แดเนียลพาคาริสานั่งสปีดโบ๊ตไปค้างคืนที่เกาะส่วนตัวอีกฝั่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ที่นั่นอากาศดีและเงียบสงบ
คาริสากางแขนรับลมที่พัดแรงพลางสูดหายใจเข้าออกรับความสดชื่นเต็มปอด มือเล็กลูบแขนตัวเองเบา ๆ เมื่อความหนาวเหน็บมาเยือน แดเนียลถอดเสื้อของตนออกแล้วนำมันมาคลุมให้คนร่างน้อย พลางโอบกอดเธอไว้ให้ความอบอุ่น
“ทะ...ทำอะไร”
“ก็กอดเธอไง หนาวไม่ใช่เหรอ”
“ใครหนาว?”
“ตัวสั่นขนาดนี้ไม่ได้หนาวหรอกเหรอ”
“ไม่!” คาริสาปฏิเสธเสียงแข็ง ใบหน้าหวานบูดบึ้งเพราะยังเคืองเขาอยู่
“แต่ฉันอยากกอดเธอ” แดเนียลกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูใบเล็ก
“ไม่ต้องเลย” หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวออกแต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอม เขากอดเธอไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม
“ยังโกรธฉันอยู่หรือไง ไม่เอาน่าเลิกงอนได้แล้ว” แดเนียลวางปลายคางลงบนไหล่มน ทั้งที่อ้อมแขนยังโอบกอดเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
คาริสาเหลือบหางตามองเขาเพียงนิด คงเป็นวิธีง้อของแดเนียลนั่นแหละ มันอาจจะไม่ค่อยหวานเท่าไรนัก แต่ดันใช้ได้ผลกับเธอตลอด
เมื่อถึงที่หมายแดเนียลจูงมือคาริสาเข้าไปในบ้านพักขนาดเล็ก ตัวบ้านทำด้วยไม้หนึ่งชั้นมีของใช้ทุกอย่างครบครั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้สองวัน ป้าพรได้สั่งให้คนรับใช้คนอื่น ๆ มาทำความสะอาดบ้าน นำข้าวของสัมภาระและจัดเตรียมทุกอย่างไว้สำหรับแดเนียลโดยเฉพาะ เขาบอกไว้ล่วงหน้าว่าจะมาพักผ่อนที่นี่เงียบ ๆ คนเดียว ไม่ได้คาดคิดว่าคาริสาจะมาอยู่ด้วย ของใช้หลาย ๆ อย่างจึงต้องใช้ร่วมกัน
“สวยจัง” คาริสารเอ่ยพูดอย่างตื่นเต้น เธอประทับใจบ้านหลังนี้มาก ดูภายนอกเหมือนจะเป็นบ้านไม้ธรรมดา ๆ แต่ภายในบ้านมันช่างคลาสสิค
คนขี้สงสัยเดินสำรวจภายในบ้านไปทั่ว ทำราวกับไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แดเนียลได้แต่มองดูเธออยู่ไกล ๆ พร้อมรอยยิ้มมุมปาก นี่คงเป็นของขวัญต้อนรับการกลับมาของเขาสินะ เธอดันเป็นของขวัญชิ้นที่ถูกใจเขาด้วยสิ
“อย่าบอกนะว่าที่นี่มีห้องนอนห้องเดียว” คาริสาวิ่งออกมาพลางถามในสิ่งที่สงสัย
“ใช่ เธอตกใจอะไร”
“แล้วฉัน...”
“ก็นอนห้องเดียวกันไง”
“นอนห้องเดียวกัน?โอ๊ย! ผ่านคืนนี้ไปฉันไม่เชื่อหรอกว่าแค่นอนจับมือกับเขาแค่นั้น” แค่คิดก็ฟินไปถึงไหนต่อไหน
แดเนียลเดินมาถอดชุดคลุมออกจากตัวของคาริสา ทำเอาใจดวงน้อยของคนที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เต้นแรงจนเขาสัมผัสได้
“ตกใจอะไรนี่มันเสื้อฉันนะ”
“รู้... ตะ...แต่ว่า บะ...บอกฉันดี ๆ ก็ได้” เธอเขินหนักจนเอ่ยเสียงติดขัดไปหมด พวงแก้มที่เคยขาวผ่องตอนนี้ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
มาเฟียหนุ่มมองเธอด้วยความเอ็นดู คนอะไรเขินแล้วหน้ามันเขี้ยวชะมัด
“ไปเล่นน้ำกัน” ว่าแล้วก็จูงมือเธอออกไปข้างนอกบ้านพัก หวังจะพาไปเล่นน้ำให้ผ่อนคลายสบายอารมณ์
“ไม่เอา ฉันไม่อยากเล่นน้ำ ไม่เล่นได้ไหม” คาริสาปฏิเสธพลางรั้งแขนแกร่งไว้
แดเนียลไม่สนใจคำขอร้องอ้อนวอน เขาดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด
“นี่คือคำสั่ง เธอต้องลงไปเล่นน้ำกับฉัน”
“ไม่เอาไม่ไป ปล่อยฉันนะแดน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ว๊ายยยยย!” คาริสาหวีดร้องเสียงดังลั่น เมื่อถูกอุ้มเดินลงไปในน้ำทะเล เรียวแขนกอดรัดลำคอหนาไว้แน่น
“ปล่อยฉันได้แล้วนะเคส น้ำทะเลไม่น่ากลัวหรอก” แดเนียลไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจะต้องกลัวอะไรขนาดนั้น
“ไม่ปล่อย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่เล่น และจะไม่ยอมเปียกด้วย”
“ไม่ยอมเปียกเหรอ” เขาทำท่าจะเหวี่ยงร่างเล็กลงน้ำ คนขี้ตกใจได้แต่กอดคอเขาไว้ ใบหน้าของเธอซบเข้าที่ซอกคอ
แดเนียลหัวเราะก่อนจะอุ้มคาริสาเดินลงไปให้ลึกกว่าเดิม คลื่นลูกน้อยใหญ่ซัดสวนมาทำให้ทั้งคู่เปียกโชกอย่างเลี่ยงไม่ได้
คาริสามองแดเนียลพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ยิ้มอะไร”
“นายอยากให้ฉันเล่นน้ำด้วยใช่ไหม ได้!” ว่าแล้วคาริสาก็กดศีรษะของแดเนียลให้จมลงไปกับน้ำทะเล โทษฐานที่กล้ามาแกล้งเธอ นานหลายวินาทีกว่าเขาจะโผล่หน้าขึ้นจากน้ำได้
“จะฆ่าฉันให้ตายหรือไง โอ๊ย!” แดเนียลยังพูดไม่ทันจบ คาริสาก็ปัดน้ำทะเลลูกใหญ่ใส่หน้าเขาอย่างตั้งใจ
“อยากให้ฉันเล่นด้วยใช่ไหม นี่แหน่” คนอารมณ์ดีหัวเราะสะใจ คนอย่างเธอไม่ยอมให้ถูกแกล้งฝ่ายเดียวหรอก ก่อนจะว่ายน้ำไปทางอื่น แดเนียลไม่รอช้าเขารีบว่ายน้ำตามคาริสาไปติด ๆ ในที่สุดเขาก็คว้าแขนเธอไว้ได้ทัน
“ทำอะไรไว้แล้วคิดจะหนีเหรอ” คาริสาหยักคิ้วให้อย่างเยาะเย้ย “ฮึ งั้นเธอก็ต้องโดนลงโทษ”
