Home / รักโบราณ / สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น / บทที่ 5 คุณชายรองเสิ่นจิ้น

Share

บทที่ 5 คุณชายรองเสิ่นจิ้น

last update Last Updated: 2025-01-21 21:02:55

บทที่ 5 คุณชายรองเสิ่นจิ้น

สวี่หยางลุกขึ้นเดินเพื่อสำรวจตู้เตียงโต๊ะที่ทำด้วยไม้สนอย่างดียังมีแจกันลายเมฆมงคลสองใบและของประดับตกแต่งหรูหราหากไม่รกหูรกตาจนเกินไป

เขาคงไม่ปล่อยให้นางต้องนอนเพียงลำพังตั้งแต่ค่ำคืนแรกที่แต่งเข้ามาหรอกกระมั่ง!

เพียงชั่วอึดใจที่สวี่หยางคิดเช่นนั้น นางมองไปยังสุรามงคลที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะก่อนจะละสายตาพลางถอนหายใจเดินกลับไปที่เตียงนอน

ครั้นประตูถูกเปิดเข้ามาสวี่หยางรีบใช้มือดึงผ้าคุมหัวลงมาปิดไว้และนั่งแน่นิ่งรอสามีของตนมาเปิดหัวใจของนางเริ่มเต้นระรัว ถึงนางจะเป็นสตรีที่ดุร้ายแต่ทว่าเรื่องเช่นนี้นางเองก็ยังคงอ่อนหัดเช่นกัน

แต่ทว่านางนั่งอยู่สักครู่กลับไม่มีเสียงใดเอ่ยออกมาจากปากของเขา มีเพียงเสียงฝีเท้าที่กำลังย่างเข้ามาใกล้ ๆ ใช้ไม้ที่วางอยู่เปิดผ้าคุมออกเผยให้นางได้เห็นใบหน้าของเสิ่นเกาหลาน ดวงตาลุ่มลึกใบหน้าคมคิ้วกระบี่ท่าทางสุขุมราวกับบัณฑิต ดวงตาดำขลับเว้าลึกมีความไม่แยแสต่อโลกเจืออยู่ในนั้น แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของสวี่หยางสั่นไหว

"บุปผาในน้ำ จันทราในกระจก ช่างเป็นเช่นดั่งที่เขากล่าวเล่าลือ ข้ามาที่เรือนนี้เพราะไม่ได้ต้องการร่วมหลับนอนกับเจ้า ข้าขอเอ่ยกับเจ้าตามตรงว่าข้ามิได้ต้องการแต่งกับเจ้าแต่เพราะข้าตกปากรับคำท่านพ่อยากจะคืนคำ เช่นนั้นวันนี้ข้ากับเจ้าถือว่าเป็นสามีภรรยากันตามขนบธรรมเนียมและข้าขอบอกเจ้าไว้ตรงนี้ว่าต่อให้เจ้าเป็นฮูหยินของข้า ก็ไม่มีทางที่จะได้ความรักจากข้า " วาจาเอ่ยออกมาราวกับแท่งเข็มนับหมื่นนับพันทิ่มแทงในอกของสวี่หยาง ใบหน้าของนางพลันเปลี่ยนสี

ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาเองก็คงได้ยินชื่อเสียงของนางมาไม่น้อยไม่แปลกที่เขาจะรังเกียจนาง

"ตอกตะปูลงบนแผ่นไม้ เมื่อตัดสินใจไปแล้วยากจะเปลี่ยนแปลง ข้าสวี่หยางผู้นี้มิได้ต้องการความรักจากท่านเช่นกัน เป็นการดีที่ท่านเอ่ยออกมาเช่นนี้ ข้าจะได้ไม่ต้องปกปิดตัวตนแสร้งทำเป็นคนดี แต่ข้าเป็นบุตรสาวที่มีความกตัญญูท่านพ่อสอนให้ข้าปรนนิบัติผู้เป็นสามีอย่าให้ขาดตกบกพร่อง ท่านเองก็คงจะรู้ว่าหากรุ่งสางผ้าปูบนเตียงหรือแม้แต่ผ้าห่มกายยังอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงข้าจะถูกตำหนิเอาได้ เรื่องเช่นนี้ข้าเองก็ไม่ยอมเช่นกัน " ระหว่างเอ่ยก็ตรวจดูสีหน้าอีกฝ่ายไปด้วยอย่างระมัดระวัง

