แชร์

บทที่ 6 ช่วยชีวิตลูกหมาป่า

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-16 11:17:32

เซี่ยซูเหยารีบเตรียมของเมื่อพ่อของนางอนุญาตและจะพาเข้าป่าไปจับปลาอีกครั้ง เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนรับจ้างชาวบ้านทำงานวันละสิบอีแปะ ทำทั้งหมดห้าวันจึงได้เงินมาหนึ่งร้อยอีแปะ ซึ่งเซี่ยซูเหยาปวดใจไม่น้อย เงินที่ได้รับน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงงานที่ได้ทำไป

ข้าวสาร 1 จิน เกือบสามร้อยอีแปะ ทั้งสองต้องทำงานมากกว่าครึ่งเดือนเพื่อซื้อข้าวสารให้นางกิน แล้วคนอื่นในบ้านกินเพียงน้ำข้าวต้มที่เหลืออยู่เท่านั้น หากนางไม่ใช่ผู้ตักข้าวเอง

เซี่ยซูเหยาไม่เข้าใจพ่อของนางเลย ทุกวันหากเข้าป่าล่าสัตว์ไปขายและเหลือไว้กินในบ้าน อย่างน้อยวันหนึ่งก็ได้เงินไม่ตำกว่าห้าสิบอีแปะ ทั้งยังใช้เวลาไม่นานและพักเหนื่อยได้ตลอด

รับจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เพียงแต่ต้องใช้แรง ยังได้รับเงินที่สมควรจะได้รับน้อยมาก สู้เข้าป่าหาอาหารมากินดีกว่าได้เงินเพียงน้อยแล้วอดกิน

แต่นางก็ไม่ได้ถามอันใดต่อ เอาไว้เมื่อถึงเวลานั้นค่อยถาม เซี่ยซูเหยารอให้เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนหยุดพักหนึ่งวันหลังออกไปรับจ้าง และวันต่อมานางถึงอ้อนท่านพ่อเพื่อขอให้พาเข้าป่าอีกครั้ง ซึ่งท่านก็ตกลง

“วันนี้พี่คงไม่ได้ไปด้วย อาเหยาระวังตัวดี ๆ นะ!” เซี่ยซูเจี๋ยกำชับน้องสาว

“อาเหยารับทราบ”

เซี่ยซูเจี๋ยต้องซักผ้าของนางและคนในบ้านทั้งหมดเพราะนางเห็นว่าพ่อของนางกับน้องชายเหนื่อยจากการทำงาน ส่วนน้องสาวนั้นถูกยึดเสื้อตั้งแต่ถอดวางแล้ว

 ไหนจะต้องเก็บผักในแปลงมาเตรียมเอาไปขายอีก เซี่ยซูเจี๋ยจึงตัดสินใจอยู่รอที่บ้าน

“อาเจี๋ยเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง พ่อกับซูเหยียนจะดูแลน้องสาวของเจ้าอย่างดี บางทีอาเหยาจะเป็นตัวนำโชคของบ้านเราก็ได้ ฮ่า ฮ่า”

หลังจากที่พาลูกสาวเข้าป่าและวันต่อมาต้องออกไปรับจ้าง เซี่ยห้าวไห่จะใช้เวลายามกลับบ้านเข้าไปดูกับดักสัตว์ที่วางเอาไว้ ไม่ก็จะเข้าไปจับปลา แต่เขากลับไม่เห็น วันนี้เมื่อลูกสาวมาขอเขาจึงอนุญาตให้ไปด้วย

“ข้าขอให้ได้ปลากลับมาเยอะ ๆ เจ้าค่ะ” เซี่ยซูเจี๋ยยิ้มอ่อน

หลายวันก่อนที่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่มาที่บ้าน ตกเย็นพ่อของนางจึงนำปลาที่เหลืออยู่ในห้องครัวไปให้กับสกุลเซี่ยสายรอง และให้เหตุผลว่าเป็นการกตัญญูต่อผู้อาวุโส ยังไงปู่รองกับย่ารองสกุลเซี่ยยังมีชีวิตอยูา ต่อให้พวกนางเป็นสายหลักแต่ก็ทำอันใดข้ามหน้าข้ามตาไม่ได้

“แน่นอน! อาเจี๋ยจะได้กินปลาทอด!”

เซี่ยห้าวไห่พาลูกชายเข้าไปตามเวลาเดิมของทุกวัน ก่อนจะกลับมาถึงบ้านยามเฉิน จากนั้นจึงลงมือกินข้าวและพักเล็กน้อย ก่อนเซี่ยห้าวไห่จะพาเซี่ยซูเหยียนกับเซี่ยซูเหยาเข้าไปจับปลาอีกรอบ และครั้งนี้น่าจะได้กุ้งติดมือกลับมาด้วย เซี่ยซูเหยียยชอบมันมาก

ลูกสาวคนโตมีของโปรดเป็นอาหารที่ทำมาจากปลา ไม่ว่าจะเป็นทอด นึ่ง หรือต้ม ก็เป็นของโปรดของนาง ลูกชายคนรองที่กินอะไรก็ได้ไม่เรื่องมาก ดูท่าจะติดใจฝีมือของน้องสาวคนเล็กอย่างเซี่ยซูหยา วันนี้เลยขอเซี่ยห้าวไห่จับกุ้งกลับมาด้วย ส่วนลูกสาวคนเล็กอย่างเซี่ยซูเหยาชอบที่สุดนั่นก็คือไก่ตุ๋น ที่ยามนี้น่าจะเปลี่ยนมาเป็นไก่ย่างสมุนไพร เพราะอย่างน้อยในห้าวันก็จะมีไก่ย่างสมุนไพรไปแล้วสี่วัน

“ท่านพ่อ อาเหยาขอเดินดูรอบ ๆ ได้หรือไม่” เซี่ยซูเหยาเอ่ยถามพ่อของนางที่กำลังขุดหลุมช่วยลูกชาย

นี้เป็นหลุมดักปลาที่เคยทำเหมือนรอบก่อน และเซี่ยซูเหยาก็ต้องการจะไปขุดไส้เดือนมาด้วยจึงเอ่ยขอ

“ได้สิ แต่อย่าไปไกล แล้วก็ระวังตัวด้วย”

“เจ้าค่ะ”

ไม่รู้ว่าเซี่ยห้าวไห่คิดไปเองหรือเปล่าที่ลูกสาวของเขาแข็งแรงขึ้น เซี่ยห้าวไห่นอนคิดอยู่หลายวันว่ายังไงลูกสาวก็ต้องขอติดตามเข้าป่ามาอีกครั้ง จึงยอมอย่างง่ายดาย

