แค่เขาบอกว่า "จำไม่ได้แล้วไม่อยากจำ" แข้งขาที่ยืนอยู่ก็แทบจะทรุดลงตรงนั้น
더 보기เสียงประกาศจากประชาสัมพันธ์ในสนามบินดังขึ้นรอบทิศทาง ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างเดินสวนกันไปมาในสนามบินแห่งนี้ สองขายาวก้าวเดินไปตามทางเมื่อเจอเข้ากับคนที่มายืนรอรับ เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนที่มารอรับ ‘คีรัน’ ทักทายเพื่อนด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานหลายปี
“เป็นไงบ้างมึงกว่าจะกลับมาให้กูเจอหน้า” ‘ศิลา’ เพื่อนของคีรันเอ่ยทักขึ้นเมื่อคีรันเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
“สบายดีมึงละ”
“ก็โอเคดี”
“อืม งั้นกลับกันเถอะกูง่วงมากตอนนี้”
สองเพื่อนรักเดินคู่กันไป ก่อนสายตาของคีรันจะหันไปสบเข้ากับร่างของใครสักคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แม้เวลาจะผ่านมานานแต่เขาก็ยังจำคนคนนั้นได้ ผู้ชายในชุดสูทสีน้ำเงินที่กำลังยืนมองซ้ายมองขวาเหมือนรอใครสักคนอยู่ตรงนั้น
“มึงเดี๋ยวยืนรอกูอยู่นี่นะ”
“มึงจะไปไหน”
“ทักทายคนรู้จัก” คีรันปล่อยให้ศิลายืนเคว้งอยู่ตรงนั้นก่อนจะเดินไปหาใครบางคน
“อ๊ะ!!”
“sorry!คุณเจ็บตรงไหนมั้ยครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกันคนตัวเล็กที่ตัวเองเดินชนเข้าเมื่อสักครู่
‘อลินตา’ ที่กำลังยืนรอคนมารับจู่ๆ ก็โดนใครที่ไหนก็ไม่รู้เดินมาชนไหล่เขาจนตัวของลินเซไปด้านหลังเล็กน้อยเพราะมัวแต่มองหาเพื่อนโดยไม่ได้สังเกตว่ามึงคนเดินมาทางด้านหลัง
“ไม่เป็นไรมากครับ”
“ขอโทษอีกรอบนะครับ” อีกฝ่ายก้มหัวให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป
อลินตาที่ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรก็เลิกสนใจและหันไปมองหาคนที่จะมารับเขาต่อ พลางดวงตาเล็กก็ก้มมองมองเวลาบนข้อมือตัวเองไปด้วย
นี่มันจะดึกแล้วนะทำไมยังไม่มาอีกเนี่ย
“ลิน! ลินกูมาแล้วมาแล้ววว” ร่างใครบางคนวิ่งเข้ามาปะทะกับตัวของอลินตาจนเกือบจะเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งคู่ โชคดีที่เขาทรงตัวรับเพื่อนได้ทันไม่งั้นละก็ได้ลงไปนอนที่พื้นด้วยกันทั้งคู่แน่ๆ
“เบาๆ ไอ้สกาย”
“ก็กูคิดถึงมึงนี่นา ไปเรียนต่อที่เมืองนอกตั้งนานกว่าจะกลับมาหาเพื่อนได้” สกายพูดพร้อมทำปากยื่นใส่เพื่อนพร้อมกอดอลินตาไม่ปล่อยเพราะไม่ได้เจอกันนาน
“ก็กลับมาแล้วนี่ไง คราวนี้จะอยู่ให้มึงเบื่อหน้ากูไปเลย”
“ฮ่าๆ ดีเลยกูจะได้ไม่เหงา”
“ทำอย่างกับตัวเองอยู่ตัวคนเดียวอย่างนั้นแหละ แล้วนี่แฟนมึงไปไหนไม่ใช่ว่าหนีไปอยู่กับสาวที่ไหนนะ” ลินพูดเย้าเพื่อนก่อนที่มันจะทำหน้างอนใส่ลิน
“นั่นปากหรืออะไร พูดแบบนี้กูให้เดินกลับบ้านเองแล้วนะ”
“เอ๊ยย! กูล้อเล่นมึงก็นะ งอนเป็นเด็กๆ ไปได้”
“ก็ถ้ากูพูดว่าแฟนมึงไปมีคนใหม่มึงจะ… อุ๊ปส์” สกายยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้เมื่อรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป
“กูอยากกลับบ้านแล้วไปกันเถอะ” ลินพูดตัดบทเพื่อนขึ้นก่อนจะลากกระเป๋าเดินนำเพื่อนออกไป
นั่งรถมาได้สักพักสายฝนก็กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ขาดสายราวกับฟ้ากำลังร้องไห้ พลันอลินตาก็นึกไปถึงวันที่ทำให้ชีวิตของเขาถึงกับไม่อยากมีความรักอีกเลย
ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนตากฝนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหนราวกับหุ่นรูปปั้น มองผ่านหลังไปไม่ไกลก็เจอกับชายอีกคนที่กำลังยืนกอดกับผู้หญิงอยู่หน้าตึกพร้อมใบหน้าที่จุดแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
มือทั้งสองข้างกำแน่นจนคิดว่าเล็บจะฝังเข้าไปกับฝ่ามือ พร้อมดวงตาทั้งสองข้างที่กำลังร้องไห้ออกมาแข่งกับสายฝน เขายืนดูเหตุการณ์ทุกอย่างจนกระทั่งคนทั้งคู่เดินขึ้นรถไปด้วยกันและขับรถหายลับตาเขาไป
ลินไม่ชอบสายฝน เขาไม่ชอบเพราะมันทำให้เขาหมดศรัทธาในเรื่องของความรักความไว้ใจที่เขามอบให้กับคนคนนั้นไป และสายฝนก็พาเขาคนนั้นหายไปจากชีวิตของลินด้วยเช่นกัน
แม้เวลาจะผ่านมานานนับหลายปีแล้วแต่ชื่อของคนคนนั้นก็ยังติดอยู่ในความทรงจำของลินไม่จางหายไปไหน ผู้ชายที่ทำให้ลินยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่กับเขา ยอมแม้กระทั่งทะเลาะกับพ่อเพราะไม่อยากไปเรียนต่อที่อิตาลีเพื่อที่จะได้ย้ายเข้ามาอยู่กับผู้ชายที่อลินตารัก
แต่สุดท้ายเขาคนนั้นก็หายไปกับสายฝน ไม่มีแม้แต่คำบอกลาสักคำผู้ชายคนนั้นทิ้งไว้แค่เพียงความทรงจำที่ติดอยู่ในใจของลินไม่จางหายไปไหน
สกายขับรถเข้ามาจอดไว้ใต้คอนโดของลินก่อนจะมีชายในชุดสูทสีดำเดินมาเปิดประตูให้ลินกับเพื่อน
สกายมองชายหนุ่มหุ่นกำยำในชุดสูทสีดำอย่างไม่วางตาเพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนด้วยความกลัวเล็กน้อย
หรือที่ไอ้ลินบอกว่าเป็นลูกมาเฟียจะเป็นเรื่องจริงวะ
“เดี๋ยวพี่กันต์ช่วยยกกระเป๋าไปเก็บไว้ในห้องให้ลินด้วยนะครับ” ชายในชุดสูทสีดำก้มหัวให้เจ้านายตรงหน้าก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลังรถเพื่อยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บ
“มึงหิวหรือเปล่า” สกายเอ่ยถามเพื่อน
“ไม่ล่ะตอนนี้กูอยากพักผ่อนมากกว่า”
“งั้นคืนนี้กูนอนที่นี่กับมึงด้วยแล้วกันนะ”
“อื้ม”
อลินตา พิชยพัฒน์ ลูกครึ่งไทย อิตาลี แต่อลินตาเลือกที่จะใช้นามสกุลแม่เพราะไม่อยากให้เพื่อนมองว่าเป็นฝรั่งจ๋าไป ลินเป็นลูกคนที่สองของครอบครัวและเป็นคนที่ถูกทุกคนในบ้านตามใจมากที่สุด แถมทุกคนยังยอมรับเรื่องที่ลินมีคนรักเป็นผู้ชายได้อีกต่างหาก และถึงจะโดนตามใจยังไงแด๊ดก็ยังเป็นคนเดียวที่กล้าขัดใจลินในเรื่องที่ลินขอเรียนต่ออยู่ที่ไทย จนทั้งแด๊ดและลินเกือบจะเข้าหากันไม่ติด
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอลินตาก็ตัดสินใจดร็อปเรียนที่ไทยแล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่อิตาลีตามที่แด๊ดบอก ลินเริ่มต้นทุกอย่างที่อิตาลีใหม่หมดและหาอะไรทำระหว่างที่เรียนอยู่ที่นั่นเพื่อไม่ให้ตัวเองมีเวลาว่างมานั่งร้องไห้คิดถึงใครคนนั้น
รุ่งเช้าอลินตาได้พักผ่อนเต็มที่หลังจากที่เหนื่อยจากการเดินทางนั่งเครื่องมาจากอิตาลีเพื่อกลับมาที่ไทย ตอนนี้อาการเหนื่อยล้าก็ได้รับการผ่อนคลายเป็นที่เรียบร้อย เมื่อตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เขาได้รับในทุกๆ วันนั่นก็คือกาแฟที่พี่กันต์บอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาเป็นคนจัดการชงมาให้ดื่มทุกเช้า