"ฮึ! ในเมื่อเจ้าเอ่ยมาเช่นนี้ข้าย่อมสนองความต้องการให้เจ้าได้ " ถ้อยคำตรงไปตรงมาเปิดเผยเรียบง่ายทำให้เขาพึงพอใจที่จะไม่ต้องแสร้งทำเป็นสามีที่ดีให้แก่นาง เขากระกดสุราหนึ่งจอกเดินตรงเข้ามาหาสวี่หยางที่เตียงก่อนจะกดกายนางลงเพื่อสนองสิ่งที่นางเอ่ยออกมาแม้ไม่ได้รักนางแต่ทว่าหากออกไปเช่นนี้เขาเองก็ถูกท่านพ่อท่านแม่ตำหนิได้เพราะทั้งสองต้องการหลานเพื่อสืบทอดสกุล

แม้ในใจของสวี่หยางจะเจ็บลึกแต่ยามนี้นางต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดนอนทอดกายให้เขาเชยชมความเจ็บปวดไม่มีแม้คำกล่าวถามที่อบอุ่น กลายเป็นความเย็นยะเยือกเข้ามาแทนที่

รุ่งสางของอีกวัน

ลมหนาวพัดผ่านร่างกายของสวี่หยางทำให้นางลืมตาขึ้นมาสายตากวาดมองทั่วห้องร่างกายปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์

ครั้นจะลุกนางกลับรู้สึกเจ็บปวดที่ตรงกลางระหว่างขาร่างกายระบมไปหมดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หน้าซีดเผือกราวเสียพลังไปโดยฉับพลัน นางเป็นฮูหยินสกุลเสิ่นเต็มตัวแต่ทว่าเมื่อมองข้างกายกลับไม่พบเสิ่นเกาหลานแล้วมีเพียงไอความอุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่

มีเพียงคำพูดของเขาที่ยังวนเวียนอยู่นางจะเก็บถ้อยคำที่เขาเอ่ยไว้ให้ลึกถึงกระดูกมิใช่แต่เขาไม่รักนาง นางเองก็ใช่ว่าจะรักเขาแม้จะเสียดายใบหน้าที่งดงามนั้นแต่ทว่าตอนนี้นางคือฮูหยินของเขา ความรักกินมิได้เงินทองความมั่งคั่งต่างหากที่ทำให้นางแต่งเข้ามาที่นี่ สวี่หยางนอนต่ออีกครู่ก่อนจะพยายามลุกขึ้นอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแต่งกายเดินออกมาด้านนอกกวาดสายตามองดูเรือนที่นางต้องใช้ชีวิตต่อจากนี้

สาวใช้ในเรือนเดินใกล้เข้ามาหาสวี่หยางเกี่ยงกันที่จะเข้ามาตามนางตามคำสั่งของเสิ่นเกาหลานผู้เป็นนายให้มาตามฮูหยินไปกินอาหารเช้าที่ห้องโถง เพราะข่าวเล่าลือเรื่องนิสัยของนางไม่มีสาวใช้นางใดกล้าเข้ามาใกล้แม้แต่นางเดียว เป็นจังหวะเดียวกันที่เสิ่นจิ้นน้องชายของเสิ่นเกาหลานที่มาเยือนท่านพี่ที่เรือนเห็นสาวใช้สองนางกำลังดันกันและกันเพื่อให้ไปเรียกฮูหยิน

“เจ้าไปสิ”

“ไม่ข้าไม่ไป เจ้านั่นแหละที่ต้องไป”

“ไม่หากจะไปเราต้องไปด้วยกัน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ากลัวจะก้าวเท้าไม่ออกอยู่แล้ว”

“เกิดอะไรขึ้นพวกเจ้ากำลังเกี่ยงกันไปที่ใดหรือ?” น้ำเสียงทุ่มต่ำเอ่ยขึ้นมาด้านหลังของสาวใช้ทั้งสองราวกับเสียงสวรรค์ที่มาโปรดปราณพวกนาง

“คุณชายน้อยเสิ่นจิ้นพวกเราถูกคุณชายเสิ่นเกาหลานให้มาตามฮูหยินไปกินอาหารที่ห้องโถงเจ้าค่ะ แต่พวกข้ากลัวเจ้าค่ะได้ยินมาว่าก่อนที่ฮูหยินจะแต่งเข้ามาที่เรือนนี้มีสาวใช้ถูกนางสั่งลงโทษจนถึงแก่ความตาย ข้ากลัวว่าจะทำอันใดไม่ถูกใจและจะโดนลงโทษเอาได้”

