“พี่จ๋า”
“.....”
“พี่จ๋าาาาา” ไมเคิลยกยิ้มมุมปากให้เสียงงุ้งงิ้งข้างหูที่มาพร้อมแรงเขย่าเบาๆ ที่แขนข้างหนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นเด็กน้อยเจ้าของดวงใจนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่ข้างเตียง ในมือถือเค้กชิ้นเล็กที่เจ้าตัวตั้งใจทำมาเป็นอย่างดียกขึ้นสูง
ไมเคิลยันตัวขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วขวักมือเรียกน้องน้อยให้เข้ามาหาก่อนจะตบปุๆ ลงบนเตียง ในจุดที่ตนอยากให้ตัวเล็กขยับขึ้นมานั่ง เอวาขยับตัวตามมาอย่างว่าง่าย ทรุดตัวนั่งลงตรงหว่างขา ก่อนจะยื่นส่งกล่องไม้ขีดไฟให้กับไมเคิล ไมเคิลรับเอามาถือไว้ก่อนจะจุดไฟที่ปลายหัวไม้ขีด ไม่ลืมที่จะหยอกเย้าน้องน้อยด้วยความบันเทิงใจ
“เลยวันเกิดพี่มาแล้วครับ” เด็กน้อยทำหน้าหงอยใส่ ช้อนสายตาขึ้นมอง
“หนะ หนูตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ” เด็กน้อยพยายามสรรหาเหตุผลต่างๆ นานามาโน้มน้าวคนพี่สุดความสามารถ ไมเคิลหัวเราะในลำคอ ก่อนจะยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มใสไปมาแผ่วเบา
“งั้นให้เป็นวันเกิดของตัวเล็กแทนได้ไหมคะ”
“วันเกิดหนูหรอ?” เด็กน้อยถามพร้อมกับเอียงคอมอง ไมเคิลจึงหัวเราะหึหึในลำคอ แล้วเอ่ยตอบด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน
“หึหึ ใช่ค่ะ วันเกิดครบอายุ 18 ของหนูไงคะ” เอวามุ่ยหน้าบึนปากใส่ ก่อนจะตอบออกมา
“วันเกิดหนูอีกตั้งนานกว่าจะถึง”
“แต่พี่จ๋าอยากให้หนูอายุ 18 เร็วๆ จังเลยค่ะ”
“ทำไมหรอ?” เด็กน้อยร้องถามกะพริบตาปริบๆ รอฟังอย่างตั้งใจ ไมเคิลเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เห็น ตอบแบบกำกวม
“พี่มีของขวัญเซอร์ไพรส์ค่ะ” เอวาตาวาว รีบตอบรับเสียงใส
“งั้นหนูอายุ 18 วันนี้เลย!!”
“ฮึฮึ” ไมเคิลหัวเราะในลำคอก่อนจะดีดนิ้วลงที่หน้าผากเล็กแคบของเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“เสียดายจังค่ะ ของขวัญของหนูต้องรอให้อายุ 18 จริงๆ ก่อน ถึงจะใช้ได้” พูดว่าพร้อมส่งสายตาวาววับ ปลายนิ้วมือเกี่ยวม้วนเส้นผมสีดำสนิทของเอวาเล่นไปมา ลอบเลียริมฝีปากอย่างหิวกระหาย แต่ติดตรงที่ว่าเด็กน้อยกลับเห็นมันอย่างชัดเจนเสียนี่
“พี่จ๋าหิวแล้วหรอ”
“หิวมากเลยค่ะ” ไมเคิลตอบรับเสียงแหบพร่ามองจ้องเด็กน้อยไม่ละสายตา คิดไปถึงยามที่ได้กลืนกินเด็กน้อยเข้าไปทั้งตัว ทำให้ดิ้นพล่านราวกับจะขาดใจ อยากทำให้ร่ำไห้ด้วยความเสียวซ่านสุดทน เพียงแค่คิด ส่วนกลางกายก็พองขยายคับแน่นไปหมด
“งั้นรีบเป่าเค้กเร็ว จะได้หม่ำๆ กันนะ”
“ค่ะ พี่จะหม่ำไม่ให้เหลือเลย” พูดบอก แต่ดวงตาไม่ได้มองขนมหวาน แต่กลับมองคนหน้าหวานอย่างสื่อความออกมาแทน แต่เด็กน้อยก็ใสซื่อเกินกว่าจะเข้าใจ เสียงหวานจึงเริ่มต้นร้องเพลงออกมาแผ่วเบา
“Happy birthday to you~~” เด็กน้อยร้องพลางส่งยิ้มให้ตลอดเวลาการขับร้อง จวบจนกระทั่งเสียงเพลงนั้นเงียบลง ไมเคิลก็ขยับเข้าไปใกล้ หมายจะเป่าเค้ก แต่เด็กน้อยกลับชักมือหนี มองคนพี่ด้วยตาดุๆ เท่าที่ตัวเองจะทำได้
“อธิษฐานก่อนจิ!” ไมเคิลเผยรอยยิ้มบาง ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กไปมาแผ่วเบา
“พี่รักหนูมาก หนูรู้ใช่ไหมคะ”
“อื้อ!”
“เพราะงั้นสิ่งที่พี่จะขอ คือขอให้หนูมีความสุขค่ะ” พูดจบก็เป่าเทียนให้ดับลง เอวามุ่ยหน้าส่งให้ แล้วอุบอิบพูดเสียงเบา
“พี่จ๋าต้องขอให้ตัวเองจิ” ไมเคิลยิ้มรับคำพูดนั้น กดจมูกลงที่แก้มนุ่มนิ่มของน้องน้อยอย่างอดใจไว้ไม่ไหว
“สิ่งที่พี่ต้องการคือหนูมีความสุขค่ะตัวเล็ก” ไมเคิลถูไถใบหน้าของตนลงกับแก้มนุ่มไปมา จนเอวาหัวเราะคิกคัก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนหยุดชะงัก แล้วหันหน้าไปมองชายผู้มาใหม่ ในมือถือชุดของน้องน้อยที่ต้องสวมใส่ในวันนี้อย่างถนอม สายตาทอดมองด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน
จุ๊บ!
“สุขสันต์วันเกิดนะพี่จ๋า” เอวาขยับเข้ามากดจูบที่ข้างแก้มเร็วๆ อีกหนึ่งครั้ง พูดบอกพร้อมกับผละลงจากเตียง ส่งเค้กให้คนเป็นพี่ชาย แล้วจึงวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าห้องน้ำไป โรมีโอเดินก้าวเท้าเข้ามาหาอย่างช้าๆ จัดการตระเตรียมเสื้อผ้าจนเสร็จสรรพ แล้วจึงหันมาหานายของตนที่ถือถาดขนมเค้กเอาไว้ในมือ ยื่นมืออกไปรับอย่างรู้หน้าที่ พร้อมบอกถึงสิ่งที่จะทำให้นายของตนรับทราบ
“ผมจะนำขึ้นโต๊ะให้ครับ” ไมเคิลทำเพียงพยักหน้ารับ แล้วจึงขยับลงจากเตียง โรมีโอเดินตามมาติดๆ อธิบายตารางงานวันนี้ไปพลาง
“พวกระดับเอสกลับมาหมดแล้วครับ ทุกคนรอบอสอยู่ที่ห้องโพธิ์ดำครับ” เป็นอีกครั้งที่ไมเคิลพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
ทีมระดับเอสของไมเคิลมีด้วยกันทั้งหมด 8 คน แต่ละคนมีความสามารถโดดเด่นที่ต่างกัน และเหตุผลที่ทำให้บุคคลทั้งหมดนี้มาอยู่พร้อมหน้ากันได้ก็เพราะเมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของบอสใหญ่ ที่ทุกคนเข้าใจดีว่าบอสจะยุ่งมากแค่ไหน และเพราะใบหน้ารวมถึงสถานะที่แท้จริงของบุคคลทั้ง 8 ไม่สามารถเปิดเผยได้ต่อหน้าสาธารณชน ดังนั้นแล้วทั้งหมดจึงตกลงกันไว้ว่าจะมาเข้าพบและอวยพรให้บอสใหญ่ 1 วันให้หลัง หลังจากวันเกิดที่แสนวุ่นวายผ่านพ้นไปแล้ว
การจัดทีมของไมเคิลยึดเอาเกมกระดานหมากรุกมาใช้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย คิง, ควีน,อัศวิน,บิชอป,เรือ และเบี้ย บุคคลระดับเอสทั้ง 8 ถูกจัดให้เป็นเบี้ย คอยเป็นมือเป็นเท้าและจัดการงานต่างๆ ให้ ในขณะเดียวกัน เมื่อไหร่ที่รวมตัวกันครบ 4 คนขึ้นไปจะกลายเป็นเรือรบเพราะขีดความสามารถที่ผลักดันให้ทำงานเป็นทีม ยิ่งคนเยอะมากเท่าไหร่ เรือรบยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ส่วนบิชอปและอัศวินนั้นเบ็ดเสร็จในตัวคนๆ เดียว นั่นก็คือโรมีโอ ชายผู้เป็นทั้งมันสมองและพละกำลังที่คอยตามติดประกบชิดอยู่ข้างกาย
ส่วนห้องพักภายในจะถูกแบ่งตามไพ่ ซึ่งประกอบไปด้วย คิง ควีน แจ็ค ข้าวหลามตัด ดอกจิก โพธิ์แดง โพธิ์ดำ และโจ๊กเกอร์ ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ห้องทั้งหมดอยู่ในชั้นเดียวกัน ส่วนนอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นห้องปกติธรรมดา
ไมเคิลจัดการตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยดี จึงก้าวเท้าออกจากห้องในที่สุด เดินมุ่งตรงไปที่ห้องโพธิ์ดำ และทันทีที่เปิดเข้าไปก็พบกับบุคคลทั้ง 8 ที่นอนระเกะระกะอยู่ภายในห้อง คนหนึ่งนอนพาดยาวอยู่บนโซฟา คนหนึ่งยึดโซฟาเดี่ยวเป็นที่นอน ในขณะที่บางคนก็ตั้งหน้าตั้งตารัวนิ้วมือบนคอม ส่วนคนอื่นๆ กระจายไปแต่ละจุดทั่วห้อง
ไมเคิลปรายสายตามองเล็กน้อย แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงานซึ่งถูกเว้นว่างไว้ไม่โดนรุกราน ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็พากันปลุกคนที่นอนหลับพักผ่อนให้ตื่นขึ้นจากนิทรา แล้วมายืนเรียงแถวหน้ากระดานตรงหน้าไมเคิลอย่างพร้อมเพรียง
บนโต๊ะมีเอกสารวางอยู่ทั้งหมด 8 ฉบับ ซึ่งถูกระบุว่าภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งเป็นระดับ S จนถึง SSR ไม่มีต่ำกว่านี้แต่อย่างใด ไมเคิลเงยหน้าขึ้นมอง เผยรอยยิ้มมุมปากออกมาบางเบา
“ดี....”
