“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม
“ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้าว ไปอีกคนซะแล้ว “ โรงพยาบาลทูว์เอ็นวาย สองร่างชายหญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้รอรับหน้าโรงพยาบาล “ มึงไม่ต้องมานั่งจ้องหน้ากูแบบนี้ก็ได้ไอ้ไน “ พลอยเจนที่รู้สึกรำคาญเพราะโดนเพื่อนหมอเอาแต่นั่งจ้องมาสักพักแล้ว “ ฟาดเคราะห์นะมึงเนี่ย ดีนะที่มีแค่หัวแตกนิดหน่อย แล้วลูกในท้องก็ไม่ได้เป็นอะไรไป “ คุณหมอไนยะได้ทีก็บ่นเพื่อนใหญ่ เขาถอนหายใจแรง แล้วถามคำถามที่อยากได้คำยืนยันจากคนข้างๆ “ กูถามมึงจริงๆ นะ จริงจังด้วย พ่อของลูกมึงใช่คนที่มึงโทรตามให้มารับใช่มั้ย “ คนฟังไม่หันมามองเขาเลย แต่ไนยะก็ไม่ท้อนั่งจ้องจนพลอยเจนต้องรีบพยักหน้าให้เบาๆ พร้อมบ่นไล่เพื่อน “ มึงไม่มีงานมีการทำเหรอไน ถ้าไม่มีก็รีบกลับไปหาเมียที่บ้านนู้น เดี๋ยวน้องก็งอนให้อีกหรอก “ “ อ้าว มึงอย่าแซ่งกันดิ กูอุตส่าห์เป็นห่วงมานั่งอยู่เป็นเพื่อนน่ะ “ ทั้งสองจ้องตาดุใส่กัน เป็นเพื่อนกันมาก็หลายปี แต่ทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้าจนเป็นเรื่องปกติ “ เจน! เป็นยังไงบ้าง เจ็บมากมั้ย “ เสียงของใครอีกคนที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาทำให้ทั้งคู่รีบหันไปมอง ไนยะที่เห็นว่าเป็นใครจึงลุกไหว้เขา “ สวัสดีครับอาเจต ผมว่าจะกลับบ้านไปหาเมียอยู่พอดีเลย ถ้างั้นฝากไอ้เจนมันด้วยนะครับ “ “ อ้าว “ เจนได้แต่จ้องไปที่เพื่อนด้วยความเคือง คิดจะไปก็ไปง่ายจังเลยนะ ส่วนชายอีกคนก็ยื่นมือมาจับสองบ่าเธอแล้วหันตัวเธอซ้ายขวา “ โอ้ย ไม่ต้องสำรวจกันถึงขนาดนี้ก็ได้ “ “ ก็อาเป็นห่วงนี่ “ เขาจ้องหน้าเธอพลางมือก็ยังจับที่สองบ่า “ ไม่ต้องห่วงลูกคุณน่ะปลอดภัยดี “ เธอพูดเหมือนประชดเขา เพราะคิดว่าที่เขาห่วงก็คงหนีไม่พ้นลูกของเขาในท้องของเธอนั้นแหละ “ ก็ดีถ้าลูกไม่เป็นอะไร แต่อาก็อยากรู้ว่าเจนไม่เจ็บตรงไหนอีกใช่มั้ย “ “ โอ้ย! “ พลอยเจนร้องโอดโอยอย่างไม่ชอบใจ เธอรีบลุกยืนแล้วมองค้อนไปที่เขา ทำไมเวลาอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้แล้วทำเธอหัวเสียได้ตลอดเวลาเลย “ ไอ้ไนตรวจเช็คดูให้หมดแล้ว ไม่ได้มีตรงไหนหัก มีแค่หัวนี้แหละที่แตก “ นิ้วเล็กชี้ขึ้นมาบนหัวของตัวเอง เพื่อจะย้ำให้คนตรงหน้าดู “ แล้วนี่ไปทำอีท่าไหนถึงให้รถชน ทำไมขับรถไม่ระวังเลย ถ้าเจนกับลูกเป็นอะไรขึ้นมาอากับพ่อแม่เจนจะรู้สึกยังไงเคยคิดบ้างมั้ย “ เธอมองตาแก่ขี้บ่นตรงหน้า ใบหน้าของเธอบูดบึ้งลงพร้อมกับท้องที่ร้องเพราะหิวข้าว จนเธอเองก็เผลอร้องไห้ออกมาอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน “ ฮือ ก็ใครมันจะไปรู้ว่าอยู่ดีๆ รถมันจะสวนเลนมาล่ะ เจนก็ตั้งสติรีบหักหลบไปทางอื่นแล้วไงเล่า แต่มันก็ยังไปชนกับหลักกิโลอ่ะ เจนผิดนักเหรอ ฮื้อ “ คนฟังถึงกับรู้สึกผิด นี้เขาดุเธอแรงไปเหรอ หรือมันแค่อาการแปรปรวนของคนท้องกัน? “ อาขอโทษ ที่อาพูดไปแบบนั้นเพราะอาเป็นห่วงนี่ เจนไม่เป็นอะไรไปก็ดีมากแล้ว “ “ แต่คนที่ผิดคือคนที่ขับสวนเลนมานะ” “ ครับๆ “ เขารีบรับคำตามใจเธอทันที เพราะไม่อยากให้แม่ของลูกที่กำลังอารมณ์สวิงต้องร้องไห้หนักกว่านี้ ระหว่างที่กำลังลูบหัวปลอบใจคนตรงหน้าอยู่ เสียงท้องของหญิงสาวมันก็ดังขึ้นมาอีก