เพล้ง!!!
"ไร้ประโยชน์!!!"
เสียงทุ้มทรงอำนาจตวาดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียพร้อมกับเสียงแจกันที่กระแทกฟาดฝาผนังจนแตกด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายที่ขว้างมันเฉียดผ่านหัวลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเรียกหน้ากระดานกันอยู่ห้าคน
"ขอโทษครับบอสผมผิดพลาดเอง"
เมทีลูกน้องคนสนิทก้มหน้าเอ่ยรับความผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะเขานั้นดันคาดการณ์ผิดเองไม่คิดว่าผู้ชายคนที่นายสั่งให้ไปจับตัวจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดนี้ จึงเอาคนไปแค่ห้าคน จนทำให้งานที่นายสั่งในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า
อชิตพล หันมามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตานิ่งๆก่อนที่นัยน์ตาคมจะหันกลับมาไล่สังเกตสภาพลูกน้องแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้สักคน รวมทั้งเมทีที่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขาด้วย
"เฮ่ออออ...ออกไปให้หมด!"
ผู้เป็นนายถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ทำงานดังเดิมแล้วเอ่ยถามถึงเรื่องงานอีกอย่างที่เขาสั่งกับเมที
"งานอีกอย่างที่สั่งถึงไหนแล้ว"
มังกรเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นทันทีที่ลูกน้องทั้งห้าคนออกจากห้องไป คนตัวสูงเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะก่อนที่จะรับปากกาที่เมทีส่งให้มาเซ็น
"นักฆ่าคาร์ลตอบมาแล้วครับบอส"
ร่างสูงชะงักมือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ทันที ก่อนที่จะเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารไปจ้องมองใบหน้าฟกช้ำของเมทีที่ยืนอยู่ข้างๆ คิ้วหนาทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยที่ครั้งนี้นักฆ่าคาร์ลนั้นตอบกลับพวกเขามาเร็วกว่าทุกครั้ง ทั้งที่ปกติที่พวกเขาติดต่อว่าจ้างงานนักฆ่าดาร์บี้ผ่านทางนักฆ่าคาร์ลเป็นเดือนกว่าที่จะได้รับคำตอบว่าดาร์บี้จะรับงานของเขาหรือไม่
"คำตอบว่ายังไง"มังกรเอ่ยถามถึงคำตอบพลันหันกลับมาเซ็นเอกสารดังเดิม
"ดาร์บี้รับงานครับบอส ดาร์บี้แจ้งมาว่าจะลงมือภายในอีกสองวันและเอ่อ...ดาร์บี้ฝากนักฆ่าคาร์ลมาแจ้งกับบอสด้วยว่าให้หยุดส่งคนมาสืบเรื่องของเขาในทุกครั้งระหว่างที่เขากำลังลงมือลอบฆ่าเป้าหมายด้วยครับ เพราะมันเกะกะและเขาอาจจะเผลอลงมือฆ่าลูกน้องที่บอสส่งมาในครั้งนี้ด้วยก็ได้"
มังกรที่ได้ยินคำพูดที่นักฆ่าดาร์บี้ฝากมาผ่านนักฆ่าคาร์ลก็กระตุกยิ้มขึ้นอย่างพอใจในการหยิ่งผยองของดาร์บี้
บอกตามตรงว่าเขานั้นถูกใจนักฆ่าคนนี้มากทั้งลึกลับและยังหยิ่งยโสโอหังดีจริงๆ จนเขานั้นอยากจะเจอสักครั้งและอยากจะชักชวนให้มาทำงานร่วมกับเขา แต่ติดที่ว่าไม่ว่าเขาจะส่งคนไปสืบสักแค่ไหนก็ไม่เคยจะสืบได้หรือรู้ถึงตัวตนจริงๆของดาร์บี้สักที
ช่างลึกลับจริงๆ
"โอหังดีจริงๆ"
อีกด้าน
"โอ๊ยยยยไอ้เหี้ยเบาๆเจ็บนะไอ้สัตว์"
เสียงร้องโอดโอยพร้อมกับคำด่าทอหลุดมาจากปากของร่างโปร่งที่โดนเพื่อนคนสนิทนั่งจิ้มแผลด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผล
"ทำเบาสุดๆแล้วสัตว์ แค่นี้ทำร้องโอดโอยทีโดนมีดแทงจนสุดด้ามกูไม่เห็นมึงร้องสักแอะ แถมยังมีหน้ากระโดดถีบชกต่อยต่อได้อีก"
องศาเอ่ยขึ้นพลางส่ายหน้าเมื่อนึกย้อนกลับไปตอนที่เขากับเพื่อนคนสนิทตรงหน้าโดนองค์กรสั่งคนฝีมือดีขององค์กรมาจัดการฆ่าพวกเขาทั้งสอง จนพวกเขาทั้งสองต้องดิ้นรนต่อสู้สุดชีวิตทำให้พวกเขานั้นได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนเกือบเอาชีวิตกันไม่รอด
"ก็ตอนนั้นมันไม่มีเวลามาร้องโอดโอยหรือปริปากว่าเจ็บนี่หว่า ถ้ามัวแต่เจ็บก็คงไม่ได้มานั่งให้มึงทำแผลให้อย่างนี้หรอกจริงไหม"
พิร์ภูณกรเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มบางๆให้เพื่อนคนสนิทตรงหน้าที่นั่งจ้องมาทางเขาพร้อมกับส่ายหัวให้เบาๆ
"นั้นเกือบพากันตายนะไอ้เหี้ย ยังจะมานั่งยิ้มหน้าแป้นแล้นที่พูดถึงเรื่องนี้อีก คิดถึงเหตุการณ์นี้ทีไรโมโหชิบหาย กูน่าจะกลับเข้าไปยิงไอ้หัวหน้าองค์กรนั้นให้มันตายๆไป ไม่น่าปล่อยมันให้มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้เลย"
องศาเอ่ยพูดขึ้นอย่างโมโหพลางใช้สำลีกดลงแผลที่มุมปากของเซทท์จนทำให้เซทท์ที่นั่งยิ้มอยู่สะดุ้งร้องด้วยความเจ็บและแสบของแอลกอฮอล์
"โอ๊ยยยไอ้เหี้ยกูเจ็บ นี้มือหรือตีนเนี่ยหนักชิบหาย"
เสียงทุ้มใสร้องขึ้นพร้อมกับมือบางที่ผลักมือของเพื่อนที่กำลังกดแผลที่มุมปากอยู่นั้นให้ออกห่าง นัยน์ตาสวยจ้องมองเพื่อนด้วยแววตาขว้างๆ พร้อมกับส่งกำปั้นใส่เพื่อนตรงหน้าอย่างไม่แรงนักแต่องศาก็หลบได้
"โทษๆพอดีพูดถึงเรื่องนั้นแล้วมันหงุดหงิดไปหน่อย"องศาเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อนเจ้าของห้องก่อนที่จะหุบรอยยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของเซทท์
"แล้วก็อีกอย่างนะองศาถ้าวันนั้นมึงบุกไปยิงหัวหน้าองค์กรต่อ มึงกับกูก็คงไม่รอดกันทั้งคู่ ตอนนั้นมึงก็เจ็บสาหัสเกือบตายไม่ต่างกับกู แล้วก็กูว่านะเราเลิกคิดถึงเรื่องเหี้ยๆนั้นเถอะ กูไม่อยากคิดถึงองค์กรสาระเลวนั้นอีกแล้ว ตอนนี้เราเป็นอิสระจริงๆแล้วคาร์ล"
พิร์ภูณกรเอ่ยขึ้นเสียงเบาพลางก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ออกจะหยาบกร้านด้วยสาเหตุมาจากการจับอาวุธฝึกซ้อมมานาน มือคู่นี้ที่อาบไปด้วยเลือดของผู้คนมากมาย และก็มือคู่นี้ที่เขาไม่คิดว่าจะอาบเลือดของคนที่เขาไว้วางใจ ดวงตากลมสวยทั้งสองข้างแสดงแววตาหมองหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสวยจ้องมองมือคู่สวยของตัวเองอยู่อย่างนั้น จนองศาต้องถอนหายใจเอื้อมมือไปแตะไหล่เล็กที่ดูจะสั่นเทาเล็กน้อยแล้วเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความขมขื่น
"ขอโทษ...กูไม่น่าพูดถึงเรื่องเลวร้ายพวกนั้นเลย"
"ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว....การหักหลังในครั้งนั้นมันผ่านมาแล้วคาร์ล"
