ศิลาเป็นเเฟนกับคิวมา7ปี วันหนึ่งเขาเล่นพนันเเพ้ไม่มีเงินจ่ายบอดี้การด์ของพายุไม่ให้ออกจากร้าน ถ้าจะออกให้เอาของมาจำนำถึงจะออกได้ ศิลาโวยวาย พายุที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัว บอดี้การ์ดเข้ามารายงาน เขาจึงลุกขึ้นไปดูด้วยตัวเองก็เห็นศิลาเพื่อนร้ก พายุยิ้มมุมปาก มองศิลา ไม่คิดว่า มาเฟียอันดับต้นของ ของประเทศมหาเศรษฐี ถึงได้สภาพเป็นเเบบนี้ ยาจกชัดๆ ศิลา:พายุ พายุ:อืมกูเอง ไม่เจอกันนานเลยนะเพื่อนรัก มึงสบายดีไหมศิลา พายุ:ฉันต้องการคุยกับศิลาเป็นการส่วนตัว คีริน: เเต่... นายครับ พายุ:ไม่มีเเต่ ออกไป คีริน:ครับนาย พายุ:ฉันได้ข่าวว่านายเล่นพนันเเพ้เหรอ ศิลา:อืม กูเล่นพนันเเพ้ พายุ:อืม เห็นเเกที่กูกับมึงเป็นเพื่อนกัน กูมีข้อเสนอให้มึง ศิลา: ข้อเสนอ อะไร พายุ :กูได้ข่าวว่าเเฟนมึงสวยที่สุด เห็นเขาลือกัน กูอยากเห็นเเฟนมึงพามาให้กูดูหน่อยสิ มึงอย่าทำหน้าเเบบนั้นสิ เเค่ดูเฉยๆน่า อย่าคิดมากเลย
Узнайте большеบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสุดหรู เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งลำ คิวที่นั่งอยู่ข้างพายุกำมือแน่น ดวงตาก้มลงมองตักของตัวเองไม่กล้าสบสายตาคนข้างๆ พายุหันมามองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ดูไม่สดใสเอาเสียเลย ริมฝีปากหยักยกยิ้มก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนไม่อยากมากับฉัน?" คิวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบส่ายหน้า "เปล่าครับ..." "เปล่า?" พายุเลิกคิ้วสูง "แต่หน้าของนายมันฟ้องว่ากำลังไม่พอใจฉันอยู่" คิวเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าปฏิเสธอะไรอีก ได้แต่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร จู่ๆ พายุก็โน้มตัวเข้ามาใกล้จนคิวสะดุ้ง ร่างสูงจับเข้าที่ปลายคางของเขาแล้วออกคำสั่งเสียงเข้ม "อยู่เฉยๆ อย่าดิ้น" "อ่ะ! คุณพายุจะทำอะไรครับ?" คิวพยายามขยับตัวหนี แต่กลับถูกมือหนารั้งไว้แน่น พายุไม่ตอบอะไร เพียงแค่ปลายนิ้วแตะลงบนใบหน้าของคิว ไล้เบาๆ ไปตามสันกรามก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่าย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา "คืนนี้...เราสองคน" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหมายที่ทำให้หัวใจของคิวเต้นกระหน่ำ มือบางกำชายเสื้อของตัวเองแน่นก่อนจะเบือนหน้าหนี แต่กลับถูกพายุจับคางให้หันกลับมาสบตา ณ
ภายในห้องทำงานของพายุบรรยากาศเงียบสงัด แสงจากโคมไฟบนโต๊ะทำงานส่องให้เห็นใบหน้าคมเข้มของพายุที่นั่งพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาสีนิลจ้องมองเอกสารตรงหน้า ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น“เข้ามา” พายุเอ่ยเสียงเรียบประตูเปิดออกเผยให้เห็นร่างของคีริน บอดี้การ์ดคู่ใจที่เดินเข้ามา“นายครับ ผมจัดการเรื่องที่นายให้ผมไปทำเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”พายุเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “อืม