“ ก็หลานสาวสุดที่รักของแกไงเจต มันท้อง! “ จิรกิตติ์นิ่งอึ้งรีบหันไปจ้องหน้าหญิงสาว พลอยเจนที่กำลังจ้องเขาอยู่เช่นกันจึงรีบหลบหน้า
“ มันไม่ยอมบอกว่าพ่อของลูกในท้องมันเป็นใคร! พี่ก็จะตีมันให้ตายคามือเลย หลีก“ แสงรวีผลักรุ่นน้องของเขาออก แล้วเตรียมฟาดไม้ใส่หลังลูกสาว เจตจึงรีบเข้ามาขวางไว้อีกครั้ง “ อย่า!! ในท้องเจนคือลูกผมเอง!! “ คนในบ้านเงียบไป แสงรวีจ้องมายังคนที่เขารักดั่งน้องชายด้วยแววตาผิดหวัง “ แกว่าอะไรนะ!! “ แสงรวีฟาดคันเบ็ดใส่เจตไปเต็มแรง “ ไหนแกบอกว่าหักห้ามใจได้แล้วไง ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้! ไอ้น้องเลว! “ “ ผมขอโทษพี่แสง จะตีจะฆ่ายังไงก็ได้ แต่ขอให้ทำผม อย่าทำเจนเลย ผมขอ “ “ ฮือ “ แสงรวีโมโหจัด ฟาดคันเบ็ดใส่จิรกิตติ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยความโมโห จนพลอยเจนทนมองไม่ได้ต้องรีบเข้ามาห้าม “ พ่ออย่านะคะ อย่า อาเจตไม่ได้ผิด เพราะถ้าคืนนั้นไม่ใช่เขาเจนก็คงไปทำกับคนอื่นอยู่ดี “ จิรกิตติ์ถึงกับหน้าซึม ไม่ใช่เพราะโดนตีแต่เขาเจ็บในสิ่งที่หญิงสาวพูด “ ทำไมทำตัวแบบนี้ห๊ะ!! แล้วนี่จะเอายังไงกัน “ “ เจนจะเอาเด็กออก “ “ ไม่ได้นะเจน! “ ทั้งแม่และเจตรีบร้องประสานเสียงออกมาห้ามเธอ มือใหญ่ของจิรกิตติ์จับที่มือของหญิงสาว “ อย่านะ เจนห้ามทำอะไรให้ลูกอาเด็ดขาด “ แล้วเขาจึงหันไปพูดกับแสงรวี “ พี่แสงผมจะแต่งงานกับเจนเพื่อไว้หน้าพี่ แต่ขออย่าให้เจนเอาเด็กออกเลยนะ “ “ เป็นบ้าเหรอ เจนจะไม่มีวันแต่งงานกับคุณหรอก “ พลอยเจนสะบัดมือออกแล้วเดินหนีไปยังอีกห้อง โดยมีคนเป็นแม่วิ่งตามไป เมื่อเจตหันกลับมามองแสงรวี เขาก็โดนหมัดพี่ชายต่อยเข้าเต็มหน้า “ ทำไมแกถึงทำแบบนี้ ไหนแกบอกกับฉันว่าแกทำใจคิดกับเจนแค่หลานสาวได้แล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะวะ ลูกฉันไม่ได้เป็นตัวแทนของใครนะเว้ย “ แสงรวีต่อว่าจิรกิตติ์ทั้งน้ำตา “ ผมขอโทษ ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ ผมทนไม่ได้ถ้าจะให้เจนไปใกล้ชิดกับคนอื่น พี่แสงเข้าใจผมเถอะ “ แสงรวีง้างมือเตรียมจะตบเจตอีกครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็หยุดเอาไว้ เมื่อคิดเห็นเรื่องราวเมื่อ 30 ปีก่อนหน้านี้ที่ลูกสาวของเขาจะเกิดมา “ ช่างมันเถอะ ยังไงก็เกิดขึ้นไปแล้ว “ แสงรวีก้มหน้างุด ผ่อนคลายอารมณ์โกรธของตัวเองลง แล้วคิดไปว่าเขาคงห้ามโชคชะตาฟ้าลิขิตไม่ได้แล้ว “ เจน เจนลูก “ จ๊ะจ๋าเดินตามลูกสาวมาที่ห้องนั่งเล่น คนที่ยืนหันหลังให้อยู่จึงรีบพูดกับมารดา “ ถ้าแม่จะมาพูดให้เจนยอมแต่งงานกับเขา แม่อย่านะคะ “ “ ทำไมล่ะ อาเจตเขาก็เป็นพ่อของลูกในท้องเจนไม่ใช่เหรอ “ จ๊ะจ๋านั้นรู้จักเจตดี เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยขอให้เขาคิดกับลูกสาวเธอแค่หลาน แต่เธอก็รู้ว่าคงห้ามโชคชะตาไม่ได้ “ เป็นพ่อของลูกในท้องเจนแล้วยังไงคะ อาเจตเขา 45 แล้ว แถมยังดุด่าว่าเจนเหมือนเจนเป็นเด็กน้อย เจนไม่ชอบ “ ถึงหญิงสาวจะบอกกับแม่ไปเช่นนั้น แต่ข้างในของเธอมันก็มีมากกว่านั้น “ ถึงอาเจตของลูกจะ 45 แต่เขาก็ดูแลตัวเองดี หน้าตารูปร่างก็ยังเหมือนคนสามสิบกว่าเอง ยังไม่แก่สักหน่อยนะลูก แล้วที่อาเขาดุด่าว่าลูก ก็เพราะว่าเขาเป็นห่วงลูกไงเจน “ จ๊ะจ๋าพยายามเกลี้ยกล่อมลูกให้ยอมรับ แต่คนที่เคยเสียความรู้สึกไปแล้วมันก็มองเขาเหมือนเดิมไม่ได้ “ ห่วง หรือ เกลียดกันแน่ “ “ ทำไมเจนถึงได้คิดแบบนั้นล่ะลูก “ “ ก็ที่ผ่านมาเขาคอยมาบ่นคอยมาว่าเจน แต่วันสำคัญของเจนเขากลับไปเคยโผล่หน้ามา เหมือนกับวันเกิดไง เจนไม่เคยเห็นอาเจตโผล่หน้ามาสักปี “ หญิงสาวหันมาระบายให้คนเป็นแม่ฟัง แต่ก่อนเธอสนิทสนมกับจิรกิตติ์มาก อาเจตของเธอนั้นเคยเป็นคนที่เธอเชื่อใจ และชอบเล่าปัญหาต่างๆ ให้ฟังเขาเคยเป็นเหมือนตัวแทนของพ่อเธอ แต่เมื่อเธออายุได้ 14-15 จิรกิตติ์ก็เริ่มตีตัวออกห่าง เหมือนกับว่าเธอไปทำอะไรผิดมา “ แม่ก็เคยบอกเจนแล้วไงลูกว่าที่อาเจตไม่ได้มาวันเกิดลูก เพราะว่าอาเขามีเหตุผล “ “ แม่ เจนโตแล้วนะไม่ใช่เด็กแล้วที่จะเชื่อ ถ้าแม่บอกว่าเขามีเหตุผล งั้นแม่ก็บอกเหตุผลของเขามาให้เจนรู้ได้มั้ยล่ะ “ คนเป็นแม่หน้าซีดไป “ ไว้เจน ไปถามอาเจตเอาเองเถอะลูก ““ ถ้าแม่บอกว่าเขามีเหตุผล งั้นแม่ก็บอกเหตุผลของเขามาให้เจนรู้ได้มั้ยล่ะ “ พูดจบเจระวีก็กอดอกหันหน้าหนีไปทางอื่น “ ไว้เจน ไปถามอาเจตเอาเองเถอะลูก “ จ๊ะจ๋าก้มหน้าคอตก ไม่รู้จะพูดยังไงให้ลูกสาวเข้าใจ ก่อนจะมีมือใหญ่ยื่นมาสะกิดบนบ่าเธอ จ๊ะจ๋าหันไปจ้องก็เห็นว่าเป็นจิรกิตติ์ “ ขอผมคุยกับเจนเองนะครับ “ คนฟังพยักหน้าแล้วเดินออกไปปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง “ ทำไมเจนถึงไม่อยากจะแต่งงานกับอา “ คนที่ยืนหันหลังให้อยู่สะดุ้งแล้วรีบหันมามองต้นเสียง “ ถามแปลก คนไม่ได้รักใครจะอยากแต่งด้วยล่ะ หรือคุณอาอยากเหรอคะ “ เธอถามเขากลับอย่างประชดประชัน เมื่อเขาตอบกลับเท่านั้นเล่นเอาเธออึ้ง “ อยากสิ “ เธอกำลังจะเคลิ้มแต่เขากลับเฉลยเหตุผลเสียก่อน หญิงสาวถึงกับเบี่ยงหน้าหนี “ เพราะอาอยากให้ลูกของอาได้ลืมตาดูโลก “ คนพูดจ้องหน้าหญิงสาวอย่างจับพิรุธ แต่เมื่อเห็นเธอเอาแต่เงียบ เขาจึงถามเธอขึ้น “ เจน คิดจะทำร้ายลูกจริงๆ เหรอ นั่นลูกของเจนเลยนะ “ คนสองใจที่กำลังลังเลเรื่องจะเก็บเด็กไว้ หรือ เอาออกก็เริ่มคิดได้ “ แต่เจนไม่อยากแต่งงาน แล้วพ่อก็ต้องไม่ยอมแน่ถ้าจะให้เจนท้องโตโดยไม่จัดงานแต่ง “ ถึงอย่างนั
“ เจนยอมแต่งครับ “ “ ห๊ะ! แล้วไปพูดท่าไหนเนี้ย ปกติเห็นเจนตั้งท่าจะเกลียดแกยิ่งกว่าอะไรดี “ แสงรวีที่ตกใจรีบหลุดปากถาม เจตจึงมีเพียงส่งยิ้มอ่อนให้ “ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละครับพี่แสง ไว้เย็นนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่ ผมต้องไปบริษัท “ “ ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอ “ จ๊ะจ๋าชักชวน คนฟังก็รีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรผมทานมาแล้ว ไปนะครับ “ ลาทั้งคู่เสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้สองผัวเมียที่ยังอยู่หันมาจ้องหน้าแล้วคุยกันถึงเรื่องของทั้งสอง “ คุณคิดว่าเจนคือพราวมาเกิดใหม่จริงมั้ยคะ “ คนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหลือบมองเมียของเขา ตอนได้ยินในสิ่งที่เธอถาม “ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ “ แต่ฉันเริ่มจะเชื่อขึ้นมาแล้วนะคะ พราวอาจจะกลับมาหาเจตจริงๆ ก็ได้ “ แสงรวีถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเมียน้ำเสียงเด็ดขาด “ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ลูกของเราคือเจน ไม่ใช่พราว แล้วก็หวังว่าเจตจะเห็นเจนเป็นพลอยเจนเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ “ จ๊ะจ๋าได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ “ อือ จริงด้วยค่ะ ลูกของเราไม่ใช่ตัวแทนของใครสักหน่อย “ เจระวีคาเฟ่ พลอยเจนที่กำลังช่วยพนักงานจัดโต๊ะอยู่ รีบหยิบมือถือท