ครั้งนี้มันดังจนทำเขาได้ยิน “ ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่มั้ยเนี่ย “ “ ถ้ากินแล้วท้องมันจะร้องเหรอ ลูกคุณคงจะหิวมากแล้วน่ะสิ รีบพาไปหาอะไรอร่อยๆ กินเลยนะ “ พลอยเจนรีบบอกเขาเสียงดุพลันยืนเท้าเอวมอง “ โอเคๆ งั้นไป เดินไหวหรือเปล่า “ มือใหญ่เตรียมคล้องเอวคลอดหวังช่วยพยุงแต่หญิงสาวก็ปัดมือเขาออก พร้อมเถียงคำไม่ตกฟาก “ แค่หัวแตกน่ะ ขาไม่ได้หัก “‘ อาเจตคะ? ‘ เด็กหญิงวัยสิบขวบนามว่าพลอยเจนวิ่งเข้ามาในบ้านของคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งวิ่งและตามหาเขาไปทั่ว ‘ มีอะไรเจน แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ ‘ จิรกิตติ์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน แล้วลงมานั่งย่อตัวคุยกับหลานสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม ‘ ต่อยกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนมาค่ะ ‘ ‘ ห๊ะ! ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะเจน ‘ ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ดื้อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ‘ ถ้าพวกมันอยู่เฉยๆ เจนก็ไม่สนใจหรอก แต่พวกมันมาล้อหน้าม้าเจนนี่น่า ‘ คนตัวน้อยจับและแหงนมองดูผมหน้าม้าที่แสนจะภูมิใจของตัวเอง ‘ แม่อุตส่าห์ตัดให้เลยนะ แถมพวกมันยังล้อว่าเจนเป็นม้าดีดกะโหลกอีก ‘ คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เขาผิดเองใช่มั้ยที่สอนมวยให้หลาน ‘ แล้วพวกผู้ชายที่เจนไปต่อยกับเขานะกี่คน ‘ ‘ ปากแตกสองคนค่ะ อีกคนตาเขียว ครูเลยอยากให้เรียกผู้ปกครองไปพบพรุ่งนี้ ‘ เด็กหญิงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ ‘ แล้วก็จะให้อาไปแทนให้อีกล่ะสิ ‘ ‘ ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ หรือว่าอาเจตจะไม่ไปให้เจนเหรอ พ่อก็ไม่อยู่แม่ก็ทำงานหนัก ถ้าอาเจตไม่ไปใครจะไปให้คะ เจนไม่มีใครแล้วนี่ ‘ เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไ
หลังจากนั้นไม่นานจิรกิตติ์ก็พาหญิงสาวกลับมาที่บ้าน รถหรูจอดเทียบที่หน้าบ้านของพลอยเจน “ ลงไหม “ เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งจึงได้หันไปถาม หญิงสาวก็ไม่ได้หันมาเอาแต่มองเข้าไปในบ้าน “ คุณคิดว่าพ่อกับแม่จะนอนกันหรือยังคะ “ เจตฟังเช่นนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงกลัวโดนพ่อแม่ซักไซ้ “ ดึกขนาดนี้แล้ว ก็คงจะหลับกันหมดแล้วละ นี่เจนกลัวพ่อกับแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ “ “ ก็ไม่ แต่คนแก่บ่นฟังแล้วมันหดหู่ใจต่างหากละ เจนเกลียดคนแก่ที่ชอบบ่นยาวๆ ที่สุด “ ประโยคหลังเธอหันมาจ้องเขา ทำเอาคนข้างกายสะดุ้งเล็กน้อย “ งั้นให้อาเดินเข้าไปส่งมั้ย “ เขาเสนอ แต่เธอกลับส่ายหน้า “ ไม่จำเป็น “ หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขาลงจากรถแต่กลับเหลือบไปเห็นว่าแม่นั่งอยู่ในห้องนอนของเธอผ่านหน้าต่าง เธอเลยรีบดึงขากลับขึ้นรถมาแล้วปิดประตูเอาไว้ดังเดิม “ อ้าว มีอะไรหรือเปล่า? “ “ ไปบ้านคุณอากันเลยเถอะ ถ้าแม่เห็นเจนหัวแตกคงได้บ่นยาวยันพรุ่งนี้เช้าแน่ “ เธอหันมาทำหน้ายุ่งใส่เขา จิรกิตติ์ก็เผยยิ้มกว้าง สิบกว่าปีได้แล้วมั้งที่เธอไม่ได้ไปที่บ้านของเขา “ เจนจะไปนอนบ้านอาเหรอ “ “ ทำไมคะ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได
“ อาบน้ำนานจัง “ เมื่อเดินกลับออกมาก็เห็นจิรกิตติ์นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง เขาจ้องร่างกายเธอที่กำลังใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วก็นึกขำ “ ขำอะไร!! “ “ ก็ขำเจนไง อาไม่คิดว่าเจนจะกลัวพ่อแม่บ่นขนาดนั้น “ หญิงสาวถอนหายใจแรง “ ก็การโดนบ่นมันมีผลดีอะไรเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากให้เจนอยู่ที่นี้ งั้นเจนกลับก็ได้ ป่านนี้แม่ก็คงจะนอนแล้ว “ พลอยเจนกำลังจะเดินออกจากห้อง จิรกิตติ์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกแล้วมากอดเอวของเธอไว้ “ ปล่อย! คุณอาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้น่ะ “ เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออก หน้าคมก็โน้มมากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ อากอดลูกของอาในท้องเจน อาผิดอะไร “ คนฟังหัวร้อนควันออกหู เขาจะลวนลามเธอแล้วเอาลูกมาอ้างแบบนี้ได้ไง “ ลูกคุณยังเป็นก้อนเลือดอยู่เลย อย่ามาหาเรื่องตู่จะฉวยโอกาสเจนนะ “ เธอหยิกมือเขาจนเขายอมคลายออก พลอยเจนจึงหันไปจ้องหน้าคนข้างหลัง “ อายอมรับก็ได้ว่าอาอยากจะฉวยโอกาสเจน อาอยากอยู่ใกล้ๆ เจน “ เขาก็ยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องที่เขาทำเธอเสียใจ “ เหรอ แต่ที่ผ่านมากลับตีตัวออกห่างเจนตลอด นั่นเหรอเรียกว่าอยากใกล้ชิด “ “ ก็เ
รุ่งเช้าที่แสนสดใส จ๊ะจ๋าเดินลงมาจากชั้นสองก็เจอเข้ากับลูกสาวที่นั่งจิบนมอยู่ตรงโซฟา “ อ้าวเจน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “ ด้วยเพราะจำไม่ได้ จึงได้ถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นบางอย่างแปะอยู่บนหัวของลูก “ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา ทำไมถึงปิดพลาสเตอร์ไว้ “ พลอยเจนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมหันไปมองคนที่พูดด้วย เพราะในใจเธอนั้นคิดแต่เรื่องอื่นอยู่ นี่ถ้าแม่เห็นผ้าก๊อซเมื่อวานคงเป็นเรื่องแน่ ดีที่แผลน้อยๆ นั้นมันแห้งเร็วเธอจึงเอาพลาสเตอร์ปิดให้มันดูเป็นเรื่องเล็กลงมาหน่อย “ ล้มนิดเดียวเองค่ะ “ เธอตอบ “ ล้ม! ไปทำท่าไหนให้ล้ม แล้วนี้เป็นอะไรมากไหมหืม “ จ๊ะจ๋าเดินมานั่งข้างลูกแล้วสำรวจดูตามเนื้อตัว “ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแม่ “ ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็ใช่ว่าสีหน้าของแม่จะดูเครียดน้อยลง “ เหรอ แต่ครั้งหน้าแม่ไม่ยอมให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้วนะ โดยเฉพาะกลับดึกดื่นแบบนี้นะ เจนท้องอยู่นะลูก ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “ พลอยเจนมองหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้าลง “ แม่เป็นห่วงหลานเหรอ “ “ ก็ใช่น่ะสิ นี่หลานคนแรกของแม่เลยน้า “ เมื่อฟังแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มตาแดง “