ไปได้แล้ว”คีรินก้มศีรษะรับคำสั่ง “ครับนาย” จากนั้นก็หันหลังกลับเดินออกไปจากห้อง พายุเหลือบสายตามองคนที่ยืนจ้องเขาอยู่ฝั่งตรงข้าม คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น“อะไร? จ้องฉันขนาดนั้นทำไม”คิวสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเบือนสายตาหลบและเอ่ยเสียงเบา “ไม่มีอะไรครับ”พายุหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่สั่งสอนคนที่มันคิดจะทรยศฉันนิดหน่อย”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายเหมือนเป็นเรื่องปกติ “ฉันไม่เอาถึงตายหรอก แค่นอนโรงพยาบาลสักคืนสองคืนเท่านั้นเอง”คิว เขากำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ดวงตาสั่นระริกด้วยอารมณ์“คุณมันคนใจร้าย!”คิวพูดออกมาด้วยเสียงสั่น น้ำเสียง
หลังจากที่พายุจอดรถหน้าคฤหาสน์ของชุติมา หญิงสาวก็หันมายิ้มหวานให้เขา ก่อนจะเอื้อมมือแตะแขนเบาๆ ด้วยท่าทีอ่อนโยน"ขอบคุณนะคะพายุ ที่มาส่งชุที่บ้าน"พายุหันไปมองเธอ สายตาอ่อนลงเล็กน้อย "ก็ชุเป็นคู่หมั้นของผม ผมก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ" น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ชุติมายิ้มกว้างขึ้นกับคำพูดของพายุ "ปากหวานจังเลยค่ะ ฝันดีนะคะ ขับรถดีๆ ล่ะ" เธอยกมือขึ้นแตะแขนพายุเบาๆ ก่อนจะก้าวลงจากรถ และเดินเข้าบ้านไปโดยไม่ลืมหันมาส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้ายทันทีที่ชุติมาลับสายตา พายุถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะกลับขึ้นรถ ขณะที่เขากำลังจะขับออกไป เขาก็เหลือบมองคนที่นั่งเงียบมาตลอดทาง"เป็นอะไร" พายุถามเสียงนิ่งคิวที่กำลังนั่งก้มหน้า มือกำชายเสื้อแน่น ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขา "เปล่าครับ" น้ำเสียงราบเรียบ แต่ฟังดูฝืนเต็มทีพายุเหล่มองด้วยหางตา ขมวดคิ้วเล็กน้อย "นายคงโกรธเรื่องนั้นสินะ ก็นายทำชุขนาดนั้น"คิวกลั้นหัวเราะเยาะออกมา ก่อนจะเอียงหน้าหันไปสบตาพายุตรงๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ครับ ถ้าผมทำชุปหกจริงๆ ผมไม่ได้ทำที่มือแน่"พายุชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดนั้น ก่อนที่ดวงตาคมจะฉายแววไม่พอใจ "คิว อย่ามาต่อปากต่อคำ
พายุ มองดูเขาด้วยสายตานิ่งสนิท แววตาของเขาไร้ปรานี แล้วจู่ๆ ริมฝีปากของพายุก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ก่อนที่เขาจะเอ่ยเสียงเรียบ "ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย"คิวชะงัก หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น แต่แล้วเสียงของพายุก็แทรกเข้ามาอีกครั้ง "แต่นายอย่าคิดนะว่าคืนนี้นายจะรอดจากน้ำมือฉัน"ความหวังที่เพิ่งก่อตัวขึ้นถูกทำลายลงในพริบตา ดวงตาของคิวฉายแววสับสน ขณะที่พายุเบือนหน้าไปทาง คีริน คนสนิทของเขา"คีริน เอาตัวคิวไป""ครับ" คีรินรับคำสั่งทันที ก้าวเข้ามาหาคิวก่อนจะคว้าแขนของเขาแน่น"คิว!" เสียงของ ศิลา