จากครอบครัวยากจนโดนดูถูก ม่านหรูจึงมีจิตใจเข้มแข็งและไม่เห็นแก่ยศศักดิ์ นางรักที่จะเป็นเพียงคนธรรมดาไปตลอดชีวิตเท่านั้น
Lihat lebih banyakสายวันต่อมา ขันทีผางนำป้ายพระราชทานพาโหวซื่อหลงกับโหวฮูหยินเดินทางไปยังจวนโหวที่ฝ่าบาทประทานให้ คนอื่น ๆ ต่างตามไปดูเช่นเดียวกัน พวกเขาที่อยากรู้ว่าจวนโหวที่ได้รับหน้าตาเป็นอย่างไรต่างเดินตามขบวนขันทีและทหารไปทิศเหนือใกล้กับวังหลวง กระทั่งขันทีผางสั่งทหารนำป้ายโหวซื่อหลงไปติดเอาไว้ที่หน้าประตูใหญ่ตรงหน้า ทุกคนจึงเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะจวนที่เห็นตอนนี้นั้นใหญ่โตยิ่งกว่าทุกจวนที่พวกเขาเคยเห็นมาเสียอีก“ท่านโหวขอรับ นี่เป็นกุญแจห้องทั้งหมดในจวนโหว ส่วนสิ่งของพระราชทานถูกส่งมาที่จวนตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วขอรับ เชิญท่านโหวกับโหวฮูหยินตรวจสอบตามรายการที่ข้าเขียนให้ในนี้ได้เลยขอรับ ใบรายการอีก 5 ใบนี้ เป็นของท่านติงกั๋วกง รองแม่ทัพแดนเหนือ ผู้ช่วยรองแม่ทัพแดนเหนือ รองแม่ทัพขั้น 3 และกุนซือขั้น 3 ขอรับ”ขันทีผางยื่นส่งใบรายการทั้งหมดให้พวกเขาทีละคน จากนั้นเขาและทหารที่เดินทางมาด้วยกันก็ขอลากลับวังไป ซื่อหวนหลงเปิดประตูใหญ่ออกข้างหนึ่ง ภายในมีพ่อบ้านยืนรออยู่ก่อนแล้ว เขาแนะนำชื่อตนเองและแนะนำบ่าวไพ
ก่อนถึงวันงานเลี้ยงหลังกลับจากเมืองชายแดนตะวันออก ม่านหรูสั่งบ่าวให้นำทางนางไปซื้อกวานเพื่อเตรียมงานสวมกวานให้ลูกชายในช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนไปยังเมืองชายแดนม่านหรูนำตั๋วแลกเงินติดตัวมามากถึงหนึ่งหมื่นตำลึง ระหว่างทางพวกนางใช้จ่ายค่าเสบียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ม่านหรูมีเงินเหลืออยู่เก้าพันกว่าตำลึงบ่าวในจวนรองแม่ทัพพาม่านหรูไปร้านเครื่องประดับที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ม่านหรูบอกเถ้าแก่ให้นำกวานที่ดีที่สุดมาให้นางเลือก ไม่นานนักนางก็ได้กวานทองสองอันที่มีลวดลายแตกต่างกัน อันหนึ่งนั้นเป็นลายเมฆมงคล ส่วนอีกอันเป็นลายใบไผ่ที่สวยสดใสเหมาะกับซื่อซีซวน ม่านหรูจ่ายค่ากวานไปเกือบสามพันตำลึง ก่อนจะชวนบ่าวกลับจวนเพื่อเตรียมพิธีสวมกวานต่อในช่วงบ่ายที่จวนรองแม่ทัพวันนี้ต่างครึกครื้นและเต็มไปด้วยความสุขหลังจากเจ้านายทั้งสองของจวนเสร็จสิ้นพิธีสวมกวาน เหล่าบ่าวไพร่ในจวนต่างได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงไม่เว้นแม้แต่คนเดียว พวกเขายิ่งรู้สึกซาบซึ้งมากขึ้นไปอีกที่นายท่านถึงอายุจะยังน้อยแต่กลับมีความคิดมากกว่าผู้ใหญ่เสียอ
