BAD GUY โคตรร้ายโคตรรัก.....

BAD GUY โคตรร้ายโคตรรัก.....

last updateLast Updated : 2025-04-26
By:  มินิซ่าส์Updated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
64Chapters
3views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เพราะอุบัติเหตุทำให้สองพี่น้องต้องมาผูกติดอยู่ด้วยกัน คนพี่ทำงานตัวเป็นเกลียวหาเลี้ยงน้องเพียงลำพัง ในขณะนั้นผู้ช่วยคนสนิทที่มีอายุเท่ากันก็ปรากฏตัวขึ้น อีกทั้งยังมีเพื่อนสนิทที่ไม่คิดเป็นแค่เพื่อน...

View More

Chapter 1

บทที่ 1 พิต๋า......

“เราจะไปไหนกันครับ?” เด็กชายตัวน้อยหันไปร้องถามกับหญิงสาวข้างตัว ที่กำลังขับรถอย่างตั้งอกตั้งใจด้วยใบหน้าเครียดขึง หากเมื่อได้ยินเสียงร้องถาม ใบหน้าหวานล้ำก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนละมุน ละสายตาจากถนนตรงหน้าชั่วครู่ พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับปล่อยมือจากพวงมาลัยรถยนต์ ขยับมาลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา

“เรากำลังจะไปเที่ยวกันครับ” ว่าแล้วก็ดึงมือกลับไป ตั้งใจขับรถเหมือนเดิม

“เที่ยว?” แทนที่จะได้เห็นใบหน้าเล็กตื่นเต้นดีใจ กลับฉายแววประหลาดใจออกมาแทน ทำให้หญิงสาวที่กำลังขับรถอยู่ละสายตากลับมามองอีกครั้งแล้วจึงเอ่ยตอบ

“ใช่ครับ ไปเที่ยว”

“สองคนหรือครับ?” เด็กน้อยเอ่ยปากถามอีกครั้ง ใบหน้าเล็กที่ฉายแววหล่อเหลาแต่เด็กเริ่มขมวดคิ้วหมุนชนเข้าหากันอย่างเคลือบแคลงใจ

“อ่อ......” หญิงสาวเงียบเสียงลงไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบขึ้นมาอีกครั้ง

“เดี๋ยวแด๊ดดี๊ก็ตามมาครับ” ว่าพร้อมหันมาหาพร้อมส่งรอยยิ้มหวานชวนมอง แล้วโน้มตัวขยับเข้ามาใกล้ กดจมูกลงที่ศีรษะเล็กของคนที่เป็นดั่งดวงใจ เอ่ยปากพึมพำ

“หรือคงจะดีกว่าถ้าเขาไม่มา....”

“มัม!!!” เด็กน้อยร้องตะโกนสุดเสียง ทำให้หญิงสาวที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่หันกลับไปสนใจมองถนนหนทาง ก่อนที่ดวงตาสีเฮเซลนัทจะเบิกกว้าง กระทืบเท้าเหยียบเบรกจนตัวโก่ง ทำให้ศีรษะเล็กโขกเข้ากับคอลโทรหน้ารถอย่างรุนแรง เสียงล้อรถบดไปกับพื้นถนนดังสนั่นท่ามกลางป่าเขาที่คดเคี้ยวทอดยาวเบื้องหน้า สิ่งที่สะท้อนเข้าตาคือแสงไฟจากรถยนต์อีกคันที่พุ่งมาในทิศทางตรงกันข้ามด้วยความรวดเร็ว

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดด

โครม!!!

.

.

.

“พี่จ๋า พี่จ๋าาาาาาาา”

ตุ้บ!

“อื้มมม ว่าไงตัวเล็ก” ชายหนุ่มปรือตาขึ้นมองพร้อมกับส่งเสียงถามแหบพร่าราวกับคนที่พึ่งตื่นขึ้นจากนิทรา ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กไปพลาง

“เหนื่อยหย๋อ”

“นิดหน่อยครับ”

“งื้ออออ หนูจะรีบเรียน รีบหางานทำ!” ว่าพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจเต้นอยู่ภายใต้ผิวเนื้อ

“หึหึ พี่ทำได้ สบายมาก” ว่าพร้อมกับยีกลุ่มผมนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะยันตัวขึ้นนั่ง ทำให้คนที่นอนซบอยู่กลิ้งตกจากตัวไปในที่สุด

ชายหนุ่มไม่รอช้า ขยับเข้าไปคร่อมทับ กักขังคนตัวเล็กกว่าให้ตกอยู่ภายใต้วงแขนแข็งแกร่ง กดจมูกลงกับแก้มนุ่มนิ่ม สูดลมหายใจเข้าลึก

ฟอด!

“ชื่นใจ”

“คิกคิก หนูไปเล่นมา” คนตัวเล็กกว่าหัวเราะคิกคัก ปัดป้องไปมา ทำให้ชายหนุ่มเริ่มขยับมือไม้ แล้วจับเข้าไปที่ช่วงเอว ก่อนจะบรรเลงนิ้วมืออย่างไม่คอยท่า ทำให้คนตัวเล็กกว่าดวงตาเบิกกว่าและเริ่มดิ้นหนีพร้อมหวีดร้องเสียงหลง

“อ๊าา ไม่เอานะ! พี่จ๋า! งื้อออ ฮะฮะ อะ หยุด อ๊า มะ มะไหวแล้ววว อ้ะ ฮ่าฮ่า ม้ายยยยย” คนตัวเล็กกว่าปัดป้องอุตลุด จนในที่สุดคนพี่ก็ยอมถอนมือออกแต่โดยดี ใบหวานน่ารักจิ้มลิ้มหายใจเหนื่อยหอบจนแก้มแดงปลั่ง เสื้อเลิกขึ้นเล็กน้อย เปิดให้เห็นหน้าท้องขาวเนียนจนคนมองตาพร่า กลืนน้ำลายอึกใหญ่ โน้มตัวลงไปถูไถปลายจมูกลงที่ซอกคอ สูดกรุ่นกลิ่นหอมหวานจากผิวกายขาวละเอียดราวหิมะแรก

“อื้อออ ไม่แกล้งหนูนะ”

“หึ ไม่แกล้งครับ” แต่ทำจริง.... ได้เพียงคิดในใจ ยังไม่ทันทำอะไรได้มากกว่านั้น ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูเบาๆ

“ขออภัยครับ แต่บอสมีประชุมกับทีมต่างประเทศตอน 1 ทุ่มครับ และคุณหนูก็ต้องทำการบ้านด้วยนะครับ” ชายหนุ่มกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย ยอมปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปอีกครั้ง ซึ่งคนตัวเล็กเมื่อตั้งตัวได้ก็วิ่งปรู๊ดขึ้นห้องไปทันทีจนเส้นผมสลวยสะบัดพลิ้วไหว ด้วยเจ้าตัวเข้าใจว่าต้องตั้งใจเรียนเพื่อนตอบแทนเขาให้มากๆ และนั่นทำให้ชายหนุ่มถึงกับโคลงศีรษะด้วยความอ่อนใจ

