“ฉันเจ็บ อึก! ไม่ไหวแล้ว” “ไม่ไหวก็ต้องไหว ไหนบอกจะตามใจฉัน ทำไมแค่นี้ยอมแพ้แล้วล่ะ” “อึก! ก็ฉันไม่คิดว่านายจะรุนแรงขนาดนี้” “เป็นผู้หญิงของฉันอย่าร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ อมเข้าไปซะ” ในขณะที่พูดแดเนียลก็ยัดความใหญ่โตเข้าปากคาริสา จับศีรษะเธอให้กดเข้ามาครอบครองท่อนเอ็นรักแต่ความใหญ่โตทำให้มันเข้าไปในปากของเธอได้เพียงครึ่งเดียว “อ๊อก!อ๊อก!” คาริสายอมสนองความต้องการของเขาแต่โดยดี “ดี ๆ นะ ฉันเคยสอนเธอแล้ว”
View More“แดน ฉันขอโทษ ฮือ ๆ” สิ่งที่คาริสากลัวมาตลอดมันได้เกิดขึ้นแล้ว แดเนียลคงโกรธเกลียดเธอจนเข้าไส้“เธอไม่ต้องขอโทษ” ความรู้สึกเย็นที่ข้อมือทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนก้มหน้าไปมองก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจัดการล็อกข้อมือของเธอด้วยกุญแจที่แอบเตรียมไว้ดึงแขนล็อกกับมุมเตียง“แดน ไม่เอา ฮือ ๆ อย่าทำฉันเลย” คำขอร้องอ้อนวอนที่เขาไม่มีทางเห็นใจ เธอตะโกนออกมาจนเสียงแหบแห้ง ร้องไห้จนแทบจะไม่เหลือน้ำตาให้ไหลแดเนียลหายเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่เชื่อมติดกับห้องนอน เขาควานหาของบางอย่างที่เคยซื้อเก็บไว้ในนั้น จนในที่สุดเขาก็หามันเจอคาริสาตกใจกลัวเบิกดวงตากลมโตจ้องมองสิ่งที่แดเนียลถือมาด้วย เซตพันธนาการจำนวนเกือบสิบชิ้นได้ถูกวางไว้ข้างตัวของคาริสาที่นั่งชันเข่าหลบมุมอยู่“เลือกสักชิ้นสิเคส”“ไม่! นะ...นายมีของแบบนี้ด้วยเหรอ อึก!” คาริสาเอ่ยด้วยอาการหวาดกลัว“กลัวเหรอ? ฉันสัญญาว่าจะทำกับเธอให้เบามือที่สุด” มือหนาจับดึงผ้าห่มส่วนที่ปกปิดร่างเปลือยเพียงเล็กน้อยออกจากร่างกายของเธอ“อื้อ!” เสียงกรีดร้องส่งเสียงดังกังวานลั่นห้องทันทีเมื่อถูกแส้ฟาดลงบนเนื้อหนังอย่างเต็มแรง “ไม่ ฉันเจ็บ อึก! ไม่เอา อร้ายยยยย!”เธอ
“ทำไมต้องใช้วิธีนี้ด้วยล่ะ” คาริสาพึมพำเบา ๆ สีหน้าเหมือนหงุดหงิดที่เสียรู้แดเนียล“อันดับแรก พูดความจริงกับฉัน” แดเนียลพูดเสียงเรียบแต่ในตาของเขากลับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะระเบิดออกมาราวกับเขารู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับคาริสา เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาอยากจะรู้ความจริงจากปากเธอไม่ใช่คนอื่น และตอนนี้แดเนียลก็กำลังให้โอกาสคาริสาสารภาพอยู่ ซึ่งคาริสาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนพูดบางอย่างออกไป“ฉันเป็นคนขององค์กร” คาริสาเริ่มต้นประโยคที่แดเนียลเองก็รู้อยู่แล้วเขาเพียงแต่ต้องการให้คาริสาพูดมันออกมาแค่นั้น“ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกทุกเรื่องเกี่ยวกับองค์กรนี้รวมกับทุกเรื่องของเธอด้วย” มือหนาข้างหนึ่งจับกระชากแขนของหญิงสาวตรงหน้าแต่เพราะมีผ้าห่มผืนหนาห่อหุ้มไว้แรงเหวี่ยงเลยดูไม่แรงนัก ชายหนุ่มฟังกับคำถามที่อยากรู้“ตั้งแต่เด็ก แต่ว่าตอนที่เราเจอกันเมื่อห้าปีก่อนฉันออกจากองค์กรแล้ว พอหลังจากที่เราเลิกกันฉันก็กลับเขาองค์กรอีกครั้ง”แน่นอนว่าสิ่งที่คาริสาพูดอยู่เป็นข้อมูลแดเนียลไม่เคยรู้มาก่อน“องค์กรนี้มันต้องการอะไรจากฉัน”“สิ่งที่อยู่ในมือของนาย” คาริสาพูดพร้อมส่งสายตาไปที่มือของแดเนียลข้างที่