เซี่ยซูเหยาหยิบตะกร้าเล็กเท่าชามที่ให้เซี่ยห้าวไผ่สานให้ก่อนจะมายังป่าแห่งนี้ นางต้องการทำมาเพื่อใส่ไส้เดือนโดยเฉพาะ จะให้สะพายตะกร้าเล็กที่ใหญ่เกินตัวไปก็ลำบากเปล่า ๆ

บริเวณเดิมยังมีหลุมดินถูกขุดอยู่เซี่ยซูเหยาลืมไปสนิทเลยว่าควรที่จะไปขุดบริเวณใหม่ จะได้ไม่เป็นที่สังเกตของชาวบ้านที่จะมาล่าสัตว์หรือพักอยู่บริเวรนี้

เซี่ยซูเหยาเดินห่างจากจุดเดิมที่เคยขุดประมาณ 3 จั้ง ก่อนจะรีบลงมือขุดเพราะก่อนนางจะแยกตัวมาหลุมดักปลาก็ใกล้เสร็จแล้ว หากนางช้าพ่อของนางจะมาเห็นเสียก่อน อันที่จริงมันก็ไม่เป็นความลับ แต่เซี่ยซูเหยาคิดว่ายังไม่ถึงเวลา

ตัวนางป่วยมาตั้งแต่เด็กจึงเก็บตัวอยู่ภายในห้อง ความรู้ก็ไม่มีเพราะพ่อของนางเอาเงินไปซื้อสมุนไพรมาให้ แม้แต่หนังสือคัดลอกเล่มเดียวก็ไม่มีเงินซื้อ และแน่นอนว่าแค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็เป็นไปได้ยาก นางจะบอกว่าเอาวิธีนี้มาจากไหนก่อน

รอบนี้เซี่ยซูเหยาขุดไส้เดือนไปมากกว่ายี่สิบตัว ครึ่งหนึ่งนางจะโปรยลงในหลุมดักปลา ส่วนอีกครึ่งจะโปรยเหมือนกันแต่จะโปรยทีหลัง พอได้เหยื่อครบเซี่ยซูเหยาก็กลับไปยังจุดนั่งพักของนาง นางรอให้เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนไปจับกุ้งก่อน ถึงจะนำไปโปรยลงหลุม

เซี่ยซูเหยาอยากกินปลาย่างเกลือว่าจะทำแต่ก็ได้รู้ว่าพ่อของนางนำไปให้ญาติสกุลเซี่ยหมดแล้ว นางโกรธมากแต่คำพูดของพี่สาวมันทำให้นางคิดได้ ต่อให้แยกบ้านหรือแยกสายสกุลเซี่ย แต่บรรพบุรุษยังเป็นบรรพบุรุษเดียวกัน ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างนับถือบรรพบุรุษมาก และการที่จะต่อว่าหรือท้าทายผู้อาวุโสเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

เซี่ยห้าวไห่ได้ยินลูกสาวบอกว่าง้างมีดเพื่อป้องกันตัวเองจากการโดยตบ จึงนำปลาที่เหลือไปให้เพื่อให้นางซือหลิงไม่เอาความ อย่างน้อยก็น่าจะสงบไปได้หลายวัน

โบร๋ววววว

เซี่ยซูเหยาตัวแข็งทื่อ นางออกมาปลดทุกข์ไกลจากที่นั่งพักพอสมควร ก่อนจะกลับเลยแวะมาล้างมือที่แม่น้ำ แต่แล้วกลับได้ยินเสียงของคำราม ในความทรงจำที่มีในหมู่บ้านไม่มีใครเลี้ยงสุนัข แล้วเสียงคำรามมากจากไหน

นอกจากเสียว่าจะเป็นหมาป่าที่พ่อของนางสั่งห้ามเข้าใกล้ เพระาหมาป่ามันดุร้ายมาก แต่นางเป็นคนรักสัตว์จึงลังเล และรีบวิ่งหาเสียงที่ดังขึ้น นางได้ยินเสียงร้องของลูกสุนัข

เอ๋ง

เซี่ยซูเหยาเดินหาไม่นานก็เจอกลับต้นเสียง นางเห็นหมาป่าเพศเมียขนดำแซมขาวเดินวนเวียนอยู่บนโขดหิน พลางร้องคำรามอย่างกระวนกระวาย

ก่อนสายตาจะมองไปยังจุดที่หมาป่ามอง นางเห็นลูกหมาป่าเกาะโขดหินบริเวณน้ำไหลอยู่สามตัว! สองตัวใหญ่มีขนสีดำทั้งตัว แต่ตัวเล็กมีขนสีขาว

กรรซ์!

เซี่ยซูเหยาเดินถอยหลังเมื่อแม่หมาป่ามองเห็นนาง ดูเหมือนจะหวงลูกน้อยที่รอคอยความช่วยเหลือ ในใจก็อยากวิ่งหนี แต่นางก็อยากช่วยเด็ก ๆ

“ข้า…ข้าจะช่วยลูกของเจ้า”

เซี่ยซูเหยาพูดต่อรองกับหมาป่าตัวใหญ่ที่พร้อมขย้ำนางทั้งตัว นางเชื่อว่าด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ แม่หมาป่าจะยอมให้นางเข้าใกล้เด็ก ๆ

มองดูแล้วที่แม่หมาป่าไปช่วยลูกไม่ได้คงเป็นเพราะบนขามีรอยบาดแผล และลูกหมาป่าอยู่ในจุดที่ลงไปไม่ได้ เซี่ยซูเหยาเห็นว่าน้ำไม่ได้ลึกมากจึงหันไปขอบคุณแม่หมาป่าที่ยอมหลีกทางให้

“ขอบคุณ”

ก้าวแรกที่ก้าวลงน้ำ น้ำก็ถึงอกนางแล้ว แต่ก็ถอยไม่ได้ เพียงแค่ต้านน้ำไปได้ไม่ถึง 2 จั้ง นางก็ถึงตัวลูกหมาป่า น่าจะคลอดได้ไม่นานเพราะยังตัวเล็กกันอยู่

เซี่ยซูเหยาตัดสินใจจับเจ้าตัวที่เล็กสุดยัดใส่อกนาง ก่อนจะโอบลูกหมาป่าขนดำทั้งสองตัวขึ้นไปบนริมน้ำที่เย็นมาก

 เซี่ยซูเหยารีบปล่อยลูกหมาป่าออกจากอ้อมแขนแล้วรีบคลานออกมาเมื่อแม่หมาป่าวิ่งมาหาลูก ต่อให้ไม่มีท่าทีจะทำร้ายนางแต่ก็น่ากลัวอยู่ดี

บรู๋ววววว

แม่หมาป่าคำรามก่อนจะหมอบลงพื้นมาหานาง เหมือนเป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิตลูกของมันเอาไว้ เซี่ยซูเหยายิ้มทั้งน้ำตา