“Happy birthday to you~~” ไมเคิลพูดได้เพียงแค่นั้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยบทเพลงที่ประสานเสียงกัน ชายหนุ่มทำหน้าเอือมระอาเกินจะกล่าว กลอกตาไปมาพร้อมกับการทอดถอนหายใจ ยกมือขึ้นนวดขมับอย่างเหลือทน จนในที่สุดบทเพลงที่ถูกขับร้องอยู่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของคนๆ หนึ่ง
“Happy birth- โหย! บอสทำหน้าให้มันดีๆ ได้ป้ะ หน้าแบบว่าปลื้มปริ่มไรงี้!”
“เออ นั่นดิ ทำหน้าดีๆ เหมือนตอนคุณหนูร้องให้ฟังไม่ได้ไง๊” ไมเคิลเหลือบตาขึ้นมอง ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงราบเรียบเย็นชา จนคนฟังถึงกับสะอึก
“คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้นเลย? .....”
“บ๊อสสสสส” เสียงหวีดร้องประสานเสียงกัน จนไมเคิลถึงกับสั่นศีรษะ
“พวกมึงก็ช่างเปรียบเทียบเน๊อะ ก็รู้อยู่ว่าสู้คุณหนูไม่ได้อยู่แล้ว ยังจะเทียบให้มันเจ็บเล่นๆ อีก” เสียงบ่นว่ามาพร้อมกับการตบศีรษะของเพื่อนที่ยืนข้างก่อนไปหนึ่งที แล้วขยับเดินมาที่ด้านหน้า วางของขวัญลงบนโต๊ะ
“สุขสันต์วันเกิดบอส” ซีนอนพูดพร้อมกับวางกล่องที่มีลวดลายสวยงามลงบนโต๊ะ ไมเคิลขยับมือไปเปิดออกดู จึงได้พบกับมีดคู่สีเงินตัวด้ามเป็นสีเงินลายฟ้าเป็นมันเงา ตัวมีดสลักลายมังกรเลื้อยแทนการทำร่องเลือดไปจนสุดปลายมีด ซีนอนขยับเข้ามาใกล้ ใช้มือกดที่จุดหมุนของมีด เปิดให้เห็นช่องขนาดเล็กที่ถูกบรรจุน้ำสีใสไว้ด้านใน
“มีดอาบยาพิษครับ มันจะทำงานเมื่อมีดถูกกดลึก หมายถึงใช้สร้างรอยแผลได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นการแท่งทะลุ มันถึงจะปล่อยพิษออกมา”
“ขอบใจ...” พูดเพียงเท่านั้นใครอีกคนก็ตามมาติดๆ วางกล่องกำมะหยี่สีดำลงตรงหน้า
“สร้อยคอของคุณไมอาร์ครับบอส” ไมเคิลทอดมองสิ่งของนั้นนิ่งงัน เผยรอยยิ้มออกมาบางเบา ใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปที่ตัวสร้อย ต่างหู และกำไล ที่ถูกจัดวางอย่างสวยงามบนแท่นนั้น พิงค์ไดม่อนที่หายไปของมารดาเขา.....
“หามาจากที่ไหน...”
“งานประมูลกลางทะเลครับ แต่ผมไม่ได้ประมูลมาหรอกนะ ฮะๆ” คนตรงหน้าเผยรอยยิ้มขี้เล่นออกมา
“ขอบใจเบลซ์”
หลังจากนั้น บุคคลที่เหลือต่างพากันเอาของมาวางลงตรงหน้าพร้อมเอ่ยคำอวยพร ไมเคิลมองดูแต่ละคนด้วยแววตาชื่นชมและภาคภูมิใจ จนเกิดรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปากสีซีดอย่างที่น้อยนักจะได้เห็น เพราะคำอวยพรที่จริงใจและออกมาจากใจจริงๆ จนคนฟังรู้สึกได้ ทำให้ไมเคิลรู้สึกดีได้มากกว่าคำพูดจอมปลอมที่ได้รับมาตลอดทั้งคืน
ทีมที่ทรงพลังของไมเคิลประกอบด้วยบุรุษทั้ง 8 ได้แก่
ซีนอน ชายผู้มีใบหน้างดงามไม่ต่างจากหญิงสาว ใบหน้าเล็กน่ารักจิ้มลิ้มจนเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับเอวา แต่ดูซุกซนและเจ้าเล่ห์เจ้ากลกว่ามาก ความสามารถของซีนอนที่โดดเด่นคือการแฝงตัว ทำให้ฝีไม้ลายมือเรื่องการแต่งหน้าทำผมและปลอมตัวเป็นเลิศ สืบหาข่าวคราวได้ง่าย
โคลด์ ชายที่มีร่างกายแข็งแรงบึกบึน เหมาะการทำงานที่ต้องบุกป่าฝ่าดง เพราะความชำนิชำนาญจากการเป็นทหารเก่าในหน่วยรบพิเศษ ทำให้ได้รับงานที่ทรหดอดทนกว่าคนอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่ชอบใจ เพราะชายคนนี้ชอบการผจญภัยเป็นที่สุด
เซราฟ ลักษณะนิสัยค่อนข้างนิ่งเงียบแต่ทำงานเฉียบขาด เป็นมือซุ่มยิงให้กับทีม ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ไม่เคยพลาดเป้าสักครั้ง อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำงานถูกดัดแปลงให้เข้ากับตนเอง ใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ได้ราวกับเป็นแขนขาของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ใช่ว่าจะยิงปืนแม่นอย่างเดียว ทักษะการต่อสู้ก็ดีเลิศไม่แพ้กัน
เบลซ เก่งในเรื่องการลักขโมย ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะถูกป้องกันไว้อย่างแน่นหนาแค่ไหน คนๆ นี้ก็สามารถปลดล็อกสลักได้ และได้ของที่ต้องการมาครอบครอง นิสัยติดซุกซนเล็กๆ ชอบพูดจาเหย้าแย่ แต่มีความจริงและจี้ใจดำไปถึงแปดส่วน
ออสการ์ มีลักษณะนิสัยขี้เล่นไปสักหน่อย ชอบที่จะหาอะไรทำสนุกๆ เพราะงั้นงานของหมอนี่คือการปั่นป่วนชาวบ้านไปทั่ว เอาให้ปวดหัวจนต้องร้องคำรามลั่นสลับกับการดึงทึ้งศีรษะของตัวเอง ไม่ได้พูดเกินจริง เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ความถนัดส่วนตัวก็คือมีด ไม่ว่าจะได้รับมีดหรือดาบแบบไหนมา หากอยู่ในมือของชายคนนี้ก็จะดึงเอาศักยภาพของมีดนั้นออกมาจนสุด เรียกได้ว่ามีดหักพังกันไปข้าง ดังนั้นจึงใช้มีดได้เปลืองที่สุดจนต้องสั่งทำพิเศษเอาไว้ให้