“โรม......” น้ำเสียงกดต่ำแสดงถึงความหงุดหงิดเล็กๆ ที่ถูกขัดจังหวะ ใบหน้าที่เคยแย้มยิ้มดูอ่อนละมุนแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งเยือกเย็น ตวัดสายตามองคนข้างกาย

“มันจำเป็นครับบอส” โรม หรือ โรมีโอตอบกลับมาด้วยท่าทีนอบน้อม ชายหนุ่มใช้มือข้างซ้ายเสยเส้นผมขึ้นเล็กน้อย เปิดเผยใบหน้าที่งดงามราวกับเทพบุตร อีกครึ่งหนึ่งของใบหน้าถูกปกปิดด้วยเส้นผมสีดำสนิทราวรัตติกาลที่ดำมืด แต่ไม่อาจลบเลือนความสมบูรณ์แบบของใบหน้านั้นลงได้แม้จะถูกเปิดเผยให้เห็นเพียงครึ่งเดียวก็ตามที

“เหอะ.....” เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นเมื่อเหลือบตามองผู้ช่วยคนสนิท ก่อนจะดึงสายตากลับคืน มองตามแผ่นหลังเล็กบางที่วิ่งขึ้นห้องไป ความทรงจำในวัยเด็กย้อนหวนกลับมาอีกครั้งราวกับเรื่องราวนั้นพึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวันวาน......

.

.

.

“มัม!!!”

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดด

โครม!!!

หลังสิ้นเสียงดังสนั่นราวกับฟ้าถล่มทลาย สติสัมปชัญญะก็ดับวูบไปไม่รับรู้อะไรอีกเลย......

“ฮึ้บ! งื้อออ” เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดรวดร้าวแผ่กระจายไปทั่วร่าง ที่ใต้รักแร้รับรู้ได้ว่ามีอ้อมกอดเล็กๆ กำลังทำการกอดรัดและพยายามดึงทึ้งหากแต่เรี่ยวแรงก็น้อยนิดเต็มที

“แฮ่ก แฮ่ก งื้อออ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นที่ด้านหลัง ทำให้เด็กหนุ่มต้องหันไปมอง เห็นเด็กชายคนหนึ่งที่มีดวงตาสีฟ้าสดใสชวนมอง ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มน่าหลงใหล แต่กระนั้นก็ถูกบดบังความงดงามด้วยรอยเลือดจนเปียกชื้น และไหลอาบดวงหน้าไปแถบหนึ่ง

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นอย่างยากลำบาก ตบลงเบาๆ ที่ลำแขนเล็กน้อยนั้นเชิงบ่งบอก ทำให้เด็กชายคนนั้นชะงัก แล้วชะโงกหน้ามามอง ร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“อ้ะ พิชายตื่นแย้วววว” เด็กชายร้องเสียงดังแล้วผละออกไปวิ่งไปที่ทิศทางหนึ่ง เด็กหนุ่มกลั้นใจดึงตัวเองออกจากซากรถยนต์ที่พลิกคว่ำ มือทั้งสองข้างที่เท้าลงกับพื้น ความเจ็บแปล๊บแล่นพล่านไปทั่วตัวทันทีที่เท้ามือลงไป ฝ่ามือใหญ่ถูกบาดไปด้วยเศษซากรถยนต์ที่พลิกคว่ำจนเลือดอาบ แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่เท่ากับข้อเท้าที่บวมช้ำอาบเลือดเพราะถูกกดทับจากการบี้แบนของรถยนต์

หลังจากที่ลากพาตัวเองออกจากซากรถได้ก็นอนแผ่หลาอยู่ที่พื้นข้างถนนไม่สนใจว่าจะนอนทับเศษซากอะไรไปบ้างอย่างเหนื่อยอ่อน ในขณะที่กำลังพักหายใจอยู่นั้นดวงตาที่ปิดพับพลันลืมขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นอย่างรีบร้อน แล้วกะเผลกอ้อมรถไปที่อีกฝั่งหนึ่งในทันที

“มัม!” เด็กหนุ่มร้องออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ถุงลมนิรภัยฟีบแบนจนไม่เป็นรูปร่าง และหญิงสาวคนหนึ่งที่คอหักหันผิดรูปอย่างชัดเจน ร่างทั้งร่างถูกตรึงรั้งไว้ด้วยเข็มขัดนิรภัยห้อยต่องแต่งเอนไหวไปมา จนเห็นรอยบาดลึกเข้าผิวเนื้อ หยาดโลหิตไหลอาบไปทั่วร่างจนถูกย้อมด้วยสีแดงฉานทั่วกาย

“มัม......” เสียงแผ่วเบาราวกระซิบถูกเอื้อนเอ่ยออกจากริมฝีปากสีซีด ไม่ต้องให้ใครมาบอกก็รับรู้ได้ด้วยตัวเองในทันทีว่าคนที่เป็นผู้ให้กำเนิดได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ราวกับใจสลายเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของมารดานอนสลบไสลอยู่ตรงหน้า ภายในหัวใจชาหนึบจนเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ภายในอก น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากดวงตาข้างขวาปะปนกับโลหิตจนกลายเป็นน้ำตาสีเลือด

บรื้นนนนนนนน

เสียงรถที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังไกลๆ นั้น ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้ง ลนลานหาที่หลบภัย และในตอนนั้นเองที่เห็นเด็กชายตัวจ้อยนั่งแปะอยู่ที่พื้นแล้วยกมือขึ้นแตะๆ ใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งราวกับกำลังเล่นสนุก

“มาม๊าาาา ตื่นเย้วววว ตื่นๆๆๆ” ว่าพร้อมกับเขย่าตัวหญิงสาวคนนั้นไปมา ก่อนจะเริ่มปีนป่ายกระโดดทับ

“มาม๊าๆๆ” เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบเดินลากเท้าเข้าไปหา ใช้มือข้างหนึ่งจับมือเล็กเอาไว้ ชั่วขณะหนึ่งเหลือบมองหญิงสาวคนที่เชื่อว่ามารดาของเด็กคนนี้ชั่วครู่ เห็นได้ชัดว่าศีรษะยุบไปข้างหนึ่ง และหน้าตาไร้สีเลือด คงไม่แคล้วว่าได้ตายจากไปเช่นเดียวกันกับมารดาของตน มองเลยไปอีกนิดเห็นรถยนต์คันหนึ่งตะแคงข้าง สภาพด้านหน้าไม่ต่างจากรถของเขาเท่าไหร่นัก หลังจากกวาดสายตามองแล้วก็ดึงลากเด็กชายไปอีกทาง หลบซ่อนอยู่หลังก้อนหินในพื้นที่ใกล้เคียง มองจ้องสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ

มันต้องมีเหตุผล......

