บทที่6
สงสัย
จากเรื่องราววันนั้นที่กวิน มาตามหาซัมเมอร์ก็สร้างความสงสัยให้กับเพื่อนสนิทอย่างลูกพีช เธอจึงพยายามสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“พี่โอมคะ พีชมีอะไรอยากขอคุยด้วยหน่อย”
คนที่ลูกพี่พอจะรู้จักในทีมบาสอีกคนก็มีเพียงโอมเพื่อนของกวิน
“พี่รู้ว่าเราอยากคุยกับพี่เรื่องอะไร เราไปที่คุยที่คนน้อยกว่านี้เถอะ”
ชายหนุ่มรูปร่างดีแต่ความหล่อยังสู้พี่กวินของ ลูกพีชไม่ได้ เขาพาเธอขับมอเตอร์ไซค์ ไปหาที่คุยแถวชายหาด ที่ไม่ค่อยมีคน
“ว่ามา มีอะไรจะคุยกับพี่”
หลังจากจอดรถตรงบริเวณที่มีโขดหินให้นั่ง คนพามาก็ชิงถามก่อนเลย
“พี่รู้ไหมคะ ว่าตอนนี้ซัมเมอร์เขาไปไหนมาไหนกับใครยังไงบ้าง” ลูกพีชไม่รู้จะเริ่มถามตรงไหนก่อน
“ถามอ้อม พี่ก็ตอบอ้อมๆนะ”
“ถ้าอย่างนั้น พีชถามตรงๆ ซัมเมอร์กำลังนอกใจพี่กวินอยู่หรือเปล่าคะ”
หญิงสาวไม่อยากพูดตรงๆ แต่ถ้าขืนยังอ้อมต่อไป คงไม่ได้รู้ความจริง
“นอกใจ แน่นอน แต่ยังไม่มีหลักฐาน” ชายหนุ่มนั่งค่อมรถกอดอกอย่างครุ่นคิด
“พี่โอมสงสัยใครคะ”
ความจริงแล้วหญิงสาวมีคนในใจอยู่เหมือนกัน แต่ไม่กล้าเอ่ย เพราะเป็นคนใกล้ตัวของคนตรงหน้า
“โค้ช”
“ใจตรงกันเลยค่ะ”
ชายหญิงสองคนมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมเพราะอะไรทั้งคู่ถึงได้คิดตรงกันแบบนี้ อย่างโอมยังมีเหตุผล เพราะเขาอยู่ใกล้ชิดกับโค้ช
“พี่โอม มั่นใจไหมคะ”
“ตอนแรกๆ เวลาซัมเมอร์มา โค้ชจะเข้าไปทักทายตลอด พอเดี๋ยวนี้ ต่างคนต่างไม่มองหน้า วันไหนซัมเมอร์ไม่มา วันนั้นโค้ชก็ลา พีชคิดว่าไง” โอมให้เหตุผล
“พีชเห็นแค่วันนั้นที่พีชไปด้วย ซึ่งมันก็นานมากแล้ว โค้ชเข้ามาทักทายพวกเรา แต่สายตาโค้ชมองซัมเมอร์แบบเจ้าชู้มาก พีชก็เลยกลัว ว่า...อาจจะเป็นโค้ช แล้วเราจะรู้ความจริงได้อย่างไรคะ”
“เรื่องนี้เดี๋ยวพี่สืบเอง ขอไลน์เราไว้หน่อยเดี๋ยวพี่ได้ข่าวคืบหน้าจะบอก แต่เรื่องนี้อย่าให้กวินรู้เด็ดขาดนะ พี่กลัวเรื่องจะบานปลาย”
หลังจากเลิกเรียนวันนี้ลูกพีชไม่ได้ไปทำรายงาน เธออยากจะลองใช้เวลาอยู่กับซัมเมอร์ให้มากขึ้น เผื่อเพื่อนของเธอจะยอมเล่าอะไรให้ฟังบ้าง
จากที่ตั้งใจจะรอกินข้าวเย็นด้วยกัน ลูกพีชก็ทนไม่ไหว เดินออกไปหาอะไรกิน ที่ซอยข้างๆหอ เพราะกลัวดึกกว่านี้ ร้านจะพากันปิดหมด
“เอ้า...ลูกพีช ทำไมมาคนเดียว” เสียงทักทายคุ้นหูอีกแล้ว
“พี่กับซัมเมอร์เพิ่งแยกกันเอง ไม่อย่างนั้นจะได้ให้ซื้อข้าวไปฝาก” หน้าตาคนพูดดูแจ่มใสกว่าเมื่อวานที่เจอ
