บทที่9
หลบหน้า
หลังจากความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจได้ผ่านพ้นไป ลูกพีชตื่นขึ้นพร้อมร่างกายที่เปลือยเปล่า เธอค่อย ๆ ควานหาเสื้อผ้าของเธอ แต่งตัวให้เรียบร้อย เหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจึงเดินทางกลับหอด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาตื่นมาเจอหน้าเธอ
“ไปไหนมาพีช ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนเลย” ซัมเมอร์กำลังเตรียมที่จะไปเรียนแต่เช้า เห็นสภาพเพื่อนเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“ทำรายงานทั้งคืนเลย งานไม่เสร็จ” คนตอบหลบสายตา
“ถ้าไปเรียนไม่ไหว ก็นอนก่อน ขาดแค่ไม่กี่ครั้งอาจารย์เขาไม่ว่าหรอก”
ซัมเมอร์เห็นสภาพเพื่อน อยากให้ลูกพีช พักผ่อนก่อน เพราะไปเรียนสภาพนี้คงไม่ไหว
“ว่าจะไม่ไป เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ” หญิงสาวพาร่างไร้เรี่ยวแรงเข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อเสียงปิดประตูดัง หญิงสาวก็ปล่อยเสียงร้องไห้ อย่างสุดที่จะกลั้นเอาไว้อยู่ ตอนนี้ในห้องมีเพียงเธออยู่คนเดียว เธอไม่จำเป็นต้องกลัวใครรู้
ภาพสภาพใบหน้าที่แสนจะหมองคล้ำ อาบได้ด้วยคราบน้ำตา ลูกพีชมองตัวเองในกระจก เธอมีคุณค่าเพียงแค่เป็นที่ระบายแค้นของเขา เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆ
น้ำจากฝักบัวถูกเปิดไหลผ่านตัวเธอ เหมือนสายน้ำนี้จะสามารถชะล้างความรู้สึกผิดออกจาหัวใจของหญิงสาว ที่ตอนนี้ไม่ได้บอบบางแค่ร่างกาย แต่มันบอบบางไปถึงจิตใจ เธอมีอะไรกับแฟนเพื่อน มันคงเป็น ตราบาปในชีวิตเธอไปอีกนานแสนนาน
เมื่อหัวถึงหมอน ร่างกายที่บอบช้ำจากการถูกย่ำยี หัวใจที่ร้องไห้จนเหนื่อยล้า หญิงสาวนอนหลับสนิท ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่เป็นร้อยสาย
“พีช พี่กวินบอกเลิกเรา”
หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง ไม่แน่ใจว่าเสียงที่เธอได้ยินเป็นความฝันหรือความจริง เธอค่อยๆลืมตา ภาพแรกที่เห็นคือเพื่อนของเธอนั่งอยู่ข้างๆ ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา
“เกิดอะไรขึ้นซัมเมอร์ ร้องไห้ทำไม” ลูกพีชค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นมาอย่างงัวเงีย
“พี่กวินเขารู้เรื่องเรากับโค้ชแล้ว เขาบอกเขาเห็นกลับตา พีชพี่เขาบอกเลิกเรา” หญิงสาวส่งเสียโวยวายเหมือนคนเสียสติ
“แล้วเธอจะเอายังไงต่อ เธอบอกโค้ชหรือยัง”
“เราไม่กล้าบอก โค้ชบอกถ้ามีคนรู้เรื่องนี้ เขาจะเลิกกับเรา พีช เธอต้องช่วยพูดกับพี่กวินให้เรานะ” ซัมเมอร์เขย่าตัวเพื่อนที่นั่งไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง
“เรื่องนี้เราช่วยอะไรเธอไม่ได้จริงๆ ให้เวลาพี่เขาหน่อยนะ บางทีพอไม่มีเธอจริงๆ เขาอาจจะคิดได้แล้วกลับมาง้อเธอก็ได้”
“เขาบอกว่าเขามีแฟนใหม่แล้ว” ซัมเมอร์กอดเพื่อนที่นั่งข้างๆ กระซิบเสียวสั่นเครือ
“ใคร ยังไง”
คนฟังลืมตัว ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เหมือนตะโกน จนซัมเมอร์มองหน้าอย่างแปลกใจ
“เราตกใจ เห็นวันๆ พี่กวินกับเธอก็ตัวติดกันตลอด เขาเอาเวลาไหนไปมีคนอื่น” ลูกพีชแก้ตัว
“เขาบอกว่าเขา เพิ่งมีคนใหม่เมื่อคืน แต่เขารู้จักกันมานานแล้ว ลูกพีช...เธอช่วยสืบให้ทีนะ” คนอกหักส่งเสียงออดอ้อน
“เราจะพยายามนะ แต่ระหว่างนี้ เธอต้องหยุดร้องไห้ ตั้งใจเรียน ปล่อยเขาไป ถ้าพี่กวินเขารักเธอจริง เขาจะให้อภัยเธอและกลับมาเอง”
หญิงสาวพูดตรงข้ามกับหัวใจของเธอ ลูกพีชไม่เข้าใจเลย ว่ากวินหมายถึงเธอหรือผู้หญิงคนไหน หรือเขาแค่เพียงเอามาอ้างในการบอกเลิกซัมเมอร์ แต่ในเมื่อเขาบอกว่าเขาเห็นด้วยตา ก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอื่นมาอีก
“สวัสดีค่ะ”
เบอร์แปลกโทรข้ามา หลังจากที่มีสายไม่ได้รับเป็นร้อยสาย เป็นเบอร์ของซัมเมอร์ ฌอน และกวิน
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่” เสียงที่เธอคุ้นเคยอย่างดี
“ไม่ได้ยินเสียงค่ะ ไม่ค่อยสบายกินยาก็เลยหลับสนิท”
หญิงสาวตอบความจริง และพยายามที่จะไม่เอ่ยชื่อคนโทรมา
“เป็นอะไร กินยาหรือยัง ” เสียงเขาดูเป็นห่วงเธอจริงๆ
“กินแล้วค่ะ งั้นแค่นี้นะคะ”
ลูกพีชไม่อยากคุยกับเขานานกว่านี้กลัวซัมเมอร์จะสงสัย
“เดี๋ยวก่อน... เมื่อคืน พี่ขอโทษนะ” เสียงปลายสายค่อยๆลดเสียงต่ำลง
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้นะคะ”
คราวนี้หญิงสาว กดวางสายทันที เพราะกลัวเขาจะพูดอะไรที่เธอไม่อยากได้ยินอีก
“ใครโทรมา ทำท่าเหมือนไม่อยากจะคุย” ซัมเมอร์สงสัยเพราะเธอนั่งฝั่งอยู่
“รุ่นพี่ที่คณะ เขาเอารายงานมาให้ช่วยทำเมื่อคืนนั่นแหละ เขาโทรมาขอบคุณที่ช่วยเขา ไม่มีอะไรหรอก เราง่วงนอนเลยไม่ค่อยอยากคุยด้วย” คำโกหกที่ไม่เนียนแต่ก็ทำให้คนฟังเชื่อได้
คืนนี้ทั้งสองสาวต่างนอนหลับไปด้วยคราบน้ำตาทั้งคู่ มีแต่ลูกพีชเท่านั้น ที่ต้องเก็บงำความลับ ความผิดพลาดครั้งนี้ไว้ พรุ่งนี้เธอคงต้องไปเรียน สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือการที่ต้องไปเจอหน้าเขา ผู้ชายคนที่รังแกเธอ และตอบแทนด้วยคำว่าขอโทษเพียงแค่คำเดียวเท่านั้น
“คิดว่าจะหลบหน้าพี่ได้เหรอ” มือหนาคว้าแขนเล็กไว้จนเธอแทบปลิวตามแรง
“พีชเจ็บค่ะ ปล่อย พีชไม่หลบหน้าใครทั้งนั้น” หญิงสาวพยายามแกะมือที่จับแขนเธอไว้แน่
“มาเรียนแทนที่จะขึ้นลิฟท์กลับมาเดินขึ้นทางบันได”
“พีชอยากออกำลังกายค่ะ” หญิงสาวยังพยายามแกะมือเขาออก
“ยังออกกำลังกายไม่พออีกเหรอคืนนั้น”
เพี๊ย!
