แรก ๆ ไม่ชอบหน้าก็บอกอีกฝ่ายว่า “อย่ายุ่งกับฉันนะ” หลัง ๆ รั้งคนตรงหน้าไว้อ้อนวอนด้วยสายตา “อย่าไปนะ”
View Moreหนึ่งปีผ่านไปธาวินเข้าเรียนชั้นประถมปีที่หนึ่งช้ากว่าเพื่อนร่วมรุ่นไปสองปีเพราะผลกระทบจากอุบัติเหตุ ก้องเกียรติจ้างครูพิเศษมาสอนเขาอยู่ที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อปรับพื้นฐานการเรียนใหม่ทั้งหมด รวมถึงช่วยให้เขาเริ่มเรียนรู้การเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่งแม้พี่สาวทั้งสองคนอย่างเมธาวีและเกวลินจะอยากแอบไปดูน้องที่ห้องเรียนมากแค่ไหนแต่ก็ต้องอดใจเอาไว้เพราะตึกเรียนชั้นมัธยมกับชั้นประถมแยกจากกันโดยสิ้นเชิงดังนั้น ทุกคนจึงฝากความหวังไว้ที่วเรณย์ให้คอยไปส่งและรอรับกลับบ้านพร้อมกัน แม้เจ้าตัวจะทำสีหน้าไม่เต็มใจก็ตาม แต่พอคิดอีกแบบหนึ่งแล้ว คงจะเป็นการดีที่ได้กันธาวินออกจากพี่สาวทั้งสองไปโดยปริยายความคิดนี้ดูเหมือนจะไม่เลว แต่วเรณย์ไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องชั้นประถ
ธาวินใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอิงสุนทรอย่างเรียบง่ายในแต่ละวันจะมีก้องเกียรติ จันทร์วิมลและลูกสาวทั้งสองคนแวะเวียนหาเรื่องพูดคุยกับเขาอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เจ้าตัวเหงาหงอยอยู่คนเดียว ทั้งยังเต็มใจช่วยกันค่อย ๆ ปรับสภาพจิตใจของเด็กตัวน้อยทีละนิดแม้ธาวินจะไม่พูดอะไรเลยตลอดเกือบหนึ่งปีที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แต่ความรู้สึกของทุกคนยังคงเหมือนเดิม เอ็นดูและสงสารพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลาเขาทานอาหารทุกอย่างที่ป้ามล ผู้เป็นแม่บ้านเตรียมไว้ให้ทุกสามมื้อ ไม่เคยบอกว่าต้องการอะไรเป็นพิเศษ ทุกวันนี้ยังไม่เคยมีใครได้ยินเสียงพูดของเขาเลยสักครั้งหากแต่ในบางคืน เขาอาจส่งเสียงร้องเพราะฝันร้ายถึงอุบัติเหตุครั้งนั้นบ้าง ทุกคนในบ้านก็จะพร้อมใจกันเข้ามาปลอบใจจนกว่าเจ้าตัวเล็กจะผล็อยหลับไป
คืนวันหนึ่งในฤดูหนาว รถยนต์สีเทาคันใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปตามทางเปลี่ยวลาดชัน ถนนสองเลนเล็ก ๆ ลัดเลาะไปตามแนวเทือกเขาคดเคี้ยวหลายสิบกิโลเมตร บางครั้งมีรถจากอีกฝั่งแล่นสวนทางมาบ้างประปราย ช่วยให้รู้สึกโล่งใจได้ว่าไม่ได้มีเพียงพวกเขาบนเส้นทางอันยาวนานบรรยากาศภายนอกเงียบสงบและวังเวง สองข้างทางเป็นป่าไม้ที่ผลัดใบจนเหลือแต่กิ่งก้านตามฤดูกาล ส่วนข้างในรถมีครอบครัวแสนอบอุ่นกำลังนั่งอยู่เงียบ ๆสายตาของธาวินมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเพียงแสงไฟจากต้นเสาที่อยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ไกลลิบกระพริบเป็นช่วง ๆ เขาตื่นเต้นที่สองสามวันนี้พ่อกับแม่พาเที่ยวต่างจังหวัดตามที่สัญญากันเอาไว้จุดหมายปลายทางบนแผนที่ถูกปักหมุดเอาไว้เป็นแผนการเดินทางในวันหยุดยาวของครอบครัว เด็กชายตัวน้อยคาดหวังไว้แล้วว่าเช้าวันรุ่งขึ้น เขาจะได้เห็นแสงอาทิตย์ที่ขอบฟ้าลอยเหนือทะเลหมอกบนจุดสูงที่สุดของยอดเขา“ยังไม่ง่วงอีกเหรอครับ” แม่ของธาวินถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตาของเธอเหมือนจันทร์ครึ่งเสี้ยวเวลายิ้มให้เขาเหมือนทุกครั้งลูกชายคนเดียวส่ายหน้า “ไม่ง่วงครับ แม่ไม่นอนเหรอ” เขาสังเกตมาตลอดทางว่าคนเป็นแม่มักจะคอยช่วยพ่อของเขาดูเส้นทา
คืนวันหนึ่งในฤดูหนาว รถยนต์สีเทาคันใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปตามทางเปลี่ยวลาดชัน ถนนสองเลนเล็ก ๆ ลัดเลาะไปตามแนวเทือกเขาคดเคี้ยวหลายสิบกิโลเมตร บางครั้งมีรถจากอีกฝั่งแล่นสวนทางมาบ้างประปราย ช่วยให้รู้สึกโล่งใจได้ว่าไม่ได้มีเพียงพวกเขาบนเส้นทางอันยาวนานบรรยากาศภายนอกเงียบสงบและวังเวง สองข้างทางเป็นป่าไม้ที่ผลัดใบจนเหลือแต่กิ่งก้านตามฤดูกาล ส่วนข้างในรถมีครอบครัวแสนอบอุ่นกำลังนั่งอยู่เงียบ ๆสายตาของธาวินมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเพียงแสงไฟจากต้นเสาที่อยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ไกลลิบกระพริบเป็นช่วง ๆ เขาตื่นเต้นที่สองสามวันนี้พ่อกับแม่พาเที่ยวต่างจังหวัดตามที่สัญญากันเอาไว้จุดหมายปลายทางบนแผนที่ถูกปักหมุดเอาไว้เป็นแผนการเดินทางในวันหยุดยาวของครอบครัว เด็กชายตัวน้อยคาดหวังไว้แล้วว่าเช้าวันรุ่งขึ้น เขาจะได้เห็นแสงอาทิตย์ที่ขอบฟ้าลอยเหนือทะเลหมอกบนจุดสูงที่สุดของยอดเขา“ยังไม่ง่วงอีกเหรอครับ” แม่ของธาวินถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตาของเธอเหมือนจันทร์ครึ่งเสี้ยวเวลายิ้มให้เขาเหมือนทุกครั้งลูกชายคนเดียวส่ายหน้า “ไม่ง่วงครับ แม่ไม่นอนเหรอ” เขาสังเกตมาตลอดทางว่าคนเป็นแม่มักจะคอยช่วยพ่อของเขาดูเส้นทา...
Comments