“ เจนยอมแต่งครับ “
“ ห๊ะ! แล้วไปพูดท่าไหนเนี้ย ปกติเห็นเจนตั้งท่าจะเกลียดแกยิ่งกว่าอะไรดี “ แสงรวีที่ตกใจรีบหลุดปากถาม เจตจึงมีเพียงส่งยิ้มอ่อนให้ “ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละครับพี่แสง ไว้เย็นนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่ ผมต้องไปบริษัท “ “ ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอ “ จ๊ะจ๋าชักชวน คนฟังก็รีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรผมทานมาแล้ว ไปนะครับ “ ลาทั้งคู่เสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้สองผัวเมียที่ยังอยู่หันมาจ้องหน้าแล้วคุยกันถึงเรื่องของทั้งสอง “ คุณคิดว่าเจนคือพราวมาเกิดใหม่จริงมั้ยคะ “ คนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหลือบมองเมียของเขา ตอนได้ยินในสิ่งที่เธอถาม “ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ “ แต่ฉันเริ่มจะเชื่อขึ้นมาแล้วนะคะ พราวอาจจะกลับมาหาเจตจริงๆ ก็ได้ “ แสงรวีถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเมียน้ำเสียงเด็ดขาด “ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ลูกของเราคือเจน ไม่ใช่พราว แล้วก็หวังว่าเจตจะเห็นเจนเป็นพลอยเจนเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ “ จ๊ะจ๋าได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ “ อือ จริงด้วยค่ะ ลูกของเราไม่ใช่ตัวแทนของใครสักหน่อย “ เจระวีคาเฟ่ พลอยเจนที่กำลังช่วยพนักงานจัดโต๊ะอยู่ รีบหยิบมือถือที่กำลังสั่นในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนออกมาดู เมื่อเห็นว่ามันโชว์เป็นเบอร์ของจิรกิตติ์ เธอจึงเลือกไม่รับสาย แต่เขาก็โทรจิกยิ่งกว่าไก่จนเธอเริ่มรำคาญ “ ฮัลโหล! โทรมาทำไมไม่มีงานมีการทำเหรอ “ เธอรับสายพร้อมกับสวดเขายับ แต่ดูเหมือนว่าปลายสายกลับมีเสียงขันเบาๆ แว่วมาให้เธอได้ยิน “ ขำอะไรไม่ทราบ! “ [“ เปล่านี่ กินข้าวเที่ยงหรือยัง เดี๋ยวอาซื้อเข้าไปหา “] “ ไม่หิว!! ไม่ต้องมาด้วย ไม่อยากเห็นหน้า “ เธอตะคอกกลับเสียงดังจนน้องพนักงานต้องหันมาจ้อง [“ เจนไม่หิวไม่เป็นไร แต่ลูกอาต้องได้กินข้าว “] เขาพูดจบก็วางสาย พลอยเจนจ้องมือถือตาเหลือกโผน นี่เธอต้องยอมผู้ชายคนนี้เพราะลูกอย่างเดียวเลยใช่มั้ย “ ฮือ “ มือเล็กของคนที่โมโหกำลังจะขว้างมือถือใส่กำแพง แต่น้องพนักงานที่มองอยู่เห็นเข้าก่อนจึงรีบมาห้ามไว้ “ เฮ้ย พี่เจน อย่านะคะ “ มุกดาเดินเข้ามาแย่งมือถือของพลอยเจนไป “ ใจเย็นๆ ก่อนนะคะพี่เจน ช่วงนี้เป็นอะไรทำไมใจร้อนจัง “ เจนจ้องที่หน้ามุก แล้วจึงผ่อนอารมณ์ลง “ ไม่มีอะไรหรอก พี่ว่าพี่ไปนั่งพักก่อนดีกว่า พี่ฝากหน้าร้านด้วยนะ “ “ ค่ะ “ พลอยเจนเดินเข้ามาในห้องที่เธอกับเพื่อนๆ ชอบมานั่งดื่มเม้าท์มอยกัน ร่างเล็กนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวนิ่ม ก่อนเผลอหลับไป ไม่นานก็มีใครอีกคนเดินเข้ามา จิรกิตติ์วางถุงอาหารลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงบนโซฟาอีกตัวตรงข้ามเธอพลันจ้องมองคนที่กำลังหลับอยู่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ คุณ! “ ไม่นานเท่าไหร่คนที่ไม่ได้หลับสนิทก็ลืมตาขึ้นมามองเขา แล้วก็รีบลุกนั่งจนเกิดอาการหน้ามืด “ อ้าว ค่อยๆ ลุกสิ “ จิรกิตติ์รีบเปลี่ยนไปนั่งข้างหญิงสาว แล้วยื่นมือหายาดมในถุงที่เขาวางไว้ออกมาจ่อที่จมูกสวยของเธอ “ ดีขึ้นไหม ไปหาหมอไหมเดี๋ยวอาพาไป “ เขาจ้องใบหน้าที่ซีดเซียวของเธออย่างนึกเป็นห่วง “ โอ้ย ไม่ต้องเลย “ เธอแย่งยาดมจากมือเขาพร้อมกับปัดมือใหญ่ให้ออกห่าง “ ทำไมล่ะ ไปให้หมอตรวจดูเผื่อว่ามีอะไรผิดปกติ “ “ มันไม่มีอะไรผิดปกติหรอกน่า ก็แค่อาการคนแพ้ท้องปะ “ หญิงสาวมีท่าทีหงุดหงิดไม่ชอบใจขัดใจ ตาก็เริ่มแดงออก จนจิรกิตติ์ที่มองอยู่รู้สึกสงสารและเป็นห่วง เพราะเขาใช่มั้ยที่ทำให้เธอต้องลำบากแบบนี้ “ ทำหน้าแบบนั้นทำไมล่ะ ซื้อของกินมาแล้วทำไมไม่แกะใส่ถ้วยใส่ชาม หิวใจจะขาดอยู่แล้วรู้บ้างมั้ย “ เจตจ้องหน้างอแงของคนตรงหน้าจากที่เมื่อกี้รู้สึกสงสารก็นึกขันขึ้นมา ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้ “ ตอนโทรมายังบอกว่าไม่หิวอยู่เลย “ เขาพูดด้วยท่าทีกวนชวนโมโหใส่เธอ หญิงสาวก็จ้องหน้าเขาตาเหลือก “ จะให้กินมั้ย ถ้าไม่จะได้ออกไปหากินเองที่อื่น “ เธอกำลังจะลุกแต่เขาก็ดึงห้ามไว้ “ กิน ได้กินสิ เดี๋ยวอาเอาไปใส่ชามใส่จานให้นะ ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ “ เขาลุกจับร่างเธอให้นั่งลงที่เดิมจากนั้นก็เดินไปทำตามที่พูด “ ค่อยๆ กินสิเจนไม่มีใครแย่งกินหรอก ถ้ากินหมดนี่แล้วไม่อิ่มเดี๋ยวอาไปซื้อให้ใหม่ก็ได้ “ หญิงสาวที่กำลังตักข้าวใส่ปากเงยหน้าขึ้นมาจ้องคนพูด “ คนที่หิวไม่ใช่เจนสักหน่อย แต่เป็นลูกของคุณต่างหาก อย่ามาว่าเจนนะ เพราะลูกคุณนั่นแหละ ถึงทำให้เจนกินเยอะแบบนี้ “ เธอรีบหาเรื่องมาตู่เพราะไม่อยากให้เขาล้อ “ โอเคๆ ลูกอาอยากก็ได้ แต่อยากกินอะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวอาสั่งมาให้ “ คนฟังรีบส่ายหน้า แล้วจ้องที่หน้าเขา “ สิ่งที่เจนอยากได้ตอนนี้ คือให้คุณอากลับไปได้แล้วค่ะ ไปสิคะ “ “ ไม่! “ เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เล่นเอาพลอยเจนหัวร้อน “ ไม่มีงานมีการทำเหรอ ถึงได้มาเฝ้ากันอยู่แบบนี้ “ จิรกิตติ์ส่ายหน้า “ อาไม่ได้มาเฝ้าเจนสักหน่อย อามาเฝ้าลูกของอาต่างหาก “ คนฟังถอนหายใจแรงทันทีเธอตักข้าวคำสุดท้ายใส่ปากแล้วลุกขึ้น “ อ้าว อิ่มแล้วเหรอ? “ “ เอ้อ ใครซื้อมาก็เก็บด้วยแล้วกัน “ เธอเบ้ปากใส่เขาแล้วเดินออกไปหน้าร้าน จิรกิตติ์จึงทำได้เพียงส่ายหน้า เธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กไม่เคยเปลี่ยนเลย “ นิสัยเหมือนพราวทุกอย่าง แล้วจะไม่ให้เจตคิดว่าเจนคือพราวได้ยังไง “ เขาบ่นพึมพำหันออกไปจ้องมองเธอที่เดินช่วยพนักงานทำงานอยู่ด้านนอก “ เจตจะทำให้เจนรักเจต เหมือนกับที่พราวรักให้ได้ “ จิรกิตติ์ทำหน้าขรึมเพราะคิดหนักเรื่องนี้ ถึงคนอื่นจะไม่เชื่อแต่เขาเชื่อสุดใจว่ายังไงซะ พลอยเจนคือพราวฟ้ากลับชาติมาเกิด“ เจนไปไหนแล้วล่ะ “ จิรกิตติ์ทำการเก็บจานชามในห้องเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นหลานสาวตัวแสบแล้ว เขาจึงหันไปถามกับน้องพนักงาน “ มุกเห็นพี่เจนขับรถออกไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน พอดีมุกไม่ได้ถามไว้ “ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็พยักหน้าเข้าใจ เจนไปทำอะไรที่ไหนอีกนะ เขาเริ่มจะกังวลแล้วสิ อพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเจระวีคาเฟ่เท่าไหร่นักในห้อง 305 มีร่างของพลอยเจนนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ต่อสายหาแฟนสาวที่กำลังจะได้กลายเป็นแค่พี่น้อง [“ ฮัลโหล พี่เจนในที่สุดพี่ก็โทรมา คิตตี้คิดว่าพี่เทคิตตี้ไปแล้ว “] ปลายสายตอบกลับเธอมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตื่นเต้น “ มาหาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องของเรา “ พูดจบเธอก็ตัดสาย เธอไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อแล้ว ในเมื่อคนรักไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะจบ เพราะเรื่องที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คงไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวได้เคลียร์ใจแล้วไปต่อได้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาน้อยๆ ที่หยดลงมาบนใบหน้า บ้านรุณรวี “ คุณเจตมาหรือยังตูน “ จ๊ะจ๋าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวถามกับแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกไปจัดโต๊ะอาหารที่ห้องกิ
“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม “ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้า
‘ อาเจตคะ? ‘ เด็กหญิงวัยสิบขวบนามว่าพลอยเจนวิ่งเข้ามาในบ้านของคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งวิ่งและตามหาเขาไปทั่ว ‘ มีอะไรเจน แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ ‘ จิรกิตติ์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน แล้วลงมานั่งย่อตัวคุยกับหลานสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม ‘ ต่อยกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนมาค่ะ ‘ ‘ ห๊ะ! ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะเจน ‘ ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ดื้อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ‘ ถ้าพวกมันอยู่เฉยๆ เจนก็ไม่สนใจหรอก แต่พวกมันมาล้อหน้าม้าเจนนี่น่า ‘ คนตัวน้อยจับและแหงนมองดูผมหน้าม้าที่แสนจะภูมิใจของตัวเอง ‘ แม่อุตส่าห์ตัดให้เลยนะ แถมพวกมันยังล้อว่าเจนเป็นม้าดีดกะโหลกอีก ‘ คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เขาผิดเองใช่มั้ยที่สอนมวยให้หลาน ‘ แล้วพวกผู้ชายที่เจนไปต่อยกับเขานะกี่คน ‘ ‘ ปากแตกสองคนค่ะ อีกคนตาเขียว ครูเลยอยากให้เรียกผู้ปกครองไปพบพรุ่งนี้ ‘ เด็กหญิงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ ‘ แล้วก็จะให้อาไปแทนให้อีกล่ะสิ ‘ ‘ ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ หรือว่าอาเจตจะไม่ไปให้เจนเหรอ พ่อก็ไม่อยู่แม่ก็ทำงานหนัก ถ้าอาเจตไม่ไปใครจะไปให้คะ เจนไม่มีใครแล้วนี่ ‘ เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไ
หลังจากนั้นไม่นานจิรกิตติ์ก็พาหญิงสาวกลับมาที่บ้าน รถหรูจอดเทียบที่หน้าบ้านของพลอยเจน “ ลงไหม “ เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งจึงได้หันไปถาม หญิงสาวก็ไม่ได้หันมาเอาแต่มองเข้าไปในบ้าน “ คุณคิดว่าพ่อกับแม่จะนอนกันหรือยังคะ “ เจตฟังเช่นนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงกลัวโดนพ่อแม่ซักไซ้ “ ดึกขนาดนี้แล้ว ก็คงจะหลับกันหมดแล้วละ นี่เจนกลัวพ่อกับแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ “ “ ก็ไม่ แต่คนแก่บ่นฟังแล้วมันหดหู่ใจต่างหากละ เจนเกลียดคนแก่ที่ชอบบ่นยาวๆ ที่สุด “ ประโยคหลังเธอหันมาจ้องเขา ทำเอาคนข้างกายสะดุ้งเล็กน้อย “ งั้นให้อาเดินเข้าไปส่งมั้ย “ เขาเสนอ แต่เธอกลับส่ายหน้า “ ไม่จำเป็น “ หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขาลงจากรถแต่กลับเหลือบไปเห็นว่าแม่นั่งอยู่ในห้องนอนของเธอผ่านหน้าต่าง เธอเลยรีบดึงขากลับขึ้นรถมาแล้วปิดประตูเอาไว้ดังเดิม “ อ้าว มีอะไรหรือเปล่า? “ “ ไปบ้านคุณอากันเลยเถอะ ถ้าแม่เห็นเจนหัวแตกคงได้บ่นยาวยันพรุ่งนี้เช้าแน่ “ เธอหันมาทำหน้ายุ่งใส่เขา จิรกิตติ์ก็เผยยิ้มกว้าง สิบกว่าปีได้แล้วมั้งที่เธอไม่ได้ไปที่บ้านของเขา “ เจนจะไปนอนบ้านอาเหรอ “ “ ทำไมคะ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได
“ อาบน้ำนานจัง “ เมื่อเดินกลับออกมาก็เห็นจิรกิตติ์นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง เขาจ้องร่างกายเธอที่กำลังใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วก็นึกขำ “ ขำอะไร!! “ “ ก็ขำเจนไง อาไม่คิดว่าเจนจะกลัวพ่อแม่บ่นขนาดนั้น “ หญิงสาวถอนหายใจแรง “ ก็การโดนบ่นมันมีผลดีอะไรเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากให้เจนอยู่ที่นี้ งั้นเจนกลับก็ได้ ป่านนี้แม่ก็คงจะนอนแล้ว “ พลอยเจนกำลังจะเดินออกจากห้อง จิรกิตติ์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกแล้วมากอดเอวของเธอไว้ “ ปล่อย! คุณอาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้น่ะ “ เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออก หน้าคมก็โน้มมากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ อากอดลูกของอาในท้องเจน อาผิดอะไร “ คนฟังหัวร้อนควันออกหู เขาจะลวนลามเธอแล้วเอาลูกมาอ้างแบบนี้ได้ไง “ ลูกคุณยังเป็นก้อนเลือดอยู่เลย อย่ามาหาเรื่องตู่จะฉวยโอกาสเจนนะ “ เธอหยิกมือเขาจนเขายอมคลายออก พลอยเจนจึงหันไปจ้องหน้าคนข้างหลัง “ อายอมรับก็ได้ว่าอาอยากจะฉวยโอกาสเจน อาอยากอยู่ใกล้ๆ เจน “ เขาก็ยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องที่เขาทำเธอเสียใจ “ เหรอ แต่ที่ผ่านมากลับตีตัวออกห่างเจนตลอด นั่นเหรอเรียกว่าอยากใกล้ชิด “ “ ก็เ
รุ่งเช้าที่แสนสดใส จ๊ะจ๋าเดินลงมาจากชั้นสองก็เจอเข้ากับลูกสาวที่นั่งจิบนมอยู่ตรงโซฟา “ อ้าวเจน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “ ด้วยเพราะจำไม่ได้ จึงได้ถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นบางอย่างแปะอยู่บนหัวของลูก “ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา ทำไมถึงปิดพลาสเตอร์ไว้ “ พลอยเจนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมหันไปมองคนที่พูดด้วย เพราะในใจเธอนั้นคิดแต่เรื่องอื่นอยู่ นี่ถ้าแม่เห็นผ้าก๊อซเมื่อวานคงเป็นเรื่องแน่ ดีที่แผลน้อยๆ นั้นมันแห้งเร็วเธอจึงเอาพลาสเตอร์ปิดให้มันดูเป็นเรื่องเล็กลงมาหน่อย “ ล้มนิดเดียวเองค่ะ “ เธอตอบ “ ล้ม! ไปทำท่าไหนให้ล้ม แล้วนี้เป็นอะไรมากไหมหืม “ จ๊ะจ๋าเดินมานั่งข้างลูกแล้วสำรวจดูตามเนื้อตัว “ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแม่ “ ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็ใช่ว่าสีหน้าของแม่จะดูเครียดน้อยลง “ เหรอ แต่ครั้งหน้าแม่ไม่ยอมให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้วนะ โดยเฉพาะกลับดึกดื่นแบบนี้นะ เจนท้องอยู่นะลูก ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “ พลอยเจนมองหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้าลง “ แม่เป็นห่วงหลานเหรอ “ “ ก็ใช่น่ะสิ นี่หลานคนแรกของแม่เลยน้า “ เมื่อฟังแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มตาแดง “