แดเนียลจับมือคาริสาว่ายน้ำไปในที่ลึกพอสมควร
“แดนไม่เอานะ ฉันไม่ดำน้ำนะ” เธอพูดยังไม่ทันขาดคำ เขาก็ดึงเธอลงไปใต้น้ำ
คาริสาดิ้นทุรนทุรายพยายามลอยขึ้นไปเหนือน้ำ เนื่องจากอยู่ใต้น้ำนาน ๆ ไม่ได้
แดเนียลคว้าแก้มทั้งสองไว้มั่นแล้วดึงเธอมาจูบปากอย่างดูดดื่ม คาริสาหยุดการกระทำทุกอย่างเพื่อรับออกซิเจนจากเขานานหลายวินาที ก่อนที่แดเนียลจะถอนจูบออก แล้วรีบดึงคาริสาขึ้นไปเหนือน้ำ เธอกอดเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ขณะเดียวกันก็สำลักน้ำจนหมดสติไป
“เคส... เธอเป็นอะไร ตื่นสิเคส” แดเนียลตกใจและรู้สึกผิดที่แกล้งเธอรุนแรงเกินไป ก่อนจะรีบพาเธอขึ้นฝั่ง “ฉันขอโทษนะเคส ขอโทษจริง ๆ”
ความทรงจำเลวร้ายในอดีตย้อนหวนกลับมา คาริสาจดจำรายละเอียดทุกอย่างได้ดี เหล่าบรรดาชายชั่วมัดมือมัดเท้าแล้วโยนร่างของเธอลงน้ำทั้งเป็นฉายเข้ามาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะมีสติแต่ก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เธอดิ้นทุรนทุรายจนแทบหมดลมหายใจ
คาริสาได้สติกลับมาอีกครั้ง เธอมองเห็นแดเนียลเพียงลาง ๆ เขากำลังอุ้มเธอกลับเข้าบ้านพัก
“ฮือ ๆ นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง นายอยากให้ฉันตายหรือไง” คาริสาลงมือทุบตีแดเนียลด้วยความโมโหร้าย เธอพูดไปร้องไห้ไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะอื้น เหตุการณ์ที่เคยเจอเมื่อห้าปีก่อนมันย้อนกลับมาทำให้เธอหวาดกลัว
“ฉัน... ฉันไม่ยอมให้เธอตายง่าย ๆ หรอก” สิ้นคำพูดนั้น แดเนียลก็หันหลังเดินจากไปอย่างรู้สึกผิด ไม่อยากให้เธอเห็นว่ามาเฟียที่จิตใจด้านชาอย่างเขาก็แอบมีน้ำตาเหมือนกัน ตอนที่เธอหมดสติไปเขาตกใจแทบแย่
แดเนียลนั่งสูบบุหรี่มองคลื่นทะเลลูกน้อยใหญ่ซัดกระทบฝั่ง เกาะแห่งนี้เป็นที่ส่วนตัวของตระกูล เงียบสงบ กว้างขวาง คนนอกไม่สามารถเข้าถึงได้
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ความมืดจึงเข้ามาปกคลุมทั่วพื้นที่ มาเฟียหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์ขึ้นมากจึงเดินกลับบ้านพัก ทว่าทันทีที่เปิดประตูบ้าน มันกลับถูกล็อกจากข้างใน
“เคส! เปิดประตู” แดเนียลทุบประตูเรียกเสียงดังลั่น คาริสาจงใจทำแน่ ไม่งั้นประตูมันไม่รู้จักล็อคเองหรอก “เคส! ฉันบอกให้เปิดประตู ถ้าฉันเข้าไปได้เธอเจอดีแน่ เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
ปัง! ปัง! ปัง!
“ถ้าฉันเปิดประตูให้ นายก็ทำโทษฉันสิ เก่งจริงก็หาทางเข้าบ้านเองแล้วกัน ถึงตอนนั้นนายคงไม่มีแรงมาทำโทษฉันแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน! นี่มันบ้านฉันนะ เธอมีสิทธิ์อะไรไม่ให้ฉันเข้าบ้าน เปิดประตู!”
“ไม่เปิด! สมน้ำหน้านอนนอกบ้านไปเลย”
ให้ตายเถอะ! ตอนกลางคืนข้างนอกอากาศหนาวจะตาย เลือดเย็นกับเขาเกินไปแล้ว
“เงียบทำไม คิดว่าฉันจะสงสารเหรอ” คาริสาตะโกนถามเมื่อคนนอกบ้านเงียบไปพักใหญ่ เธอกอดอกเงี่ยหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียง “เชอะ! สมน้ำหน้า ขอให้โชคดีแล้วกันนะ ไปละ”
หญิงสาวหันหลังกลับเข้าห้องนอน แต่ดันเจอแดเนียลยืนกอดอกรอเธออยู่ด้วยรอยยิ้มน่ากลัว
“หะ...หายตัวมาเหรอ” คาริสาเอ่ยถามด้วยความตกใจ อยู่ ๆ เขาก็ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของเธอแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“ที่นี่เป็นที่ของฉัน ต่อให้เธอล็อกประตูหรือหน้าต่างทุกบาน ฉันก็หาทางเข้ามาได้อยู่ดี”
“บ้าที่สุดเลย” รีบหนีสิจะรออะไร เธอไม่ยอมให้เขาจับได้หรอก แต่ทว่าประตูเจ้ากรรมก็ดันเปิดไม่ออก
ขณะที่คาริสาพยายามดิ้นรนให้พ้นจากเหตุการณ์วิกฤต แดเนียลกลับยืนกอดอกมองเธอด้วยสีหน้าแววตาเยาะเย้ย
“เหนื่อยเปล่านา ฉันล็อกประตูหน้าต่างข้างนอกไว้ทุกบานแล้ว” คาริสาไม่รอให้อีกฝ่ายมารังแกข่มเหง สองเท้ารีบวิ่งหนีไปอีกทางทันที แต่มือของเขากลับคว้าแขนเธอไว้ได้ทัน “จะไปไหน”
“ปล่อยนะแดน”
“ถึงตาฉันบ้าง โชคไม่มีทางเข้าทางคนแปลกหน้าอย่างเธอหรอก” ว่าแล้วก็ลากหญิงสาวเข้าไปในห้องนอน
“ปล่อยฉันนะ เรื่องเมื่อตอนบ่ายฉันยังไม่หายโกรธนายนะแดน” คาริสาโวยวายขณะที่เขาเปิดประตูแล้วลากเธอเข้าไปในห้อง “ถ้านายทำอะไรฉัน ฉันจะไม่ให้อภัยนายเลย”
“พูดอย่างกับไม่เคย เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอเหรอ” แดเนียลโยนคาริสาลงบนเตียงกว้าง ดวงตาคมปลาบไล่มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ก็แล้วนายจะทำอะไรล่ะ” ถามยังไม่ทันจบประโยค เขาก็โน้มตัวเข้าใกล้จนเธอล้มหงายหลังไปกับเตียงอีกรอบ
“เธอต้องโดนทำโทษ” มือหนากอบกุมข้อมือทั้งสองไว้แน่น ปลายจมูกโด่งจรดลงกลางหน้าผากมนไล้ลงมาจนถึงปลายคาง “รู้ไหมว่าชุดที่เธอใส่อยู่มันถอดง่ายนิดเดียว”
แคว่ก!