กลางดึกคืนนั้น ม่านหรูแอบไปพบท่านปู่เพื่อบอกเรื่องที่สามีกับลูกนางกล่าวไว้เมื่อตอนเย็น ชางจ้าวหลงคิดสักพักก็เข้าใจดีว่าพวกเขาคงห่วงม่านหรูมากเกินไป“แล้วเจ้าจะแอบขึ้นเรือกับปู่หรือไม่เล่า ปู่ให้คนเตรียมเชื้อไฟเอาไว้ไม่น้อยแล้ว”“ข้าจะไปพร้อมท่านปู่กับหลาน ๆ เจ้าค่ะ แผนการของเราจะต้องพังเรือทั้งหมดนี่นา”“เช่นนั้นเจ้าให้คนเตรียมเชื้อไฟเอาไว้หรือยัง เราจะได้แอบเดินทางออกไปก่อน”“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะท่านปู่ ข้ายังเอาถุงทรายติดตัวไปด้วย เผื่อต้องใช้ในการต่อสู้”“อืม ดีที่เจ้ารอบคอบ ส่วนปู่นั้นสามารถใช้หยดน้ำแทนมีดบินได้ เอาล่ะ เราไปกันได้แล้วกระมัง เดี๋ยวจะเสียแผนเอา”ม่านหรูพยักหน้ารับคำชางจ้าวหลง ก่อนที่ทั้งสี่คนจะใช้วิชาตัวเบาไปยังหาดทรายที่เดิม เพียงแต่ครานี้กว่าที่ทุกคนจะหลบหลีกคนของกองทัพใหญ่ได้ก็เสียเวลาไม่น้อยเลยทีเดียวครึ่งชั่วยามต่อมา กองเรือโจรสลัดมาเ
สายวันต่อมา โจรสลัดขึ้นบกมาปล้นฆ่าชาวบ้านเหมือนทุกวัน ทหารที่เฝ้าอยู่รีบส่งคนไปแจ้งท่านแม่ทัพในจวน ก่อนที่ทหารทั้ง 19 คน จะต่อสู้กับโจรสลัดรอให้ทหารอีกจำนวนหนึ่งที่ลาดตระเวนอยู่ใกล้ ๆ มาช่วยพวกเขาไม่ถึงสองเค่อ กองทัพของหนิงจิ้งจิวก็พาทหารเข้าจัดการกลุ่มโจรสลัด โดยมีโจรสลัดบางส่วนวิ่งไปยังชายหาดเพื่อหลบหนีเช่นทุกครั้ง แต่ด้วยตอนนี้ทหารรู้ว่ากับดักถูกทำลายแล้ว พวกเขาจึงวิ่งตามอย่างเต็มกำลังจนสามารถจับกุมคนกลับมาได้ถึงสี่คนในคราวเดียว ส่วนโจรสลัดที่กำลังต่อสู้อยู่ก็ถูกฆ่าตายทั้งหมด นี่นับเป็นครั้งแรกที่กองทัพสามารถจับโจรสลัดกลับไปสอบสวนได้ เพียงแต่ภาษาที่พวกเขาพูดมานั้นไม่มีใครสามารถแปลออก พวกเขาจึงทำได้เพียงนำโจรไปกักขังไว้ก่อนแล้วลาดตระเวนรอบชายหาดต่อจนถึงตอนเย็นกลางดึกของวัน ชางจ้าวหลงกับม่านหรู ติงเฟิงหยางและติงเฟิงฮุยมาชายหาดเหมือนกับเมื่อคืนวาน เด็กทั้งสองอยากเรียนวิธีทำลายกับดัก ชางจ้าวหลงให้พวกเขาตามมาด้านหลังและไม่ให้พวกเขาวิ่งวุ่นวาย แต่เสียดายคืนนี้ไม่มีกับดักให้ทำลายเลยแม้แต่น้อยหลังจากที่ช