เหตุผลอะไรสักอย่าง ที่ทำให้มารดาของเขาเลือกที่จะปลุกเขาขึ้นกลางดึกและพาขึ้นรถอย่างรีบร้อน คำว่าไปเที่ยวนั้นไม่เคยเกิดขึ้นในครอบครัวของเขา ทุกอย่างนั้นเพื่อนธุรกิจ เพื่องาน และเพื่อเงิน ไม่เคยสักครั้งที่จะได้เที่ยวแบบเที่ยวจริงๆ และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน.....

“ส่อนแอบๆ” เสียงใสหัวเราะคิกคัก ไม่เข้าใจสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย ตบมือตบไม้ด้วยความชอบใจ ทำให้เด็กหนุ่มหันไปมอง ยกนิ้วขึ้นจรดริมฝีปาก

“ชู่ว” เด็กหนุ่มหันไปกระซิบใส่พร้อมยกมือขึ้นจุ๊ปากให้เบาเสียงลง เด็กชายตัวน้อยก็ทำแก้มพองลมพร้อมยกมือขึ้นปิดปากเสร็จสรรพ พยักหน้าหงึกๆ อย่างเข้าใจ

เพียงไม่นานนักก็มีรถคันหนึ่งมาจอดลงตรงหน้า คนชุดดำมากมายกรูกันลงจากรถ ร้องตะโกนโวยวายเสียงดังไปทั่วพื้นที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหารถที่พลิกคว่ำอยู่ ซึ่งมารดาของเขาติดอยู่ข้างในนั้น เพียงเท่านั้นก็ไม่รอช้า จับคว้ามือเล็กแล้วเริ่มต้นออกวิ่งในทันที

“มาม๊า มาม๊า!” เด็กชายตัวน้อยดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต ร้อนตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้หนึ่งในนั้นหันมาเจอ และไม่รอช้าที่จะลั่นไกใส่ในทันที

ปัง!

“แง้งงงงงงง” ด้วยความตกใจทำให้เด็กชายตัวน้อยหวีดร้องลั่นเสียงดังยกใหญ่ ทำให้เด็กหนุ่มต้องหมุนตัวไปหา รวบเอาเด็กตัวจิ๋วเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แล้วออกตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ที่หางตาเห็นว่ามีรถยนต์อีกจำนวนหนึ่งขับตามมาและหยุดลง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกระสุนปืนที่สาดใส่กันไม่มีหยุด จนไม่มีใครสนใจกับเด็กตัวเล็กๆ 2 คนอีกต่อไป เด็กหนุ่มอุ้มเด็กตัวจิ๋วไว้ในอ้อมแขน ทิ้งความวุ่นวายเอาไว้เบื้องหลัง

เด็กหนุ่มเดินลึกเข้าไปท่ามกลางป่าเขามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ทราบแน่ชัดว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงกี่ยาม หรือตนเองเดินเข้าป่ามานานเท่าไหร่แล้ว ความมืดมิดโอบล้อมกาย เสียงสรรพสัตว์ดังอยู่รอบตัว เด็กชายตัวน้อยข้างกายยอมเดินตามมาเงียบๆ แถมยังเกาะติดแจไม่ยอมปล่อย ต่างจากตอนแรกที่ส่งเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจในตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงเสียงสะอื้นฮัดๆ จนตัวโยน ท่าทางอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด

“หยุดร้อง” เขาพูดด้วยอาการเหนื่อยอ่อนไม่ต่างกัน กวาดตามองดูทิศทางรอบกายอย่างไร้สิ้นหนทาง อาการบาดเจ็บทำให้รู้สึกว่าแต่ละย่างก้าวถูกถ่วงไว้ด้วยทุ่นเหล็กหนา จนอยากจะนอนแผ่อยู่กลางป่าเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เด็กชายตัวน้อยร้องไห้กระซิกๆ อยู่ข้างๆ เขาโคลงหัวเล็กน้อย ก่อนที่สายตาจะมองเห็นบางสิ่งอยู่ในระยะเอื้อมถึงอย่างเลือนราง

เมื่อมองเห็นไม่ชัดจึงขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ใช้แสงจันทร์ช่วยสอดส่อง เห็นเป็นลูกพลับที่ติดผลอยู่เต็มต้น จึงไม่รอช้าที่จะสาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วเอื้อมจนสุดแขน เด็ดลูกพลับที่อยู่ด้านบนลงมา เช็ดกับเสื้อด้านในเล็กน้อยยื่นส่งให้ เด็กชายตัวจ้อยกะพริบตาปริบ ก่อนจะปากงับลูกพลับเข้าไปทั้งเปลือก เด็กชายทำตาโตส่งให้ กระทืบเท้าอย่างยินดี ทำหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อได้กิน ก่อนจะงับกินเอาๆ ด้วยความหิวโหย

“พิชายชื่อไย” เด็กตัวเล็กหันมาร้องถามพร้อมเอียงคออย่างน่ารักน่าชัง ดวงตาสีฟ้ากลมโตใสแจ๋วส่องประกายท่ามกลางความมืดมิด เด็กหนุ่มทำเพียงยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยตอบออกมาในที่สุด

“ไมเคิล”

ขอบจุนนะไมเคิล” ว่าพร้อมยกยิ้มเต็มดวงหน้า ราวกับโลกสว่างไสว รับรู้ได้ถึงการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะไปชั่วครู่

“แล้วนาย?”

“เอวา! เค้าชื่อเอวา!” ร้องบอกเสียงใส ก่อนจะก้มลง งับกินลูกพลับต่อจนหมดทั้งลูกจนเหลือแต่ก้าน พอหมดก็เงยหน้าขึ้นมองลูกพลับที่ค้างอยู่บนลำต้น ไมเคิลจึงลุกขึ้นช้าๆ อาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าทำให้ปวดจี๊ดขึ้นมา แต่ก็กัดฟันอดทน ไม่มีแม้แต่เสียงร้องออกมาให้ได้ยิน เอื้อมมือสุดแขนอีกครั้ง และเก็บลงมาอีก 2 ลูก ของตัวเองลูกหนึ่งและของเอวาลูกหนึ่ง