“ เจนไปไหนแล้วล่ะ “ จิรกิตติ์ทำการเก็บจานชามในห้องเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นหลานสาวตัวแสบแล้ว เขาจึงหันไปถามกับน้องพนักงาน “ มุกเห็นพี่เจนขับรถออกไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน พอดีมุกไม่ได้ถามไว้ “ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็พยักหน้าเข้าใจ เจนไปทำอะไรที่ไหนอีกนะ เขาเริ่มจะกังวลแล้วสิ อพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเจระวีคาเฟ่เท่าไหร่นักในห้อง 305 มีร่างของพลอยเจนนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ต่อสายหาแฟนสาวที่กำลังจะได้กลายเป็นแค่พี่น้อง [“ ฮัลโหล พี่เจนในที่สุดพี่ก็โทรมา คิตตี้คิดว่าพี่เทคิตตี้ไปแล้ว “] ปลายสายตอบกลับเธอมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตื่นเต้น “ มาหาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องของเรา “ พูดจบเธอก็ตัดสาย เธอไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อแล้ว ในเมื่อคนรักไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะจบ เพราะเรื่องที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คงไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวได้เคลียร์ใจแล้วไปต่อได้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาน้อยๆ ที่หยดลงมาบนใบหน้า บ้านรุณรวี “ คุณเจตมาหรือยังตูน “ จ๊ะจ๋าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวถามกับแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกไปจัดโต๊ะอาหารที่ห้องกิ
“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม “ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้า
‘ อาเจตคะ? ‘ เด็กหญิงวัยสิบขวบนามว่าพลอยเจนวิ่งเข้ามาในบ้านของคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งวิ่งและตามหาเขาไปทั่ว ‘ มีอะไรเจน แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ ‘ จิรกิตติ์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน แล้วลงมานั่งย่อตัวคุยกับหลานสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม ‘ ต่อยกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนมาค่ะ ‘ ‘ ห๊ะ! ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะเจน ‘ ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ดื้อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ‘ ถ้าพวกมันอยู่เฉยๆ เจนก็ไม่สนใจหรอก แต่พวกมันมาล้อหน้าม้าเจนนี่น่า ‘ คนตัวน้อยจับและแหงนมองดูผมหน้าม้าที่แสนจะภูมิใจของตัวเอง ‘ แม่อุตส่าห์ตัดให้เลยนะ แถมพวกมันยังล้อว่าเจนเป็นม้าดีดกะโหลกอีก ‘ คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เขาผิดเองใช่มั้ยที่สอนมวยให้หลาน ‘ แล้วพวกผู้ชายที่เจนไปต่อยกับเขานะกี่คน ‘ ‘ ปากแตกสองคนค่ะ อีกคนตาเขียว ครูเลยอยากให้เรียกผู้ปกครองไปพบพรุ่งนี้ ‘ เด็กหญิงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ ‘ แล้วก็จะให้อาไปแทนให้อีกล่ะสิ ‘ ‘ ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ หรือว่าอาเจตจะไม่ไปให้เจนเหรอ พ่อก็ไม่อยู่แม่ก็ทำงานหนัก ถ้าอาเจตไม่ไปใครจะไปให้คะ เจนไม่มีใครแล้วนี่ ‘ เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไ
หลังจากนั้นไม่นานจิรกิตติ์ก็พาหญิงสาวกลับมาที่บ้าน รถหรูจอดเทียบที่หน้าบ้านของพลอยเจน “ ลงไหม “ เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งจึงได้หันไปถาม หญิงสาวก็ไม่ได้หันมาเอาแต่มองเข้าไปในบ้าน “ คุณคิดว่าพ่อกับแม่จะนอนกันหรือยังคะ “ เจตฟังเช่นนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงกลัวโดนพ่อแม่ซักไซ้ “ ดึกขนาดนี้แล้ว ก็คงจะหลับกันหมดแล้วละ นี่เจนกลัวพ่อกับแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ “ “ ก็ไม่ แต่คนแก่บ่นฟังแล้วมันหดหู่ใจต่างหากละ เจนเกลียดคนแก่ที่ชอบบ่นยาวๆ ที่สุด “ ประโยคหลังเธอหันมาจ้องเขา ทำเอาคนข้างกายสะดุ้งเล็กน้อย “ งั้นให้อาเดินเข้าไปส่งมั้ย “ เขาเสนอ แต่เธอกลับส่ายหน้า “ ไม่จำเป็น “ หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขาลงจากรถแต่กลับเหลือบไปเห็นว่าแม่นั่งอยู่ในห้องนอนของเธอผ่านหน้าต่าง เธอเลยรีบดึงขากลับขึ้นรถมาแล้วปิดประตูเอาไว้ดังเดิม “ อ้าว มีอะไรหรือเปล่า? “ “ ไปบ้านคุณอากันเลยเถอะ ถ้าแม่เห็นเจนหัวแตกคงได้บ่นยาวยันพรุ่งนี้เช้าแน่ “ เธอหันมาทำหน้ายุ่งใส่เขา จิรกิตติ์ก็เผยยิ้มกว้าง สิบกว่าปีได้แล้วมั้งที่เธอไม่ได้ไปที่บ้านของเขา “ เจนจะไปนอนบ้านอาเหรอ “ “ ทำไมคะ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได
“ อาบน้ำนานจัง “ เมื่อเดินกลับออกมาก็เห็นจิรกิตติ์นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง เขาจ้องร่างกายเธอที่กำลังใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วก็นึกขำ “ ขำอะไร!! “ “ ก็ขำเจนไง อาไม่คิดว่าเจนจะกลัวพ่อแม่บ่นขนาดนั้น “ หญิงสาวถอนหายใจแรง “ ก็การโดนบ่นมันมีผลดีอะไรเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากให้เจนอยู่ที่นี้ งั้นเจนกลับก็ได้ ป่านนี้แม่ก็คงจะนอนแล้ว “ พลอยเจนกำลังจะเดินออกจากห้อง จิรกิตติ์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกแล้วมากอดเอวของเธอไว้ “ ปล่อย! คุณอาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้น่ะ “ เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออก หน้าคมก็โน้มมากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ อากอดลูกของอาในท้องเจน อาผิดอะไร “ คนฟังหัวร้อนควันออกหู เขาจะลวนลามเธอแล้วเอาลูกมาอ้างแบบนี้ได้ไง “ ลูกคุณยังเป็นก้อนเลือดอยู่เลย อย่ามาหาเรื่องตู่จะฉวยโอกาสเจนนะ “ เธอหยิกมือเขาจนเขายอมคลายออก พลอยเจนจึงหันไปจ้องหน้าคนข้างหลัง “ อายอมรับก็ได้ว่าอาอยากจะฉวยโอกาสเจน อาอยากอยู่ใกล้ๆ เจน “ เขาก็ยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องที่เขาทำเธอเสียใจ “ เหรอ แต่ที่ผ่านมากลับตีตัวออกห่างเจนตลอด นั่นเหรอเรียกว่าอยากใกล้ชิด “ “ ก็เ