“ไม่เป็นไรค่ะ พีชอยากมาเดินดูอะไรเพลินๆด้วยค่ะ”
หญิงสาวไม่กล้าบอกความจริง ว่าเธอรอกินพร้อมซัมเมอร์
“ถ้าอย่างนั้นพี่เดินเป็นเพื่อน แล้วจะได้เดินไปส่งที่หอด้วย”
หัวใจของลูกพีชเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งๆที่รู้ว่าตอนนี้เขาไม่ใช่รุ่นพี่ที่เธอแอบชอบ แต่เขาเป็นแฟนของเพื่อนเธอ
“ขอบคุณพี่กวินนะคะ ที่เดินมาเป็นเพื่อน” หญิงสาวยิ้มพร้อมยกมือขอบคุณ
“ไป ขึ้นห้องได้แล้ว ป่านนี้ซัมเมอร์หลับแล้วมั้ง พี่โทรไลน์ไปไม่อ่านแล้ว ฝากบอกซัมเมอร์ให้นอนหลับฝันดีด้วยนะ”
ยิ่งเห็นรุ่นพี่ของเธอ แสดงว่ารักเพื่อนของเธอมากแค่ไหน ลูกพีชได้แต่ขอให้เรื่องที่เธอกับโอมสงสัยไม่เป็นความจริง แค่นอกใจกันก็เจ็บมากพอแล้ว ถ้ายังเป็นการนอกใจกับคนใกล้ตัว หัวใจของชายหนุ่มคงแย่แน่ๆ
เมื่อมาถึงห้อง ห้องยังล็อคอยู่เหมือนเดิม แสดงว่าซัมเมอร์ไม่ได้กลับมาที่ห้อง แล้วทุกอย่างที่กวินพูด เขาโดนคนรักหลอกอีกแล้วเหรอ
ลูกพีชตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาว จะถามให้รู้ไปเลย ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน และอยู่กับใคร แต่โทรกี่ครั้งก็ไม่มีคนรับสาย พออารมณ์เริ่มเย็นลง ลูกพีชก็คิดได้ว่าถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องส่วนตัว ซัมเมอร์พร้อมเมื่อไหร่คงเล่าให้ฟังเอง
กว่าประตูห้องจะถูกเปิดอีกครั้ง ก็เป็นเวลาเช้ามืดแล้ว เท่ากับเพื่อนของเธอไม่ได้นอนหอทั้งคืน ลูกพีชตัดสินใจกับตัวเอง ว่าเธอจะถามเพื่อนดีไหม มันไม่ใช่แค่ความอยากรู้ แต่มันคือความเป็นห่วง
“ซัมเมอร์” หญิงสาวเรียกชื่อเพื่อนที่กำลังค่อยๆปิดประตู
“เราเสียงดัง ทำเธอตื่นเหรอ” ซัมเมอร์เดินมานั่งข้างคนเรียก
“เธอคงต้องบอกเราแล้วแหละ ว่าเธอไปไหนกับใครมา แล้วไม่ต้องมาโกหกนะ ว่าไปกับพี่กวิน เพราะเราเจอพี่เขาเมื่อหัวค่ำ เขาบอกเพิ่งแยกจากเธอ”
ลูกพีชไม่อยากให้เพื่อนหาคำโกหกที่เธอรู้คำตอบอยู่แล้ว จึงพูดทุกอย่างดักทางไว้ก่อน ทำเอาคนถูกถามถอนหายใจ เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบ้างอย่าง
“เรา.....เราขอโทษนะ เราโกหกทุกคน เราไม่ได้อยากทำ” ซัมเมอร์น้ำคลอตา
“ไม่อยากทำแล้วทำ ทำไม” คนฟังไม่สงสารแต่กลับโมโห
“เราพลาดไปแล้ว พีชเราพลาดไปแล้ว”
น้ำตาที่คลอในตอนแรกไหลลงอาบแก้มเหมือนสายฝน จนคนฟังต้องคว้าเพื่อนมากอดไว้
“ไม่เป็นไร บอกเราสิ เธอพลาดอะไร” สองมือโอบกอดคนร้องไห้อย่างสงสาร
“เรามีอะไรกับโค้ช”
“ฮะ!!”