“นี่สำหรับการมองความบริสุทธิ์ ของผู้หญิงคนนึงเป็นเรื่องตลก ”
หญิงสาวตบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรง เธอรู้สึกผิดหวังในตัวเขามาก เสียแรงที่เธอหลงรักเขามาตั้งหลายปี สุดท้ายเขาก็เลวเหมือนพวกเสือผู้หญิงทั่วๆไป
“ตบอีก ตบให้พอ พี่รู้ พี่สมควรโดน พี่ขอโทษ จะให้พี่ทำอะไรพี่ก็ยอมทั้งนั้น อย่าหลบหน้าพี่อีกเลย พี่ขอนะ” กวินคว้ามือหญิงสาวขึ้นมาตบหน้าเขาอย่างตั้งใจ
“โอ๊ย!...พอแล้ว พี่กวินจะเอาอะไรอีก พีชไม่มีอะไรจะให้แล้ว ปล่อยพีชไปเถอะ นะขอร้อง แค่นี้พีชก็เป็นผู้หญิงที่เลวมาก มีอะไรกับแฟนเพื่อน จะต้องให้พีชเลวไปถึงไหนอีก”
ร่างบางค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นนั่งร้องไห้ มือข้างหนึ่งยังถูกเขาจับไว้ไม่ยอมปล่อย กวินเองก็ไม่รู้จะตอบหญิงสาวว่าจริง ๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธออีก
“พี่เลิกกับซัมเมอร์แล้ว พีชไม่ผิด ถ้าจะมีใครผิดก็พี่เอง พี่ขอนะ อย่าหลบหน้าพี่เลย สงสารพี่เถอะ” ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆหญิงสาวที่ร้องไห้จนตาบวม
“ค่ะ พีชจะไม่หลบหน้าพี่ แต่พี่อย่ามายุ่งกับพีชอีกได้ไหม กลับไปคืนดีกับซัมเมอร์เถอะค่ะ”
ถึงแม้หัวใจจะเจ็บปวดเพียงไหน เธอก็อยากให้เพื่อนของเธอมีความสุข
“เรื่องของพี่กับซัมเมอร์มันจบลงแล้ว จบลงตั้งแต่เขานอกใจพี่ และมันก็จบอย่างไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม ตั้งแต่วันที่พี่เห็นเขากอดจูบอยู่กับคนที่พี่ทั้งรักทั้งเคารพ” ชายหนุ่มตอบจากหัวใจ ที่มันไม่ซัมเมอร์อยู่แล้วจริงๆ
“ไปเรียนเถอะ อย่าหลบพี่ รับโทรศัพท์ ตอบไลน์พี่ด้วยนะ” กวินพูดตามหลังหญิงสาวที่เดินขึ้นบันไดไป
บทที่10ความลับของเราสองคน ความผิดครั้งนี้ฝังลงในจิตใจ ของหญิงสาว เธอนั่งเรียนแบบร่างที่ไร้วิญญาณ ตาเหม่อลอย ไม่ได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่ดังอยู่รอบตัว “เป็นอะไรของเธอลูกพีช ทำท่าเหมือนคนกำลังอกหัก” ฌอนถามเพราะนั่งสังเกตมานาน “ลูกพีช” เรียกชื่อซ้ำอีกรอบ “ฮะ! อะไรนะ เรียกเราเหรอ” หญิงสาวได้สติหันมาตอบตามเสียงคนที่เรียกชื่อ “เป็นอะไรของเธอ ตั้งแต่เช้าแล้ว เอาแต่นั่งเหม่อ อกหักหรือไง มีอะไรก็เล่า ให้เราฟังได้นะ” ถึงแม้ลูกพีชกับฌอน จะสนิทกันไม่เท่าซัมเมอร์ อาจเป็นเพราะทั้งสองคน คนละเพศกัน แต่หลายเรื่องที่เพื่อนสนิทต่างเพศคนนี้ เป็นที่ปรึกษาให้เธอได้ตลอด ความคิดแผนการบางอย่าง ผุดขึ้นในหัวของ หญิงสาว ซึ่งแผนนี้ฌอนต้องช่วยเธอได้แน่ๆ เอาไว้เลิกเรียน เธอจะลองขอร้องเขา แต่คงเป็นการขอร้องแบบที่เธอคงไม่เล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง “เดี๋ยวเลิกเรียน เราไปหาอะไรกินกันนะ แล้วพีชจะเล่าให้ฌอนฟัง” ชายหนุ่มพยักหน้า เขาทั้งเป็นห่วงทั้งอยากรู้ เพราะอาการของเพื่อนสาว ดูแล้วจะแย่เอาการ ใต้ตาช้ำจนกลายเป็นสีน้ำตาล หน้า