โอเว่น หน่วยไอทีของทีม มือนั้นรัวนิ้วบนจอคอมที่ไหลตัวเลขเป็นพรืดด้วยความรวดเร็ว อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไอที สามารถแฮคได้ทั้งนั้น เก่งในเรื่องการเขียนโค๊ดและเจาะลึกข้อมูล แต่เรื่องการต่อสู้ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่นัก แต่ก็ใช่ว่าจะอ่อนปวกเปียก
มอร์แกน มือระเบิด... อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้ไฟ ไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่ พลังทำลายรุนแรงแค่ไหน คนๆ นี้ก็สามารถสร้างสรรค์และมีความสุขกับการใช้มันได้ตามใจอยาก ยิ่งระเบิดนั้นสร้างความเสียหายและเป็นข่าวครึกโครมมากเท่าไหร่ เจ้าหมอนี่ก็ยิ่งยกยิ้มชอบใจโห่ร้องยินดี
เรนเดล มันสมองของกลุ่ม ถนัดเรื่องการวางแผน หาแนวป้องกัน ทั้งแผนเชิงรุกและเชิงรับ ดึงเอาขีดความสามารถของแต่ละคนมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ถ้าพูดถึงความสามารถเฉพาะตัวก็คงจะเป็นการผสมสารเคมี และเป็นหนึ่งในทีมค้นคว้าวิจัย อย่างยาสกัดจากดอกวิสเทอร์เรียก็เป็นหนึ่งในการค้นคว้า ที่เจ้าตัวคิดขึ้นมาเล่นๆ แต่ใช้ได้จริง และคอยดูแลอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เพราะมีงานวิจัยอื่นที่น่าสนใจและทำรายได้ ได้มากกว่า
ไมเคิลใช้เวลาอีกครู่หนึ่งในการถามถึงความเป็นไปและงานต่างๆ ที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย ก่อนที่ทั้งหมดนั้นจะเคลื่อนพลไปที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งมีน้องน้อยนั่งคออยู่ก่อนแล้ว
“พี่ราฟ!!!” เสียงใสร้องดัง ก่อนจะวิ่งไปโถมกายเข้าใส่คนที่ตนเองเห็นเป็นคนแรก เซราฟยืนตั้งหลักเอาไว้มั่น อ้าแขนรองรับร่างเล็กที่พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
เซราฟราวกับได้รับสายตาทิ่มแทงคมกริบจนแผ่นหลังอาบไปด้วยเลือด ใครคนหนึ่งเดินผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ปรายสายตามองจ้องดุดันและคมกริบคล้ายใบมีด ก่อนจะเดินผ่านไปอย่างเงียบๆ
“พี่ราฟจะมากี่วันหรอ” เด็กน้อยที่ถูกไถใบหน้าเข้ากับแผ่นอกแบนราบของเซราฟเงยหน้าขึ้นมองตาแป๋ว ร้องถามเสียงใสเจือแววออดอ้อน
“เซราฟมีงานที่ต้องทำค่ะตัวเล็ก ทานอาหารเสร็จเขาก็จะไปแล้ว”
“แต่บอส ผมไม่-”
“โรม...” เพียงเท่านั้นโรมีโอก็ขยับมายืนข้างกาย ยื่นส่งเอกสารบางอย่างให้กับเซราฟ ที่บนหน้ากระดาษประทับตรา SSR เอาไว้ให้ เซราฟกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ยอมยื่นมือออกไปรับ โรมีโอจึงโน้มกายเข้ามาหา เอ่ยปากบอกแผ่วเบาราวกระซิบ
“รับไปเถอะครับ และผมแนะนำให้คุณปล่อยคุณหนูออกเสียก่อน ก่อนที่มันจะมีภารกิจงอกขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง” เซราฟรีบปล่อยมือออกราวกับโดนของร้อน แล้วละล่ำละลักบอกอย่างร้อนรน
“ผมอยู่ไม่นานครับคุณหนู ตามที่บอสว่าเลยครับ” ตอบกลับพร้อมเอื้อมมือรับเอกสารนั้นมาอย่างจำใจ
“หึ....” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นในลำคอ เอวาหันมองอย่างงงๆ กว่าจะรู้ตัว ก็พบว่าพี่ๆ คนอื่นๆ ต่างพากันก้มหน้าก้มตา ยกมือขึ้นปิดหน้า ไม่ยอมสบตากับเด็กน้อย แล้วเดินก้าวเท้าเร็วๆ ไปนั่งที่ของตน และมีบางคนที่ตบไหล่ของเซราฟปุๆ เชิงให้กำลังใจ
เอวามองดูคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยความงุนงง จนไมเคิลต้องเอ่ยปากเรียกถึงยอมขยับกายออกจากหน้าประตูห้องรับประทานอาหาร
“ตัวเล็ก มานั่งครับ” ดังนั้นแล้วเอวาจึงวิ่งดุ๊กดิ๊กไปนั่งลงที่ประจำของตน และบุคคลทั้งหมดจึงเริ่มต้นทานอาหารร่วมกัน
“เดี๋ยวนะ ทำไมของบอสมีเจ้านั่นกันล่ะ” ออสการ์พูดพร้อมกับชี้มือไปที่ขนมเค้กซึ่งถูกวางตั้งอยู่ข้างกาย ในดวงตานั้นเป็นประกายแวววาวปรารถนาอยากได้ ไมเคิลกดมุมปากกลายเป็นรอยยิ้มน้อยๆ สายตาแสดงถึงความเหนือกว่าอย่างที่ไม่มีใครได้รับ ก่อนจะใช้ส้อมนั้นจิ้มลงที่ขนมเค้ก แล้วตักเข้าปากต่อหน้าต่อตาออสการ์ในทันที
ชายหนุ่มผมสีส้มประกายเหลือบแดงใบหน้าตกกระเล็กน้อยริมฝีปากสั่นระริก มองท่าทางเย้ายวนในการทานเค้กของบอสหนุ่มอย่างยากที่จะหักห้ามใจ กลืนน้ำลายดังเอื๊อก
“บอสต้องบลัฟผมขนาดนี้ไหม” ไมเคิลกดยิ้มร้าย แล้วหันไปเอ่ยชมกับเด็กน้อยเสียงอ่อนเสียงหวาน จนคนฟังยิ้มแก้มปริหน้าบานเป็นกระด้ง
“อร่อยมากครับตัวเล็ก ขอบคุณครับ” พูดอย่างเดียวไม่พอ ฝังจมูกโด่งเป็นสันลงที่แก้มนุ่ม จนเด็กน้อยหัวเราะคิกคัก แล้วจึงหันมาส่งยิ้มหวานส่งให้
เคร้ง!