ก่อนที่จะชะงักเมื่อแม่หมาป่าคาบลูกหมาป่าขนสีขาวมาวางไว้ข้างหน้าของนาง แล้วรีบวิ่งไปหาลูกหมาป่าขนสีดำพลางพากันวิ่งหายไป

แม่หมาป่ายกลูกให้นางงั้นหรือ? ไม่เสียเวลาคิดมาก เซี่ยซูเหยารีบอุ้มลูกหมาป่าก่อนจะรีบกลับไปที่พักของนาง

ลับหลังเซี่ยซูเหยาแม่หมาป่าที่นางคิดว่าเข้าป่าไปแล้วเดินออกมาจากพุ่มไม้กับลูกหมาป่าอีกสองตัว ก่อนทั้งสามจะหมอบตัวลงและหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เซี่ยซูเหยาคิดว่าแค่ช่วยชีวิตลูกหมาป่านางจึงอุ้มลูกหมาป่ากลับมาอย่างสบายใจ แต่นางลืมไปว่าพ่อของนางกับพี่ชายคนรองรออยู่

“อาเหยา!”

เซี่ยห้าวไห่ร้องออกมาด้วยความร้อนใจ เมื่อสักครู่เขาได้ยินเสียงร้องของหมาป่าที่น่าจะตัวใหญ่ จึงพาลูกชายขึ้นมาจากน้ำ และให้ลูกชายขึ้นไปรอบนต้นไม้ ส่วนเขารีบเก็บของหากลูกสาวยังไม่กลับมา เขาจะรีบออกตามหา ซึ่งเซี่ยห้าวไห่ก็เห็นลูกสาวกลับมาด้วยร่างกายที่เปียกโชค

“ท่านพ่อ”

เซี่ยซูเหยาชะงัก นางลืมไปได้อย่างไรกันว่าเสียงของหมาป่าพ่อของนางก็ต้องได้ยิน แต่ในเมื่อมาขนาดนี้แล้ว

“ท่านพ่อจะกลับแล้วหรือเจ้าคะ” ของที่วางเรียงกันถูกเก็บใส่ตะกร้าหมดแล้ว

“ใช่”

“ลูกหมาป่า!”

เซี่ยซูเหยียนที่ปีนลงจากต้นไม้อุทานเมื่อเห็นสิ่งที่น้องสาวนำกลับมาด้วย เขาเข้าป่าตั้งแต่สิบหนาวจึงไม่แปลกที่จะรู้จัก

“อาเหยา!” เซี่ยห้าวไห่รีบสำรวจลูกสาว เพราะเห็นลูกสาวกลับมาจึงอุ่นใจและไม่ได้สังเกตถึงสิ่งที่ลูกสาวนำกลับมาด้วย

“ท่านพ่อ อาเหยาไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ เมื่อครู่อาเหยาช่วยชีวิตลูกหมาป่าเอาไว้ แม่หมาป่าเลยทิ้งลูกให้อาเหยาหนึ่งตัว” เซี่ยซูเหยายิ้มกว้างพลางเอาลูกหมาป่าตัวน้อยออกมาให้ทั้งสองดู

“อาเหยาว่าอย่างไรนะ? หมาป่า เป็นไปได้อย่างไร หมาป่าอยู่ในป่าลึก” เซี่ยห้าวไห่เป็นกังวล

“อาเหยาไม่ได้เข้าป่าลึกนะเจ้าคะ!”

“รีบกลับบ้านกันเถอะ ค่อยคุย”

เซี่ยห้าวไห่กลัวว่าจะมีหมาป่าหรือสัตว์ตัวใหญ่ออกมาอีก รีบพาลูกทั้งสองออกจากป่าทันที และตะกร้ายังเต็มไปด้วยปลาและกุ้ง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 7 เสี่ยวเฮย

    เซี่ยซูเหยากอดเข่านั่งมองเสี่ยวเฮย ที่นางเก็บกลับมาด้วย นางอ้อนพ่อของนางเกือบครึ่งวันเพื่อขอเลี้ยงลูกหมาป่าตัวสีขาวเสี่ยวเฮยมีขนสีขาวแต่ที่ไม่ได้ตั้งว่าเสี่ยวไป๋ เพราะเซี่ยซูเหยานึกถึงแม่หมาป่ากับบรรดาพี่น้องของเสี่ยวเฮยที่มีขนสีดำ นางเลยตั้งชื่อนี้ให้เสี่ยวเฮยถึงเซี่ยซูเจี๋ยไม่ต้องการให้น้องสาวเลี้ยงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ลูกหมาป่ายังเด็กมันช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น และนางก็ไม่ได้ใจดำ“ท่านพ่อ อาเหยาอยากกินปลาย่าง” เซี่ยซูเหยาหันไปบอกเซี่ยห่าวไห่ที่นั่งสานตะกร้าเซี่ยห้าวไห่สามารถทำได้หลายอย่าง ล่าสัตว์ รับจ้างทั่วไป หรือสานตะกร้าเขาก็สามารถทำได้ วันนี้เขาไม่ได้เข้าป่าเพราะเพิ่งเข้าไปเมื่อวานและของที่ได้มาก็กลัวจะกินไม่ทัน อีกทั้งไม่มีใครจ้างงาน“ทำไมไม่บอกพี่สาวทำให้ล่ะ”“อาเหยาอยากทำเองเจ้าค่ะ”เวลาเซี่ยห้าวไห่อยู่บ้านเขาจะจับตานางตลอดเวลา และไม่ต้องการให้นางทำอะไรที่เหนื่อย เซี่ยซูเหยาจึงต้องขอผู้เป็นพ่อ ส่วนพี่สาวนั้นอนุญาตแล้ว“อืม ให้พี่สาวช่วยทำด้วย”เซี่ยซูเหยาพยักหน้า อันที่จริงตอนนี้พี่สาวคงล้างทำความสะอาดปลาเสร็จแล้ว นางเลยรีบเดินไปยังหลังบ้านเพื่อหาหนิงเหมิงเฉ่ามายัดไส้ตัวปลา อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 8 กาฝาก