“ขอบคุณครับ” ลินพูดพร้อมเอื้อมมือไปรับกาแฟที่พี่กันต์ชงมาให้
“วันนี้ลินต้องทำอะไรบ้างครับพี่กันต์”
“วันนี้คุณหนูต้องเข้าไปที่บริษัทเพื่อเข้าประชุมกับผู้ถือหุ้นโรงแรมครับ” กันต์เอ่ยบอกกับลูกของเจ้านาย
“ครับ” ลินนั่งจิบกาแฟพร้อมกับอ่านข่าวในไอแพดไปได้สักพักสกายที่นอนอยู่ในห้องก็เดินออกมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับลินพร้อมกับสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงจากการตื่นนอน
“มึงตื่นนานยังเนี่ย ห๊าววว~” สกายถามเพื่อนตรงหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง
“ก่อนมึงจะตื่น 20 นาที”
“ตื่นเช้าอะไรขนาดนั้นวะ ขอบคุณครับ” พี่กันต์เดินเอากาแฟมาให้สกายก่อนเพื่อนพูดมากของลินจะเอ่ยขอบคุณกลับไป
“ก็วันนี้ฉันมีประชุมที่บริษัท แล้วแกจะแยกกลับเลยมั้ย”
“โห่ อะไรอะเพิ่งกลับมาเองนะ จะเริ่มทำงานตั้งวันแรกเลยหรอ” สกายพูดเสียงอ่อยกับเพื่อน เขาเพิ่งจะได้เจอเพื่อนในรอบหลายปีที่ลินไปเรียนอยู่อิตาลีพอกลับมาที่ไทยก็เข้าไปทำงานเลยมันน่าน้อยใจนัก
“ก็แค่วันนี้วันเดียวเองแกจะบ่นทำไม” อลินตาพูดขึ้นหน้านิ่งๆ
“ก็ฉันว่าจะชวนแกไปเที่ยวทะเลสักหน่อยอะ”
“แล้วจะไปเที่ยวไหน ไปเกาะที่มีโรงแรมฉันมั้ยละ จะได้ให้พี่กันต์จัดการเรื่องโรงแรมให้”
“อื้มๆ ดีๆ อยากไปที่นั่นแหละ” สกายพยักหน้าจนหัวโยกเหมือนหมาโกเด้นดีใจเวลาเจ้าของพาไปเที่ยว
“แล้วสรุปมึงเป็นลูกมาเฟียจริงๆ หรอวะ”
“ก็กูเคยบอกไปแล้วมึงจะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของมึง” ลินพูดพร้อมยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย ความขมของกาแฟที่พี่กันต์ชงมาให้ ทำให้ลินตื่นเต็มตาหลังจากร่างกายได้รับหารพักผ่อน
“กูเชื่อมึงเพราะเห็นว่าพี่คนนั้นมาคอยดูแลมึงเนี่ยแหละ ดูจากหน้าตาแล้วใครเข้ามาใกล้มึงคงโดนจับหักกระดูกเป็นว่าเล่นแน่ๆ” สกายพูดพร้อมเหลือบไปมองบอดี้การ์ดของเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงที่พวกเขานั่งเท่าไร
ทั้งสองคนนั่งดื่มกาแฟด้วยกันเสร็จสกายก็กลับบ้านไป ส่วนลินก็เตรียมตัวไปเข้าประชุมที่บริษัท
ขาเรียวยาวก้าวเดินเข้าไปในบริษัท พนักงานที่เดินผ่านไปมาถึงกับหยุดเดินพร้อมกับยกมือไหว้เจ้าของบริษัท อลินตาที่อยู่ในชุดสูทสีเขียวเข้มเดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับพี่กันต์บอดี้การ์ดส่วนตัว
เมื่อถึงเวลาประชุมผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เริ่มทยอยเข้ามาในห้องประชุม แต่ก่อนที่จะได้เริ่มประชุมประตูห้องก็เปิดขึ้นเสียก่อนพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงที่ปรากฏตัวขึ้นหลังประตูห้อง
“ขอโทษที่สายนะครับ” ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำกล่าวเอ่ยขอโทษคนในห้องก่อนจะเดินไปนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามไม่ไกลจากอลินตามากนัก
สองสายตาสอดประสานจ้องกันไปมาอย่างไม่ลดละ ใบหน้านิ่งไร้อารมณ์ของอลินตายากที่จะเดาได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งเริ่มประชุมลินจึงเป็นฝ่ายละสายตาออกไปก่อน พร้อมกับหันไปโฟกัสกับการประชุมตรงหน้าแม้จะรู้สึกตัวว่ากำลังมีคนจ้องตัวเองอยู่ก็ตาม