รุ่งเช้าที่แสนสดใส จ๊ะจ๋าเดินลงมาจากชั้นสองก็เจอเข้ากับลูกสาวที่นั่งจิบนมอยู่ตรงโซฟา “ อ้าวเจน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “ ด้วยเพราะจำไม่ได้ จึงได้ถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นบางอย่างแปะอยู่บนหัวของลูก “ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา ทำไมถึงปิดพลาสเตอร์ไว้ “ พลอยเจนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมหันไปมองคนที่พูดด้วย เพราะในใจเธอนั้นคิดแต่เรื่องอื่นอยู่ นี่ถ้าแม่เห็นผ้าก๊อซเมื่อวานคงเป็นเรื่องแน่ ดีที่แผลน้อยๆ นั้นมันแห้งเร็วเธอจึงเอาพลาสเตอร์ปิดให้มันดูเป็นเรื่องเล็กลงมาหน่อย “ ล้มนิดเดียวเองค่ะ “ เธอตอบ “ ล้ม! ไปทำท่าไหนให้ล้ม แล้วนี้เป็นอะไรมากไหมหืม “ จ๊ะจ๋าเดินมานั่งข้างลูกแล้วสำรวจดูตามเนื้อตัว “ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแม่ “ ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็ใช่ว่าสีหน้าของแม่จะดูเครียดน้อยลง “ เหรอ แต่ครั้งหน้าแม่ไม่ยอมให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้วนะ โดยเฉพาะกลับดึกดื่นแบบนี้นะ เจนท้องอยู่นะลูก ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “ พลอยเจนมองหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้าลง “ แม่เป็นห่วงหลานเหรอ “ “ ก็ใช่น่ะสิ นี่หลานคนแรกของแม่เลยน้า “ เมื่อฟังแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มตาแดง “
“ เจนขอถามอะไรคุณได้มั้ย “ เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นที่ตัวเองคาใจอยู่ หญิงสาวจึงเอ่ยถาม คนฟังที่พอจะรู้ว่าเธอจะถามเขาเรื่องอะไร จึงทำได้แค่อมยิ้มรอฟัง “ ทำไมที่ผ่านมาคุณถึงไม่เคยอยู่กับเจนในวันเกิดเลย “ ดวงตาคู่สวยจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของจิรกิตติ์ ซึ่งเขาก็อมยิ้มให้คำถามของเธอเบาๆ พลันเงียบนิ่งไปนานมากเหมือนกำลังคิดไตร่ตรองอะไรบางอย่างอยู่ แต่เมื่อสังเกตว่าแววตาของคนรอฟังเริ่มแดง เขาจึงตัดสินใจที่จะพูดออกมา “ เมื่อ 30 ปีก่อนนะ ตอนที่เจนยังไม่ทันได้เกิด ตอนนั้นอาเองก็อายุ 15 อามีแฟนคนแรก แล้วนั่นก็คือรักแรกของอา “ ‘ เจต! ลุกสิ พราวอยากไปหาพี่จ๊ะจ๋าที่โรงพยาบาล ‘ พราวฟ้าหญิงสาวที่อยู่บ้านตรงข้ามของจิรกิตติ์ในซอยเล็กๆ ของตัวเมือง เดินเข้ามาหาเจตที่นอนหลับอยู่กลางบ้าน ‘ มีอะไรพราว ‘ ชายหนุ่มก็งัวเงยลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าแฟนสาว ‘ พาไปโรงพยาบาลหน่อย พราวอยากจะเห็นหน้าหลานตั้งแต่วินาทีแรกที่คลอด พาไปหน่อยสิ ‘ พราวฟ้าจับแขนของจิรกิตติ์พร้อมกับเขย่าไปมาด้วยท่าทีออดอ้อน ‘ โอ้ยพราว พี่จ๊ะจ๋าเขาไปรอคลอดเฉยๆ ยังไม่ได้จะคลอดวันนี้สักหน่อย ‘ ‘ แต่พราวมีรางสังหรณ์ว่าหลานจะคลอดวันนี้ นี่เ