แดเนียลถอนความใหญ่โตออกจากช่องสวาทมือหนาจับดึงร่างเปลือยที่นอนฟุบอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งจัดการสาวสวยให้หันหน้ามาหาตน“หรือจะเอาจนถึงเช้าดี” เขาโน้มหน้าถามกึ่งจริงกึ่งหยอกอีกครั้ง พร้อมจับเสยผมหญิงสาวให้มองเห็นหน้าชัด ๆ“...” คาริสาไม่พูดอะไรนอกส่ายหัวปฏิเสธ เธอส่งสายตาวิงวอนชายหนุ่มที่ยังสวมเสื้อผ้าครบทุกชิ้นมีเพียงกางเกงที่ซิปถูกรูดออกเพื่อให้ความเป็นชายโผล่ผงาดออกมาคาริสากลืนน้ำลายอยากลำบากเพราะตอนนี้เจ้าสิ่งนั้นมันกำลังชี้โด่ตรงหน้าของเธออยู่“เจ็บมากเหรอ” แดเนียลพูดทั้งที่สายตาดูไม่เห็นอกเห็นใจเธอเลยสักนิด มือข้างหนึ่งจับท่อนเอ็นตัวเองสาวเล่น“...” คาริสาพยักหน้ารับพร้อมกับปล่อยน้ำตาของความเจ็บปวดออกมา“ฉันต้องการคำตอบที่เป็นคำพูด” มือข้างที่ไม่ได้สาวท่อนเอ็นจับดึงใบหน้าคาริสาที่เต็มด้วยคราบน้ำตาให้ปริปากออกมา“ฉันเจ็บ อึก! ไม่ไหวแล้ว”“ไม่ไหวก็ต้องไหว ไหนบอกจะตามใจฉัน ทำไมแค่นี้ยอมแพ้แล้วล่ะ”“อึก! ก็ฉันไม่คิดว่านายจะรุนแรงขนาดนี้”“เป็นผู้หญิงของฉันอย่าร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ อมเข้าไปซะ”ในขณะที่พูดแดเนียลก็ยัดความใหญ่โตเข้าปากคาริสา จับศีรษะเธอให้กดเข้ามาครอบครองท่อนเอ็นรักแต่ความ
“ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลย ยังไงฉันก็ยอมนายอยู่แล้ว” คาริสาใช้มือข้างหนึ่งยื่นไปสัมผัสแก้มสากเบา ๆ “ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปอย่างมีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ”“ใครบอกว่าฉันจะทำให้เธอมีความสุข” ดวงตาปีศาจร้ายที่จ้องมองมา ทำเอาคาริสาสะดุ้งตกใจจนตัวโยน แต่เธอไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมาพรึ่บ!คนตัวใหญ่ผลักร่างบางให้ล้มลงไปนอนบนเตียง จัดการจับพลิกร่างสาวสวยให้นอนคว่ำ แล้วดึงมือทั้งสองข้างของคาริสาไพล่หลังทันที“แดน นะ...นายทำอะไร” หญิงสาวดิ้นพล่านไปมาในขณะที่แดเนียลใช้เชือกที่เตรียมไว้บรรจงมัดข้อมือสาวสวยที่บิดตัวไปมาสุดฤทธิ์“ไม่เอาแบบนี้”“ไหนบอกจะตามใจฉันทุกอย่างไง” เมื่อมัดข้อมือเสร็จสรรพสวยงามแดเนียลจัดการดึงกางเกงของคาริสาออก ทิ้งให้เหลือเพียงแพนตี้สีดำที่ปกปิดพื้นที่สงวน มือหนายกสะโพกขึ้นจัดแจงท่าทาง“อึก!” สองมือที่ถูกมัดทำให้ใบหน้าสวย ๆ ของคาริสาฟุบคะมำอยู่บนฟูกมือหนาไล้สัมผัสต้นขาเรียวสวย ดวงตาคมปลาบมองสีหน้าเหยเกของเธออย่างเกิดอารมณ์“ฉันชอบแบบนี้” แดเนียลบอกถึงความปรารถนาของตน คาริสาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย เธอไม่สนุกกับการกระทำของเขาเลยสักนิด“ทำไมล่ะ มันน่าสนุกดีออกหรือเธอไม่อยากตามใจ