ประโยคสั้นๆ ที่ตอบคำถามได้ทุกข้อสงสัย เป็นประโยคที่แทบจะทำให้ลูกพีชหยุดหายใจ จากตอนแรกที่กลัวว่าคำตอบ คือทั้งคู่แอบคบกัน แต่นี่มันพัฒนาไปถึงขั้นมีอะไรแล้ว
“เราพลาด เรามันโง่” คนเล่าสะอึกสะอื้นในอ้อมแขนเพื่อน
“ใจเย็น ค่อยๆเล่า เราพร้อมจะรับฟังแล้วช่วยเธอแก้ปัญหานะ” ลูกพีชหมายความอย่างที่พูดจริงๆ
หญิงสาวค่อยๆชันตัวลุกออกจากอ้อมกอดของเพื่อน ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม สูดลมหายใจยาวๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด
บทที่7ความลับถูกเปิดเผย “ใจเย็นๆ ค่อยๆเล่า” หญิงสาวปลอบเพื่อนที่กำลังเหนื่อยหอบเพราะกลั้นเสียงร้องไห้ไว้ในใจ “ตอนแรกที่โค้ชเขาเข้ามาคุย เขาของไลน์เราก็ให้ คุยกันได้ไม่นาน เขาก็ชวนเราไปกินข้าว เราก็คิดว่าแค่กิ๊กกันสนุกๆ” คนเล่าหยุดพูด มองหน้าเพื่อนเหมือนอยากจะปล่อยโฮอีกรอบ “พอนานไป เราก็เริ่มผูกพัน เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า เขาคอยดูแลเราได้ทุกเรื่อง แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าจะจริงจัง เรายังรักพี่กวินอยู่ วันนั้นเราตัดสินใจบอกเลิกโค้ช เขาขอให้เราไปเจอเขาที่ห้องเป็นครั้งสุดท้ายๆ แล้ว.....” คราวนี้คนเล่า หยุดเล่า เอามือทั้งสองข้างปิดหน้า เพราะอายในสิ่งที่เธอกำลังจะต้องพูดมันออกไป น้ำตาเริ่มไหลอาบสองแก้ม ก่อนที่เธอจะตั้งสติสูดลมหายลึกๆ มองหน้าคนฟังและเริ่มเล่าต่อ “วันนั้นเราไปหาเขาที่ห้อง แล้วเขากับเราก็มีอะไรกัน” “โค้ชปล้ำเธอใช่ไหมซัมเมอร์” ลูกพีชลุกยืนด้วยความโกรธ “ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราต่างหากที่ยอมเขาเอง” คนยอมรับเอามือตบหน้าตัวเองไปมาเหมือนคนเสียสติ “อย่าทำร้ายตัวเองแบบนั้น ปล่อยมัน มันพลาดไปแล้ว”มือทั้งสองถูกลูกพีชจับไว
บทที่8แค้นที่ลงผิดคน พรุ่งนี้เช้าเป็นวันหยุด กวินจึงขับรถออกจากที่จอดรถใต้หอ และขับออกมาตามถนนเลียบหาด อยู่ดีๆความรู้สึกของเขาก็คิดถึงใครบางคน “ออกมาหาพี่หน่อยได้ไหม ไม่ต้องบอกซัมเมอร์นะ พี่มีอะไรจะเล่าให้ฟัง” ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ เพื่อขอให้รุ่นน้องสาวออกมาหาเขาหน่อย “เอ่อ...ได้ค่ะ” ปลายสายถึงจะลังเลอยู่บ้าง แต่จากฝั่งน้ำเสียง ก็มั่นใจ ว่าคนโทรมาจิตใจคงไม่ปกติแน่ ๆ ลูกพีชเลือกที่จะโกหกซัมเมอร์ว่าเพื่อนที่สาขาโทรมา คืนนี้เธออาจกลับเช้าเลยเพราะนี่ก็จะตีหนึ่งแล้ว ถึงแม้จะสงสัยแต่ซัมเมอร์ก็ไม่กล้าถาม เพราะเมื่อคราวเธอ เพื่อนของเธอยังไม่ถามเธอเลย จึงได้แต่บอกให้เพื่อนระวังตัว เพราะมันดึกแล้ว “มีอะไรหรือคะพี่กวิน”เมื่อประตูรถถูกปิดลงหญิงสาวก็ถามด้วยความสงสัยทันที “พีชรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหน” คนถามไม่แม้แต่จะหันมามอง “เรื่องอะไรคะ” ลูกพีชไม่แน่ใจ ว่าเรื่องที่กวินถาม กับเรื่องที่เธอรู้เรื่องเดียวกันไหม “ลงไปซื้อเบียร์ให้หน่อย เอาให้หมดเงินที่ให้ไป” ชายหนุ่มยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้เธอ ไม่นานหญิงสา