“ อาเจต “ เมื่อจิรกิตติ์เดินกลับมาที่บ้านของเขาก็ได้ยินเสียงใสเรียกหาดังมาจากชั้นสอง เขาจึงรีบเดินขึ้นไปดู “ เจน ทำไมถึงตื่นแล้วล่ะ “ เขาเดินมาหาเธอที่กำลังมีน้ำตานองอยู่บนใบหน้า “ เจนฝันร้าย ฝันไม่ดีเลย “ พลอยเจนส่ายหน้าไปมา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม จิรกิตติ์เห็นแบบนั้นจึงรีบยกมือขึ้นจับที่แก้มของเธอเพื่อปลอบใจ “ ไม่เอาไม่ร้องสิ มันก็แค่ความฝันนี่น่า มันไม่ใช่ความจริงสักหน่อย แล้วยังอยากจะนอนต่ออีกไหม อาจะได้นอนเฝ้าเจนจะได้ไม่ฝันร้ายอีก “ หญิงสาวรีบส่ายหน้า “ ไม่อยากนอนแล้ว เจนหิวข้าว… “ “ อืม งั้นทานข้าวผัดทะเลไหม เมื่อวานอาไปตลาดซื้อพวกกุ้งหอยปูปลาที่เจนชอบมาไว้ในตู้เย็นเต็มเลย “ เมื่อได้ฟังเช่นนั้นหน้าสวยก็เผยยิ้ม รีบยกมือปาดน้ำตาให้ตัวเอง “ เมื่อกี้คุณไปไหนมาคะ “ หญิงสาวที่มีอาหารอยู่เต็มปาก เอ่ยถามกับคนที่กำลังนั่งคั้นน้ำส้มให้เธออยู่ “ ไปคุยธุระกับแม่ของเจนมานะ “ พูดจบคนพูดก็ก้มหน้าหงุดคำนึงคิดไปถึงอะไรบ้างอย่าง ‘ อาเจตขา ทำไมเมื่อวานอาไม่มางานวันเกิดของเจน รู้หรือเปล่าว่าเจนรอคุณอาคนเดียว ‘ เด็กหญิงวัย 6 ขวบ เดินหน้าบูดบึ้งเข้ามาหาจิรกิตติ์ที่เพิ่งจะโ
“ ค่ะ แต่ตอนนี้เจนง่วงๆ อยากขึ้นไปนอนพักแล้ว “ “ ได้ครับ เดี๋ยวอาจะพาไปส่งที่เตียง “ จิรกิตติ์ลุกยืนแล้วใช้สองแขนซ้อนร่างของเมียขึ้นอย่างบึกบึน “ เจนว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นมาเยอะเลยนะคะ นี่คุณอุ้มไหวได้ยังไง “ “ ก็ไม่เท่าไหร่นี้ อายังอุ้มเจนได้สบายอยู่ ก็แสดงว่ามันไม่ได้หนักอะไร “ ทั้งสองยิ้มให้กัน พลอยเจนซบลงตรงอกของเขาพร้อมกับค่อยๆ เผลอหลับ จิรกิตติ์ก็เดินอย่างระวัง พาร่างหญิงสาวมาส่งที่ห้องนอน เขาวางเธอลงบนเตียงทันใดนั้นมือเล็กของคนที่กึ่งหลับกึ่งตื่นก็เอื้อมมาจับที่แขนเขา “ ถ้าเจนตื่นมาคุณช่วยสระผมให้หน่อยได้มั้ย “ เสียงหวานฟังแล้วเพราะหูเหลือล้น ทำเอาดวงใจของผู้บ่าวเฒ่าอ่อนระทวย “ ได้จ้ะ แต่ตอนนี้รีบนอนพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวอาก็ว่าจะไปอาบน้ำแล้ว “ จิรกิตติ์บอกกับเธอพร้อมกับไม่ลืมก้มลงมาจุ๊บแก้มล่ำลา จนคนบนเตียงต้องรีบยกมือขึ้นปิดแก้ม “ พอแล้ว มาจูบมาหอมทุกวี่ทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอ แก้มเจนไม่เหลือที่ให้ช้ำแล้วเนี่ย “ “ ไม่เบื่อหรอก แล้วก็จะทำแบบนี้ไปทุกวันด้วย แต่ถ้าแจมมี่ออกมาจากตรงนั้นเมื่อไหร่ อาก็จะทำมากกว่านี้อีก “ “ ทะลึ่ง!! ตาแก่บ้ากาม รีบไสห
ร่างกายกำยำสูงใหญ่กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในฟิตเนสสาขาประจำของเขา “ เฮ้อ~ เจต มึงทนได้ยังไงวะ“ คัดสรรซึ่งยืนหอบอยู่ข้างๆ หันมาถามกับคนข้างเขา “ ทำไม กูก็บอกมึงแล้วว่ามึงควรออกกำลังกายให้มันบ่อยๆ สุขภาพมันจะได้ไม่ร่วงโรยไปตามอายุ “ “ โอ้ย คนหนุ่มไอ้คนไม่แก่เลย ว่าแต่มึงจะฟิตไปถึงไหนกันครับ เมียก็มีแล้ว นี่อีกสองเดือนลูกก็จะคลอดอีก “ คัดสรรบ่นให้เพื่อน จิรกิตติ์จึงปิดลู่วิ่งแล้วหันมาคุยกับเพื่อน “ ก็เพราะเมียกูใกล้คลอดเนี่ยแหละ กูถึงต้องฟิตจะได้มีแรงอุ้มเมียไปส่งโรงพยาบาล “ เขาพูดพลันยกแขนตัวเองขึ้นมาเบ่งกล้ามดู เมื่อเห็นว่ามันยังแน่นและแข็งแรงดีเขาก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ “ ยิ่งช่วงนี้เจนท้องโตขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นอีก 6-7 โล กูอยากมั่นใจว่าถ้าเจนปวดท้องคลอดแล้วกูจะสามารถอุ้มเธอได้ โดยไม่ล้มหัวทิ่มไปซะก่อน “ “ มึงพูดอย่างกับว่าโลกนี้ไม่มีรถเข็นงั้นแหละ “ เพื่อนที่หมั่นไส้ก็แขวะกลับ “ อ้าว รถเข็นมันก็มีแค่ที่โรงพยาบาลปะ แต่ก่อนจะพาออกจากบ้านไปโรงพยาบาลได้ก็ต้องอุ้มอยู่ดี “ “ ครับๆ พ่อคุณพ่อคนคลั่งรัก จริงๆ เชียว กูละอยากมีแบบมึงจัง เลี้ยงต้อยเนี่ย “ โป๊ก!! ฝ่ามือใหญ่ข