เสิ่นจิ้นมองไปยังด้านหน้าสตรีที่งดงามเช่นนั้นจะเป็นอย่างที่สาวใช้กล่าวมาได้อย่างไร แม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงฉาวโฉ่วแต่เขาไม่คิดว่านางจะโหดร้ายจนไม่มีเหตุผลอันใด

“เช่นนั้นพวกเจ้าไปที่ห้องโถงเถิดข้าจะเข้าไปเรียกพี่สะใภ้เอง”

“เจ้าค่ะคุณชายรอง”

เสิ่นจิ้นมีอายุน้อยกว่าเสิ่นเกาหลานเพียงสองปียามนี้เขาเองก็เติบโตพอที่จะมีครอบครัวแต่ทว่าเขายังไม่พบเจอสตรีที่ถูกตาต้องใจ จนกระทั่งยามนี้ที่เขาย่างเท้ามาใกล้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าพี่สะใภ้ของตน

“พี่สะใภ้ข้าเสิ่นจิ้นน้องชายของท่านพี่เสิ่นเกาหลานขอคารวะขอรับ”

สวี่หยางกำลังครุ่นคิดเรื่องจี๋เสียงทันทีที่ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลังนางรีบหันมาหาผู้มาเยือนยามนั้นมีสายลมพัดผ่านผมยาวสยายตามกระแสลมเผยเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องประทินโฉมอย่างเมื่อวาน รอยยิ้มส่งผ่านม่านตาน้อมรับคารวะอย่างนอบน้อม

“ข้าสวี่หยางคารวะคุณชายรองเสิ่นจิ้นเช่นกันเจ้าค่ะ”

ราวกับถูกมนต์สะกดน้ำเสียงนุ่มลึกรูปโฉมประหนึ่งจิตรกรวาดรังสรรค์ บรรจงลากเส้นโค้งของดวงตาดุจใบหลิวดูพริ้วไหวนุ่มนวล เสิ่นจิ้นตกอยู่ในภวังค์ของความงดงามอยู่ชั่วหนึ่งก่อนจะรีบดึงสติตนเพราะผู้ที่อยู่ตรงหน้าคือพี่สะใภ้ของตน

“ข้าเดินทางมาที่เรือนนี้เพราะต้องการแสดงความยินดีกับพี่เสิ่นเกาหลานและท่านพี่สะใภ้ เมื่อครู่ข้าเดินผ่านสาวใช้เห็นนางกำลังเดินมาตามพี่สะใภ้ไปที่ห้องโถง ไปพร้อมกับข้าหรือไม่ขอรับ? "

"เช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะ ข้าเองพึ่งเข้ามาอยู่ที่นี่แม้จะเดินไปที่ใดก็ย่อมไม่รู้ทาง เป็นธุระท่านแล้ว”

“หาได้เป็นธุระของข้าหรอกขอรับ ข้าเดินผ่านมาพอดีมาเถิดขอรับป่านนี้ท่านพี่เสิ่นเกาหลานคงรอนาน” เสิ่นจิ้นกล่าวผายมือให้นางเดินตามตนรีบเก็บงำประกายตาไม่ให้แสดงออกมาจนเกินไป หัวใจของเขาเต้นแรงระรัว

ห้องโถง

เสิ่นเกาหลานนั่งจ้องมองทางเข้าห้องโถงหันซ้ายหันขวาสวี่หยางยังไม่มีวี่แววจะก้าวเท้าเข้ามาจนเขาเกิดความโมโห เห็นสาวใช้ทั้งสองที่ให้ไปตามเดินกลับมาแต่ทว่าไร้วี่แววของสวี่หยางลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง

ปัง !!!

“ข้าให้เจ้าไปตามฮูหยินเหตุใดนางถึงไม่ตามมาด้วยหรือว่านางยังไม่ตื่นเช่นนั้นหรือ? ช่างเป็นสตรีที่ไม่ดีเอาเสียเลย”

“มิใช่เจ้าค่ะคุณชาย ฮูหยินตื่นแล้วตอนนี้กำลังเดินตามมาพร้อมกับคุณชายรองเจ้าค่ะ”

“เสิ่นจิ้นมาอย่างนั้นหรือ?” เสิ่นเกาหลานคิ้วขมวดเข้าหากันใบหน้างงงวยน้องชายของเขามาเยือนที่เรือนแล้วทำไมถึงได้อยู่กับสวี่หยางกันและทั้งสองไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่? เพียงไม่นานทั้งสองได้เดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกัน

มาแล้วสินะ!