หลังจากงานศพของทั้งสองคหบดีใหญ่เมืองไห่หลงผ่านไปด้วยดี กว่าที่ซีฮันกับซีซวนจะรู้ข่าวก็สายไปเสียแล้ว พวกเขายังติดงานและไม่สามารถลาไปเคารพทวดที่หลุมฝังศพได้ ในจดหมายท่านพ่อสั่งให้พวกเขารอสิ้นปีจึงค่อยกลับไป ทั้งสองตอนนี้ทำได้เพียงสั่งทหารไปซื้อกระดาษเงินกระดาษทองกับธูปเทียนมาทำพิธีส่งวิญญาณท่านทวดของพวกเขาที่จวนเท่านั้นสองปีต่อมาซื่อหวนหลงได้รับพระราชโองการให้กลับไปเมืองหลวงเพื่อคุมทัพใหญ่ไปช่วยชายแดนตะวันออกซึ่งตอนนี้ถูกโจรสลัดเข้ามาปล้นฆ่าชาวบ้านกันเป็นว่าเล่น เขาจึงรีบสั่งการให้คนไปแจ้งทหารทั้ง 200 นายเตรียมตัวออกเดินทางทันที ม่านหรูอยากไปกับเขาแต่นางรู้ดีว่าครั้งนี้คงไม่สามารถฝ่าฝืนกฎทหารได้อีก นอกจากฝ่าบาทจะส่งราชโองการมาอีกฉบับเพื่อให้นางช่วยเหลือการศึกในครั้งนี้ก่อนออกเดินทาง ซื่อหวนหลงยังสั่งภรรยารักว่าให้ดูแลจวนกับลูกให้ดี เขาจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดหลังเสร็จงาน ม่านหรูได้แต่พยักหน้ารับคำสามีด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก นางรู้สึกว่าการศึกครั้งนี้ไม่น่า
ม่านหรูเชิญให้ท่านปู่นั่งที่นั่งประธานของบ้าน ส่วนนางกับสามีนั่งลงอีกข้างหนึ่งของห้องโถงใหญ่พร้อมลูกสาว อีกด้านเป็นติงกวน เสี่ยวชิงกับหลาน ๆ นั่งด้วยกัน พวกเขาต่างทักทายกันเสียงจอแจ ก่อนที่ฮวยหลิวจะชวนลูกพี่ลูกน้องออกไปเล่นที่สวนด้านหลังและปล่อยให้พวกผู้ใหญ่คุยกัน“ท่านปู่สบายดีไหมเจ้าคะ ในจดหมายน้องรองบอกว่าท่านยังคอยสอนวรยุทธเด็ก ๆ จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ข้ากับน้องเป็นห่วงท่านนะเจ้าคะ”“เพ้ย! เจ้าจะฟังเด็กสองคนนั้นทำไมกัน ข้าออกจะแข็งแรงอย่างกับอะไรดี มีแต่พ่อแม่เจ้านั่นแหละที่ช่วงนี้ป่วยออด ๆ แอด ๆ น่ะ เจ้าห่วงพวกเขาจะดีกว่า ฮึ!”ชางจ้าวหลงสะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ หลานสาวคนนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขานั้นแข็งแรงยิ่งกว่าพวกนางเสียอีก ม่านหรูเห็นอาการของท่านปู่ก็ได้แต่ถอนหายใจ“ข้ารู้เจ้าค่ะท่านปู่ แต่อย่างน้อยท่านก็ควรจะพักผ่อนตามวัยบ้าง ส่วนท่านพ่อท่านแม่มีน้องรองกับน้องสามคอยดูแล ข้าจึงไม่ได้ห่วงอะไรมากนัก อย่างไรพวกท่านก็ไม่มีวรยุทธ การที่จะเจ็บ
