ความไว้ใจนำพามาสู่ความหายนะ! การกลับมาครั้งนี้นางจะทวงคืนความยุติธรรมหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้นางต้องพบชะตากรรมที่โหดร้าย แม้แต่ผู้เป็นสามีนางก็ไม่ยกเว้น "สวี่หยาง"สตรีที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายที่ฆ่าได้แม้กระทั่งสาวใช้ที่จงรักภักดีเพียงเพราะทำน้ำแกงหกมาสู่การวางยาสตรีอีกนางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาวของตนเพียงเพราะความอิจฉาริษยาที่สามีของตนรับนางเข้ามาเป็นอนุในเรือนทำให้นางได้รับบทลงโทษ แต่ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมิใช่ความผิดของนางรวมทั้งเรื่องสาวใช้ที่จงรักภักดีที่ต้องตายด้วยเช่นกัน! แต่นางยังไม่ทันได้ปริปากแม้จะโต้แย้งความผิดครั้งนี้ก็ถูกเสิ่นเกาหลานผู้เป็นสามีจับตัวไปคุมขังทำร้ายร่างกายเพื่อให้นางยอมรับผิดจนกระทั่งมีผู้มาช่วยชีวิตของนางเอาไว้ได้! สวี่หยางเจ็บใจเคียดแค้นนางจะไม่ยอมให้ตนเองต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา นางจะหวนกลับไปสืบหาคนที่ใส่ร้ายนางและปกป้องเจี่ยฟางน้องสาวที่ถูกปองร้ายในยามนี้….
View Moreบทที่ 5 คุณชายรองเสิ่นจิ้นสวี่หยางลุกขึ้นเดินเพื่อสำรวจตู้เตียงโต๊ะที่ทำด้วยไม้สนอย่างดียังมีแจกันลายเมฆมงคลสองใบและของประดับตกแต่งหรูหราหากไม่รกหูรกตาจนเกินไปเขาคงไม่ปล่อยให้นางต้องนอนเพียงลำพังตั้งแต่ค่ำคืนแรกที่แต่งเข้ามาหรอกกระมั่ง!เพียงชั่วอึดใจที่สวี่หยางคิดเช่นนั้น นางมองไปยังสุรามงคลที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะก่อนจะละสายตาพลางถอนหายใจเดินกลับไปที่เตียงนอนครั้นประตูถูกเปิดเข้ามาสวี่หยางรีบใช้มือดึงผ้าคุมหัวลงมาปิดไว้และนั่งแน่นิ่งรอสามีของตนมาเปิดหัวใจของนางเริ่มเต้นระรัว ถึงนางจะเป็นสตรีที่ดุร้ายแต่ทว่าเรื่องเช่นนี้นางเองก็ยังคงอ่อนหัดเช่นกันแต่ทว่านางนั่งอยู่สักครู่กลับไม่มีเสียงใดเอ่ยออกมาจากปากของเขา มีเพียงเสียงฝีเท้าที่กำลังย่างเข้ามาใกล้ ๆ ใช้ไม้ที่วางอยู่เปิดผ้าคุมออกเผยให้นางได้เห็นใบหน้าของเสิ่นเกาหลาน ดวงตาลุ่มลึกใบหน้าคมคิ้วกระบี่ท่าทางสุขุมราวกับบัณฑิต ดวงตาดำขลับเว้าลึกมีความไม่แยแสต่อโลกเจืออยู่ในนั้น แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของสวี่หยางสั่นไหว"บุปผาในน้ำ จันทราในกระจก ช่างเป็นเช่นดั่งที่เขากล่าวเล่าลือ ข้ามาที่เรือนนี้เพราะไม่ได้ต้องการร่วมหลับนอนกับเจ้า ข้าขอเอ่ยกับเ
บทที่ 4 ถูกปิดปากเมื่อมาถึงเรือนบ่าวรับใช้ที่ให้ลงโทษจี๋เสียงวิ่งหน้าตั้งมาแจ้งสวี่หยางด้วยน้ำเสียงกระอึกกระอัก นางคิดว่าจี๋เสียงยอมปริปากบอกแต่ทว่าสิ่งที่นางได้ยินจากปากของบ่าวกลับทำให้นางตกใจเพียงครู่"คุณหนูใหญ่ยามนี้จี๋เสียงสิ้นลมแล้วขอรับ""เกิดอันใดขึ้นข้าบอกให้เจ้าทำโทษนางมิได้ให้ฆ่านางทิ้งเสียหน่อยเช่นนี้ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือของผู้ใด" สวี่หยางแผดเสียงสูงกราดเกรี้ยวประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาดผ่านร่าง ไม่รู้แม้กระทั่งผู้ปองร้ายแถมยังต้องเสียสาวใช้อีกด้วย"คุณหนูข้ามิได้ลงมือฆ่านางขอรับ ข้าพยายามเค้นถามนางเอาแต่บอกว่านางไม่ได้ทำ นางจงรักภักดีต่อคุณหนูมาตลอด ข้าปวดหนักออกไปเพียงครู่กลับมาเห็นนางนอนน้ำลายฟูมปากตาเหลือกขึ้นบนแล้วขอรับ"สวี่หยางไม่อยากจะเชื่อคำพูดของบ่าวรีบวิ่งไปดูจี๋เสียงที่ลานลงโทษ ครั้นมาถึงเห็นสภาพนางนอนแน่นิ่งน้ำลายฟูมปากอย่างที่บ่าวแจ้งแต่ทว่าการตายของนางยิ่งทำให้สวี่หยางขับข้องใจมากกว่าเดิม การตายเช่นนี้ราวกับว่านางถูกวางยาให้นางดื่มยาพิษเพื่อปิดปาก"เจ้าจงค้นให้ทั่วเรือนทั้งเรือนของสาวใช้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดจงค้นให้ทั่ว การตายของจี๋เสียงมิใช่การตายธรรมดานางโ
บทที่ 3 เคยชิน"เอาตัวนางไปลงโทษตามคำสั่งของข้า ทำจนกว่านางจะยอมรับหากนางสลบนำน้ำเย็นสาดใส่หน้าให้นางฟื้นเค้นถามให้จงได้" สิ้นเสียงของสวี่หยางความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านจากปลายเท้าถึงหนังศีรษะของผู้กำลังถูกลงโทษ"ขอรับคุณหนูใหญ่"บ่าวรับใช้น้อมรับคำสั่งผู้เป็นนายพาตัวสาวใช้ไปลงโทษตามคำสั่ง สาวใช้คุกเข่าลงหัวโขกพื้นสะอึกสะอื้นแต่ทว่าสวี่หยางกลับไม่แยแสเดินเชิดหน้าออกไปจากที่ตรงนั้นมีเพียงเจี่ยฟางที่ต้องมองสาวใช้ด้วยความสงสารก่อนจะเดินตามหลังสวี่หยางออกไป"พี่หยางหากเรื่องนี้แพร่ออกไปนอกเรือนจะไม่เกิดผลดีต่อท่านนะเจ้าคะ โปรดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนอีกรอบ"ชื่อเสียงฉาวโฉ่ขจรขจายไปไกลของสวี่หยางนั้นยากที่จะทำให้ชื่อเสียงกลับมาดีได้นางไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผู้อื่นจะมองนางเช่นไร"เหตุใดต้องเกรงกลัวเจ้าก็รู้ว่าข้าถูกชาวบ้านหรือแม้แต่สาวใช้ในเรือนตนขนานนามว่าเช่นไร""แต่ว่า...หากเรื่องนี้ถึงหูของสกุลเสิ่นจะดีต่อท่านพี่หรือเจ้าคะ" ใบหน้าของเจี่ยฟางสลดลงเล็กน้อยเป็นกังวลแทนผู้เป็นพี่"เจ้าไม่ต้องมาใส่ใจ ข้ามิได้แต่งเข้าสกุลเสิ่นด้วยความรักที่ข้าทำทั้งหมดเพราะเป็นประสงค์ของทั้งสองตระกูล ว่าแต่เจ้ามาหาข้ามีเร
บทที่ 2 ขอความร่วมมือยามสนธยามาเยือนท้องฟ้าก็เริ่มมืดทั่วทั้งเมืองปกคลุมด้วยหมอกสีขาวสตรีงามพิลาสล้ำคิ้วใบหลิวดวงตาสวยเป็นประกายลึกล้ำยากจะหยั่งรู้ใบหน้าเคร่งขรึมดวงตาคู่งามเรียบนิ่งดุจสายน้ำยาวเดินล้วนงามสง่ายากจะละสายตาของผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า"ร่างกายของท่านยังไม่หายดีออกมาตากน้ำค้างเช่นนี้อาจจะแย่เอาได้ "ชายผู้นั้นเป็นเจ้าของสันกรามคมชัดคิ้วองอาจผึ่งผายดวงตาทั้งสองหยักโค้งเล็กน้อยสง่างามทรงภูมิเอ่ยถามสตรีที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ตน"คุณชายท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน" เมฆหมอกแห่งความสงสัยเข้าปกคลุมนางหยุดเท้าเงยหน้าจ้องมองพลางเอ่ยถาม"สิ่งที่ข้าช่วยท่านเพราะข้ามิเห็นด้วยกับโทษที่ท่านจะได้รับท่านพี่เสิ่นเกาหลานนั้นทำเกินกว่าเหตุเพราะความโมโหจึงไม่หยั่งคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ไม่มีหลักฐานว่าท่านเป็นคนลงมือแต่กลับกล่าวโทษ ข้าจึงมิอาจจะรับได้ครั้นข้าจะประท้วงก็ยากจะต่อกรกับท่านพี่ที่มีอารมณ์ปะทุร้อนเช่นนั้น " ดวงตาคู่งามจ้องมองเขาเผยสีหน้าซับซ้อนยากจะอ่านความ"การช่วยข้าออกมาจากการคุมขังเช่นนี้อาจจะทำให้ท่านเดือดร้อนเอาได้ท่านไม่เกรงกลัวอย่างนั้นหรือ? ""ท่านจะให้ข้าทนเห็นท่านไม่ได้รับความยุติ