มือหนาดึงกระชากชุดเดรสออกตรงกลางอกจนขาดหลุดลุ่ย เผยให้เห็นเนินขาวอวบอิ่มบดเบียดกันอยู่ใต้ชั้นในลายลูกไม้สีครีม
“อึก! อย่าทำแบบนี้ได้ไหม ฉันกลัว” คาริสาตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าแดเนียลจะทำรุนแรงกับเธอขนาดนี้ มือน้อย ๆ ยกขึ้นมาปกปิดเนินอกอวบเอาไว้อย่างหมิ่มเหม่
“จะกลัวทำไมเล่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอนะเคส”
“แต่มันคือครั้งแรกที่นายขืนใจฉัน” เมื่อก่อนแดเนียลไม่ใช่คนแบบนี้ ถึงจะเสพติดการมีเซ็กส์ แต่ถ้าเธอไม่สบายใจที่จะนอนด้วยเขาจะหยุดการกระทำทุกอย่างทันที
“ขืนใจเหรอ? แน่ใจเหรอว่าเธอไม่อยากกับฉันน่ะ ฮะ!”
“ไม่! ไม่อยากแล้วก็ไม่ยอมด้วย” คาริสาส่ายหน้าปฏิเสธเสียงแข็ง ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ฟัง เขาตวัดปลายลิ้นโลมเลียเนินอกอย่างหื่นกระหาย คาริสาหลับตาปี๋พลางบิดตัวไปมาด้วยความจั๊กจี้ ไม่คิดจะขัดขืนสักนิด
“ไม่อยากจริง ๆ เหรอ คำพูดกับการกระทำของเธอมันย้อนแย้งนะ” แดเนียลดูออกและสัมผัสได้ ถ้าเธอไม่สะดวกใจที่จะนอนกับเขาจริง ๆ ตัวเธอจะแข็งเป็นท่อนไม้ ไม่บิดตัวไปมาเหมือนจงใจยั่วให้เขาเกิดอารมณ์แบบนี้หรอก
คาริสาทำหน้ามู่ทู่ เกลียดที่สุดเลยคนรู้ทัน
“ปล่อยนะ” เธอสะบัดมือเขาออกอย่างแรงจนหลุดพ้นจากพันธนาการ มือเล็กผลักเขาจนหงายหลัง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาปกปิดพื้นที่สงวนช่วงบนไว้
“เคส...”
“ฉันไม่ให้ทำ!”
“ไหนลองบอกเหตุผลที่ไม่อยากเอากับฉันมาสักข้อสิ” ร่างกายเธอตอบสนองเขาขนาดนี้ แต่กลับปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่อยาก
“ก็... ทะ...ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย ไม่อยากก็คือไม่อยาก”
เหตุผลมันมีแต่เธอไม่บอกเขาหรอก เมื่อวานเขาทำให้เธออด คืนนี้เขาก็ต้องอดเหมือนกัน
“เชอะ!” คาริสาสะบัดหน้าหนีออกไปทางอื่น
“เฮ้อ!” แดเนียลถอนหายใจอย่างเสียอารมณ์ เมื่อวานยังระริกระรี้อยากจะได้อยากจะเอากับเขาอยู่เลย วันนี้เป็นอะไรขึ้นมาถึงได้เล่นตัวนัก
“ไม่ต้องมามองหน้า”
“ไม่ได้มองหน้า มองนม” เขาก้มลงมองเนินอกอวบ ๆ ของแฟนเก่า คิดถึงจัง เห็นแล้วอยากควักออกมาดูดตลอด
“ชิ!” คาริสาลุกขึ้นพลางคว้าชุดเดรสที่เขาโยนทิ้งก่อนหน้ามาปกปิดพื้นที่สงวนช่วงบน เกลียดหน้าหื่น ๆ ที่จ้องเธอตาเป็นมัน
“ไปไหน”
“ฉันจะไปอาบน้ำ”
“ใครอนุญาต!”
“ฉันจะทำอะไรต้องขออนุญาตนายด้วยเหรอ”
“ต้องขอสิ เพราะว่าฉันเป็นเจ้าของบ้าน”
“งั้นหนูขอไปอาบน้ำได้ไหม ได้ไหมคะพี่แดน” คาริสาออดอ้อนเสียงหวานหวังให้มาเฟียหนุ่มผู้แข็งกระด้างยอมใจอ่อนซะดี ๆ
“ไม่!”
“เฮ้อ...” คาริสาถอนหายใจอย่างหนักหน่วง เธอก้มหน้าลงอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเงยหน้ามาสู้กับแดเนียลอีกครั้ง “เอาแต่ใจตลอด อื้อ!”
มาเฟียหนุ่มจัดการปิดปากหญิงสาวด้วยปากของเขา ปลายลิ้นอุ่นชื้นพยายามเล้าโลมให้เธอยอมเปิดปาก หากคืนนี้ไม่ได้นอนด้วยกัน ขอแค่ได้แลกลิ้นกับเธอก็ยังดี
แดเนียลจนปัญญาเมื่อคาริสาไม่ยอมอ้าปากให้ เขาจึงยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แม้จะเสียดายค่ำคืนที่แสนวิเศษนี้ก็ตาม
ทว่าอยู่ ๆ คาริสากลับเป็นฝ่ายจู่โจมเขาเสียเอง สองมือเล็กโอบรัดลำคอหนาพลางดึงใบหน้าหล่อเหลาลงมาเพื่อมอบจูบอันดูดดื่ม เธออ้าปากรอรับลิ้นอุ่น ๆ มาหยอกล้อ โดยที่เขาก็ตอบสนองเธอกลับมาอย่างพึงพอใจ
ยามเช้าใกล้สาย คาริสาบิดขี้เกียจด้วยความเหนื่อยและความง่วงเล็กน้อย เมื่อขยับตัวเธอกลับรู้สึกว่าแขนทั้งข้างเธอถูกมัดขึงไว้กับขอบเตียง และรู้สึกว่าช่วงล่างมันคับแน่นไปหมด เธอค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆปึก! ปึก! ปึก!“เป็นไง เธอชอบไหม” คาริสาถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของแดเนียลปึก! ปึก! ปึก!แดเนียลที่คร่อมอยู่บนตัวของเธอพลางทำหน้าฟิน เมื่อคาริสามองเห็นอย่างนั้นเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น“แดน! นี่นายลักหลับฉันเหรอ” คาริสาพูดพลางสีหน้าหงุดหงิด“เมื่อวานเรายังไปได้ทำกิจกรรมก่อนนอนเลยนะ เธอดันเล่นเป็นลมไปก่อนนี่ยังมาตื่นสายอีก ฉันทนรอไม่ไหวแล้วขอหน่อยแล้วกันนะ”เมื่อวานจำได้ว่าจูบอยู่กับแดเนียลแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย“ไม่ขัดขืนแบบนี้แปลว่าชอบใช่ไหม”“ทุเรศ! นายมันลามกบ้ากามวิปริตผิดมนุษย์ นายทำได้ยังไง”“ฉันก็ทำไม่ได้ขนาดนั้นหรอก แต่ฉันทำได้มากกว่านั้น”“นายจะทำอะไร” แดเนียลหยิบแส้ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เขาทำท่าฟาดแส้ใส่คาริสา แต่มีหรือที่หญิงสาวจะยอมเธอได้แต่ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดัง ๆกรี๊ดดดดด!คาริสากรีดร้องจนสะดุ้งตื่น เธอหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเพื่อไปจัดการธุร
“ป้าพรคะ เคสต้องขอโทษป้าพรด้วยนะคะที่ทำตัวไม่มีสัมมาคารวะกับป้า เคสขอโทษจริง ๆ ค่ะ” ป้าพรแอบอมยิ้มน้อย ๆ เพราะส่วนตัวแล้วป้าพรไม่ได้อยากมีเรื่องบาดหมางกับคาริสา ทั้งหมดก็เป็นเพราะแดเนียลทั้งนั้น“หวังว่าคุณเคสจะรู้สึกผิดจริง ๆ นะคะ”คำพูดของป้าพรทำเอาคาริสาต้องหันไปมองแดเนียลด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ คนรับใช้ที่อยู่แถวนั้นต่างแอบยิ้มเย้ยเบา ๆ เพราะไม่ว่าใครก็ต้องแพ้ทางให้กับป้าพร แน่นอนว่าคาริสาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่เธอก็ต้องเก็บอาการ“รู้สึกผิดจริง ๆ สิคะ อันที่จริงถ้าเคสไม่รู้สึกผิด เคสก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษป้าพรก็ได้ แต่นี่เคสเห็นว่าป้าพรเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ เราก็ต้องรู้จักมีมารยาทถูกไหมคะ”คาริสาพูดแล้วลากเสียงตรงคำว่า ‘แก่’ ป้าพรที่ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเธอ จึงหันไปพูดกับแดเนียลแทน“นายน้อยคะ เชิญทานข้าวดีกว่าค่ะ อาหารกำลังร้อน ๆ เดี๋ยวจะเย็นหมดก่อน” แดเนียลพยักหน้าแล้วหันไปชวนคาริสามาทานข้าวด้วยกันในขณะที่ทานข้าวอยู่เอกเดินมากระซิบที่ข้างหูของแดเนียล ทำให้คาริสาต้องจ้องมองพวกเขาอย่างไม่ละสายตาแต่เธอก็ทำเป็นทานข้าวไปด้วยฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันไปด้วยคาริสาเดินไปเดินมาภายในห้องอย่างกระว
ณ บริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุปรถหรูหลายคันจอดสนิทอยู่หน้าบริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมืองกรุง แดเนียลหลานชายเพียงคนเดียวของ คุณหญิงอำไพวัลย์ วงศ์วริศ หรือ ย่าน้อย กำลังจะได้สืบทอดตำแหน่งเป็นผู้บริหารในอีกสองเดือนข้างหน้าร่างสูงโปร่งก้าวขาลงจากรถโดยมีเหล่าพนักงานของบริษัทฯ ยืนรอต้อนรับอย่างอบอุ่น“ยินดีต้อนรับค่ะคุณแดเนียล” ไอรีนเลขาสาวเป็นตัวแทนมอบดอกไม้ช่อใหญ่และเอ่ยต้อนรับว่าที่ประธานบริษัทอย่างยิ้มแย้มทว่าอีกฝ่ายกลับชักสีหน้าเฉยชาใส่ทุกคน ก่อนจะสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่แยแสตามอารมณ์“ฉันไม่ชอบดอกไม้!” แดเนียลไม่แม้แต่จะมองหน้าคู่สนทนาด้วยซ้ำ เขาเดินจากไปทั้งที่ไอรีนและเหล่าพนักงานคนอื่นต่างหน้าชาไปตามกันอีกด้าน คาริสาเห็นประกาศรับสมัครพนักงานทำความสะอาดของบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุป เธอจึงแฝงตัวเข้ามาทำงานชั่วคราว เล่นเอาเหล่าพนักงานคนอื่น ๆ ถึงกับประหลาดใจกันยกใหญ่ เพราะคนสวยหุ่นดีแบบเธอควรจะได้ทำงานดี ๆ กว่านี้“คุณแดเนียลเป็นถึงว่าที่ท่านประธาน ใคร ๆ ก็ต้องเกรงขาม อย่างพวกหล่อนเป็นแค่พนักงานทำความสะอาด อย่าได้หลงเข้าไปในห้องทำงานคุณแดเนียลเชียวล่ะ ไม่อย่างนั้นแล้วก็ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน
ณ บริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุปที่สุดแสนจะวุ่นวายในทุก ๆ วัน พนักงานที่เอาแต่ประจบประแจงกับเจ้านายที่ไม่เคยเห็นหัวใคร“คุณไอรีนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าดูซีด ๆ” เอกเห็นไอรีนเดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก็อดที่จะเสนอหน้าเป็นห่วงไม่ได้“คือไอแค่เอากาแฟกับของว่างไปเสิร์ฟคุณแดเนียลน่ะค่ะ เห็นคุณเอกไม่อยู่เลยถือวิสาสะเข้าไปเอง แต่ก็โดนไล่ตะเพิดออกมา”คนที่คอยรองมือรองตีนรับอารมณ์แปรปรวนของเจ้านายไม่เว้นแต่ละวันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย“นายไม่ทานกาแฟครับ”“จริงเหรอคะ ไอนี่แย่จริง ๆ ทำไมถึงไม่รู้ว่าเจ้านายชอบอะไรไม่ชอบอะไร” ในขณะที่ไอรีนบ่นอยู่เอกก็นึกอะไรขึ้นมาได้“สักครู่นะครับคุณไอรีน” เอกเดินไปอีกทาง ทิ้งให้ไอรีนมองตามด้วยความงงงวย“เมื่อวานทำไมถึงไม่มาทำงาน”“เคสไม่สบายค่ะ”“ข้ออ้าง! เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ฮะ! จะมาทำงานตอนไหนก็ได้หรือไม่มาก็ได้...”ขณะที่คาริสาก้มหน้ารับผิด สาลี่ก็เหลือบไปเห็นเอกที่กำลังเดินตรงมายังห้องพักพนักงาน“หูย...คุณเอกมา”เพื่อนร่วมงานที่ได้ยินก็พากันมองอย่างไม่ละสายตา เพราะเอกเป็นถึงมือขวาของแดเนียล รูปร่างหน้าตาจัดว่าเด็ดไม่เป็นสองรอ
บนทางเดินฟุตบาศก์ที่แสนมืดมน เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเดินผ่านกันไปมา ทั้งที่คาริสาเดินสวนกับผู้คนไม่ซ้ำหน้า แต่ทำไมกลับรู้สึกว่าตัวเธอเดินอยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง ห้วงความคิดอันหนักอึ้งวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา“ที่นายบอกจะให้ฉันไปเป็นผู้หญิงของนาย ไม่สิ เป็นไม้กันหมาให้นายสองเดือน ฉันตกลงนะ”“...”“แต่ฉันจะทำหน้าที่นั้นแค่แปดชั่วโมงต่อวันเหมือนพนักงานเงินเดือนทั่วไป เริ่มตั้งแต่แปดโมงตรงจนถึงสิบหกนาฬิกาตามเวลางานปกติ ร่างสัญญาวันนี้เลย”“ไม่!ต้องไม่ใช่แบบนั้นสิเคส” แดเนียลคัดค้านเสียงแข็ง คนตรงหน้าก็ช่างเจรจาต่อรองเก่งซะด้วย“แล้วจะเอายังไง”“เธอต้องทำหน้าที่เป็นผู้หญิงของฉันยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน หมายความว่าเธอจะต้องอยู่กับฉันตลอดเวลา”ให้ตายเถอะ! จะให้ตัวติดทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ไหวไหมแต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน จะได้ทำภารกิจที่หัวหน้ามอบหมาย ตามหาไดรฟ์อะไรนั่น“ขอคิดดูก่อน”“จะต้องคิดอะไรอีกละเคส ค่าตอบแทนฉันให้เธอเรียกได้เลยไม่อั้น”“ได้! ฉันคิดเดือนละห้าแสน สองเดือนก็หนึ่งล้านพอดี จ่ายมาก่อนตอนนี้สามแสนเป็นค่ามัดจำ”“เอาบัญชิมา ฉันโอนให้เดี๋ยวนี้เลย”คาริสาไม่คิดว่าแดเนียลจะพูดจริงทำจริ
“เรียบร้อยหรือยังครับคุณเคส”เสียงของเอกทำให้คาริสาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันไปพยักหน้าเพื่อกลบเกลื่อนอาการตกใจขณะเดินลงมาหน้าอพาร์ตเมนต์ คาริสาจึงใช้โอกาสนี้ถามเอกเรื่องแดเนียล เนื่องจากวันนี้เขาดูอารมณ์ไม่ดี อยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามเอกก็พูดขึ้นมาก่อน“ชอบอ่านหนังสือพิมพ์เหรอครับ”“ทำไม?”“ท่าทางคุณจะชอบอ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรข้ามชาติ ผู้ร้ายต้างแดนอะไรพวกนี้นะครับ”“ไม่เกี่ยวเลย ข่าวในหนังสือพิมพ์มีอะไรอัปเดตฉันก็อ่านตามนั้น” คาริสาหรี่ตามองเอกอย่างลองเชิง เธอชักจะไม่ไว้ใจลูกน้องคนนี้ของแดเนียลซะแล้ว“แปลกนะครับ เพราะเท่าที่ผมเห็น มีแต่หนังสือพิมพ์ปีก่อน ๆ ไม่มีฉบับปัจจุบันเลย”เอกยิ้มมุมปากแล้วเดินแยกออกไปจัดการกับสัมภาระท้ายรถ ทิ้งให้คาริสามองตามหลังด้วยความหมั่นไส้คอยดูเถอะ จะฟ้องแดเนียลให้จัดการสถานหนัก!คนมีแผนร้ายกระโดดขึ้นมานั่งบนรถด้วยท่าทางดี๊ด๊า เธอทำหน้าออดอ้อนหวังเอาใจมาเฟียหมุ่น ทว่ายังไม่ทันจะเอ่ยฟ้องอะไร ก็กลับถูกเขามองด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์มองแรงขนาดนี้ จับเธอโยนลงจากรถเลยดีกว่า“ฉันไม่รู้ว่านายไปอารมณ์เสียมาจากไหน แต่...” คาร
“เคสเป็นอะไร” แดเนียลที่ได้ยินชื่อคาริสาก็ละความสนใจจากลูกน้องตรงหน้า แล้วรีบเดินไปหาป้าพิมพ์ทันที“คุณเคสตกบันไดค่ะ ช่วยคุณเคสด้วย!”“เคส!” แดเนียลรีบวิ่งไปหาคาริสาทันควัน เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากเธอ“ถือว่าคุณเคสช่วยชีวิตมึงก็แล้วกันนะ” เอกตรงไปหาลูกน้องที่ถือปืนจ่อกบาลตัวเองอยู่ พลางขอปืนคืนกลับไป“คุณเคส คือ?”“ไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าเธอคือใคร มึงไปพักเถอะ เดี๋ยวกูคุยกับนายเอง”เอกมองปืนในมือแล้วแสยะยิ้ม เนื่องจากมันนี้ไม่มีกระสุนตั้งแต่แรก เจ้านายของเขาแค่ต้องการลองใจความจงรักภักดีของลูกน้องเท่านั้น เอกรู้จุดประสงค์ของแดเนียลดีณ โรงพยาบาลเอกชน“เคสเป็นยังไงบ้างครับหมอ”ทันทีที่เห็นหมอเดินออกมาจากห้องเอกซเรย์ แดเนียลก็รีบถามอาการของคาริสา“คนไข้ตกมาจากที่สูงและถูกกระแทกด้วยพื้นแข็งหลายครั้ง ทำให้กระดูกแขนขวาและขาขวาร้าว ส่วนอื่น ๆ ฟกช้ำเล็กน้อย หมอใส่เฝือกและให้ยาแก้ปวดไปทาน รับยาแล้วกลับบ้านได้เลยนะครับ”“เธอเป็นยังไงบ้างเคส” แดเนียลรีบเข้ามาดูอาการของคาริสาทันทีที่ได้รับอนุญาต ความห่วงใยของเขามันแสดงออกมาชัดเจนผ่านการกระทำ“แดน... โอ๊ย!” คาริสาร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด แดเนีย