ทั้งคู่นั่งคุยกันไปนั่งทานกันไป จนได้ทราบว่าเด็กตัวน้อยนี้อายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น การพูดจายังไม่ชัดเจนนักแต่ก็พอฟังรู้เรื่องอยู่บ้าง ในขณะที่ตัวเขาเองอายุ 8 ปี แม้จะอายุน้อย แต่ก็เรียนถึงเกรด 5 ถ้าให้เทียบ ก็คงเท่าเด็กอายุ 10 ขวบ เพราะใช้การสอบเทียบเอาเกรด ไม่ใช่การเลื่อนชั้นแบบนับอายุ

จนเมื่อท้องอิ่มก็พากันเดินต่อ ทั้งคู่เดินจับมือกันไปเรื่อยๆ พูดคุยกันแผ่วเบาราวกระซิบ จนเมื่อหมดเรื่องที่จะคุย บรรยากาศโดยรอบก็ตกลงสู่ความเงียบสงัด มีเพียงเสียงย่ำเท้าที่ดังเป็นจังหวะของเด็กทั้ง 2 คน เพราะความเงียบที่กลืนกินรอบกาย เด็กตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะกระตุกแขนเบาๆ แล้วเอ่ยถาม

“มะไรจะกลับไปหามาม๊าอ่า.... หนุอยากกลับบ้านแย้วววว” ไมเคิลได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน ก่อนจะตอบกลับไป

“เดี๋ยวก็ได้เจอ ทนหน่อยนะ” พูดพร้อมกับลูกศีรษะเล็กเบาๆ

“นั่น!! มันอยู่นั่น!!” เสียงร้องของชายคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดทำให้เขาสะดุ้งเฮือก รีบดึงมือเล็กให้ไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้ในทันที

ปัง!

ปังๆๆๆ

กรรรรรรรรร

เสียงปืนดังขึ้นทั่วบริเวณ พร้อมกับเสียงคำรามของสัตว์บางชนิด ก่อนที่เสียงนั้นจะห่างไกลออกไป ทำให้เขาพรูดลมหายใจออกมาช้าๆ มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีใครในบริเวณนี้ จึงค่อยๆ ย่องออกมาจากที่ซ่อน แล้วเริ่มต้นออกเดินอีกครั้งด้วยความระมัดระวังมากขึ้น แต่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่นัก เสียงบางอย่างก็ทำให้สองขาหยุดชะงักแล้วเหลียวมองไปรอบตัว

แง้วววววววววววววววว

เสียงนั้นคล้ายกับลูกแมวที่กำลังฝึกขู่ จนทำให้เขาต้องก้มมองลงต่ำ เห็นลำตัวสีขาวสะอาดตาของลูกแมวตัวหนึ่งกำลังพองขนแยกเขี้ยวขู่

“เจ้าแมวววววว” เอวาร้องเสียงใสแล้วเดินเตาะแตะเข้าไปหา จนเขาแทบจะคว้าคอเสื้อเอาไว้ไม่ทัน ดึงรั้งให้เด็กน้อยหยุดนิ่ง ส่วนตัวเองขยับเดินเข้าไปใกล้ ทรุดตัวลงคุกเข่าลงตรงหน้าเจ้าลูกแมวนั้น เขานิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อต้องคุกเข่าเพราะอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า แต่กระนั้นก็ยื่นมือออกไปตรงหน้าช้าๆ เพื่อเอื้อมจับเจ้าลูกแมวตัวร้ายที่กำลังขู่ฟ่อ

แง้ว!!

แควก!

“พิชาย!” เอวาร้องเสียงดังอย่างตกอกตกใจ ไมเคิลปรายตามองรอยเล็บปรากฏขึ้นหลังมือตามมาด้วยหยาดโลหิตที่ไหลซึม หากแต่ก็ไม่สนใจมากนัก เอื้อมมือจับคว้าอีกครั้ง และครั้งนี้ก็จับได้สมใจ

ฉึก!!

“พิชาย!! แมวไม่ดี! ตีนะ!” เอวาร้องตวาด แล้วทำท่าจะขยับเข้ามาตีจริงๆ หากแต่ไมเคิลกลับยกมือขึ้นห้าม แล้วดึงให้เจ้าลูกแมวน้อยหลบหนีการโจมตี เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้องของตน ยกมืออีกข้างลูบศีรษะเล็กที่ปกคลุมไปด้วยขนสีขาวเบาๆ จนกระทั่งเจ้าแมวน้อยยอมคายคมเขี้ยวออกในที่สุด แล้วใช้ลิ้นสากตวัดเลียเบาๆ ไมเคิลยกยิ้มบางเบา แล้วจึงจับเจ้าลูกแมวตัวน้อยส่งให้เอวาอุ้มบ้าง

“ห้ามตี มันปกป้องตัวเอง เข้าใจไหม” เอวาพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะทวนคำ

“มะตี” ไมเคิลอุ้มเจ้าลูกแมววางลงในอ้อมกอดของเด็กน้อย เอวาตาวาวเมื่อได้อุ้ม ก่อนจะทวนคำอีกครั้ง

“อื้อๆ มะตี”

แง้ว!

“เอวา” ไมเคิลกดเสียงดุ ทำให้เด็กน้อยมุ่ยหน้าแล้วยอมปล่อยมือจากใบหูที่ตนกำลังดึงทึ้งของเจ้าลูกแมวแต่โดยดี ในตอนที่กำลังจะหมุนตัวเดินต่อ ก็ต้องชะงักนิ่งเมื่อหันกลับมาแล้วเจอสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่ากำลังมองจ้องเขม็ง ไมเคิลขาแข็งค้าง ในขณะที่เอวาร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

“แมวยักษ์!” เอวาขยับตัวจะเดินเข้าไปใกล้ และนั่นทำให้ ‘แมวยักษ์’ หันขวับมามองทันทีจนไมเคิลสะดุ้ง รีบขยับตัวขึ้นไปยืนขวางหน้า กระซิบบอกกับเด็กน้อยให้ได้ยินเบาๆ

“อย่าขยับ....” ใช่ ห้ามขยับ เพราะเมื่อไหร่ที่ขยับ อาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิต! ไมเคิลมองจ้องตากับสัตว์ตรงหน้าไม่ละสายตาไปไหน ด้วยกลัวว่าหากเผลอไปเพียงสักเสี้ยววิ จะถูกเจ้าแมวยักษ์นั้นตะปบจนเสียชีวิตเอาได้

แง้วๆๆๆๆ

เจ้าลูกแมวตัวสีขาวในอ้อมกอดร้องออกมาเสียงดัง ทำให้เจ้า แมวยักษ์ หรือว่า เสือไซบีเรีย ขยับก้าวถอยหลัง เท้าตะกุยพื้นดินด้านหน้าเตรียมเข้าพุ่งกระโจนเข้าใส่ ไมเคิลหอบหายใจแรงด้วยความตื่นกลัว แต่พยายามสะกดกลั้นอาการนั้นไว้สุดกำลัง ด้วยพื้นฐานครอบครัวที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือความเป็นความตายอยู่เสมอทำให้เขาต้องมีสติให้มาก

กรร!!!