“เธอเป็นพวกมันใช่ไหม”“ก็แค่เข็มกลักเอาอะไรมาการันตีว่าฉันเป็นพวกนั้น”“ฉันคิดไว้แล้วว่าคนอย่างเธอไม่มีทางเปิดปาก ฉันไม่หวังที่จะได้ยินเธอพูดสารภาพ ถึงยังไงคำตอบของเธอมันแสดงออกมาทางสีหน้าหมดแล้ว”“อึก!” คาริสาเริ่มมีอาการกระอักกระอ่วน เธอพูดไม่ได้คายไม่ออก“ในสองคนนี้จะมีหนึ่งคนที่รอด” แดเนียลพูดพร้อมจ่อปืนไปที่ศีรษะของคาริสา“แดน... นายจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอ”“ฉันจะกำจัดคนที่ไม่มีประโยชน์”“ฉันจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้” หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยปากทันทีที่แดเนียลพูดจบมาเฟียหนุ่มส่งสายตาให้ลูกน้องคนสนิทส่งปืนให้หญิงสาวตรงหน้า เธอค่อย ๆ เล็งมือมาทางคาริสา“ปืนกระบอกนั้นยังไม่มีกระสุน ถ้าเธอให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ฉันจะให้ลูกกระสุนเธอ” ขณะที่แดเนียลเจรจาอยู่กับหญิงสาวตรงหน้า คาริสาก็ได้ข่มตาหลับปล่อยน้ำใสอุ่น ๆ ออกมา“ส่วนเธออยากตายใช่ไหมถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย”“พี่เคสเป็นรุ่นพี่ใน...”ปัง!เธอไม่ทันจะได้พูดจบประโยคคาริสาก็กระชากเอาปืนจากมือแดเนียลลั่นกระสุนใส่หญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับใช้ขาทั้งสองข้างที่ถูกมัดถีบตัวหล่อนให้หงายไปกับพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว“ฉันไม่รู้จักมัน!” เธอพูดทั้งน้ำตา
อย่านะ อย่า...อย่าทำฉัน...ทำแบบนี้ทำไม...“เฮือก!” คาริสาสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงหายใจดังเฮือก ความฝันเมื่อสักครู่ช่างเหมือนจริงเหลือเกินดวงตาคู่สวยกวาดมองทัศนียภาพรอบตัวด้วยความมึนงง แสงไฟสลัวทำให้เธอทุกอย่างได้ไม่ชัดเจนนัก ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดที่ข้อมือและข้อเท้า“อึก!” ใจดวงน้อยกระตุกวูบ เมื่อรับรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความฝันสองมือและสองเท้าถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวนขนาดมหึมา อีกทั้งแขนและขาข้างขวาก็มีอาการชาจนยากที่จะขยับ หลังจากถูกเอาเฝือกออกไปทำไมถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้?เกิดอะไรขึ้น!!!เธอทำอะไรพลาดงั้นเหรอ?“พี่เคส” คาริสามองเห็นหญิงสาวตรงหน้าซึ่งอยู่ในสภาพไม่ต่างจากเธอ “พี่โอเคใช่ไหม เออ...”คาริสาแสดงโค๊ดลับผ่านใบหน้า ก่อนจะพูดขึ้นแทรก“เธอคนทำความสะอาดนี่ ทำไมฉันกับเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่ในสภาพแบบนี้”“พี่เคสคือเราโดน...”“ฉันไม่ตลกนะ เล่นบ้าอะไรกันอยู่” คาริสาตะโกนพูดแทรก ก่อนจะแสดงโค๊ดลับผ่านใบหน้าอีกครั้งสถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรรู้จักกัน!หญิงสาวตรงหน้าขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เนื่องจากรุ่นพี่อย่างคาริสาไม่ยอมฟังอะไรเลย อีกทั้งยังพูดตัดบทสนทนา