“ จอดตรงนี้แหละค่ะพี่ “ พลอยเจนหยิบเงินให้กับคนขับรถ แล้วจึงก้าวขาลงมาที่อู่ซ่อมรถ มาดูรถของเธอที่ดูจะเละเทะเพราะชนหลักกิโลเมื่อคืน “ อีกนานมั้ยคะ ถึงจะซ่อมเสร็จ “ เธอเดินเข้าไปถามกับช่าง “ อย่างต่ำก็น่าจะอาทิตย์หนึ่งละครับคุณ “ “ ห้ะ ตั้งเป็นสัปดาห์เลยเหรอ “ หญิงสาวคิ้วขมวด สีหน้าเป็นกังวล “ ใช่ครับ เพราะอะไหล่รถคุณที่อู่ไม่มี ผมเพิ่งสั่งซื้อไปเมื่อเช้า กว่าจะถึงก็อีก 2-3 วัน “ คนฟังพยักหน้า เตรียมหันหลังจะเดินกลับแต่ขาเธอดันซวยเหยียบโดนน้ำมันเครื่อง ตัวลอยจะล้ม “ ว้าย!! “ “ เป็นอะไรไหมครับ “ โชคดีที่นายช่างคนนั้นมือไว รีบเข้ามารับเธอไว้ได้ทัน เมื่อทรงตัวเองได้ เธอจึงรีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยจับ นี่ถ้าล้มไปไม่รู้จะเป็นอะไรไปบ้าง “ ชายคนนั้นก็ยิ้มหวานมาให้เธอ “ ครับ ยังไงก็เดินระวังหน่อยนะครับ “ หญิงสาวยิ้มตอบแล้วค่อยๆ ก้าวเดินออกมายังหน้าอู่ระหว่างนั้นมือเล็กก็ลูบท้องตัวเองอย่างใจหาย ปี๊นๆ เสียงแตรรถดังสนั่นอยู่บริเวณใกล้ เมื่อเธอหันไปมองก็จำได้ว่าเป็นรถใคร รถหรูคันดังกล่าวเคลื่อนมาจอดต่อหน้าเธอ ไม่นานแว่นรถก็เปิดลง “ มาทำอะไรที่นี้ “ เจ้าข
“ ทำไมต้องทำแบบนี้ “ ปากอิ่มพร่ำถาม “ อาหวงเจน หวง–” นิ้วเรียวยกขึ้นมาแตะปากเขาเอาไว้ “ อย่ามาพูดเลย ทีตัวเองยังมีสาวในสต็อกเป็นสิบ จะมาพูดว่าหวงคนอื่นใครเขาจะเชื่อ “ มือเล็กผละออกจากปากเขา “ อย่าห่วงเลย ยังไงเจนก็จะคลอดลูกให้คุณก่อน แล้วถึงจะไปกับคนอื่น “ เธอพูดกับเขาอย่างประชดประชัน ส่วนคนฟังนั้นก็ถึงกับหน้าซีดพูดไม่ออก “ ถ้าจะไปส่งก็รีบออกรถได้แล้ว “ คนขับที่กำลังเสียใจอยู่ถอนหายใจเหนื่อยๆ พลอยเจนคงจะไม่มีใจให้เขาเลยสินะ เจระวีคาเฟ่ “ สวัสดีค่ะพี่เจน “ “ อือ ทำไมวันนี้มุกมาเช้าจัง “เจนทักทายพนักงาน ที่กำลังจัดร้านอยู่ มุกดาเห็นคนพี่มาคุยด้วยจึงหยุดคุย “ พอดีเมื่อคืนมุกนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเช้าไม่มีอะไรให้ทำเลยมาเร็วนะคะ “ พลอยเจนก็จ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงหน่อยๆ “ ไม่สบายหรือเปล่าถึงได้นอนไม่หลับ อย่าหักโหมละ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ “ “ ค่ะพี่เจน “ “ อือ แต่มุกทำแบบนี้ก็ดีแล้ว วันไหนมาก่อนก็มาเปิดร้านรอพี่ เพราะช่วงนี้พี่คงต้องมาช้ากลับเร็วบ่อยขึ้น “ “ ค่ะ สำหรับมุกไม่มีปัญหาอะไรหรอก ในฐานะที่พี่เจนไว้ใจถึงกับให้กุญแจร้านกับมุก มุกก็จะขยันทำงานไม่ทำให้
ผับเคทีแคท “ อ้าว นั่นเจนหรือเปล่า เจน! เจนทางนี้! “ เจระวี หรือ พลอยเจน หญิงสาวสูงราว 165 ร่างกายอวบอิ่มไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป เจ้าของผิวขาวผ่อง นัยน์ตาเฉี่ยว สวมชุดสีแดงรัดรูปก้าวขาเข้ามาในผับยังไม่ทันได้เห็นบุคคลที่เป็นเป้าหมายของตัวเธอด้วยซ้ำ แต่กลับได้ยินเสียงของชายหนุ่มออกสาวเรียกชื่อของเธอเสียงดัง ซึ่งดังกว่าเสียงเพลงเสียอีก พลอยเจนจึงรีบหันไปจ้องมอง “ เป็ด! เอ้ย ดักกี้เหรอ? “ เมื่อหันซ้ายมองขวาไปเจอต้นเสียง เธอก็ร้องชื่อของเขาคนนั้นออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เห็นแบบนั้นหญิงสาวจึงรีบก้าวขาเดินไปหา “ กลับมาจากนิวซีแลนด์ตั้งแต่เมื่อไหร่ มึงเปลี่ยนไปเยอะเลยนะเนี่ย “ เจนเดินมาทักแล้วนั่งลงข้างเพื่อน “ ถึงจะเปลี่ยนไปเยอะแต่มึงก็ยังจำกูได้นี่ แต่ไม่คิดเลยน่ะว่าจะได้มาเจอที่นี้ ทั้งที่ไม่ได้เจอกันเกือบจะ 8 ปีแล้ว เป็นยังไงบ้าง “ คำถามสุดท้ายดักกี้ถามออกมาอย่างตื่นเต้น จนพลอยเจนพอจะรู้ว่าคนตรงหน้านั้นหมายถึงใคร “ ที่ถามนี้ ถามกูเหรอ “ “ ไม่! 3 หนุ่มฮอตเดอะแก๊งมึงต่างหากละ แต่งงานมีหวานใจกันหมดหรือยัง “ พลอยเจนเบี่ยงหน้าหนีพร้อมส่ายไปมาเบาๆ