    เซี่ยซูเหยามองตามเซี่ยหยุนหรงที่ถูกพี่สาวลากกลับไปด้วยความไม่พอใจ นางซือหลิงเลี้ยงลูกของนางแต่ละคนได้ดีจริง ๆถ้าจำไม่ผิดนางเคยได้ยินท่านพ่อเล่าว่าลูกสาวคนโตของนางซือหลิงแต่งออกไปก่อนที่เซี่ยซูเหยาจะเกิดซะอีก ส่วนลูกชายอีกสามคนของนางที่ไม่รวมเด็กแฝดคู่นี้เห็นว่าไม่มีการงานมั่นคง ออกไปรับจ้างอย่างเกียจคร้าน แต่มีลูกมีเมียเต็มบ้านอายุลูกชายของนางซือหลิงแต่ละคนก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว และแต่ละบ้านก็มีลูกไม่ต่ำกว่าสามคน เห็นว่ายามนี้ลูกสะใภ้ของนางก็ใกล้คลอดอีกแล้ว“พี่ชายมาแล้ว อาเหยาว่าเรากินข้าวกันเถอะ” เซี่ยซูเหยาเอ่ยขึ้น“ได้”อากาศด้านนอกมันดีกว่าในบ้านที่อบอ้าว เซี่ยซูเจี๋ยจึงยกถาดปลาย่างเกลือและน้ำจิ้ม ที่น้องสาวเตรียมของไว้ให้ปรุงออกมากินที่หน้าบ้าน ส่วยเซี่ยซูเหยายกหม้อข้าวที่หุงไว้มาตามหลังนอกจากปลาย่างเกลือและน้ำจิ้มแล้ว ยังมีผักดองและลวกผักเอาไว้กินคู่ด้วย เซี่ยซูเหยาคิดว่าเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนจะไม่ชินหากไม่มีผักหรือของที่กินประจำ“โอ้ นี่หรือปลาย่างเกลือที่อาเหยาบอก” เซี่ยห้าวไห่ที่เตรียมลงมือกินข้าวมื้อกลางวันอุทานถาม“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”มิใช่ว่าเซี่ยซูเจี๋ยไม่เคยทำให้คนในบ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 10 ฝาแฝดสกุลเซี่ยมาอีกแล้ว

    เซี่ยห้าวไห่ไปล่าสัตว์ได้สองวันแล้ว สามพี่น้องบ้านเซี่ยจึงได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง โชคดีที่บ้านไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นมาก เซี่ยห้าวไห่เลยไม่ค่อยเป็นห่วงทว่าวันนี้ผักที่ปลูกในแปลงถูกเซี่ยซูเหยียนเก็บขึ้นมาให้พี่สาวนำไปทำอาหารหมดแล้ว ทั้งสามเลยคุยกันว่าจะปลูกผักใหม่เซี่ยซูเหยาเสนอแนวคิดว่านำมูลไก่ที่มีในคอกมาผสมหน้าดินเตรียมเอาไว้ก่อนลงมือปลูก วิธีนี้จะทำให้ผักเจริญงอกงาม และไม่ใช่ว่าสามารถปลูกได้ทุกอย่าง ผักบางอย่างไม่สามารถเจริญเติบโตบนดินพวกนี้ได้ระหว่างรอเซี่ยซูเจี๋ยไปเลือกซื้อเมล็ดผัก เซี่ยซูเหยียนกับเซี่ยซูเหยาก็ช่วยกันปรับหน้าดินรอ และงานในบ้านที่ยังทำค้างไว้อยู่ เซี่ยซูเหยาก็อาสาทำก่อนพี่สาวจะกลับจริง ๆ วันนี้มีชาวบ้านมาเรียกให้เซี่ยซูเหยียนไปช่วยเก็บฟืนในป่า ทว่าที่บ้านมีน้องสาวอยู่คนเดียวเลยปฏิเสธไป แม้ตอนแรกคนที่มาเรียกจะหัวเสียก็ตามเซี่ยซูเหยาอ้าปากหาวพลางอุ้มเจ้าเสี่ยวเฮยที่นอนหลับอย่างสบายใจ อีกไม่นานนางคงอุ้มไม่ได้แล้ว ยังดีที่มันไม่ได้โตเร็วมากเมื่อวานเซี่ยซูเหยาให้เซี่ยซูเหยียนไปซื้อข้าวสารมาห้าจิน เป็นเงินหนึ่งตำลึงเงินและห้าร้อยอีแปะ เงินจำนวนนี้ต้องทำงานส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 11 ท่านย่าเซี่ยโมโห

    เป็นไปตามที่สามพี่น้องบ้านเซี่ยคิดกันจริง ๆ หลังจากฝาแฝดเซี่ยกลับไปไม่นานทั้งสามก็ได้ยินเสียงก่นด่าทอดังเข้ามาใกล้‘นังเด็กสารเลว!มา‘ท่านแม่ ท่านแม่ต้องให้ความยุติธรรมกับยุ่นเอ๋อร์นะเจ้าคะ! โฮ หลานของท่านแม่จะมีแผลไม่ได้!’‘ใช่ ๆ’‘เด็กพวกนี้มันกล้าทำขนาดนี้ ถ้าปล่อยไว้มันต้องทำอาหรงแน่ ๆ’‘นั่นสิ’“เซี่ยซูเจี๋ย!”เซี่ยซูเหยาหลบหลังพี่สาวทันทีที่เห็นกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้ ในกลุ่มมีนางซือหลิงที่ตาแดงเดินมาด้วย คาดว่าคงเห็นที่แขนลูกสาวแล้ว“ท่านย่า” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยเรียกย่าเซี่ยหรือก็คือย่ารองสกุลเซี่ย ภรรยาปู่รอง น้องชายของปู่นางท่านปู่และท่านย่าแท้ ๆ ขของพวกนางเสียไปนานแล้วท่านย่าเซี่ยคือผู้อาวุโสของสกุลเซี่ย พวกนางจึงต้องเรียกตามที่คนอื่นเรียก“เซี่ยหลินยุ่นเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเจ้าคนหนึ่ง ทำไมถึงต้องลงมือด้วย”“นางจะตีอาเหยา ข้าจึงปกป้องน้องสาวของข้าเจ้าค่ะท่านย่า” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยขึ้นเสียงเบาเซี่ยหลินยุ่นเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของท่านย่าเซี่ยที่ขึ้นชื่อว่าใจร้ายในหมู่บ้าน นางทำให้หลานสาวของท่านย่าเซี่ยมีบาดแผล ไม่รู้จะโดนอะไรบ้างยิ่งมากับนางซือหลิงและลูกชาย ลูกสะใภ้ อีกสามสี่คน เซี่ยซู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   หาของแปรรูป