วันต่อมา...“รับบทเป็นคนพิการนี่มันลำบากจริง ๆ” คาริสายืดเส้นยืดสายพลางเหลือบตามองไปยังห้องทำงานที่เชื่อมติดกับห้องนอนเป็นระยะไดรฟ์นั่นอยู่ใกล้แค่เอื้อม ยังไงวันนี้ก็ต้องเอามันมาให้ได้ครืด! ครืด!คาริสาเหลือบตามองบนอย่างเบื่อหน่าย เห็นสายนี้โทรเข้ามาทีไรเธอปวดใจทุกที มือเรียวหยิบหูฟังไร้สายเสียบเข้าหู ก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมศีรษะ(ทำไมติดต่อยากจัง ทางนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า)“มีอุปสรรคนิดหน่อย แต่ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว”(อืม ฉันเห็นแล้ว ไอ้แดเนียลมันเพิ่งนั่งรถออกไป)เตชินส่งสายลับสาวอีกคนแฝงตัวเป็นคนรับใช้ในบ้าน เธอติดกล้องขนาดเล็กไว้ที่เสื้อ จึงทำให้เขาเห็นการเคลื่อนไหวทุกอย่างภายในบ้านของเป้าหมาย“ฉันขอเปลี่ยนแผนนิดหน่อยได้ไหม ส่งคนอื่นมาลงมือเอาไดรฟ์ในตู้เซฟแทน”(มีปัญหาอะไรหรือเปล่า)“ที่นี่ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าฉันลงมือทำเองแล้วเกิดแผนที่วางไว้ไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็มีฉันที่ได้อยู่ต่อ หัวหน้าก็จะไม่เสียแหล่งข้อมูลด้วย”(คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอไม่กล้าลงมือทำเองแน่ ๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันส่งคนไปช่วยเธอแล้ว)เพื่อนหนุ่มที่รู้ทันเอ่ยกระแนะกระแหน เล่นเอาคนฟังหน้าชาจนแทบควบคุมอารมณ์หงุดหง
“คุณย่า!” คาริสาเอ่ยเรียกท่าน ก่อนจะวางช้อนลง แล้วยกมือไหว้อย่างทุลักทุเล“หนูเคส! ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วแขนไปโดนอะไรมา” “เคสเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ แดนก็เลยอาสาดูแล”“ตายจริง! เจ็บมากไหมลูก แล้วหลานย่ามันทำอะไรหนูหรือเปล่า”“แดนเขาดูแลเคสเป็นอย่างดีเลยค่ะคุณย่า ถ้าเคสไม่ได้แดนมาช่วยก็คงจะแย่กว่านี้”บทสนทนาของคาริสากับย่าน้อยดูสนิทสนมกัน จนลูกน้องที่วิ่งตามมาเมื่อครู่ทำหน้างง คิดว่าจะเกิดเรื่องซะแล้ว“ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูเคสเป็นการส่วนตัว พวกเธอออกไปก่อน” ย่าน้อยหันไปสั่งลูกน้องทุกคนที่ยังยืนอึ้งอยู่ในห้อง คาริสาทานขนมอีกคำสองคำแล้วดื่มน้ำผลไม้เพียงนิด ก่อนจะส่งสัญญาณให้ป้าแม่บ้านเอาของว่างออกไปด้วย“หนูยังเจ็บอยู่ไหม ย่ามารบกวนหนูหรือเปล่า” ย่าน้อยเดินมานั่งข้างเตียงพลางกุมมือคนเจ็บเพื่อส่งกำลังใจ“อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ คุณย่าสบายดีนะคะ ไม่ได้เจอตั้งนานยังแข็งแรงเหมือนเดิมเลย” ถึงแม้ว่าย่าน้อยจะอายุหกสิบปีปลาย ๆ แต่ท่านก็ยังคงแข็งแรง เนื่องจากดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี “ว่าแต่คุณย่ามาหาแดนมีอะไรหรือเปล่าคะ”“ย่าแวะมาเยี่ยมตาแดนน่ะ ตั้งแต่กลับมาไทยตาแดนก็ไม่เคยไปหาย่าเลย เอา