“ เอากับผู้ชายมันสนุกมากเลยเหรอวะ! “ “ ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ! “ ดักกี้แทบจะขยี้หูฟังใหม่ “ ก็กูไม่เคยนี่ ตั้งแต่เกิดมากูก็คบแต่กับผู้หญิง ไม่เคยคบผู้ชาย กูก็เลยอยากรู้ว่าการเอากับผู้ชายมันเป็นยังไง ทำไมผู้หญิงทุกคน..อย่างน้อยก็มีหนึ่งในคนที่กูคบอยู่ ถึงตัดใจจากของ..ของพวกผู้ชายไม่ได้ “ คนพูดรู้สึกเคืองมาก เพราะที่ผ่านมาเธอเคยคบผู้หญิงมา 4-5 คน แต่ทุกคนก็จะเข้ามาบอกกับเธอเสมอว่า ขาดผู้ชายไม่ได้ จนเธออยากจะรู้แล้ว ว่าไอ้นั่นของพวกผู้ชายมันมีดีอะไร! คิดแล้วมือสวยก็เอื้อมไปแย่งแก้วในมือเพื่อนขึ้นมากรอกปาก “ อ้าว แก้วกูอีเจน!” ดักกี้รีบร้องห้ามแล้วเอาแก้วใหม่มาแทนให้ “ วันนี้กูจะเมาให้สุด แล้วไปลองดู “ พลอยเจนตาเหลือกกว้างแหงนคอขึ้นไปมองห้องพักของเจ้าของผับอย่างเจ็บปวด “ มึงเอาจริงดิ! “ ดักกี้ก็ถามย้ำด้วยความเป็นห่วง “ ก็แน่น่ะสิ! “ พลอยเจนรีบตอบเสียงดัง มือของเธอวางแก้วลงโต๊ะเสียแรงจนก้อนน้ำแข็งกระเด็นออกมาจากแก้ว “ สวัสดีครับน้องสาว ทำไมดื่มหนักจัง ขอพี่ชนแก้วด้วยได้มั้ย “ หลังจากที่ดื่มไปได้สักพักพลอยเจนก็เริ่มเมา ซึ่งได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเธอ หญิงสาวจึงทักทายเขากลั
“ ทำไมต้องทำแบบนี้ “ ปากอิ่มพร่ำถาม “ อาหวงเจน หวง–” นิ้วเรียวยกขึ้นมาแตะปากเขาเอาไว้ “ อย่ามาพูดเลย ทีตัวเองยังมีสาวในสต็อกเป็นสิบ จะมาพูดว่าหวงคนอื่นใครเขาจะเชื่อ “ มือเล็กผละออกจากปากเขา “ อย่าห่วงเลย ยังไงเจนก็จะคลอดลูกให้คุณก่อน แล้วถึงจะไปกับคนอื่น “ เธอพูดกับเขาอย่างประชดประชัน ส่วนคนฟังนั้นก็ถึงกับหน้าซีดพูดไม่ออก “ ถ้าจะไปส่งก็รีบออกรถได้แล้ว “ คนขับที่กำลังเสียใจอยู่ถอนหายใจเหนื่อยๆ พลอยเจนคงจะไม่มีใจให้เขาเลยสินะ เจระวีคาเฟ่ “ สวัสดีค่ะพี่เจน “ “ อือ ทำไมวันนี้มุกมาเช้าจัง “เจนทักทายพนักงาน ที่กำลังจัดร้านอยู่ มุกดาเห็นคนพี่มาคุยด้วยจึงหยุดคุย “ พอดีเมื่อคืนมุกนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเช้าไม่มีอะไรให้ทำเลยมาเร็วนะคะ “ พลอยเจนก็จ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงหน่อยๆ “ ไม่สบายหรือเปล่าถึงได้นอนไม่หลับ อย่าหักโหมละ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ “ “ ค่ะพี่เจน “ “ อือ แต่มุกทำแบบนี้ก็ดีแล้ว วันไหนมาก่อนก็มาเปิดร้านรอพี่ เพราะช่วงนี้พี่คงต้องมาช้ากลับเร็วบ่อยขึ้น “ “ ค่ะ สำหรับมุกไม่มีปัญหาอะไรหรอก ในฐานะที่พี่เจนไว้ใจถึงกับให้กุญแจร้านกับมุก มุกก็จะขยันทำงานไม่ทำให้
“ จอดตรงนี้แหละค่ะพี่ “ พลอยเจนหยิบเงินให้กับคนขับรถ แล้วจึงก้าวขาลงมาที่อู่ซ่อมรถ มาดูรถของเธอที่ดูจะเละเทะเพราะชนหลักกิโลเมื่อคืน “ อีกนานมั้ยคะ ถึงจะซ่อมเสร็จ “ เธอเดินเข้าไปถามกับช่าง “ อย่างต่ำก็น่าจะอาทิตย์หนึ่งละครับคุณ “ “ ห้ะ ตั้งเป็นสัปดาห์เลยเหรอ “ หญิงสาวคิ้วขมวด สีหน้าเป็นกังวล “ ใช่ครับ เพราะอะไหล่รถคุณที่อู่ไม่มี ผมเพิ่งสั่งซื้อไปเมื่อเช้า กว่าจะถึงก็อีก 2-3 วัน “ คนฟังพยักหน้า เตรียมหันหลังจะเดินกลับแต่ขาเธอดันซวยเหยียบโดนน้ำมันเครื่อง