ดังขึ้นจากอีกมุมหนึ่งของห้อง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความร้อนรนและเป็นห่วง เขาขยับจะเข้ามา แต่ถูกคีรินตวาดขัด"อย่ามายุ่ง ถ้าแกไม่อยากเดือดร้อน"ศิลากำหมัดแน่น ดวงตาของเขามีทั้งความโกรธและความสิ้นหวัง แต่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนมองคนที่ตัวเองรักถูกลากออกไปในขณะที่ความเงียบเริ่มปกคลุม เสียงของ พายุ ก็ดังขึ้นอีกครา คราวนี้เป็นคำพูดที่พุ่งตรงไปยัง วายุ ที่ยืนเงียบอยู่มุมห้อง"วายุ กลับบ้าน ถ้าแกไม่กลับ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่"แววตาของวายุเต็มไปด้วยความขัดแย้ง หัวใจของเขาเหมือนถูกบีบแน่น สาย
คิวเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทิ้มเมื่อลมหายใจร้อนของพายุรินรดลงบนต้นคอ มือหนาของอีกฝ่ายยังคงจับแขนของเขาไว้แน่น ไม่ให้ขยับหนี"ปล่อย..." คิวพยายามดิ้น แต่กลับถูกแรงบีบจากพายุรั้งเอาไว้พายุหัวเราะในลำคอ "ทำไม? หวงตัวไปได้"คิวพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนนั้น "อือ... อย่า! คุณพายุ ปล่อยผม!"พายุโน้มตัวลงมาใกล้ กระซิบข้างหูของคิว"ฉันมีข้อเสนอให้นาย..."คิวตัวเกร็ง รู้สึกได้ถึงอันตรายที่แผ่ซ่านออกมาจากบุคคลตรงหน้า"ถ้านายยอมเป็นเมียฉัน... ไม่สิ เป็น นายบำเรอ ให้ฉัน" พายุยิ้ม นิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากของคิวเบาๆ "ฉันจะปล่อยศิลาไป""..." คิวกำหมัดแน่น หัวใจแทบหยุดเต้น"แต่ถ้านายปฏิเสธ..." พายุหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "มันตาย""ไม่นะ!" คิวอุทานออกมาทันที ดวงตาสั่นระริกพายุไหวไหล่เล็กน้อยราวกับเรื่องที่เขาพูดไม่ใช่เรื่องใหญ่โต "เลือกเอาสิ นายจะช่วยชีวิตมัน หรือจะให้มันตายเพราะความดื้อของนาย?"คิวกัดริมฝีปากจนห้อเลือด ก่อนจะรวบรวมสติเอ่ยออกมาเสียงสั่น "แล้วคุณวายุล่ะครับ..."พายุเลิกคิ้วเล็กน้อย ราวกับพอใจที่คิวยังมีสติพอจะคิดถึงคนอื่น
บรรยากาศภายในห้องเช่าตึงเครียดขึ้นทันทีที่พายุปรากฏตัว ร่างสูงในชุดสูทสีดำยืนอยู่ตรงหน้าประตู สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างพอใจ"พี่พายุ..." วายุเอ่ยเสียงต่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความระแวดระวังพายุหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีเหนือกว่า "ว่าไง ไอ้น้องชายตัวแสบ? อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะ" เขาเอ่ยพลางปรายตามองไปยังศิลาและคิวที่ยืนอยู่ใกล้กันคิวยืนตัวสั่น หัวใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว แต่เขาก็ยังพยายามรวบรวมความกล้าพูดออกไป "ปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ คุณพายุ..." น้ำเสียงสั่นเครือแสดงให้เห็นถึงความหวาดหวั่นในใจพายุเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก "เหอะ... ปล่อยงั้นเหรอ?" เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้คิวมากขึ้น "ฉันปล่อยก็ได้..."ดวงตาของคิวมีประกายแห่งความหวัง แต่เพียงไม่นาน คำพูดถัดไปของพายุก็ทำให้เขาชะงัก"แต่นายต้องมาเป็น นายบำเรอ ให้ฉัน จนกว่าฉันจะพอใจ"ดวงตาของคิวเบิกกว้าง น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาทันที เขาถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว แต่แผ่นหลังกลับชนเข้ากับอกของศิลา"แก!" ศิลากัดฟันแน่น กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา "อย่ามายุ่งกับคิว!"พายุไม่ได้สะทกสะท้านกับค