เซทท์เงยหน้าจากการมองมือที่หยาบกร้านของตัวเองขึ้นมาสบตากับเพื่อนสนิทตรงหน้า ก่อนที่จะฉีกยิ้มกว้างส่งให้กับองศา แต่ไม่ว่าคนตรงหน้าจะฉีกยิ้มกว้างมากสักแค่ไหนก็กลบแววตาที่แสดงความเศร้าสร้อยไว้ไม่ได้
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเล็กตรงหน้าเขานั้นเจ็บปวดกับการโดนหักหลังจากคนที่ไว้ใจในเหตุการณ์ในครั้งนั้นมากแค่ไหน เหตุการณ์ที่โดนคนที่ตัวเองไว้ใจลอบทำร้ายหมายจะเอาชีวิต เหตุการณ์ที่ทำให้มือของดาร์บี้เปื้อนไปด้วยเลือดของคนที่ตัวเขาเรียกว่าน้องชาย
มันจบแล้วดาร์บี้มันจบแล้ว
จบด้วยมือของมึงเอง
สถานที่งานประมูลภาพ/ดาร์บี้ได้ยินมั้ย/เสียงหูฟังบลูทูธรูปแบบคล้ายตู้มหูที่ร่างโปร่งสวมใส่อยู่ที่ใบหูเล็กดังขึ้น ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดสูทเรียบหรูบนใบหน้ามีแว่นสายตาประดับอยู่ก้าวเดินสำรวจรอบๆงานอย่างช้าๆ เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ไว้ เผื่อยามจำเป็นในการลงมือผิดพลาด ถึงแม้มันจะไม่มีวันผิดพลาดก็เถอะ"อืม"ดาร์บี้ครางรับในลำคอเบาๆพร้อมกับพยักหน้าให้กับบริกรที่เดินถือถาดเครื่องดื่มชั้นดีเสิร์ฟให้แขกในงานเป็นเชิงขอเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง แต่ความจริงในการพยักหน้านั้นคือการตอบคาร์ลที่กำลังส่องสไนเปอร์รอบมองทั่วงาน และการส่องเลงปืนมานั้นรวมถึงการส่องเลงมาที่เขาด้วยบอกไม่เคยจำ!ร่างโปร่งที่รับแก้วไวน์จากบริกรหนุ่มไว้ในมือ ก็หันมองรอบๆ
ร่างโปร่งบางที่อยู่ชุดสูทเรียบหรูก้าวเดินตามหลังชายวัยกลางคนอย่างเงียบเฉียบ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองด้านหลังของเป้าหมายด้วยแววตานิ่งสงบเกินที่จะคาดเดา มือบางถือมีดประจำกายที่ตัวเองมักจะใช้ปลิดชีพเป้าหมายเป็นประจำ สองขายาวก็พลันก้าวเดินเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายเปิดประตูกำลังผลักให้อ้าออกกว้างมือบางข้างที่มีมีดยกขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเป้าหมายจำต้องชะงักเปลี่ยนมาล็อกคอปิดปากชายเป้าหมายแทนแล้วผลักดันชายวัยกลางคนที่กำลังดีดดิ้นให้เข้าไปในห้องปิดประตูแล้วลงกลอน เมื่ออยู่ๆก็มีชายชุดดำนับสิบคนเดินมาทางพวกเขาเหมือนกำลังตามหาใครสักคน"บ้าชิบ!ผิดแผนไปหมด"ดาร์บี้สถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่ือแผนลอบฆ่าของเขาพังลงไม่เป็นท่า จนต้องหันมาเผชิญกับเป้าหมายโดยตรง ยังดีที่เป้าหมายของเขาไม่ได้พกลูกน้องหรือบอดี้การ์ดมาคุยงานในครั้งนี้ด้วย เพราะเห็นคาร์ลบอกว่างานที่พวกเขาทั้งสองตกลงจะซื้อขายกันมันเป็นของล็อตใหญ่จึงต้องคุยกันอย