“ จอดตรงนี้แหละค่ะพี่ “ พลอยเจนหยิบเงินให้กับคนขับรถ แล้วจึงก้าวขาลงมาที่อู่ซ่อมรถ มาดูรถของเธอที่ดูจะเละเทะเพราะชนหลักกิโลเมื่อคืน “ อีกนานมั้ยคะ ถึงจะซ่อมเสร็จ “ เธอเดินเข้าไปถามกับช่าง “ อย่างต่ำก็น่าจะอาทิตย์หนึ่งละครับคุณ “ “ ห้ะ ตั้งเป็นสัปดาห์เลยเหรอ “ หญิงสาวคิ้วขมวด สีหน้าเป็นกังวล “ ใช่ครับ เพราะอะไหล่รถคุณที่อู่ไม่มี ผมเพิ่งสั่งซื้อไปเมื่อเช้า กว่าจะถึงก็อีก 2-3 วัน “ คนฟังพยักหน้า เตรียมหันหลังจะเดินกลับแต่ขาเธอดันซวยเหยียบโดนน้ำมันเครื่อง ตัวลอยจะล้ม “ ว้าย!! “ “ เป็นอะไรไหมครับ “ โชคดีที่นายช่างคนนั้นมือไว รีบเข้ามารับเธอไว้ได้ทัน เมื่อทรงตัวเองได้ เธอจึงรีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยจับ นี่ถ้าล้มไปไม่รู้จะเป็นอะไรไปบ้าง “ ชายคนนั้นก็ยิ้มหวานมาให้เธอ “ ครับ ยังไงก็เดินระวังหน่อยนะครับ “ หญิงสาวยิ้มตอบแล้วค่อยๆ ก้าวเดินออกมายังหน้าอู่ระหว่างนั้นมือเล็กก็ลูบท้องตัวเองอย่างใจหาย ปี๊นๆ เสียงแตรรถดังสนั่นอยู่บริเวณใกล้ เมื่อเธอหันไปมองก็จำได้ว่าเป็นรถใคร รถหรูคันดังกล่าวเคลื่อนมาจอดต่อหน้าเธอ ไม่นานแว่นรถก็เปิดลง “ มาทำอะไรที่นี้ “ เจ้าข
“ ทำไมต้องทำแบบนี้ “ ปากอิ่มพร่ำถาม “ อาหวงเจน หวง–” นิ้วเรียวยกขึ้นมาแตะปากเขาเอาไว้ “ อย่ามาพูดเลย ทีตัวเองยังมีสาวในสต็อกเป็นสิบ จะมาพูดว่าหวงคนอื่นใครเขาจะเชื่อ “ มือเล็กผละออกจากปากเขา “ อย่าห่วงเลย ยังไงเจนก็จะคลอดลูกให้คุณก่อน แล้วถึงจะไปกับคนอื่น “ เธอพูดกับเขาอย่างประชดประชัน ส่วนคนฟังนั้นก็ถึงกับหน้าซีดพูดไม่ออก “ ถ้าจะไปส่งก็รีบออกรถได้แล้ว “ คนขับที่กำลังเสียใจอยู่ถอนหายใจเหนื่อยๆ พลอยเจนคงจะไม่มีใจให้เขาเลยสินะ เจระวีคาเฟ่ “ สวัสดีค่ะพี่เจน “ “ อือ ทำไมวันนี้มุกมาเช้าจัง “เจนทักทายพนักงาน ที่กำลังจัดร้านอยู่ มุกดาเห็นคนพี่มาคุยด้วยจึงหยุดคุย “ พอดีเมื่อคืนมุกนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเช้าไม่มีอะไรให้ทำเลยมาเร็วนะคะ “ พลอยเจนก็จ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงหน่อยๆ “ ไม่สบายหรือเปล่าถึงได้นอนไม่หลับ อย่าหักโหมละ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ “ “ ค่ะพี่เจน “ “ อือ แต่มุกทำแบบนี้ก็ดีแล้ว วันไหนมาก่อนก็มาเปิดร้านรอพี่ เพราะช่วงนี้พี่คงต้องมาช้ากลับเร็วบ่อยขึ้น “ “ ค่ะ สำหรับมุกไม่มีปัญหาอะไรหรอก ในฐานะที่พี่เจนไว้ใจถึงกับให้กุญแจร้านกับมุก มุกก็จะขยันทำงานไม่ทำให้
“ ทำไมต้องทำแบบนี้ “ ปากอิ่มพร่ำถาม “ อาหวงเจน หวง–” นิ้วเรียวยกขึ้นมาแตะปากเขาเอาไว้ “ อย่ามาพูดเลย ทีตัวเองยังมีสาวในสต็อกเป็นสิบ จะมาพูดว่าหวงคนอื่นใครเขาจะเชื่อ “ มือเล็กผละออกจากปากเขา “ อย่าห่วงเลย ยังไงเจนก็จะคลอดลูกให้คุณก่อน แล้วถึงจะไปกับคนอื่น “ เธอพูดกับเขาอย่างประชดประชัน ส่วนคนฟังนั้นก็ถึงกับหน้าซีดพูดไม่ออก “ ถ้าจะไปส่งก็รีบออกรถได้แล้ว “ คนขับที่กำลังเสียใจอยู่ถอนหายใจเหนื่อยๆ พลอยเจนคงจะไม่มีใจให้เขาเลยสินะ เจระวีคาเฟ่ “ สวัสดีค่ะพี่เจน “ “ อือ ทำไมวันนี้มุกมาเช้าจัง “เจนทักทายพนักงาน ที่กำลังจัดร้านอยู่ มุกดาเห็นคนพี่มาคุยด้วยจึงหยุดคุย “ พอดีเมื่อคืนมุกนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเช้าไม่มีอะไรให้ทำเลยมาเร็วนะคะ “ พลอยเจนก็จ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงหน่อยๆ “ ไม่สบายหรือเปล่าถึงได้นอนไม่หลับ อย่าหักโหมละ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ “ “ ค่ะพี่เจน “ “ อือ แต่มุกทำแบบนี้ก็ดีแล้ว วันไหนมาก่อนก็มาเปิดร้านรอพี่ เพราะช่วงนี้พี่คงต้องมาช้ากลับเร็วบ่อยขึ้น “ “ ค่ะ สำหรับมุกไม่มีปัญหาอะไรหรอก ในฐานะที่พี่เจนไว้ใจถึงกับให้กุญแจร้านกับมุก มุกก็จะขยันทำงานไม่ทำให้