“หนี!!!” ในตอนนั้นเองที่เจ้าเสือไซบีเรียตัวใหญ่พุ่งทะยานเข้าหาอย่างรวดเร็ว ไมเคิลใช้มือผลักเอวาให้หลบไปให้พ้นทางพร้อมทั้งตะโกนออกคำสั่ง ในขณะที่ตนนั้นปักหลักเป็นเหยื่อล่อรอรับความเจ็บปวด พร้อมๆ กับเอวาที่เซล้มลงและหันมาร้องเรียกเสียงดังลั่นป่า

“พิต๋า!!!”

ปัง!

โฮกกกกกกกกกกกก

เสียงคำรามแหลมสูงดังขึ้นพร้อมๆ กับร่างของเจ้าเสือไซบีเรียที่เซถลามาล้มลงแทบเท้า ไมเคิลค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคุ้นเคยกำลังถือปืนส่องตรงมาที่ตนอย่างไม่กลัวว่าปืนจะลั่น ที่ปลายกระบอกปืนนั้นยังคงมีควันคลุ้งลอยขึ้นจางๆ ปรากฏให้เห็น

“ฉันไม่เคยสอนให้แกหลับตายอมรับความตาย” น้ำเสียงเย็นเหยียบดังขึ้นพร้อมกับปืนที่ลดลงอย่างช้าๆ แล้วจึงหันไปหาลูกน้อง พยักหน้าเล็กน้อยเชิงสั่งการ ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งก็ขยับเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ ในขณะที่บางส่วนแบกเจ้าเสือไซบีเรียตัวใหญ่ขึ้นบ่า แล้วพากันลากจูงไปด้วย ก่อนที่ชายคนนั้นจะหันหลังกลับ แล้วเริ่มต้นออกเดินไปช้าๆ หากแต่ตัวเขายังคงหยุดนิ่งอยู่กับที่......

“ทำไม” น้ำเสียงเย็นชาถูกเอื้อนเอ่ยอีกครั้ง และครั้งนี้หันมาตวัดสายตามองจ้องดุดัน

“แกคงไม่คิดจะให้อุ้มเพราะเดินไม่ไหวหรอกนะ” ถามพร้อมเลิกคิ้ว แสยะยิ้มส่งให้ ปรายสายตามองข้อเท้าที่บวมช้ำจนขึ้นสีของคนอายุน้อยกว่า ในขณะที่ไมเคิลสั่นศีรษะเบาๆ

“ไม่ครับ แต่เขา...” ไมเคิลพยักพเยิดหน้าบ่งบอก ทำให้ชายร่างสูงใหญ่หันไปมองตาม เห็นว่ามีเด็กตัวเล็กอีกคนหนึ่งที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับพื้น สองแขนโอบกอดลูกเสือตัวขาวเอาไว้แน่น

“ช่างมันสิ” คำตอบไร้เยื่อใยและไร้ความเมตตา ทำให้ไมเคิลตวัดสายตาขึ้นมองจ้องดุดันไม่แพ้กัน

“โฮ่ คิดจะลองดีกับฉัน?” ว่าพร้อมย่างก้าวสุขุมเข้ามาหา เด็กหนุ่มเองก็ไม่หลบสายตาเช่นกัน แม้จะปรากฏรอยหวาดหวั่น แต่ก็ไม่คิดจะถอยหลังหนี ยังคงยืนหยัดมั่นคงแม้ใจจะเต้นแรงสั่นระรัว

“เปล่าครับ” ตอบชัดถ้อยคำ แต่แววตานั้นกลับแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้

“ไม่มีอะไรในโลกนี้ได้มาฟรี” ว่าจบก็กระตุกยิ้มมุมปากเป็นรอยมาดร้าย ไมเคิลเม้มปากแน่น ก่อนจะเอ่ยบอกกลับไป

“ผมจะเลี้ยงเขาเอง”

“แต่มันอยู่อาศัยใน ‘บ้าน’ ฉัน” พูดอย่างเป็นต่อพร้อมยกมือขึ้นกอดอก

“ผมจะทำงานแลกเงินและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของเขาทั้งหมด” หลังจากที่ได้ฟังถ้อยคำนั้น ชายสูงวัยกว่าก็ยกมือขึ้นจับปลายคาง ลูบไปมาราวกับใช้ความคิด แล้วเริ่มต้นเดินวนรอบตัวของเด็กน้อยทั้งสองคน

“ก็ได้ ตกลงตามนั้น หลังจากนี้แกต้องมาช่วยงานฉันแลกเงิน” สิ้นคำพูดนั้นรอยยิ้มสมใจก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก ก่อนที่บุคคลทั้งหมดจะเริ่มต้นเดินทางอีกครั้ง

“พี่ต๋า...” เด็กน้อยตัวจิ๋วกระตุกข้อมือที่กำลังจับกุมกันอยู่เบาๆ เชิงร้องเรียก

“หืม ว่าไงตัวเล็ก” หันไปร้องถามพร้อมโน้มตัวลงต่ำเล็กน้อย เอวาเขย่งขึ้นอีกนิด กระซิบข้างใบหู

“กิดตึ๋งมาม๊าแย้ว” ไมเคิลหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะหยุดเดินในที่สุด ขยับไปทรุดตัวลงตรงหน้า

“ตัวเล็กมีปาป๊ารึเปล่า?”

“มีจิ” ไมเคิลพยักหน้า พร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นจางๆ บนริมฝีปากเรียวแคบ

“งั้นถ้าออกไปได้แล้ว พี่จะพาไปหาปาป๊านะ”

“อื้อ!” เสียงใสร้องตอบกลับมา หากแต่คำพูดนั้นกลับไม่มีทางเป็นไปได้จริง.........