“ เคยมีสิแฟนนะ แต่แค่ไม่ใช่ผู้ชาย “เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็ถึงกับตาโต “ ห๊ะ! เจนคบกับผู้หญิงมาตลอดงั้นเหรอ “ พลอยเจนพยักหน้ากลั้นขำให้กับสีหน้าของคนตรงหน้า “ ค่ะ 4-5 คนนี่แหละ “ “ แล้วไปถึงขั้นไหนบ้าง “ หญิงสาวจ้องตาคนถามพร้อมทั้งยังเผลอเม้มริมฝีปากเบาๆ “ หมายถึงอะไรเหรอคะ “ เธอจึงตีมึนถามเขากลับ ทำเอาจิรกิตติ์หน้าซีดยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองรู้สึกอยากจะร้องไห้ “ เมียผมเป็นผัวคนอื่นใช่มั้ยเนี่ย “ “ อาเจต! “ พลอยเจนได้ยินในสิ่งที่เขาบ่น เธอจึงลุกแล้วมานั่งตรงข้างๆ เขาแทน “ เจนชอบผู้หญิงเหรอ “ เขาหันหน้ามาถามเธอ “ ก็ได้หมดนั่นแหละค่ะ ทำไม หึงเหรอคะ “ เธออมยิ้มจ้องไปที่หน้าบูดบึ้งของเขา แต่เมื่อเห็นเขาไม่ตอบเธอจึงพูดต่อ “ ก็คุณเองไม่ใช่เหรอ คอยตามหึงตามหวงเจนจากพวกผู้ชาย เจนก็เลยคบผู้หญิงตัดปัญหาไปเลยไง “ “ นี่เจนจะบอกว่าอาผิดงั้นเหรอ “ เจระวียักไหล่ให้กับคำพูดของเขา จนคนที่มองอยู่เริ่มหมั่นไส้ จิรกิตติ์ลุกยืนแล้วเอื้อมมือข้างหนึ่งไปจับดันตรงท้ายทอยของเมีย จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามากดจูบดูดกลืนเอาความหวานที่เขาเฝ้ารอคอยมาเนิ่นนาน พร้อมอยากจะทำให้เธอได้รู้ว่า พลอยเจนนั
แก๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออกหญิงสาวรีบหันไปจ้องก็เจอเข้ากับคนที่เธอกำลังนึกถึง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับติดกระดุมเสื้อ เหมือนกับว่าอาบน้ำเสร็จก็พุ่งตรงมาทางนี้เลย “ ทำไมอาบน้ำเสร็จเร็วจังล่ะคะ “ เธอจึงรีบถามกับเขาคนที่กำลังเดินมานั่งกับเธอบนเตียง “ ก็กลัวคนแถวนี้หลับก่อนนี่น่า “ มือเล็กจับที่ผมของคนข้างกาย ซึ่งยังไม่ผ่านการเช็ดให้แห้ง “ ผมก็ยังไม่เช็ดให้แห้งเลย เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก แก่ซะเปล่านะคุณเนี่ย “ เธอบ่นเขามือก็เอื้อมไปดึงลิ้นชักข้างเตียงเอาผ้าแห้งออกมาแล้วหันมาเช็ดผมให้กับเขา “ เจน รู้หรือเปล่าว่าตั้งแต่เกิดมาอายังไม่เคยให้ผู้หญิงจับหัวเลยนะ “ คนทำหยุดชะงักเมื่อได้ยิน แล้วจ้องตาของเขา “ แต่เจนคือคนแรกที่อาจะยอมให้จับ “ เขาจับมือข้างหนึ่งของเธอพร้อมกับรอยยิ้ม พลอยเจนเห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกหน้าร้อนรีบดึงมือออกจากเขาพร้อมกับยื่นผ้าในมือส่งให้คนตรงหน้า “ ทำเองเลยไป ไม่ทำให้แล้ว “ “ อ้าว “ “ ขยับไปตรงนู้นเลยนะ เจนจะนอนแล้ว “ มือเล็กดันตัวเขาให้ถอยไป “ อ่า นี่ไม่ได้งอนให้กันใช่มั้ย “ “ เจนจะนอน “ เขาโดนเธอดันอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องยอมถอยให้ เมื่อจิรกิตติ์เช็ดผมเสร