ณ ห้องประชุมบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุปโปรเจกต์ใหม่ที่แดเนียลนำเสนอออกไปกลายเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นในที่ประชุม แม้เขาจะบารมีของคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหารทุกคนได้ในที่ประชุมไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะความเป็นคนรุ่นใหม่แบบแดเนียล จึงมักถูกตราหน้าว่าอ่อนประสบการณ์และความรู้เสมอโชคยังดีที่มีลูกน้องคนสนิทอย่างเอกคอยดึงสติ ไม่ให้เขาโมโหพวกคนรุ่นเก่าดักดาน ชอบใช้ความสำเร็จในอดีตของตนมาข่มแนวคิดและอุดมการณ์ของเขาหลังจากประชุมบอร์ดบริหารเสร็จสิ้น แดเนียลก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน เขาเอาแต่นั่งคิดถึงคาริสา เธอทำให้เขาไม่เป็นอันทำอะไรไอรีนเดินเข้ามายื่นเอกสารหลังการประชุมให้เซ็นต์ แต่แดเนียลกลับไม่สนใจ เขาปัดมือให้เธอออกไปจากห้องทำงาน“คุณไอรีนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เอกยืนสั่งงานลูกน้องอยู่แถวนั้น เห็นไอรีนเดินคอตกออกมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอ“คุณแดเนียลดูเหม่อ ๆ น่ะค่ะ ปกติคุณแดเนียลจะเข้มงวดเรื่องเอกสารมาก แต่วันนี้ไอเอาเอกสารไปให้เซ็นต์ คุณแดเนียลกลับไล่ให้ไอออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ”“คุณไอรีนอย่ากังวลไปเลยครับ สง
“แดน ฉันขอโทษ ฮือ ๆ” สิ่งที่คาริสากลัวมาตลอดมันได้เกิดขึ้นแล้ว แดเนียลคงโกรธเกลียดเธอจนเข้าไส้“เธอไม่ต้องขอโทษ” ความรู้สึกเย็นที่ข้อมือทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนก้มหน้าไปมองก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจัดการล็อกข้อมือของเธอด้วยกุญแจที่แอบเตรียมไว้ดึงแขนล็อกกับมุมเตียง“แดน ไม่เอา ฮือ ๆ อย่าทำฉันเลย” คำขอร้องอ้อนวอนที่เขาไม่มีทางเห็นใจ เธอตะโกนออกมาจนเสียงแหบแห้ง ร้องไห้จนแทบจะไม่เหลือน้ำตาให้ไหลแดเนียลหายเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่เชื่อมติดกับห้องนอน เขาควานหาของบางอย่างที่เคยซื้อเก็บไว้ในนั้น จนในที่สุดเขาก็หามันเจอคาริสาตกใจกลัวเบิกดวงตากลมโตจ้องมองสิ่งที่แดเนียลถือมาด้วย เซตพันธนาการจำนวนเกือบสิบชิ้นได้ถูกวางไว้ข้างตัวของคาริสาที่นั่งชันเข่าหลบมุมอยู่“เลือกสักชิ้นสิเคส”“ไม่! นะ...นายมีของแบบนี้ด้วยเหรอ อึก!” คาริสาเอ่ยด้วยอาการหวาดกลัว“กลัวเหรอ? ฉันสัญญาว่าจะทำกับเธอให้เบามือที่สุด” มือหนาจับดึงผ้าห่มส่วนที่ปกปิดร่างเปลือยเพียงเล็กน้อยออกจากร่างกายของเธอ“อื้อ!” เสียงกรีดร้องส่งเสียงดังกังวานลั่นห้องทันทีเมื่อถูกแส้ฟาดลงบนเนื้อหนังอย่างเต็มแรง “ไม่ ฉันเจ็บ อึก! ไม่เอา อร้ายยยยย!”เธอ
“ทำไมต้องใช้วิธีนี้ด้วยล่ะ” คาริสาพึมพำเบา ๆ สีหน้าเหมือนหงุดหงิดที่เสียรู้แดเนียล“อันดับแรก พูดความจริงกับฉัน” แดเนียลพูดเสียงเรียบแต่ในตาของเขากลับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะระเบิดออกมาราวกับเขารู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับคาริสา เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาอยากจะรู้ความจริงจากปากเธอไม่ใช่คนอื่น และตอนนี้แดเนียลก็กำลังให้โอกาสคาริสาสารภาพอยู่ ซึ่งคาริสาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนพูดบางอย่างออกไป“ฉันเป็นคนขององค์กร” คาริสาเริ่มต้นประโยคที่แดเนียลเองก็รู้อยู่แล้วเขาเพียงแต่ต้องการให้คาริสาพูดมันออกมาแค่นั้น“ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกทุกเรื่องเกี่ยวกับองค์กรนี้รวมกับทุกเรื่องของเธอด้วย” มือหนาข้างหนึ่งจับกระชากแขนของหญิงสาวตรงหน้าแต่เพราะมีผ้าห่มผืนหนาห่อหุ้มไว้แรงเหวี่ยงเลยดูไม่แรงนัก ชายหนุ่มฟังกับคำถามที่อยากรู้“ตั้งแต่เด็ก แต่ว่าตอนที่เราเจอกันเมื่อห้าปีก่อนฉันออกจากองค์กรแล้ว พอหลังจากที่เราเลิกกันฉันก็กลับเขาองค์กรอีกครั้ง”แน่นอนว่าสิ่งที่คาริสาพูดอยู่เป็นข้อมูลแดเนียลไม่เคยรู้มาก่อน“องค์กรนี้มันต้องการอะไรจากฉัน”“สิ่งที่อยู่ในมือของนาย” คาริสาพูดพร้อมส่งสายตาไปที่มือของแดเนียลข้างที่