บทนำ/ดาร์บี้เป้าหมายปรากฏตัวแล้วรีบจบงานแล้วรีบออกมาซะ/เสียงของหูฟังบลูทูธแบบจิ๋วดังขึ้นแจ้งให้ร่างโปร่งที่กำลังซุ่มอยู่ในที่ลับตาคนได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเป้าหมายที่เขากำลังตามอยู่"โอเคเห็นเป้าหมายแล้ว ว่าแต่จบงานเราไปกินชาบูกันมั้ยคาร์ลเดี๋ยวเลี้ยงเอง"ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!ร่างโปร่งเอ่ยถามเพื่อนชายที่กำลังติดต่อพูดคุยกันผ่านหูฟังบลูทูธพร้อมกับลั่นไกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงสองสามนัดใส่เป้าหมาย และทุกนัดที่ยิงไปนั้นคือจุดตายร่างโปร่งซุ่มมองดูสถานการณ์สักพักเพื่อความมั่นใจว่างานของตนนั้นเรียบร้อยจริงมั้ยและแน่นอนถ้าดาร์บี้นักฆ่าอันดับต้นๆลงมือไม่มีคำว่าพลาด/ขอร้องละดาร์บี้อย่ามาชวนกูกินชาบูทั้งๆที่มึงกำลังฆ่าคนได้มั้ย ทำอย่างกับงานที่ตัวเองกำลังทำคืองานพนักงานบริษัททั่วไปพอเสร็จงานแล้วชวนกันแดกชาบู แล้วก็รีบออกมาได้แล้วยืนยิ้มภูมิใจกับผลงานอยู่นั้น/คาร์ลเอ่ยพูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเอ่ยย้ำให้ร่างโปร่งออกมาจากตรงนั้นได้แล้วเพราะลูกน้องของฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ตัวแล้ว"คาร์ลอย่าเล็งสไนเปอร์ใส่กูไอ้สัตว์"ดาร์บี้หรือชื่อเล่นจริงๆคือเซทท์เอ่ยพูดขึ้นเสียงนิ่งๆพร้อมกับหันไ
ร่างสูงร้อยแปดสิบเก้าก้าวเดินเข้ายังบ่อนกาสิโนอย่างคุ้นเคยโดยมีชายชุดดำเกือบสิบคนคอยเดินตามหลัง ส่งผลให้คนที่มองมายังร่างสูงรู้สึกว่าคนตัวสูงนั้นน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวไม่อยากเข้าไปใกล้หรือเข้าไปยุ่งนัยต์ตาดำขลับกวาดมองรอบๆเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนที่จะเดินตรงไปยังลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้นที่ห้องทำงานของตัวเองอยู่ทันที"เรื่องที่ฉันสั่งถึงไหนแล้ว"เสียงทุ้มน่าเกรงขามเอ่ยถามถึงงานที่สั่งกับลูกน้องคนสนิททันทีที่นั่งลงยังเก้าอี้ในห้องทำงาน"ขอโทษครับบอส คนของเรายังหาคนที่บอสสั่งให้ไปจับตัวยังไม่เจอเลยครับ"เมทีเอ่ยตอบผู้เป็นนายตามความจริงถึงงานที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปจับตัวชายผู้หนึ่งแล้วจะให้พวกเขาทำยังไงได้ล่ะครับก็คนที่นายสั่งให้ไปจับตัวมานั้น พวกเขาไม่รู้ทั้งชื่อไม่มีทั้งรูปให้ดูไม่รู้ประวัติอะไรเลย รู้แค่สิ่งที่บอสบอกว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นผิวขาวรูปร่างโปร่งแค่นั้นแล้วจะให้พวกเขาหาตัวเจอภายในวันสองวันได้ยังไงกันปัง!"ไร้ประโยชน์!"เสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเปร่งออกมาพร้อมกับเสียงฝ่ามือทุบลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง บ่งบอกว่าผู้เป็นนายนั้นไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ยิน"ขอโทษครับบอสเดี๋ยวผมจะเร่งให้ลูกน้อง
เวลา18:47นาทีณ.คาเฟ่แห่งหนึ่งพิร์ภูณกรที่ในชุดลำลองกำลังนั่งขีดเขียนรูปภาพในไอแพดที่ตัวเองพกมาด้วยจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ๆก็มีชายหนุ่มใบหน้าคมในชุดนักศึกษาเดินมานั่งลงคิ้วสวยทั้งสองข้างของเซทท์ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย ดวงตาใสใต้กรอบแว่นจ้องมองไปยังหนุ่มน้อยหน้ามนที่นั่งยิ้มส่งสายตาหยอกเย้ามาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ"น้องมีอะไรหรือเปล่าครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามหนุ่มน้อยที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นก็ยังคงจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยด้วยสายตาไม่พอใจ"น้องเนิงอะไรกัน ผมว่าเราน่าจะอายุพอๆกันดีไม่ดีผมอาจจะอายุกว่าคุณด้วยซ้ำ เออจริงสิ ผมชื่อบิ๊กนะอยู่ปี4เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆคาเฟ่นี้นายชื่ออะไรอ่ะแล้วเรียนที่มหาลัยไหนหรอ"หนุ่มน้อยหน้าคมยังเอ่ยพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับแนะนำตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อและข้อมูลของเจ้าของโต๊ะที่ตัวเขาถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ"แล้วทำไมผมต้องบอกคุณ"เซทท์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ ในใจก็พลางคิดไปด้วยว่าไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนเขาอุสาหลบม
ร่างโปร่งที่กดตัดสายขององศาก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับเหล่าชายชุดดำที่ยืนดักหน้าดักหลังเขาอยู่"พวกคุณเป็นใคร"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามพวกชายชุดดำตรงหน้าขึ้นอย่างนิ่งๆ มือบางกำกระชับสายกระเป๋าที่สะพายไว้แน่น สายตาใต้กรอบแว่นก็รอบมองหาช่องว่างที่จะหนีห้าคน ไม่สิ! มีอีกคนนั่งอยู่บนรถพิร์ภูณกรมองสำรวจและคิดในใจ คนตัวเล็กไล่นับชายชุดดำที่ล้อมหน้าล้อมหลังก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับชายตัวอีกคนที่นั่งจ้องมองสถานการณ์อยู่บนรถไม่ไกลเอาไงดีวะ ด้านหน้ามีสามคนด้านหลังอีกสองบนรถอีกหนึ่ง มันพกปืนกันทุกคนด้วยสิ คิดสิเซทท์ คิดสิเอาเป็นว่าถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด สักสิบนาทีก็ยังดี สิบนาทีคงพอสำหรับรอให้องศามาช่วยเซทท์ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นจำต้องหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วเบี่ยงตัวหลบจากชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งมาที่ตัวเขา ก่อนที่เท้าสวยจะยกขึ้นถีบเต็มแรงเข้าที่สีข้างของชายชุดดำคนนั้น จนทำให้มันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะความจุกไปสักพักนอกจากจะไม่ได้คำตอบอะไรจากกลุ่มชายชุดดำตรงหน้าแล้ว คนพวกนั้นยังเล่นเขาที่เผลอด้วย"ใครส่งพวกมึงมา!"พิร์ภูณกรเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ
ร่างโปร่งบางที่อยู่ชุดสูทเรียบหรูก้าวเดินตามหลังชายวัยกลางคนอย่างเงียบเฉียบ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองด้านหลังของเป้าหมายด้วยแววตานิ่งสงบเกินที่จะคาดเดา มือบางถือมีดประจำกายที่ตัวเองมักจะใช้ปลิดชีพเป้าหมายเป็นประจำ สองขายาวก็พลันก้าวเดินเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายเปิดประตูกำลังผลักให้อ้าออกกว้างมือบางข้างที่มีมีดยกขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเป้าหมายจำต้องชะงักเปลี่ยนมาล็อกคอปิดปากชายเป้าหมายแทนแล้วผลักดันชายวัยกลางคนที่กำลังดีดดิ้นให้เข้าไปในห้องปิดประตูแล้วลงกลอน เมื่ออยู่ๆก็มีชายชุดดำนับสิบคนเดินมาทางพวกเขาเหมือนกำลังตามหาใครสักคน"บ้าชิบ!