บทที่9หลบหน้า หลังจากความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจได้ผ่านพ้นไป ลูกพีชตื่นขึ้นพร้อมร่างกายที่เปลือยเปล่า เธอค่อย ๆ ควานหาเสื้อผ้าของเธอ แต่งตัวให้เรียบร้อย เหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจึงเดินทางกลับหอด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาตื่นมาเจอหน้าเธอ “ไปไหนมาพีช ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนเลย” ซัมเมอร์กำลังเตรียมที่จะไปเรียนแต่เช้า เห็นสภาพเพื่อนเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน “ทำรายงานทั้งคืนเลย งานไม่เสร็จ” คนตอบหลบสายตา “ถ้าไปเรียนไม่ไหว ก็นอนก่อน ขาดแค่ไม่กี่ครั้งอาจารย์เขาไม่ว่าหรอก”ซัมเมอร์เห็นสภาพเพื่อน อยากให้ลูกพีช พักผ่อนก่อน เพราะไปเรียนสภาพนี้คงไม่ไหว “ว่าจะไม่ไป เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ” หญิงสาวพาร่างไร้เรี่ยวแรงเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเสียงปิดประตูดัง หญิงสาวก็ปล่อยเสียงร้องไห้ อย่างสุดที่จะกลั้นเอาไว้อยู่ ตอนนี้ในห้องมีเพียงเธออยู่คนเดียว เธอไม่จำเป็นต้องกลัวใครรู้ ภาพสภาพใบหน้าที่แสนจะหมองคล้ำ อาบได้ด้วยคราบน้ำตา ลูกพีชมองตัวเองในกระจก เธอมีคุณค่าเพียงแค่เป็นที่ระบายแค้นของเขา เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆ
บทที่10ความลับของเราสองคน ความผิดครั้งนี้ฝังลงในจิตใจ ของหญิงสาว เธอนั่งเรียนแบบร่างที่ไร้วิญญาณ ตาเหม่อลอย ไม่ได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่ดังอยู่รอบตัว “เป็นอะไรของเธอลูกพีช ทำท่าเหมือนคนกำลังอกหัก” ฌอนถามเพราะนั่งสังเกตมานาน “ลูกพีช” เรียกชื่อซ้ำอีกรอบ “ฮะ! อะไรนะ เรียกเราเหรอ” หญิงสาวได้สติหันมาตอบตามเสียงคนที่เรียกชื่อ “เป็นอะไรของเธอ ตั้งแต่เช้าแล้ว เอาแต่นั่งเหม่อ อกหักหรือไง มีอะไรก็เล่า ให้เราฟังได้นะ” ถึงแม้ลูกพีชกับฌอน จะสนิทกันไม่เท่าซัมเมอร์ อาจเป็นเพราะทั้งสองคน คนละเพศกัน แต่หลายเรื่องที่เพื่อนสนิทต่างเพศคนนี้ เป็นที่ปรึกษาให้เธอได้ตลอด ความคิดแผนการบางอย่าง ผุดขึ้นในหัวของ หญิงสาว ซึ่งแผนนี้ฌอนต้องช่วยเธอได้แน่ๆ เอาไว้เลิกเรียน เธอจะลองขอร้องเขา แต่คงเป็นการขอร้องแบบที่เธอคงไม่เล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง “เดี๋ยวเลิกเรียน เราไปหาอะไรกินกันนะ แล้วพีชจะเล่าให้ฌอนฟัง” ชายหนุ่มพยักหน้า เขาทั้งเป็นห่วงทั้งอยากรู้ เพราะอาการของเพื่อนสาว ดูแล้วจะแย่เอาการ ใต้ตาช้ำจนกลายเป็นสีน้ำตาล หน้า