    ผ่านมาแล้วสองวันใบหน้าที่บวมช้ำของเซี่ยซูเจี๋ยก็กลับมาเป็นปกติ และทั้งสามก็ลงมือนปลูกผักเรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่วันเซี่ยห้าวไห่ก็จะกลับมา เซี่ยซูเหยาเลยอ้อนขอให้เซี่ยซูเหยียนพาเข้าป่า จริง ๆ เซี่ยซูเหยียนปฏิเสธทว่าเซี่ยซูเหยาไม่ยอมแพ้ นางอ้อนขอจนได้ไปก็ยังเป็นเซี่ยซูเจี๋ยที่เตรียมอาหารสำหรับเข้าป่าวันนี้ มีเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ไปทำงาน และท่านยายหลี่ฮัวก็อยู่ที่บ้าน เซี่ยซูเจี๋ยเลยไปขอให้ช่วยดูบ้านให้ด้วย นางไม่ไว้ใจที่จะให้น้องชายกับน้องสาวพากันไปเองปลาในถังเหลือออยู่เจ็ดตัว กุ้งอีกเป็นร้อยตัวเซี่ยซูเจี๋ยก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องพากันเข้าป่าอีก นางไม่อยากปฏิเสธน้องสาวที่ยิ้มกว้างตอนที่เซี่ยซูเหยียนอนุญาต“ครบแล้วใช่ไหม”นอกจากตะกร้าอาหารมื้อกลางวันแล้วทั้งสามก็มีตะกร้าสานสะพายคนละอัน เซี่ยซูเหยาได้ตะกร้าที่มันเล็กแต่ก็ใส่ของได้เยอะ และเซี่ยซูเหยียนก็เอาพวกมีดกับขวานไปด้วย ของพวกนี้เขาเอาติดตัวไปด้วยตลอดยามเข้าป่า“ขอรับ” เซี่ยซูเหยียนพยักหน้าเซี่ยซูเหยาไม่เอาเสี่ยวเฮยไปด้วย น้ำหนักของเสี่ยวเฮยไม่ใช่น้อย ๆ นางกลัวว่ามันจะถ่วงเวลาเดินนาง จึงเลือกที่จะขังไว้ในห้องครัว ทว่านางเทน้ำต้มข้าว น้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 13 หัวหมู

    เซี่ยห้าวไห่นั่งแทบไม่ติดแคร่ไม้ไผ่หลังจากกลับมาจากการล่าสัตว์ ท่านยายหลี่ฮัวที่อยู่ข้างบ้านบอกว่าเซี่ยซูเหยียนพาพี่สาวและน้องสาวเข้าป่าไปแล้ว ยังเล่าเรื่องที่สายรองเซี่ยมาที่บ้านอีกทว่าที่เซี่ยห้าวไห่ไม่เข้าไปตามลูก ๆ เพราะอีกไม่นานเซี่ยซูเหยียนก็คงพาพี่สาวและน้องสาวกลับมา ลูกชายคนรองของเขารู้ตัวว่าสามารถพาไปที่ไหนได้บ้าง และกว่าจะเดินทางกลับมาถึงบ้านเซี่ยห้าวไห่ก็หมดแรงแล้วผ่านไปเกือบชั่วยามเซี่ยห้าวไห่จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นลูกชายพาพี่สาวและน้องสาวกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ!”เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของเซี่ยซูเหยาที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ นางคำนวณวันตามที่พี่สาวบอกทว่าเหลืออีกตั้งสองวันไม่ใช่หรือ ทำไมรอบนี้ถึงกลับมาเร็วกว่าปกติ“อาเจี๋ย! อาเหยียน! อาเหยา!”เซี่ยซูเจี๋ยรีบเข้าไปในบ้านเพื่อทำอาหารให้เซี่ยห้าวไห่ ปกติเวลาที่เซี่ยห้าวไห่กลับมาจากการล่าสัตว์ เซี่ยซูเจี๋ยก็จะรีบทำอาหารให้ เพราะเหล่านายพรานเร่งเดินทางกลับพวกเขาจึงไม่หยุดแวะพัก ทว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 14 เซี่ยห้าวไห่หนุนหลัง

    เซี่ยห้าวไห่ยื่นเงินจำนวนเจ็ดสิบห้าอีแปะจากการนำไข่ไก่ไปขาย ให้ลูกสาวคนเล็กอย่างเซี่ยซูเหยาที่นั่งเล่นกับเจ้าเสี่ยวเฮยบนแคร่ไม้ไผ่เขาได้ปรึกษากับลูกอีกสองคนแล้วว่าเงินนี้ควรจะเป็นของเซี่ยซูเหยา หลังจากนำไข่ไก่ไปขายบางส่วน เขาก็เอากลับมาให้ลูกสาวโดยที่ไม่หักค่าไปขายเซี่ยซูเหยาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อด้วยความมึนงง คนที่เก็บเงินในบ้านคือเซี่ยซูเจี๋ย ทว่าวันนี้พ่อของนางกลับมอบเงินจำนวนหลายอีแปะให้นาง“เงินนี้ได้มากจากการขายไข่จำนวนเจ็ดสิบห้าฟอง โรงเตี๊ยมประกาศรับไข่ไก่ให้ฟองละหนึ่งอีแปะพ่อเลยลองไปดู” เซี่ยห้าวไห่ตอบอย่างละเอียด ลูกสาวจะไม่ได้ถามเขาซ้ำอีก“ให้พี่สาวเถิดเจ้าค่ะ”เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย เซี่ยซูเหยียน เซี่ยซูเจี๋ยไปรับจ้างหาเงินเข้าบ้านยังไม่เก็บไว้เอง นางจึงไม่ต้องการส่วนแบ่งนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาทุกคนก็ทำเพื่อนางมาก“พ่อกับพี่สาว พี่ชายคุยกันแล้ว” เซี่ยห้าวไห่ถอนหายใจพลางนั่งลงข้างลูกสาว เขาคิดเอาไว้แล้วว่านางจะไม่ยอมรับ“ท่านพ่อ อาเหยาอยากขายอาหาร”เซี่ยซูเหยาใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 15 เซี่ยซูเหยาโมโห

    กลิ่นอาหารของบ้านเซี่ยหอมถึงบ้านที่อยู่ห่างกันหลายจั้ง มีบางคนถึงขั้นเดินออกมาดูว่าเป็นกลิ่นอาหารจากบ้านหลังไหน พอตามกลิ่นมาถึงเห็นว่ามาจากบ้านเซี่ยก็แยกย้ายไปข่าวลือที่บ้านเซี่ยเลี้ยงสุนัขถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็รู้ว่าบ้านเซี่ยไม่มีเงิน ทว่าพวกเขากลับเอาภาระมาเลี้ยงเซี่ยซูเจี๋ยส่ายหน้าให้ท่านยายไห่ซือที่เดินมาถามหลังนางนั่งซักเสื้อ นางมี่ซือเป็นลูกสะใภ้ของท่านยายไห่ซือที่มาตามน้องชายคนรองเมื่อวานนี้ นางจึงไม่แปลกใจที่จะมีคนมาถาม ลำพังแต่ละบ้านก็อยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แต่บ้านเซี่ยกลับไปเอาภาระมาเพิ่ม“พี่สาว”เซี่ยซูเหยาที่เดินตามพี่สาวมานั่งลงข้าง ๆ กัน วันนี้นางขอเซี่ยซูเจี๋ยมาซักผ้าเองเพราะพี่สาวปวดท้อง มันจึงเป็นข้ออ้างที่เซี่ยซูเจี๋ยปฏิเสธไม่ได้“อาเหยานั่งนิ่ง ๆ นะ! รอรับผ้าก็พอ” เซี่ยซูเจี๋ยหันไปบอกน้องสาว“เจ้าค่ะ”ทว่าเซี่ยซูเจี๋ยก็คือเซี่ยซูเจี๋ย นางไม่ต้องการให้น้องสาวของนางออกแรงแม้แต่น้อย เซี่ยซูเจี๋ยหาที่นั่งให้น้องสาวก่อนจะลงมือซักเสื้อ“อาเจี๋ย ทำไมเจ้าไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18