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
64 Chapters
บทที่ 1 พิต๋า......
“เราจะไปไหนกันครับ?” เด็กชายตัวน้อยหันไปร้องถามกับหญิงสาวข้างตัว ที่กำลังขับรถอย่างตั้งอกตั้งใจด้วยใบหน้าเครียดขึง หากเมื่อได้ยินเสียงร้องถาม ใบหน้าหวานล้ำก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนละมุน ละสายตาจากถนนตรงหน้าชั่วครู่ พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับปล่อยมือจากพวงมาลัยรถยนต์ ขยับมาลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา“เรากำลังจะไปเที่ยวกันครับ” ว่าแล้วก็ดึงมือกลับไป ตั้งใจขับรถเหมือนเดิม“เที่ยว?” แทนที่จะได้เห็นใบหน้าเล็กตื่นเต้นดีใจ กลับฉายแววประหลาดใจออกมาแทน ทำให้หญิงสาวที่กำลังขับรถอยู่ละสายตากลับมามองอีกครั้งแล้วจึงเอ่ยตอบ“ใช่ครับ ไปเที่ยว”“สองคนหรือครับ?” เด็กน้อยเอ่ยปากถามอีกครั้ง ใบหน้าเล็กที่ฉายแววหล่อเหลาแต่เด็กเริ่มขมวดคิ้วหมุนชนเข้าหากันอย่างเคลือบแคลงใจ“อ่อ......” หญิงสาวเงียบเสียงลงไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบขึ้นมาอีกครั้ง“เดี๋ยวแด๊ดดี๊ก็ตามมาครับ” ว่าพร้อมหันมาหาพร้อมส่งรอยยิ้มหวานชวนมอง แล้วโน้มตัวขยับเข้ามาใกล้ กดจมูกลงที่ศีรษะเล็กของคนที่เป็นดั่งดวงใจ เอ่ยปากพึมพำ“หรือคงจะดีกว่าถ้าเขาไม่มา....”“มัม!!!” เด็กน้อยร้องตะโกนสุดเสียง ทำให้หญิงสาวที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่หันกลับไปสนใจมองถนนหนทาง ก่อนที่ด
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 2 ตัวเล็ก
“ว่ามา” ถ้อยคำเรียบง่ายถูกเอ่ยขึ้นแผ่วเบาเมื่อชายหนุ่มนั่งลงที่ประจำตำแหน่ง มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นเท้าคางอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก ผู้ช่วยคนสนิทเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมขวดไวน์ราคาแพงที่แช่อยู่ในถังน้ำแข็งเย็นจัดจนหยดน้ำเกาะพราวและแก้วไวน์ทรงสูงขอบทองงดงามประณีตไมเคิลปรายตาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มองโรมที่หยิบจับสิ่งต่างๆ คล่องมือเพียงชั่วครู่ ก่อนจะถูกดึงความสนใจจากผู้ช่วยคนสนิทไปเนื่องจากเสียงของผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นอย่างช้าๆ“บอสครับ ตอนนี้พวกเราถูกมิเกลจับตามองอยู่ อาจจะทำให้เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก.......”“......” ไมเคิลขยับมือรับแก้วไวน์จากโรมมาถือไว้ โคลงแก้วภายในอุ้งมือ ก่อนจะยกขึ้นดมกลิ่นแล้วจิบเพียงเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร“เปลี่ยนเส้นทางได้ไหมครับ” โรมที่ยืนอยู่ข้างกายเอ่ยถามขึ้นบ้างพร้อมเลิกคิ้วมอง“คือ.... ถ้าเปลี่ยนเส้นทาง มันจะใช้เวลานานมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า แถมยังสุ่มเสี่ยงเพราะต้องผ่านพื้นที่ชุมชน ผมเกรงว่า......”ตึก“.......” ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยแล้ววางแก้วลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงแผ่วเบา ก่อนจะปรายสายตาขึ้นมองคนที่กำลังพูดอยู่ในตอนนี้ ทำให้คนที่สบตาด้วย
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 3 มิลาด้า
“พี่จ๋า...”“....”“พี่จ๋าาาา”“....”“พี่จ๋า!!” เสียงเล็กสดใสดังขึ้นที่ข้างตัว ไมเคิลตื่นขึ้นตั้งแต่คำร้องเรียกครั้งแรกแล้ว แต่อยากที่จะนอนกอดเด็กน้อยในปกครองเอาไว้ต่ออีกสักนิด จึงแกล้งทำเป็นหลับ และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มสมหวัง เมื่อริมฝีปากนุ่มนิ่มจรดลงที่ข้างแก้ม“คิสๆ พี่จ๋าตื่นนนน”“หึ ตัวเล็ก” ว่าเสียงนุ่มพร้อมรวบเด็กตัวเล็กสมชื่อเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แกล้งงึมงำแผ่วเบา“พี่ยังง่วงอยู่เลย”“งื้ออออ” ไมเคิลว่าพร้อมหลับตา แต่ปรือตามองด้วยความอยากรู้ เห็นดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสเป็นประกายนอนเกยอยู่บนอก นอนมองตาแป๋ว จนพาให้มุมปากอยากที่จะขยับยกยิ้มไปเสียทุกทีจ้องจ้อง....จ้อง.......“ฮึ ตกลงตัวเล็ก ลงไปทานข้าวเช้ากันเถอะ” ว่าพร้อมกับพลิกตัวลงจากเตียง ทำให้เด็กน้อยกลิ้งลุ่นๆ หล่นตุ้บลงบนเตียง เอวายันตัวขึ้นนั่งทั้งที่เส้นผมชี้ฟู ไมเคิลยกยิ้มขำให้กับท่าทีนั้น ก่อนจะโน้มตัวลง แล้วอุ้มเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมแขน“อาบกับพี่” ว่าแล้วก็อุ้มเด็กตัวจ้อย พาเดินไปห้องน้ำที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง วางลงแผ่วเบาในอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่มีลวดลายงดงาม ไม่ลืมที่จะเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างและหย่อนบาธบอมบ์กลิ่นกุหลาบประกายกากเพ
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 4 ฤดูใบไม้ผลิ
“เตรียมเสร็จรึยัง” ไมเคิลเอ่ยถามกับผู้ช่วยคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างกาย โรมโน้มตัวลงอย่างนอบน้อม เอ่ยตอบเสียงเบาราวกระซิบหากแต่ได้ยินชัดเจน“เรียบร้อยแล้วครับ”“ดี” พูดจบก็ก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์ มุ่งตรงไปที่รถยนต์คันหรูซึ่งมีหน้าตาเหมือนกันทั้งหมด 5 คัน และทุกคันต่างบรรทุกคนเต็มอัตรากำลัง ไมเคิลก้าวขาขึ้นรถ อดไม่ได้ที่จะหันมองหน้าต่างห้องๆ หนึ่งซึ่งดวงไฟปิดสนิท“ให้ซีนอนมาคอยดูแล”“ครับ” เพียงเท่านั้นมือเรียวยาวของโรมก็ล้วงเข้าไปในเสื้อสูท กดเบอร์โทรออกที่คุ้นเคย ได้ยินเสียงปลายสายโวยวายมาเล็กน้อยเนื่องจากรบกวนเวลานอนหลับ แต่พอบอกว่าเป็นคำสั่งของบอสก็หุบปากฉับและวางสายไปอย่างรวดเร็วไมเคิลขึ้นรถที่ถูกขับมาด้วยความเร็วมากกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถบริวารทั้ง 4 รายล้อมทั้งสี่มุม คุ้มกันอย่างแน่นหนาแชะ!แสงแฟลชสะท้อนเข้าตาคนขับ หลังถูกจับบันทึกภาพขับรถเร็วกว่ากว่ามาตรฐานกำหนด จนอดที่จะเอ่ยหยอกเย้าไม่ได้“น่าจะเรียกไซเรนมานำขบวนนะครับ”“ไม่จำเป็น....”“ฮึฮึ” ไมเคิลละสายตาจากโรมที่หัวเราะในลำคอแผ่วเบาแล้วก้มลงมองหยาดน้ำสีม่วงแปลกตาที่ถูกบรรจุอยู่ในขวดสีใสขนาดเล็ก“ผลเป็นยังไง.....”“แรงกว่าสู
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 5 ห้องคิงและควีน
Michael Partและแล้วเอวาก็ได้รู้ว่าเพราะอะไร เพราะตอนนี้ไมเคิลกำลังดึงทึ้งดอกไม้ออกจากศีรษะเล็กพร้อมแกะเปียผมออกไปพลาง ปากก็ยังคงบ่นไม่หยุด“ตัวเล็ก คราวหลังอย่าให้คนอื่นเล่นผมนะคะ”“บาร์คไม่ใช่คนอื่นนน” เด็กน้อยลากเสียงยานค้าง ทำให้ไมเคิลปรายตามองเพื่อนสนิท ก่อนจะเอ่ยปากอีกหน“ไม่ใช่คนอื่น แต่พี่ก็ไม่ให้ใครเล่นค่ะ พี่หวง” ว่าพร้อมกับหยิบหวีขึ้นมาสางผมสีดำสนิทอย่างเบามือ“เจ็บไหมคะ บาร์คมือหนัก เบาไม่เป็น” ว่าพร้อมกับเริ่มมัดผมให้ใหม่ คนถูกกล่าวถึงรีบแทรกขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว“เฮ้ๆ ให้มันน้อยๆ หน่อย อย่าเวอร์น่า” เพียงเท่านั้นไมเคิลก็ตวัดสายตามองจ้องดุดันด้วยสายตาเย็นเหยียบ หากแต่บารอนไม่เกรงกลัว หัวเราะในลำคอ และเอื้อมหยิบแก้วไวน์จากถาดสีเงินที่โรมเดินนำมาเสิร์ฟได้ทันท่วงที ก่อนที่ถาดนั้นจะวางลงบนโต๊ะ“ไปซะบาร์ค.....” ไมเคิลเหลือบตามองด้วยความเฉยชา ในดวงตาปรากฏร่องรอยความขุ่นเคืองใจ แต่คนโดนไล่กลับหัวเราะในลำคอแผ่วเบาอย่างชอบใจ ยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดแล้วเอนตัวนอนลงบนเบาะกำมะหยี่สีแดงสดดิ้นทองอย่างสบายอารมณ์“ไม่ไป นานๆ นายจะกลับมาสักที”“ใครจะนั่งว่างเหมือนนายกันบาร์ค”“ใครบอกว่าฉันว่าง
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 6 อะแฮ่ม คุกๆ นะครับ
Michael Partไมเคิลกำลังลูบศีรษะเล็กที่วางเกยอยู่บนตักด้วยความเอ็นดู ปลายนิ้วมือม้วนปอยผมสีดำสนิทไปมาอย่างเพลิดเพลิน ในขณะเดียวกันก็อดที่จะเอ่ยปากไม่ได้“นายเคยเห็นอะไรแบบนี้ไหม โรม.....” ว่าพร้อมใช้ปลายนิ้วมือเกลี่ยแก้มนุ่มแผ่วเบา“ครับ?”“เทพธิดาตัวน้อยที่วิ่งเล่นบนโลกมนุษย์.....” เพียงได้ยิน โรมีโอก็เผยรอยยิ้มออกมา ก่อนจะตอบรับกลับไปอย่างนอบน้อม“เคยครับ”“เคยรึ?” ถามโดยไม่แม้แต่สนใจจะเงยหน้ามอง หากแต่โรมีโอก็ยังคงเอ่ยปากตอบอย่างหนักแน่น“ใช่ครับ..... น้องของผมเอง.....” โรมีโอมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเล็กน้อยยามกล่าวถึงบุคคลในอดีตที่ตนกำลังนึกถึง“นายมีน้อง? .......”“ครับ จำได้ว่าพ่อกับแม่มักจะไม่ค่อยพาน้องออกงานเท่าไหร่นัก” โรมีโอเว้นไปจังหวะหนึ่ง ก่อนจะหันมาพูดคุยกับนายของตน“พวกท่านบอกว่าน้องร่างกายไม่แข็งแรง ต้องแยกอยู่ต่างหาก ให้ใกล้ชิดกับแพทย์ จึงไม่อยากพาออกไปไหนน่ะครับ แต่สำหรับผมแล้วน้องเหมือนเทวดาตัวน้อยๆ เช่นเดียวกันกับคุณหนูเลยล่ะครับ” ไมเคิลเหลือบตาขึ้นมองเพียงชั่วครู่ แล้วจึงละไป แม้จะเป็นเพียงการสบตากันไม่นานนัก แต่บ่งบอกได้ว่าโรมีโอมองเอวาด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ส
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 7 สุนัขรับใช้
Ava Part“อย่ามายุ่งนะ!” เสียงใสร้องดังขึ้น สองมือก็เอื้อมคว้า พยายามหยิบของที่ถูกฉกชิงไปกลับคืนอย่างสุดความสามารถ“แค่การ์ดต้องตั้งใจขนาดนี้ไหม?” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเบ้ปากใส่พร้อมกับยื่นส่งการ์ดใบเล็กกลับคืน เอวาทำหน้ามุ่ยแล้วรีบคว้าการ์ดนั้นมาไว้ในมือ ทำแก้มพองลมอย่างน่ารักน่าชัง“ตั้งใจสิ! อันนี้เอาไว้ให้พี่จ๋านะ!” ว่าพร้อมเชิดหน้าขึ้น คนฟังกลอกตาใส่อย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะนั่งเท้าคางมองเด็กตัวเล็กที่อายุไม่น้อยนั่งทำการ์ดแนบกับของขวัญอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนจะโคลงหัวไปมา แล้วเอื้อมคว้าอีกครั้ง“อย่าจับนะ!!” เสียงใสร้องแว๊ดเข้าให้อีกหน ใช้สองแขนกวาดต้อนข้าวของทั้งหมดที่กองบนโต๊ะไปไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหน ดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสขึ้งใส่มองแรง แต่กลับดูน่ารักน่าชังเหมือนลูกแมวขู่ฟ่อกระไรอย่างนั้น“ก็ฉันเบื่อนี่!!” ซีนอนพูดอย่างมีน้ำโห ท่านั่งแปรเปลี่ยนเป็นการนั่งกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน“มีงานก็ไปทำจิ! จะมาเฝ้าหนูทำไม!” ซีนอนเบ้ปากใส่อีกหน ก่อนจะพึมพำออกมา“ก็นั่งมองเด็กมันคืองานของฉันนี่!”“พี่ซีว่าอะไรนะ?” เอวาถามพร้อมเอียงคอมองอย่างสงสัย ซีนอนโบกมือไ
