เธอยอมได้ทุกอย่างเพื่อเขา แม้จะรู้ว่าหัวใจของเขาไม่เคยมีเธอเลยก็ตาม
View Moreอมีนานั่งเงียบอยู่สักพักเพื่อคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น บางทีเธอก็มีส่วนผิดที่แกล้งพูดให้เขาอยากรู้ จนเขาต้องรีบขับรถมาหาเธอแบบนี้และในครั้งนี้เธอก็มีส่วนผิดไปด้วย จะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้“มีนมีเรื่องอะไรจะบอกพี่เหรอครับ”หลังจากที่นั่งเงียบและรอให้หญิงสาวใจเย็นลงสักพัก เขาจึงเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งเพื่อว่าเธอจะยอมบอกหญิงสาวไม่ตอบอะไรมีเพียงความเงียบที่เป็นสิ่งปกคลุมบรรยากาศภายในห้อง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นเดินไปหยิบอะไรบางอย่างออกมา“มีนมีของจะให้ค่ะ”มือบางยื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ถูกห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสีน้ำเงิน ภายนอกดูเรียบหรูแต่ขนาดกล่องกลับเล็กจนน่าแปลกใจใบหน้าหล่อมองกล่องที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัยและแปลกใจในเวลาเดียวกัน แต่ภายในใจเขาก็คิดไปด้วยว่าอะไรจะอยู่ในกล่อง“เปิดดูสิคะ” หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม เธอนั่งมองชายหนุ่มที่กำลังแกะกล่องของขวัญอย่างตั้งใจ“มีนท้องใช่ไหม”ทันทีที่แกะออกและได้เห็นแท่งเล็กๆ ที่อยู่ด้านในไคล์ตัลก็เดาได้ทันทีว่าต้องใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้อย่างแน่นอน“ค่ะ พี่ไม่ตื่นเต้นเหรอคะ” หญิงสาวพยักหน้าตอบก่อนจะถามกลับด้วยความแปลกใจ“ไม่ตื่นเต้น แต่พี่
เช้าวันต่อมาเป็นอีกวันที่อมีนาตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย มีเพียงกระดาษโน้ตใบเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียงนอนมือบางยื่นไปหยิบกระดาษมาอ่าน เพราะคิดว่าคงจะเป็นข้อความจากชายหนุ่มที่เขียนฝากไว้ให้เธออย่างแน่นอน‘วันนี้พี่มีงานด่วน แล้วจะรีบกลับมาหานะครับ’ทันทีที่อ่านจบใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาเคยบอกเธอเอาไว้ว่าถ้าหากเขามีงานด่วนเขาจะเขียนข้อความเอาไว้จะได้ไม่ต้องรบกวนเวลานอนพักผ่อนของเธอหญิงสาวเก็บกระดาษไว้ในลิ้นชักก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะลงไปเล่นกับไมเนอร์ลูกชายคนเล็กลงมาเล่นกับไมเนอร์ได้สักพักอมีนาก็ขอตัวออกมาซื้อของข้างนอก โดยที่มีคนขับรถพาออกมาเช่นเคย เพราะเป็นคำสั่งของคุณชายที่สั่งเอาไว้ว่าห้ามให้เธอออกไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด“ให้ผมลงไปซื้อให้ไหมครับ” คนขับรถเอ่ยถามเหมือนกับทุกครั้งตามหน้าที่ เพราะข้างนอกอากาศค่อนข้างร้อนมาก“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธก่อนจะเดินลงจากรถและตรงไปยังร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกล“ซื้อที่ตรวจครรภ์หน่อยค่ะ” อมีนาเอ่ยบอกสิ่งที่เธอต้องการอย่างไม่ลังเล“ค่ะ”เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็หยิบของใส่ในกระเป๋าส
ห้าวันต่อมาและแล้วก็มาถึงวันที่ทุกคนจะต้องเดินทางกลับ หลังจากที่การเดินทางถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก เพราะเด็กๆ ติดใจอยากอยู่ต่อ งอแงไม่ยอมกลับ แต่อมีนาก็พูดคุยกับลูกๆ ให้เข้าใจ จนในที่สุดเด็กๆ ก็ยอมกลับแต่โดยดีคฤหาสน์หลังใหญ่กำลังวุ่นวายและทำอาหารรอต้อนรับเจ้าของบ้านหลังจากที่ไปเที่ยวกันนานหลายวัน ก่อนจะเดินทางกลับคุณหญิงได้โทรบอกแม่บ้านจัดเตรียมอาหารไทยเอาไว้ทั้งคาวและหวาน เพราะรู้ดีว่าทุกคนนั้นคิดถึงอาหารไทยมากแค่ไหนเดินทางมาถึงบ้านในช่วงบ่ายเด็กๆ ก็นอนหลับสบายมาตลอดทาง แต่ทว่าหน้าที่ของคนเห็นแม่เมื่อมาถึงบ้านก็ต้องเก็บของออกจากกระเป๋าให้เรียบร้อย“ทำอะไรอยู่ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องนอน“มีนเก็บของอยู่ค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำเพื่อลูกๆ และสามี“เหนื่อยไหมครับ พักก่อนก็ได้นะ” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่เธอไม่จำเป็นต้องทำเองด้วยซ้ำ แค่เรียกแม่บ้านมาทำให้ก็จบแล้ว“นิดหน่อยค่ะ”“หิวไหมครับ”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบช่วงนี้เธอกินข้าวไม่ค่อยอร่อย ส่วนใหญ่จะเน้นของทานเล่นมากกว่าอาหาร“วัน
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาการเดินทางไปทำงานต่างประเทศไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับไคล์ตัลอีกต่อไป เพราะการทำงานเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กน้อย แต่การได้พาลูกๆ และคนในครอบครัวเที่ยวนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าทำงานเพียงไม่กี่วันแต่อยู่เที่ยวต่อเกือบหนึ่งอาทิตย์ นานๆ จะได้พาลูกมาเที่ยวก็ต้องอยู่เที่ยวนานๆ ให้คุ้มค่ามากที่สุด“สนุกไหมครับ” ไคล์ตัลหันไปถามลูกๆ ที่เดินตามหลัง หลังจากที่พาไปเที่ยวสวนสนุกที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก“สนุกครับ” มาร์เวลตอบเสียงดัง“สนุกมากเลยค่ะ” ตามด้วยเสียงของมิราที่ยิ้มกว้างมาแต่ไกล“วันนี้เที่ยวสวนสนุกมาทั้เรางวันแล้ว เรากลับบ้านพักกันก่อนดีกว่านะคะ”“ค่ะ รอไมเนอร์โตก่อนแล้วเราค่อยพาไมเนอร์มาเที่ยวสวนสนุกกันอีกนะคะ” มิราสนุกจนอยากจะมาเที่ยวอีกครั้ง แต่ก็ติดตรงที่ว่าอยู่ไกล คงต้องรอน้องโตก่อนค่อยมาเที่ยวด้วยกันคงจะสนุกมากแน่ๆ“ได้ครับ ไว้พ่อจะพามาอีกนะ” ไคล์ตัลตอบลูกสาว“ถ้าคุณพ่อไปทำงานต่างประเทศแบบนี้อีกชวนมิรากับมาร์เวลไปเป็นเพื่อนได้นะครับ” มาร์เวลรีบเสนอตัวเองกับน้องสาวขึ้นมาทันที วันนี้อากาศหนาวหิมะตก ไมเนอร์ยังเด็กก็เลยต้องรอพี่ๆ อยู่ที่บ้านพัก“ได้ครับ” ไคล์ตัลหัวเร
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่ชายหนุ่มไม่ไปทำงานอยู่นานหลายเดือน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปทำงานอย่างหนักหน่วงกันแล้ว เนื่องจากบริษัทเติบโตไปในทางที่ดีมากขึ้นและมีคู่ค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ไคล์ตัลก็เลยต้องได้ออกงานและเดินทางไปพบปะและพูดคุยกับคู่ค้าใหม่ๆ อยู่บ่อยครั้ง“เลิกงานแล้วเหรอคะ” อมีนาเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด“ครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ“วันนี้งานเยอะเหรอคะหรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า” อมีนายังคงถามต่อเพราะสีหน้าและท่าทางของไคล์ตัลยังคงแสดงออกอย่างชัดเจนเหมือนกับว่าเขากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง“เปล่าครับ” ไคล์ตัลปฏิเสธ“แล้วทำไมถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้ด้วยคะ” หญิงสาวยื่นแก้วน้ำดื่มเย็นๆ มาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม เพื่อจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง“พอดีมีงานที่ต่างประเทศที่พี่จะต้องไปเคลียร์ แต่พี่ไม่อยากไป” ร่างหน้าดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนจะตอบหญิงสาว“ทำไมถึงไม่อยากไปล่ะคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเรื่องงานเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร“ถ้าไปก็ต้องไปหลายวัน พี่ไม่อยากห่างลูก” ไคล์ตัลตอบเสียงเบาตั้งแต่มี
