เมื่อถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กจนโต ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน แต่คนทั้งคู่กลับอยากที่เป็นมากกว่านั้น แล้วมันจะสามารถเป็นไปได้ไหม ต้องมาลุ้นเอาใจช่วยพี่คินกับน้องวาด้วยนะคะ
View Moreด้านของภาคินเอง หลังจากที่ขับรถออกมาจากคอนโด เขาก็ตรงดิ่งไปหานทีและพีระเพื่อนสนิทของเขาตามที่นัดหมายทันที เมื่อมาถึงต่างก็พากันแบ่งหน้าที่ และตระเวนซื้อของของตัวเองที่ได้รับผิดชอบ ก่อนจะมารวมตัวกันที่คอนโดของภาคินอีกครั้ง หลังจากกลับ
ภาคินขับรถพาทิวามายังที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากคอนโดพวกเขามากนัก บรรยากาศภายวัดดูเงียบสงบร่มเย็นผู้คนไม่พลุกพล่าน ภาคินจูงมือทิวาเดินเข้าไปภายกุฏิ พร้อมกับหิ้วของที่เขาเตรียมมาด้วย เดินเข้าไปด้วยกัน
แวะหาอะไรแดกก่อน แล้วค่อยเข้าห้องแล้วกันนะ” ภาคินบอกกับแฟนเด็กของเขา ในขณะที่ทั้งคู่นั่งรถออกมาจากมหาวิทยาลัยด้วยกัน “(…..)” ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ของคนที่ช่างพูดช่างจาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มีเพียงใบหน้าที่บู
“อ้าวเฮ้ย!!
EP 13คุณดีนจอมสร้างเรื่อง วันนี้ภาคินก็ขับรถมาส่งคนรักของเขา ที่หน้าตึกคณะบริหารเหมือนเช่นทุกวัน ซึ่งกลายเป็นภาพชินตาของผู้ที่ได้พบเห็นไปแล้ว เพราะภาคินจะทำหน้าที่เป็นสารถีคอยขับรถรับส่งทิวาตั้งแต่ที่ทั้งคู่ยั
หลังจากที่ทานไอศกรีมเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วภาคิน ก็พาทิวาไปดูหนังต่อ ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ในโรงหนัง ภาคิน
เช้าวันต่อมา ทิวาก็ยังคงเดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องนอนของตัวเองไม่กล้าออกจากห้อง เพราะกำลังสับสน และมีอาการเขินอายเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่อยู่ดี ๆภาคินก็มาสารภาพว่าชอบเขา มีหนามซ้ำยังจูบเขาอีกด้วย ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังขึ้น ทำให้ทิวาที่กำลังครุ่นคิดอยู่หลุดออกจากภวังค์มีอาการสะดุ้งเล็กน้อย “มึงเป็นอะไรไอ้วา ตื่นหรือยัง ออกมากินข้าวได้แล้ว” ภาคินเคาะประตูเรียกคนที่เขาเพิ่งจะสารภาพรักไปเมื่อคืน และคงจะมีอาการกระวนกระวายอยู่ภายในห้องอยู่ตอนนี้ “เออๆๆ เสร็จแล้ว ๆกำลังออกไป เร่งจังเลย” ทิวาบ่นอุบก่อนจะเปิดประตูห้อง และเดินมานั่ง ที่โต๊ะอาหารฝั่งตรงข้ามกับภาคิน คนที่เพิ่งจะสารภาพรักและจูบเขาไปเมื่อคืน “กูทำแซนด์วิชไปให้มึงอ่ะ แดกซะเดี๋ยวกูพาออกไปข้างนอก” ภาคินบอกกับทิวาพร้อมกับเลื่อนจานแซนด์วิชที่เขาเพิ่งจะทำเสร็จใหม่ๆ ให้กับคนตรงหน้า “อะไรของเขาวะ เมื่อคืนเพิ่งจะสารภาพรัก บอกว่าชอบเรา ตอนนี้กับมีอาการหน้าตึง แถมพูดจากระโชกโฮกฮากใส่เราเหมือนเดิมอีก” ทิวาคิดในใจพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่าย ด้วยความสงสัย “มึงจ้องหน้ากูทำไม สงสัยอะไรก็ถามกูสิ” ภาคินถามคนตรงหน้าเสียงดุ