ผิดแผนไปหมด"ดาร์บี้สถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่ือแผนลอบฆ่าของเขาพังลงไม่เป็นท่า จนต้องหันมาเผชิญกับเป้าหมายโดยตรง ยังดีที่เป้าหมายของเขาไม่ได้พกลูกน้องหรือบอดี้การ์ดมาคุยงานในครั้งนี้ด้วย เพราะเห็นคาร์ลบอกว่างานที่พวกเขาทั้งสองตกลงจะซื้อขายกันมันเป็นของล็อตใหญ่จึงต้องคุยกันอย
สถานที่งานประมูลภาพ/ดาร์บี้ได้ยินมั้ย/เสียงหูฟังบลูทูธรูปแบบคล้ายตู้มหูที่ร่างโปร่งสวมใส่อยู่ที่ใบหูเล็กดังขึ้น ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดสูทเรียบหรูบนใบหน้ามีแว่นสายตาประดับอยู่ก้าวเดินสำรวจรอบๆงานอย่างช้าๆ เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ไว้ เผื่อยามจำเป็นในการลงมือผิดพลาด ถึงแม้มันจะไม่มีวันผิดพลาดก็เถอะ"อืม"ดาร์บี้ครางรับในลำคอเบาๆพร้อมกับพยักหน้าให้กับบริกรที่เดินถือถาดเครื่องดื่มชั้นดีเสิร์ฟให้แขกในงานเป็นเชิงขอเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง แต่ความจริงในการพยักหน้านั้นคือการตอบคาร์ลที่กำลังส่องสไนเปอร์รอบมองทั่วงาน และการส่องเลงปืนมานั้นรวมถึงการส่องเลงมาที่เขาด้วยบอกไม่เคยจำ!ร่างโปร่งที่รับแก้วไวน์จากบริกรหนุ่มไว้ในมือ ก็หันมองรอบๆ
เพล้ง!!!"ไร้ประโยชน์!!!"เสียงทุ้มทรงอำนาจตวาดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียพร้อมกับเสียงแจกันที่กระแทกฟาดฝาผนังจนแตกด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายที่ขว้างมันเฉียดผ่านหัวลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเรียกหน้ากระดานกันอยู่ห้าคน"ขอโทษครับบอสผมผิดพลาดเอง"เมทีลูกน้องคนสนิทก้มหน้าเอ่ยรับความผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะเขานั้นดันคาดการณ์ผิดเองไม่คิดว่าผู้ชายคนที่นายสั่งให้ไปจับตัวจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดนี้ จึงเอาคนไปแค่ห้าคน จนทำให้งานที่นายสั่งในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าอชิตพล หันมามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตานิ่งๆก่อนที่นัยน์ตาคมจะหันกลับมาไล่สังเกตสภาพลูกน้องแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้สักคน รวมทั้งเมทีที่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขาด้วย"เฮ่ออออ...ออกไปให้หมด!"ผู้เป็นนายถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ทำงานดังเดิมแล้วเอ่ยถามถึงเรื่องงานอีกอย่างที่เขาสั่งกับเมที"งานอีกอย่างที่สั่งถึงไหนแล้ว"มังกรเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นทันทีที่ลูกน้องทั้งห้าคนออกจากห้องไป คนตัวสูงเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะก่อนที่จะรับปากกาที่เมทีส่งให้มาเซ็น"นักฆ่าคาร์ลตอบมาแล้วครับบอส"ร่างสูงชะงักมือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ทัน