แดเนียลถอนความใหญ่โตออกจากช่องสวาทมือหนาจับดึงร่างเปลือยที่นอนฟุบอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งจัดการสาวสวยให้หันหน้ามาหาตน“หรือจะเอาจนถึงเช้าดี” เขาโน้มหน้าถามกึ่งจริงกึ่งหยอกอีกครั้ง พร้อมจับเสยผมหญิงสาวให้มองเห็นหน้าชัด ๆ“...” คาริสาไม่พูดอะไรนอกส่ายหัวปฏิเสธ เธอส่งสายตาวิงวอนชายหนุ่มที่ยังสวมเสื้อผ้าครบทุกชิ้นมีเพียงกางเกงที่ซิปถูกรูดออกเพื่อให้ความเป็นชายโผล่ผงาดออกมาคาริสากลืนน้ำลายอยากลำบากเพราะตอนนี้เจ้าสิ่งนั้นมันกำลังชี้โด่ตรงหน้าของเธออยู่“เจ็บมากเหรอ” แดเนียลพูดทั้งที่สายตาดูไม่เห็นอกเห็นใจเธอเลยสักนิด มือข้างหนึ่งจับท่อนเอ็นตัวเองสาวเล่น“...” คาริสาพยักหน้ารับพร้อมกับปล่อยน้ำตาของความเจ็บปวดออกมา“ฉันต้องการคำตอบที่เป็นคำพูด” มือข้างที่ไม่ได้สาวท่อนเอ็นจับดึงใบหน้าคาริสาที่เต็มด้วยคราบน้ำตาให้ปริปากออกมา“ฉันเจ็บ อึก! ไม่ไหวแล้ว”“ไม่ไหวก็ต้องไหว ไหนบอกจะตามใจฉัน ทำไมแค่นี้ยอมแพ้แล้วล่ะ”“อึก! ก็ฉันไม่คิดว่านายจะรุนแรงขนาดนี้”“เป็นผู้หญิงของฉันอย่าร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ อมเข้าไปซะ”ในขณะที่พูดแดเนียลก็ยัดความใหญ่โตเข้าปากคาริสา จับศีรษะเธอให้กดเข้ามาครอบครองท่อนเอ็นรักแต่ความ
“ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลย ยังไงฉันก็ยอมนายอยู่แล้ว” คาริสาใช้มือข้างหนึ่งยื่นไปสัมผัสแก้มสากเบา ๆ “ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปอย่างมีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ”“ใครบอกว่าฉันจะทำให้เธอมีความสุข” ดวงตาปีศาจร้ายที่จ้องมองมา ทำเอาคาริสาสะดุ้งตกใจจนตัวโยน แต่เธอไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมาพรึ่บ!คนตัวใหญ่ผลักร่างบางให้ล้มลงไปนอนบนเตียง จัดการจับพลิกร่างสาวสวยให้นอนคว่ำ แล้วดึงมือทั้งสองข้างของคาริสาไพล่หลังทันที“แดน นะ...นายทำอะไร” หญิงสาวดิ้นพล่านไปมาในขณะที่แดเนียลใช้เชือกที่เตรียมไว้บรรจงมัดข้อมือสาวสวยที่บิดตัวไปมาสุดฤทธิ์“ไม่เอาแบบนี้”“ไหนบอกจะตามใจฉันทุกอย่างไง” เมื่อมัดข้อมือเสร็จสรรพสวยงามแดเนียลจัดการดึงกางเกงของคาริสาออก ทิ้งให้เหลือเพียงแพนตี้สีดำที่ปกปิดพื้นที่สงวน มือหนายกสะโพกขึ้นจัดแจงท่าทาง“อึก!” สองมือที่ถูกมัดทำให้ใบหน้าสวย ๆ ของคาริสาฟุบคะมำอยู่บนฟูกมือหนาไล้สัมผัสต้นขาเรียวสวย ดวงตาคมปลาบมองสีหน้าเหยเกของเธออย่างเกิดอารมณ์“ฉันชอบแบบนี้” แดเนียลบอกถึงความปรารถนาของตน คาริสาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย เธอไม่สนุกกับการกระทำของเขาเลยสักนิด“ทำไมล่ะ มันน่าสนุกดีออกหรือเธอไม่อยากตามใจ
“เธอเป็นพวกมันใช่ไหม”“ก็แค่เข็มกลักเอาอะไรมาการันตีว่าฉันเป็นพวกนั้น”“ฉันคิดไว้แล้วว่าคนอย่างเธอไม่มีทางเปิดปาก ฉันไม่หวังที่จะได้ยินเธอพูดสารภาพ ถึงยังไงคำตอบของเธอมันแสดงออกมาทางสีหน้าหมดแล้ว”“อึก!” คาริสาเริ่มมีอาการกระอักกระอ่วน เธอพูดไม่ได้คายไม่ออก“ในสองคนนี้จะมีหนึ่งคนที่รอด” แดเนียลพูดพร้อมจ่อปืนไปที่ศีรษะของคาริสา“แดน... นายจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอ”“ฉันจะกำจัดคนที่ไม่มีประโยชน์”“ฉันจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้” หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยปากทันทีที่แดเนียลพูดจบมาเฟียหนุ่มส่งสายตาให้ลูกน้องคนสนิทส่งปืนให้หญิงสาวตรงหน้า เธอค่อย ๆ เล็งมือมาทางคาริสา“ปืนกระบอกนั้นยังไม่มีกระสุน ถ้าเธอให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ฉันจะให้ลูกกระสุนเธอ” ขณะที่แดเนียลเจรจาอยู่กับหญิงสาวตรงหน้า คาริสาก็ได้ข่มตาหลับปล่อยน้ำใสอุ่น ๆ ออกมา“ส่วนเธออยากตายใช่ไหมถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย”“พี่เคสเป็นรุ่นพี่ใน...”ปัง!เธอไม่ทันจะได้พูดจบประโยคคาริสาก็กระชากเอาปืนจากมือแดเนียลลั่นกระสุนใส่หญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับใช้ขาทั้งสองข้างที่ถูกมัดถีบตัวหล่อนให้หงายไปกับพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว“ฉันไม่รู้จักมัน!” เธอพูดทั้งน้ำตา
อย่านะ อย่า...อย่าทำฉัน...ทำแบบนี้ทำไม...“เฮือก!” คาริสาสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงหายใจดังเฮือก ความฝันเมื่อสักครู่ช่างเหมือนจริงเหลือเกินดวงตาคู่สวยกวาดมองทัศนียภาพรอบตัวด้วยความมึนงง แสงไฟสลัวทำให้เธอทุกอย่างได้ไม่ชัดเจนนัก ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดที่ข้อมือและข้อเท้า“อึก!” ใจดวงน้อยกระตุกวูบ เมื่อรับรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความฝันสองมือและสองเท้าถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวนขนาดมหึมา อีกทั้งแขนและขาข้างขวาก็มีอาการชาจนยากที่จะขยับ หลังจากถูกเอาเฝือกออกไปทำไมถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้?เกิดอะไรขึ้น!!!เธอทำอะไรพลาดงั้นเหรอ?“พี่เคส” คาริสามองเห็นหญิงสาวตรงหน้าซึ่งอยู่ในสภาพไม่ต่างจากเธอ “พี่โอเคใช่ไหม เออ...”คาริสาแสดงโค๊ดลับผ่านใบหน้า ก่อนจะพูดขึ้นแทรก“เธอคนทำความสะอาดนี่ ทำไมฉันกับเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่ในสภาพแบบนี้”“พี่เคสคือเราโดน...”“ฉันไม่ตลกนะ เล่นบ้าอะไรกันอยู่” คาริสาตะโกนพูดแทรก ก่อนจะแสดงโค๊ดลับผ่านใบหน้าอีกครั้งสถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรรู้จักกัน!หญิงสาวตรงหน้าขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เนื่องจากรุ่นพี่อย่างคาริสาไม่ยอมฟังอะไรเลย อีกทั้งยังพูดตัดบทสนทนา