“เสิ่นจิ้นเจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้มีเรื่องอันใดหรือ?” ทันทีที่เสิ่นจิ้นก้าวเท้าเข้ามาเสิ่นเกาหลานเอ่ยถามพลางมองไปด้านหลังของเสิ่นจิ้นเห็นสตรีที่เป็นฮูหยินของตนเดินมาพร้อมกับเขา

“ท่านแม่วานให้ข้านำของกำนัลเล็ก ๆ น้อย ๆ มามอบให้พี่สะใภ้ขอรับ ข้าพบพี่สะใภ้ที่ทางเดินมายังห้องโถงจึงชักชวนให้มาพร้อมกันขอรับ”

“เจ้ามาที่นี่แต่เช้าคงยังไม่ได้กินอะไรมาสินะ มาเถิดนั่งลงกินอาหารเช้าด้วยกันก่อน นี่เจ้าไปเตรียมชามมาให้คุณชายรองเร็วเข้า”

“เจ้าค่ะ”

เสิ่นเกาหลานสั่งสาวใช้ก่อนจะปรายสายตาไปมองสวี่หยางให้เดินมาใกล้ตน

สวี่หยางสบสายตาที่จ้องมองมาทางตนพอเข้าใจในความหมายของสายตาเดินมาใกล้เสิ่นเกาหลานนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ รอสาวใช้มาตักข้าวใส่ชามเพื่อร่วมกินอาหารเช้าด้วยกัน สถานการณ์ช่างอึดอัดสำหรับนางราวกับต้องฝืนทนเพื่อแสดงเป็นฮูหยินที่ดี

ระหว่างกินอาหารเสิ่นเกาหลานสังเกตสตรีที่อยู่ตรงหน้าและมองไปยังเสิ่นจิ้นจึงคีบเนื้อชิ้นใหญ่มอบให้นาง

“กินเพียงเท่านี้จะมีแรงได้เช่นใดกัน กินเนื้อเยอะ ๆ ”

“ไม่คิดเลยนะขอรับว่าท่านพี่จะรักพี่สะใภ้มากขนาดนี้ เช่นนี้อีกไม่นานท่านพ่อท่านแม่คงได้อุ้มหลานเป็นแน่”

คำพูดของเสิ่นจิ้นชวนให้สวี่หยางอึดอัดใจมากกว่าเดิมก้มหน้าต่ำลงคีบเนื้อที่เสิ่นเกาหลานเข้าปากชิ้น ๆ เล็กเคี้ยวอย่างละเอียดเพราะนางไม่อยากจะตอบคำถามนั้น

“เรื่องเช่นนั้นข้าคงบอกไม่ได้ต้องดูร่างกายของสวี่หยางด้วย จริงสิกินอาหารเสร็จแล้วข้ามีเรื่องจะหารือกับเจ้า” สวี่หยางใจล่องลอยไม่ได้ฟังคำพูดของเสิ่นเกาหลานที่พูดคุยกับเสิ่นจิ้นเวลาเพียงไม่นานแต่สำหรับนางราวกับผ่านไปหลายชั่วยามที่ต้องนั่งฝืนทนกินอาหารจนถึงเวลาแยกย้าย

Related chapters

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 1 ถูกใส่ร้าย

    บทที่ 1 ถูกใส่ร้ายแสงตะเกียงในคุกริบหรี่ ห้องขังคับแคบอากาศชื้นเหม็นอับ กำแพงมีความหนาถึงสามฉื่อสกัดกั้นสายลมตามทางเดินเอาไว้ด้านนอกบรรยากาศเหน็บหนาว่าสลดหดหู่ร่างสตรีนางหนึ่งนอนขดอยู่บนกองหญ้าชื้นอย่างไร้สติร่างกายเต็มไปด้วยรอยพกช้ำจากการโบยตีถูกสั่งให้นำตัวมาคุมขังเพื่อรอกล่าวโทษในรุ่งสางของอีกวันแสงเทียนส่องสว่างเห็นเงาของร่างใหญ่ที่บึกบึนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้วยความเงียบและเบาฝีเท้าที่สุดก่อนจะอุ้มช้อนร่างบางลักลอบพานางออกไปจากคุกในยามที่ทุกคนต่างพากันหลับไหลจิ๊บ จิ๊บ!!! เสียงนกน้อยร้องเพลงขับขานส่งกันไปมาร่างบางบิดกายเมื่อได้ยินเสียงรบเร้า ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือกวาดสายตามองไปดันด้านบนก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้าน นัยน์ตาคู่งามเบิกโพลงโตก่อนสติเลือนรางนางนอนอยู่ในที่มืดสนิทแถมยังเหม็นอับ ร่างบางรีบยันกายลุกขึ้นมองดูรอบ ๆ อย่างสำรวจนางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน!ทันใดนั้นเองประตูห้องถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก นางปรายสายตาไปมองผู้มาเยือนดวงตาเบิกโพลงโตมากกว่าเดิม คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย"ท่านฟื้นแล้วสินะ ข้าคิดว่าข้าจะมาช่วยท่านไม่ทันเสียแล้ว " สีหน้าของเขาบ่งบอกความเป็นห่วงออ