เมื่อการประชุมจบผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ก็เดินเข้ามาทักทายอลินตา เพราะรู้ดีว่าเขาคือลูกของเจ้าของบริษัทและเป็นประธานบริษัทคนใหม่ที่คนเป็นพ่อเพิ่งจะแต่งตั้งเขาขึ้นมาแทนพี่ชายของเขาที่บินไปรับตำแหน่งแทนเขาที่อิตาลี
แต่ก่อนที่จะได้เดินออกไปจากห้องประชุมคนที่นั่งอยู่ในห้องเป็นคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้ลุกออกจากห้องไป ก็ลุกขึ้นเดินมาหาลินร่างสูงดันตัวของอลินตาให้แผ่นหลังชิดไปกับผนังห้อง พร้อมกับใช้แขนแกร่งกักตัวของเขาเอาไว้ ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวของอีกฝ่ายจ้องมองลินอย่างไม่ละสายตาไปไหน
อลินตาจ้องมองใบหน้าที่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบแปดปี มีแค่เพียงรอยสักบนต้นคอของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นที่ดูแปลกตาไป
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ลินเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน พร้อมจ้องมองอีกคนด้วยใบหน้านิ่ง
“ไม่เจอกันตั้งนานยังจำกันได้อยู่หรือ”
“ผมจำคุณไม่ได้ขอโทษทีนะครับ”
“จริงหรอครับ” ใบหน้าหน้าคมโน้มลงมาใกล้จนจมูกของทั้งสองคนเกือบจะชนกัน
อลินตาเอ่ยบางอย่างขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะชะงักนิ่ง
“ผมลืมคุณไปตั้งนานแล้วไม่อยากจะจำด้วยว่าคุณเป็นใคร”
“หนูลืมป๊าแล้วจริงๆ หรอครับ”
เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที
สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล
คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq
“ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล
"ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที
ช่วงสายของวันอลินตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวเล็กน้อยเพราะเมื่อวานร้องไห้ไปเยอะ เปลือกตาสีไข่กะพริบตาขึ้นลงเพื่อปรับสายตากับแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ภาพตรงหน้าของเขาตอนนี้คือฝ้าเพดานสีขาวสว่างก่อนที่รอบดวงตาจะรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมา หยดน้ำตาร่วงรินไหลลงมาข้างหางตาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้เบาๆเสียงเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่เข้ามาตรวจอาการของลิน สายฟ้าที่นอนหลับอยู่ที่โซฟาในห้องพักกับสกายก็สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหมอและพยาบาลพูดคุยกับคนไข้บนเตียง“ตอนนี้คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วถ้ายังไงหมออยากให้คุณระวังตัวให้มากขึ้นด้วยนะครับเพื่อตัวคุณแล้วก็เด็กในท้องครับ”“ครับ?” คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงนั่งมึนอยู่กับคำพูดของหมอเมื่อครู่เขาท้องอย่างนั้นเหรอ?“อะไรนะครับหมอ” สายฟ้าที่ได้ยินหมอพูดเมื่อกี้ก