ซื่อซีฮันตอนนี้สอบเข้ารับราชการเป็นรองแม่ทัพตอนอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ส่วนซื่อซีซวนสอบจอหงวนได้อันดับที่สามและได้รับตำแหน่งทั่นฮวาโดยฮ่องเต้ผู้ที่เห็นหลาน ๆ เก่งกาจตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ต่างจากพ่อของพวกเขาดีใจที่พวกเขามีใจรักแว่นแคว้นจนอยากอุทิศตัวทำงานให้กับเขาแทนโหวซื่อหลง จ้าวเซียงหลงแต่งตั้งให้ซื่อซีซวนเป็นกุนซือประจำกองทัพเพื่อให้พวกเขาพี่น้องสามารถทำงานร่วมกันได้การเดินทางมาสอบครั้งนี้ของเด็กทั้งสอง มีซื่อหวนหลงกับม่านหรูรวมทั้งซื่อฮวยหลิวมาให้กำลังใจด้วย เมื่อทราบผลการสอบและตำแหน่งที่ลูกได้รับการแต่งตั้ง ซื่อหวนหลงกับม่านหรูก็พาลูกสาวเดินทางกลับเมืองไห่หลง เนื่องจากตอนนี้ท่านตาของซื่อหวนหลงนั้นป่วยออด ๆ แอด ๆ ไม่ต่างจากปู่ของเขาที่อายุมากแล้ว พวกเขาจึงไม่สามารถอยู่ดูแลลูกชายต่อได้ หลังจากนี้คงต้องปล่อยพวกเขาให้รับผิดชอบงานในหน้าที่ของตนเองไป ถึงแม้ซื่อฮวยหลิวจะไม่อยากจากพี่ชายทั้งสองไป แต่นางไม่อาจเอาแต่ใจได้มากนัก ด้วยตัวนางเองก็เป็นห่วงท่านปู่ทวดทั้งสองซึ่งมีนางคอยดูแลและเป็นกำลังใจให้พวกท่านมาตลอด นางกลัวว่าหากนางไม่อย
ม่านหรูที่คิดจะไปเยี่ยมครอบครัวจำเป็นต้องหยุดแผนการเอาไว้ก่อนจนกว่านางจะคลอด ซื่อหวนหลงก็พักงานอย่างอื่นเพื่อคอยดูแลม่านหรูตลอดเวลา ส่วนงานในร้านค้าเขาก็สั่งพ่อบ้านของจวนตระกูลจี้ดูแลแทน จี้หยางที่กำลังจะมีเหลนอีกคนก็แล้วแต่หลานชายจะจัดการ เขาเฝ้ารอดูว่าเหลนคนใหม่จะเป็นชายหรือหญิง นานแล้วที่เขาได้แต่อิจฉาตาเฒ่าซื่อที่มีลูกหลานชายหญิงมากมาย ถึงแม้หลาน ๆ ทางนั้นจะพากันแต่งงานช้ากว่าซื่อหวนหลงหนึ่งปี แต่พวกเขาก็มีลูกกันในปีต่อมาทันที ปีนั้นเขาก็พบเหลนทั้งสองที่อายุยังน้อยจนแทบจำความไม่ได้ อีกทั้งเด็ก ๆ ยังไม่กล้าออดอ้อนเขาเหมือนทุกวันนี้ด้วย จี้หยางจึงหวังว่าเหลนคนใหม่คนนี้เขาจะมีเวลาเลี้ยงดูมากกว่าซื่อซีฮันกับซื่อซีซวนหนึ่งปีต่อมา ม่านหรูตอนนี้คลอดลูกสาวได้เดือนกว่าแล้ว นางจึงคิดอยากจะไปเยี่ยมครอบครัวที่ชายแดนเหนือพร้อมทุกคนสักครั้งหนึ่งซื่อหวนหลงกับเด็ก ๆ ต่างเห่อน้องสาวไม่น้อย พวกเขาไม่ยอมออกจากจวนแม้แต่ครึ่งก้าวตั้งแต่นางคลอด ม่านหรูจึงเอ่ยปากบอกความต้องการกับสามีเสียเลย