    Last Updated : 2025-01-21
  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 2 ขอความร่วมมือ

    บทที่ 2 ขอความร่วมมือยามสนธยามาเยือนท้องฟ้าก็เริ่มมืดทั่วทั้งเมืองปกคลุมด้วยหมอกสีขาวสตรีงามพิลาสล้ำคิ้วใบหลิวดวงตาสวยเป็นประกายลึกล้ำยากจะหยั่งรู้ใบหน้าเคร่งขรึมดวงตาคู่งามเรียบนิ่งดุจสายน้ำยาวเดินล้วนงามสง่ายากจะละสายตาของผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า"ร่างกายของท่านยังไม่หายดีออกมาตากน้ำค้างเช่นนี้อาจจะแย่เอาได้ "ชายผู้นั้นเป็นเจ้าของสันกรามคมชัดคิ้วองอาจผึ่งผายดวงตาทั้งสองหยักโค้งเล็กน้อยสง่างามทรงภูมิเอ่ยถามสตรีที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ตน"คุณชายท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน" เมฆหมอกแห่งความสงสัยเข้าปกคลุมนางหยุดเท้าเงยหน้าจ้องมองพลางเอ่ยถาม"สิ่งที่ข้าช่วยท่านเพราะข้ามิเห็นด้วยกับโทษที่ท่านจะได้รับท่านพี่เสิ่นเกาหลานนั้นทำเกินกว่าเหตุเพราะความโมโหจึงไม่หยั่งคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ไม่มีหลักฐานว่าท่านเป็นคนลงมือแต่กลับกล่าวโทษ ข้าจึงมิอาจจะรับได้ครั้นข้าจะประท้วงก็ยากจะต่อกรกับท่านพี่ที่มีอารมณ์ปะทุร้อนเช่นนั้น " ดวงตาคู่งามจ้องมองเขาเผยสีหน้าซับซ้อนยากจะอ่านความ"การช่วยข้าออกมาจากการคุมขังเช่นนี้อาจจะทำให้ท่านเดือดร้อนเอาได้ท่านไม่เกรงกลัวอย่างนั้นหรือ? ""ท่านจะให้ข้าทนเห็นท่านไม่ได้รับความยุติ

    Last Updated : 2025-01-21
  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 3 เคยชิน

    บทที่ 3 เคยชิน"เอาตัวนางไปลงโทษตามคำสั่งของข้า ทำจนกว่านางจะยอมรับหากนางสลบนำน้ำเย็นสาดใส่หน้าให้นางฟื้นเค้นถามให้จงได้" สิ้นเสียงของสวี่หยางความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านจากปลายเท้าถึงหนังศีรษะของผู้กำลังถูกลงโทษ"ขอรับคุณหนูใหญ่"บ่าวรับใช้น้อมรับคำสั่งผู้เป็นนายพาตัวสาวใช้ไปลงโทษตามคำสั่ง สาวใช้คุกเข่าลงหัวโขกพื้นสะอึกสะอื้นแต่ทว่าสวี่หยางกลับไม่แยแสเดินเชิดหน้าออกไปจากที่ตรงนั้นมีเพียงเจี่ยฟางที่ต้องมองสาวใช้ด้วยความสงสารก่อนจะเดินตามหลังสวี่หยางออกไป"พี่หยางหากเรื่องนี้แพร่ออกไปนอกเรือนจะไม่เกิดผลดีต่อท่านนะเจ้าคะ โปรดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนอีกรอบ"ชื่อเสียงฉาวโฉ่ขจรขจายไปไกลของสวี่หยางนั้นยากที่จะทำให้ชื่อเสียงกลับมาดีได้นางไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผู้อื่นจะมองนางเช่นไร"เหตุใดต้องเกรงกลัวเจ้าก็รู้ว่าข้าถูกชาวบ้านหรือแม้แต่สาวใช้ในเรือนตนขนานนามว่าเช่นไร""แต่ว่า...หากเรื่องนี้ถึงหูของสกุลเสิ่นจะดีต่อท่านพี่หรือเจ้าคะ" ใบหน้าของเจี่ยฟางสลดลงเล็กน้อยเป็นกังวลแทนผู้เป็นพี่"เจ้าไม่ต้องมาใส่ใจ ข้ามิได้แต่งเข้าสกุลเสิ่นด้วยความรักที่ข้าทำทั้งหมดเพราะเป็นประสงค์ของทั้งสองตระกูล ว่าแต่เจ้ามาหาข้ามีเร

