แค่เขาบอกว่า "จำไม่ได้แล้วไม่อยากจำ" แข้งขาที่ยืนอยู่ก็แทบจะทรุดลงตรงนั้น
View More“เรื่องสินค้าเอายังไงต่อดีครับป๊า” ราเชนเอ่ยถามกับผู้เป็นพ่อที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของเขาพร้อมกับเดินมานั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะจ้องมองไปที่ลูกชายที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่“ก็แค่รับของกับทางของไอ้ไท่น้อยลง แล้วไปซื้อกับทางคุณสายฟ้าแทนก็แค่นั้น”"แล้วทำไมป๊าไม่ยกเลิกไปเลยล่ะครับ""พวกมันยังมีประโยชน์กับเราอยู่ แล้วอีกอย่างของพวกนี้ทางฝั่งคุณสายฟ้ายังไงก็ต้องขายให้เราอยู่ดี" เซียวบอกลูกชายด้วยความมั่นใจ“ใช่คนที่ป๊าบอกให้ผมไปคุยด้วยรอบนั้นมั้ยครับ แต่คนที่ผมคุยด้วยวันนั้นชื่อลินนี่ครับ” ราเชนยิ้มมุมปากออกมา ภาพร่างกายขาวเนียนของอีกฝ่ายยังติดตาของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไอ้รันไม่เข้ามาขัดเขาซะก่อนของเล่นชิ้นนั้นก็คงไม่หลุดมือเขาไปไหนได้หรอก“ไม่ใช่ คนที่แกไปคุยกับเขารอบนั้นคือลูกชายของเขา ตัวจริงเขาอยู่ที่อิตาลีนู้น” เซี
แผ่นหลังของอลินตาแตะลงบนเตียงพร้อมกับร่างของคีรันโน้มลงมาทาบทับอย่างไม่เต็มตัวนักเพราะกลัวอีกคนจะรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหว ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอย่างกระหาย ลิ้นร้อนไล่กวาดชิมความหวานของริมฝีปากบางพร้อมดูดดึงปลายลิ้นของอีกฝ่ายจุ๊บ จ๊วบเสียงบดจูบ เสียงน้ำลายดังคละคลุ้งไปทั้งห้อง สองร่างนอนกอดเกี่ยวกันเมื่อทั้งสองต่างก็โหยหายกันและกันทั้งอีกฝ่ายยังมีแอลกอฮอล์ในร่างกายที่ดื่มมาเยอะพอสมควรอีกจึงมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาอย่างไม่คิดอายคีรันผละใบหน้าออกห่างเล็กน้อยก่อนจะไล่จมูกลงบนซอกคอขาว อลินตาร้องขึ้นเบาๆ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ร่างหนามองรอยสีกุหลาบที่ตัวเองทำเมื่อกี้พร้อมยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจก่อนจะเริ่มปลดกระดุมของคนใต้ร่างออกจนร่างขาวโพลนปรากฏต่อหน้าคีรันพลิกให้อลินตานอนคว่ำยกตัวขึ้นในท่าคลานเข่า ก่อนจะไล้ริมฝีปากกดจูบไปทั่วแผ่นลงมาจนถึงสะโพกงอนที่ยังมีกางเกงขาสั้นปกปิดความ
ถึงวันที่อลินตาต้องเดินทางไปเที่ยวกับสกายที่เกาะแห่งหนึ่งทางใต้ที่มีโรงแรมของเขาตั้งอยู่ที่นั่นด้วย อลินตากับสกายใช้เวลาเดินทางครึ่งค่อนวันก็ถึงโรงแรมของลิน มาถึงเขากับสกายก็แยกกันพักคนละห้องก่อนจะพากันออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาดร่างบางในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีครีมเดินตามหลังเพื่อนลงมาที่ริมหาดหลังจากที่เดินไปบอกให้พนักงานเตรียมอาหารมื้อค่ำให้ และบอกให้พี่กันต์กับบรู๊คพักผ่อนได้ตามสบาย“อ่าา ไม่ได้มาเดินเล่นอยู่ที่ริมทะเลแบบนี้ก็นานแล้วนะ” สกายพูดขึ้น“กูก็ไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน” สกายหันไปมองเพื่อนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างตัวเองก่อนจะยิ้มออกมา แล้วหันไปมองทะเลตรงหน้า“เล่นน้ำกันมั้ยมึง” อลินตาหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะส่ายหน้าออกมา ชวนเล่นน้ำไม่ได้ดูแดดประเทศไทยเลยสักนิดอีกนิดเขาเกรียมเหมือนไก่ย่างได้แล้วมั้ง“มึงดูแดดก่อนสิไอ้กาย ร้อนจะตายมึงจะเล่นก็เล่น
คีรันมาอยู่ที่ฮ่องกงได้สองวันแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขากอดลาคนตัวเล็กรันก็ไม่ได้ติดต่อไปหาคนตัวเล็กอีกเลย เพราะอยากจะตามสืบเรื่องที่ยังค้างคาในใจของตัวเองทั้งอยากจะสะสางเรื่องลูกค้าที่กู้เงินยังไม่ยอมจ่ายอีกเป็นสิบๆ คน“เดี๋ยววันนี้กูจะไปเยี่ยมคุณเซียวที่บ้านใหญ่เขา พวกมึงเตรียมของฝากไว้ให้เขาหรือยัง”“เตรียมแล้วครับ” คีรันสั่งลูกน้องให้หาของฝากไปฝากคนที่เขากำลังจะไปเยี่ยมที่บ้าน เมื่อถึงเวลารันก็ให้ลูกน้องขับรถพาไปที่บ้านของคุณเซียวทันที“อารัน ดีๆ มาๆ เข้ามานั่งข้างในก่อน” ชายหนุ่มสูงวัยอายุราวๆ หกสิบต้นๆ เรียกให้แขกคนสำคัญเข้ามานั่งดื่มน้ำชาในห้องรับแขก ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปข้างในพร้อมกับถือของฝากในมือเข้าไปในห้องด้วย“สวัสดีครับคุณเซียว ไม่เจอกันตั้งนานสบายดีนะครับ” รันเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะด้วยใบหน้ายิ้ม และเดาว่าอีกฝ่ายก็
