปิดประตูคุก ฝีเท้าหลายคู่เดินตามทางที่ทอดยาวไปยังห้องขังใต้ดิน คบเพลิงถูกจุดตามกรงขังเป็นระยะๆ เพื่อให้แสงสว่างแก่ทางเดิน ห้องขังที่เต็มไปด้วยน้ำขังถูกสนิมกัดเซาะชวนให้อาเจียนกลิ่นอับชื้นตีขึ้นคละคลุ้งไปทั่วจมูก เซี่ยซูเหยารีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกเอาไว้ รีบก้าวเท้าตามองครักษ์ที่ถูกส่งมาเปิดห้องขังในยามวิกาล ด้านหลังมีคนติดตามมาอีกหลายคน วันนี้นางมายังคุกคุมขังนักโทษที่บังอาจก่อเรื่องในวันงาน‘ปล่อยข้านะ!’‘หยุนหรง! เพราะเจ้า เป็นเพราะเจ้าคนเดียว!’‘ท่านพ่อ!’‘ข้ากลัว ฮืออ’‘แม่เจ้าก็เข้าคุกไปแล้ว! ยังต้องพาข้าเข้าคุกอีก’‘หุบปาก! ท่านเป็นคนฆ่ามันเองไม่ใช่เหรอ’‘ฮือๆ'เสียงทะเลาะกันที่คุ้นหูทำให้เซี่ยซูเหยาเหยียดยิ้ม หลายวันมานี้คงจะอยู่กันอย่างทรมานสินะ ถึงได้ด่ากันมากขนาดนี้ หลังจัดงานศพบิดาเสร็จนางก็เพิ่งมีเวลามาที่นี่“องค์หญิง ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์ที่ฮ่องเต้หมิงหลงอันสั่งให้นำหลานสาวมายังคุกหลวงกล่าวกับเด็กสาวด้วยความเคารพ หากไม่ใช่บุคคลสำคัญหรือมีอำนาจมากพอ มีหรือที่จะสามารถเดินเข้าออกคุกหลวงได้อย่างสบายแบบนี้นัยน์ตาเล็กหรี่มองเซี่ยหยุนหรง

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status