บทล่าสุด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 15 เซี่ยซูเหยาโมโห

    กลิ่นอาหารของบ้านเซี่ยหอมถึงบ้านที่อยู่ห่างกันหลายจั้ง มีบางคนถึงขั้นเดินออกมาดูว่าเป็นกลิ่นอาหารจากบ้านหลังไหน พอตามกลิ่นมาถึงเห็นว่ามาจากบ้านเซี่ยก็แยกย้ายไปข่าวลือที่บ้านเซี่ยเลี้ยงสุนัขถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็รู้ว่าบ้านเซี่ยไม่มีเงิน ทว่าพวกเขากลับเอาภาระมาเลี้ยงเซี่ยซูเจี๋ยส่ายหน้าให้ท่านยายไห่ซือที่เดินมาถามหลังนางนั่งซักเสื้อ นางมี่ซือเป็นลูกสะใภ้ของท่านยายไห่ซือที่มาตามน้องชายคนรองเมื่อวานนี้ นางจึงไม่แปลกใจที่จะมีคนมาถาม ลำพังแต่ละบ้านก็อยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แต่บ้านเซี่ยกลับไปเอาภาระมาเพิ่ม“พี่สาว”เซี่ยซูเหยาที่เดินตามพี่สาวมานั่งลงข้าง ๆ กัน วันนี้นางขอเซี่ยซูเจี๋ยมาซักผ้าเองเพราะพี่สาวปวดท้อง มันจึงเป็นข้ออ้างที่เซี่ยซูเจี๋ยปฏิเสธไม่ได้“อาเหยานั่งนิ่ง ๆ นะ! รอรับผ้าก็พอ” เซี่ยซูเจี๋ยหันไปบอกน้องสาว“เจ้าค่ะ”ทว่าเซี่ยซูเจี๋ยก็คือเซี่ยซูเจี๋ย นางไม่ต้องการให้น้องสาวของนางออกแรงแม้แต่น้อย เซี่ยซูเจี๋ยหาที่นั่งให้น้องสาวก่อนจะลงมือซักเสื้อ“อาเจี๋ย ทำไมเจ้าไม่

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 14 เซี่ยห้าวไห่หนุนหลัง

    เซี่ยห้าวไห่ยื่นเงินจำนวนเจ็ดสิบห้าอีแปะจากการนำไข่ไก่ไปขาย ให้ลูกสาวคนเล็กอย่างเซี่ยซูเหยาที่นั่งเล่นกับเจ้าเสี่ยวเฮยบนแคร่ไม้ไผ่เขาได้ปรึกษากับลูกอีกสองคนแล้วว่าเงินนี้ควรจะเป็นของเซี่ยซูเหยา หลังจากนำไข่ไก่ไปขายบางส่วน เขาก็เอากลับมาให้ลูกสาวโดยที่ไม่หักค่าไปขายเซี่ยซูเหยาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อด้วยความมึนงง คนที่เก็บเงินในบ้านคือเซี่ยซูเจี๋ย ทว่าวันนี้พ่อของนางกลับมอบเงินจำนวนหลายอีแปะให้นาง“เงินนี้ได้มากจากการขายไข่จำนวนเจ็ดสิบห้าฟอง โรงเตี๊ยมประกาศรับไข่ไก่ให้ฟองละหนึ่งอีแปะพ่อเลยลองไปดู” เซี่ยห้าวไห่ตอบอย่างละเอียด ลูกสาวจะไม่ได้ถามเขาซ้ำอีก“ให้พี่สาวเถิดเจ้าค่ะ”เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย เซี่ยซูเหยียน เซี่ยซูเจี๋ยไปรับจ้างหาเงินเข้าบ้านยังไม่เก็บไว้เอง นางจึงไม่ต้องการส่วนแบ่งนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาทุกคนก็ทำเพื่อนางมาก“พ่อกับพี่สาว พี่ชายคุยกันแล้ว” เซี่ยห้าวไห่ถอนหายใจพลางนั่งลงข้างลูกสาว เขาคิดเอาไว้แล้วว่านางจะไม่ยอมรับ“ท่านพ่อ อาเหยาอยากขายอาหาร”เซี่ยซูเหยาใ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 13 หัวหมู

    เซี่ยห้าวไห่นั่งแทบไม่ติดแคร่ไม้ไผ่หลังจากกลับมาจากการล่าสัตว์ ท่านยายหลี่ฮัวที่อยู่ข้างบ้านบอกว่าเซี่ยซูเหยียนพาพี่สาวและน้องสาวเข้าป่าไปแล้ว ยังเล่าเรื่องที่สายรองเซี่ยมาที่บ้านอีกทว่าที่เซี่ยห้าวไห่ไม่เข้าไปตามลูก ๆ เพราะอีกไม่นานเซี่ยซูเหยียนก็คงพาพี่สาวและน้องสาวกลับมา ลูกชายคนรองของเขารู้ตัวว่าสามารถพาไปที่ไหนได้บ้าง และกว่าจะเดินทางกลับมาถึงบ้านเซี่ยห้าวไห่ก็หมดแรงแล้วผ่านไปเกือบชั่วยามเซี่ยห้าวไห่จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นลูกชายพาพี่สาวและน้องสาวกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ!”เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของเซี่ยซูเหยาที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ นางคำนวณวันตามที่พี่สาวบอกทว่าเหลืออีกตั้งสองวันไม่ใช่หรือ ทำไมรอบนี้ถึงกลับมาเร็วกว่าปกติ“อาเจี๋ย! อาเหยียน! อาเหยา!”เซี่ยซูเจี๋ยรีบเข้าไปในบ้านเพื่อทำอาหารให้เซี่ยห้าวไห่ ปกติเวลาที่เซี่ยห้าวไห่กลับมาจากการล่าสัตว์ เซี่ยซูเจี๋ยก็จะรีบทำอาหารให้ เพราะเหล่านายพรานเร่งเดินทางกลับพวกเขาจึงไม่หยุดแวะพัก ทว่า

