เมื่อ พลอยเจน หญิงสาวที่ยังสับสนเรื่องเพศ อยากรู้อยากลองแล้วดันเผลอไปลองกับ จิรกิตติ์ รุ่นน้องคนสนิทของพ่อ งานนี้จะจบยังไง ในเมื่อเขาเองก็รอวันนี้มานาน
View More“ อาบน้ำนานจัง “ เมื่อเดินกลับออกมาก็เห็นจิรกิตติ์นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง เขาจ้องร่างกายเธอที่กำลังใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วก็นึกขำ “ ขำอะไร!! “ “ ก็ขำเจนไง อาไม่คิดว่าเจนจะกลัวพ่อแม่บ่นขนาดนั้น “ หญิงสาวถอนหายใจแรง “ ก็การโดนบ่นมันมีผลดีอะไรเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากให้เจนอยู่ที่นี้ งั้นเจนกลับก็ได้ ป่านนี้แม่ก็คงจะนอนแล้ว “ พลอยเจนกำลังจะเดินออกจากห้อง จิรกิตติ์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกแล้วมากอดเอวของเธอไว้ “ ปล่อย! คุณอาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้น่ะ “ เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออก หน้าคมก็โน้มมากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ อากอดลูกของอาในท้องเจน อาผิดอะไร “ คนฟังหัวร้อนควันออกหู เขาจะลวนลามเธอแล้วเอาลูกมาอ้างแบบนี้ได้ไง “ ลูกคุณยังเป็นก้อนเลือดอยู่เลย อย่ามาหาเรื่องตู่จะฉวยโอกาสเจนนะ “ เธอหยิกมือเขาจนเขายอมคลายออก พลอยเจนจึงหันไปจ้องหน้าคนข้างหลัง “ อายอมรับก็ได้ว่าอาอยากจะฉวยโอกาสเจน อาอยากอยู่ใกล้ๆ เจน “ เขาก็ยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องที่เขาทำเธอเสียใจ “ เหรอ แต่ที่ผ่านมากลับตีตัวออกห่างเจนตลอด นั่นเหรอเรียกว่าอยากใกล้ชิด “ “ ก็เ
หลังจากนั้นไม่นานจิรกิตติ์ก็พาหญิงสาวกลับมาที่บ้าน รถหรูจอดเทียบที่หน้าบ้านของพลอยเจน “ ลงไหม “ เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งจึงได้หันไปถาม หญิงสาวก็ไม่ได้หันมาเอาแต่มองเข้าไปในบ้าน “ คุณคิดว่าพ่อกับแม่จะนอนกันหรือยังคะ “ เจตฟังเช่นนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงกลัวโดนพ่อแม่ซักไซ้ “ ดึกขนาดนี้แล้ว ก็คงจะหลับกันหมดแล้วละ นี่เจนกลัวพ่อกับแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ “ “ ก็ไม่ แต่คนแก่บ่นฟังแล้วมันหดหู่ใจต่างหากละ เจนเกลียดคนแก่ที่ชอบบ่นยาวๆ ที่สุด “ ประโยคหลังเธอหันมาจ้องเขา ทำเอาคนข้างกายสะดุ้งเล็กน้อย “ งั้นให้อาเดินเข้าไปส่งมั้ย “ เขาเสนอ แต่เธอกลับส่ายหน้า “ ไม่จำเป็น “ หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขาลงจากรถแต่กลับเหลือบไปเห็นว่าแม่นั่งอยู่ในห้องนอนของเธอผ่านหน้าต่าง เธอเลยรีบดึงขากลับขึ้นรถมาแล้วปิดประตูเอาไว้ดังเดิม “ อ้าว มีอะไรหรือเปล่า? “ “ ไปบ้านคุณอากันเลยเถอะ ถ้าแม่เห็นเจนหัวแตกคงได้บ่นยาวยันพรุ่งนี้เช้าแน่ “ เธอหันมาทำหน้ายุ่งใส่เขา จิรกิตติ์ก็เผยยิ้มกว้าง สิบกว่าปีได้แล้วมั้งที่เธอไม่ได้ไปที่บ้านของเขา “ เจนจะไปนอนบ้านอาเหรอ “ “ ทำไมคะ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได