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด พายุยืนอยู่กลางห้องรับแขก ดวงตาคมกริบฉายแววกรุ่นโกรธ มือกำแน่นขณะออกคำสั่งเสียงเข้ม"บอกคนของเราตามหาวายุกับคิวให้เจอ!"คีรินที่ยืนอยู่ตรงหน้ารีบก้มศีรษะรับคำสั่ง "ครับ นายท่าน" จากนั้นจึงรีบออกไปจัดการตามที่ได้รับคำสั่งไม่นานนัก ชุติมาก็ก้าวเข้ามาในห้อง "พายุ เกิดอะไรขึ้นคะ? เด็กคนนั้น...หายไปกับวายุเหรอคะ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความกังวล "โธ่ คิว... ฉันสงสารเด็กคนนั้นจังเลยค่ะ"พายุปรายตามองเธอแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจ "คุณมาหาผมที่นี่มีอะไร?"ชุติมายิ้มบางๆ พลางยกมือขึ้นแตะแขนของพายุอย่างอ่อนโยน "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ชุแค่อยากชวนคุณไปทานข้าวข้างนอก"พายุเงียบไปครู่หนึ่ง เขากำลังคิดอะไรบางอย่างในใจ ก่อนที่ริมฝีปากจะกระตุกยิ้มบางๆ"ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะไปไหน" เขาตอบเสียงเรียบ แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความคิดคำนึงถึงเรื่องของวายุและคิวชุติมามองเขาด้วยสายตาผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้า "เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นชุไม่กวนคุณแล้ว"หญิงสาวเอ่ยจบก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งให้พายุยืนอยู่ตรงนั้นเพีย
ลานจอดรถหลังผับกลางดึกเสียงชกต่อยดังขึ้นท่ามกลางความมืดสลัวของพื้นที่ลับตาคน พายุเช็ดมุมปากที่แตกจากหมัดของวายุ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล"นี่มึงกล้าต่อยกูเหรอ ห่ะ?" พายุคำรามออกมา มือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น"เออ มึงจะทำไม?" วายุสวนกลับ น้ำเสียงเย็นชาแต่สายตาแข็งกร้าวไม่เกรงกลัวคิวที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านหลังมองสถานการณ์ด้วยความกังวล เขาไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายกว่านี้"พอเถอะครับ อย่าทะเลาะกันอีกเลย" คิวพยายามเข้าห้าม ใจเต้นแรงเพราะกลัวว่าทั้งคู่จะลงไม้ลงมือกันมากกว่านี้เสียงฝีเท้าดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงของคีรินจะปรากฏตัว ดวงตาคมกริบมองไปที่พายุและวายุ "เกิดอะไรขึ้นครับนายท่าน?" คีรินถามพายุอย่างร้อนรนพายุไม่ตอบ เขาหันไปมองวายุที่กระชากแขนคิวให้ตามออกไป"คิว ไปกับฉัน" วายุสั่งเสียงเข้ม ดึงตัวคิวให้ออกห่างจากพายุพายุขบฟันแน่น ก่อนตะโกนสั่งลูกน้อง "ยืนบื้ออยู่ทำไม ไปตามจับตัวมันมาสิวะ!"คีรินสะดุ้ง รีบขานรับ "คะ ครับ นายท่าน!" ก่อนออกวิ่งตามวายุไปคิวเริ่มหอบจากการวิ่งหนี ใจเต้นรัวเพราะความตื่นเต้นและความกลัว "คุณวายุครับ...ผมวิ่งไม่ไหวแล้ว จะทำอะไรครับ?"วายุหันกลับมามอ