ตัวลอยจะล้ม “ ว้าย!! “ “ เป็นอะไรไหมครับ “ โชคดีที่นายช่างคนนั้นมือไว รีบเข้ามารับเธอไว้ได้ทัน เมื่อทรงตัวเองได้ เธอจึงรีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยจับ นี่ถ้าล้มไปไม่รู้จะเป็นอะไรไปบ้าง “ ชายคนนั้นก็ยิ้มหวานมาให้เธอ “ ครับ ยังไงก็เดินระวังหน่อยนะครับ “ หญิงสาวยิ้มตอบแล้วค่อยๆ ก้าวเดินออกมายังหน้าอู่ระหว่างนั้นมือเล็กก็ลูบท้องตัวเองอย่างใจหาย ปี๊นๆ เสียงแตรรถดังสนั่นอยู่บริเวณใกล้ เมื่อเธอหันไปมองก็จำได้ว่าเป็นรถใคร รถหรูคันดังกล่าวเคลื่อนมาจอดต่อหน้าเธอ ไม่นานแว่นรถก็เปิดลง “ มาทำอะไรที่นี้ “ เจ้าข
รุ่งเช้าที่แสนสดใส จ๊ะจ๋าเดินลงมาจากชั้นสองก็เจอเข้ากับลูกสาวที่นั่งจิบนมอยู่ตรงโซฟา “ อ้าวเจน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “ ด้วยเพราะจำไม่ได้ จึงได้ถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นบางอย่างแปะอยู่บนหัวของลูก “ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา ทำไมถึงปิดพลาสเตอร์ไว้ “ พลอยเจนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมหันไปมองคนที่พูดด้วย เพราะในใจเธอนั้นคิดแต่เรื่องอื่นอยู่ นี่ถ้าแม่เห็นผ้าก๊อซเมื่อวานคงเป็นเรื่องแน่ ดีที่แผลน้อยๆ นั้นมันแห้งเร็วเธอจึงเอาพลาสเตอร์ปิดให้มันดูเป็นเรื่องเล็กลงมาหน่อย “ ล้มนิดเดียวเองค่ะ “ เธอตอบ “ ล้ม! ไปทำท่าไหนให้ล้ม แล้วนี้เป็นอะไรมากไหมหืม “ จ๊ะจ๋าเดินมานั่งข้างลูกแล้วสำรวจดูตามเนื้อตัว “ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแม่ “ ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็ใช่ว่าสีหน้าของแม่จะดูเครียดน้อยลง “ เหรอ แต่ครั้งหน้าแม่ไม่ยอมให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้วนะ โดยเฉพาะกลับดึกดื่นแบบนี้นะ เจนท้องอยู่นะลูก ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “ พลอยเจนมองหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้าลง “ แม่เป็นห่วงหลานเหรอ “ “ ก็ใช่น่ะสิ นี่หลานคนแรกของแม่เลยน้า “ เมื่อฟังแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มตาแดง “
“ อาบน้ำนานจัง “ เมื่อเดินกลับออกมาก็เห็นจิรกิตติ์นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง เขาจ้องร่างกายเธอที่กำลังใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วก็นึกขำ “ ขำอะไร!! “ “ ก็ขำเจนไง อาไม่คิดว่าเจนจะกลัวพ่อแม่บ่นขนาดนั้น “ หญิงสาวถอนหายใจแรง “ ก็การโดนบ่นมันมีผลดีอะไรเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากให้เจนอยู่ที่นี้ งั้นเจนกลับก็ได้ ป่านนี้แม่ก็คงจะนอนแล้ว “ พลอยเจนกำลังจะเดินออกจากห้อง จิรกิตติ์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกแล้วมากอดเอวของเธอไว้ “ ปล่อย! คุณอาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้น่ะ “ เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออก หน้าคมก็โน้มมากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ อากอดลูกของอาในท้องเจน อาผิดอะไร “ คนฟังหัวร้อนควันออกหู เขาจะลวนลามเธอแล้วเอาลูกมาอ้างแบบนี้ได้ไง “ ลูกคุณยังเป็นก้อนเลือดอยู่เลย อย่ามาหาเรื่องตู่จะฉวยโอกาสเจนนะ “ เธอหยิกมือเขาจนเขายอมคลายออก พลอยเจนจึงหันไปจ้องหน้าคนข้างหลัง “ อายอมรับก็ได้ว่าอาอยากจะฉวยโอกาสเจน อาอยากอยู่ใกล้ๆ เจน “ เขาก็ยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องที่เขาทำเธอเสียใจ “ เหรอ แต่ที่ผ่านมากลับตีตัวออกห่างเจนตลอด นั่นเหรอเรียกว่าอยากใกล้ชิด “ “ ก็เ