‘ อาเจตคะ? ‘ เด็กหญิงวัยสิบขวบนามว่าพลอยเจนวิ่งเข้ามาในบ้านของคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งวิ่งและตามหาเขาไปทั่ว ‘ มีอะไรเจน แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ ‘ จิรกิตติ์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน แล้วลงมานั่งย่อตัวคุยกับหลานสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม ‘ ต่อยกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนมาค่ะ ‘ ‘ ห๊ะ! ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะเจน ‘ ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ดื้อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ‘ ถ้าพวกมันอยู่เฉยๆ เจนก็ไม่สนใจหรอก แต่พวกมันมาล้อหน้าม้าเจนนี่น่า ‘ คนตัวน้อยจับและแหงนมองดูผมหน้าม้าที่แสนจะภูมิใจของตัวเอง ‘ แม่อุตส่าห์ตัดให้เลยนะ แถมพวกมันยังล้อว่าเจนเป็นม้าดีดกะโหลกอีก ‘ คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เขาผิดเองใช่มั้ยที่สอนมวยให้หลาน ‘ แล้วพวกผู้ชายที่เจนไปต่อยกับเขานะกี่คน ‘ ‘ ปากแตกสองคนค่ะ อีกคนตาเขียว ครูเลยอยากให้เรียกผู้ปกครองไปพบพรุ่งนี้ ‘ เด็กหญิงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ ‘ แล้วก็จะให้อาไปแทนให้อีกล่ะสิ ‘ ‘ ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ หรือว่าอาเจตจะไม่ไปให้เจนเหรอ พ่อก็ไม่อยู่แม่ก็ทำงานหนัก ถ้าอาเจตไม่ไปใครจะไปให้คะ เจนไม่มีใครแล้วนี่ ‘ เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไ
“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม “ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้า
“ เจนไปไหนแล้วล่ะ “ จิรกิตติ์ทำการเก็บจานชามในห้องเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นหลานสาวตัวแสบแล้ว เขาจึงหันไปถามกับน้องพนักงาน “ มุกเห็นพี่เจนขับรถออกไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน พอดีมุกไม่ได้ถามไว้ “ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็พยักหน้าเข้าใจ เจนไปทำอะไรที่ไหนอีกนะ เขาเริ่มจะกังวลแล้วสิ อพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเจระวีคาเฟ่เท่าไหร่นักในห้อง 305 มีร่างของพลอยเจนนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ต่อสายหาแฟนสาวที่กำลังจะได้กลายเป็นแค่พี่น้อง [“ ฮัลโหล พี่เจนในที่สุดพี่ก็โทรมา คิตตี้คิดว่าพี่เทคิตตี้ไปแล้ว “] ปลายสายตอบกลับเธอมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตื่นเต้น “ มาหาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องของเรา “ พูดจบเธอก็ตัดสาย เธอไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อแล้ว ในเมื่อคนรักไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะจบ เพราะเรื่องที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คงไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวได้เคลียร์ใจแล้วไปต่อได้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาน้อยๆ ที่หยดลงมาบนใบหน้า บ้านรุณรวี “ คุณเจตมาหรือยังตูน “ จ๊ะจ๋าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวถามกับแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกไปจัดโต๊ะอาหารที่ห้องกิ