    Last Updated : 2025-01-21
  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 4 ถูกปิดปาก

    บทที่ 4 ถูกปิดปากเมื่อมาถึงเรือนบ่าวรับใช้ที่ให้ลงโทษจี๋เสียงวิ่งหน้าตั้งมาแจ้งสวี่หยางด้วยน้ำเสียงกระอึกกระอัก นางคิดว่าจี๋เสียงยอมปริปากบอกแต่ทว่าสิ่งที่นางได้ยินจากปากของบ่าวกลับทำให้นางตกใจเพียงครู่"คุณหนูใหญ่ยามนี้จี๋เสียงสิ้นลมแล้วขอรับ""เกิดอันใดขึ้นข้าบอกให้เจ้าทำโทษนางมิได้ให้ฆ่านางทิ้งเสียหน่อยเช่นนี้ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือของผู้ใด" สวี่หยางแผดเสียงสูงกราดเกรี้ยวประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาดผ่านร่าง ไม่รู้แม้กระทั่งผู้ปองร้ายแถมยังต้องเสียสาวใช้อีกด้วย"คุณหนูข้ามิได้ลงมือฆ่านางขอรับ ข้าพยายามเค้นถามนางเอาแต่บอกว่านางไม่ได้ทำ นางจงรักภักดีต่อคุณหนูมาตลอด ข้าปวดหนักออกไปเพียงครู่กลับมาเห็นนางนอนน้ำลายฟูมปากตาเหลือกขึ้นบนแล้วขอรับ"สวี่หยางไม่อยากจะเชื่อคำพูดของบ่าวรีบวิ่งไปดูจี๋เสียงที่ลานลงโทษ ครั้นมาถึงเห็นสภาพนางนอนแน่นิ่งน้ำลายฟูมปากอย่างที่บ่าวแจ้งแต่ทว่าการตายของนางยิ่งทำให้สวี่หยางขับข้องใจมากกว่าเดิม การตายเช่นนี้ราวกับว่านางถูกวางยาให้นางดื่มยาพิษเพื่อปิดปาก"เจ้าจงค้นให้ทั่วเรือนทั้งเรือนของสาวใช้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดจงค้นให้ทั่ว การตายของจี๋เสียงมิใช่การตายธรรมดานางโ

    Last Updated : 2025-01-21

Latest chapter

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 5 คุณชายรองเสิ่นจิ้น

    บทที่ 5 คุณชายรองเสิ่นจิ้นสวี่หยางลุกขึ้นเดินเพื่อสำรวจตู้เตียงโต๊ะที่ทำด้วยไม้สนอย่างดียังมีแจกันลายเมฆมงคลสองใบและของประดับตกแต่งหรูหราหากไม่รกหูรกตาจนเกินไปเขาคงไม่ปล่อยให้นางต้องนอนเพียงลำพังตั้งแต่ค่ำคืนแรกที่แต่งเข้ามาหรอกกระมั่ง!เพียงชั่วอึดใจที่สวี่หยางคิดเช่นนั้น นางมองไปยังสุรามงคลที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะก่อนจะละสายตาพลางถอนหายใจเดินกลับไปที่เตียงนอนครั้นประตูถูกเปิดเข้ามาสวี่หยางรีบใช้มือดึงผ้าคุมหัวลงมาปิดไว้และนั่งแน่นิ่งรอสามีของตนมาเปิดหัวใจของนางเริ่มเต้นระรัว ถึงนางจะเป็นสตรีที่ดุร้ายแต่ทว่าเรื่องเช่นนี้นางเองก็ยังคงอ่อนหัดเช่นกันแต่ทว่านางนั่งอยู่สักครู่กลับไม่มีเสียงใดเอ่ยออกมาจากปากของเขา มีเพียงเสียงฝีเท้าที่กำลังย่างเข้ามาใกล้ ๆ ใช้ไม้ที่วางอยู่เปิดผ้าคุมออกเผยให้นางได้เห็นใบหน้าของเสิ่นเกาหลาน ดวงตาลุ่มลึกใบหน้าคมคิ้วกระบี่ท่าทางสุขุมราวกับบัณฑิต ดวงตาดำขลับเว้าลึกมีความไม่แยแสต่อโลกเจืออยู่ในนั้น แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของสวี่หยางสั่นไหว"บุปผาในน้ำ จันทราในกระจก ช่างเป็นเช่นดั่งที่เขากล่าวเล่าลือ ข้ามาที่เรือนนี้เพราะไม่ได้ต้องการร่วมหลับนอนกับเจ้า ข้าขอเอ่ยกับเ