ณ ห้องประชุมบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุปโปรเจกต์ใหม่ที่แดเนียลนำเสนอออกไปกลายเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นในที่ประชุม แม้เขาจะบารมีของคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหารทุกคนได้ในที่ประชุมไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะความเป็นคนรุ่นใหม่แบบแดเนียล จึงมักถูกตราหน้าว่าอ่อนประสบการณ์และความรู้เสมอโชคยังดีที่มีลูกน้องคนสนิทอย่างเอกคอยดึงสติ ไม่ให้เขาโมโหพวกคนรุ่นเก่าดักดาน ชอบใช้ความสำเร็จในอดีตของตนมาข่มแนวคิดและอุดมการณ์ของเขาหลังจากประชุมบอร์ดบริหารเสร็จสิ้น แดเนียลก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน เขาเอาแต่นั่งคิดถึงคาริสา เธอทำให้เขาไม่เป็นอันทำอะไรไอรีนเดินเข้ามายื่นเอกสารหลังการประชุมให้เซ็นต์ แต่แดเนียลกลับไม่สนใจ เขาปัดมือให้เธอออกไปจากห้องทำงาน“คุณไอรีนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เอกยืนสั่งงานลูกน้องอยู่แถวนั้น เห็นไอรีนเดินคอตกออกมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอ“คุณแดเนียลดูเหม่อ ๆ น่ะค่ะ ปกติคุณแดเนียลจะเข้มงวดเรื่องเอกสารมาก แต่วันนี้ไอเอาเอกสารไปให้เซ็นต์ คุณแดเนียลกลับไล่ให้ไอออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ”“คุณไอรีนอย่ากังวลไปเลยครับ สง
ครืด! ครืด!เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในรอบสัปดาห์ ‘คาริสา’ ไม่รอช้ารีบกดรับสายทันทีเมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา ‘เตชิน’“ว่าไงคะหัวหน้า!” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน(อยู่ไหน!)“ฉันเหรอ?ฉันก็อยู่ที่ห้องสิ จะให้ไปอยู่ดาวอังคารหรือไงมิทราบ?”(ปากดี! งานการไม่มีทำหรือไง!)ปลายสายตะโกนพูดเสียงดัง จนคาริสาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูของเธอ“อะไรของมันวะ” แม้จะรู้สึกงุนงงปนหัวเสียเล็กน้อย แต่คาริสาก็ต้องดึงมือถือกลับมาแนบหูอย่างเลี่ยงไม่ได้(ฉันมีงานให้ทำ!)“อะไรนะ หัวหน้ามีงานให้ทำ นี่ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า” เหลือกตามองบนพร้อมเอ่ยประชดประชัน(...)“เหอะ ฉันเองก็ไม่อยากนั่งงอมืองอตีนอยู่กับที่หรอกนะคะหัวหน้า แต่หัวหน้าลืมไปแล้วเหรอ ว่าหัวหน้าสั่งพักงานฉันอยู่” เธอโวยวายโดยเน้นคำว่า ‘หัวหน้า’ ทุกประโยค(เสียงอาฆาตเชียวนะ! รีบมาก่อนที่จะโดนพักงานยาว)ออกคำสั่งจบเตชินเพื่อนรักที่ชอบเอาตำแหน่งหัวหน้ามากดหัวเธอก็ตัดสายไปดื้อ ๆคาริสาส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ รู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของคนที่เป็นทั้งหัวหน้าและเพื่อนสนิท อย่างไรเสียคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างเธอก็ต้องรีบไปแต่งตัวให...
Comments