ห้องนอนกว้างขวางในคฤหาสน์วรงค์พายุเดินเข้ามาเห็นคิวนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ใบหน้าซุกลงกับแขน เสื้อผ้าหลวมๆ คล้ายจะร่วงจากไหล่เล็กนั่น มือที่กำผ้าห่มแน่นสั่นเล็กน้อย"เป็นอะไร?" พายุเอ่ยเสียงเรียบ ขณะเดินเข้ามาใกล้คิวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบปาดน้ำตา "เปล่า"พายุเลิกคิ้ว "โกหก""มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คิวเงยหน้าขึ้น ตาจ้องพายุอย่างไม่ยอมแพ้พายุส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะนั่งลงที่ขอบเตียง "นายร้องไห้ทำไม"คิวเม้มปากแน่น รู้ดีว่าถ้าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พายุไม่มีวันเข้าใจ ไม่มีวันสนใจความรู้สึกของเขา"ฉันถาม" พายุเสียงเข้มขึ้นคิวสูดหายใจลึกก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ฮึก... พี่ศิลา"พายุเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะในลำคอ "ยังจะคิดถึงมันอีกเหรอ?"คิวเมินหน้าหนี ไม่ตอบพายุเอื้อมมือไปเชยคางอีกฝ่ายให้เงยขึ้น "ฉันอยู่ตรงนี้ แต่หัวใจนายยังอยู่กับมัน?""คุณไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับความรู้สึกของผม" คิวสะบัดหน้าหนีพายุจ้องเด็กตรงหน้า สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา "หึ งั้นเหรอ?"เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดเสียงต่ำ "ก็ได้ ถ้านายยังไม่ลืมมัน งั้นฉันจะช่วยทำให้นายลืมเอง"คิวเบิกตากว้าง "คะ... คุณจะทำอะไร?"พายุโน้มตัว
เสียงเพลงอึกทึกจากคลับหรูระดับไฮเอนด์กระหึ่มไปทั่วทั้งชั้น ศิลาเดินออกจากห้องพนันด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขามองซ้ายขวาหาทางออก แต่แล้วบอดี้การ์ดร่างสูงสองคนก็ขยับมายืนขวางตรงประตูทางออก "ขอโทษครับคุณศิลา ถ้าคุณไม่มีของมาจำนำ จะออกจากที่นี่ไม่ได้" เสียงราบเรียบแต่ทรงอำนาจของหนึ่งในบอดี้การ์ดทำให้ศิลาชะงัก เขากัดฟันแน่น ข่มอารมณ์พลางตะโกนลั่น "เฮ้ย! พวกมึงจะบ้าหรือไงวะ กูไม่มีเงินแล้วจะให้เอาอะไรไปจำนำ!?" บอดี้การ์ดไม่ได้สะทกสะท้านกับเสียงตะโกนของเขา พวกมันยังคงยืนนิ่ง สีหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึก ภายในห้องส่วนตัวของคลับ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่คีริน บอดี้การ์ดมือหนึ่งของพายุ จะก้าวเข้ามาใกล้เจ้านายของตน พายุทอดสายตามองแก้วเหล้าในมือ ก่อนจะปรายตามองลูกน้องด้วยความสนใจ "มีอะไร?" "นายครับ มีแขกคนหนึ่งเล่นพนันแพ้แล้วไม่มีเงินจ่าย กำลังโวยวายอยู่ที่หน้าทางออก" พายุยิ้มมุมปาก ท่าทางของเขาดูไม่ใส่ใจนัก แต่พอคีรินเอ่ยชื่อของคนที่ก่อเรื่องขึ้นมาจริงๆ รอยยิ้มของพายุก็ฉายแววเย้ยหยัน "ศิลาเหรอ?" "ครับนาย" พายุหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อยให้คีรินจัดแจงเส...
Комментарии