ปัง!!เสียงปืนดังขึ้นมาจากทิศทางหน้าประตูห้องพร้อมกับการปรากฏร่างของสายฟ้ากับสกายและลูกน้อง ฝั่งของเสี่ยสิงห์เมื่อได้ยินเสียงปืนที่มาจากทิศทางอื่นลูกน้องก็รีบวิ่งไปคุ้มกันพร้อมทั้งยังพาไปหลบในมุมคีรันเมื่อเห็นว่าทุกคนวิ่งหาที่หลบก็รีบพาอลินตาวิ่งไปหาสายฟ้า“หลบ!” เสียงของสายฟ้าร้องขึ้นเมื่อเห็นพายุที่หลบอยู่หลังโซฟาตัวใหญ่เล็งปืนมาคีรัน คีรันดันให้คนรักก้มลงพร้อมทั้งใช้ตัวเองบังเอาไว้ ก่อนที่สายฟ้าจะส่งสัญญาณให้รีบวิ่งออกไปปัง!กระสุนจากพายุยิงมาโดนแขนของคีรันจนเลือดไหลย้อยลงมาตามแขนซึ่งเป็นช่วงที่ลูกน้องของสายฟ้ายิงสะกดพวกเสี่ยสิงห์เอาไว้ให้คีรันกับอลินตารีบหนีไปขณะที่กำลังจะวิ่งไปถึงหน้าลิฟต์ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมกับลูกน้องของเสี่ยสิงห์ที่ผู้เป็นนายเรียกให้ขึ้นม
คีรันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเจ็บบริเวณท้ายทอยตรงที่โดนลูกน้องของเสี่ยสิงห์ใช้กระบอกปืนทุบเขา คีรันอยากจะเอื้อมมือไปจับตรงที่ปวดแต่ก็เหมือนจะยากยิ่งเพราะทั้งแขนและขาของเขาตอนนี้ถูกมัดติดกับเก้าอี้เอาไว้ดวงตาสีเปลือกไข่กะพริบตาถี่เพื่อปรับสายตาก่อนจะเห็นภาพเบื้องหน้าของตัวเอง เตียงนอนหลังใหญ่สีขาวตอนนี้มีร่างเล็กของอลินตานอนหลับอยู่พร้อมทั้งแขนทั้งสองข้างยังถูกมัดติดกันเอาไว้อีก“ฟื้นแล้วเหรอคุณคีรัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอยู่เบื้องหลังของคีรัน พร้อมกับเสียงฝีเท้าของเสี่ยสิงห์เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เขา“ปล่อยเมียกู!” คีรันเอ่ยบอกคนที่ยืนอยู่ๆ ข้างๆ เขาด้วยน้ำเสียงเรียบโดยไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิดว่าตัวเองจะถูกอีกฝ่ายฆ่าทิ้ง“อ่า อย่าเพิ่งรีบร้อนสิครับ ผมยังไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆ ให้คุณรันดูเลยนะครับ” ร่างสูงเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงนอนหลังใหญ่ที่มีอลินต
คีรันก้าวเท้าลงมาจากรถหรูด้วยความเร็วก่อนจะโดนมือบางของใครบางคนคว้ารั้งเอาไว้ให้หยุดชะงักนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่จับแขนตัวเอง“พี่รันอย่าเพิ่งไปครับ”และคนที่รั้งแขนของคีรันเอาไว้ก็คือสกายที่คีรันบอกให้รออยู่ที่โรงแรม“ทำไมไม่รออยู่ที่โรงแรมครับ” คีรันที่หันมาเห็นว่าใครเป็นคนคว้ารั้งตัวเขาเอาไว้ ก็หันมาเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ“นี่ขิงเพื่อนของกายเองครับ พอดีขิงบอกว่าตอนนี้แฟนของขิงกำลังนั่งดื่มอยู่กับเสี่ยสิงห์อยู่บนชั้นสาม ซึ่งห้องนั้นกายจำได้ว่ามันเป็นกระจกคนคนในห้องอาจจะมองเห็นพี่รันได้ กายว่าพี่รันรออยู่ข้างนอกก่อนจะดีกว่านะครับ”“พี่รอไม่ได้ครับ”“งั้นพี่รันก็เข้าไปพร้อมกับกายแล้วก็ขิงนี่แหละครับส่วนลูกน้องของพี่รันก็ให้รออยู่ที่รถก่อน เพราะไม่งั้นลูกน้องของเสี่ยสิงห์ต้องสงสัยเราแน่ๆ ครับ” คีรันหันไปสั่งบิคให้รออยู่ด้านนอกแล้วตัวเขาก็เดินตามสกายเข้าไปด้านในดวงตาคมจ้องมองบรรยากาศภายในบ่อน สิ่งอบายมุขต่างๆ มีครบหมดทุกอย่างในที่แห่งนี้และสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในวงการนี้คือการค้ามนุษย์ และที่นี่ก็มีเช่นพวกกระเป๋าหนักที่ชอบเรื่องนี้ก็จะมารวมตัวกันเพื่อประมูลคนสวยๆ งามๆ
댓글