บทที่11เมื่อมันไม่ใช่ความรักก็ควรจบ “เป็นไงล่ะ ตีบทแตกกันทั้งคู่เลยนะ” สองนักแสดงพากันหัวเรา ให้กับผลงานการแสดงของทั้งคู่ ที่เพิ่งแสดงไปที่ร้านอาหาร “เขาเชื่อสนิทเลย เชื่อเราสิพีช” ฌอนมั่นใจ “เราก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ลูกพีช แอบมองสายตา ที่กวินมองมาที่เธอและฌอน เขาเชื่อจริงๆ เพราะสายตามีความโมโหแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาเห็นเธอมีแฟนแล้ว เขาคงเลิกยุ่งกับเธอแน่ๆ หญิงสาวโล่งใจ เลิกเรียนแล้ว วันนี้ฌอนมีนัดกับเพื่อนชายคนสนิทของเขา เลยไม่ได้ไปส่งลูกพีชที่หอ เหมือนที่ตั้งใจไว้ หญิงสาวจึงเดินกลับคนเดียวตามปกติ “ขึ้นรถ บอกให้ขึ้นรถ” เสียงตะโกนดังมาจาชายหนุ่มที่อยู่ในรถที่ขับมาจอดข้างเธอ แทนที่จะขึ้นรถ ตามคำสั่งของคนในรถ หญิงสาวกลับรีบสาวเท้าเดินให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยไม่หันหน้ามามอง รถที่ขับตามเธอมาอย่างติดๆ ปี๊ด ๆ ๆ เสียงบีบแตรของกวิน ทำเอาสายตาคนแถวนั้นหันมามาอง ตามแหล่งที่มาของเสียงพร้อมกัน หญิงสาวแทบจะวิ่งไปให้พ้นเขา แต่ก็ไม่กล้า กลัวผู้คนจะพากันตกใจ และจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต “จะขึ้นมาดีๆ
บทที่12รักเธอ..แม่สื่อของฉัน “อย่าเรียกมันว่าความรักเลย ระหว่างพี่กับซัมเมอร์ มันเป็นความหลงมากว่า พี่ยอมรับพี่หลงเพราะเขาเป็นผู้หญิงหน้าตาดี” ชายหนุ่มค่อยๆปล่อยมือทั้งสองข้าง ออกจากแขนเรียว ที่แดงช้ำเพราะถูกแรงของเขารัดไว้จนแน่น หญิงสาวจึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น “ที่พี่เสียใจ เพราะผิดหวังกับความรู้สึกดีๆที่พี่ให้ซัมเมอร์ แต่เขากับทำลายทุกอย่างเพียงเพราะตามใจอารมณ์ของตัวเอง” กวินก้มหน้ากับฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเอง “ทั้งพี่และซัมเมอร์ไม่ได้รักกัน ตั้งแต่เกิดเรื่อง เพื่อนของพีช ก็พยายามขอกลับไปอยู่สถานะเดิมกับโค้ช จนโค้ชต้องมาขอให้พี่ช่วย แต่พี่ก็ปฏิเสธไป เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก” “จริงเหรอคะ” หญิงสาวถามทั้งที่เธอก็พอรู้เรื่องนี้อยู่แล้วบ้าง “ส่วนพี่ ตั้งแต่ที่เรามีอะไรกัน พี่ก็ถามตัวเองตลอด ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรกันแน่” กวินเงยหน้าจากฝ่ามือทั้งสองข้างและหันมาจ้องตาหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆบนเตียง “ใช่มันเกิดจากความเมา และความโกรธ จนเมื่อพี่มาเห็นพีชอยู่กับไอ้ผู้ชายคนนั้น หัวใจของพี่