หลังจากเกมส์การแข่งขันจบทุกคนต่างก็พากันเก็บของเก็บอุปกรณ์ แต่จู่ๆ ไทม์ก็เดินลงมากับเพื่อนแล้วตรงดิ่งมาหาทิวาที่กำลังเก็บสัมภาระอยู่ “สวัสดีครับน้องทิวา” ทิวาที่กำลังเก็บของอยู่เงยขึ้นมองหน้าผู้ชายที่เขามาทักเขาด้วยความสงสัย ว่าเขาเป็นใคร แล้วผู้ชายคนนี้รู้จักเขาได้ยังไง และเท่าที่จำได้เขาน่าจะไม่เคยรู้จักผู้ชายตรงหน้ามาก่อน “สวัสดีครับ พี่เป็นใครครับ แล้วรู้จักผมได้ยังไง” “พี่ชื่อไทม์ครับ เรียนอยู่ปี 3 แล้ว พี่อยู่คณะวิทยาศาสตร์”ไทม์แนะนำตัวเองพร้อมกับยิ้มหวานเยิ้มส่งไปที่ทิวา “อ๋อครับ” ทิวาตอบเพียงสั้น ๆ แล้วก็ก้มลงเก็บ สัมภาระตัวเองต่อ “พี่ชอบน้องวานคะรับ พี่จีบน้องวาได้ไหมครับ” ในขณะที่ทิวากำลังก้มหน้าก้มตาเก็บของอยู่ อยู่ดี ๆไทม์ก็โพล่งคำพูดออกมา ทำให้ทิวาถึงกับสะดุ้งตกใจ “พี่ว่าอะไรนะครับ” ทิวาถามไทม์ออกไปด้วยความตกใจอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “พี่บอกว่า พี่ชอบน้องทิวา พี่จะขอจีบน้องทิวาได้ไหมครับ” ไทม์ยิ้มออกมา พร้อมก็บอกอีกฝ่ายออกไป “ไม่ได้!! ห้ามจีบ!!”ยังไม่ทันที่ทิวจะได้ตอบอะไร อยู่ ๆภาคินก็เดินหน้าตึงออกมา พร้อมกับกอดคอทิวาเอาไว้ แล้วก็พูดสวนกลับไปที่ไทม์เสียงเข้มท
วันนี้บรรยากาศที่ชมรมบาสเกตบอลแตกต่างจากทุกครั้งเพราะมีผู้คนมากมายคับคั่ง เต็มไปด้วยสาวน้อยสาวใหญ่สาวแท้สาวเทียม และหนุ่ม ๆมากหน้าหลายตา เข้ามาจับจองที่นั่งภายในชมรมจนเต็มอัฒจันทร์ไปหมด เพราะวันนี้ที่ชมรมบาสเกตบอล มีการแข่งขันกระชับมิตรระหว่างทีมของภาคินกับทีมของมหาวิทยาลัยอื่น ภาคิน พีระ และนที ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงเหมือนเช่นเคย และครั้งนี้ เคนตะ ก็ได้รับโอกาส ในการลงสนามเป็นตัวจริงอีกด้วย และแน่นอนว่าทิวาและโอโซนที่อยู่หน่วยสวัสดิการ ก็ต้องมานั่งอยู่ข้างสนาม เพื่อคอยดูแลนักกีฬาด้วย อาจารย์โจ้หรือโค้ชโจ้ ที่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และเป็นโค้ชให้กับทีมของภาคิน ก็ได้เรียกสมาชิกทุกคนเข้ามาประชุม พร้อมกับสอน และวางแผนเกมก่อนการแข่งขัน และอีกหนึ่งคนที่นั่งอยู่ข้างสนามคือไรวิน ก็มานั่งเชียร์คนรักของเขาอยู่ข้างๆกับโอโซน และทิวาด้วยเช่นกัน เพราะเขาเองก็อยู่ชมรมนี้เช่นกัน แต่อยู่ในฝ่ายสวัสดิการ เหมือนกับทิวาและโอโซน “วันนี้คนเยอะจังเลยนะครับพี่วิน” ทิวาคุยกับไรวินด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ตื่นเต้น “มันก็ต้องเยอะหนะสิ ก็ทีมบาสลงแข่งทั้งที ใครๆก็ต้องอยากมาดู เพราะพวกเขาได้ขึ้นชื่อว่าเ
ณ.ที่บ้านของทิวา วันนี้พ่อแม่ของภาคินและพ่อแม่ของทิวากำลังนั่งคุยปรึกษากันอยู่ภายในบ้าน เพราะวันนี้ ทิวาจะต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัย และต้องย้ายไปอยู่ด้วยกันกับภาคินที่คอนโดในกรุงเทพฯ ทำให้พวกเขาเป็นห่วงทิวากันเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วทิวาไม่เคยเดินทางไกล หรือไปอยู่ที่ไหนไกลหูไกลตาพ่อกับแม่ของเขาเลยสักครั้ง “น้องวา ไปอยู่กับพี่คินเขา อย่าดื้อนะครับลูก ต้องเชื่อฟังพี่คินเขา คิดซะว่าพี่เขาเป็นพี่ชาย ของวานะครับลูก” พ่อตูนบอกกับลูกชายเพียงคนเดียวของเขาพร้อมกับยิ้มอ่อนโยนไปให้ “ห้ามดื้อกับพี่เขานะคะลูกน้องวา เป็นเด็กดี เชื่อฟังพี่เขานะครับ อาฝากน้องวาด้วยนะลูกพี่คิน คิดซะว่าน้องวาเป็นน้องชายของพี่คินอีกคนนะครับ ถ้าน้องดื้อก็จัดการได้เลย อาอนุญาต” แม่จูน บอกกับลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ ก่อนจะหันไปคุยกับ ลูกชายของเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับฝ่าฝังลูกชายของตัวเอง “โธ!!พ่อครับแม่ครับ วาโตแล้วนะครับ ดูแลตัวเองได้ และอีกอย่างคำว่าพี่ชายน้องชาย ก็พูดกรอกหูทุกวัน จนวาจำขึ้นใจได้แล้วครับ” ทิวาที่นั่งอยู่ กับพ่อกับแม่ของเขา บ่นอย่างกะปอดกะแปดออกมา “เด็กคนนี้นี่ ยอกย้อนเก่งนัก เดี๋ยวเถอะ”
Comments