บทที่11เมื่อมันไม่ใช่ความรักก็ควรจบ “เป็นไงล่ะ ตีบทแตกกันทั้งคู่เลยนะ” สองนักแสดงพากันหัวเรา ให้กับผลงานการแสดงของทั้งคู่ ที่เพิ่งแสดงไปที่ร้านอาหาร “เขาเชื่อสนิทเลย เชื่อเราสิพีช” ฌอนมั่นใจ “เราก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ลูกพีช แอบมองสายตา ที่กวินมองมาที่เธอและฌอน เขาเชื่อจริงๆ เพราะสายตามีความโมโหแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาเห็นเธอมีแฟนแล้ว เขาคงเลิกยุ่งกับเธอแน่ๆ หญิงสาวโล่งใจ เลิกเรียนแล้ว วันนี้ฌอนมีนัดกับเพื่อนชายคนสนิทของเขา เลยไม่ได้ไปส่งลูกพีชที่หอ เหมือนที่ตั้งใจไว้ หญิงสาวจึงเดินกลับคนเดียวตามปกติ “ขึ้นรถ บอกให้ขึ้นรถ” เสียงตะโกนดังมาจาชายหนุ่มที่อยู่ในรถที่ขับมาจอดข้างเธอ แทนที่จะขึ้นรถ ตามคำสั่งของคนในรถ หญิงสาวกลับรีบสาวเท้าเดินให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยไม่หันหน้ามามอง รถที่ขับตามเธอมาอย่างติดๆ ปี๊ด ๆ ๆ เสียงบีบแตรของกวิน ทำเอาสายตาคนแถวนั้นหันมามาอง ตามแหล่งที่มาของเสียงพร้อมกัน หญิงสาวแทบจะวิ่งไปให้พ้นเขา แต่ก็ไม่กล้า กลัวผู้คนจะพากันตกใจ และจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต “จะขึ้นมาดีๆ
บทที่12รักเธอ..แม่สื่อของฉัน “อย่าเรียกมันว่าความรักเลย ระหว่างพี่กับซัมเมอร์ มันเป็นความหลงมากว่า พี่ยอมรับพี่หลงเพราะเขาเป็นผู้หญิงหน้าตาดี” ชายหนุ่มค่อยๆปล่อยมือทั้งสองข้าง ออกจากแขนเรียว ที่แดงช้ำเพราะถูกแรงของเขารัดไว้จนแน่น หญิงสาวจึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น “ที่พี่เสียใจ เพราะผิดหวังกับความรู้สึกดีๆที่พี่ให้ซัมเมอร์ แต่เขากับทำลายทุกอย่างเพียงเพราะตามใจอารมณ์ของตัวเอง” กวินก้มหน้ากับฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเอง “ทั้งพี่และซัมเมอร์ไม่ได้รักกัน ตั้งแต่เกิดเรื่อง เพื่อนของพีช ก็พยายามขอกลับไปอยู่สถานะเดิมกับโค้ช จนโค้ชต้องมาขอให้พี่ช่วย แต่พี่ก็ปฏิเสธไป เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก” “จริงเหรอคะ” หญิงสาวถามทั้งที่เธอก็พอรู้เรื่องนี้อยู่แล้วบ้าง “ส่วนพี่ ตั้งแต่ที่เรามีอะไรกัน พี่ก็ถามตัวเองตลอด ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรกันแน่” กวินเงยหน้าจากฝ่ามือทั้งสองข้างและหันมาจ้องตาหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆบนเตียง “ใช่มันเกิดจากความเมา และความโกรธ จนเมื่อพี่มาเห็นพีชอยู่กับไอ้ผู้ชายคนนั้น หัวใจของพี่