ดวงตาสีน้ำตาลกะพริบตาถี่ๆปรับสายตา เมื่อลืมตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลพร้อมขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บแผลตรงหน้าท้อง“อ่า เจ็บฉิบหาย” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองรอบๆ ห้องเพราะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับห้องที่ตัวเองนอนอยู่ ก่อนดวงตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างของใครสักคนที่นอนขดเหมือนลูกแมวอยู่ข้างๆ ตนมือหนาเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าเนียนขาว เผลอยกยิ้มให้กับภาพตรงหน้า คีรันนอนมองใบหน้าของร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะนึกไปถึงตอนที่คนตัวเล็กพูดความในใจของตัวเองออกมาตอนอยู่ที่ผับคีรันอยากจะพูดขอโทษคนตัวเล็กเป็นพันๆ ครั้งแต่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถหักล้างความผิดของตัวเองไปได้มากแค่ไหนเพราะเขาได้สร้างบาดแผลที่ยากจะรักษาให้มันหายขาดได้ง่ายๆ ให้กับคนตรงหน้าคีรันค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้อลินตาอย่างอยากลำบาก จนใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกับไม่ถึงคืบรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตรงหน้าใบหน้าห
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีดำเดินเข้ามาในผับพร้อมกับพี่กันต์ที่เดินตามหลังมา ทั้งสองคนตกเป็นเป้าสายตาของคนในผับคนหนึ่งตัวเล็กหน้าหวาน อีกคนตัวสูงใหญ่หน้านิ่งพร้อมเชือดทุกคนที่เข้ามายุ่งกับคนตรงหน้า“พี่กันต์เข้าไปนั่งด้วยกันข้างในก็ได้นะครับ” ลินเอ่ยบอกพี่กันต์หลังจากที่เดินมาส่งเขาถึงหน้าห้องวีไอพี“ไม่เป็นไรครับคุณหนู”“ถ้างั้นพี่กันต์อยากนั่งดื่มก็เต็มที่เลยนะครับ” พี่กันต์ก้มหัวให้คนเป็นนายเล็กน้อยก่อนลินจะเดินเข้าไปในห้องลินเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าตัวเองมาเป็นคนสุดท้าย คนที่อยู่ในห้องจ้องมองมาที่อลินตาเป็นจุดเดียวก่อนสกายจะเดินมาหาเขาแล้วลากไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน“สวัสดีครับน้องลินไม่เจอกันนานเลยนะครับ” ศิลาเอ่ยทักทายเพื่อนของน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน“ครับ
ผลั๊ว!!“อึ่ก! ถุ๊ย!” ใบหน้าของชายหนุ่มหันไปตามแรงของหมัดที่ต่อยลงมาที่ใบหน้าของตัวเองก่อนจะพ่นของเหลวสีแดงออกมาจากริมฝีปาก ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้านายของพวกมันที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงหน้ามองมาที่ตัวเอง“ซ้อมกูให้ตายแม่มึงก็ไม่มีทางฟื้นกลับมาหามึงได้หรอกนะไอ้รัน หึหึ” ราเชนพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะที่จะตายอยู่รอมร่อ“ปากดีไอสัตว์! เดี๋ยวมึงจะได้ตายตามแม่กูไป”“ก็เอาสิถ้ากูตายไปแก๊งมึงก็คงจะได้ตายตามกูไปด้วย หึ”“แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะยอมตายตามมึงไปมั้ยละ คนอย่างมึงก็เก่งแต่เห่าขู่คนนั้นคนนี้ไปทั่วแต่เดี๋ยวมึงก็จะไม่ได้เห่าขู่ใครไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ” ราเชนที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าหวั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกน้องของคีรันเดินมาพร้อมอุปกรณ์อะไรสักอย่างบนถาดสเตนเลส
ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวเหลือบมองขึ้นไปยังหน้าห้องวีไอพีที่อลินตาหายเข้าไปในห้องนั้นกันแค่สองคน คีรันมองไปที่ชายหนุ่มใส่สูทที่ยืนอยู่หน้าห้องวีไอพีก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพยักหน้าส่งให้คีรัน บอดี้การ์ดหนุ่มหันไปกระซิบบอกกับเพื่อนอีกคนก่อนจะเดินลงมาและเดินไปทางประตูด้านหลังของร้านเมื่อเดินมาถึงบอดี้การ์ดหนุ่ม ก็เจอกับคีรันที่ยืนอัดนิโคตินเข้าปอดระหว่างที่รอเขาเดินไปหา“จับตาดูไอ้เหี้ยราเชนนั่นให้ดีๆ กูขายกับมันมาหลายปีกูรู้ว่ามันนิสัยเหี้ยขนาดไหน” คีรันพูดบอกอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ครับ”“แล้วนัดมันมาคุยเรื่องอะไรกันที่นี่” คีรันอัดนิโคตินเขาปอดอีกรอบพร้อมถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า“เรื่องซื้อขายอาวุธครับ”“นี่เขาคิดจะมาขายอาวุธกับลูกค้าประจำป๊ากูเพื่อตัดราคากันหรือไง” คีรันพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนักเมื่อรู้ว่าอลินตาคิดจะขายอาวุธให้กับลูกค้าประจำขอ
อลินตาเดินออกมาจากห้องด้วยประชุมใบหน้านิ่งที่ไม่แสดงอาการใดๆ ให้ใครเห็นก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของตัวเองพร้อมกับล็อกประตูเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนแม้แต่พี่กันต์ที่เดินตามหลังเขามาก็ตามประตูห้องปิดลงพร้อมกับร่างบางทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าประตูบานใหญ่อย่างหมดภาพลักษณ์ของประธานบริษัท น้ำตาสีใสที่อลินตากักเก็บเอาไว้ข้างใน ส่วนลึกของร่างกายตอนนี้มันกำลังเอ่อคลอรอบดวงตาของเขา พลันในที่สุดน้ำตาหยดแรกก็หยดแหมะลงบนกางเกงอันแสนแพงของเขาและหยดต่อๆ ไปก็ร่วงรินไหลออกมาตามๆ กัน“ฮึก อะ อึก” เสียงร้องไห้ดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ พร้อมกับน้ำตาเจ้ากรรมที่ไหลออกมาไม่หยุด ความในใจที่มีมากจนเอ่อล้นออกมาเป็นน้ำตาที่ตนไม่สามารถพูดออกมาได้เมื่อเจอคนที่ตัวเองไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอ อลินตานั่งร้องไห้อยู่หน้าประตูห้องสักพักใหญ่จนคลายสะอื้นลง จึงค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้ทำงานของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ทางฝั่งของคีรันหลังจากที่อลินตาพูดประโยคนั้นใส่หน้าเต็มๆ ขาแกร่งที่ยืนอยู่ก็แทบทรุดลงตรงนั้น แต่ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงให้ได้เพราะเขาเป็นคนเลือกให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง แม้ตอนนี้เขาอยากจะอ
เสียงประกาศจากประชาสัมพันธ์ในสนามบินดังขึ้นรอบทิศทาง ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างเดินสวนกันไปมาในสนามบินแห่งนี้ สองขายาวก้าวเดินไปตามทางเมื่อเจอเข้ากับคนที่มายืนรอรับ เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนที่มารอรับ ‘คีรัน’ ทักทายเพื่อนด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานหลายปี“เป็นไงบ้างมึงกว่าจะกลับมาให้กูเจอหน้า” ‘ศิลา’ เพื่อนของคีรันเอ่ยทักขึ้นเมื่อคีรันเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า“สบายดีมึงละ”“ก็โอเคดี”“อืม งั้นกลับกันเถอะกูง่วงมากตอนนี้”สองเพื่อนรักเดินคู่กันไป ก่อนสายตาของคีรันจะหันไปสบเข้ากับร่างของใครสักคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แม้เวลาจะผ่านมานานแต่เขาก็ยังจำคนคนนั้นได้ ผู้ชายในชุดสูทสีน้ำเงินที่กำลังยืนมองซ้ายมองขวาเหมือนรอใครสักคนอยู่ตรงนั้น“มึงเดี๋ยวยืนรอกูอยู่นี่นะ”“มึงจะไปไหน”“ทักทายคนรู้จัก” คีรันปล่อยให้ศิลายืนเคว้งอยู่ตรงนั้นก่อนจะเดินไปหาใครบางคน“อ๊ะ!!”“sorry!คุณเจ็บตรงไหนมั้ยครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกันคนตัวเล็กที่ตัวเองเดินชนเข้าเมื่อสักครู่‘อลินตา’ ที่กำลังยืนรอคนมารับจู่ๆ ก็โดนใครที่ไหนก็ไม่รู้เดินมาชนไหล่เขาจนตัวของลินเซไปด้านหลังเล็กน้อยเพราะมัวแต่มองหาเพื่อนโดยไม่...
Comments