“ จอดตรงนี้แหละค่ะพี่ “ พลอยเจนหยิบเงินให้กับคนขับรถ แล้วจึงก้าวขาลงมาที่อู่ซ่อมรถ มาดูรถของเธอที่ดูจะเละเทะเพราะชนหลักกิโลเมื่อคืน “ อีกนานมั้ยคะ ถึงจะซ่อมเสร็จ “ เธอเดินเข้าไปถามกับช่าง “ อย่างต่ำก็น่าจะอาทิตย์หนึ่งละครับคุณ “ “ ห้ะ ตั้งเป็นสัปดาห์เลยเหรอ “ หญิงสาวคิ้วขมวด สีหน้าเป็นกังวล “ ใช่ครับ เพราะอะไหล่รถคุณที่อู่ไม่มี ผมเพิ่งสั่งซื้อไปเมื่อเช้า กว่าจะถึงก็อีก 2-3 วัน “ คนฟังพยักหน้า เตรียมหันหลังจะเดินกลับแต่ขาเธอดันซวยเหยียบโดนน้ำมันเครื่อง ตัวลอยจะล้ม “ ว้าย!! “ “ เป็นอะไรไหมครับ “ โชคดีที่นายช่างคนนั้นมือไว รีบเข้ามารับเธอไว้ได้ทัน เมื่อทรงตัวเองได้ เธอจึงรีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยจับ นี่ถ้าล้มไปไม่รู้จะเป็นอะไรไปบ้าง “ ชายคนนั้นก็ยิ้มหวานมาให้เธอ “ ครับ ยังไงก็เดินระวังหน่อยนะครับ “ หญิงสาวยิ้มตอบแล้วค่อยๆ ก้าวเดินออกมายังหน้าอู่ระหว่างนั้นมือเล็กก็ลูบท้องตัวเองอย่างใจหาย ปี๊นๆ เสียงแตรรถดังสนั่นอยู่บริเวณใกล้ เมื่อเธอหันไปมองก็จำได้ว่าเป็นรถใคร รถหรูคันดังกล่าวเคลื่อนมาจอดต่อหน้าเธอ ไม่นานแว่นรถก็เปิดลง “ มาทำอะไรที่นี้ “ เจ้าข
รุ่งเช้าที่แสนสดใส จ๊ะจ๋าเดินลงมาจากชั้นสองก็เจอเข้ากับลูกสาวที่นั่งจิบนมอยู่ตรงโซฟา “ อ้าวเจน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “ ด้วยเพราะจำไม่ได้ จึงได้ถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นบางอย่างแปะอยู่บนหัวของลูก “ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา ทำไมถึงปิดพลาสเตอร์ไว้ “ พลอยเจนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมหันไปมองคนที่พูดด้วย เพราะในใจเธอนั้นคิดแต่เรื่องอื่นอยู่ นี่ถ้าแม่เห็นผ้าก๊อซเมื่อวานคงเป็นเรื่องแน่ ดีที่แผลน้อยๆ นั้นมันแห้งเร็วเธอจึงเอาพลาสเตอร์ปิดให้มันดูเป็นเรื่องเล็กลงมาหน่อย “ ล้มนิดเดียวเองค่ะ “ เธอตอบ “ ล้ม! ไปทำท่าไหนให้ล้ม แล้วนี้เป็นอะไรมากไหมหืม “ จ๊ะจ๋าเดินมานั่งข้างลูกแล้วสำรวจดูตามเนื้อตัว “ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแม่ “ ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็ใช่ว่าสีหน้าของแม่จะดูเครียดน้อยลง “ เหรอ แต่ครั้งหน้าแม่ไม่ยอมให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้วนะ โดยเฉพาะกลับดึกดื่นแบบนี้นะ เจนท้องอยู่นะลูก ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “ พลอยเจนมองหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้าลง “ แม่เป็นห่วงหลานเหรอ “ “ ก็ใช่น่ะสิ นี่หลานคนแรกของแม่เลยน้า “ เมื่อฟังแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มตาแดง “
“ อาบน้ำนานจัง “ เมื่อเดินกลับออกมาก็เห็นจิรกิตติ์นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง เขาจ้องร่างกายเธอที่กำลังใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วก็นึกขำ “ ขำอะไร!! “ “ ก็ขำเจนไง อาไม่คิดว่าเจนจะกลัวพ่อแม่บ่นขนาดนั้น “ หญิงสาวถอนหายใจแรง “ ก็การโดนบ่นมันมีผลดีอะไรเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากให้เจนอยู่ที่นี้ งั้นเจนกลับก็ได้ ป่านนี้แม่ก็คงจะนอนแล้ว “ พลอยเจนกำลังจะเดินออกจากห้อง จิรกิตติ์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบลุกแล้วมากอดเอวของเธอไว้ “ ปล่อย! คุณอาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้น่ะ “ เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออก หน้าคมก็โน้มมากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ “ ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ อากอดลูกของอาในท้องเจน อาผิดอะไร “ คนฟังหัวร้อนควันออกหู เขาจะลวนลามเธอแล้วเอาลูกมาอ้างแบบนี้ได้ไง “ ลูกคุณยังเป็นก้อนเลือดอยู่เลย อย่ามาหาเรื่องตู่จะฉวยโอกาสเจนนะ “ เธอหยิกมือเขาจนเขายอมคลายออก พลอยเจนจึงหันไปจ้องหน้าคนข้างหลัง “ อายอมรับก็ได้ว่าอาอยากจะฉวยโอกาสเจน อาอยากอยู่ใกล้ๆ เจน “ เขาก็ยอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องที่เขาทำเธอเสียใจ “ เหรอ แต่ที่ผ่านมากลับตีตัวออกห่างเจนตลอด นั่นเหรอเรียกว่าอยากใกล้ชิด “ “ ก็เ
หลังจากนั้นไม่นานจิรกิตติ์ก็พาหญิงสาวกลับมาที่บ้าน รถหรูจอดเทียบที่หน้าบ้านของพลอยเจน “ ลงไหม “ เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งจึงได้หันไปถาม หญิงสาวก็ไม่ได้หันมาเอาแต่มองเข้าไปในบ้าน “ คุณคิดว่าพ่อกับแม่จะนอนกันหรือยังคะ “ เจตฟังเช่นนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงกลัวโดนพ่อแม่ซักไซ้ “ ดึกขนาดนี้แล้ว ก็คงจะหลับกันหมดแล้วละ นี่เจนกลัวพ่อกับแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ “ “ ก็ไม่ แต่คนแก่บ่นฟังแล้วมันหดหู่ใจต่างหากละ เจนเกลียดคนแก่ที่ชอบบ่นยาวๆ ที่สุด “ ประโยคหลังเธอหันมาจ้องเขา ทำเอาคนข้างกายสะดุ้งเล็กน้อย “ งั้นให้อาเดินเข้าไปส่งมั้ย “ เขาเสนอ แต่เธอกลับส่ายหน้า “ ไม่จำเป็น “ หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขาลงจากรถแต่กลับเหลือบไปเห็นว่าแม่นั่งอยู่ในห้องนอนของเธอผ่านหน้าต่าง เธอเลยรีบดึงขากลับขึ้นรถมาแล้วปิดประตูเอาไว้ดังเดิม “ อ้าว มีอะไรหรือเปล่า? “ “ ไปบ้านคุณอากันเลยเถอะ ถ้าแม่เห็นเจนหัวแตกคงได้บ่นยาวยันพรุ่งนี้เช้าแน่ “ เธอหันมาทำหน้ายุ่งใส่เขา จิรกิตติ์ก็เผยยิ้มกว้าง สิบกว่าปีได้แล้วมั้งที่เธอไม่ได้ไปที่บ้านของเขา “ เจนจะไปนอนบ้านอาเหรอ “ “ ทำไมคะ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได
‘ อาเจตคะ? ‘ เด็กหญิงวัยสิบขวบนามว่าพลอยเจนวิ่งเข้ามาในบ้านของคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งวิ่งและตามหาเขาไปทั่ว ‘ มีอะไรเจน แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ ‘ จิรกิตติ์เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน แล้วลงมานั่งย่อตัวคุยกับหลานสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม ‘ ต่อยกับพวกผู้ชายที่โรงเรียนมาค่ะ ‘ ‘ ห๊ะ! ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะเจน ‘ ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ดื้อ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ‘ ถ้าพวกมันอยู่เฉยๆ เจนก็ไม่สนใจหรอก แต่พวกมันมาล้อหน้าม้าเจนนี่น่า ‘ คนตัวน้อยจับและแหงนมองดูผมหน้าม้าที่แสนจะภูมิใจของตัวเอง ‘ แม่อุตส่าห์ตัดให้เลยนะ แถมพวกมันยังล้อว่าเจนเป็นม้าดีดกะโหลกอีก ‘ คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เขาผิดเองใช่มั้ยที่สอนมวยให้หลาน ‘ แล้วพวกผู้ชายที่เจนไปต่อยกับเขานะกี่คน ‘ ‘ ปากแตกสองคนค่ะ อีกคนตาเขียว ครูเลยอยากให้เรียกผู้ปกครองไปพบพรุ่งนี้ ‘ เด็กหญิงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ ‘ แล้วก็จะให้อาไปแทนให้อีกล่ะสิ ‘ ‘ ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิคะ หรือว่าอาเจตจะไม่ไปให้เจนเหรอ พ่อก็ไม่อยู่แม่ก็ทำงานหนัก ถ้าอาเจตไม่ไปใครจะไปให้คะ เจนไม่มีใครแล้วนี่ ‘ เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไ
“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม “ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้า
“ เจนไปไหนแล้วล่ะ “ จิรกิตติ์ทำการเก็บจานชามในห้องเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นหลานสาวตัวแสบแล้ว เขาจึงหันไปถามกับน้องพนักงาน “ มุกเห็นพี่เจนขับรถออกไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน พอดีมุกไม่ได้ถามไว้ “ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็พยักหน้าเข้าใจ เจนไปทำอะไรที่ไหนอีกนะ เขาเริ่มจะกังวลแล้วสิ อพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเจระวีคาเฟ่เท่าไหร่นักในห้อง 305 มีร่างของพลอยเจนนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ต่อสายหาแฟนสาวที่กำลังจะได้กลายเป็นแค่พี่น้อง [“ ฮัลโหล พี่เจนในที่สุดพี่ก็โทรมา คิตตี้คิดว่าพี่เทคิตตี้ไปแล้ว “] ปลายสายตอบกลับเธอมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตื่นเต้น “ มาหาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องของเรา “ พูดจบเธอก็ตัดสาย เธอไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อแล้ว ในเมื่อคนรักไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะจบ เพราะเรื่องที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คงไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวได้เคลียร์ใจแล้วไปต่อได้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาน้อยๆ ที่หยดลงมาบนใบหน้า บ้านรุณรวี “ คุณเจตมาหรือยังตูน “ จ๊ะจ๋าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวถามกับแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกไปจัดโต๊ะอาหารที่ห้องกิ
“ เจนยอมแต่งครับ “ “ ห๊ะ! แล้วไปพูดท่าไหนเนี้ย ปกติเห็นเจนตั้งท่าจะเกลียดแกยิ่งกว่าอะไรดี “ แสงรวีที่ตกใจรีบหลุดปากถาม เจตจึงมีเพียงส่งยิ้มอ่อนให้ “ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละครับพี่แสง ไว้เย็นนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่ ผมต้องไปบริษัท “ “ ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอ “ จ๊ะจ๋าชักชวน คนฟังก็รีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรผมทานมาแล้ว ไปนะครับ “ ลาทั้งคู่เสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้สองผัวเมียที่ยังอยู่หันมาจ้องหน้าแล้วคุยกันถึงเรื่องของทั้งสอง “ คุณคิดว่าเจนคือพราวมาเกิดใหม่จริงมั้ยคะ “ คนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหลือบมองเมียของเขา ตอนได้ยินในสิ่งที่เธอถาม “ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ “ แต่ฉันเริ่มจะเชื่อขึ้นมาแล้วนะคะ พราวอาจจะกลับมาหาเจตจริงๆ ก็ได้ “ แสงรวีถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเมียน้ำเสียงเด็ดขาด “ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ลูกของเราคือเจน ไม่ใช่พราว แล้วก็หวังว่าเจตจะเห็นเจนเป็นพลอยเจนเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ “ จ๊ะจ๋าได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ “ อือ จริงด้วยค่ะ ลูกของเราไม่ใช่ตัวแทนของใครสักหน่อย “ เจระวีคาเฟ่ พลอยเจนที่กำลังช่วยพนักงานจัดโต๊ะอยู่ รีบหยิบมือถือท