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 4 ถูกปิดปาก

    บทที่ 4 ถูกปิดปากเมื่อมาถึงเรือนบ่าวรับใช้ที่ให้ลงโทษจี๋เสียงวิ่งหน้าตั้งมาแจ้งสวี่หยางด้วยน้ำเสียงกระอึกกระอัก นางคิดว่าจี๋เสียงยอมปริปากบอกแต่ทว่าสิ่งที่นางได้ยินจากปากของบ่าวกลับทำให้นางตกใจเพียงครู่"คุณหนูใหญ่ยามนี้จี๋เสียงสิ้นลมแล้วขอรับ""เกิดอันใดขึ้นข้าบอกให้เจ้าทำโทษนางมิได้ให้ฆ่านางทิ้งเสียหน่อยเช่นนี้ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือของผู้ใด" สวี่หยางแผดเสียงสูงกราดเกรี้ยวประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาดผ่านร่าง ไม่รู้แม้กระทั่งผู้ปองร้ายแถมยังต้องเสียสาวใช้อีกด้วย"คุณหนูข้ามิได้ลงมือฆ่านางขอรับ ข้าพยายามเค้นถามนางเอาแต่บอกว่านางไม่ได้ทำ นางจงรักภักดีต่อคุณหนูมาตลอด ข้าปวดหนักออกไปเพียงครู่กลับมาเห็นนางนอนน้ำลายฟูมปากตาเหลือกขึ้นบนแล้วขอรับ"สวี่หยางไม่อยากจะเชื่อคำพูดของบ่าวรีบวิ่งไปดูจี๋เสียงที่ลานลงโทษ ครั้นมาถึงเห็นสภาพนางนอนแน่นิ่งน้ำลายฟูมปากอย่างที่บ่าวแจ้งแต่ทว่าการตายของนางยิ่งทำให้สวี่หยางขับข้องใจมากกว่าเดิม การตายเช่นนี้ราวกับว่านางถูกวางยาให้นางดื่มยาพิษเพื่อปิดปาก"เจ้าจงค้นให้ทั่วเรือนทั้งเรือนของสาวใช้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดจงค้นให้ทั่ว การตายของจี๋เสียงมิใช่การตายธรรมดานางโ

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 3 เคยชิน

    บทที่ 3 เคยชิน"เอาตัวนางไปลงโทษตามคำสั่งของข้า ทำจนกว่านางจะยอมรับหากนางสลบนำน้ำเย็นสาดใส่หน้าให้นางฟื้นเค้นถามให้จงได้" สิ้นเสียงของสวี่หยางความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านจากปลายเท้าถึงหนังศีรษะของผู้กำลังถูกลงโทษ"ขอรับคุณหนูใหญ่"บ่าวรับใช้น้อมรับคำสั่งผู้เป็นนายพาตัวสาวใช้ไปลงโทษตามคำสั่ง สาวใช้คุกเข่าลงหัวโขกพื้นสะอึกสะอื้นแต่ทว่าสวี่หยางกลับไม่แยแสเดินเชิดหน้าออกไปจากที่ตรงนั้นมีเพียงเจี่ยฟางที่ต้องมองสาวใช้ด้วยความสงสารก่อนจะเดินตามหลังสวี่หยางออกไป"พี่หยางหากเรื่องนี้แพร่ออกไปนอกเรือนจะไม่เกิดผลดีต่อท่านนะเจ้าคะ โปรดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนอีกรอบ"ชื่อเสียงฉาวโฉ่ขจรขจายไปไกลของสวี่หยางนั้นยากที่จะทำให้ชื่อเสียงกลับมาดีได้นางไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผู้อื่นจะมองนางเช่นไร"เหตุใดต้องเกรงกลัวเจ้าก็รู้ว่าข้าถูกชาวบ้านหรือแม้แต่สาวใช้ในเรือนตนขนานนามว่าเช่นไร""แต่ว่า...หากเรื่องนี้ถึงหูของสกุลเสิ่นจะดีต่อท่านพี่หรือเจ้าคะ" ใบหน้าของเจี่ยฟางสลดลงเล็กน้อยเป็นกังวลแทนผู้เป็นพี่"เจ้าไม่ต้องมาใส่ใจ ข้ามิได้แต่งเข้าสกุลเสิ่นด้วยความรักที่ข้าทำทั้งหมดเพราะเป็นประสงค์ของทั้งสองตระกูล ว่าแต่เจ้ามาหาข้ามีเร

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 2 ขอความร่วมมือ

    บทที่ 2 ขอความร่วมมือยามสนธยามาเยือนท้องฟ้าก็เริ่มมืดทั่วทั้งเมืองปกคลุมด้วยหมอกสีขาวสตรีงามพิลาสล้ำคิ้วใบหลิวดวงตาสวยเป็นประกายลึกล้ำยากจะหยั่งรู้ใบหน้าเคร่งขรึมดวงตาคู่งามเรียบนิ่งดุจสายน้ำยาวเดินล้วนงามสง่ายากจะละสายตาของผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า"ร่างกายของท่านยังไม่หายดีออกมาตากน้ำค้างเช่นนี้อาจจะแย่เอาได้ "ชายผู้นั้นเป็นเจ้าของสันกรามคมชัดคิ้วองอาจผึ่งผายดวงตาทั้งสองหยักโค้งเล็กน้อยสง่างามทรงภูมิเอ่ยถามสตรีที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ตน"คุณชายท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน" เมฆหมอกแห่งความสงสัยเข้าปกคลุมนางหยุดเท้าเงยหน้าจ้องมองพลางเอ่ยถาม"สิ่งที่ข้าช่วยท่านเพราะข้ามิเห็นด้วยกับโทษที่ท่านจะได้รับท่านพี่เสิ่นเกาหลานนั้นทำเกินกว่าเหตุเพราะความโมโหจึงไม่หยั่งคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ไม่มีหลักฐานว่าท่านเป็นคนลงมือแต่กลับกล่าวโทษ ข้าจึงมิอาจจะรับได้ครั้นข้าจะประท้วงก็ยากจะต่อกรกับท่านพี่ที่มีอารมณ์ปะทุร้อนเช่นนั้น " ดวงตาคู่งามจ้องมองเขาเผยสีหน้าซับซ้อนยากจะอ่านความ"การช่วยข้าออกมาจากการคุมขังเช่นนี้อาจจะทำให้ท่านเดือดร้อนเอาได้ท่านไม่เกรงกลัวอย่างนั้นหรือ? ""ท่านจะให้ข้าทนเห็นท่านไม่ได้รับความยุติ

  • สวี่หยางหวนคืนทวงแค้น   บทที่ 1 ถูกใส่ร้าย

    บทที่ 1 ถูกใส่ร้ายแสงตะเกียงในคุกริบหรี่ ห้องขังคับแคบอากาศชื้นเหม็นอับ กำแพงมีความหนาถึงสามฉื่อสกัดกั้นสายลมตามทางเดินเอาไว้ด้านนอกบรรยากาศเหน็บหนาว่าสลดหดหู่ร่างสตรีนางหนึ่งนอนขดอยู่บนกองหญ้าชื้นอย่างไร้สติร่างกายเต็มไปด้วยรอยพกช้ำจากการโบยตีถูกสั่งให้นำตัวมาคุมขังเพื่อรอกล่าวโทษในรุ่งสางของอีกวันแสงเทียนส่องสว่างเห็นเงาของร่างใหญ่ที่บึกบึนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้วยความเงียบและเบาฝีเท้าที่สุดก่อนจะอุ้มช้อนร่างบางลักลอบพานางออกไปจากคุกในยามที่ทุกคนต่างพากันหลับไหลจิ๊บ จิ๊บ!!! เสียงนกน้อยร้องเพลงขับขานส่งกันไปมาร่างบางบิดกายเมื่อได้ยินเสียงรบเร้า ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือกวาดสายตามองไปดันด้านบนก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้าน นัยน์ตาคู่งามเบิกโพลงโตก่อนสติเลือนรางนางนอนอยู่ในที่มืดสนิทแถมยังเหม็นอับ ร่างบางรีบยันกายลุกขึ้นมองดูรอบ ๆ อย่างสำรวจนางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน!ทันใดนั้นเองประตูห้องถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก นางปรายสายตาไปมองผู้มาเยือนดวงตาเบิกโพลงโตมากกว่าเดิม คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย"ท่านฟื้นแล้วสินะ ข้าคิดว่าข้าจะมาช่วยท่านไม่ทันเสียแล้ว " สีหน้าของเขาบ่งบอกความเป็นห่วงออ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status