“อาหารวันนี้มันเลี่ยนมากจริงๆ” ซีนอนวางส้อมและมีดลงในจานจนเกิดเสียงดัง พูดพร้อมเบ้ปากมองสองพี่น้องที่สวีทหวานราวกับอยู่ในโลกสีชมพูกันสองคน เอวาก้มลงมองจานอาหารที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอียงคอน้อยๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก กะพริบตาปริบๆ
“แต่วันนี้เป็นสเต๊กเนื้อนะพี่ซี”
“ฮึฮึ” เซราฟส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ในขณะที่โรมอมยิ้มน้อยๆ ให้กับท่าทางนั้น และไมเคิลที่ทำเพียงปรายสายตามอง เอ่ยปากเสียงเนิบช้าเย็นเฉียบ
“ไม่กินก็ออกไป.....” ซีนอนพองลมแก้ม แล้วจับส้อมขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ๆ จะอยู่กันกี่วันหรอ” เด็กน้อยดวงตาเป็นประกาย มาดหมายว่าจะมีเพื่อนเล่นเพิ่มมากขึ้นอีก คฤหาสน์แห่งนี้จะได้ไม่เงียบเหงาเกินไปนัก
แต่ละคนบอกตัวเลขที่จะพักอยู่ที่นี่มาทีละคน มีตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 2 สัปดาห์ แต่คนที่ต้องรีบไปมากกว่าใครเพื่อนคือเซราฟ ทำให้หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว เอวาก็มายืนส่งชายหนุ่มที่หน้าประตูบ้าน
“พี่เซราฟ แล้วเรื่องนั้นล่ะ พี่ไม่อยู่แล้วหนูจะทำยังไง”
“เดี๋ยวพี่บอกซีนอนเอาไว้ให้” พูดพร้อมลูบเส้นผมบนศีรษะเด็กน้อยแผ่วเบา จนกระทั่งได้รับเสียงกระแอมไอ จึงยอมละมือลงในสายตามองเห็นบอสของตนขยับเดินเข้ามาใกล้ และหยุดลงที่ข้างตัวน้องน้อย วางมือลงบนบ่าคล้ายการโอบกอดกลายๆ
“รีบไปได้แล้ว.....” เซราฟกลอกตาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ แล้วจึงกล่าวคำลา แต่แล้วไมเคิลก็ยื่นส่งของบางอย่างให้ก่อนไป ซึ่งเป็นกล่องสีดำขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง
“คนเดียว....” เพียงเท่านั้นก็เข้าใจความหมาย ชายหนุ่มจึงพยักหน้ารับ กล่าวลาอีกครั้ง หมุนตัวเดินไปขึ้นรถของตน เมื่อเข้ามาอยู่ในรถแล้วก็เปิดกล่องออกดู เห็นว่าเป็นปืนไรเฟิลรุ่นล่าสุดที่ถูกดัดแปลงใหม่ ทำให้ชายหนุ่มดวงตาเป็นประกายด้วยความชอบใจ แล้วจึงเก็บลงกล่องตามเดิม ขับออกไปช้าๆ ด้วยความอารมณ์ดี
ในตอนที่สองพี่น้องกำลังจะเดินเข้าบ้าน ก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาพอดี ทำให้ไมเคิลต้องหันกลับไปมอง และเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ดวงตาสีทองก็เรืองรองเข้มขึ้นและจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีไมค์”
“อืม.....” ไมเคิลตอบรับในลำคอกลับไปแผ่วเบา บารอนขยับเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับยื่นของบางอย่างมาตรงหน้า
“ตาแก่นั่นฝากของขวัญมาให้นาย เขารู้ว่าเมื่อวานเป็นงานเลี้ยงวันเกิดนายแต่ติดงานเลยมาไม่ได้ เขาฝากให้ฉันเอามาให้แทน อ้ะ ฝากการ์ดมาด้วย” ไมเคิลมองขวดไวน์ราคาแพงในมือของเพื่อนสนิท ก่อนจะพยักหน้ารับและยื่นมือออกไปรับไว้
“เข้ามาสิ”
“เข้าแน่นอนอยู่แล้ว” บารอนพูดพร้อมยักไหล่ และเบนเข็มหันไปหาเด็กน้อยข้างตัวแทน
“สวัสดีค่ะคนสวย งานเลี้ยงเมื่อวานสนุกไหมคะ” บารอนพูดด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานฉอเลาะ พร้อมดวงตาเป็นประกายแพรวพราว
“สนุ- อ่า... อื้ออ สนุกครับ” คำที่กำลังจะเปล่งออกจากริมฝีปากชะงักไปชั่วครู่ เพราะคิดถึงหญิงสาวที่มาทักทายเมื่อคืนนี้ แต่เพียงไม่นานก็ส่งรอยยิ้มสดใส เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไมเคิลอยู่ข้างกายด้วยตลอดเวลา
เมื่อคืนนี้บารอนก็ได้เข้าร่วมงานด้วยเช่นกัน แต่ทำได้เพียงการทักทายเพียงเล็กน้อยกับเพื่อนสนิท หลังจากนั้นจึงเป็นการกระชับสัมพันธ์เพื่อธุรกิจล้วนๆ ทำให้ไม่ค่อยได้เข้ามาพูดคุยด้วยเท่าไหร่นัก
บารอนใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่คฤหาสน์กับไมเคิลและเอวา ได้พบเจอกับทีมระดับ S ทั้ง 8 ของไมเคิลและพูดคุยกันอย่างถูกคอ เพราะได้พบหน้าค่าตากันบ่อยครั้งจนกลายเป็นเพื่อนสนิทไปโดยปริยาย
ตอนนี้เอวากำลังนั่งสัปหงกอยู่ท่ามกลางชายหนุ่มหลายคนที่ล้อมวงเล่นไพ่ร่วมกัน ไม่เว้นแม้แต่ไมเคิลก็ยังเข้าร่วมด้วย ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงตกกระทบซบลงที่บนบ่า เมื่อหันหน้าไปมองก็พบว่าน้องน้อยหลับคอพับคออ่อน จึงเอ่ยปากเสียงเบาราวกระซิบ
“99...” หลังจากสิ้นคำนั้น ทุกคนก็ต่างวางไพ่ในมือลงด้วยท่าทางเซ็งสุดขีด ไพ่ที่พวกเขาเล่นกันอยู่ในตอนนี้คือ เกม 99 หมายถึงการสะสมตัวเลขไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบ 99 แล้วจึงจบเกม โดยที่วางเงินเป็นเดิมพัน
“ฉันจะพาตัวเล็กไปนอน....” พูดพร้อมกับวางไพ่ลงบนโต๊ะ หมุนกายไปหาเด็กน้อย จัดท่าทางแล้วอุ้มขึ้นในท่าเจ้าหญิง เดินออกจากห้องไปช้าๆ โดยมีโรมีโอเปิดประตูอำนวยความสะดวกให้ บารอนทำท่าบิดขี้เกียจเล็กน้อย แล้วยกมือขึ้นปิดปากหาวเบาๆ เอ่ยบ่นออกมา
“ฉันเองก็ไปนอนบ้างดีกว่า ยังไม่ได้นอนเลยเนี้ย” พูดจบก็วางไพ่และลุกออกไปทันที ทำให้บุคคลทั้งหมดที่ล้อมวงไพ่อยู่พากันเลิกเล่นและกลับเข้าห้องใครห้องมัน โรมีโอบิดลำคอไล่ความเมื่อยขบ แล้วจึงเดินกลับห้องของตัวเองที่อยู่ถัดจากห้องโพธิ์แดง แต่แล้วสองขาก็มีอันต้องชะงัก เพราะเห็นคนที่ขอตัวออกมาก่อนวงแตกอย่างบารอนเอื้อมมือคว้าประตูลูกบิดหน้าห้องคิงและเปิดเข้าไป โรมีโอยกมือขึ้นลูบริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คืนนี้บอสของเขาคงมีคนคอยดูแลแล้ว และไม่จำเป็นต้องมีเขาเพิ่มเข้าไปอีก......
โรมีโอเดินผ่านประตูห้องคิงไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งไปหยุดลงที่ห้องของตนเอง และในตอนที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไป ประตูห้องอีกห้องหนึ่งก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของใครบางคน ทำให้โรมีโอหันกลับไปสนใจมอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็เผยรอยยิ้มบาง ก่อนที่จะเดินย้อนกลับไปหา ส่วนคนๆ นั้นก็ขยับเข้ามาใกล้เช่นกัน
“นอนไม่หลับหรอครับ”
“อื้อ พี่จ๋ากวนหนู” ว่าพร้อมบึนปากส่งให้อย่าแง่งอน จนโรมีโอยกยิ้มขบขัน วางมือลงบนศีรษะเล็กและยีไปมาเบาๆ
“น่าจะชินได้แล้วนะครับ” เด็กน้อยทำปากจู๋มุ่ยหน้าใส่
“ใครจะไปชินกันเล่าโรม” เพราะคำนั้นทำให้ชายหนุ่มหัวเราะน้อยๆ ในลำคอ
กึ่ง!!
เสียงที่ดังขึ้นจากในห้องด้านข้างทำให้เอวาหันไปมอง ดวงตามีความสงสัยใคร่รู้ปะปนอยู่หลายส่วน ก่อนจะขยับเท้าเข้าไปใกล้ ทำท่าจะเปิดประตูห้องดู
“คุณหนูครับ เราปล่อยให้บอสพักผ่อนกันดีไหมครับ” พูดเสียงนุ่มพร้อมยกมือขึ้นกันอย่างสุภาพ
“อ่า อื้อ พี่จ๋าเหนื่อย” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ กำลังจะหมุนตัวหันหลัง เสียงเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้ง
กึ่ง!!
และครั้งนี้ทำให้คิ้วคู่เรียวสวยขมวดเข้าหากัน
“พี่จ๋า เป็นอะไรรึเปล่านะ?” เสียงหวานพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา ในขณะที่โรมีโอเหงื่อซึมที่ขมับและไรผม หัวใจเต้นโครมคราม
“ไม่น่ามีอะไรหรอกครับ เรารีบไปกันดีกว่าครับคุณหนู”
กึ่ง! กึ่ง! กึ่ง!