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   หาของแปรรูป

    ผ่านมาแล้วสองวันใบหน้าที่บวมช้ำของเซี่ยซูเจี๋ยก็กลับมาเป็นปกติ และทั้งสามก็ลงมือนปลูกผักเรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่วันเซี่ยห้าวไห่ก็จะกลับมา เซี่ยซูเหยาเลยอ้อนขอให้เซี่ยซูเหยียนพาเข้าป่า จริง ๆ เซี่ยซูเหยียนปฏิเสธทว่าเซี่ยซูเหยาไม่ยอมแพ้ นางอ้อนขอจนได้ไปก็ยังเป็นเซี่ยซูเจี๋ยที่เตรียมอาหารสำหรับเข้าป่าวันนี้ มีเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ไปทำงาน และท่านยายหลี่ฮัวก็อยู่ที่บ้าน เซี่ยซูเจี๋ยเลยไปขอให้ช่วยดูบ้านให้ด้วย นางไม่ไว้ใจที่จะให้น้องชายกับน้องสาวพากันไปเองปลาในถังเหลือออยู่เจ็ดตัว กุ้งอีกเป็นร้อยตัวเซี่ยซูเจี๋ยก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องพากันเข้าป่าอีก นางไม่อยากปฏิเสธน้องสาวที่ยิ้มกว้างตอนที่เซี่ยซูเหยียนอนุญาต“ครบแล้วใช่ไหม”นอกจากตะกร้าอาหารมื้อกลางวันแล้วทั้งสามก็มีตะกร้าสานสะพายคนละอัน เซี่ยซูเหยาได้ตะกร้าที่มันเล็กแต่ก็ใส่ของได้เยอะ และเซี่ยซูเหยียนก็เอาพวกมีดกับขวานไปด้วย ของพวกนี้เขาเอาติดตัวไปด้วยตลอดยามเข้าป่า“ขอรับ” เซี่ยซูเหยียนพยักหน้าเซี่ยซูเหยาไม่เอาเสี่ยวเฮยไปด้วย น้ำหนักของเสี่ยวเฮยไม่ใช่น้อย ๆ นางกลัวว่ามันจะถ่วงเวลาเดินนาง จึงเลือกที่จะขังไว้ในห้องครัว ทว่านางเทน้ำต้มข้าว น้

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 11 ท่านย่าเซี่ยโมโห

    เป็นไปตามที่สามพี่น้องบ้านเซี่ยคิดกันจริง ๆ หลังจากฝาแฝดเซี่ยกลับไปไม่นานทั้งสามก็ได้ยินเสียงก่นด่าทอดังเข้ามาใกล้‘นังเด็กสารเลว!มา‘ท่านแม่ ท่านแม่ต้องให้ความยุติธรรมกับยุ่นเอ๋อร์นะเจ้าคะ! โฮ หลานของท่านแม่จะมีแผลไม่ได้!’‘ใช่ ๆ’‘เด็กพวกนี้มันกล้าทำขนาดนี้ ถ้าปล่อยไว้มันต้องทำอาหรงแน่ ๆ’‘นั่นสิ’“เซี่ยซูเจี๋ย!”เซี่ยซูเหยาหลบหลังพี่สาวทันทีที่เห็นกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้ ในกลุ่มมีนางซือหลิงที่ตาแดงเดินมาด้วย คาดว่าคงเห็นที่แขนลูกสาวแล้ว“ท่านย่า” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยเรียกย่าเซี่ยหรือก็คือย่ารองสกุลเซี่ย ภรรยาปู่รอง น้องชายของปู่นางท่านปู่และท่านย่าแท้ ๆ ขของพวกนางเสียไปนานแล้วท่านย่าเซี่ยคือผู้อาวุโสของสกุลเซี่ย พวกนางจึงต้องเรียกตามที่คนอื่นเรียก“เซี่ยหลินยุ่นเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเจ้าคนหนึ่ง ทำไมถึงต้องลงมือด้วย”“นางจะตีอาเหยา ข้าจึงปกป้องน้องสาวของข้าเจ้าค่ะท่านย่า” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยขึ้นเสียงเบาเซี่ยหลินยุ่นเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของท่านย่าเซี่ยที่ขึ้นชื่อว่าใจร้ายในหมู่บ้าน นางทำให้หลานสาวของท่านย่าเซี่ยมีบาดแผล ไม่รู้จะโดนอะไรบ้างยิ่งมากับนางซือหลิงและลูกชาย ลูกสะใภ้ อีกสามสี่คน เซี่ยซู

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 10 ฝาแฝดสกุลเซี่ยมาอีกแล้ว

    เซี่ยห้าวไห่ไปล่าสัตว์ได้สองวันแล้ว สามพี่น้องบ้านเซี่ยจึงได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง โชคดีที่บ้านไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นมาก เซี่ยห้าวไห่เลยไม่ค่อยเป็นห่วงทว่าวันนี้ผักที่ปลูกในแปลงถูกเซี่ยซูเหยียนเก็บขึ้นมาให้พี่สาวนำไปทำอาหารหมดแล้ว ทั้งสามเลยคุยกันว่าจะปลูกผักใหม่เซี่ยซูเหยาเสนอแนวคิดว่านำมูลไก่ที่มีในคอกมาผสมหน้าดินเตรียมเอาไว้ก่อนลงมือปลูก วิธีนี้จะทำให้ผักเจริญงอกงาม และไม่ใช่ว่าสามารถปลูกได้ทุกอย่าง ผักบางอย่างไม่สามารถเจริญเติบโตบนดินพวกนี้ได้ระหว่างรอเซี่ยซูเจี๋ยไปเลือกซื้อเมล็ดผัก เซี่ยซูเหยียนกับเซี่ยซูเหยาก็ช่วยกันปรับหน้าดินรอ และงานในบ้านที่ยังทำค้างไว้อยู่ เซี่ยซูเหยาก็อาสาทำก่อนพี่สาวจะกลับจริง ๆ วันนี้มีชาวบ้านมาเรียกให้เซี่ยซูเหยียนไปช่วยเก็บฟืนในป่า ทว่าที่บ้านมีน้องสาวอยู่คนเดียวเลยปฏิเสธไป แม้ตอนแรกคนที่มาเรียกจะหัวเสียก็ตามเซี่ยซูเหยาอ้าปากหาวพลางอุ้มเจ้าเสี่ยวเฮยที่นอนหลับอย่างสบายใจ อีกไม่นานนางคงอุ้มไม่ได้แล้ว ยังดีที่มันไม่ได้โตเร็วมากเมื่อวานเซี่ยซูเหยาให้เซี่ยซูเหยียนไปซื้อข้าวสารมาห้าจิน เป็นเงินหนึ่งตำลึงเงินและห้าร้อยอีแปะ เงินจำนวนนี้ต้องทำงานส