“ เฒ่าหัวงู “ “ อ้าว “ คนฟังถึงกับสะดุ้งยกมือเกาหลังหูตัวเองเพื่อแก้เขิน “ แต่อาพูดความจริงนะเจน เห็นไหมว่าพออาได้เจนแล้ว ผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับอาอีก อาแค่ต้องการแค่เจนจริงๆ นะ “ จิรกิตติ์ยื่นหน้าจะไปหอมแก้มเมีย แต่หญิงสาวกลับเบี่ยงหน้าหนีเขา “ ทำไม หรือว่าตอนนี้เจนไม่ได้คิดกับอาแบบนั้นแล้วเหรอ “ คนถูกถามก็ยังไม่ตอบนอกจากนั่งเงียบ “ หรือว่ายังคิดว่าอาจะไปหาคนอื่นอยู่อีก “ มือใหญ่เอื้อมไปดึงเอากล่องเครื่องเพชรที่เหน็บไว้ข้างหลังออกมาแล้วเปิดมันให้เธอดู “ อะไร “ พลอยเจนก็จ้องมองมันอย่างสงสัย “ วันนี้อาไปนั่งออกแบบเจ้านี้มา แล้วก็ไปคุมคนงานให้พวกเขาทำให้เสร็จภายในวันนี้ “ พลอยเจนมองดูของในกล่องที่จิรกิตติ์ถืออยู่ มันคือสร้อยคอกับสร้อยข้อมือสองชุด เหมือนจะทำมาเป็นคู่นะ มีอันเล็กแล้วก็อันใหญ่ “ ให้อาใส่ให้นะ “ “ ไม่! “ หญิงสาวปฏิเสธแล้วใช้มือดันเจ้ากล่องนั้นให้ขยับห่างออกไป “ ทำไมไม่ชอบเหรอ “ คนที่หน้าเสียรีบถามกลับ ตอนเขาออกแบบเขาก็มั่นใจแล้วนะว่าพลอยเจนจะต้องชอบแบบนี้ “ ถ้ามันเป็นของคู่กันกับลูก ก็รอให้ลูกออกมาก่อน แล้วค่อยใส่มันพร้อมกันกับลูกดีกว
‘ คิดว่าอาจะแต่งงานกับใครก็ได้โดยที่อาไม่รู้สึกอะไรด้วยเลยหรือไง ‘ หญิงสาวนั่งคิดถึงคำพูดของจิรกิตติ์อยู่บนเตียง พร้อมกับพลิกตัวไปมาเนื่องจากว่าเธอนอนไม่หลับ “ แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่กลับบ้านมาอีก ไม่คิดเป็นห่วงเมียบ้างเลยหรือไง “ พลอยเจนดีดตัวลุกนั่ง เธอเดินลงจากเตียงออกมายืนที่นอกห้อง “ เฮ้อ กว่าจะเสร็จ นึกว่ามันจะเร็วกว่านี้ซะอีก “ เจ้าของร่างใหญ่บ่นพึมพำ เข้ามาในบ้านพร้อมกับกล่องสีแดงในมือ เขาเงยหน้าเหลือบมองคนที่เดินไปเดินมาอยู่บนชั้นสองใบหน้าเปื้อนยิ้มจึงปรากฏขึ้น เจตรีบจับกล่องเล็กใบนั้นเอาไปเหน็บซ่อนไว้ด้านหลัง จากนั้นจึงเดินขึ้นไปหาเมียที่ชั้นบน “ เจนยังไม่นอนอีกเหรอ “ คนถูกเรียกหันมาจ้องหน้าเขา พลันคิ้วเธอก็ขมวดเข้าหากัน “ คุณนั่นแหละเป็นอะไรถึงได้กลับมาเอาป่านนี้ ไปไหนไปทำอะไรกับใครมา “ จิรกิตติ์อมยิ้มจ้องคนตรงหน้าที่ยิงคำถามมาใส่เขารัวๆ ใบหน้าของเธอตอนที่คิ้วชนกันแบบนี้มันก็น่ารักไปอีกแบบนะ “ โอ๋ๆ ไม่ทำหน้าแบบนี้สิ อาก็อยู่บริษัทไง จะให้อาไปไหนได้ล่ะ “ “ จะรู้เหรอ บางทีคุณอาจจะไปกับผู้หญิงพวกนั้นอีกก็ได้ “ ตาแดงๆ ของเธอจ้องมองไปที่ตาของเขา จนทำจิรกิตติ์เร
“ เปิดใจอะไร! “ คนที่รู้สึกหน้ามันร้อนรีบสวนถามเพื่อนหนุ่มกลับทันตา ความจริงเธอก็พอจะรู้แล้วว่าจิรกิตติ์นั้นคิดเช่นไรกับเธอ แต่เธอแค่ยังคงลังเลที่จะเชื่อเขา “ ก็กูเห็นอาเจตเขาดูเป็นห่วงมึงมากนี่ วันก่อนเห็นโทรมาถามกูว่า การสะดุดแต่ไม่ล้มกับการเดินเยอะ จะเสี่ยงแท้งมั้ย ฟังจากน้ำเสียงเหมือนเขาจะซีเรียสมากด้วยนะ “ “ เขาก็คงจะเป็นห่วงลูกเขาน่ะสิ “ “ ไม่หรอก เพราะยังมีคำถามเกี่ยวกับมึงที่เขาถามกูอีกนะ “ พลอยเจนจ้องไปที่คนพูดด้วยความอยากรู้ “ อะไร “ “ เขาถามกับกูว่าการคลอดมันเจ็บมากไหม เขาถามว่าควรให้มึงคลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอดดี เวลาคลอดจะมีความเสี่ยงอะไรหรือเปล่า แล้วตอนที่มึงปวดท้องจะคลอดเขาต้องทำยังไง ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน ต้อง—” “ พอๆ “ เมื่อฟังดูแล้วเหมือนจะไม่จบง่ายๆ หญิงสาวจึงรีบปรามเพื่อนให้เขาหยุดพูด “ นี่ยังไม่หมดนะเนี้ย “ “ เอ้อ มึงกลับไปหาเมียมึงได้แล้ว กูรู้แล้วว่ามันเยอะ เดี๋ยวกูกลับไปคิดดูเอาเอง “ คนพูดมีแววตาแห่งความดีใจปรากฏขึ้นมาให้พอได้มองเห็น “ อืม งั้นกูกลับก่อนก็แล้วกัน “ ไนยะเผยยิ้มแล้วเดินออกไปสวนทางกับชัยโยที่กำลังเดินมา “ พี่เจนครับ