เสียงที่ดังติดต่อกันถี่ๆ ทำให้เด็กน้อยทนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหว มือขาวนวลจึงเอื้อมคว้าประตูลูกบิดแล้วกระชากเปิดออกทันทีด้วยความร้อนใจ ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำให้ชะงักนิ่งไป รู้สึกร่างกายไร้ความรู้สึกจนด้านชา
“นี่มัน..... อะไร....” ภาพตรงหน้าคือภาพของบารอนที่อยู่ในท่าโก่งโค้ง สองมือจับขอบประตูพยุงตัว ร่างกายเกือบจะเปลือยเปล่าและมีร่องรอยฉีกทึ้งของเสื้อผ้าปรากฏให้เห็น ในขณะที่ไมเคิลยืนนิ่งซ้อนทับอยู่ที่ทางด้านหลังและมองเห็นใบหน้าของน้องน้อยได้อย่างชัดเจน
“อ่า..... รักฉันแรงๆ ไมค์” เสียงแหบห้าวครางกระเส่าออกมาให้ได้ยิน ขณะที่ขยับกายไปมาเพื่อให้สิ่งที่เติมเต็มช่องทางขยับเข้าออก ไมเคิลยืนนิ่งเป็นหิน ลำตัวแข็งค้าง แต่เพราะความบีบรัดที่อุ่นร้อนโอบล้อมเอาไว้แน่นจนต้องกัดริมฝีปากครางออกมาเสียงต่ำในลำคอ
“อ่า เร็วที่รัก เอาฉันแรงๆ” บารอนพูดพร้อมขยับตัวหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น สายตาปรายมองเด็กน้อยที่ยืนนิ่งเป็นหินอย่างพึงพอใจแกมเยาะเย้ย และเหมือนว่าโรมีโอจะทนไม่ไหวอีกต่อไป ยกมือขึ้นปิดดวงตาที่กำลังเบิกกว้าง ใจพลันกระตุกไหววูบเมื่อรู้สึกถึงความฉ่ำชื้นภายใต้ฝ่ามือ
“นี่มันอะไร!!!” เอวากระชากมือของโรมีโอให้หลุดออกจากใบหน้า แผดเสียงดังลั่นพร้อมกับการร้องไห้สะอึกสะอื้น โรมีโอจับดึงเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด สายตาตวัดไปมองจ้องบารอนและนายของตนอย่างดุดัน ความไม่ชอบใจปรากฏขึ้นมาเด่นชัดอย่างไม่มีการปกปิด เอ่ยปากเสียงเย็นดุจน้ำแข็งในห้วงมหาสมุทร
“คุณควรจะละอายใจบ้างที่ทำให้เด็กคนหนึ่งต้องเห็นภาพอุจาดตาแบบนี้.... คุณทั้งคู่....”
“ฮืออออ โรม ฮือ โรม” เอวาร้องไห้ซุกหน้าลงกับอกของชายหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลเข้ม ภาพที่เห็นอยู่นี่ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักว่ามันคืออะไร เพราะวัยที่เพิ่มมากขึ้นทำให้รับรู้อะไรหลายๆ อย่างเพิ่มขึ้นไปด้วย
ทั้งคู่กำลังร่วมรัก......
ถ้อยคำที่มีคำว่ารักอยู่ในประโยคซึ่งเปล่งออกจากริมฝีปากของบารอนเด็กน้อยจำมันได้ดี และได้ยินชัดทั้งสองรูหู ความเจ็บปวดเข้าแทรกซึมภายในใจ จนกลั่นเป็นหยาดน้ำตา หมุนกายหันหลังให้ตามการชักนำโดยที่มีโรมีโอพาเด็กน้อยกลับเข้าห้องไป
ทันทีที่ประตูถูกปิดลง ไมเคิลก็ใช้มือผลักตัวบารอนออกห่างอย่างรวดเร็ว เอ่ยปากสั่งการและสวมใส่เสื้อผ้าให้ตัวเอง
“ออกไป......”
“แต่ไมค์ นายยังไม่ได้ปล่อ-”
“ไสหัวไป!!!”
เพล้ง!!!!!
เสียงตวาดดังลั่นออกมาจากห้องพร้อมกับวงแขนแกร่งที่กวาดเอาสิ่งของจากชั้นวางของใกล้ตัวลงมาแตกกระจัดกระจาย บารอนอมยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใด แถมยังใจกล้าขยับเท้าเข้าไปใกล้ โถมตัวเข้ากอดและขยับมือรูดรังลำกายที่แข็งขืนเป็นหินร้อนเผาไฟไว้ในฝ่ามือ
“ไม่เอาน่าไมค์ ฉันรู้จักนายดี”
“ไสหัวออกไปซะบารอน ก่อนที่ฉันจะฆ่านายตรงนี้.....” น้ำเสียงเย็นยะเยือกมาพร้อมสัมผัสที่เย็นชา เมื่อในมือของไมเคิลตอนนี้มีมีดเล่มหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนกำลังยกขึ้นและแทงหลังมือของบารอนเป็นการบังคับกลายๆ ให้หยุดการกระทำ
บารอนเหลือบมองมีดที่ปักอยู่บนมือของตน หยาดโลหิตเริ่มรินไหลออกมาอย่างช้าๆ จนในที่สุดชายหนุ่มก็ถอนหายใจ ดึงมือออกไปและยอมแพ้ในที่สุด
“โอเคๆๆ ฉันกลับก่อนก็ได้ แต่ถ้าเจ้าหนูนั่นไม่เข้าใจ จะให้ฉันมาช่วยอธิบายก็ได้นะ” พูดด้วยเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ ก่อนจะกดจูบลงที่บ่ากว้างไปเสียหนึ่งที แล้วจึงขยับเดินไปแต่งตัว ไมเคิลยืนรออยู่นิ่งๆ จวบจนกระทั่งบารอนก้าวเท้าออกจากห้องไป ชายหนุ่มก็โยนมีดทิ้งอย่างไม่ไยดีว่าราคาของมันมีมูลค่ามากแค่ไหน
เคร้ง!
“โธ่เว้ย!!! ” เสียงสบถดังลั่นพร้อมกับการยีหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิดใจ เขามั่นใจมากๆ ว่าน้องน้อยหลับไปแล้วในตอนที่ตนออกจากห้องควีนมา แต่อะไรที่ทำให้เด็กน้อยตื่นขึ้นระหว่างกลางดึกแบบนี้ หรือเพราะเขาจะเสียงดังเกินไป ทั้งๆ ที่ยกมือปิดปากบารอนเอาไว้แล้วแท้ๆ
ไมเคิลปวดที่ใจเมื่อตนเป็นต้นเหตุของหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ.........
Romeo Part“ฮือออ โรมจ๋า โรม....” เด็กน้อยสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของชายคนหนึ่งที่ตนยกให้เป็นเสมือนพี่ชายอีกคน โรมีโอถอนหายใจแผ่วเบา สองมือคอยโอบอุ้มประคองและลูบไล้แผ่นหลังเล็กบางนั้นอยู่ตลอดเวลาเวลาผ่านไปเนินนานกว่าที่เสียงร่ำไห้นั้นจะหยุดลง โรมีโอก้มลงมองคนในอ้อมแขน พบว่าคุณหนูของบ้านร้องไห้หนักจนผล็อยหลับไปเสียแล้วดังนั้นแล้วผู้ช่วยหนุ่มจึงค่อยๆ จับร่างเล็กให้เอนตัวลงนอน ขยับเข้าไปในห้องน้ำ หยิบผ้าผืนเล็กและกะละมังออกมา ผ้าขนหนูนุ่มนิ่มลูบไล้ไปทั่วกายบาง แววตาที่ชายหนุ่มทอดมองเต็มไปด้วยความอาทรใจ ปลายนิ้วเกลี่ยแพขนตางอนไปมา แล้วเช็ดตัวจนเสร็จเรียบร้อย ผลัดเปลี่ยนเสื้อให้เป็นชุดสำหรับใส่นอนสบายตัว แล้วทิ้งตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนข้างๆ ฝ่ามือลูบไล้ศีรษะและใบหน้าหวานไปมา ราวกับจะช่วยกล่อมนอนให้นอนหลับฝันดีแกร๊ก!เสียงเปิดประตูดังขึ้นแผ่วเบา แต่กระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้โรมีโอหันไปสนใจมอง ใครบางคนเดินเข้ามาใกล้และหยุดลงที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่ง น้ำเสียงที่เคยทรงพลังเปี่ยมไปด้วยอำนาจแหบพร่าไร้เสียง“ออกไป.....”“ไม่” เสียงตอบปฏิเสธดังกลับมาในทันที ทำให้คนที่มีดวงตาสีทองเรืองรองเข้มขึ้น กดเสียง
บรรยากาศระหว่างไมเคิลและโรมยังคงเป็นไปอย่างอึมครึมเช่นเดิม จนตอนนี้ก็ผ่านเลยไปเกือบสัปดาห์แล้ว แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆไมเคิลมองตามคนที่เดินไปเดินมาภายในห้องไม่ละสายตา ตั้งแต่เดินไปชงชา จัดเตรียมขนม นำมาวางลงตรงหน้า แล้วขยับไปจัดเอกสาร หยิบเอาแฟ้มที่ต้องการออกไป เดินไปทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง แล้วผุดลุกขึ้นมาอีกครั้ง ขยับไปที่ตู้เอกสาร หยิบแฟ้มออกมาหนึ่งเล่ม และเดินกลับมาที่เดิมการทำงานทุกอย่างยังคงเป็นไปเช่นเดิม ไม่มีอะไรติดขัด ทั้งคู่ยังคงทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่เหมือนเดิมแต่เดิมโรมีโอก็ไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้ว อีกฝ่ายจะพูดเมื่อจำเป็น ไม่ทำอะไรที่เป็นการขัดใจเขา ตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน ติดอยู่ตรงที่ว่ารอยยิ้มที่เคยมีติดอยู่บนใบหน้าเป็นนิจได้เลือนหายไป......กึก!ไมเคิลหยุดมือที่กำลังขยับเซ็นชื่อบนเอกสาร เงยหน้ามองคนที่หยุดอยู่ตรงข้าม เห็นผู้ช่วยคนสนิทวางเอกสารลงตรงหน้า พร้อมเอ่ยปากอธิบาย“งานสุดท้ายของวันนี้ครับ”“อืม....” ไมเคิลครางรับในลำคอแผ่วเบา และเลื่อนเอกสารเข้ามาดูใกล้ๆ“พรุ่งนี้บอสมีเข้าพบพระนางตอน 9 โมงเช้าครับ” ไมเคิลพยักหน้าร