หลังจากนั้นไม่นานจิรกิตติ์ก็พาหญิงสาวกลับมาที่บ้าน รถหรูจอดเทียบที่หน้าบ้านของพลอยเจน “ ลงไหม “ เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งจึงได้หันไปถาม หญิงสาวก็ไม่ได้หันมาเอาแต่มองเข้าไปในบ้าน “ คุณคิดว่าพ่อกับแม่จะนอนกันหรือยังคะ “ เจตฟังเช่นนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงกลัวโดนพ่อแม่ซักไซ้ “ ดึกขนาดนี้แล้ว ก็คงจะหลับกันหมดแล้วละ นี่เจนกลัวพ่อกับแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ “ “ ก็ไม่ แต่คนแก่บ่นฟังแล้วมันหดหู่ใจต่างหากละ เจนเกลียดคนแก่ที่ชอบบ่นยาวๆ ที่สุด “ ประโยคหลังเธอหันมาจ้องเขา ทำเอาคนข้างกายสะดุ้งเล็กน้อย “ งั้นให้อาเดินเข้าไปส่งมั้ย “ เขาเสนอ แต่เธอกลับส่ายหน้า “ ไม่จำเป็น “ หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขาลงจากรถแต่กลับเหลือบไปเห็นว่าแม่นั่งอยู่ในห้องนอนของเธอผ่านหน้าต่าง เธอเลยรีบดึงขากลับขึ้นรถมาแล้วปิดประตูเอาไว้ดังเดิม “ อ้าว มีอะไรหรือเปล่า? “ “ ไปบ้านคุณอากันเลยเถอะ ถ้าแม่เห็นเจนหัวแตกคงได้บ่นยาวยันพรุ่งนี้เช้าแน่ “ เธอหันมาทำหน้ายุ่งใส่เขา จิรกิตติ์ก็เผยยิ้มกว้าง สิบกว่าปีได้แล้วมั้งที่เธอไม่ได้ไปที่บ้านของเขา “ เจนจะไปนอนบ้านอาเหรอ “ “ ทำไมคะ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได
‘ อาเจตคะ? ‘ เด็กหญิงวัยสิบขวบนามว่าพลอยเจนวิ่งเข้ามาในบ้านของคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งวิ่งและตามหาเขาไปทั่ว ‘ มีอะไรเจน แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ ‘ จิรกิตติ์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน แล้วลงมานั่งย่อตัวคุยกับหลานสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม ‘ ต่อยกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนมาค่ะ ‘ ‘ ห๊ะ! ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะเจน ‘ ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ดื้อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ‘ ถ้าพวกมันอยู่เฉยๆ เจนก็ไม่สนใจหรอก แต่พวกมันมาล้อหน้าม้าเจนนี่น่า ‘ คนตัวน้อยจับและแหงนมองดูผมหน้าม้าที่แสนจะภูมิใจของตัวเอง ‘ แม่อุตส่าห์ตัดให้เลยนะ แถมพวกมันยังล้อว่าเจนเป็นม้าดีดกะโหลกอีก ‘ คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เขาผิดเองใช่มั้ยที่สอนมวยให้หลาน ‘ แล้วพวกผู้ชายที่เจนไปต่อยกับเขานะกี่คน ‘ ‘ ปากแตกสองคนค่ะ อีกคนตาเขียว ครูเลยอยากให้เรียกผู้ปกครองไปพบพรุ่งนี้ ‘ เด็กหญิงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ ‘ แล้วก็จะให้อาไปแทนให้อีกล่ะสิ ‘ ‘ ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ หรือว่าอาเจตจะไม่ไปให้เจนเหรอ พ่อก็ไม่อยู่แม่ก็ทำงานหนัก ถ้าอาเจตไม่ไปใครจะไปให้คะ เจนไม่มีใครแล้วนี่ ‘ เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไ
“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม “ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้า
“ เจนไปไหนแล้วล่ะ “ จิรกิตติ์ทำการเก็บจานชามในห้องเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นหลานสาวตัวแสบแล้ว เขาจึงหันไปถามกับน้องพนักงาน “ มุกเห็นพี่เจนขับรถออกไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน พอดีมุกไม่ได้ถามไว้ “ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็พยักหน้าเข้าใจ เจนไปทำอะไรที่ไหนอีกนะ เขาเริ่มจะกังวลแล้วสิ อพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเจระวีคาเฟ่เท่าไหร่นักในห้อง 305 มีร่างของพลอยเจนนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ต่อสายหาแฟนสาวที่กำลังจะได้กลายเป็นแค่พี่น้อง [“ ฮัลโหล พี่เจนในที่สุดพี่ก็โทรมา คิตตี้คิดว่าพี่เทคิตตี้ไปแล้ว “] ปลายสายตอบกลับเธอมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตื่นเต้น “ มาหาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องของเรา “ พูดจบเธอก็ตัดสาย เธอไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อแล้ว ในเมื่อคนรักไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะจบ เพราะเรื่องที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คงไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวได้เคลียร์ใจแล้วไปต่อได้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาน้อยๆ ที่หยดลงมาบนใบหน้า บ้านรุณรวี “ คุณเจตมาหรือยังตูน “ จ๊ะจ๋าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวถามกับแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกไปจัดโต๊ะอาหารที่ห้องกิ
“ เจนยอมแต่งครับ “ “ ห๊ะ! แล้วไปพูดท่าไหนเนี้ย ปกติเห็นเจนตั้งท่าจะเกลียดแกยิ่งกว่าอะไรดี “ แสงรวีที่ตกใจรีบหลุดปากถาม เจตจึงมีเพียงส่งยิ้มอ่อนให้ “ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละครับพี่แสง ไว้เย็นนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่ ผมต้องไปบริษัท “ “ ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอ “ จ๊ะจ๋าชักชวน คนฟังก็รีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรผมทานมาแล้ว ไปนะครับ “ ลาทั้งคู่เสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้สองผัวเมียที่ยังอยู่หันมาจ้องหน้าแล้วคุยกันถึงเรื่องของทั้งสอง “ คุณคิดว่าเจนคือพราวมาเกิดใหม่จริงมั้ยคะ “ คนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหลือบมองเมียของเขา ตอนได้ยินในสิ่งที่เธอถาม “ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ “ แต่ฉันเริ่มจะเชื่อขึ้นมาแล้วนะคะ พราวอาจจะกลับมาหาเจตจริงๆ ก็ได้ “ แสงรวีถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเมียน้ำเสียงเด็ดขาด “ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ลูกของเราคือเจน ไม่ใช่พราว แล้วก็หวังว่าเจตจะเห็นเจนเป็นพลอยเจนเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ “ จ๊ะจ๋าได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ “ อือ จริงด้วยค่ะ ลูกของเราไม่ใช่ตัวแทนของใครสักหน่อย “ เจระวีคาเฟ่ พลอยเจนที่กำลังช่วยพนักงานจัดโต๊ะอยู่ รีบหยิบมือถือท