บทที่ 1 ถูกใส่ร้ายแสงตะเกียงในคุกริบหรี่ ห้องขังคับแคบอากาศชื้นเหม็นอับ กำแพงมีความหนาถึงสามฉื่อสกัดกั้นสายลมตามทางเดินเอาไว้ด้านนอกบรรยากาศเหน็บหนาว่าสลดหดหู่ร่างสตรีนางหนึ่งนอนขดอยู่บนกองหญ้าชื้นอย่างไร้สติร่างกายเต็มไปด้วยรอยพกช้ำจากการโบยตีถูกสั่งให้นำตัวมาคุมขังเพื่อรอกล่าวโทษในรุ่งสางของอีกวันแสงเทียนส่องสว่างเห็นเงาของร่างใหญ่ที่บึกบึนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้วยความเงียบและเบาฝีเท้าที่สุดก่อนจะอุ้มช้อนร่างบางลักลอบพานางออกไปจากคุกในยามที่ทุกคนต่างพากันหลับไหลจิ๊บ จิ๊บ!!! เสียงนกน้อยร้องเพลงขับขานส่งกันไปมาร่างบางบิดกายเมื่อได้ยินเสียงรบเร้า ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือกวาดสายตามองไปดันด้านบนก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้าน นัยน์ตาคู่งามเบิกโพลงโตก่อนสติเลือนรางนางนอนอยู่ในที่มืดสนิทแถมยังเหม็นอับ ร่างบางรีบยันกายลุกขึ้นมองดูรอบ ๆ อย่างสำรวจนางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน!ทันใดนั้นเองประตูห้องถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก นางปรายสายตาไปมองผู้มาเยือนดวงตาเบิกโพลงโตมากกว่าเดิม คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย"ท่านฟื้นแล้วสินะ ข้าคิดว่าข้าจะมาช่วยท่านไม่ทันเสียแล้ว " สีหน้าของเขาบ่งบอกความเป็นห่วงออ
บทที่ 1 ถูกใส่ร้ายแสงตะเกียงในคุกริบหรี่ ห้องขังคับแคบอากาศชื้นเหม็นอับ กำแพงมีความหนาถึงสามฉื่อสกัดกั้นสายลมตามทางเดินเอาไว้ด้านนอกบรรยากาศเหน็บหนาว่าสลดหดหู่ร่างสตรีนางหนึ่งนอนขดอยู่บนกองหญ้าชื้นอย่างไร้สติร่างกายเต็มไปด้วยรอยพกช้ำจากการโบยตีถูกสั่งให้นำตัวมาคุมขังเพื่อรอกล่าวโทษในรุ่งสางของอีกวันแสงเทียนส่องสว่างเห็นเงาของร่างใหญ่ที่บึกบึนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้วยความเงียบและเบาฝีเท้าที่สุดก่อนจะอุ้มช้อนร่างบางลักลอบพานางออกไปจากคุกในยามที่ทุกคนต่างพากันหลับไหลจิ๊บ จิ๊บ!!! เสียงนกน้อยร้องเพลงขับขานส่งกันไปมาร่างบางบิดกายเมื่อได้ยินเสียงรบเร้า ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือกวาดสายตามองไปดันด้านบนก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้าน นัยน์ตาคู่งามเบิกโพลงโตก่อนสติเลือนรางนางนอนอยู่ในที่มืดสนิทแถมยังเหม็นอับ ร่างบางรีบยันกายลุกขึ้นมองดูรอบ ๆ อย่างสำรวจนางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน!ทันใดนั้นเองประตูห้องถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก นางปรายสายตาไปมองผู้มาเยือนดวงตาเบิกโพลงโตมากกว่าเดิม คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย"ท่านฟื้นแล้วสินะ ข้าคิดว่าข้าจะมาช่วยท่านไม่ทันเสียแล้ว " สีหน้าของเขาบ่งบอกความเป็นห่วงออ...
Comments