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 8 กาฝาก

    เซี่ยซูเหยามองตามเซี่ยหยุนหรงที่ถูกพี่สาวลากกลับไปด้วยความไม่พอใจ นางซือหลิงเลี้ยงลูกของนางแต่ละคนได้ดีจริง ๆถ้าจำไม่ผิดนางเคยได้ยินท่านพ่อเล่าว่าลูกสาวคนโตของนางซือหลิงแต่งออกไปก่อนที่เซี่ยซูเหยาจะเกิดซะอีก ส่วนลูกชายอีกสามคนของนางที่ไม่รวมเด็กแฝดคู่นี้เห็นว่าไม่มีการงานมั่นคง ออกไปรับจ้างอย่างเกียจคร้าน แต่มีลูกมีเมียเต็มบ้านอายุลูกชายของนางซือหลิงแต่ละคนก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว และแต่ละบ้านก็มีลูกไม่ต่ำกว่าสามคน เห็นว่ายามนี้ลูกสะใภ้ของนางก็ใกล้คลอดอีกแล้ว“พี่ชายมาแล้ว อาเหยาว่าเรากินข้าวกันเถอะ” เซี่ยซูเหยาเอ่ยขึ้น“ได้”อากาศด้านนอกมันดีกว่าในบ้านที่อบอ้าว เซี่ยซูเจี๋ยจึงยกถาดปลาย่างเกลือและน้ำจิ้ม ที่น้องสาวเตรียมของไว้ให้ปรุงออกมากินที่หน้าบ้าน ส่วยเซี่ยซูเหยายกหม้อข้าวที่หุงไว้มาตามหลังนอกจากปลาย่างเกลือและน้ำจิ้มแล้ว ยังมีผักดองและลวกผักเอาไว้กินคู่ด้วย เซี่ยซูเหยาคิดว่าเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนจะไม่ชินหากไม่มีผักหรือของที่กินประจำ“โอ้ นี่หรือปลาย่างเกลือที่อาเหยาบอก” เซี่ยห้าวไห่ที่เตรียมลงมือกินข้าวมื้อกลางวันอุทานถาม“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”มิใช่ว่าเซี่ยซูเจี๋ยไม่เคยทำให้คนในบ้

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 7 เสี่ยวเฮย

    เซี่ยซูเหยากอดเข่านั่งมองเสี่ยวเฮย ที่นางเก็บกลับมาด้วย นางอ้อนพ่อของนางเกือบครึ่งวันเพื่อขอเลี้ยงลูกหมาป่าตัวสีขาวเสี่ยวเฮยมีขนสีขาวแต่ที่ไม่ได้ตั้งว่าเสี่ยวไป๋ เพราะเซี่ยซูเหยานึกถึงแม่หมาป่ากับบรรดาพี่น้องของเสี่ยวเฮยที่มีขนสีดำ นางเลยตั้งชื่อนี้ให้เสี่ยวเฮยถึงเซี่ยซูเจี๋ยไม่ต้องการให้น้องสาวเลี้ยงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ลูกหมาป่ายังเด็กมันช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น และนางก็ไม่ได้ใจดำ“ท่านพ่อ อาเหยาอยากกินปลาย่าง” เซี่ยซูเหยาหันไปบอกเซี่ยห่าวไห่ที่นั่งสานตะกร้าเซี่ยห้าวไห่สามารถทำได้หลายอย่าง ล่าสัตว์ รับจ้างทั่วไป หรือสานตะกร้าเขาก็สามารถทำได้ วันนี้เขาไม่ได้เข้าป่าเพราะเพิ่งเข้าไปเมื่อวานและของที่ได้มาก็กลัวจะกินไม่ทัน อีกทั้งไม่มีใครจ้างงาน“ทำไมไม่บอกพี่สาวทำให้ล่ะ”“อาเหยาอยากทำเองเจ้าค่ะ”เวลาเซี่ยห้าวไห่อยู่บ้านเขาจะจับตานางตลอดเวลา และไม่ต้องการให้นางทำอะไรที่เหนื่อย เซี่ยซูเหยาจึงต้องขอผู้เป็นพ่อ ส่วนพี่สาวนั้นอนุญาตแล้ว“อืม ให้พี่สาวช่วยทำด้วย”เซี่ยซูเหยาพยักหน้า อันที่จริงตอนนี้พี่สาวคงล้างทำความสะอาดปลาเสร็จแล้ว นางเลยรีบเดินไปยังหลังบ้านเพื่อหาหนิงเหมิงเฉ่ามายัดไส้ตัวปลา อ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 6 ช่วยชีวิตลูกหมาป่า

    เซี่ยซูเหยารีบเตรียมของเมื่อพ่อของนางอนุญาตและจะพาเข้าป่าไปจับปลาอีกครั้ง เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนรับจ้างชาวบ้านทำงานวันละสิบอีแปะ ทำทั้งหมดห้าวันจึงได้เงินมาหนึ่งร้อยอีแปะ ซึ่งเซี่ยซูเหยาปวดใจไม่น้อย เงินที่ได้รับน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงงานที่ได้ทำไปข้าวสาร 1 จิน เกือบสามร้อยอีแปะ ทั้งสองต้องทำงานมากกว่าครึ่งเดือนเพื่อซื้อข้าวสารให้นางกิน แล้วคนอื่นในบ้านกินเพียงน้ำข้าวต้มที่เหลืออยู่เท่านั้น หากนางไม่ใช่ผู้ตักข้าวเองเซี่ยซูเหยาไม่เข้าใจพ่อของนางเลย ทุกวันหากเข้าป่าล่าสัตว์ไปขายและเหลือไว้กินในบ้าน อย่างน้อยวันหนึ่งก็ได้เงินไม่ตำกว่าห้าสิบอีแปะ ทั้งยังใช้เวลาไม่นานและพักเหนื่อยได้ตลอดรับจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เพียงแต่ต้องใช้แรง ยังได้รับเงินที่สมควรจะได้รับน้อยมาก สู้เข้าป่าหาอาหารมากินดีกว่าได้เงินเพียงน้อยแล้วอดกินแต่นางก็ไม่ได้ถามอันใดต่อ เอาไว้เมื่อถึงเวลานั้นค่อยถาม เซี่ยซูเหยารอให้เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนหยุดพักหนึ่งวันหลังออกไปรับจ้าง และวันต่อมานางถึงอ้อนท่านพ่อเพื่อขอให้พาเข้าป่าอีกครั้ง ซึ่งท่านก็ตกลง“วันนี้พี่คงไม่ได้ไปด้วย อาเหยาระวังตัวดี ๆ นะ!” เซี่ยซูเจี๋ย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status