1หวังดี “ภณนายไปเรียนมหาวิทยาลัยมา ณิศาเขาไม่เหมือนเดิมแล้วนะ” ปาลิดาตัดสินใจมาเตือนเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ “ไม่เหมือนเดิมยังไง ดิวนี่เธอโตแล้วนะ ยังจะไม่เลิกอิจฉาณิศาเขาอีกเหรอ” ปาลิดาคิดแล้วว่า กันตภณไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เธอมาเตือนเขา และสุดท้ายเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายโดนว่าให้ช้ำใจกลับมา “นายจะคิดจะว่าอะไรเรา ก็ตามใจ แต่หัดเปิดหูเปิดตาดูบ้าง เผื่อจะโง่น้อยลง” หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์ “ได้ แต่เธอก็ควรจะไปลดความขี้อิจฉาลงบ้าง อย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกันมานานทั้งสามคน ณิศาเขาไม่เคยว่าเธอเลยสักคำ มีแต่เธอที่คอยจะมาใส่ร้ายเขาตลอดเวลา” ชายหนุ่มรักและเชื่อใจในตัวแฟนสาวมาก เพราะเขากับเธอ ตกลงคบกันเป็นแฟนมาเกือบสิบปีแล้วกันตภณเขาจำได้เมื่อตอนเด็กๆ ปาลิดาแอบชอบเขาถึงขนาดเขียนจดหมาย มาวางไว้ที่ใต้โต๊ะทุกวัน และวันที่เขาตัดสินใจเป็นแฟนกับณิศา ดิวก็เอาแต่ร้องไห้และอาละวาดใส่ณิศาหาว่าแย่งเขาไปจากเธอ“ฉันยอมรับ ว่าเมื่อตอนเด็กๆ ฉันมันขี้อิจฉา แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว จำไว้นะว่าฉันมาเตือนนายแล้ว”ถึงแม้จะเ
2เกลี้ยกล่อม ณิศาร้องไห้มาหาคนรักที่กำลังทำงานอยู่ที่ไร่ หน้าตาของเธอบวมแดงเหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา “ณิศาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นบอกภณมาสิ มีใครทำอะไร ภณจะไปจัดการมันเอง” ชายหนุ่มลูบผมคนรักในอ้อมกอด “ที่ดินแปลงสุดท้ายของบ้าน พ่อเอาไปจำนองไว้กับนายอำเภอ เขากำลังจะยึดที่ของพ่อ ณิศาไม่รู้จะทำยังไง” หญิงสาวบีบน้ำตา ได้เหมือนสั่งมันได้อย่างใจ ชายหนุ่มเชื่อในคำพูดทุกอย่างที่เธอบอก “ภณจะช่วยณิศาได้ยังไงกัน ภณคิดไม่ออกจริงๆ” ชายหนุ่มมองไม่เห็นหนทาง “ภณก็เอาเงินจากคุณนิรัชไปซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอากำไรที่ได้มาแต่งงานกับณิศา แค่นี้พ่อก็จะไม่ต้องโดนยึดที่แล้ว แต่...ถ้าภณยังไม่อยากแต่งงานหรือไม่อยากช่วยก็ไม่เป็นไรนะ” เมื่อได้ยินคำพูดแกมน้อยใจของคนรัก มีหรือที่ผู้ชายอย่าง กันตภณจะไม่หวั่นไหว เขาตัดสินใจที่จะพูดกับพ่อคืนนี้ หลังอาหารมื้อเย็นชายหนุ่มตัดสินใจ ที่จะพูดเรื่องการซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอาส่วนต่างที่ได้ไปขอณิศาแต่งงาน เพื่อช่วยไม่ให้พ่อของเธอโดนยึดที่ดินที่เหลือแค่แปลงสุดท้าย “แล้วแต่ลูกต