**คำเตือน**ฉากต่อไปนี้มีความรุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน และห้ามลอกเลียนแบบโดยเด็ดขาด!!!Micheal Part“อะไรนะ? ......” น้ำเสียงกดต่ำมาพร้อมใบหน้าที่เครียดขึ้ง ไมเคิลหันไปมองหน้าผู้ช่วยคนสนิท ข่มความโมโหที่พลันปะทุขึ้นในอก กัดฟันพูดเสียงต่ำในลำคอ“เกิดขึ้นได้ยังไง.......”“........”“เกิดขึ้นได้ยัง!!!!”เพล้ง!!!!เสียงตวาดมาพร้อมกับการยกกำปั้นขึ้นทุบโต๊ะที่อยู่ตรงกลางระหว่างบุคคลทั้ง 3 จนมันแตกกระจายพังลงตรงหน้า นั่นทำให้บุคคลในบริเวณโดยรอบพากันก้มหน้าหลบสายตา กันนาร์ขยับเข้ามาปกป้องคนที่มีศักดิ์เป็นองค์ราชินี ในขณะที่โรมีโอทำเพียงมองจ้องนายของตนเงียบๆ“หาให้เจอ...... ตามหาเอวาให้เจอ!!!!” คำสั่งนั้นมาพร้อมกับการผุดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ไมเคิลก้าวเท้ายาวๆ เดินกลับไปที่รถ ความเป็นห่วงสุมอยู่เต็มอกจนหลงลืมการทำความเคารพองค์ราชินี กันนาร์ขยับกายเข้ามาหาชายหนุ่ม หมายจะบังคับให้ทูลลาตามกฎเสียก่อน แต่หญิงสาวเพียงคนเดียวในที่นี้ยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ พร้อมถ้อยคำแผ่วเบาอย่างเข้าอกเข้าใจ“ปล่อยเขาไป”ไมเคิลขึ้นมานั่งบนรถตรงที่นั่งคนขับอย่างรวดเร็ว โรมีโอที่วิ่งตามมาเห็นรถเริ่มกระชากตัวออกก็รีบเร
Romeo Partตอนนี้เรียกได้ว่าใครก็เข้าหน้าบอสใหญ่ไม่ติด แม้แต่ตัวของโรมเอง.....ชายหนุ่มยกมือขึ้นนวดหัวคิ้วของตนอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตาฉายแววเหนื่อยล้า แต่เพราะความเป็นห่วงคุณหนูเล็กของบ้านจึงยังไม่มีใครแยกย้ายไปพักผ่อนแต่อย่างใด มีเพียงบอสใหญ่ของบ้านที่เก็บตัวเงียบ ในขณะที่ทีมระดับ S ทั้ง 8 ทำงานเต็มความสามารถโอเว่นนั่งจ้องอยู่หน้าคอมไม่ละสายตา สองมือรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว โอเว่นจัดการค้นหาบ้านพักทั้งหมดของบารอนที่มีอยู่ในครอบครอง และบอกพิกัดให้กับทีม ซึ่งระดับ S ทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็กระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ เผื่อว่าจำเป็นต้องมีการปะทะตอนนี้ผ่านไปแล้ว 3 วัน ความคืบหน้าก็ยังไม่ปรากฏให้เห็น ไมเคิลเองก็เก็บตัวอยู่ภายในห้อง ไม่มีใครกล้าเข้าไปอีกเมื่อเห็นร่องรอยที่เกิดขึ้นกับโรมีโอ“โรม คุณไปพักบ้างดีไหม” กันนาร์ที่ถูกองค์ราชินีส่งตัวมาช่วยในการค้นหาเอ่ยทักอย่างเป็นห่วง หากแต่ชายหนุ่มเจ้าของชื่อกลับส่ายหน้าไปมาและส่งยิ้มให้บางเบา กันนาร์ถอนหายใจแล้วบอกให้เมดสาวนำอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาให้“อย่างน้อยก็ทำอะไรสักอย่างกับแผลนั่นเถอะ หน้าสวยๆ ของคุณพังไปหมดแล้ว” กันนาร์พูดพร้อมลา
ดวงตากลมโตที่บวมช้ำค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างช้าๆ แพขนตางามงอนกะพริบถี่ๆ อยู่หลายครั้งเพื่อปรับสายตา ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่เคยเห็นจนชินตามาตลอด 3 วัน บัดนี้กลับแปรเปลี่ยนไป กลับกลายเป็นห้องขนาดกลางที่มีเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม อย่างโต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางทีวี หากแต่ห้องที่อยู่อาศัยในตอนนี้เก่ากว่ามาก คล้ายกับห้องร้างที่ไร้ซึ่งคนอยู่อาศัย“แค่กๆ” เด็กน้อยไอออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกลำคอแห้งผากและคัดจมูก เนื่องจากฝุ่นที่จับตัวหนาอยู่ทั่วทุกพื้นที่ แถมยังรู้สึกแสบผิวและคันคะเยอไปหมด เนื่องจากนอนทับฝุ่นคละคลุ้ง นอกจากนี้แล้วเอวายังพบว่าตนสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น แม้ว่าเนื้อผ้าจะไม่ได้ดีมากนักและขนาดก็โอเวอร์ไซส์ไปเยอะ แต่ก็ยังดีกว่ากายเปลือยเปล่าล่อนจ้อน“อึก!” เอวาร้องครางออกมาเบาๆ เมื่อความปวดเมื่อยแล่นไปตามเนื้อตัวอย่างรวดเร็วฟ่อ!เสียงบางอย่างทำให้เอวาหยุดขยับตัว แล้วหันไปมองทางต้นเสียงอย่างช้าๆ พบว่าที่ปลายเท้าของตนมีงูตัวหนึ่งกำลังนอนขดอยู่ และตอนนี้มันก็กำลังผงกหัวขึ้นชูคอสูงจากฟูกนอน เด็กน้อยหน้าเผือดสี ความกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจ ไม่รู้แน่ชัดว่างูตรงหน้านี้มีพิษหรือไม่ในขณะที่หนึ่งค
Ava Part“เอวา!! วางมันลงเดี๋ยวนี้!!”“ไม่!!”เอวาร้องตะโกนกลับไปพร้อมทั้งใช้ปลายมีดชี้เข้าหาบารอนไปพลาง ตัวของเด็กน้อยสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม สีหน้าไม่สู้ดี บารอนเก็บคืนท่าทีกลับมาสงบนิ่งตามเดิม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“วางมันลงซะเอวา”“ไม่..... อยะ อย่าเข้ามานะบาร์ค หนูจะ.... หนูจะฟันจริงๆ นะ” เด็กตัวเล็กเอ่ยบอกเสียงสั่น ในขณะที่บารอนขยับเท้าเดินเข้าไปใกล้ จนปลายมีดนั้นจิ้มลงที่เหนือแผ่นอก บริเวณหัวใจ เอวาชักมีดกลับอย่างเกรงกลัว หากแต่บารอนกลับจับข้อมือเล็กเอาไว้ได้ทัน แล้วบังคับให้ปลายมีดกดลงให้ลึกมากยิ่งขึ้นอย่างช้าๆ“กดลงมาเลยค่ะ.....” บารอนพูดพร้อมกับเดินเข้าหาปลายมีดมากยิ่งขึ้น มือก็จับดึงบังคับทิศทางให้เด็กน้อยแท่งมีดลงที่อกของตัวเอง พูดด้วยรอยยิ้มติดใบหน้าน้อยๆ“กดมีดลงมาแรงๆ ......”“หยะ หยุดนะ...”“กดลงไปให้มิด....” หยาดโลหิตเริ่มไหลซึมผ่านเนื้อผ้าอย่างช้าๆ เอวามองคนตรงข้ามหน้าตาตื่น ภายในดวงตาของบารอนนั้นไม่ได้เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธแต่อย่างใด บัดนี้มันถูกแทนที่ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เอวาพยายามที่จะชักมีดกลับคืน พร้อมส่ายหน้าไปมาอย่างแรง เอ่ยปากพูดเสียงสั่น“มะ ม