ครึ่งเดือนต่อมา ขบวนของโหวซื่อหลงเดินทางมาถึงประตูเมืองไห่หลง เขานึกแปลกใจไม่น้อยที่เจ้าเมืองพาเจ้าหน้าที่มารอต้อนรับพวกเขาเป็นจำนวนมากทั้งที่เขาไม่ได้ส่งใครมาแจ้งว่าจะถึงเมืองไห่หลงวันนี้เสียหน่อย แต่ด้วยตำแหน่งของเขาที่ค้ำคออยู่ ซื่อหวนหลงจึงต้องลงไปรับการคารวะจากทุกคนพร้อมม่านหรู“พวกเจ้าตามสบาย เหตุใดจึงได้มารอพวกข้าได้เล่า?”“เรียนท่านโหวซื่อหลง ข้ามีทหารตรวจตรารอบเมืองทุกวันขอรับ เขาจึงมารายงานว่าพวกท่านเดินทางมาถึงแล้ว ข้ากับทุกคนจึงมารอต้อนรับท่านโหวซื่อหลงกับโหวฮูหยินขอรับ”“ขอบใจพวกเจ้ามาก ความจริงพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ อย่างไรหลังจากนี้ข้าก็จะอยู่ที่เมืองนี้เป็นหลัก อาจมีบ้างที่ข้าจะเดินทางไปยังเมืองอื่นเพื่อช่วยงานฝ่าบาท เอาล่ะ พวกเจ้าแยกย้ายกันไปเถอะ หากใครมีปัญหาอันใด พวกเจ้าสามารถมาแจ้งข้าที่จวนโหวซื่อหลงได้ตลอดเวลา”“ขอบพระคุณท่านโหวซื่อหลงที่เมตตาขอรับ เชิญท่านโหวซื่อหลงเข้าเมืองขอรับ”
หมู่บ้านเซียงเหอ อำเภอเซียงกวนใกล้ชายแดนแคว้นเจิ้ง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในแคว้นจ้าวที่สงบมานานหลังผ่านสงครามแบ่งแยกแคว้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ในแคว้นจ้าวมีเด็กกำพร้าที่ครอบครัวถูกภัยสงครามอยู่เป็นจำนวนมากติงกวนกับเสี่ยวชิงเป็นเด็กกำพร้าในหมู่บ้านที่ซัดเซพเนจรจากภัยสงครามในสมัยนั้นและมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านเซียงเหอพร้อมกับชาวบ้านหลายครอบครัว เด็ก 2 คน ช่วยกันสร้างกระท่อมพักที่ท้ายหมู่บ้านตามกำลังของเด็กอายุ 10 ขวบ จะทำออกมาได้ ทั้งคู่ไม่สนใจชาวบ้านที่ครหาว่าเด็กชายกับเด็กหญิงที่ไม่ใช่ญาติอยู่ร่วมกันนั้นไม่เหมาะสม ในเมื่อพวกเขาไม่มีผู้ใหญ่รับไปเลี้ยงดู พวกเขาสองคนจึงต้องพึ่งพากันและกันเท่านั้นกระทั่ง 7 ปีผ่านไป ติงกวนกับเสี่ยวชิงอายุ 17 ปี ไม่มีลูกหลานคนในหมู่บ้านอยากขอพวกเขาไปเป็นเขยหรือสะใภ้ ติงกวนเห็นว่าเสี่ยวชิงถูกครหามานานมากแล้ว เขาจึงไปบอกผู้ใหญ่บ้านว่าจะแต่งเสี่ยวชิงเป็นภรรยา ผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าทั้งคู่กำพร้าพ่อแม่ ผู้ใหญ่บ้านจึงช่วยทำพิธีแต่งงานให้พวกเขาโดยมีภรรยาช่วยหาสิ่งของจำเป็นมาให้เด็กทั้งคู่เพื่อทำตามประเพณีหลังแต่งงานได้ปีครึ่ง เสี่ยวชิงก็คลอดลูกคนแรกเป็นหญิง พวกเขาตั้ง...
Komen