เช้าวันต่อมาหลังจากกิจกรรมปั้มลูกคนสุดท้ายจบลงอมีนาก็หมดแรงและนอนหลับสบายจนลืมเวลาตื่น จนกระทั่งได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่เธอตั้งเอาไว้ในเวลาเก้าโมงเช้ามือบางยื่นไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดังรบกวนโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว“พี่ไคล์ตัล” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มในขณะที่เธอนอนหลับตาอยู่และไม่รู้เลยว่าภายในห้องมีใครอยู่หรือเปล่า แต่ปกติในห้องนอนตอนเช้าก็มีแค่เธอกับเขาที่นอนด้วยกันทว่าในห้องกลับเงียบไร้เสียงตอบรับใดๆ อมีนาจึงลุกขึ้นนั่งและมองสำรวจรอบๆ ห้องนอนแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ในห้อง“หายไปไหนนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ทำไมวันนี้เธอถึงได้นอนตื่นสายขนาดนี้นะ“สงสัยจะไปทำงานแล้วแน่เลย”อมีนาคิดไปในทางที่ดีเพราะเมื่อวานได้ยินชายหนุ่มบ่นว่าจะต้องไปทำงาน เธอรีบลุกจากเตียงนอนแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวทันทีเมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยอมีนาก็ลงมาหาลูกที่ห้องนั่งเล่น เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ไมเนอร์นั่งกำลังเล่นอยู่กับพี่เลี้ยง ส่วนมิราก
หนึ่งปีต่อมาบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ มีลูกๆ หลานๆ คอยเติมเต็มความสุขให้กันในครอบครัว“ไมเนอร์นอนหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเบาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังกล่อมลูกนอนอยู่ แต่เอขก็ไม่มั่นใจว่าลูกหลับหรือยังเพราะมองไม่ค่อยถนัดชู่ววว~อมีนาส่งสัญญาณเพื่อให้อีกฝ่ายเงียบก่อน เพราะลูกกำลังจะเคลิ้มหลับถ้าหากมีเสียงดังรบกวนลูกอาจจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้คุณแม่คนสวยกล่อมลูกน้อยนอนจนหลับสนิทก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปหาชายหนุ่มที่ออกไปรออยู่ด้านนอกโชคดีที่อมีนาฝึกไมเนอร์ให้นอนและตื่นเป็นเวลา เธอพาลูกเข้านอนตอนสองทุ่ม ไมเนอร์ก็นอนยาวจนถึงเช้าได้อย่างสบาย ไม่ตื่นมางอแงกลางดึก“มีอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนรออยู่“พี่มีของจะให้” มือหนาจูงมือหญิงสาวเข้าห้องนอนตัวเองทันทีใบหน้าสวยขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยและแปลกใจในการกระทำของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรและยอมเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย“ชุดอะไรคะ”เมื่อเปิดดูของที่อยู่ในถุงแบรนด์เนมอมีนาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที ซึ่งเป็นชุดที่ดูไม่เหมือนชุดเลยสักนิด เนื้อผ้าก็บางโปร่งเวลาที่ใส่ก็คงจะเหมือนกับไม่ได้ใส่ เพราะถ้าใส
สองวันต่อมา“เก็บของเสร็จหรือยังลูก” คุณหญิงเดินเข้ามาถามเมื่อวันนี้อมีนาจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว“เสร็จแล้วครับ กำลังรอมีนเปลี่ยนชุดอยู่ครับ” ไตล์ตัลตอบคุณแม่ ไม่นานอมีนาก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสยาวคลุมเข่า“งั้นแม่ลงไปรอข้างล่างนะ จะไปจ่ายค่าโรงพยาบาลให้” คุณหญิงบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไป“คุณแม่ท่านใจดีกับมีนมากเลยนะคะ” อมีนาอดที่จะท้วงขึ้นมาไม่ได้และรู้สึกเกรงใจที่คุณหญิงทำทุกอย่างให้เธอขนาดนี้“ก็คุณแม่รักและเอ็นดูมีนไง” ไคล์ตัลกอดหญิงสาวแล้วช่วยพยุงเธอเดินมายังรถเข็นเนื่องจากแผลผ่าคลอดยังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่และอมีนาก็ยังรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ อยู่บ้าง เจ้าหน้าที่จึงมาช่วยเข็นรถให้เธอนั่ง“มีน…” เสียงใครบางคนเรียกอมีนาขึ้นมาในระหว่างที่มายืนรออยู่ที่หน้าห้องกุมารเวชกรรม“เพียงดาว” อมีนายิ้มกว้างออกมาเมื่อได้เห็นเพื่อนรักอย่างเพียงดาวหลังจากที่ไม่ได้เจอและไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปี“สวัสดีค่ะคุณชาย” เพียงดาวยกมือขึ้นไหว้อดีตเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อนรัก“มาทำอะไรเหรอ” อมีนาถามเพื่อนรักด้วยความสงสัยเพราะตรงนี้เป็นตึกเด็กและเธอก็มายืนรอรับลูกชายกลับบ้าน“พาหลานมาหาหมอน่ะ
วันต่อมาหลังจากที่เมื่อวานทุกคนได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ก็ดีใจและตื่นเต้นกันใหญ่ ทำเอามิรากับมาร์เวลไม่อยากกลับบ้าน เพราะอยากจะเล่นกับน้องมากกว่า แต่ทุกคนก็ช่วยกันพูดให้เด็กๆ เข้าใจจนยอมกลับบ้านกันได้“ทำไมใส่ชุดนี้กันล่ะ” คุณตาถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเด็กๆ ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนทั้งๆ ที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุด“มาร์เวลจะไปหาน้องครับ” มาร์เวลตอบขึ้นมาก่อนใคร“แต่วันนี้ต้องไปโรงเรียนนะครับ” คุณตาพยายามพูดด้วยเหตุผล“ไม่ไปครับ มาร์เวลอยากไปหาน้อง” มาร์เวลยังคงยืนยันคำตอบเดิม“มิราก็อยากไปหาน้องค่ะ” ตามมาด้วยเสียงของมิรา“งั้นเราไปหาน้องกันนะ ย่าไลน์บอกคุณครูให้แล้วว่าวันนี้มิรากับมาร์เวลไม่ไปโรงเรียน” คุณย่าพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี สรุปว่าวันนี้ทุกคนจะต้องไปที่โรงพยาบาลกันหมด“เย้ๆ ไปหาน้องกันครับ” มาร์เวลกับมิรากระโดดดีใจกันยกใหญ่ที่จะได้ไปหาน้องคุณตาได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับท่าทางของคุณย่ากับหลานๆ ที่ดูตามใจกันสุดๆ ไม่ว่าหลานจะพูดอะไรก็ตามใจทุกอย่างใช้เวลาไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาล ก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องวีไอพีที่เคยมาเมื่อวาน โดยที่มีมิรากับมาร์เวลเดินนำทางอยู่ตลอด“มาร์เวลกับมิรามาหาน้องแ
ตึก! ตึก! ตึก!ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทเดินตรงไปยังห้องท้ายสุดของตึกใหญ่ เพียงแค่ก้าวขาเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความลึกลับและร้อนแรงจากแสงไฟสีแดงที่ตัดกับห้องโทนสีดำ อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงในห้องนี้ล้วนแต่เป็นสีดำตามความชอบของเจ้าของคฤหาสน์ที่เป็นคนค่อนข้างซับซ้อนและเดาอารมณ์ได้ยาก“คุณชายครับ อมีนามาขอพบครับ”คชาเลขาคนสนิทที่พ่วงตำแหน่งบอดิการ์ดเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่มที่กำลังเมาได้ที่อมีนางั้นเหรอทายาทมาเฟียวัยสามสิบทบทวนชื่อหญิงสาวอยู่ภายในหัวพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา ความเบื่อหน่ายจากการถูกบังคับของตระกูลเริ่มเลือนหายไปเพียงเพราะนึกถึงใบหน้าและเรือนร่างที่โตเต็มวัยของเด็กสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก“พาไปรอที่ห้องเล็ก”คนสนิทก้มหัวรับคำสั่งอย่างรู้ใจเช่นเดียวกับเพื่อนสนิทอีกสองคนที่นั่งดื่มอยู่ด้วย“เหยื่อติดกับแล้วเหรอวะ?”“ระดับกูเคยพลาดหรือไง?” มือหนาคว้าแก้วมาดื่มจนหมดในรวดเดียว ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเขานึกสนุกกับหญิงสาวจนแทบจะรอไม่ไหวแล้วอมีนาคือลูกหลานแม่บ้านเก่าแก่ที่บ้านคุณย่าของไคล์ตัน เธอเป็นเด็กสาวที่อนาคตไกล สวย เรียนดี ทำงานบ้านงานเรือนเก่งครบถ้ว...
Comments