“โรม......”“ครับ”“ลากตัวมันไป..... จัดการให้เรียบร้อย.......”“เยส มายลอร์ด”...ตอนนี้ไมเคิลกำลังนั่งมองเด็กน้อยที่เดินไปเดินมาภายในห้องนอน หยิบจับนั่นนู่นนี่อย่างชินมือ ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ บ่งบอกว่าพร้อมแล้วไมเคิลหลับตาลงช้าๆ ลอบถอนหายใจ แล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง ผุดลุกขึ้นจากโซฟา เดินก้าวเท้าเข้าไปหาน้องน้อยอย่างมั่นคง ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา“แน่ใจนะคะ?”“.....”“ตัวเล็ก?” ไมเคิลมองจ้องเด็กน้อยที่ยืนกำชายเสื้อเอาไว้แน่น ริมฝีปากถูกขบเม้มอย่างชั่งใจ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว น้องน้อยก็พยักหน้ารับ เอ่ยถ้อยคำออกมาแผ่วเบา“หนูจะไป....” ดังนั้นแล้วไมเคิลจึงจับจูงเด็กน้อยให้ออกจากห้อง เดินไปตามทางที่คุ้นเคย สองมือยังคงกอบกุมกันไว้แน่นไม่ยอมให้ห่างจากตัวหลังจากที่เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ เอวาก็รักษาตัวเองจนหายเป็นปลิดทิ้ง ร่างเล็กที่เคยผายผอมกลับมามีน้ำมีนวลเนื้อตัวนุ่มนิ่มดั่งเดิมจากการประโคมข้าวปลาอาหาร ขนมและน้ำหวานเป็นการเอาใจ จากชายหนุ่มทั้งสองคนคือไมเคิลและโรมีโอส่วนทีมระดับ S ที่ถูกเรียกตัวกลับมานั้นได้กระจัดกระจายไปตามมุมต่างๆ ทั่วโลก หลังจากที่ตามหาเด็กน้อยผู้ครอบครัวดวงใจมั
Michael Partตึกตึกตึกเสียงรองเท้าคัทชูสีดำเงาวับดังสะท้อนก้องไปทั่วพื้นที่ท่ามกลางความมืดมิดที่มีแสงจันทร์และแสงดาวรำไรชายรูปร่างสูงโปร่งเดินนำทางอยู่ด้านหน้า ที่ด้านหลังมีเจ้านายหนุ่มเดินตามมาเงียบๆ เงาดำทะมึนแผ่ขยายไปทั่วจนคนนำทางเหลือบมองเล็กน้อยอย่างกังวลใจ โรมีโอนำทางไมเคิลไปที่ชั้นดาดฟ้าที่ถูกตกแต่งใหม่ตามคำสั่งของไมเคิลที่ด้านบนของคฤหาสน์ชั้นดาดฟ้า มีการสร้างกำแพงล้อมรอบเอาไว้ด้วยอิฐสีดำสนิท ทำให้กลางวันดูดความร้อนจนอบอ้าวคล้ายเตาอบขนาดใหญ่ กลางคืนก็หนาวเย็นเกินจะต้านทาน ที่ด้านบนเป็นลูกกรงขนาดใหญ่ซึ่งมีกระจกกันกระสุนแบบสั่งทำพิเศษถูกติดตั้งไว้ นอกจากนี้แล้วยังเป็นจุดรวมแสงยิ่งทำให้แผดเผาจนอาจก่อให้เกิดประกายความร้อนโรมีโอไขกุญแจที่สั่งทำพิเศษเพื่อใช้กับห้องนี้โดยเฉพาะและเปิดเข้าไปช้าๆ เผยให้เห็นร่างของชายคนหนึ่งที่กำลังถูกตรึงรั้งด้วยโซ่เส้นใหญ่ที่ห้อยลงจากจุดกึ่งกลางของลูกกรง และนอกจากนี้ที่ด้านข้างกำแพงยังมีชายอีกคนที่ถูกบังคับให้นั่งลงข้างๆ หันมองคนที่กึ่งกลางห้องนั้นอย่างบังคับอยู่ในที เพราะมีสายรัดล็อกศีรษะ บังคับไม่ให้หันหน้าหนีไปทางอื่นไมเคิลเดินไปทรุดตัวนั่งลงบ
‘ลุงงงงงงงงงง’ มิลาด้ากลอกตามองอย่างเบื่อหน่าย พลิกกายหนีไอ้ลูกเสือตัวเล็กที่ชอบล้อมหน้าล้อมหลังไม่หยุดมิลาด้าไปเจอเจ้าลูกเสือตัวนี้เพราะได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังสนั่นจากทางด้านหลังของป่า พอไปถึงก็เห็นแม่เสือตัวหนึ่งที่นอนไร้ลมหายใจ อยู่ข้างนอกรั้ว โดยมีชายคนหนึ่งเอาปืนจ่อเอาไว้ ส่วนเจ้าลูกเสือนั้นเข้ามาในกรงด้วยกันกับมันอย่างงงๆ ซึ่งมันได้มารู้ภายหลังว่าแม่ของเจ้าตัวเล็กนี่ขุดหลุมเพื่อใช้หลบหนี แต่เพราะมันหลุมเล็กเกินไป เจ้าลูกเสือจึงรอดมาได้แค่ตัวเดียว ส่วนแม่ของมันถูกยิงตายและนอนปิดทางเข้าออกไว้แทนกรรรรรรรรรรมันขู่คำรามเสียงดังทำให้มนุษย์คนนั้นรีบวิ่งหนีไป มันมองหน้าลูกเสือตัวเล็กเพียงชั่วครู่ พอได้ยินเสียงเจ้านายร้องเรียกก็พุ่งทะยานกลับไปหาทันที ไม่สนใจเจ้าจิ๋วอีกใครจะไปรู้ว่าเจ้าจิ๋วนี่วิ่งตามมาแถมยังทำร้ายเจ้านายของเขาจนได้เลือดอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายเขาสั่งไว้ เจ้าจิ๋วคงไม่ได้มาวิ่งเล่นรอบตัวเขาแบบนี้เป็นแน่ เพราะเขาจะกัดหัวมันทิ้งด้วยตัวเอง!‘ลุงงงงงง หนูหิวนมมมมม’ เจ้าลูกเสือร้องแง้วๆๆ น่ารำคาญ ปีนป่ายตัวของมิลาด้าไม่หยุด จนเจ้าเสือหนุ่มรำคาญ ใช้เท้าหลังดีดเจ้าจิ๋วจ
“ไมค์”“...”“องค์ชายชาลส์ส่งจดหมายมาขอเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี”“ไม่...” โรมีโอกลอกตาใส่คนรัก แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน พร้อมเอ่ยปากบอก“ไมค์ คุณเป็นองค์รัชทายาทนะ ในอนาคตข้างหน้าก็คือคนที่มีหน้าที่ปกครองประเทศอาณาราช หากคุณไม่คิดสร้างสัมพันธ์กับละแวกเพื่อนบ้านใกล้เคียงบ้าง หากเกิดอะไรขึ้นมาเราจะขอความช่วยเหลือลำบากนะ” โรมีโอพูดด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ไมเคิลเหลือบตามองเพียงชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อ“ไม่...” ไมเคิลไม่ค่อยชอบองค์ชายคนนี้เท่าไหร่นัก ตั้งแต่ครั้งที่พบกันในสมัยเด็กแล้ว องค์ชายผู้นั้นค่อนข้างไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่...“ไม่ครับ ถ้าคุณไม่อยากพบเขา ผมจะพบเขาเอง” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเขียนจดหมายตอบกลับที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไมเคิลคิวกระตุกเข้าหากัน มองจ้องโรมีโอนิ่ง ๆ แล้วจึงสะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่งเดือนผ่านไป...ตอนนี้องค์ราชินี ไมเคิล โรมีโอ และเอวาพร้อมด้วยบารอน กำลังมายืนอยู่ที่หน้าประตูของพระราชวัง หลังจากที่โรมีโอเขียนจดหมายตอบกลับไป อีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว และแจ้งกำหนดการเดินทางในทันทีโรมีโอจึงจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่ขาดตกบกพร
“โรมไปไหน...” ไมเคิลถามพร้อมกับยื่นส่งเสื้อสูทของตนเองให้กับเมดสาวรับไปเก็บ พร้อม ๆ กับการดึงเนคไทออกจากลำคอแกร่งไปพลางก้าวเดินไปพลาง“คุณโรมยังไม่กลับค่ะ” เมดสาวตอบกลับและเดินตามหลังไปเงียบ ๆ ไมเคิลขมวดคิ้วหมุนด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วโบกมือไล่ไปหนึ่งที เพียงเท่านั้นเป็นอันเข้าใจ เมดสาวผละตัวไปจัดการข้าวของส่วนตัวของไมเคิลแล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะล่าถอยไปอย่างเงียบเชียบตอนนี้ทั้งไมเคิลและโรมีโอแต่งงานกันได้มากกว่า 3 ปี แล้ว การอยู่กินใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ค่อยแตกต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก ทั้งคู่ยังคงอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพียงแต่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างคฤหาสน์ตระวัลโด้ และตระกูลวอลเลอร์ ส่วนน้องน้อยของเขานั้นหลังจากที่ได้สวมแหวนหมั้นไป ก็แทนจะย้ายไปกินนอนอยู่ที่ตระกูลบาลักซ์แบบเต็มตัว อาจจะมีการแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้งไมเคิลก้าวเดินไปที่ทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นด้านหลังคฤหาสน์ อันมีเจ้าเสือขาวตัวใหญ่พักอาศัยอยู่ในป่าจำลอง ในขณะที่ก้าวเท้าชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าบ้านหลังให้ความรู้สึกเงียบเหงาและอ้างว้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาต่างมีงาน มีหน
คำเตือน มีเนื้อหาที่ขัดต่อศีลธรรมRomeo Partหลังจากที่บาลักซ์เข้ามาทำการสู่ขอเอวาด้วยตนเองและผลสรุปออกมาที่ทั้งสองคนต่างหมั้นหมายเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงจะจัดงานแต่งในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังเสร็จสิ้นการพูดคุย และน้องน้อยของเขาเดินตามหลังว่าที่คู่หมั้นตามต้อยๆ ไปแล้วนั้น โรมีโอก็ถูกสามีของตนอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด มุ่งตรงพาไปที่ห้องโพธิ์แดง และรังแกเขาอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นการชดเชยให้กับการร่วมรักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เขาถึงกับต้องนอนหยอดข้าวต้มกันเลยทีเดียวตอนนี้ไมเคิลและโรมีโอกำลังนั่งอยู่คู่กัน โดยตรงหน้ามีเอวากับบารอนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ถัดไปด้านข้างมีองค์ราชินีที่ทรงประทับ ทอดพระเนตรมองจ้องด้วยรอยยิ้มบางเบา ส่วนอีกฝั่งนั้นเป็นบาลักซ์ที่กำลังจ้องมองมาเช่นกันด้านข้างนั้นมีพานอันใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยแก้วแหวนเงินทองและเพชรพลอยในวันนี้คืองานหมั้นของคนทั้งคู่......บารอนสวมใส่ชุดสูทสีขาวคล้ายกับชุดเจ้าบ่าวส่วนเอวานั้นสวมใส่ชุดสีงาช้างเข้าคู่กันอย่างลงตัวกึก กึก กึกโรมีโอหันมองตามทิศทางของเสียงที่ตนได้ยิน เมื่อดวงตาสีฟ้าสดใสหันมองคนข้างกายก็ได้พบกับที่มาของเสียงนั้น“ฮึฮึ” โรม
Ava Partตอนนี้ทั้งเอวาและบารอนกลับมาจากการเที่ยวทะเลกันแล้ว เนื่องจากไมเคิลวางแผนฮันนีมูนกับโรมีโอและน้องน้อยของบ้านที่ผ่านมาได้ยิน จึงเข้าไปออดอ้อนขอพี่ชายตามมาเที่ยวด้วย จนบารอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปราม แต่ถึงกระนั้นไมเคิลก็ใจดีกับน้องน้อยเสมอ ตกปากรับคำในทันทีโดยไม่ต้องถามภรรยาที่กำลังนอนหลับพักผ่อนแม้แต่น้อยดังนั้นแล้วทำให้ท้ายที่สุดเอวาและบารอนก็ตามไปเที่ยวด้วยในทริปฮันนีมูนของพวกพี่ชาย แต่เด็กน้อยก็รู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร ดังนั้นจึงขอตามมาเพียงแค่สามวันสองคืน หลังจากนั้นจะเป็นไมเคิลที่ทำหน้าที่พาภรรยาออกเที่ยวรอบโลกตลอดหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ตามแผนที่วางไว้ตอนนี้เอวาและบารอนกำลังเดินกลับเข้ามาพักผ่อนในบ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่ม เพราะพวกพี่ชายไม่อยู่บ้านตลอดหนึ่งเดือน ทำให้คนตัวเล็กอดที่จะรู้สึกเหงาหงอยไม่ได้ แม้ว่าแต่เดิมทั้งสองคนจะชอบไม่อยู่บ้านบ่อยๆ จนเคยชินก็ตามที เห็นทีก็คงจะมีเพียงช่วงนี้ที่มีเรื่องหลายๆ อย่างต้องจัดการ จึงทำให้บุคคลทั้งสองอยู่ติดบ้านและเอวาก็ชื่นชอบให้มันเป็นเช่นนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องน้อยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ไมเคิลจึงออกปากอนุญาตให้มาอยู่อาศัยกับบารอ
Baron Part“หึหึ” เสียงทุ้มขี้เล่นของใครบางคนดังขึ้น ปลายนิ้วมือไล้เกลี่ยไปตามกรอบหน้าและเส้นผมที่ปรกตาของเด็กน้อยในอ้อมแขนออกให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะจมูกเล็กเชิดรั้นอย่างเอ็นดู คนตัวเล็กยู่หน้าเล็กน้อย ก่อนจนมุดหนี ซุกหน้าลงกับอกอุ่นของอีกฝ่าย แล้วหลับลงอย่างสบายอารมณ์อีกหนบารอนเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า สองแขนรวบเอาคนตัวเล็กมาอยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวสมองหวนคิดไปถึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเด็กน้อยที่เขาเคยมองว่าเป็นตัวเกะกะในครั้งแรก........ในเย็นวันหนึ่งเขากลับบ้านมาพร้อมกับไมเคิล ด้วยความที่ทั้งคู่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และบารอนเป็นคนที่มีเพื่อนมากเพราะความขี้เล่น ส่วนไมเคิลนั้นปั้นหน้านิ่งไม่รู้สึกยินดียินร้าย มีเพียงใบหน้าที่เรียบเฉย ข้างกายมีผู้ช่วยคนสนิทคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง นายเดินไปไหนผู้ช่วยคนนั้นก็เดินตามไปด้วย ซึ่งบารอนมารู้ทีหลังว่าชื่อโรมีโอ และเพราะความเรียบนิ่งนี้เองที่ทำให้เขาอยากจะเห็นตอนไมเคิลทำสีหน้าท่าทางแบบอื่นดูบ้าง จึงเข้าไปตีสนิทด้วยไม่ว่าเขาจะพยายามทำอย่างไร ไมเคิลก็จะเพียงปรายตามองเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่ก็อาจจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เขาเจ็บช้ำจนต้องกุ
Michale Part“เริ่มได้.......” ไมเคิลพูดขณะที่กวาดสายตาไปทั่วห้องอัศวิน วันนี้ไมเคิลมีแผนที่จะขนย้ายข้าวของ ของโรมีโอไปไว้ในห้องคิง คงจะดูแปลกไปสักหน่อย หากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยานอนพักผ่อนในห้องอัศวินที่ถูกตั้งไว้สำหรับบอดี้การ์ดคนสนิทหรือมือขวาของเจ้าของบ้านความจริงโรมีโอนั้นต้องได้นอนที่ห้องควีนเพื่อคู่กัน แต่น้องน้อยอยู่อาศัยในห้องนั้นตั้งแต่เจ้าตัวจำความได้ และไมเคิลก็ไม่อยากแย่งห้องของน้องน้อยมา ดังนั้นแล้วจึงตัดสินใจให้โรมีโอย้ายข้าวของมานอนด้วยกันในห้องคิง เมื่อคิดดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมในตอนนี้โรมีโอกำลังนอนหลับพักผ่อนในห้องโพธิ์แดงหลังจากกลับมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่ตระกูลวัลโด้ ซึ่งไมเคิลไม่อยากจะเข้าไปกวนการหลับใหลของภรรยา ดังนั้นเขาจึงเป็นควบคุมการจัดเก็บและขนย้ายด้วยตนเอง ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงหลังกับกำแพงห้อง มองดูเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวพากันขนย้ายข้าวของด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากไมเคิลยืนมองนิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเดินไปนั่งลงบนเตียงของโรมีโอ ยกฝ่ามือลูบไล้บนหมอนนุ่มแผ่วเบา อดที่จะยกมันขึ้นมาดมกลิ่นไม่ได้แชมพูส่วนตัวที่เป็นกลิ่นเด
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา