บทที่7
ความลับถูกเปิดเผย
“ใจเย็นๆ ค่อยๆเล่า” หญิงสาวปลอบเพื่อนที่กำลังเหนื่อยหอบเพราะกลั้นเสียงร้องไห้ไว้ในใจ
“ตอนแรกที่โค้ชเขาเข้ามาคุย เขาของไลน์เราก็ให้ คุยกันได้ไม่นาน เขาก็ชวนเราไปกินข้าว เราก็คิดว่าแค่กิ๊กกันสนุกๆ”
คนเล่าหยุดพูด มองหน้าเพื่อนเหมือนอยากจะปล่อยโฮอีกรอบ
“พอนานไป เราก็เริ่มผูกพัน เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า เขาคอยดูแลเราได้ทุกเรื่อง แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าจะจริงจัง เรายังรักพี่กวินอยู่ วันนั้นเราตัดสินใจบอกเลิกโค้ช เขาขอให้เราไปเจอเขาที่ห้องเป็นครั้งสุดท้ายๆ แล้ว.....”
คราวนี้คนเล่า หยุดเล่า เอามือทั้งสองข้างปิดหน้า เพราะอายในสิ่งที่เธอกำลังจะต้องพูดมันออกไป น้ำตาเริ่มไหลอาบสองแก้ม ก่อนที่เธอจะตั้งสติสูดลมหายลึกๆ มองหน้าคนฟังและเริ่มเล่าต่อ
“วันนั้นเราไปหาเขาที่ห้อง แล้วเขากับเราก็มีอะไรกัน”
“โค้ชปล้ำเธอใช่ไหมซัมเมอร์” ลูกพีชลุกยืนด้วยความโกรธ
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราต่างหากที่ยอมเขาเอง” คนยอมรับเอามือตบหน้าตัวเองไปมาเหมือนคนเสียสติ
“อย่าทำร้ายตัวเองแบบนั้น ปล่อยมัน มันพลาดไปแล้ว”
มือทั้งสองถูกลูกพีชจับไว้ เพราะกลัวเจ้าของมือจะทำร้ายตัวเองอีก
“เราอยากเลิกกับโค้ช เราอยากเลิก ” หญิงสาวตะโกนซ้ำไปซ้ำมา
“ก็เลิก เลิกเลย ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่อง”
“แต่เรารักเขา พีชเธอได้ยินไหมเรารักเขา”
“รักโค้ชก็เลิกกับพี่กวิน เธอรักคนไหนเธอก็เลือกคนนั้น อย่าปล่อยให้มันค้างคาแบบนี้” คนปลอบเริ่มไม่เข้าใจ
“โค้ชเขามีแฟนอยู่แล้ว”
“ซัมเมอร์ .... เธอทำอะไรลงไป นอกใจคนที่รักเธอไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้ว”
คนฟังอยากจะจับเพื่อนเธอเขย่าเรียกสติจริงๆ
“เราเลือกไม่ได้ เรารักโค้ช แต่พี่กวินคือคนที่ดีที่สุด แถมโค้ชยังขู่อีกว่า ถ้ามีใครรู้เรื่องของเรากับโค้ช โค้ชจะเลิกกับเรา ลูกพีชต้องอย่าบอกใครนะ สัญญากับเรานะ”
น้ำเสียงอ้อนวอน ใบหน้าที่สวยสดใส ในเวลานี้มันกลับดูหม่นหมองยิ่งนัก ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวผู้มั่นใจในตัวเอง ว่านเสน่ห์ไปทั่ว วันนี้เธอจะมานั่งร้องไห้ ให้กับผู้ชายที่มันมีแฟนแล้ว
“เราสัญญา จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้จากปากเราเด็ดขาด”
ลูกพีชตั้งใจที่จะทำอย่างที่พูดจริงๆ แม้แต่โอม เธอก็จะไม่บอก ถึงแม้ว่าการกระทำของซัมเมอร์เป็นการกระทำที่ผิดและก็เป็นการทำลายหัวใจของผู้ชายที่เธอแอบรักมาหลายปี แต่ซัมเมอร์คือเพื่อน เธอจะไม่ทำให้เพื่อนต้องผิดหวัง ที่ยอมบอกความหลับนี้ให้เธอฟัง
“ซัมเมอร์คืนนี้เรากลับดึกหน่อยนะ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของโค้ช แต่แฟนเขาจะมาหา เราก็เลยจะอยู่ฉลองกับเขาวันนี้ ถ้าพี่กวินโทรมาบอกเราไม่สบายนอนเร็ว”
เมื่อไม่รู้จะห้ามอย่างไรแล้ว ในเมื่อทุกอย่างมันก็มาไกลเหลือเกิน ลูกพีชได้แต่พยักหน้ารับคำที่เพื่อนสั่ง ทุกสิ่งต่อไปนี้ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมแล้วกัน
“เฮ้ย!...กวินพรุ่งนี้วันเกิดโค้ช เราไปเซอร์ไพรส์โค้ชกันเหอะ” โอมชวนกวินและเพื่อนในทีม
“แล้วทำไม ไม่ไปพรุ่งนี้วะ” กวินไม่เข้าใจ
“วันสำคัญแบบนี้ เขาก็อยู่กับแฟนเขาสิ พวกเราจะไปเป็นก้างเอาสิไม่ว่า เอาคืนนี้แหละเที่ยงคืน ซื้อเค้ก แอบไปเคาะห้อง รับรองโค้ชดีใจ น้ำตาไหล งดด่าไปหลายวัน”
เจ้าของความคิด ทำท่าทางภูมิใจ ทุกคนในทีมก็พากันเห็นด้วย เพราะวันเกิดโค้ชก็น่าจะอยากอยู่กับแฟนมากกว่า ที่ต้องมาอยู่กับบรรดาลูกทีมที่น่าปวดหัวอย่างพวกเขา
โอมกับกวินรับหน้าที่ไปซื้อเค้กวันเกิด โดยที่เพื่อนคนอื่นๆจะไปคอยข้างล่างคอนโดของโค้ชก่อน เมื่อถึงเวลานัดหมาย เค้กพร้อม คนพร้อม ทุกคนพากันขึ้นไปชั้นสอบของคอนโด
“อีกสิบนาที มานั่งแอบกันตรงบันไดก่อน” โอมอยากให้เที่ยงคืนพอดี
“ไม่อยากกลับเลย ทำไมซัมเมอร์กลับเช้าไม่ได้เหรอ แฟนโค้ชไม่มาคืนนี้หรอก” เสียงที่แสนจะคุ้นหูทุกคนโดยเฉพาะกวินและโอม
ภาพชายหญิงที่กำลังยืนกอดกันนัวเนีย อยู่หน้าประตูห้องของโค้ช ทำเอาสายตาทุกคู่ที่แอบมองอยู่หลังบันไดแทบหยุดหายใจ ทุกคนรู้จักผู้หญิงคนนี้ในฐานะแฟนของกวิน แต่วันนี้ภาพที่เห็นกลับเป็นโค้ชที่เธอกำลังนัวเนียอย่างสนิทสนม
“เอาไง กวิน ออกไปถามให้รู้เรื่องเลยไหม” โอมรู้สึกโมโหแทนเพื่อน
“เรื่องนี้ค่อยว่าวันหลัง วันนี้เรามาเพื่ออวยพรให้โค้ช อย่างไงเขาก็เป็นครูเรา ทำสิ่งที่เราตั้งใจกันดีกว่า ” กวินพยายามข่มใจ
หลังจากชายหญิงสองคนแยกจากกัน โค้ชปิดประตูห้องเรียบร้อย บรรดาลูกทีม ก็รอให้ถึงเวลาเที่ยงคืนตรง โอมทำหน้าที่เคาะประตู
ก๊อกๆๆ
“Happy birthday to you Happy birthday to you Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you ”
“ขอให้โค้ชมีความสุข คิดอะไรก็ขอให้สมหวัง ขอบคุณโค้ชมากทีทำทุกอย่างเพื่อพวกเรา และไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวังในตัวโค้ชเลย” กวินหัวหน้าทีมเป็นตัวแทน
สิ้นคำอวยพร ทุกคนต่างเปลี่ยนสีหน้า
...ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวังในตัวโค้ชเลย...
ข้อความสุดท้าย มันทำให้ภาพที่ทุกคนเพิ่งเห็น แว๊บขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พัก โอมกับกวินกลับด้วยกัน เพราะอยู่หอเดียวกันแต่คนละห้อง ทั้งคู่จึงมีโอกาสได้คุยกันตลอดทาง
“กวิน แล้วจะเอาอย่างไงต่อกับเรื่องนี้” โอมอดห่วงความรู้สึกเพื่อนไม่ได้
“เราไม่คิดเลยว่าซัมเมอร์จะเป็นผู้หญิงแบบนี้”
“แต่เราคิด” โอมเถียงขึ้นมา
“”นายหมายความว่าอะไร” ชายหนุ่มคนขับหันมาจ้องหน้าคนที่นั่งข้างๆ
“ก็ก่อนที่แฟนนาย จะจีบนาย เขาจีบเรามาก่อน” โอมเล่า
“แล้วทำไมไม่บอกกันว่ะ ปล่อยให้เพื่อนเป็นไอ้โง่อยู่ได้” มือหนาทุบพวงมาลัยด้วยความโมโห
“บอกแล้วได้อะไร บอกแล้วนายจะไม่ชอบซัมเมอร์เหรอ เรื่องแค่นี้มันบอกได้ด้วยหรือไง ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะจริงใจหรือไม่จริงใจ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา แล้วตอนนี้นายก็รู้แล้ว ตัดสินใจดี ๆ แล้วกัน”
เมื่อพูดในสิ่งที่อยากพูดจบ โอมเปิดประตูก้าวลงจากรถและเดินขึ้นห้องไป ปล่อยให้กวิน นั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่าง อยู่ในรถแต่เพียงลำพัง
บทที่8แค้นที่ลงผิดคน พรุ่งนี้เช้าเป็นวันหยุด กวินจึงขับรถออกจากที่จอดรถใต้หอ และขับออกมาตามถนนเลียบหาด อยู่ดีๆความรู้สึกของเขาก็คิดถึงใครบางคน “ออกมาหาพี่หน่อยได้ไหม ไม่ต้องบอกซัมเมอร์นะ พี่มีอะไรจะเล่าให้ฟัง” ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ เพื่อขอให้รุ่นน้องสาวออกมาหาเขาหน่อย “เอ่อ...ได้ค่ะ” ปลายสายถึงจะลังเลอยู่บ้าง แต่จากฝั่งน้ำเสียง ก็มั่นใจ ว่าคนโทรมาจิตใจคงไม่ปกติแน่ ๆ ลูกพีชเลือกที่จะโกหกซัมเมอร์ว่าเพื่อนที่สาขาโทรมา คืนนี้เธออาจกลับเช้าเลยเพราะนี่ก็จะตีหนึ่งแล้ว ถึงแม้จะสงสัยแต่ซัมเมอร์ก็ไม่กล้าถาม เพราะเมื่อคราวเธอ เพื่อนของเธอยังไม่ถามเธอเลย จึงได้แต่บอกให้เพื่อนระวังตัว เพราะมันดึกแล้ว “มีอะไรหรือคะพี่กวิน”เมื่อประตูรถถูกปิดลงหญิงสาวก็ถามด้วยความสงสัยทันที “พีชรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหน” คนถามไม่แม้แต่จะหันมามอง “เรื่องอะไรคะ” ลูกพีชไม่แน่ใจ ว่าเรื่องที่กวินถาม กับเรื่องที่เธอรู้เรื่องเดียวกันไหม “ลงไปซื้อเบียร์ให้หน่อย เอาให้หมดเงินที่ให้ไป” ชายหนุ่มยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้เธอ ไม่นานหญิงสา
บทที่9หลบหน้า หลังจากความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจได้ผ่านพ้นไป ลูกพีชตื่นขึ้นพร้อมร่างกายที่เปลือยเปล่า เธอค่อย ๆ ควานหาเสื้อผ้าของเธอ แต่งตัวให้เรียบร้อย เหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจึงเดินทางกลับหอด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาตื่นมาเจอหน้าเธอ “ไปไหนมาพีช ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนเลย” ซัมเมอร์กำลังเตรียมที่จะไปเรียนแต่เช้า เห็นสภาพเพื่อนเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน “ทำรายงานทั้งคืนเลย งานไม่เสร็จ” คนตอบหลบสายตา “ถ้าไปเรียนไม่ไหว ก็นอนก่อน ขาดแค่ไม่กี่ครั้งอาจารย์เขาไม่ว่าหรอก”ซัมเมอร์เห็นสภาพเพื่อน อยากให้ลูกพีช พักผ่อนก่อน เพราะไปเรียนสภาพนี้คงไม่ไหว “ว่าจะไม่ไป เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ” หญิงสาวพาร่างไร้เรี่ยวแรงเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเสียงปิดประตูดัง หญิงสาวก็ปล่อยเสียงร้องไห้ อย่างสุดที่จะกลั้นเอาไว้อยู่ ตอนนี้ในห้องมีเพียงเธออยู่คนเดียว เธอไม่จำเป็นต้องกลัวใครรู้ ภาพสภาพใบหน้าที่แสนจะหมองคล้ำ อาบได้ด้วยคราบน้ำตา ลูกพีชมองตัวเองในกระจก เธอมีคุณค่าเพียงแค่เป็นที่ระบายแค้นของเขา เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆ
บทที่10ความลับของเราสองคน ความผิดครั้งนี้ฝังลงในจิตใจ ของหญิงสาว เธอนั่งเรียนแบบร่างที่ไร้วิญญาณ ตาเหม่อลอย ไม่ได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่ดังอยู่รอบตัว “เป็นอะไรของเธอลูกพีช ทำท่าเหมือนคนกำลังอกหัก” ฌอนถามเพราะนั่งสังเกตมานาน “ลูกพีช” เรียกชื่อซ้ำอีกรอบ “ฮะ! อะไรนะ เรียกเราเหรอ” หญิงสาวได้สติหันมาตอบตามเสียงคนที่เรียกชื่อ “เป็นอะไรของเธอ ตั้งแต่เช้าแล้ว เอาแต่นั่งเหม่อ อกหักหรือไง มีอะไรก็เล่า ให้เราฟังได้นะ” ถึงแม้ลูกพีชกับฌอน จะสนิทกันไม่เท่าซัมเมอร์ อาจเป็นเพราะทั้งสองคน คนละเพศกัน แต่หลายเรื่องที่เพื่อนสนิทต่างเพศคนนี้ เป็นที่ปรึกษาให้เธอได้ตลอด ความคิดแผนการบางอย่าง ผุดขึ้นในหัวของ หญิงสาว ซึ่งแผนนี้ฌอนต้องช่วยเธอได้แน่ๆ เอาไว้เลิกเรียน เธอจะลองขอร้องเขา แต่คงเป็นการขอร้องแบบที่เธอคงไม่เล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง “เดี๋ยวเลิกเรียน เราไปหาอะไรกินกันนะ แล้วพีชจะเล่าให้ฌอนฟัง” ชายหนุ่มพยักหน้า เขาทั้งเป็นห่วงทั้งอยากรู้ เพราะอาการของเพื่อนสาว ดูแล้วจะแย่เอาการ ใต้ตาช้ำจนกลายเป็นสีน้ำตาล หน้า
บทที่11เมื่อมันไม่ใช่ความรักก็ควรจบ “เป็นไงล่ะ ตีบทแตกกันทั้งคู่เลยนะ” สองนักแสดงพากันหัวเรา ให้กับผลงานการแสดงของทั้งคู่ ที่เพิ่งแสดงไปที่ร้านอาหาร “เขาเชื่อสนิทเลย เชื่อเราสิพีช” ฌอนมั่นใจ “เราก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ลูกพีช แอบมองสายตา ที่กวินมองมาที่เธอและฌอน เขาเชื่อจริงๆ เพราะสายตามีความโมโหแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาเห็นเธอมีแฟนแล้ว เขาคงเลิกยุ่งกับเธอแน่ๆ หญิงสาวโล่งใจ เลิกเรียนแล้ว วันนี้ฌอนมีนัดกับเพื่อนชายคนสนิทของเขา เลยไม่ได้ไปส่งลูกพีชที่หอ เหมือนที่ตั้งใจไว้ หญิงสาวจึงเดินกลับคนเดียวตามปกติ “ขึ้นรถ บอกให้ขึ้นรถ” เสียงตะโกนดังมาจาชายหนุ่มที่อยู่ในรถที่ขับมาจอดข้างเธอ แทนที่จะขึ้นรถ ตามคำสั่งของคนในรถ หญิงสาวกลับรีบสาวเท้าเดินให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยไม่หันหน้ามามอง รถที่ขับตามเธอมาอย่างติดๆ ปี๊ด ๆ ๆ เสียงบีบแตรของกวิน ทำเอาสายตาคนแถวนั้นหันมามาอง ตามแหล่งที่มาของเสียงพร้อมกัน หญิงสาวแทบจะวิ่งไปให้พ้นเขา แต่ก็ไม่กล้า กลัวผู้คนจะพากันตกใจ และจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต “จะขึ้นมาดีๆ
บทที่12รักเธอ..แม่สื่อของฉัน “อย่าเรียกมันว่าความรักเลย ระหว่างพี่กับซัมเมอร์ มันเป็นความหลงมากว่า พี่ยอมรับพี่หลงเพราะเขาเป็นผู้หญิงหน้าตาดี” ชายหนุ่มค่อยๆปล่อยมือทั้งสองข้าง ออกจากแขนเรียว ที่แดงช้ำเพราะถูกแรงของเขารัดไว้จนแน่น หญิงสาวจึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น “ที่พี่เสียใจ เพราะผิดหวังกับความรู้สึกดีๆที่พี่ให้ซัมเมอร์ แต่เขากับทำลายทุกอย่างเพียงเพราะตามใจอารมณ์ของตัวเอง” กวินก้มหน้ากับฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเอง “ทั้งพี่และซัมเมอร์ไม่ได้รักกัน ตั้งแต่เกิดเรื่อง เพื่อนของพีช ก็พยายามขอกลับไปอยู่สถานะเดิมกับโค้ช จนโค้ชต้องมาขอให้พี่ช่วย แต่พี่ก็ปฏิเสธไป เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก” “จริงเหรอคะ” หญิงสาวถามทั้งที่เธอก็พอรู้เรื่องนี้อยู่แล้วบ้าง “ส่วนพี่ ตั้งแต่ที่เรามีอะไรกัน พี่ก็ถามตัวเองตลอด ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรกันแน่” กวินเงยหน้าจากฝ่ามือทั้งสองข้างและหันมาจ้องตาหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆบนเตียง “ใช่มันเกิดจากความเมา และความโกรธ จนเมื่อพี่มาเห็นพีชอยู่กับไอ้ผู้ชายคนนั้น หัวใจของพี่
1หวังดี “ภณนายไปเรียนมหาวิทยาลัยมา ณิศาเขาไม่เหมือนเดิมแล้วนะ” ปาลิดาตัดสินใจมาเตือนเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ “ไม่เหมือนเดิมยังไง ดิวนี่เธอโตแล้วนะ ยังจะไม่เลิกอิจฉาณิศาเขาอีกเหรอ” ปาลิดาคิดแล้วว่า กันตภณไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เธอมาเตือนเขา และสุดท้ายเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายโดนว่าให้ช้ำใจกลับมา “นายจะคิดจะว่าอะไรเรา ก็ตามใจ แต่หัดเปิดหูเปิดตาดูบ้าง เผื่อจะโง่น้อยลง” หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์ “ได้ แต่เธอก็ควรจะไปลดความขี้อิจฉาลงบ้าง อย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกันมานานทั้งสามคน ณิศาเขาไม่เคยว่าเธอเลยสักคำ มีแต่เธอที่คอยจะมาใส่ร้ายเขาตลอดเวลา” ชายหนุ่มรักและเชื่อใจในตัวแฟนสาวมาก เพราะเขากับเธอ ตกลงคบกันเป็นแฟนมาเกือบสิบปีแล้วกันตภณเขาจำได้เมื่อตอนเด็กๆ ปาลิดาแอบชอบเขาถึงขนาดเขียนจดหมาย มาวางไว้ที่ใต้โต๊ะทุกวัน และวันที่เขาตัดสินใจเป็นแฟนกับณิศา ดิวก็เอาแต่ร้องไห้และอาละวาดใส่ณิศาหาว่าแย่งเขาไปจากเธอ“ฉันยอมรับ ว่าเมื่อตอนเด็กๆ ฉันมันขี้อิจฉา แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว จำไว้นะว่าฉันมาเตือนนายแล้ว”ถึงแม้จะเ
2เกลี้ยกล่อม ณิศาร้องไห้มาหาคนรักที่กำลังทำงานอยู่ที่ไร่ หน้าตาของเธอบวมแดงเหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา “ณิศาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นบอกภณมาสิ มีใครทำอะไร ภณจะไปจัดการมันเอง” ชายหนุ่มลูบผมคนรักในอ้อมกอด “ที่ดินแปลงสุดท้ายของบ้าน พ่อเอาไปจำนองไว้กับนายอำเภอ เขากำลังจะยึดที่ของพ่อ ณิศาไม่รู้จะทำยังไง” หญิงสาวบีบน้ำตา ได้เหมือนสั่งมันได้อย่างใจ ชายหนุ่มเชื่อในคำพูดทุกอย่างที่เธอบอก “ภณจะช่วยณิศาได้ยังไงกัน ภณคิดไม่ออกจริงๆ” ชายหนุ่มมองไม่เห็นหนทาง “ภณก็เอาเงินจากคุณนิรัชไปซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอากำไรที่ได้มาแต่งงานกับณิศา แค่นี้พ่อก็จะไม่ต้องโดนยึดที่แล้ว แต่...ถ้าภณยังไม่อยากแต่งงานหรือไม่อยากช่วยก็ไม่เป็นไรนะ” เมื่อได้ยินคำพูดแกมน้อยใจของคนรัก มีหรือที่ผู้ชายอย่าง กันตภณจะไม่หวั่นไหว เขาตัดสินใจที่จะพูดกับพ่อคืนนี้ หลังอาหารมื้อเย็นชายหนุ่มตัดสินใจ ที่จะพูดเรื่องการซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอาส่วนต่างที่ได้ไปขอณิศาแต่งงาน เพื่อช่วยไม่ให้พ่อของเธอโดนยึดที่ดินที่เหลือแค่แปลงสุดท้าย “แล้วแต่ลูกต
3วิวาห์จำยอม “เอ้า...ทำไมย้อนกลับมาเร็วจังล่ะเจ้าภณ อย่าบอกนะว่านางณิศามันยอมให้เอ็งแต่งงาน” การเป็นผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนของกำนัน มองเหตุการณ์ทุกอย่างได้ชัดเจน ในเมื่อผู้หญิงเขามีคนอื่นไปแล้ว มันไม่มีความรักหลงเหลือมันคงมีก็แต่ผลประโยชน์ “ผมต้องการแต่งงานกับดิวให้เร็วที่สุดครับ” ชายหนุ่มไม่ยอมพูดถึงคนรัก เพราะเขารู้ ยิ่งพูดถึงยิ่งทำให้กำนันมองณิศาไปในทางที่ไม่ดี “ใจร้อนเสียด้วย เดี๋ยวฉันจะไปดูฤกษ์ดี ที่เร็วที่สุดกับหลวงตาที่วัดแล้วจะไปบอกเอ็งที่บ้าน” ฤกษ์ที่เหมาะที่สุด เร็วสมใจจริงๆ ทั้งสองฝ่ายมีเวลาเตรียมตัวแค่สามวัน แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างมาช่วยกัน ไม่นานงานทุกอย่างก็พร้อมสำหรับงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ พิธีในช่วงเช้าเป็นในส่วนของพิธีสงฆ์ ชายหนุ่มพยายามมองหาคนรักแต่ก็ไม่พบว่าหญิงสาวมาร่วมงาน ปาลิดาเธอเห็นสีหน้าของเจ้าบ่าว จิตใจที่คิดว่าจะหนักแน่น ก็ยังอดน้อยใจไม่ได้ พิธีเช้าและบ่ายผ่านไปได้ด้วยดี ถึงพิธีส่งตัวเข้าหอ บ้านหลังเล็กที่อยู่ติดกับบ้านของกำนัน ถูกตกแต่งให้เป็นเรือนหอของบ่าวสาว