“ เจนยอมแต่งครับ “ “ ห๊ะ! แล้วไปพูดท่าไหนเนี้ย ปกติเห็นเจนตั้งท่าจะเกลียดแกยิ่งกว่าอะไรดี “ แสงรวีที่ตกใจรีบหลุดปากถาม เจตจึงมีเพียงส่งยิ้มอ่อนให้ “ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละครับพี่แสง ไว้เย็นนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่ ผมต้องไปบริษัท “ “ ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอ “ จ๊ะจ๋าชักชวน คนฟังก็รีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรผมทานมาแล้ว ไปนะครับ “ ลาทั้งคู่เสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้สองผัวเมียที่ยังอยู่หันมาจ้องหน้าแล้วคุยกันถึงเรื่องของทั้งสอง “ คุณคิดว่าเจนคือพราวมาเกิดใหม่จริงมั้ยคะ “ คนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหลือบมองเมียของเขา ตอนได้ยินในสิ่งที่เธอถาม “ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ “ แต่ฉันเริ่มจะเชื่อขึ้นมาแล้วนะคะ พราวอาจจะกลับมาหาเจตจริงๆ ก็ได้ “ แสงรวีถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเมียน้ำเสียงเด็ดขาด “ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ลูกของเราคือเจน ไม่ใช่พราว แล้วก็หวังว่าเจตจะเห็นเจนเป็นพลอยเจนเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ “ จ๊ะจ๋าได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ “ อือ จริงด้วยค่ะ ลูกของเราไม่ใช่ตัวแทนของใครสักหน่อย “ เจระวีคาเฟ่ พลอยเจนที่กำลังช่วยพนักงานจัดโต๊ะอยู่ รีบหยิบมือถือท
“ ถ้าแม่บอกว่าเขามีเหตุผล งั้นแม่ก็บอกเหตุผลของเขามาให้เจนรู้ได้มั้ยล่ะ “ พูดจบเจระวีก็กอดอกหันหน้าหนีไปทางอื่น “ ไว้เจน ไปถามอาเจตเอาเองเถอะลูก “ จ๊ะจ๋าก้มหน้าคอตก ไม่รู้จะพูดยังไงให้ลูกสาวเข้าใจ ก่อนจะมีมือใหญ่ยื่นมาสะกิดบนบ่าเธอ จ๊ะจ๋าหันไปจ้องก็เห็นว่าเป็นจิรกิตติ์ “ ขอผมคุยกับเจนเองนะครับ “ คนฟังพยักหน้าแล้วเดินออกไปปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง “ ทำไมเจนถึงไม่อยากจะแต่งงานกับอา “ คนที่ยืนหันหลังให้อยู่สะดุ้งแล้วรีบหันมามองต้นเสียง “ ถามแปลก คนไม่ได้รักใครจะอยากแต่งด้วยล่ะ หรือคุณอาอยากเหรอคะ “ เธอถามเขากลับอย่างประชดประชัน เมื่อเขาตอบกลับเท่านั้นเล่นเอาเธออึ้ง “ อยากสิ “ เธอกำลังจะเคลิ้มแต่เขากลับเฉลยเหตุผลเสียก่อน หญิงสาวถึงกับเบี่ยงหน้าหนี “ เพราะอาอยากให้ลูกของอาได้ลืมตาดูโลก “ คนพูดจ้องหน้าหญิงสาวอย่างจับพิรุธ แต่เมื่อเห็นเธอเอาแต่เงียบ เขาจึงถามเธอขึ้น “ เจน คิดจะทำร้ายลูกจริงๆ เหรอ นั่นลูกของเจนเลยนะ “ คนสองใจที่กำลังลังเลเรื่องจะเก็บเด็กไว้ หรือ เอาออกก็เริ่มคิดได้ “ แต่เจนไม่อยากแต่งงาน แล้วพ่อก็ต้องไม่ยอมแน่ถ้าจะให้เจนท้องโตโดยไม่จัดงานแต่ง “ ถึงอย่างนั
“ ก็หลานสาวสุดที่รักของแกไงเจต มันท้อง! “ จิรกิตติ์นิ่งอึ้งรีบหันไปจ้องหน้าหญิงสาว พลอยเจนที่กำลังจ้องเขาอยู่เช่นกันจึงรีบหลบหน้า “ มันไม่ยอมบอกว่าพ่อของลูกในท้องมันเป็นใคร! พี่ก็จะตีมันให้ตายคามือเลย หลีก“ แสงรวีผลักรุ่นน้องของเขาออก แล้วเตรียมฟาดไม้ใส่หลังลูกสาว เจตจึงรีบเข้ามาขวางไว้อีกครั้ง “ อย่า!! ในท้องเจนคือลูกผมเอง!! “ คนในบ้านเงียบไป แสงรวีจ้องมายังคนที่เขารักดั่งน้องชายด้วยแววตาผิดหวัง “ แกว่าอะไรนะ!! “ แสงรวีฟาดคันเบ็ดใส่เจตไปเต็มแรง “ ไหนแกบอกว่าหักห้ามใจได้แล้วไง ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้! ไอ้น้องเลว! “ “ ผมขอโทษพี่แสง จะตีจะฆ่ายังไงก็ได้ แต่ขอให้ทำผม อย่าทำเจนเลย ผมขอ “ “ ฮือ “ แสงรวีโมโหจัด ฟาดคันเบ็ดใส่จิรกิตติ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยความโมโห จนพลอยเจนทนมองไม่ได้ต้องรีบเข้ามาห้าม “ พ่ออย่านะคะ อย่า อาเจตไม่ได้ผิด เพราะถ้าคืนนั้นไม่ใช่เขาเจนก็คงไปทำกับคนอื่นอยู่ดี “ จิรกิตติ์ถึงกับหน้าซึม ไม่ใช่เพราะโดนตีแต่เขาเจ็บในสิ่งที่หญิงสาวพูด “ ทำไมทำตัวแบบนี้ห๊ะ!! แล้วนี่จะเอายังไงกัน “ “ เจนจะเอาเด็กออก “ “ ไม่ได้นะเจน! “ ทั้งแม่และเจตรีบร้องประสานเสียง
“ เป็นยังไงแล้ว ไม่สบายตรงไหนไปหาหมอไหม “ คนเป็นพ่อที่เห็นว่าสองแม่ลูกหายกันมานานจึงได้เดินมาหา “ แล้วนี่เป็นอะไรกัน ร้องไห้เหรอ? “ ชายแก่จ้องหน้าลูกเมียด้วยความสงสัย “ กลับไปที่โต๊ะเถอะค่ะคุณ ลูกมีอะไรจะบอก “ จ๊ะจ๋าหันไปพูดกับสามีทำเอาลูกสาวตกใจ “ แม่คะ…” “ บอกพ่อไปเถอะลูก เชื่อแม่สิ “ เมื่อเป็นแบบนั้นทั้งสามจึงเดินกลับมาที่โต๊ะกินข้าว พลอยเจนยืนอ้ำอึ้งไม่ยอมนั่งลง “ อ้าว ทำไมไม่นั่งล่ะ ไหนบอกว่ามีอะไรจะบอกพ่อไง “ “ เจนว่า ยืนเอาก็ได้ค่ะ “ “ พูดอย่างกับจะไม่กินข้าว “ แสงรวีหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่พอเห็นสีหน้าลูกเมียที่เหมือนจะไม่เล่นด้วยเขาจึงเงียบแล้วกลับสู่โหมดจริงจัง “ ไหน มีอะไรก็ว่ามา “ เขาถามลูกสาว มือก็คีบเครื่องเคียงบนโต๊ะจะเอาเข้าปาก “ เจนท้อง “ แสงรวีหยุดชะงัก รีบวางตะเกียบลงเสียงดัง “ อ้าว ไหนว่าไม่มีแฟนไง เจน!! “ คนเป็นพ่อลุกขึ้นตะคอกเสียงดัง “ มันหมายความว่ายังไงหะ “ พลอยเจนจ้องไปที่พ่อด้วยท่าทีสั่นกลัว “ เจนขอโทษ “ “ ขอโทษ? หมายความว่ายังไง! จะบอกว่าเด็กในท้องไม่มีพ่องั้นเหรอ! “ คนฟังน้ำตานองหน้า ถ้าเธอบอกไปว่าเป็นเขา พ่อต้องโกรธมาก พ่อจะไม
ผับเคทีแคท “ อ้าว นั่นเจนหรือเปล่า เจน! เจนทางนี้! “ เจระวี หรือ พลอยเจน หญิงสาวสูงราว 165 ร่างกายอวบอิ่มไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป เจ้าของผิวขาวผ่อง นัยน์ตาเฉี่ยว สวมชุดสีแดงรัดรูปก้าวขาเข้ามาในผับยังไม่ทันได้เห็นบุคคลที่เป็นเป้าหมายของตัวเธอด้วยซ้ำ แต่กลับได้ยินเสียงของชายหนุ่มออกสาวเรียกชื่อของเธอเสียงดัง ซึ่งดังกว่าเสียงเพลงเสียอีก พลอยเจนจึงรีบหันไปจ้องมอง “ เป็ด! เอ้ย ดักกี้เหรอ? “ เมื่อหันซ้ายมองขวาไปเจอต้นเสียง เธอก็ร้องชื่อของเขาคนนั้นออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เห็นแบบนั้นหญิงสาวจึงรีบก้าวขาเดินไปหา “ กลับมาจากนิวซีแลนด์ตั้งแต่เมื่อไหร่ มึงเปลี่ยนไปเยอะเลยนะเนี่ย “ เจนเดินมาทักแล้วนั่งลงข้างเพื่อน “ ถึงจะเปลี่ยนไปเยอะแต่มึงก็ยังจำกูได้นี่ แต่ไม่คิดเลยน่ะว่าจะได้มาเจอที่นี้ ทั้งที่ไม่ได้เจอกันเกือบจะ 8 ปีแล้ว เป็นยังไงบ้าง “ คำถามสุดท้ายดักกี้ถามออกมาอย่างตื่นเต้น จนพลอยเจนพอจะรู้ว่าคนตรงหน้านั้นหมายถึงใคร “ ที่ถามนี้ ถามกูเหรอ “ “ ไม่! 3 หนุ่มฮอตเดอะแก๊งมึงต่างหากละ แต่งงานมีหวานใจกันหมดหรือยัง “ พลอยเจนเบี่ยงหน้าหนีพร้อมส่ายไปมาเบาๆ ...
Comments