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 8 พี่หวง....
Ava Part“คุณหนู ถึงเวลาแล้วครับ”“อื้อ!” เอวาตอบรับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะช่วงเวลาที่ตนรอคอยมาทั้งวันได้มาถึงแล้ว“แล้วพี่จ๋าล่ะ?” ถามพร้อมกับเอียงคอมองน้อยๆ โรมีโอส่งยิ้มเอ็นดูบางเบา แล้วตอบกลับเสียงนุ่มทุ้ม“ไปรอที่งานแล้วครับ” ว่าพร้อมกับยื่นส่งชุดสูทสีขาวส่งให้ เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ แล้วรับไปสวมใส่แต่โดยดี ในขณะที่โรมีโอก็ผละไปจัดการตัวเองบ้างวันนี้เป็นวันเกิดของไมเคิล ทำให้เจ้าตัวยุ่งวุ่นวายตั้งแต่เช้า เนื่องจากมีคนมากมายเดินตบเท้าเข้ามาหาถึงบริษัทเพื่อแสดงความยินดีและมอบของขวัญเล็กๆ ให้ ในช่วงบ่ายก็ต้องตระเตรียมงานคอยดูแลความเรียบร้อยของงานที่จะมีขึ้นในช่วงเย็นลากยาวไปจนค่ำ ซึ่งสถานที่จัดงานไม่ใช่ที่ไหนไกล แต่เป็นที่คฤหาสน์หลังโตนี้เอง ทำให้เอวาที่เข้าครัวคอยช่วยเรื่องของข้าวปลาอาหารและขนมต่างๆ สุดฝีมือ โดยมีไมเคิลแวะเวียนมาดูเป็นระยะ หาเศษหาเลยไปตามเรื่อง และไม่อยากให้น้องน้อยต้องทำงานหนักเกินไปนักในตอนนี้เป็นเวลาที่เจ้าบ้านต้องไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอต้อนรับแขกที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ซึ่งไมเคิลได้จัดเตรียมชุดเอาไว้ให้น้องน้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเอวาอา
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 9 หายโกรธพี่นะคะ
Michael Partไมเคิลเดินกลับมาหาน้องน้อย และคอยดูแลข้างกายไม่ห่าง ด้วยกลัวว่าเด็กน้อยในปกครองจะถูกรังแกอีกครั้งจากคู่ขาเก่าๆ ทำให้ไมเคิลนั่งจ้องไม่ละสายตา แต่ถึงแม้จะไม่มีงานเลี้ยงนี่ เขาก็เต็มใจที่จะนั่งมองเด็กน้อยเจ้าของดวงใจไปทั้งวันอยู่ดีไมเคิลยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเอวาเริ่มสัปหงก ริมฝีปากน้อยๆ นั้นอ้ากว้างหาวออกมาเหมือนแมวง่วง ยิ่งทำให้น่ารักน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่ จนอดไม่ได้ที่จะจิ้มแก้มใสเบาๆ เป็นการเรียกสติ“ง่วงแล้วหรอครับ”“อื้อ...” เอวาตอบรับด้วยการครางรับเบาๆ ดวงตาปรือปรอยใกล้จะปิดพับลง ไมเคิลลูบเส้นผมสีดำสนิทเบาๆ ก่อนจะหันไปสั่งการกับคนข้างกาย“โรม.... ไปส่งเอวา....”“ครับบอส” โรมีโอตอบรับเสียงนุ่ม แล้วเดินอ้อมไปหาเด็กน้อยที่นั่งโงนเงนอยู่บนเก้าอี้ เมื่อเดินไปถึงเด็กน้อยก็ชูมือขึ้นเชิงอ้อนให้อุ้ม โรมีโอเหลือบตามองบอสของตนเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงไป เอวาก็ไต่ขึ้นมาเกาะ นอนซบบ่าของโรมีโอทันที ทำให้ชายหนุ่มต้องใช้สองมือรองก้นเด็กน้อยเอาไว้คิ้วของชายผู้มีรอยสักลายมังกรขมวดเข้าหากันในทันที นัยน์ตามีเปลวไฟเป็นประกายลุกโชน มองจ้องชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มไม่ละสายตา ก่อนจะ
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
บทที่ 10 ปวดที่ใจ
“พี่จ๋า”“.....”“พี่จ๋าาาาา” ไมเคิลยกยิ้มมุมปากให้เสียงงุ้งงิ้งข้างหูที่มาพร้อมแรงเขย่าเบาๆ ที่แขนข้างหนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นเด็กน้อยเจ้าของดวงใจนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่ข้างเตียง ในมือถือเค้กชิ้นเล็กที่เจ้าตัวตั้งใจทำมาเป็นอย่างดียกขึ้นสูงไมเคิลยันตัวขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วขวักมือเรียกน้องน้อยให้เข้ามาหาก่อนจะตบปุๆ ลงบนเตียง ในจุดที่ตนอยากให้ตัวเล็กขยับขึ้นมานั่ง เอวาขยับตัวตามมาอย่างว่าง่าย ทรุดตัวนั่งลงตรงหว่างขา ก่อนจะยื่นส่งกล่องไม้ขีดไฟให้กับไมเคิล ไมเคิลรับเอามาถือไว้ก่อนจะจุดไฟที่ปลายหัวไม้ขีด ไม่ลืมที่จะหยอกเย้าน้องน้อยด้วยความบันเทิงใจ“เลยวันเกิดพี่มาแล้วครับ” เด็กน้อยทำหน้าหงอยใส่ ช้อนสายตาขึ้นมอง“หนะ หนูตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ” เด็กน้อยพยายามสรรหาเหตุผลต่างๆ นานามาโน้มน้าวคนพี่สุดความสามารถ ไมเคิลหัวเราะในลำคอ ก่อนจะยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มใสไปมาแผ่วเบา“งั้นให้เป็นวันเกิดของตัวเล็กแทนได้ไหมคะ”“วันเกิดหนูหรอ?” เด็กน้อยถามพร้อมกับเอียงคอมอง ไมเคิลจึงหัวเราะหึหึในลำคอ แล้วเอ่ยตอบด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน“หึหึ ใช่ค่ะ วันเกิดครบอายุ 18 ของหนูไงคะ” เอวามุ่ยหน้าบึนปากใส่ ก่อนจะตอบ
last updateLast Updated : 2025-04-26
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status