1หวังดี “ภณนายไปเรียนมหาวิทยาลัยมา ณิศาเขาไม่เหมือนเดิมแล้วนะ” ปาลิดาตัดสินใจมาเตือนเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ “ไม่เหมือนเดิมยังไง ดิวนี่เธอโตแล้วนะ ยังจะไม่เลิกอิจฉาณิศาเขาอีกเหรอ” ปาลิดาคิดแล้วว่า กันตภณไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เธอมาเตือนเขา และสุดท้ายเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายโดนว่าให้ช้ำใจกลับมา “นายจะคิดจะว่าอะไรเรา ก็ตามใจ แต่หัดเปิดหูเปิดตาดูบ้าง เผื่อจะโง่น้อยลง” หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์ “ได้ แต่เธอก็ควรจะไปลดความขี้อิจฉาลงบ้าง อย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกันมานานทั้งสามคน ณิศาเขาไม่เคยว่าเธอเลยสักคำ มีแต่เธอที่คอยจะมาใส่ร้ายเขาตลอดเวลา” ชายหนุ่มรักและเชื่อใจในตัวแฟนสาวมาก เพราะเขากับเธอ ตกลงคบกันเป็นแฟนมาเกือบสิบปีแล้วกันตภณเขาจำได้เมื่อตอนเด็กๆ ปาลิดาแอบชอบเขาถึงขนาดเขียนจดหมาย มาวางไว้ที่ใต้โต๊ะทุกวัน และวันที่เขาตัดสินใจเป็นแฟนกับณิศา ดิวก็เอาแต่ร้องไห้และอาละวาดใส่ณิศาหาว่าแย่งเขาไปจากเธอ“ฉันยอมรับ ว่าเมื่อตอนเด็กๆ ฉันมันขี้อิจฉา แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว จำไว้นะว่าฉันมาเตือนนายแล้ว”ถึงแม้จะเ
2เกลี้ยกล่อม ณิศาร้องไห้มาหาคนรักที่กำลังทำงานอยู่ที่ไร่ หน้าตาของเธอบวมแดงเหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา “ณิศาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นบอกภณมาสิ มีใครทำอะไร ภณจะไปจัดการมันเอง” ชายหนุ่มลูบผมคนรักในอ้อมกอด “ที่ดินแปลงสุดท้ายของบ้าน พ่อเอาไปจำนองไว้กับนายอำเภอ เขากำลังจะยึดที่ของพ่อ ณิศาไม่รู้จะทำยังไง” หญิงสาวบีบน้ำตา ได้เหมือนสั่งมันได้อย่างใจ ชายหนุ่มเชื่อในคำพูดทุกอย่างที่เธอบอก “ภณจะช่วยณิศาได้ยังไงกัน ภณคิดไม่ออกจริงๆ” ชายหนุ่มมองไม่เห็นหนทาง “ภณก็เอาเงินจากคุณนิรัชไปซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอากำไรที่ได้มาแต่งงานกับณิศา แค่นี้พ่อก็จะไม่ต้องโดนยึดที่แล้ว แต่...ถ้าภณยังไม่อยากแต่งงานหรือไม่อยากช่วยก็ไม่เป็นไรนะ” เมื่อได้ยินคำพูดแกมน้อยใจของคนรัก มีหรือที่ผู้ชายอย่าง กันตภณจะไม่หวั่นไหว เขาตัดสินใจที่จะพูดกับพ่อคืนนี้ หลังอาหารมื้อเย็นชายหนุ่มตัดสินใจ ที่จะพูดเรื่องการซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอาส่วนต่างที่ได้ไปขอณิศาแต่งงาน เพื่อช่วยไม่ให้พ่อของเธอโดนยึดที่ดินที่เหลือแค่แปลงสุดท้าย “แล้วแต่ลูกต
3วิวาห์จำยอม “เอ้า...ทำไมย้อนกลับมาเร็วจังล่ะเจ้าภณ อย่าบอกนะว่านางณิศามันยอมให้เอ็งแต่งงาน” การเป็นผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนของกำนัน มองเหตุการณ์ทุกอย่างได้ชัดเจน ในเมื่อผู้หญิงเขามีคนอื่นไปแล้ว มันไม่มีความรักหลงเหลือมันคงมีก็แต่ผลประโยชน์ “ผมต้องการแต่งงานกับดิวให้เร็วที่สุดครับ” ชายหนุ่มไม่ยอมพูดถึงคนรัก เพราะเขารู้ ยิ่งพูดถึงยิ่งทำให้กำนันมองณิศาไปในทางที่ไม่ดี “ใจร้อนเสียด้วย เดี๋ยวฉันจะไปดูฤกษ์ดี ที่เร็วที่สุดกับหลวงตาที่วัดแล้วจะไปบอกเอ็งที่บ้าน” ฤกษ์ที่เหมาะที่สุด เร็วสมใจจริงๆ ทั้งสองฝ่ายมีเวลาเตรียมตัวแค่สามวัน แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างมาช่วยกัน ไม่นานงานทุกอย่างก็พร้อมสำหรับงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ พิธีในช่วงเช้าเป็นในส่วนของพิธีสงฆ์ ชายหนุ่มพยายามมองหาคนรักแต่ก็ไม่พบว่าหญิงสาวมาร่วมงาน ปาลิดาเธอเห็นสีหน้าของเจ้าบ่าว จิตใจที่คิดว่าจะหนักแน่น ก็ยังอดน้อยใจไม่ได้ พิธีเช้าและบ่ายผ่านไปได้ด้วยดี ถึงพิธีส่งตัวเข้าหอ บ้านหลังเล็กที่อยู่ติดกับบ้านของกำนัน ถูกตกแต่งให้เป็นเรือนหอของบ่าวสาว
4ข้าวใหม่ปลามัน วันนี้ปาลิดาตื่นสายกว่าทุกวัน เพราะเธอรู้สึกเนื้อตัวช้ำไปหมด แสงแดดจากนอกหน้าต่างลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านผืนสีขาวเข้ามา ทำให้หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้คงสายมากแล้ว หญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกวูบและล้มลงกลับไปนอนบนที่นอนที่ตอนนี้ผ้าปูยุ่งเหยิงไปหมด “ดิว ดิว ” เสียงเรียกจากเสียงที่เธอฟังไม่ค่อยถนัด กว่าจะนึกได้ว่าคือเสียงของสามีของเธอนั่นเอง “ตัวร้อนเชียว ” กันตภณเอาหลังมือทาบลงที่หน้าผากของหญิงสาว ที่นอนหน้าแดงกร่ำอยู่บนที่นอน “รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้เลย” ปาลิดาบอกสามี ทั้งที่เธอยังคงหลับตาอยู่ เพราะร่างกายอ่อนเพลียเกินกว่าจะลืมตาได้ “ภณนายทำอะไร” หญิงสาวถามเมื่อรู้สึก ว่ามีผ้าชุบน้ำมาสัมผัสกับเรือนร่างของเธอ “ก็เช็ดตัวให้อย่างไรล่ะ ไม่สบายก็นอนไป อย่าพูดมาก” ชายหนุ่มไล่เช็ดตัวให้ภรรยาตั้งแต่บริเวณที่อยู่นอกเสื้อผ้า ไปจนถึงในส่วนที่ถูกปกปิดไว้ นาทีนี้ปาลิดาก็ยังคงอายเขาอยู่ ถึงแม้เมื่อคืนเขาจะได้เห็นทุกส่วนของร่างกายเธอแล้ว แต่ด้วยพิ
5ทำตามสัญญา ชายหนุ่มเดินทางไปหานายอำเภอ เพื่อนำเงินที่กำนันให้ไปขอไถ่ที่คืนมา ให้กับครอบครัวของณิศา ตามที่กำนันได้สัญญาไว้ “ไม่เห็นต้องรีบมาไถ่คืนเลย เพิ่งจะเอามาจำนองไว้ไม่ถึงสัปดาห์” นายอำเภอพูดกับกันตภณ ชายหนุ่มได้ยินแล้ว ถึงกลับพูดไม่ออก เพราะคนรักของเขา บอกว่า นายอำเภอกำลังจะยึดที่ดิน เพราะพ่อของเธอนำมาจำนองไว้นานแล้ว แต่ถึงอย่างไรชายหนุ่มก็คิดว่าคนรักของเขาคงมีเหตุผลที่ต้องโกหกแบบนั้น เมื่อได้โฉนดคืน ภณก็เดินทางมุ่งหน้าไปที่บ้านของณิศาทันที แต่สิ่งที่เขาได้เจอคือนิรัช “เอ่อ..ภณคะ นี่คุณนิรัช ที่ณิศาเคยเล่าให้คุณฟัง วันนี้เราไปดูที่ดินกัน แต่ยังไม่มีใครยอมขายเลย” หญิงสาวร้อนตัว รีบแนะนำชายปลายหน้า ให้ชายหนุ่มที่เป็นคนรักกันรู้จัก “สวัสดีครับคุณภณ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” นิรัชไม่อยากให้อีกฝ่ายสงสัย จึงรีบขอตัวกลับทันที เพื่อต้องการเปิดทางให้ณิศาได้มีโอกาสเกลี่ยกล่อมเรื่องที่ดิน ที่เจ้านายของเขาอยากได้ด้วย “คุณดูสนิทกันจังเลยนะณิศา” กันตภณอดที่จะพูดไม่ได้