ร่างโปร่งที่กดตัดสายขององศาก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับเหล่าชายชุดดำที่ยืนดักหน้าดักหลังเขาอยู่"พวกคุณเป็นใคร"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามพวกชายชุดดำตรงหน้าขึ้นอย่างนิ่งๆ มือบางกำกระชับสายกระเป๋าที่สะพายไว้แน่น สายตาใต้กรอบแว่นก็รอบมองหาช่องว่างที่จะหนีห้าคน ไม่สิ! มีอีกคนนั่งอยู่บนรถพิร์ภูณกรมองสำรวจและคิดในใจ คนตัวเล็กไล่นับชายชุดดำที่ล้อมหน้าล้อมหลังก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับชายตัวอีกคนที่นั่งจ้องมองสถานการณ์อยู่บนรถไม่ไกลเอาไงดีวะ ด้านหน้ามีสามคนด้านหลังอีกสองบนรถอีกหนึ่ง มันพกปืนกันทุกคนด้วยสิ คิดสิเซทท์ คิดสิเอาเป็นว่าถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด สักสิบนาทีก็ยังดี สิบนาทีคงพอสำหรับรอให้องศามาช่วยเซทท์ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นจำต้องหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วเบี่ยงตัวหลบจากชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งมาที่ตัวเขา ก่อนที่เท้าสวยจะยกขึ้นถีบเต็มแรงเข้าที่สีข้างของชายชุดดำคนนั้น จนทำให้มันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะความจุกไปสักพักนอกจากจะไม่ได้คำตอบอะไรจากกลุ่มชายชุดดำตรงหน้าแล้ว คนพวกนั้นยังเล่นเขาที่เผลอด้วย"ใครส่งพวกมึงมา!"พิร์ภูณกรเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ
เวลา18:47นาทีณ.คาเฟ่แห่งหนึ่งพิร์ภูณกรที่ในชุดลำลองกำลังนั่งขีดเขียนรูปภาพในไอแพดที่ตัวเองพกมาด้วยจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ๆก็มีชายหนุ่มใบหน้าคมในชุดนักศึกษาเดินมานั่งลงคิ้วสวยทั้งสองข้างของเซทท์ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย ดวงตาใสใต้กรอบแว่นจ้องมองไปยังหนุ่มน้อยหน้ามนที่นั่งยิ้มส่งสายตาหยอกเย้ามาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ"น้องมีอะไรหรือเปล่าครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามหนุ่มน้อยที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นก็ยังคงจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยด้วยสายตาไม่พอใจ"น้องเนิงอะไรกัน ผมว่าเราน่าจะอายุพอๆกันดีไม่ดีผมอาจจะอายุกว่าคุณด้วยซ้ำ เออจริงสิ ผมชื่อบิ๊กนะอยู่ปี4เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆคาเฟ่นี้นายชื่ออะไรอ่ะแล้วเรียนที่มหาลัยไหนหรอ"หนุ่มน้อยหน้าคมยังเอ่ยพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับแนะนำตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อและข้อมูลของเจ้าของโต๊ะที่ตัวเขาถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ"แล้วทำไมผมต้องบอกคุณ"เซทท์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ ในใจก็พลางคิดไปด้วยว่าไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนเขาอุสาหลบม
ร่างสูงร้อยแปดสิบเก้าก้าวเดินเข้ายังบ่อนกาสิโนอย่างคุ้นเคยโดยมีชายชุดดำเกือบสิบคนคอยเดินตามหลัง ส่งผลให้คนที่มองมายังร่างสูงรู้สึกว่าคนตัวสูงนั้นน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวไม่อยากเข้าไปใกล้หรือเข้าไปยุ่งนัยต์ตาดำขลับกวาดมองรอบๆเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนที่จะเดินตรงไปยังลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้นที่ห้องทำงานของตัวเองอยู่ทันที"เรื่องที่ฉันสั่งถึงไหนแล้ว"เสียงทุ้มน่าเกรงขามเอ่ยถามถึงงานที่สั่งกับลูกน้องคนสนิททันทีที่นั่งลงยังเก้าอี้ในห้องทำงาน"ขอโทษครับบอส คนของเรายังหาคนที่บอสสั่งให้ไปจับตัวยังไม่เจอเลยครับ"เมทีเอ่ยตอบผู้เป็นนายตามความจริงถึงงานที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปจับตัวชายผู้หนึ่งแล้วจะให้พวกเขาทำยังไงได้ล่ะครับก็คนที่นายสั่งให้ไปจับตัวมานั้น พวกเขาไม่รู้ทั้งชื่อไม่มีทั้งรูปให้ดูไม่รู้ประวัติอะไรเลย รู้แค่สิ่งที่บอสบอกว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นผิวขาวรูปร่างโปร่งแค่นั้นแล้วจะให้พวกเขาหาตัวเจอภายในวันสองวันได้ยังไงกันปัง!"ไร้ประโยชน์!"เสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเปร่งออกมาพร้อมกับเสียงฝ่ามือทุบลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง บ่งบอกว่าผู้เป็นนายนั้นไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ยิน"ขอโทษครับบอสเดี๋ยวผมจะเร่งให้ลูกน้อง
บทนำ/ดาร์บี้เป้าหมายปรากฏตัวแล้วรีบจบงานแล้วรีบออกมาซะ/เสียงของหูฟังบลูทูธแบบจิ๋วดังขึ้นแจ้งให้ร่างโปร่งที่กำลังซุ่มอยู่ในที่ลับตาคนได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเป้าหมายที่เขากำลังตามอยู่"โอเคเห็นเป้าหมายแล้ว ว่าแต่จบงานเราไปกินชาบูกันมั้ยคาร์ลเดี๋ยวเลี้ยงเอง"ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!ร่างโปร่งเอ่ยถามเพื่อนชายที่กำลังติดต่อพูดคุยกันผ่านหูฟังบลูทูธพร้อมกับลั่นไกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงสองสามนัดใส่เป้าหมาย และทุกนัดที่ยิงไปนั้นคือจุดตายร่างโปร่งซุ่มมองดูสถานการณ์สักพักเพื่อความมั่นใจว่างานของตนนั้นเรียบร้อยจริงมั้ยและแน่นอนถ้าดาร์บี้นักฆ่าอันดับต้นๆลงมือไม่มีคำว่าพลาด/ขอร้องละดาร์บี้อย่ามาชวนกูกินชาบูทั้งๆที่มึงกำลังฆ่าคนได้มั้ย ทำอย่างกับงานที่ตัวเองกำลังทำคืองานพนักงานบริษัททั่วไปพอเสร็จงานแล้วชวนกันแดกชาบู แล้วก็รีบออกมาได้แล้วยืนยิ้มภูมิใจกับผลงานอยู่นั้น/คาร์ลเอ่ยพูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเอ่ยย้ำให้ร่างโปร่งออกมาจากตรงนั้นได้แล้วเพราะลูกน้องของฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ตัวแล้ว"คาร์ลอย่าเล็งสไนเปอร์ใส่กูไอ้สัตว์"ดาร์บี้หรือชื่อเล่นจริงๆคือเซทท์เอ่ยพูดขึ้นเสียงนิ่งๆพร้อมกับหันไ