วันต่อมา...“รับบทเป็นคนพิการนี่มันลำบากจริง ๆ” คาริสายืดเส้นยืดสายพลางเหลือบตามองไปยังห้องทำงานที่เชื่อมติดกับห้องนอนเป็นระยะไดรฟ์นั่นอยู่ใกล้แค่เอื้อม ยังไงวันนี้ก็ต้องเอามันมาให้ได้ครืด! ครืด!คาริสาเหลือบตามองบนอย่างเบื่อหน่าย เห็นสายนี้โทรเข้ามาทีไรเธอปวดใจทุกที มือเรียวหยิบหูฟังไร้สายเสียบเข้าหู ก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมศีรษะ(ทำไมติดต่อยากจัง ทางนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า)“มีอุปสรรคนิดหน่อย แต่ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว”(อืม ฉันเห็นแล้ว ไอ้แดเนียลมันเพิ่งนั่งรถออกไป)เตชินส่งสายลับสาวอีกคนแฝงตัวเป็นคนรับใช้ในบ้าน เธอติดกล้องขนาดเล็กไว้ที่เสื้อ จึงทำให้เขาเห็นการเคลื่อนไหวทุกอย่างภายในบ้านของเป้าหมาย“ฉันขอเปลี่ยนแผนนิดหน่อยได้ไหม ส่งคนอื่นมาลงมือเอาไดรฟ์ในตู้เซฟแทน”(มีปัญหาอะไรหรือเปล่า)“ที่นี่ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าฉันลงมือทำเองแล้วเกิดแผนที่วางไว้ไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็มีฉันที่ได้อยู่ต่อ หัวหน้าก็จะไม่เสียแหล่งข้อมูลด้วย”(คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอไม่กล้าลงมือทำเองแน่ ๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันส่งคนไปช่วยเธอแล้ว)เพื่อนหนุ่มที่รู้ทันเอ่ยกระแนะกระแหน เล่นเอาคนฟังหน้าชาจนแทบควบคุมอารมณ์หงุดหง
“คุณย่า!” คาริสาเอ่ยเรียกท่าน ก่อนจะวางช้อนลง แล้วยกมือไหว้อย่างทุลักทุเล“หนูเคส! ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วแขนไปโดนอะไรมา” “เคสเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ แดนก็เลยอาสาดูแล”“ตายจริง! เจ็บมากไหมลูก แล้วหลานย่ามันทำอะไรหนูหรือเปล่า”“แดนเขาดูแลเคสเป็นอย่างดีเลยค่ะคุณย่า ถ้าเคสไม่ได้แดนมาช่วยก็คงจะแย่กว่านี้”บทสนทนาของคาริสากับย่าน้อยดูสนิทสนมกัน จนลูกน้องที่วิ่งตามมาเมื่อครู่ทำหน้างง คิดว่าจะเกิดเรื่องซะแล้ว“ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูเคสเป็นการส่วนตัว พวกเธอออกไปก่อน” ย่าน้อยหันไปสั่งลูกน้องทุกคนที่ยังยืนอึ้งอยู่ในห้อง คาริสาทานขนมอีกคำสองคำแล้วดื่มน้ำผลไม้เพียงนิด ก่อนจะส่งสัญญาณให้ป้าแม่บ้านเอาของว่างออกไปด้วย“หนูยังเจ็บอยู่ไหม ย่ามารบกวนหนูหรือเปล่า” ย่าน้อยเดินมานั่งข้างเตียงพลางกุมมือคนเจ็บเพื่อส่งกำลังใจ“อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ คุณย่าสบายดีนะคะ ไม่ได้เจอตั้งนานยังแข็งแรงเหมือนเดิมเลย” ถึงแม้ว่าย่าน้อยจะอายุหกสิบปีปลาย ๆ แต่ท่านก็ยังคงแข็งแรง เนื่องจากดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี “ว่าแต่คุณย่ามาหาแดนมีอะไรหรือเปล่าคะ”“ย่าแวะมาเยี่ยมตาแดนน่ะ ตั้งแต่กลับมาไทยตาแดนก็ไม่เคยไปหาย่าเลย เอา
ณ ห้องประชุมบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุปโปรเจกต์ใหม่ที่แดเนียลนำเสนอออกไปกลายเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นในที่ประชุม แม้เขาจะบารมีของคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหารทุกคนได้ในที่ประชุมไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะความเป็นคนรุ่นใหม่แบบแดเนียล จึงมักถูกตราหน้าว่าอ่อนประสบการณ์และความรู้เสมอโชคยังดีที่มีลูกน้องคนสนิทอย่างเอกคอยดึงสติ ไม่ให้เขาโมโหพวกคนรุ่นเก่าดักดาน ชอบใช้ความสำเร็จในอดีตของตนมาข่มแนวคิดและอุดมการณ์ของเขาหลังจากประชุมบอร์ดบริหารเสร็จสิ้น แดเนียลก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน เขาเอาแต่นั่งคิดถึงคาริสา เธอทำให้เขาไม่เป็นอันทำอะไรไอรีนเดินเข้ามายื่นเอกสารหลังการประชุมให้เซ็นต์ แต่แดเนียลกลับไม่สนใจ เขาปัดมือให้เธอออกไปจากห้องทำงาน“คุณไอรีนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เอกยืนสั่งงานลูกน้องอยู่แถวนั้น เห็นไอรีนเดินคอตกออกมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอ“คุณแดเนียลดูเหม่อ ๆ น่ะค่ะ ปกติคุณแดเนียลจะเข้มงวดเรื่องเอกสารมาก แต่วันนี้ไอเอาเอกสารไปให้เซ็นต์ คุณแดเนียลกลับไล่ให้ไอออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ”“คุณไอรีนอย่ากังวลไปเลยครับ สง